ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

ตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) มาตั้งแต่ปี 1913 ปรากฎว่าเฟดไม่เคยถูกตรวจสอบ หรือโอดิท (audit)บัญชีเลย

วันนี้สภาเซเนทของสหรัฐจะโหวตกฎหมาย“Audit the Fed” legislation (H.R. 24/S. 264) ที่จะให้อำนาจสภาคอนเกรซตรวจสอบธนาคารกลางของสหรัฐในการบริหารดอกเบี้ยว่ามั่วซั่วอย่างไร รวมทั้งตรวจดูงบดุลว่าพิมพ์เงินไปอุ้มแบงค์ในเครื่อตัวเองอย่างไรบ้าง

 

เฟดอยู่เหนือรัฐบาลสหรัฐมาตลอดเพราะว่าเจ้าของเฟดที่แท้จริงคือพวกยิวคาซ่าร์ พวกRockefellerและพวกผู้ดีในยุโรป แต่คนอเมริกันไม่รู้เรื่อง ที่รู้เรื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่ามีระบบประชาธิปไตยกดขี่อยู่

ใครคุมเฟด ผู้นั้นคุมอเมริกา ใครคุมอเมริกา ผู้นั้นก็คุมโลก

thanong

12/1/2015

http://www.wsj.com/…/senate-to-vote-on-audit-the-fed-bill-i…

 

 

ใครสร้างไอซิส และไอซิสเกี่ยวโยงกับความพยายามที่จะรีเซ็ทระบบการเงินโลกอย่างไร?

Preston James นักเขียนของVeterans Todayเขียนบทความแนวสมคบคิดเกี่ยวกับความพยายามของพวกยิวคาห์ซ่าและผู้ดีในยุโรปที่จะรักษาระบบการเงินโลกในปัจจุบัน และคงอำนาจเหนือโลกด้วยทุกวิธีทาง ในขณะที่ได้เกิดรูปแบบของการรีเซ็ทระบบการเงินโลกขึ้นแล้ว

Veterans Todayอาจจะเป็นสื่อลับลวงพรางส่วนหนึ่งของเพนตากอน ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างสูง ลองมาดูประเด็นสำคัญที่Preston James ได้เขียนเอาไว้ดังนี้:

1. ชัดเจนว่าผู่้ที่สร้างไอซิสขึ้นมา และจ่ายเงินให้นักรบไอซิสคือสหรัฐ อิสราเอล ตุรกี ซาอุดิ และประเทศอื่นๆที่เป็นผู้เล่นในตะวันออกกลาง

2. John McCain วุฒิสมาชิกสหรัฐ และประธานคณะกรรมาธิการทางทหารของสภาเซเนทมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งในการสร้างไอซิสขึ้นมา โดยมีทหารอีแร้งที่ปลดเกษียณบัญชาการรบกองทัพไอซิสในตะวันออกกลางในเวลานี้

3. โอบามากำลังหมดอำนาจเพราะว่าจะสิ้นสุดความเป็นประธานาธิบดีในปีนี้ โอบามาไม่ได้คุมทหาร บทบาทMcCainโดดเด่น โดยทำงานร่วมกับสมาชิกคอนเกรซที่ได้ประกาศสวามิภักดิ์กับThe American Israel Public Affairs Committeeอย่างเหนี่ยวแน่น

4. ไอซิสถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง ทำให้ซีเรียและอิหร่านแตกเป็นส่วนๆ และใช้ไอซิสทำลายความมั่นคงของยุโรปผ่านผุ้อพยพจากตะวันออกกลาง

5. ไอซิสปกป้องผลประโยชน์ของอิสราเอลที่ได้ค้นพบแหล่งน้ำมันในที่ราบสูงโกลาน อันเป็นดินแดนของซีเรียที่อิสราเอลยึดมา นอกจากนี้ไอซิสยังช่วยปกป้องอิสราเอลที่มีแผนส่งก๊าซผ่านโครงการท่อก๊าซไปยุโรป

6. มีการจ้างทหารรับจ้าง ส่งนักรบเติมเงินเข้าไปช่วยไอซิสเพื่อเสริมทัพของนาโต้ในการโดดเดี่ยวรัสเซียที่กำลังเป็นภัยต่อความเป็นเจ้าโลกของตะวันตก และปกป้องบริษัทน้ำมันยักษ์ของตะวันตก

7. สงครามตะวันออกกลาง และการก่อการร้ายมีความเชื่อมโยงกับบริษัทนำ้มันยักษ์และการปั่นราคาน้ำมันเพื่อการเก็งกำไร

8. พวกยิวคาห์ซ่าที่คุมระบบการเงินโลกต้องการยั่วยุให้รัสเซียและสหรัฐก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยหวังว่าหลังจากสงครามสิ้นสุดลงตัวเองจะยังคงคุมอำนาจทาการเงินและการเมืองในโลกอีกต่อไป

แผนการนี้ดูแล้วอาจจะไม่สำเร็จ

9. รัสเซียมีเทคโนโลยี่ทางทหารที่เหนือกว่าสหรัฐ

10. ปูตินได้รุกฆาตในซีเรีย โดยติดตั้งระบบป้องกันและจู่โจมขีปนาวุธทำให้ประเทศอื่นกระดิกตัวไม่ได้

11. ไอซิสถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องการไฟแนนซ์เปโตรดอลล่าร์ที่กำลังจะเจ้ง

12. มีการปล้นน้ำมันดิบจากอิรักและซีเรีย โดยขนส่งผ่านตุรกี และส่งไปขายอิสราเอลในราคาที่ต่ำมาก

13. รายได้จากน้ำมันเถื่อนไอซิสและการค้าฝิ่นในอัฟกานิสถานเป็นรายได้หลักค้ำจุนระบบแบงค์ของโลกตะวันตกเวลานี้

14. สงครามในตะวันออกกลางที่ก่อโดยบุชที่เป้าหมายแอบแฝงคือช่วยกอบกู้ระบบเศรษฐกิจของโลกตะวันตกที่ล้มเหลว และช่วยอุดรูโหว่

15. สงครามและการค้ายาเสพทำกำไรมาก และมีความสำคัญมาก ถ้าไม่มีรายได้จากสองส่วนนี้ ระบบการเงินของวอลล์สตรีทและระบบธนาคารกลางที่เอกชนเป็นเจ้าของของโลกตะวันตกจะพังไปนานแล้ว รวมทั้งอุตสาหกรรมทาทหารของสหรัฐด้วย

16. พวกยิวคาห์ซ่าและตระกูลผู้ถือหุ้นของแบงต์ยักษ์ของตะวันตกรู้ดีว่าระบบการเงินโลกในปัจจุบันกำลังจะล้ม ด้วยเหตุนี้พวกนี้ต้องการปล้นความร่ำรวยให้ได้มามากที่สุด ก่อนที่ระบบการเงินโลกใหม่จะถือกำเนิดขึ้นมา

ไม่ว่าจะเป็นระบบเงินอีเลคโทรนิก หรือระบบตระกร้าเงินใหม่

17. ผู้ที่มีอำนาจเหนืออเมริกาคือตระกูลต่างชาติที่แทรกซึมเข้ามาและไฮแจ๊คธนาคารกลางสหรัฐในปี1913

18. พวกตระกูลที่มีอิทธิพลนี้สั่งให้ซาอุดิลดราคาน้ำมัน เพื่อทำลายรัสเซียที่โดนแซงชั่น เนื่องจากรัสเซียสนับสนุนซีเรียและอิหร่าน พร้อมกันนี้มีการสร้างวิกฤติยูเครนเพื่อทำลายรัสเซียทางเศรษฐกิจอีกแรง โดยVictoria Nulandรองรมว ต่างประเทศสหรัฐใช้เงิน$5,000ล้านเพื่อล้มรัฐบาลยูเครน

19. ปูตินเตรียมพร้อมรับมือเหมือนนักเล่นหมากรุกฝรั่งที่ฉลาด ด้วยการตั้งรับอย่างมียุทธศาสตร์

20. ปูตินส่งทหารเข้าไปช่วยซีเรียรบกับไอซิส ถือว่าเป็นการโต้ตอบและเอาชนะในเกมของตะวันตก และรัสเซียพิสูจน์ให้เห็นว่ามีระบบการก่อสงครามด้านอิเลคโทรนิคส์ที่ดีกว่าตะวันตก แม้ว่าตะวันตกจะยั่วยุให้ปูตินเปิดเกมสงครามโลก3 แต่ปูตินไม่หลงกล ยังคงเดินตามเกมของตัวเอง

21. ในปี2013 มีการประชุมของG-20 ถึง3ครั้ง ในมอสโคว1ครั้งและที่ดีซีอีก 2ครั้งเพื่อวางกรอบของระบบการเงินโลกใหม่

22. มีการดึงเอากองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลกเข้าร่วมเนื่องจากว่าเป็นที่เข้าใจกันว่าระบบการเงินโลกที่ออกแบบและควบคุมโดยพวกร๊อธไชด์และยิวคาห์ซ่ามา300ปีแล้ว และระบบเงินกระดาษจะอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน

23. นอกจากนี้ ระบบเปโตรดอลล่าร์เอาเปรียบประเทศอื่นๆ เพราะว่าบีบให้ทุกประเทศต้องสำรองดอลล่าร์ในการซื้อขายน้ำมัน ทำให้มีดีมานด์สำหรับดอลล่าร์ และทำให้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก

24. มีกลุ่มลึกลับปรากฎขึ้นมาและยื่นข้อเสนอให้G-20ที่มิอาจปฏิเสธได้ กลุ่มลึกลับนี้เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และมีสัมพันธ์ในเชิงลึกกับพวกคอนแทรกเตอร์ทางทหารของของสหรัฐ

25. ยังไม่ชัดเจนว่า โครงสร้างของพิมพ์เขียวระบบการเงินโลกใหม่หน้าตาจะเป็นอย่างไร

26. มีข้อเสนอให้ปลดล๊อคดอลล่าร์จากราคาน้ำมันในการประชุมG-20 และให้มีการสร้างระบบตระกร้าเงิน เพื่อมาแทนเปโตรดอลล่าร์ และให้มีเงินสกุลหลักของโลกใหม่แทนดอลล่าร์

27. ระบบการเงินและการธนาคารของพวกร๊อดไชด์และยิวจะค่อยๆถูกถอดทิ้งทีละส่วนจดหมดไป

28. แต่พวกร็อธไชด์และยิวคาห์ซ่า และพรรคพวกต่างพยายามต่อต้านการเปลี่ยนแปลงให้ถึงที่สุด ด้วยการสร้างไอซิส และการหนุนการปฏิวัติในยูเครน การต่อต้านการสูญเสียอำนาจการเงินของพวกนี้อาจจะไปไกลถึงขั้นให้มีสงครามโลก3 โดยใช้ทหารอีแร้งรบแทน

29. รัสเซียอาจจะมีแสนยานุภาพทางทหารที่เหนือกว่าสหรัฐ ระบบป้องกันขีปนาวุธของรัสเซียเชื่อว่าสามารถป้องการการยิงนิวเคลียร์ของสหรัฐได้

สรุป ต้องดูต่อไปว่าสถานการณ์จะพัฒนาต่อไปในรูปใด ถ้าการรีเซ็ทระบบการเงินโลกเกิดขึ้นได้ ดอลล่าร์จะเสื่อมค่า จะเกิดเงินเฟ้อในสหรัฐสูงถึง20%ทันทีในเดือนแรก และ20%ในเดือนต่อไป ไม่รู้จะจบอย่างไร แต่สหรัฐจะเผชิญกับการประท้วง หรือปัญหาสังคมอย่างรุนแรง ทำให้รัฐบาลโอบามาพยายามยึดอาวุธจากประชาชนในช่วงที่ผ่านมา และตั้งหน่วยงานต่างๆเพื่อคุมคนอเมริกันในกรณีที่เกิดจราจลจากวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจ

thanong

11/1/2016

http://www.veteranstoday.com/…/the-secret-global-reset-agr…/

 

 

 

 

12494983_421799208016459_7636050893980929508_n.jpg?oh=27674bff92cca7ffdb181644f482fb5f&oe=56FB8FA4&__gda__=1464241361_1f1ddd7673712076f69b5bf7131d2afe

ระบบที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยคือ...

ผมคงไม่ต้องเฉลยquizอีกแล้วนะครับว่า สำหรับการบริหารประเทศต้องเริ่มจากการวางยุทธศาสตร์ความมั่นคง+การทหารก่อน แล้วค่อยวางเรื่องหลักการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน ฯลฯ เป็นอันดับต่อไป ซึ่งต้องเชื่อมโยงกันหมดโดยต้องเน้นจารีตประเพณีเป็นพื้นฐาน

ถ้าเรื่องความมั่นคงและการทหารไม่ได้ และไม่รักษาจารีตประเพณี ประเทศจักดำรงอยู่ไม่ได้ ตัวอย่างเห็นๆกันอยู่จากที่เขียนซีรีส์มาขึ้นปีที่4แล้ว

 

คนสมัยใหม่มีความเห็นโดยทั่วว่าเรื่องปากท้องสำคัญที่สุดต้องเอานายแบงค์หรือนักเศรษฐศาสตร์มาบริหารประเทศ เรื่องนี้ผิดมากๆ เพราะว่านายแบงค์เห็นประโยชน์ของแบงค์ ส่วนนักเศรษฐศาสตร์บริหารประเทศตามตำราฝรั่ง ประเทศถึงฉิบหายไปเรื่อยๆ เพราะว่าตำราฝรั่งสอนให้เราเป็นบริวาร หรือเป็นทาสของเขา

ทุกครั่้งประเทศมีปัญหาจะมีพวกนักนิติศาสตร์ หรือนักร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญ หรือขื่อแปทางกฎหมายประเทศจะไปไม่รอด ต่างชาติไม่ยอมรับ พวกนี้จะมองแต่มุมแคบอย่างเดียว

พวกนักรัฐศาสตร์จะขอเลือกตั้งอย่างเดียว

นักการทหารจะปฏิวัติท่าเดียว เพราะว่ารำคาญพวกนักการเมือง

มันเละเทะไปหมด เนื่องจากรากฐานประเทศได้ถูกทำลาย จุดแข็งที่สุดของไทยคือระบอบกษัติย์ที่ดูเรื่องความมั่นคงมาก่อนสิ่งใด คนรุ่นใหม่ไม่เห็นภาพที่เป็นองค์รวม

สรุปได้ว่าว่าระบบกษัตริย์ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย โดยเชื่อมโยงกับความมั่นคง เศรษฐกิจพอเพียง เปิดประเทศแต่พอสมควร มีการกระจายรายได้ ความไม่เบียดเบียนเอาเปรียบกัน ศาสนาพุทธและจารีตประเพณีที่ดีงาม

thanong

11/1/2015

 

 

 

QUIZ

ผู้ปกครองประเทศควรมีความคิดในการหรือหลักการบริหารประเทศในแนว

1. รัฐศาสตร์ (เพื่อความเสมอภาค)

2. กฎหมาย (เพื่อหลักนิติรัฐ +ธรรมาภิบาล)

3. ทหาร (เพื่อความมั่นคง)

4. เศรษฐศาสตร์ (เพื่อความกินดีอยู่ดี)

5. ศาสนา (เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องศรัทธาของประชาชน)

 

ให้แฟนคลับเลือก1ข้อ พร้อมให้เหตุผลประกอบ

thanong

8/1/2016

เฉลยQUIZ ตอน 3

สำหรับแฟนคลับที่ตอบข้อ1. คือผู้ปกครองต้องเน้นหลักรัฐศาสตร์ในการปกครองประเทศเพื่อความมั่นคงหรือเท่าเทียมกันนั้น ให้พิจารณาตัวอย่างดังต่อไปนี้:

ในโลกใบนี้ เราสามารถแบ่งประเทศออกเป็นสองประเภท: ประเทศผู้ล่าและประเทศผู้ถูกล่า ประเทศผู้ล่าคือเจ้าลัทธิล่าอาณานิคมจากตะวันตกทั้งหลายที่ยังคงล่าประเทศอื่นๆเป็นเมืองขึ้น ยังคงเล่นไม่เลิกทั้งในรูปแบบที่แยบยลและรูปแบบที่ป่าเถื่อน ผู้นำของประเทศผู้ล่าในปัจจุบันคือสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ส่วนประเทศที่เหลือส่วนมากจะเป็นประเทศผู้ถูกล่ารวมทั้งประเทศไทย

ประเทศผู้ล่าอย่างสหรัฐใช้ระบบประชาธิปไตยบังหน้า แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นระบบจักรวรรดินิยม เพราะว่าใช้งบประมาณทหารสูงที่สุดในโลกถึงเกือบ$1ล้านล้านต่อปี และมีฐานทัพหลายร้อยแห่งทั่วโลกเพื่อที่จะบีบบังคับประเทศต่างๆให้อยู่ภายใต้โครงสร้างแองโกลอเมริกัน ประเทศใดที่ต้องการมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระจากแองโกลอเมริกันจะถูกทำลาย หรือถูกเปลี่ยนรัฐบาลเพื่อให้หุ้นเชิดขึ้นมาทำหน้าที่รับใช้

อังกฤษผู้ล่าฉากหน้าเป็นประชาธิปไตยระบบรัฐสภาที่ไทยต้องการเลียนแบบเอาเยี่ยงอย่าง แท้ที่จริงแล้วยังปกครองโดยราชาธิปไตยอยู่ โดยราชวงศ์อังกฤษยังคงมีอำนาจล้นพ้น รัฐบาลอังกฤษเป็นเพียงแค่จ๊อกกี้ควบม้า แต่เจ้าของคอกม่้าคือราชวงศ์อังกฤษ ให้สังเกตุดู การเยือนอังกฤษของเฮียสีในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ราชวงศ์อังกฤษต้อนรับเฮียสีอย่างสมเกียรติ โดยสมาชิกของราชวงศ์ทุกพระองค์ออกมาต้อนรับให้ความสนิทสนมด้วยการเลี้ยงState Dinnerในวังบักกิ๊งแฮม เนื่องจากอังกฤษต้องการดึงจีนออกจากรัสเซีย เรื่องใหญ่อย่างนี้ราชวงศ์อังกฤษเล่นเอง โดยที่เราแทบไม่เห็นหัว นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเลย เพราะว่านายคาเมรอนโดนลดหน้าที่ให้พาเฮียสีไปกินเบียร์ในผับ อังกฤษสลับไพ่เก่ง ให้ลูกน้องสหรัฐทำขึงขังใส่จีน แต่ตัวเองทำดีกับจีน อังกฤษยังล่าอาณานิคมไม่เลิก มีบทบาทสูงในการทำสงครามในอัฟกานิสถาน อิรัก ลิเบียและซีเรียเพื่อล้มรัฐบาลที่ไม่ต้องการอยู่ภายใต้อิทธิพลแองโกลอเมริกัน สหรัฐไปรบที่ไหน จะเห็นอังกฤษรบเคียงข้างเสมอ ล่าสุดมีข่าวว่าอังกฤษส่งทหารที่ปรึกษา6คนช่วยซาอุดิรบในเยเมน

ฝรั่งเศสมีการปกครองแบบระบบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นผู้นำฝรั่งเศสเป็นนักล่าที่ยังไม่หยุดล่าเหมือนกัน แต่มีอำนาจน้อยกว่าสหรัฐ+อังกฤษ เห็นประโยชน์ที่ไหนที่ต้องได้ ฝรั่งเศสจะต้องส่งทหารเข้าไปรบทุกครั้งโดยอ้างประธาธิปไตยนำหน้าเหมือนสหรัฐและอังกฤษที่ถนัดมากในการส่งออกประชาธิปไตวผ่านการสงคราม

ประเด็นคือ ประเทศผู้ถูกล่าไม่ว่าจะใช้หลักการปกครองแบบใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นราชาธิปไตย ประชาธิปไตย เผด็จการ สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ จะถูกประเทศนักล่าเอาเป็นเมืองขึ้น การเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นหลักประกันของความอยู่รอด ยกตัวอย่างเช่นอิหร่านมีการเลือกตั้งในปี1951มีMohammad Mosaddeghเป็นนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนให้การสนับสนุนอย่างมาก เพราะว่าเขาเข้ามาในทางการเมืองเพื่อเอาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศคืนจากประเทสศผู้ล่า ผลคือในปี1953 เขาโดนปฏิวัติ โดยที่สหรัฐและอังกฤษมีบทบาทสูงในการก่อการปฏิวัติผ่านพวกลูกจ๊อกในอิหร่าน ยูเครนมีการเลือกตั้ง แต่สหรัฐก็ล้มการเลือกตั้งยูเครนแล้วให้พวกนีโอนาซีขึ้นมามีอำนาจแทนเพื่อให้ยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของนาโต้ และเพื่อปิดล้อมรัสเซีย ประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนซีเรียน แต่โอบามาพูดคำเดียวว่าAssad must go ผลก็คือซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองมา4ปีแล้ว โดยโปรโมเตอร์จากสหรัฐ อังกฤษ ตุรกี ซาอุดิ การ์ต้า นาโต้ช่วยลงขันสงพวกนักรบรับจ้าง ผู้ก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ รวมทั้งไอซิสเข้าไปโค่นล้่ม

หลักรัฐศาสตร์จะดีอย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เป็นหลักประกันว่าประเทศจะอยู่รอดหรือดำรงอิสระภาพได้ จะใช้ระบบประชาธิปไตย เผด็จการ สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ หรือราชาธิปไตยก็ไม่มีความหมาย ถ้าหากว่าไม่สามารถดำเนินนโยบายผ่อนหนักผ่อนเบาเพื่อเอาตัวเองให้รอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้ เนื่องจากระบบโลกมีประเทศผู้ล่าและประเทศผู้ถูกล่าอยู่ แม้ว่าจะยิ่งใหญ่อย่างรัสเซีย หรือจีนก็เป็นประเทศผู้ถูกล่าเหมือนกัน เพราะว่ากำแหงที่ต้องการมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระจากแองโกลอเมริกัน

thanong

9/1/2016

 

 

12418012_421306711399042_6231522409085938694_n.jpg?oh=026e6d0f0cbeeb4ad91dda483a4960ac&oe=57025DFD&__gda__=1459701195_4c0f66d857f2f10ef7e71e4d1f1d5778

 

 

 

เฉลยQUIZ ตอน 2

สำหรับแฟนคลับที่ตอบข้อ5. หลักศาสนาในการปกครอง ให้พิจารณาตัวอย่างของทิเบต อิหร่านและซาอุดิดังนี้:

ทิเบตใช้หลักศาสนาในการปกครอง มีศาสนาพุทธนิกายธิเบตเป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ หรืออัตลักษณ์ที่เด่นชัดมาก เน้นความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย แต่ไม่มีกองกำลังทหารจึงไม่สามารถดำรงความเป็นอิสระภาพได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของจีนไป

 

อิหร่าน และซาอุดิใช้หลักศาสนาในการปกครองเหมือนกัน ภายใต้เงื่อนไขที่ต่างกัน อิหร่านนับถืออิสลามสายชีอะห์ และเป็นมหาอำนาจในสมัยโบราณ แต่ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ถูกต่างชาติรุมทึ้ง ทั้งอังกฤษและสหรัฐเข้าไปก่อการปฏิวัติล้มรัฐบาลที่มาจากการเลื่อกตั้ง อิหร่านยอมสูญเสียระบอบกษัตริย์เพื่อเอาระบอบศาสนามาใช้ผ่านการปฏิวัติอิสลามในปี1979เพื่อรักษาประเทศ มิเช่นนั้นจะเหมือนประเทศอื่นๆที่ต้องยกทรัพยากรธรรมชาติให้อีแร้งและอังกฤษ อิหร่านต้องทนถูกโดดเดี่ยว เพราะโดนแซงชั่น ประชาชนมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก แต่หลักการปกครองแบบศาสนาช่วยให้คนอิหร่านมีความสามัคคี มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความอดทน มีความรักชาติ และมีการเตรียมทางทหารสูงสุดเพื่อที่จะปลดแอกประเทศจากการล่านิคมของสหรัฐและอังกฤษ ตอนนี้อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้มแข็งที่สุดทางทหารในโลก และเป็นพันธมิตรกับรัสเซียและจีนที่ต้องการออกจากอิทธิพลของแองโกลอเมริกันเพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่

ซาอุดิใช้หลักศาสนาในการปกครอง ราชวงศ์ซาอุอิงลัทธิวาฮาบี ซึ่งเป็นหลักคำสอนแนวอิสลามสุดโต่ง ทำให้เกิดอิสลามหัวรุนแรงไปทั่วทั้งภูมิภาค ซาอุดิมีรายได้จากน้ำมันมาก ก็มีรายจ่ายสูงเป็นเงาตามตัวเพื่อรักษาระบอบซาอุ ซาอุเป็นรัฐสวัสดิการ ประชาชนเรียนฟรี รักษาพยาบาลฟรี ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐ แต่ในขณะเดียวกันซาอุมีบทลงโทษที่เฉียบขาด ตัดคอนักโทษที่ถือว่าเป็นภัยต่อรัฐ ซาอุเน้นความมั่นคงระดับสูงสุดทั้งการทหารและศาสนา ในทางทหารซาอุใช้จ่ายงบประมาณทหารมากอันดับ3ของโลกคือประมาณ$80,000ล้าน ในทางศาสนา ซาอุตั้งตนเป็นผู้นำของศาสนาอิสลามสายสุหนี่ที่มีประชากรอิสลามทั้่งหมด80-90%จาก1,500ล้านคนทั่วโลก ซาอุดิดำรงอยู่ได้เพราะว่ามีสหรัฐและอังกฤษค้ำจุนอยู่ข้างหลัง และเป็นพันธมิตรกับอิสราเอลอย่างเหนี่ยวแน่นมาตั้งแต่ต้น ซาอุดิเป็นรัฐกันชนให้อิสราเอลถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อว่าเมื่อเวลามาถึงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของโลกในวาระโลกใหม่

thanong

9/1/2016

 

 

 

 

12524085_421300551399658_3149115657268977501_n.jpg?oh=996e66e87febb846d80f79da2f5b6e53&oe=571168B7

 

เฉลยQUIZ ตอน1

ผู้ปกครองประเทศควรมีความคิดในการหรือหลักการบริหารประเทศในแนว

1. รัฐศาสตร์ (เพื่อความเสมอภาค)

2. กฎหมาย (เพื่อหลักนิติรัฐ +ธรรมาภิบาล)

3. ทหาร (เพื่อความมั่นคง)

4. เศรษฐศาสตร์ (เพื่อความกินดีอยู่ดี)

5. ศาสนา (เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องศรัทธาของประชาชน)

ให้แฟนคลับเลือก1ข้อ พร้อมให้เหตุผลประกอบ

ขอเปรียบเทียบระบบปูตินและระบบโอบามาให้เห็นภาพก่อน

ปูตินบริหารรัสเซียโดยใช้หลักความมั่นคง ทีมงานที่ใกล้ชิดปูตินคือเพื่อนร่วมงานที่เคยทำงานที่เคจีบีด้วยกัน และพรรคพวกที่โตมาด้วยกันจากSt Petersburg บ้านเกิดของปูติน สภาความมั่นคงของรัสเซียมีบทบาทสูงสุดในการกำหนดนโยบายของประเทศว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร บทบาทในเวทีโลกจะยืนอยู่จุดใด หรือจะเตรียมการประเทศอย่างไรเพื่อตอบโต้กับภัยคุกคามของการอยู่รอดของประเทศ รัสเซียจึงเป็นรัฐที่มีบริหารโดยบุคคลากรที่มีประสบการณ์โชกโชนด้านข่าวกรอง ความมั่นคง และการทหาร คนวงในที่ทำงานให้ปูตินต้องเก่ง มีความสามารถสูง ทุ่มเทให้กับงาน ภักดีต่อปูติน และเหนืออื่นใดต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซียโดยรวม โดยผลงานจะเป็นตัววัด ถ้าทำงานไม่ได้่จะถูกปลดออกไป ทหารรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่อาจแยกจากกันได้

http://www.bbc.com/news/world-europe-34866597

โอบามาเป็นเพียงตุ๊กตาให้กับCouncil on Foreign Relations ก่อตั้งโดยพวกRockefellerที่มีบทบาทสูงในการเลือกคนเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะผู้บริหารของทำเนียบขาว Council on Foreign Relationsสร้างภาพที่ปรากฎคือ สหรัฐเป็นตัวแทนของระบอบประชาธิไตยที่ประเทศต่างๆในโลกต้องเอาเป็นโมเดลเพื่อพัฒนาหลักของประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน การค้าเสรี การเปิดประเทศเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโลกาภิวัฒน์ที่มีสหรัฐเป็นผู้นำ

แต่เอาเข้าจริง สหรัฐเป็นจักรวรรดินิยมที่จะไม่ยอมให้ประเทศใดมีนโยบายต่างประเทศเป็นอิสระจากวอชิงตันดีซี ถ้าประเทศใดขัดขืน สหรัฐจะเข้าไปแทรกแซงทางการเมืองเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ก็ก่อสงครามเพื่อล้มระบบไปเลย ( regime change) สหรัฐเดินตามรอยจักรวรรดินิยมเหมือนกับอาณาจักรโรมันโบราณ สหรัฐใช้จ่ายงบประมาณทหารเกินหนึ่งในสามของงบประมาณประเทศ หรือประมาณ$500,000กว่าล้าน แต่ถ้ารวมค่าใช้จ่ายทางความมั่นคงที่แอบแฝงจะถึง$1ล้านล้านต่อปี สูงกว่างบประมาณทางทหารและความมั่นคงของหลายๆประเทศยักษ์ใหญ่รวมกันเสียอีก

ระยะหลังหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐ คือNational Security Council และCIAมีบทบาทสูงที่สุดในการบริหารประเทศ หลายอย่างที่ทำไม่จำเป็นต้องรายงานให้โอบามาได้รับทราบ เช่นซีไอเอให้ตุรกียิงเครื่องบินSe-24ของรัสเซียตก โดยไม่จำเป็นต้องบอกโอบามาก่อน ถือได้ว่าหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐเป็นรัฐบาลเงา การทำงานของหน่วยงานความมั่นคงกับหน่วยงานอื่นๆต้องมีการขัดแข้งขัดขากันบ่้างเป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหม โดยที่Council on Foreign Relationsพยายามคุมหน่วยงานต่างๆให้เดินไปด้วยกัน

Council on Foreign Relations เป็นซุปเปอร์think tankที่ครอบงำนโยบายการต่างประเทศ การทหาร ความมั่นคง เศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐอย่างเบ็ดเสร็จ และเนื่องจากสหรัฐเป็นจักรวรรดิแบบโรมันโบราณ นโยบายของสหรัฐจึงมีผลกระทบต่อประเทศต่างๆทั่วโลก

กลุ่มคนที่อยู่ในCouncil on Foreign Relationsมีแนวคิดทางการเงินกฎหมาย เศรษฐกิจเป็นหลัก แล้วใช้ความมั่นคง หรือทหารไปตายแทนเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินของแบงค์เก้อร์ หรือนายทุน ประชาธิปไตยเป็นเพียงข้ออ้างหรือฉากบังหน้า

ในเรื่องความมั่นคงและการทหารของอีแร้งเกือบจะเป็นการเอ๊าท์ซอสหมด ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากคอนเกรซ หรือประชาชน แม้ว่าสส. สว.ในคอนเกรซจะถูกซื้อไปเกือบจะหมดทั้งสภาแล้วก็ตาม ทำให้พวกที่ทำงานให้National Security Council หรือซีไอเอ เป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่พวกอดีตประธานาธิบดี อดีตซีไอเอ อดีตเพนตากอน หรือพวกอิลิททั้งหลายตั้งขึ้นมาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ และอำนาจให้ตัวเอง โดยใช้งบปประมาณจากภาษีคนอเมริกันและหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นเครื่องมือ

ยกตัวอย่างเช่น Edward Snowdenที่ออกมาแฉเรื่องNational Security Councilล้วงข้อมูล ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือจารกรรมข้อมูลของผู้นำประเทศต่างๆ เป็นคนทำงานให้กับซีไอเอ แต่เขารับเงินเดือนของบริษัทBooz Allen Hamilton ให้ไปดูว่าผู้ถือหุ้นของBooz Allen Hamiltonเป็นใคร แล้วจะเข้าใจ ด้วยเหตุนี้งบประมาณทางทหารและความมั่นคงของสหรัฐจึงมีการรั่วไหลมาก ส่วนทหารอเมริกันก็เหมือนทหารรับจ้างที่รบให้Wall Street หรือแก๊งค์นีโอคอนมากกว่ารบให้กับประเทศชาติ

Henry Kissinger อิลิทยิวตัวพ่อของสหรัฐบอกว่า: “Military men are just dumb, stupid animals to be used as pawns in foreign policy.” แปลว่า พวกนายทหารงี่เง่าทั้งนั้น เป็นได้แค่สัตว์ที่โง่เขลาเอาไว้ใช้เป็นเบี้ยสำหรับนโยบายต่างประเทศ

http://www.goodreads.com/…/218473-military-men-are-just-dum…

ในเมื่อสหรัฐมีทัศนะคติแบบนี้กับทหาร ทำให้พวกนายทหารเก่งๆ หลังจากโดนปลดหรือเกษียณไม่ได้ถูกเอาไปใช้งาน แม้ว่าจะมีความรู้เรื่องการทหารและความมั่นคงเป็นอย่างดี ความคิดเห็นหรือทรรศนะที่ดีๆของพวกนี้จะโดนพวกWall Streetหรือนีโอคอนที่ใช้หลักการเงิน เศรษฐศาสตร์ กฎหมายมาครอบอีกที โดยมองว่าทหารสหรัฐเป็นแค่เครื่องมือสร้างอำนาจและความร่ำรวยให้ตัวเอง

จะเห็นได้ว่าโมเดลของรัสเซียและสหรัฐไม่เหมือนกัน งบประมาณทหารของปูตินน้อยกว่าโอบามามากกว่า10เท่า แต่แสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียไม่แพ้สหรัฐ หรือถ้าแสนยานุภาพไม่เหนือกว่า ปูตินคงไม่กล้าท้าโอบามารบในตะวันออกกลาง ทียมงานของปูตินเป็นพวกฝ่ายความมั่นคงทั้งนั้น ทีมโอบามาเป็นพวกWall Street พวกนีโอคอน ที่ใช้ทหารเป็นผักเหมือนปลา

ถ้าต้องรบกันจริง ฝ่ายใดจะชนะ ระหว่างฝ่ายที่รบเพื่ออุดมการณ์ และฝ่ายที่รบเพื่อดอลล่าร์?

thanong

9/1/2015

 

 

 

 

12495020_421006178095762_6250402480452869087_n.jpg?oh=c5f65e6d917cf93960f412a69fca687f&oe=570C5BAA&__gda__=1460716511_98fc7abbd069b425799100fda1e8ddbe

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

Fitch:การลดค่าเงินหยวนส่งผลให้วิกฤตร้ายแรงยิ่งขึ้น

สำนักงานจัดอันดับ Fitch Ratings ระบุว่า ประเทศจีนกำลังเผชิญภาวะวิกฤตอย่างหนักหน่วง ระหว่างความต้องการที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสามารถจัดการภาระหนี้สินได้ และแรงกดดันที่กดค่าเงินหยวนให้ต่ำลง

เจ้าหน้าที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พฤศจิกายน 2014 เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจจัดการภาระหนี้สินของตนได้ในช่วงเวลาที่เติบโตไปอย่างเชื่องช้า อย่างไรก็ตาม อัตราที่ลดลงจะช่วยกระตุ้นการหลั่งไหลของกระแสเงินทุน และทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนลง

 

เงินหยวนได้อ่อนค่าลงเพียงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่เริ่มอนุญาตให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลงที่ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2015 การตัดสินใจ ณ วันที่ 11 ธันวาคมโดยธนาคารประชาชนจีน เพื่อวัดมูลค่าเงินหยวนกับตะกร้าสกุลเงินที่มีขนาดกว้างขึ้น ไม่ใช่แค่เงินดอลลาร์สหรัฐ ยังอาจนำไปสู่ความอ่อนตัวลงของค่าเงินหยวนต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ Fitch Ratings ระบุ

Fitch ไม่ได้คาดหวังให้เจ้าหน้าที่แก้ไขภาวะวิกฤตครั้งนี้ด้วยการลดค่าเงินหยวนไปตามสัดส่วนของการซื้อขายขนาดใหญ่ ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเพิ่มความไม่แน่นอน และการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของนโยบายต่อไป

 

 

 

 

12509723_1705886186294063_3780578015233689479_n.jpg?oh=6052fdd6982f329baa099cffac49bee2&oe=570BABE6&__gda__=1460622147_df7f186449a756cc425e1bdbcc43a86e

 

 

ตะลึง!! กุ้งฝอยนิวซีแลนด์ทำน้ำละเลเป็นสีแดง

จากรายงานของหนังสือพิมพ์ daily Mail ของอังกฤษ

เมื่อเร็วๆนี้นาย Paul Van Kampen ชาวนิวซีแลนด์พบว่าผืนน้ำบนอ่าวโอทาโกได้กลายเป็นสีแดง พอดูใกล้ๆจึงเห็นว่าที่แท้ก็คือกุ้งลอบเสตอร์สีแดงตัวจิ๋วจำนวนมากที่ถูกพัดเข้ามายังชายฝั่ง จนทำให้น้ำทะเลในแถบนี้กลายเป็นสีแดงสด เขาจึงได้ถ่ายภาพกุ้งเหล่านี้เอาไว้

 

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ากุ้งเหล่านี้เป็นกุ้งมังกรที่เป็นพันธ์ขนาดเล็ก นอกจากจะทำให้เราเห็นวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาแล้ว มันยังเป็นอาหารของนกนางนวล วาฬ ปลาค็อด แถมสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่อยู่ในตัวของมันยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย

 

 

 

 

12417969_1705929996289682_1951392072847525596_n.jpg?oh=1a542df02d29af4ac356ffaf7b8916a6&oe=57411F10&__gda__=1459865653_1dcc0647f07a292e018d85dd35217bfb

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภูสูง เฆฆสวย ทะเลใส

imee_ooi_by_agnidevi.jpg

 

by agnidevi

 

 

tropicscape_by_agnidevi.jpg

 

speed_paint_31_by_sundragon83.jpg

by sundragon83

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๙

 

w2.jpg

http://welovethaiking.com/blog/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%B8-287/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

16. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

จีนตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเซีย (AIIB) เพื่อล้มยักษ์เฟดโดยเฉพาะ

AIIBจะทำให้ที่เหมือนรถถัง บุกทะลวงเข้าไปเพื่อยึดครองพื้นที่ของดอลล่าร์ที่เฟดพิมพ์ออกมาไม่อั้น ผ่านทั้งบัญชีลับและบัญชีที่เปิดเผย

เฟดเป็นป้อมปราการที่แน่นหนาเหมือนปราสาทของโซรอนในหนังLord of the Rings ไม่มีทางจะโค่นหรือทำลายกันได้ง่ายๆ จะล้มเฟดได้ต้องใช้การโจมตีจากทุกด้าน ด้วยยุทธวิธีหรืออาวุธที่แตกต่างกันออกไป แต่AIIBจะเป็นรถถังอยู่ทัพหน้า

ถ้าไม่ทำลายเฟด หรือดอลล่าร์ อีแร้งจะก่อหนี้ด้วยการออกบอนด์ดอลล่าร์เพื่อไฟแนนซ์กองทัพเพนตากอนให้แกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ

แสนยานุภาพทางทหารของอีแร้งผูกกับดอลล่าร์อย่างขาดกันไม่ได้ ไม่มีแสนยานุภาพทางทหาร ดอลล่าร์จะอยู่ไม่ได้; ไม่มีดอลล่าร์ แสนยานุภาพทางทหารจะรักษาไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ทั้งจีน รัสเซีย และอิหร่านจึงพุ่งเป้าไปที่การทำลายดอลล่าร์ และเฟด พร้อมกับดำเนินนโยบายทางทหารควบคู่กันไป

แทคติกต่างๆในการทำลายดอลล่าร์ถูกดำเนินการไปแล้ว รัสเซียมีการค้าขายกับจีนโดยไม่ผ่านดอลล่าร์ จีนซื้อพลังงานจากรัสเซียจ่ายด้วยเงินหยวน รัสเซียกำลังสร้างตลาดน้ำมันโดยไม่อิงดอลล่าร์ อิหร่านขายน้ำมันโดยไม่รับดอลล่าร์ จีนเพิ่มวงเงินสว๊อปหยวนกับประเทศคู่ค้า จีนกำลังสร้างตลาดทองโดยไม่อิงดอลล่าร์ เปโตรหยวนได้เกิดขึ้นแล้ว โดยจีนซื้อน้ำมันโดยใช้หยวนจ่ายได้

การลดการใช้ดอลล่าร์จะทำไปเรื่อยๆ (de-dollarization) จะเป็นการบั่นทอนดอลล่าร์

ที่สำคัญ จีนกำลังตุนทองเพื่อจะใช้ทองหนุนหยวน เมื่อหยวนต้องออกมาโชว์ตัวในเวทีต่างประเทศเพื่อประชันกันกับดอลล่าร์ เพื่อวัดดูว่าระหว่างดอลล่าร์ที่พิมพ์ออกมากลางอากาศเปล่าๆ กับหยวนที่มีทองคำหรือหลักทรัพย์หนุนหลัง อย่างไหนจะมีความน่าเชื่อถือต่อกัน

ประเทศต่างๆทั่วโลกต่างถือดอลล่าร์ถึง60%ในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ถือกระดาษกงเต๊กดีๆนี้เอง เพราะว่าเฟดพิมพ์ดอลล่าร์ออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุนหลัง แต่ที่ต้องถือเพราะความเคยชิน ระบบการเงินและการธนาคารถูกออกแบบมาอย่างนี้ และที่สำคัญระบบเปโตรดอลล่าร์บังให้ให้ทุกประเทศที่ต้องการซื้อน้ำมันต้องสำรองดอลล่าร์ ทำให้มีดีมานด์ดอลล่าร์ และอีแร้งสามารถก่อหนี้ดอลล่าร์ไปเรื่อยๆเพื่อครอบงำโลกอีกต่อหนึ่ง

ที่สำคัญดอลล่าร์ มียูโร เยน ปอนด์ แคนดาเดี่ยนดอลล่าร์ ออสเตรเลี่ยนดอลล่าร์เป็นสกุลเงินในเครือข่ายคอยหนุนอีกต่อหนึ่ง ทำให้ระบบการเงินโลกถูกครอบงำโดยกลุ่มแองโกลอเมริกัน+ยิวโดยเกือบสมบูรณ์

ตามรายงานของฝรั่ง เงินหยวนของจีนมีส่วนแบ่งการตลาดเพียงแค่2%กว่าๆในเวลานี้ แต่เอาเข้าจริง ถ้าวัดดูการค้าหยวนของจีนกับประเทศคู่ค้าในแอฟริกา ตะวันออกกลาง รัสเซีย และเอเซีย ปริมาณหยวนในระบบการเงินโลกน่าจะมาก

อย่างไรก็ตาม การปรากฎตัวของAIIBเป็นการส่งสัญญานจากจีนถึงอีแร้งว่า หมดเวลาเล่นเกมเงินกระดาษกงเต๊กแล้ว

AIIBมีเงินทุน$100,000ล้าน โดยที่จีนลงขัน$30,000ล้าน มีประเทศที่เป็นผู้ก่อตั้งร่วมถือหุ้น57ประเทศ รวมทั่้งประเทศสารขัณฑ์

มีแต่อีแร้งและญี่ปุ่นเลือกที่จะไม่เข้าร่วมAIIB

เฮียสีไปเป็นประธานเปิดสำนักงานใหญ่ของAIIBอย่างเป็นทางการที่กรุงปักกิ่งในวันที่16 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีนาย Jin Liqunเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ตำแหน่งนี้มีเกียรติและศักดิ์ศรีพอๆกับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของธนาคารโลก

AIIBมีแผนการที่จะปล่อยกู้ในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับประเทศกำลังพัฒนา$10,000-$15,000ล้าต่อปีในระยะ5ปีข้างหน้า โดยจะเริ่มปล่อยกู้โครงการแรกในไตรมาสสองของปี2016นี้

คลื่นหรือขบวนการเลิกใช้ดอลล่าร์de-dollarizationกำลังก่อตัว และดำเนินไปอย่างมีพลัง

thanong

17/1/2016

https://www.rt.com/busi…/329208-china-aiib-development-bank/

 

 

 

 

12573238_423493114513735_2471500935831674614_n.jpg?oh=caa3141f3bbca389071a337ce4345b0e&oe=573EE880&__gda__=1459466343_d4a0c2afe844ace683d4593148b51d7b

 

 

17. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

แล้วAIIBจะล้มเฟดอย่างไรในทางปฏิบัติ?

AIIBจะออกบอนด์เพื่อระดมทุน แน่นอนบอนด์นั้นย่อมไม่อิงสกุลดอลล่าร์ น่าจะอิงหยวนเป็นหลัก หรือเงินสกุลของประเทศที่เป็นสมาชิกก็ได้ เนื่องจากจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะกำหนดนโยบายของAIIBได้อย่างสบายมือ

 

เมื่อAIIBออกบอนด์เป็นหยวน จะทำให้เกิดตลาดบอนด์ขนาดใหญ่ที่ไม่อิงดอลล่าร์ บอนด์นี้จะถูกเอาไปเทรด หรือเป็นทรัพย์สินของธนาคารในการใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการทำธุรกรรมระหว่างแบงค์ได้ ธนาคารกลาง หรือกองทุนต่างๆสามารถถือบอนด์AIIBได้

ประเทศกำลังพัฒนามีความจำเป็นต้องใช้เงินทุน$8ล้านล้านเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีก10ปีข้างหน้า

ทำให้AIIBต้องเพิ่มทุน หรือออกบอนด์หยวน+เงินสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลล่าร์อีกมากมาย ทำให้เกิดขบวนการเลิกใช้de-dollarizationต่อเนื่อง

ยังไม่นับNew Development Bankของกลุ่มBRICSที่ได้ตั้งขึ้นมาแล้ว จะทำหน้าที่คล้ายกับAIIBในการปล่อยกู้โครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อดึงเข้ามาเป็นพวก หรือแยกประเทศเหล่านี้ออกจากกลุ่มแองโกลอเมริกัน

จีนมีพิมพ์เขียวที่จะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกในศตวรรษที่21 ผ่านโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ โครงการนี้จะเชื่อมโยงเอเซีย ยุโรปและแอฟริกาเข้าด้วยกันทั้งทางน้ำ ทางเรือและทางอากาศ โดยมีจีนเป็นจุดศูนย์กลาง

AIIBจะทำหน้าที่หลักในการไฟแนนซ์โครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่างๆที่อยู่ในเส้นทางสายไหมใหม่ เพื่อทำให้จีนเป็นศูนย์กลางของโลก แทนลอนดอนและนิวยอร์ค

ด้วยเหตุนี้ หยวนถึงต้องแจ้งเกิดและมาแทนดอลล่าร์ให้ได้ แต่จีนมีเวลา ไม่ต้องรีบเร่ง แม้ว่าจะมีการสร้างข่าวเพื่อตัดขาจีนว่าจีนกำลังเจอวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน

จีนและพวกทำลายดอลล่าร์ ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ1. เลิกใช้ดอลล่าร์ 2. เพิ่มการใช้หยวนและเงินสกุลอื่นๆ

เมื่อปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นดีมานด์ของดอลล่าร์จะลดลง ความสามารถในการก่อหนี้ของสหรัฐจะลดลง มีการขายดอลล่าร์ออกไปมากกว่าที่จะถือ ตลาดจะบีบให้สหรัฐขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรองรับความเสี่ยงของดอลล่าร์ที่ไม่ได้ผูกขาดความเป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป เงินเฟ้อจะขึ้นสูงมาก ทำให้คนอเมริกันชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะว่าของทุกอย่างจะแพง ระบบเศรษฐกิจสหรัฐที่พึ่งพาการบริโภคที่เกินตัวจะมาถึงจุดจบ ต้องกลับไปใช้ระบบเศรษฐกิจพอเพียงถึงจะอยู่รอด

นี้คือสิ่งที่จีนแอนด์เดอะแก๊งค์กำลังเดินเกมฆ่าดอลล่าร์อยู่

แต่ดูให้ดีๆ อีแร้งไม่มีเวลามากกว่า เพราะว่าเฟดพิมพ์เงินอุ้มWall Streetและดาวโจรมาจนหมดกระสุนแล้ว

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นอีแร้งมาร์เก็ตแค้ปหายไปแล้ว$2.5ล้านล้าน เพราะว่าหุ้นตกหนัก ส่วนจีนเจอมาร์เก๊ตแค๊ปหายไปแล้วเกือบ$5ล้านล้านตั้งแต่หุ้นตกกลางปี2015ที่ผ่านมา

แต่ความแตกต่างคือ เฟดไม่มีเงินทุนสำรอง มีแต่แท่นพิมพ์เปล่าๆ ถ้าวิกฤติการเงินหนักขึ้น เฟดจะลดดอกเบี้ย พิมพ์เงินทำQE4

เริ่มมีหลายคนออกมาทำนายว่าหุ้นอีแร้งจะตก20-30% ปีนี้ บางคนบอกว่า50-60%เพราะว่าฟองสบู่การเงินกำลังจะแตกอีกรอบ จากที่เฟดปั่นขึ้นมา

ที่สำคัญ ตลาดการเงินจะไม่ยอมให้เฟดเพิ่มหนี้ต่องบดุลจาก 70:1ในปัจจุบัน เป็น200:1ในกรณีที่ต้องเพิ่มงบดุลจาก$4.5ล้านล้านเป็น$8ล้านล้าน

ส่วนจีนเป็นคอมมิวนิสต์ คุมทุกอย่าง เจ้งปล่อยเจ้งไปได้ จีนมีทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุด ประมาณเกือบ$4ล้านล้าน และมีทองคำอย่างน้อย50,000ตันขึ้นไป

ดูต่อไปว่า ระหว่างหยวนและดอลล่าร์ ใครจะเข้าวิน เมื่อวิกฤติการเงินรอบนี้จบลง เพราะว่าต้องมีวาระการเงินโลกใหม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

thanong

17/1/2016

 

 

 

 

12507519_423498814513165_373252586499964797_n.jpg?oh=0bde94c9b21ace717a2fb7ae1ba6f703&oe=56FFD707&__gda__=1460155617_9d66cc2766012f5c6ad2122612a60ee8

 

 

18. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

หลายคนเข้าใจว่าหยวนไม่มีทางมาแทนดอลล่าร์ได้ ต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี เรื่องนี้เป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง

ความจริงหยวนไม่จำเป็นต้องมาแทนดอลล่าร์ แค่จีนเพิ่มส่วนแบ่งการใช้หยวนในโลกจาก2%ในปัจจุบันเป็น15%-20% เพียงแค่นี้ดอลล่าร์ก็เหนื่อยแล้ว ดอลล่าร์มีการใช้อยู่ปัจจุบัน40%ในระบบการชำระเงินของโลก

 

เพื่อให้เห็นภาพสมมุติเบียร์ช้างมาอันดับหนึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยอยู่ที่40% เบียร์ทนงเพิ่งจะออกตัวไม่นานมีส่วนแบ่งการตลาดแค่2% เบียร์ทนงไม่มีทางล้มเบียร์ช้างได้ แต่นั้นไม่ใช้เป้าหมาย ถ้าหากเบียร์ทนงสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้15-20% เบี้ยร์ช้างก็อ๊วกแล้ว พอเสียmarket share วอลุ่มไม่ได้ มาร์จิ้นไม่ได้ จึงระส่ำระสายทั้งหมด

ในทำนองเดียวกัน สหรัฐเพิ่มซับไพลดอลล่าร์ตลอดเวลา เพราะว่ามีงบขาดดุลปีละเกิน$1ล้านล้าน มีหนี้เก่าอีก$19ล้านล้านที่ต้องออกบอนด์มาชำระ ถ้าลูกค้าที่ถือดอลล่าร์ลดลง ดอลล่าร์จะเฟ้อ ดอกเบี้ยจะโดนบีบให้ขึ้น เศรษฐกิจจะไปไม่รอด

เปิดให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกไม่นาน หยวนจะกินส่วนแบ่งการตลาดเร็วมาก

thanong

17/1/2016

 

 

 

 

12509270_423544351175278_7077774386162089328_n.jpg?oh=17eb6cabc527b91cf6531629f4b101e3&oe=573A9A4F&__gda__=1462988744_0fc2834f28bbfad072e1487594768dd1

 

 

19. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

ยกอีกตัวอย่างให้เห็นภาพปรากฎการณ์ของหยวนแบบก้าวกระโดด

ขณะนี้ตระกร้าเงินไอเอ็มเอฟมีสัดส่วนของเงินสกุลหลักของโลกดังนี้

ดอลล่าร์ 49.7%, ยูโร 32.9%, ปอนด์12.1 %, และเยน7.1%

 

ในเดือนตุลาคมนี้ ถ้าไม่มีอะไรพลิกแพลง หยวนจะเข้าตระกร้าเงินไอเอ็มเอฟ โดยจะมีสัดส่วนจาก0%เป็น10.92%ทันที

ส่วนดอลล่าร์จะลดสัดส่วนลงเป็น41.73%, ยูโรจะเหลือ30.93%, เยน8.09%, และปอนด์ 8.33%

สัดส่วนหยวนจะมากกว่าปอนด์และเยน แต่ยังคงน้อยกว่าดอลล่าร์และยูโรในตระกร้าไอเอ็มเอฟ

แต่เฮียสีเล่นเกมไอเอ็มเอฟมีแต่เสียกับเสีย เพราะว่าตระกร้าไอเอ็มเอฟกลวงแล้ว หยวนเข้าไอเอ็มเอฟไปเสริมบารมีดอลล่าร์มากกว่า ถือว่าเป็นการต่ออายุดอลล่าร์ด้วยซ้ำ

จีนสร้างAIIBและเดินมาถูกทางแล้ว อย่าได้เฉไฉหลงอุบายอั๊งม้อ หันหลังให้ดอลล่าร์อย่างเดียว แล้วจะดีเอง

thanong

17/1/2016

 

 

 

 

12565356_423550814507965_1477323354649380876_n.png?oh=d31d2d9e98b3cf276c54315aec6bbf90&oe=5738CAD9&__gda__=1459822948_ab3961d86f443602f6a1d1061b7e7bf2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

20. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

นายJin Liqunกรรมการผู้อำนวยการของAIIBบอกว่า AIIBจะปล่อยกู้โครงการเป็นดอลล่าร์ แม้ว่าอาจจะระดมทุนด้วยสกุลอื่นเช่นยูโร หรือหยวน

ดูต่อว่าจีนกำลังเล่นอะไร

 

แต่ถ้าให้AIIBปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์ และถ้าจีนเอาหยวนเข้าตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศเป็นอันจบกันสำหรับมังกร ที่จะติดร่างแหของดอลล่าร์แล้วดิ้นไม่ออก

ถ้าตั้งAIIBแล้วปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์ แล้วตั้งขึ้นมาทำซากทำไม

thanong

17/1/2016

http://sputniknews.com/…/103326…/aiib-loans-us-dollars.html…

 

 

 

 

12540947_423635934499453_1998344837326694413_n.jpg?oh=d12c9a1a07940c7ec6ef41e478458340&oe=5749396C&__gda__=1464136058_19df0a6247c00566344bc42fee079274

 

 

21. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

ไม่รู้จีนมีดีลลับๆอะไรกับอีแร้งหรือเปล่า?

General Electric Company (NYSE: GE) ประกาศในวันศุกร์ว่าจะขายกิจการอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับ Qingdao Haierของจีน ด้วยมูลค่า$5,400ล้าน

 

ดีลนี้จะมีผลกลางปีนี้

GEเป็นบริษัทของพวกRockefeller การที่ยอมขายกิจการอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้จีนไม่รู้ว่าพยายามดึงจีนเป็นพวกหรือไม่

ใครหลอกใครอยู่

http://finance.yahoo.com/…/general-electric-sell-appliances…

thanong

17/1/2016

 

 

 

 

 

 

 

 

22. อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย

ฟังการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคRob Kirbyดู น่าสนใจมาก เขาบอกว่าระบบการเงินไม่ใช่จะพัง แต่กำลังพัง ดอลล่าร์กำลังถูกทิ้ง

1. ในระยะ8-9เดือนที่ผ่านมา การถือดอลล่าร์เป็นทุนสำรองของประเทศต่างๆได้ลดลงไป$1ล้านล้าน จำนวนนี้มากโขเลยทีเดียว

 

2. สำรองดอลล่าร์ที่ลดลงหมายความว่ามีการขายพันธบัตรสหรัฐออกไป

ดอลล่าร์ถูกทิ้งไปในตัว

3. แล้วใครเข้าไปรับซื้อ? คำตอบคือกระทรวงการคลังสหรัฐที่แอบเข้าไปซื้อรีเชิร์ฟที่โดนดั๊มขาย ไม่งั้นchip haiหมด

4. หน่วยงานExchange Stabilization Fundของกระทรวงการคลังเป็นผู้ซื้อ

โดยซื้อพันธบัตรที่ตัวเองออกแล้วโดนดั๊มขายเข้างบดุลนอกบัญชี

5. ประเด็นคือดอลล่าร์รีเชิร์ฟกำลังถูกขายทิ้งในตลาดโลก แต่ในขณะเดียวกันค่าดอลล่าร์แข็งขึ้น มันเป็นไปไม่ได้ที่ดอลล่าร์รีเชิร์ฟโดนขายแล้วดอลล่าร์จะแข็งขึ้น ดอลล่าร์แข็งขึ้นมาเป็นเวลา9เดือนแล้ว

6. ต้องมีวิธีดันรีเชิร์ฟดอลล่าร์กลับเข้าไปในระบบ ด้วยเหตุนี้ธนาคารกลางสหรัฐต้องสร้างภาพลวงของการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อหนุนดอลล่าร์ให้แข็ง และทำให้คนเชื่อว่าโลกไม่ได้ทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

http://usawatchdog.com/economic-collapse-happening-now-rob…/

ดอลล่าร์ถูกทิ้ง แต่AIIBที่จีนตั้งมากับมือ และสหรัฐไม่ขอเข้าร่วมทุน กลับจะมาใช้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักในการปล่อยกู้โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือว่าเป็นการหนุนดอลล่าร์ มันจึงดูขัดกันกับนโยบายสร้างหยวนให้เป็นเงินสกุลหลักของโลก

อาเฮียกำลังเล่นงิ้วหรือ?

thanong

17/1/2016

http://usawatchdog.com/economic-collapse-happening-now-rob-kirby/

 

 

ขอจบซีรีส์ อีแร้งจิกหยวนไม่ปล่อย22ตอนแต่เพียงเท่านี้ ลับลวงพรางจริงๆ ยังไม่มีข้อสรุปว่าจีนและอีแร้งกำลังเล่นเกมการเงินอะไร

อย่างไรก็ตามช่วยให้คะแนนซีรี่ส์นี้ และให้ข้อเสนอแนะด้วย หลังจากนี้จะขอพักจริงๆจนกว่าชาติต้องการ

thanong

17/1/2016

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

News Personality · 131,902 Likes

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

 

2 hrs ·

 

พวกวัวสันหลังหวะ แค่ได้ยินเสียงแมลงหวี่แมลงวันก็สะดุ้งสะเทือนจนรนรานกันทั้งคอก ตอนที่ ๒

๑๘ มกราคม ๒๕๕๙

ในเวลาต่อมาดีเอสไอเชิญตัวฉันไปให้ปากคำเพิ่มเติมและลงชื่อเป็นผู้ชี้เบาะแสแจ้งความร้องทุกข์แก่สมเด็จช่วง

ด้วยมูลเหตุอันเกิดมาจากแรงจูงใจ ๒ ประการคือ

๑. สมเด็จช่วงเป็นผู้มีพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ ดังตัวอย่างที่บัญญัติเอาไว้ในโกสิยวรรค สิกขาบทที่ ๘ ความว่า

ภิกษุรับเองก็ดี หรือใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดี ซึ่งทองและเงิน หรือยินดีในทองและเงินนั้นเพื่อเก็บไว้เพื่อตน ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์

และสิกขาบทที่ ๙ ความว่า ภิกษุทำการซื้อขายรูปิยะ คือของที่เขาใช้เป็นทองและเงิน ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์

สมเด็จช่วงแห่งวัดปากน้ำได้กระทำการละเมิดพระบัญญัติทั้งสองข้อนี้อยู่เป็นอาจิณ อีกทั้งยังนำทรัพย์สินที่ซื้อมาใส่ชื่อของตน เช่น รถเบนซ์หรูทะเบียน ขม-๙๙ เจ้าปัญหาคันนี้เป็นต้น

แม้จะอวดอ้างว่ามิได้ซื้อขายแลกเปลี่ยนทรัพย์สินนั้นเพื่อตน แต่ด้วยสถานภาพของผู้อยู่ในองค์คณะปกครองสูงสุดแห่งสังฆมณฑล จึงสมควรยิ่งที่จะประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นต้นแบบอย่างเคร่งครัด ตามหลักพระธรรมวินัยและถูกต้องตามสมณวิสัย เป็นผู้สะอาด ฉลาด สว่าง สงบ มิใช่ทำตัวเป็นผู้มักมาก อยากได้ ชอบสะสมอย่างที่เป็นอยู่

อีกทั้งยังมีพฤติกรรมที่ละเมิดพระธรรมวินัยในสิกขาบทต่างๆ อยู่เนืองนิตย์ และมีพฤติกรรมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อตรง ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย ลำเอียง เลือกข้าง มักมาก หลงติดอยู่ในโลกธรรมอันลามก

ทั้งที่คดีรถหรูนี้มีการสืบสวนสอบสวนมาเป็นเวลาร่วม ๒ ปี จนข่าวคราวเป็นที่ปรากฏ แทนที่สมเด็จช่วงจะรู้ตัวว่ารถที่ครอบครองผิดกฎหมาย ต้องส่งมอบคืนให้แก่หลวง แต่กลับนิ่งเฉยโดยไม่ละอาย ทั้งยังปล่อยให้ลิ่วล้อออกมาโป้ปดมดเท็จ เบี่ยงเบนประเด็นแก้ตัวไปวันๆ แต่ไม่ยอมแก้ไข

พฤติกรรมเช่นนี้จึงเข้าข่ายละเมิดอาบัติปาราชิกในสิกขาบทที่ ๒ ที่ว่าด้วย

ภิกษุถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ทรัพย์นั้นมีราคาเกิน ๕ มาสก (เท่ากับทองคำ ๒๐ เมล็ดข้าวเปลือก) ต้องอาบัติปาราชิก

อธิบายคำว่าปาราชิก เป็นชื่อของอาบัติ

ปาราชิก แปลว่า ผู้ที่พ่ายแพ้ หรือผู้ตัดขาดจากสถานะเดิม ผู้หาสังวาสมิได้ หรือหาสังคมอยู่ด้วยมิได้

ใบไม้เมื่อหลุดร่วงหล่นลงสู่พื้น ยิ่งนับวันมีแต่แห้งเหี่ยว ไม่มีโอกาสสดเขียวขึ้นมาได้ฉันใด ภิกษุผู้ถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้ด้วยลักษณะ ๑๓ อย่าง หรืออย่างใดอย่างหนึ่งด้วยเจตนา ย่อมไม่สามารถงอกเงยในมรรคผลนิพพานได้ในฉันนั้น

ลักษณะของการถือเอาทรัพย์มีอยู่ด้วยกัน ๑๓ ชนิด ได้แก่

๑. ลัก ได้แก่อาการถือเอาทรัพย์ให้เคลื่อนจากฐานที่ตั้ง ด้วยเจตนา

๒. ชิงหรือวิ่งราว ได้แก่อาการชิงเอาทรัพย์ที่เขาถืออยู่

๓. ลักต้อน ได้แก่กิริยาไล่ต้อนหรือจูงสัตว์ ๔ เท้า สัตว์ ๒ เท้า หรือสัตว์ไม่มีเท้า ให้เคลื่อนจากที่อยู่ที่เหยียบยืน

๔. แย่ง ได้แก่อาการเข้าแย่งทรัพย์ซึ่งหน้าจากมือเจ้าของทรัพย์หรือแย่งขณะที่เจ้าของทำทรัพย์นั้นตก

๕. ลักสับ ได้แก่การสับของดีให้เป็นของเลว ของมีราคามากให้เป็นของมีราคาน้อย แม้ที่สุดลักสับสลากรายชื่อของทรัพย์ ด้วยเจตนาต้องการทรัพย์นั้น

๖. ตู่ ได้แก่กิริยากล่าวตู่เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ที่ไม่ใช่ของตน

๗. ฉ้อโกง ได้แก่กิริยารับของที่มีผู้มาฝากเอาไว้ แล้วฉ้อโกงเอามาเป็นของตน

๘. ยักยอก ได้แก่ภิกษุผู้มีหน้าที่รักษาคลัง ทำบัญชีหรือควบคุมทรัพย์ของวัด แล้วยักยอกทรัพย์นั้นมาเป็นของตน (กิริยานี้ตรงกับกรณีของธัมมชโย ที่ยักยอกเงินและที่ดินของวัดมาเป็นชื่อของตน)

๙. ตระบัด ได้แก่กิริยาที่นำของที่ต้องเสียภาษี เมื่อผ่านด่านเก็บภาษีก็ซุกซ่อนของนั้น ไม่ยอมเสียภาษี หรือของมากก็ซ่อนให้เห็นว่าเป็นของน้อย จะได้เสียภาษีน้อยๆ (ตรงกับพฤติกรรมของนายน้ำฝนแห่งวัดไผ่ล้อมในคดีรถหรู)

๑๐. ปล้น ได้แก่การชักชวนกันทำโจรกรรม ลงมือด้วยตนเองบ้าง หรือมิได้ลงมือด้วยตนเอง แต่ตนมีส่วนร่วม เมื่อได้ทรัพย์นั้นมาสมเจตนา หากทรัพย์นั้นมีราคาเกิน ๕ มาสก ต้องอาบัติปาราชิกทั้งกลุ่ม

๑๐. หลอกลวง ได้แก่การหลอกทำของปลอมต่างๆ

๑๑. กดขี่หรือกรรโชก ได้แก่การใช้กำลัง ใช้อำนาจ ข่มเหงเอาทรัพย์ของผู้อื่น ตัวอย่างเช่น ภิกษุเป็นเจ้าหน้าที่มีอำนาจการปกครองอยู่ในมือ แล้วใช้อำนาจนั้นข่มเหงเพื่อให้ได้ทรัพย์มา

๑๒. ลักซ่อน ได้แก่การเห็นทรัพย์ที่เจ้าของเขาทำตกหล่นไว้โดยไม่รู้ตัว ภิกษุนั้นพอเห็นจึงแกล้งเดินไปเอาเท้าเหยียบไว้ ยืนบังไว้ หรือใช้วัสดุอย่างหนึ่งอย่างใดปกปิดเอาไว้ ด้วยเจตนาจะถือเอามาเป็นของตน ต้องอาบัติเมื่อเจ้าของทรัพย์หาของไม่เจอ และทรัพย์นั้นได้ตกเป็นของภิกษุ (ข้อนี้ตรงกับกรณีสมเด็จวัดปากน้ำมีรถหรูจดประกองหลีกเลี่ยงภาษี ถ้ารู้อยู่ว่ารถหนีภาษีไม่ไปแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ และลักซ่อนรถนั้นไว้ก็ต้องอาบัติปาราชิก)

ทรัพย์ที่ถือเอามาเป็นของตนด้วยกิริยาอาการทั้ง ๑๓ อย่างหรืออย่างหนึ่งอย่างใด ก็เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิก

ทรัพย์ในปาราชิกสิกขาบทที่ ๒ นี้มีอยู่ด้วยกันสองชนิดคือ

๑. สังหาริมทรัพย์ คือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้

๒. อสังหาริมทรัพย์ คือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้

ภิกษุที่ถือเอาทรัพย์เหล่านี้โดยมิต้องอาบัติต้องประกอบไปด้วยอาการดังนี้คือ

๑. เข้าใจผิดคิดว่าทรัพย์นั้นเป็นของตน

๒. คิดว่าเป็นของคนกันเอง เคยรู้จักกันมาก่อน คงไม่เป็นไรหรอก

๓. ขอยืมนะ

๔. ทรัพย์ที่เขาอุทิศให้แก่เปรต

๕. ทรัพย์ที่เขาอุทิศให้แก่สัตว์ดิรัจฉาน

๖. คิดว่าเป็นของที่เขาทิ้งแล้ว

๗. ภิกษุนั้นเป็นบ้า

๘. เป็นภิกษุคนแรกของการบัญญัติสิกขาบทนี้

๒. พฤติกรรมของสมเด็จช่วงที่เป็นนักสะสม ชื่นชอบนิยมของมีค่า ของเก่า จึงนำมาซึ่งการกระทำผิดกฎหมายศุลกากรมาตรา ๒๗

ที่นำรถผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศและสำแดงเอกสารเท็จ แม้จะอ้างว่าเป็นของลูกศิษย์ถวายให้มาก็ฟังไม่ขึ้น เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว ตามหลักฐานพยานที่ปรากฏ สมเด็จช่วงได้มีการจ่ายเงินให้กับนางกาญจนา มากเหมือน เป็นจำนวนเงินล้านกว่าบาท

ซึ่งในเวลาต่อมานางกาญจนา มากเหมือน ได้ทำการโอนรถคันนี้ให้เป็นชื่อของสมเด็จช่วงตามปรากฏในเอกสารหลักฐานการโอน

(แล้วอย่างนี้พวกลิ่วล้อยังจะมาแถกแถไปว่าเขาถวายมาอีกหรือ)

ที่จริงมีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าใครเป็นผู้นำเข้ารถเก่าหรูคันนี้ และเมื่อนำเข้ามาแล้วก็มีการสำแดงเอกสารเท็จ โดยมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรและกรมขนส่งให้ความร่วมมือ ทั้งที่รถคันนี้ใส่ตู้คอนเทนเนอร์นำเข้ามาทั้งคัน แต่มาแจ้งเท็จว่าเป็นอะไหล่รถเก่าเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ๓๐๐ กว่าเปอร์เซ็นต์

แล้วให้คนไปเล่นแร่แปรธาตุจนสามารถนำรถออกมาจากเขตปลอดภาษีของกรมศุลได้ ตามด้วยการจัดหาซื้อทะเบียน ขม-๙๙ ของบริษัทแห่งหนึ่งมาสวมใส่ ซึ่งมีสุภาพสตรีนักธุรกิจคนหนึ่งเป็นผู้เซ็นยินยอมเปลี่ยนชื่อทะเบียนให้เป็นชื่อของสมเด็จช่วง

เอามาบอกกล่าวกันอย่างสุดติ่งกระดิ่งหมาขนาดนี้แล้ว ยังจะมาแถกอย่างไรอีกล่ะเฮีย

หรือถ้าอยากรู้ให้ลึกให้ละเอียดว่ามีใครร่วมมือบ้าง ใครตกเป็นจำเลยบ้าง

พวกเฮียๆ ทั้งหลายก็ลองพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส พิสูจน์ความจริง หากเฮียๆ เชื่อมั่นว่าสมเด็จช่วงของเฮียบริสุทธิ์ผุดผ่อง

เฮียๆ ทั้งหลายก็ลองแจ้งความฟ้องกลับข้อหาแจ้งความเท็จดูบ้างสิเฮีย

เผื่อเฮียจะได้ตาสว่างขึ้นมาบ้าง

เรื่องรถหรูนี่เอาไว้แค่นี้ก่อนนะเฮียๆ เพราะรู้ว่าต่อให้อธิบายขยายความ นำหลักฐานพยานมายืนยันอย่างไร ด้วยสันดานของพวกเฮียๆ ก็จะฟังไม่รู้เรื่อง

ดีไม่ดี พวกเฮียก็จะแถกแถไปว่า ไม่จริง ไม่จริง ใส่ร้าย ดิสเครดิต

เช่นนี้คงต้องบอกว่าโนคอมเม้นแล้วล่ะเฮีย

พุทธะอิสระ

________________________

พวกวัวสันหลังหวะ แค่ได้ยินเสียงแมลงหวี่แมลงวันก็สะดุ้งสะเทือนจนรนรานกันทั้งคอก ตอนที่ ๑

https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10153824131008446

 

 

 

 

 

12565606_10153824317793446_3741692290636536714_n.jpg?oh=0b24290b0432d492bda23c37099da897&oe=573DAFCE&__gda__=1463903543_14ba1f9f7dcd0fdb5d229d4dbbeb17d1

 

 

 

 

===

 

 

 

 

 

 

12540960_1666169826985212_319145056136254415_n.jpg?oh=d960502b7bf1434b98224250ba537a07&oe=570A6713&__gda__=1459818650_3d03294f750dec90811d6ed7d18f004b

“ไพบูลย์” ยื่นหนังสือ “ดีเอสไอ” สอบคดีรถหรู “สมเด็จช่วง” คาดจดประกอบไม่ถูกกม.-ยันไม่ได้ดิสเครดิต

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ม.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อมด้วย ดร.มโน เลาหวณิช อดีตผู้อำนวยการสำนักการศึกษาและสำนักวิเทศสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ วัดพระธรรมกาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงค์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้เร่งรัดการตรวจสอบคดีรถหรู สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อหาข้อยุติทางกฎหมายว่าผิดหรือไม่ ซึ่งมีประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย โดยมีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง

 

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนต้องการให้ดีเอสไอพิจารณานำคดีรถยนต์หรู ซึ่งเป็นคดีตั้งแต่มี 2556 รถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งมีการคาดกันว่าเป็นรถที่มีการจดประกอบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้ง ยังเป็นข้อสงสัยและเป็นคดีที่ค้างอยู่ในดีเอสไอ พร้อมกับคดีรถหรูอีกหลายคัน ดังนั้น เมื่อมีกรณีเรื่องเกี่ยวกับการที่จะเสนอนาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพื่อจะได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ในขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ จะมีเรื่องใดหรือคดีความใดที่ยังค้างอยู่ไม่ได้

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า หากปล่อยให้มีแต่การพูดไปมาว่า กรณีดังกล่าวผิดหรือไม่ ก็อาจเป็นชนวนเหตุนำไปสู่ความขัดแย้ง และความไม่สงบในสังคมได้ ดังนั้น เพื่อให้เรื่องดังกล่าวได้ข้อยุติ จึงอยากให้อธิบดีดีเอสไอช่วยพิจารณานำคดีรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ขึ้นมาสอบสวนและตรวจสอบโดยเร็วและถูกต้อง เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้เป็นข้อยุติว่า 1.รถยนต์คันดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ 2.พระเถระผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการได้มาในขั้นตอนใดและอย่างไร และ 3.พระเถระผู้ใหญ่กระทำผิดกฎหมายกบินทร์เมืองหรือไม่ ทั้งนี้ หากรถยนต์คันดังกล่าวได้มีการจดประกอบถูกต้องตามกฎหมาย ชำระภาษี และได้มาถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะส่งผลต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พ้นจากข้อครหาได้

“แต่ถ้าเกิดตรวจพบว่า มีข้อที่อาจมีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ว่าในเรื่องเสียภาษีหรืออย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าข้อเท็จจริงดังกล่าว จะทำให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ได้พิจารณาทิศทางที่สมควรและเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาต่อไปได้ ดังนั้น จึงเห็นว่าในวันนี้จะต้องมาสอบถามและเร่งรัดในคดีดังกล่าว อีกทั้ง ผมยังมองว่าการตรวจสอบจะทำให้เป็นข้อยุติของสังคมไทย” นายไพบูลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าเรื่องนี้เป็นการดิสเครดิตพระสังฆราชองค์ใหม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนขอเรียนว่าเรื่องนี้เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กันตั้งแต่ปี 2556 และยังค้างคาอยู่ ถ้าจะบอกว่าเป็นการดิสเครดิตนั้น ก็ยังมีผู้กล่าวหาอยู่ตลอด หากไม่จัดการให้ชัดเจนก็จะเป็นปัญหาต่อไป แล้วเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ก็จะทำไม่ได้อยู่ตลอดด้วย ก็เป็นความเสียหายต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ด้วย ดังนั้น ตนจึงอยากเรียนว่า ถ้าจะดิสเครดิตจริงนั้น ก็ไม่ต้องสอบสวนเลยจะดีกว่า ให้ค้างไว้อย่างนี้ และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างนี้

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันฝ่ายที่คิดว่าท่านไม่ผิดก็ออกมาโต้กันไปมาและไม่ได้ข้อยุติ จึงอยากให้กระบวนการยุติธรรมต้องเร่งดำเนินการ อีกทั้ง ความรวดเร็วคือกระบวนการยุติธรรมอย่างหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบแล้ว ก็อยากให้มีการแถลงผลให้ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนได้ทราบ และทำให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ได้รับความเป็นธรรม และชอบธรรม

เมื่อถามว่า เอกสารหลักฐานที่นำมาในวันนี้มีอะไรบ้าง นายไพบูลย์ กล่าวว่า มีเพียงภาพถ่ายรถยนต์คันดังกล่าว ที่มีการนำมาเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะ ส่วนข้อมูลก็คิดว่าทุกคนคงเป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้ว แต่เป็นเพียงข้อครหาหรือชี้แจงกัน เป็นฝ่ายของผู้ที่ไม่มีอำนาจในการดำเนินการเป็นผู้พูดกันทั้งสองฝ่าย แต่ดีเอสไอเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ยังไม่ได้ดำเนินการให้ได้ข้อยุติ จึงขอเรียกร้องให้ดีเอสไอช่วยกันพิจารณาเรื่องนี้โดยเร็ว

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 19 ม.ค. เวลา 09.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้วินิจฉัยกฏหมาย มาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2535 ว่าขั้นตอนการเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชควรจะเริ่มต้นที่หน่วยงานใด ซึ่งตนเห็นว่าควรเริ่มต้นที่นายกรัฐมนตรี เพราะสำนักพระพุทธศาสนาถือเป็นหน่วยงานของรัฐ จากนั้น จะทำหนังสือสำเนาส่งให้นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก ที่ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา ให้ชะลอการส่งชื่อให้นายกฯ นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ไว้ก่อน

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ในคดีรถยนต์หรูที่นายไพบูลย์ได้ยื่หนังสือมาถึงนั้น ทางดีเอสไอได้ดำเนินการก่อนแล้ว ซึ่งรถยนต์จดประกอบที่ดีเอสไอทำคดีอยู่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มรถยนต์ที่มีมูลค่าเกิน 4 ล้านบาท ซึ่งมีประมาณ 500 คัน และ 2.รถยนต์จดประกอบที่มูลค่าต่ำกว่า 4 ล้านบาท อีกประมาณ 5,000 กว่าคัน ซึ่งคำร้องของนายไพบูลย์ที่ให้ตรวจสอบรถยนต์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์นั้นอยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่งดีเอสไอก็ได้ดำเนินการอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อเรื่องนี้เป็นประเด็นของสังคมก็ต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า กระบวนการทำงานของดีเอสไอก็ทำตามขั้นตอนปกติ ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นของการนำเข้า เราต้องดูเอกสารทางกระบวนการกรมศุลกากรและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มีการตรวจสอบมาแล้ว 3 ปี ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า รถยนต์จดประกอบมี 2 กลุ่ม ซึ่งเราได้ดำเนินการตรวจสอบกับกลุ่มแรกอยู่ ส่วนกลุ่มที่ 2 ซึ่งมีรถยนต์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์อยู่ด้วย ทางดีเอสไอก็ได้ดำเนินการคู่ขนานกัน แต่พอเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดเอาเอกสารมาตรวจสอบ เพื่อจะได้ทำความกระจ่างให้เกิดขึ้น

“เราคงต้องแบ่งกัน เรื่องของทางโลกก็ทางโลก เรื่องของกฎหมายบ้านเมืองก็เป็นหน้าที่ของเรา ส่วนเรื่องทางธรรม พระพุทธศาสนา ก็เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์ต้องไปดำเนินการตามหน้าที่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน” ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กล่าวและว่า ทั้งนี้ เราจะต้องตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน จากนั้น จึงจะไปตรวจสอบรถยนต์ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ปรากฎตามเอกสารรถยนต์คันนี้เป็นรถที่แจ้งยกเลิกการใช้ไปแล้ว ทั้งนี้ ตนไม่ขอพูดเรื่องการปฏิบัติ เพราะพนักงานสอบสวนอาจจะเดินทางไปตรวจสอบรถที่วัด หรือจะนำมาตรวจที่ดีเอสไอก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการตรวจสอบของพนักงานสอบสวน เราต้องไล่ดูตั้งแต่กระบวนการก่อนว่า กระบวนการนำเข้ามาเป็นอย่างไร และกระบวนการครอบครองเป็นอย่างไร ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เราต้องดูว่าการนำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ เพราะจะไปบอกว่าถ้าครอบครองแล้วผิดเลยก็คงจะไม่เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

 

 

 

 

 

12400640_1552197521769263_3232294793674082867_n.jpg?oh=e0ae3464119bbc482b4231e52ea7d356&oe=573C1968&__gda__=1464387337_8926f69d856ed95c8a44dc31c7100729

==

12548926_524359627725755_3837570245670549836_n.jpg?oh=1544fc73d9dc1930cd637dfee0793091&oe=56FD9DE5&__gda__=1459802732_303adc3be3464104923777069ceb7bbd

 

 

ด้วย พรบ.คณะสงฆ์ มาตรา 15 ตรี ได้กำหนดอำนาจหน้าที่มหาเถรสมาคมไว้ประการแรกคือ "ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม" หากแต่สมเด็จช่วงผู้เป็นประธานมหาเถรฯ กลับนิ่งเฉยในกรณีที่พระสงฆ์ขู่จะออกมาเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายแก่ทั้งคณะสงฆ์และบ้านเมือง ถ้าหากรัฐบาลล่าช้าในการทูลเกล้าถวายชื่อตนให้ทรงโปรดเกล้าสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แสดงให้เห็นว่า สมเด็จช่วงผู้เป็นประธานมหาเถรฯ และมหาเถรฯเอง ไม่สามารถทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม ตามที่กำหนดใน พรบ.คณะสงฆ์ มาตรา 15 ตรี ได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ผู้นำจีน-อิหร่าน เตรียมเสริมสร้างความสัมพันธ์

สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้มีกำหนดการที่จะเดินทางมาเยือนประเทศอิหร่านในสัปดาห์นี้ และจะเป็นเหตุการณ์พิเศษในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง Pang Seng เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศอิหร่านกล่าว

ในช่วงเวลาสองปีมานี้ ประเทศจีนและอิหร่านได้มีการแลกเปลี่ยนระดับสูงระหว่างกันหลายครั้ง ทั้งยังได้เสริมสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน

 

ขณะเดียวกัน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระดับทวิภาคีก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2014 การค้าของทั้งสองประเทศมีมูลค่าสูงถึง 50 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับ "โครงการเส้นทางสายไหมใหม่" นักการทูตกล่าวว่าประเทศอิหร่านตื่นตัวอย่างมากต่อการดำเนินงานร่วมกับประเทศจีนในแนวหน้า ทั้งยังเสริมว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้จะเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โครงการเส้นทางสายไหมใหม่นี้ได้รับการเสนอโดยรัฐบาลจีนในปี 2013 และถูกนำมาบูรณาการให้ดียิ่งขึ้นเพื่อผลักดันประเทศจีนเข้าสู่เศรษฐกิจโลก

ประเทศอิหร่านเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่อยู่ในเส้นทางสายไหมโบราณ และยังเป็นพันธมิตรที่สำคัญของประเทศจีนในปัจจุบันอีกด้วย Pang กล่าว ทั้งยังเสริมถึงจำนวนโครงการร่วมทุนที่สำคัญที่กำลังคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง

Pang กล่าวว่า ในการพบปะของผู้นำทั้งสองประเทศ มีการคาดหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี เช่นเดียวกับการพูดคุยกันในปัญหาที่สำคัญระดับภูมิภาคและระดับโลก

ทั้งสองประเทศยังจะลงนามในข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจจำนวนมาก ในหลากหลายสาขา ตั้งแต่ความร่วมมือด้านกำลังการผลิตในอุตสาหกรรม, การลงทุน, น้ำมันและก๊าซไปจนถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การแบ่งปันข้อมูล และศุลกากร

 

 

 

 

12510517_1707694329446582_6389454193034953507_n.jpg?oh=471374e7a08802072d570e9692b7950b&oe=57058542

 

 

 

12509876_962907903794282_5075596342165644290_n.jpg?oh=5ef977d43955deb731cf4c739f9d9d70&oe=573796A1

12523924_962907927127613_2814627729284578357_n.jpg?oh=079730b1ae1da9f29f95e69f69fcc3dd&oe=573D3443

นอกจาก ตาช่วง จะชอบสะสมรถหรูแล้ว ก็ยังชอบสะสมของเก่าอีกด้วย อาทิ แก้วเบียร์เยอรมันโบราณ อายุกว่า139 ปี ทำด้วยซารามิดปั้นมือฝาเงิน และนาฬิกาไขลานไม้สักโบราณจากฝรั่งเศษ อายุมากกว่า 100 ปี และยังมีของเก่าอื่น ๆ อีกมากมาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12495036_1707449402804408_2046143867563437000_n.jpg?oh=7dfcb3a3791b4ac4a14b1a9ff11c1ccf&oe=5736EF5E&__gda__=1463660647_a97be2e3ff48cdbd658a0f08c70ce2cf

 

12507362_1707449419471073_8885092206062607136_n.jpg?oh=97ad8f75b981860aae23e67e889fe3eb&oe=57364EFE

 

12509839_1707449436137738_1945202520235869458_n.jpg?oh=06c3fdfd0b6dff36c358cb71f0823139&oe=5740E18E

 

 

 

 

พบร่องรอยมนุษย์จากซากแมมมอธเมื่อหลายหมื่นกว่าปีก่อน

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา วารสารวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯเผยว่า นักวิจัยชาวรัสเซียค้นพบว่าซากแมมมอธที่ถูกแช่แข็งเมื่อช่วงก่อนประวัติศาสตร์นั้นมีร่องรอยการบาดเจ็บจากอาวุธซึ่งเป็นหลักฐานว่ามนุษย์มีชีวิตอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือ 10,000 ปีก่อนหน้าเคยสันนิษฐานกันไว้ตอนแรก

นักวิจัยระบุว่า หลังจากการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีของกระดูกและวัตถุรอบข้างนั้นก็ทราบได้ว่าแมมมอธตัวนี้มีอายุถึง 45,000 ปี อย่างไรก็ตามพบการบาดเจ็บที่กระดูกโหนกแก้ม ซี่โครง และขากรรไกร รวมถึงฟันก็เหมือนจะถูกแทงจากอาวุธมีคม เช่น หอก เป็นต้น

 

นอกจากนี้ยังพบการบาดเจ็บจากงาที่ข้างขวาเพียงด้านเดียว เป็นการแสดงว่ามนุษย์พยายามดึงงาที่ใหญ่และแข็งแรงออกไป

ทั้งหมดนี้จึงสามารถทราบได้ว่ามนุษย์สามารถปรับตัวให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในขั้วโลกเหนือได้ และล่าแมมมอธเป็นอาหาร อย่างไรก็ตามเมื่อ 20,000 ปีที่แล้ว มนุษย์ที่เคยอาศัยแถบขั้วโลกเหนือก็ได้กระจายตัวไปที่บริเวณ “เบอริงแลนด์บริดจ์” (Bering Land Bridge) ที่เคยเชื่อมต่อกับไซบีเรียกับอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นโอกาสให้พวกเขาก้าวสู่ “โลกใหม่” (ทวีปอเมริกา) นั่นเอง

 

 

 

 

12553028_1707086632840685_229510160049985828_n.jpg?oh=fb89eeb060f990cedd8e36b2bf13bda6&oe=570596A0&__gda__=1463116599_8f584e0aee7d7ed3e996caeb1a799f7a

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11254427_919643768122418_1986809291729184803_n.jpg?oh=37540723f9c1d5cccf7f400a42753e3f&oe=57334C2B

臺南孔廟 四開

 

เก็บมาฝาก เพี่อนๆ

สืสัน สดใส

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อย่าเป็น 'กบ' ในหม้อน้ำร้อนโลก

 

เปลว สีเงิน

คืนวันศุกร์ ๑๕ มกรา ๕๙ น้ำมันตลาดโลกลดเหลือบาร์เรลละ ๒๙.๗๐ เหรียญสหรัฐฯ

ทำเอา "นอนไม่หลับ"!

ไม่เกี่ยวอะไรกับผมโดยตรงก็จริง แต่อยากบอกว่า ตัวเลขราคาน้ำมันลดลง...ลดลง ทุกวันนั้น

นั่นคือเส้นกราฟหัวใจ "แต่ละประเทศ" ในโลก รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย!

ราคาวันนี้ ผิดธรรมชาติ แต่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจโลกาวินาศแท้จริง ขั้น "ใครดี-ใครอยู่" ในแต่ละประเทศแล้ว

จำได้ว่า ตอนไทยโพสต์เกิด ๒๑ ตุลา ๓๙ น้ำมันบาร์เรลละ ๑๘ เหรียญสหรัฐฯ

ต่อมา...ช่วงยังโทรมพิษต้มยำกุ้ง ปี ๔๒ ลงไปอยู่ที่บาร์เรลละ ๑๓ เหรียญ แล้วค่อยๆ ฟื้น ไต่ระดับขึ้นไปที่ ๖๖ เหรียญ

จากปี ๕๐ จาก ๖๖ ไต่ขึ้นไปเลย ๘๐ เรื่อยไปจนทะลุโลกที่ ๑๓๐-๑๔๐ เหรียญ/บาร์เรล

ต่อเมื่อ ปี ๕๖ ถึง ๕๙ นี่แหละ.......

ด้วยวิกฤติซับ-ไพรม์และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ในสหรัฐฯ บวกกับความริยำบริษัทและสถาบันการเงินชั้นนำสหรัฐฯ หลายแห่ง "ปิดไม่อยู่"

ยอมรับ...สร้างตัวเลขกำไรลวงโลกมาตลอด!

เลยป่วนกันใหญ่ ลามเข้ายุโรป เข้าเอเชีย ไม่เว้นกระทั่งไทย กระทบเป็นลูกโซ่ เพราะไปลงทุนซื้อพันธบัตรกันไว้ทั้งนั้น

เศรษฐกิจชะงัก น้ำมันที่ปั่นราคากันมายาวนาน ก็หงอย พลอยรูดลงมาเรื่อยๆ

สหรัฐฯ-ยุโรป-ญี่ปุ่น ปั๊มธนบัตรออกใช้เองเหมือนแบงก์กงเต๊กแล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น สูตร "สงครามแก้ปัญหาเศรษฐกิจ" ก็ถูกสหรัฐฯ นำมาใช้อย่างจริงจัง

จนที่สุด กระแส "สงครามโลกครั้ง ๓" ก็จุดติด.......

จนวันนี้ น้ำมันจาก ๑๔๐ เหรียญ/บาร์เรล เหลือ ๒๙.๗๐ เหรียญ/บาร์เรล ทองจาก ๑,๓๐๐ กว่าเหรียญ วันนี้ ขึ้น-ลง อยู่ที่ ๑,๐๐๐-๑,๐๙๐ เหรียญ/ออนซ์

อัตราแลกเปลี่ยน เมื่อวาน (๑๖ ม.ค.).....

ดอลลาร์แข็ง นอกนั้นคอพับ-คออ่อน ทั้งปอนด์ ยูโร หยวน สำหรับเงินบาท จาก ๒๘-๒๙ บาท/เหรียญ ตอนนี้ ๓๖ บาท/เหรียญ มีหวังทะลุ ๔๐!

ทีนี้ก็มาถึงคำถาม.........

อย่างที่มีคนถาม "เจ๊เกียว" ว่า น้ำมันลงราคาแล้ว เมื่อไหร่เจ๊เกียวจะลดค่าตั๋วโดยสารรถทัวร์ล่ะ?

เจ๊เกียวตอบสะท้อนปัญหาสังคมโลก (แตก) ชัดเป๊ะ

"ไม่ลด...ค่าอะไหล่แพง คนโดยสารน้อย เพราะมีแอร์โลว์คอสต์มาตัดราคา คนหนีไปนั่งเรือบินกันหมด"!

ทุกประเทศในโลก เป็น "เจ๊เกียว" กันหมดแล้วครับ ตอนนี้!

เป็นเรื่องที่แต่ละรัฐบาลในโลกวันนี้ ต้องหันมาศึกษาและคิดกันจริงจังแล้ว.......

ถ้าต้องการอยู่รอดในยุค "โลกลอกคราบ" สู่ศตวรรษที่ ๒๑ ที่กำลังมุ่งหน้าไปกันเวลานี้!

ประเทศไหน รู้ไม่ทัน ไม่คิดใหม่-วางยุทธศาสตร์ประเทศใหม่ ยังยึดอยู่กับกรอบคิด-กรอบทำเดิม

ด้วยราคาน้ำมัน ๑๔๐ เหรียญ/บาร์เรล ที่ลากค่าครองชีพ ค่าจ้าง และราคาสินค้าทุกชนิด ขึ้นไปแขวนอยู่บนขื่อ

เมื่อน้ำมันกลับไปถูกอย่างเมื่อ ๒๐-๓๐ ปีที่แล้ว ที่ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓-๕ บาท ข้าวแกงจานละ ๑.๕๐-๓.๐๐ บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก ๕-๗%

แต่วันนี้ น้ำมันกลับหลอนต้นทุนทางสังคมบริโภค "ค่าจ้าง-ราคาสินค้า" ทุกอย่าง...เหมือนเดิม

ขณะเดียวกัน ดอกเบี้ยเงินฝาก ซัก ๑ เปอร์เซ็นต์กว่าๆ?

แล้วอะไรจะเกิดขึ้น....!

"ตลาดเงิน-ตลาดมนุษย์" พล่านไปหมด พวกที่เคลื่อนย้ายเงินทุนแสวงกำไร พวกพ่อค้าส่งออก "เงินหาย" ตามค่าแลกเปลี่ยน ที่หามาตรฐานอะไรไม่ได้แล้ว

เพราะเงินเมื่อฟันเฟืองเศรษฐกิจสะดุด ก็ไหลกลับไปนอนอยู่เฉยๆ ในเซฟกลุ่มทุนบ้าง สถาบันการเงินบ้าง

เมื่อ "เงินไม่ทำงาน" จึงมีค่าสะท้อนความจริง ดังที่ "ม.จ.สิทธิพร กฤดากร" เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ "กสิกร" เมื่อเกือบร้อยปีว่า

"เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง"!

ประเทศเศรษฐีน้ำมัน เริ่มเป็นยาจก ซาอุฯ ใกล้แล้ว สดๆ ร้อนๆ เวเนซุเอลา ที่ร่ำรวยจากส่งออกน้ำมัน

วันนี้ ประกาศ "ภาวะฉุกเฉิน" ทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อพุ่งสวนร่วม ๒๐๐%

นี่คือภาพใหญ่ ....

หันมาดูทางเรา ไม่ต้องไปสนใจ มาเลย์-สิงคโปร์-บรูไน-อินโดฯ จะก้าวหนีเราไปไหนหรอก เพราะตอนนี้ "จุกและเจ็บ" ทั้งนั้น

ว่าแต่เราเถอะ!

ในสภาวการณ์โลกขณะนี้ น้ำมันมาอยู่ที่ ๒๙ เหรียญ เผลอๆ ถอยลงไปที่ ๑๘ เหรียญ ระบบเศรษฐกิจโลก "ล่ม" แล้ว

เรามีแผนรับมือหรือยัง?

เศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ต้องทิ้งตำราเก่า คิดและสร้างหนทางเป็น "ตำราใหม่" ไม่งั้น แรงกระเพื่อมคลื่นโลก ซัดกลืนเราแน่

ผมมองว่า ที่นายกฯ ประยุทธ์บอก...ปฏิรูปวันนี้ เพื่อวางรากฐานไปสู่อนาคต ๒๐ ปี ข้างหน้านั้น

ถ้ามุ่งมั่นเช่นนั้นจริง.....

ท่านต้องระดมมันสมอง "ทุกภาคส่วน" เพื่อวางยุทธศาสตร์ประเทศใหม่ว่าจะยึด "แนวทาง-นโยบาย" แบบไหน เป็น "หัวใจ" ในการนำประเทศไปสู่ทิศทางนั้น

และต้อง "ร่างพิมพ์เขียว" ให้ทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน เดินแผนการค้า-การลงทุน อันเป็นด้านเศรษฐกิจไปทางนั้น

ภาคการเมือง ก็ต้องวางแผนใหม่หมด โดยเฉพาะทางการศึกษา-เกษตร-พาณิชย์ ต้องยกเครื่องชนิด ๓๖๐ องศา!

หาตัวเองให้เจอ แล้วชูตรงนั้น รายได้หลักที่ผ่านมา เราพึ่งสินค้าส่งออก กับ (แอบ) ขายน้ำมัน ภายใน ๑ ทศวรรษต่อจากนี้ พึ่งไม่ได้แล้ว

ต้องหันกลับมา "เอาตัวเองให้รอด" ก่อน ไม่ต้องดันทุรังผลิตเพื่อส่งออกเหมือนเดิมตะพึด-ตะพือ

"ภาคอุตสาหกรรมเกษตร" ควรต้องปฏิวัติ จัดระบบ-ระเบียบ ให้เข้าแบบแผนใหม่ทั้งหมด

ที่เกาะโพเดียมโชว์กัน SME ก็ดี ๑ ผลิตภัณฑ์ ๑ ตำบล ก็ดี โอทอป ก็ดี ประชารัฐ ก็ดี

ความจริง เป้าหมาย "สู่ที่เดียวกัน" แต่หวังผลทางตีปี๊บ เลยแยกเป็นนั่น-เป็นนี่ เปลืองงบโดยใช่เหตุ

ยูเอ็นยกให้ไทยเป็นประธาน G77 นายกฯ บอกคนทั้งโลก จะแนะนำให้แก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก ด้วยแนวทาง "เศรษฐกิจพอเพียง"

แล้วทำไมเรา "ไม่ใช้-ไม่ทำ" ให้เกิดผล ให้ทั้งโลกเห็นจริงก่อนล่ะ?

เรามี "กรมส่งเสริมสหกรณ์" ตั้ง ๗ ประเภท รวมทั้งสหกรณ์ประมงและเกษตร แนวสหกรณ์

ต้องแยกให้เปลืองเงิน-เปลืองคนทำไม ไม่เห็นได้ผล ปัดฝุ่นแล้วยกเครื่องระบบ "สหกรณ์" นี่แหละเข้ารับมือ

สหกรณ์คือการบริหาร-จัดการ ให้ชาวบ้านมารวมตัว ไม่ทำเกษตรซ้ำซ้อน-แก่งแย่ง ซ้ำลดต้นทุนผลิต แต่ได้ผลผลิตเพิ่ม มีตลาดรองรับแน่นอน

ชาวบ้านนอกจากหมดปัญหาเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันแล้ว ยังเป็นการยกระดับโลกทัศน์และพัฒนาตัวเกษตรกรเองไปพร้อมๆ กัน

ด้วยวิทยาการ งานวิจัย และเทคโนโลยี ที่นำมาใช้อย่างเป็นระบบ!

จีน จากที่ -๐ ท่านประธานเหมา "รวมเป็นหนึ่ง" และกำลังผงาดเป็นเบอร์ ๑ โลกวันนี้

ก็จาก "เกษตร-นารวม" ที่เรียกระบบคอมมูน แต่ระบบเสรีนิยมเรียก "สหกรณ์" นั่นแหละ มันไม่ต่างกันหรอก!

นารวมหรือสหกรณ์ เป้าหมายให้ประชาชนมีกินก่อน แข็งแรงแล้วค่อยโตขึ้นไปเรื่อยๆ

หัวใจของระบบ "สามัคคี-วิทยาการ-ไม่โกง"!

แต่เรามีสหกรณ์ตั้ง ๗ ประเภท แต่ล้มเหลว เพราะไม่สามัคคี-ล้าสมัย และโกงทุกภาคส่วน!

เศรษฐกิจโลก สะท้อนจากน้ำมัน สร้างความวิปริตใน ตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดโภคภัณฑ์ เงินกระจุกตัว ไม่กระจายออกมาทำหน้าที่ ประชาสังคมโลกจึงแตกพล่าน

แบบนี้....คุณสมคิด จะบุกไปไหน ถอยกลับ ปรับปรุงแนวหลัง เป็นกำแพงยุทธศาสตร์ "ยั่งยืน" ให้ตัวเองก่อน

"ราคาน้ำมัน" คือตัวเช็กความ "แข็งแกร่ง" ฐานรากประเทศและวิสัยทัศน์บริหารของแต่ละผู้นำ

"เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง"............

นี่แหละของจริง ถ้าตีโจทย์แตก ประเทศเราจะไม่แตกทางเศรษฐกิจ!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...