ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

12717932_10153994115987028_1296071721517857120_n.png?oh=36c360184613313df371b556d385dbb3&oe=574D2B39

ออกกำลังกาย : กระตุ้นพลังสมอง

การออกกำลังกายเป็นธรรมชาติที่อยู่คู่กับมนุษย์มาหลายล้านปี การออกกำลังกายช่วยลับสมองให้เฉียบแหลม โดยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้มีออกซิเจนและน้ำตาลไปป้อนเซลล์สมองให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังเพิ่มการหลั่งสารโปรตีนซึ่งช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์สมองใหม่ บำรุงเซลล์สมองให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังมีหลักฐานงานวิจัยที่ยืนยันว่า การออกกำลังกายยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงการสร้างสมอและการหลั่ง

สารเคมีหลายชนิด ช่วยให้มีสุขภาพจิตดี ดังนี้

 

1. ลดภาวะซึมเศร้า สามารถใช้บำบัดโรคเซึมเศร้าแทนยาด้านซึมเศร้าได้

2. รักษาภาวะสมองเสื่อม

3. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ การออกกำลังแบบแอโรบิก เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ฯลฯ เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง สามารถป้องกันโรคนี้ได้ถึงร้อยละ 60

4. ช่วยให้สมาธิดี

5. ส่งเสริมความจำระยะยาว

6. ช่วยการคิดอย่างมีเหตุมีผล

7. ส่งเสริมเชาวน์ปัญญาในการแก้ปัญหา

 

สำหรับคนทั่วไป การเดินเป็นการออกกำลังที่ง่าย ราคาถูก และปลอดภัย สามารถสอดแทรกในวิถีชีวิตประจำวัน เช่น เดินไปทำงาน ไปโรงเรียน ไปวัด เดินขึ้นบันได เป็นต้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คดีเบนซ์เถื่อน; กับ;โลกกลม


  • คดีเบนซ์เถื่อน; กับ;โลกกลม
     
     
    olokeplwsiiengin99.jpg
    "พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง" อธิบดี DSI รายงาน "พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา" รมว.ยุติธรรม เมื่อวาน (๒๖ ก.พ.๕๙)
    คดี "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น"........
    แยกหมวดหมู่สรุปเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ ได้ฤกษ์ทยอยเรียกผู้เข้าข่ายเป็น "ผู้ต้องหา" มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
    นอกจาก "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" ที่ควบคุมตัวไว้แล้ว คนสำคัญในกลุ่มรับเช็คที่จะถูกเชิญมารับทราบข้อหาด้วย คือ
    "ธัมมชโย".......
    ในข้อหา "รับของโจร"!
    ก็ไม่แน่ใจ รอบนี้ จะไปตามหมายเรียก หรือจะอ้างโรคอะไรขอเลื่อน
    เห็นโหรฟองสนานบอก หลังวันที่ ๔ มีนา ฝ่ายอธรรมจะถูกฟันขาด ๒ ท่อนมิใช่หรือ?
    ธัมมชโยเป็นฝ่ายอะไรล่ะ จะอยู่ครบท่อน หรือขาดสองท่อน ว่างๆ เจ๊ช่วยฟันดูที!
    ก่อนจะคุย ผมแวะท่องโซเชียลมีเดียไปหน่อย พอดีเลย เจอคลิปธัมมชโย เวอร์ชัน "หมวกเหลือง" คลุมโล้น กำลังโฆษณาขายสินค้าตัวใหม่
    "ค้อนครุฑ" ครับ!
    เขาบอกว่าไม่ใช่ค้อนทุบน้ำแข็ง แต่เป็นค้อนทุบแล้วรวย อันละกี่แสนฟังไม่ถนัด ซื้อไปแล้ว มีวิธีและคาถาตอกให้รวยกำกับ
    เวลาตอก ต้องท่องว่า....
    ชิตัง เม โป้ง...รวย, ชิตัง เม โป้ง...รวย, ชิตัง เม โป้ง...รวย
    เฮ้อ...กูละเชื่อมันเลย!
    ที่ตามโซเชียลมีเดีย เคยเอารูปแท่งยาวๆ สีทองมาโพสต์และถามกันว่า...นี่กระสวยจานบิน "ธัมมชโย-ธรรมกาย" รุ่นใหม่หรืออย่างไร นั้น
    ชิตัง เม แล้ว!
    ธัมมชโยเอาภาพแอนิเมชันมาฉายให้ดู เป็นแท่งสวรรค์ของเขาเอง คือเขาจะสร้างอาคารหลังใหม่ สำหรับบรรจุรูปหล่อทองคำ
    เจ้าแท่งสวรรค์ของเขานี้ จะพุ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยประกายเจิดจ้า แล้วหายวับเป็นแกนจมดิ่งอยู่กลางศาลา ด้วยปาฏิหาริย์ยิ่งนัก
    สาธุชน คนคลั่งศรัทธาก็ ชิตัง เม สตังค์มา..ชิตัง เม สตังค์มา!
    รูปพิธีที่นำมาโพสต์กัน ก็จากงานปิดทองแท่งธัมมชโยดุ้นยาวนี่แหละ เปิดงานพร้อมเปิดขายค้อนครุฑ ชิตัง เม...โป้ง รวย...โป้ง รวย
    หลอกลวง ขายนรก ขายสวรรค์ และอวดอุตริมนุสธรรมด้วยปาฏิหาริย์กันโจ้งๆ ขนาดนี้
    คณะสงฆ์ไทย โดยมหาเถรสมาคมวันนี้-ยุคนี้ นอกจากไม่รู้-ไม่ชี้ คล้ายปัจจัยทับแล้ว
    ยังเห็นดี-เห็นงาม ว่านั่น...เป็นไปตามพระธรรมวินัย ทั้งที่ "พระบรมศาสดาเจ้า" ทรงห้ามนัก-ห้ามหนา...อย่า "อวดอุตริมนุสธรรม" เป็นอันขาด
    ใครทำ ต้องรับโทษ "ปาราชิก" พ้นความเป็นพระทันที!
    ในอาบัติปาราชิก ๔ ข้อ ........
    ดูพฤติกรรมแล้ว ธัมมชโยคนเดียว เหมาไปแล้ว ๒ ข้อ คือ ข้อถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ ราคาเกิน ๕ มาสก และข้ออวดอุตริมนุสธรรม
    แต่คณะสงฆ์ไทย...โดยเฉพาะ "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์" กลับบอก...มันนิ่ม ชื่นใจจัง!?
    สมเด็จช่วง คืออุปัชฌาย์ธัมมชโย แล้ววันนี้ ทั้งศิษย์-ทั้งอาจารย์ ฟ้าช่างสร้างสรรค์เสียจริงๆ!
    เคยได้ยินแต่เขาพูดกัน ธัมมชโยโอ้อวด ว่าคุณยายจันทร์ ขนนกยูง อาจารย์ของเขา เหาะขึ้นไป "ปัดระเบิด" ในอากาศ
    ก็เพิ่งได้ยินจากปากธัมมชโยในคลิปนี้เอง เล่าอวดปาฏิหาริย์หลวงพ่อสด และแม่ชีจันทร์
    บอกว่า ตอนสงครามญี่ปุ่น อเมริกาเอาระเบิดมาทิ้งใส่กรุงเทพฯ แถวๆ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็ด้วย
    แต่ระเบิดไม่ตกใส่ เพราะ "แม่ชีจันทร์" เหาะขึ้นไปปัดระเบิดไปตกที่อื่นหมด!
    อีกต่างๆ นานาสารพัด.....
    ผมฟังแล้วนึกศรัทธาลัทธิธรรมกายขึ้นมาติดหมัด อยากไปเข้าคอกกะเขาบ้าง เพราะลัทธินี้ อยากรวย แค่ซื้อค้อนอันละไม่กี่แสนไปตอก...ก็รวย
    อยากขึ้นสวรรค์ มีเงินก็มาเลือกช็อป อยากได้ชั้นไหน ซื้อไปอยู่ได้เลย
    อย่าว่าแต่สวรรค์ซื้อได้ กระทั่งอาบัติปาราชิก ธรรมกาย-ธัมมชโย ก็ยังซื้อได้จากคณะสงฆ์ไทย!
    ครับ...ก็ปรารภไปกับสายลม-แสงแดด....
    เรื่องอาบัติปาราชิก อันเป็นโทษทางพระวินัย นั้น พูดกันจริงๆ แล้ว องค์ประกอบในการปรับโทษ ต่างกับโทษทางบ้านเมืองอยู่บ้าง
    ทางพระวินัย เมื่อทำผิด และความผิดนั้นถึงพร้อมด้วยเจตนา ถึงคนอื่นจะรู้-จะเห็นหรือไม่ก็ตามแต่
    พระรูปนั้น ต้องอาบัติแล้วโดยอัตโนมัติ!
    ดังพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช "สมเด็จพระญาณสังวร" ฉบับที่ ๒ ที่ทรงลิขิตถึงโทษปาราชิกของธัมมชโยว่า.......
    "ไม่คิดให้มีโทษ เพราะคิดในแง่ยกประโยชน์ให้ ว่าในขั้นต้น อาจมิใช่มีเจตนาถือเอาสมบัติของวัดเป็นของตนจริงๆ
    แต่เมื่อถึงอย่างไร ก็ไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัด
    ก็แสดงชัดแจ้ง ว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ
    ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ที่ไม่ใช่พระปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสีย ให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา"
    เนี่ย..ทางวินัยสงฆ์ ถึงใครไม่รู้ว่าต้องอาบัติ ตัวเองก็ต้องรู้-ต้องอาบัติแล้ว
    ต่างกับทางบ้านเมือง คือทำผิด ถึงตัวเองรู้ แต่คนอื่นไม่รู้ ก็ยังไม่มีโทษ พูดง่ายๆ
    พระมีอาบัติทางใจ
    แต่ทางโลก ไม่มีโทษทางใจ!
    เมื่อทราบเช่นนี้ ในกรณีเบนซ์เถื่อนสมเด็จช่วงก็ดี กรณีธัมมชโยก็ดี คดีทางโลก เป็นเรื่องหนึ่ง
    แพ้-ชนะ ในทางคดีตามกฎหมายบ้านเมือง ไม่ได้อยู่ที่ทำหรือไม่ได้ทำ แต่อยู่ที่ต่อสู้ในศาลชนะหรือไม่ชนะ
    ถึงแพ้-ชนะ จะนำโทษนั้นมาปรับอาบัติกับพระ โดยเทียบเข้ากับทางพระวินัย ไม่ได้โดยตรง!
    ส่วนทางพระวินัยนั้น ก็อย่างที่บอก ถึงไม่มีใครรู้ และไม่ต้องมีใครกล่าวโทษ-ฟ้องร้อง ก็ต้องอาบัติแล้ว
    จะว่าไป ทางพระวินัย ให้เครดิต "ความเป็นคนสูง" คือคนย่อมมีใจฝึกแล้วประเสริฐ ย่อมมีหิริ โอตตัปปะ รู้ผิด-รู้ถูกได้ "ด้วยใจ" ตัวเอง
    นี่ได้ข่าวว่า "สมเด็จช่วง" ท่านเปลี่ยนทีมทนาย .....
    จาก "นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร" คณะทำงานฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ที่ดูแลเรื่องรถเบนซ์เถื่อนอยู่ก่อน ไปเป็น "ดร.สมศักดิ์ โตรักษา" แล้ว
    แสดงว่า คดีเบนซ์เถื่อน ขม ๙๙ สมเด็จฯ ท่าน.....
    "สู้" ชนิด จีวรกระจุย!
    ถ้าแยกแยะให้ดี จะเห็นว่า กรณีเบนซ์เถื่อน คดีอาญาทางโลก จะผิด-จะถูก อยู่ที่การต่อสู้คดีตามกระบวนการ
    แต่ทางพระวินัยสงฆ์ การเอาของหนีภาษีมาครอบครอง ไม่เกี่ยวกับศาล อยู่ที่ตัวเองนั่นแหละว่า การเลี่ยงภาษี ประมาณ ๑๓ ล้านบาทตอนนี้ นั้น
    มันเกิน ๕ มาสกไปมาก-ต่อมากมิใช่หรือ?
    ด้วยศีล-ด้วยธรรม ตอบกับตัวเองได้ว่า ต้องอาบัติปาราชิก "โดยอัตโนมัติ" ในทันทีที่จิตคิดเอาแล้วใช่หรือไม่
    หรือยังมั่นใจว่า ตัวเองเป็นพระบริสุทธิ์อยู่?
    ในหลักธรรม....
    กับสิ่งใดก็ตาม ถ้าใจอยากได้ แสดงว่า สิ่งนั้นไม่สมควรได้ และทั้งไม่สมควรรับ
    ถ้ารับ.....
    นั่น...ไม่ใช่พระภิกษุรับ
    หากแต่เป็น....
    "ตัณหา-ราคะ" ห่อหุ้มใจ เป็นผู้รับ!
    แต่...ท่านทราบมั้ยว่า "นายสมศักดิ์ โตรักษา" ที่มาเป็นทนายในคดีเบนซ์เถื่อนให้สมเด็จช่วงคนนี้ คือใคร?
    เก่งกาจทางอาชีพทนายระดับไหน จึงได้รับการคัดสรรให้มาทำคดีให้สมเด็จช่วง?
    ดร.สมศักดิ์ นั้น ต้องบอกว่า ติดอันดับ "ทนายมือหนึ่ง-ชั้นหนึ่ง" ของประเทศไทยเลยทีเดียว
    เป็นทนายทำคดีร่วมฉ้อโกงให้นายวรวีร์ มะกูดี ที่เรียกกันว่า "บังยี"
    เป็นทนายให้ "นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ปลัดคมนาคม คดีรวยผิดปกติ
    เป็นทนายให้ "นายปลอดประสพ สุรัสวดี" คดีส่งเสือโคร่งไปจีน
    และที่ลืมกันไม่ได้เด็ดขาด.........
    นายสมศักดิ์ เป็นทนายพรรคไทยรักไทย ในคดีถูกฟ้องให้ยุบพรรค ตอนปลายปี ๒๕๔๙ กรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง
    ที่ฮือฮากันมากตอนนั้น นายสมศักดิ์ ยื่นบัญชีพยานบุคคล ต่อคณะตุลาการฯ
    ระบุ จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรค ที่ถูกบิ๊กบังยึดอำนาจ หนีไปอยู่ต่างประเทศ เป็นหนึ่งในบัญชีที่ต้องการให้สืบปากแรก
    และทราบได้ก็ดี..........
    ในยุคที่ "นายวิชาญ มีนชัยนันท์" ส.ส.ไทยรักไทย เป็นประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฏร ปี ๒๕๔๙
    นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายสมเด็จช่วงผู้นี้ เป็น "คณะทำงาน" ในคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคของนายวิชาญนั้น!
    ทีนี้ก็....หายสงสัยกันกระมัง?
    ffff.jpg
    http://chaoprayanews...B8%94%E0%B8%AA/

    https://www.facebook...91809220983470/

     

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากวัดพุทธาราม นครเบอร์ลิน

แชร์ได้แชร์ หูตาจะได้สว่าง จะได้รู้ว่าทำไมพระส่วนหนึ่งถึงชุมนุมกัน

‪#‎รู้หรือยังใครอยู่เบื้องหลังม๊อบพระ‬

cr Adool Pree

 

10329251_978774508882696_4436099660202449640_n.jpg?oh=05457d1d73cdf6cea393d55941100313&oe=575DF9B412800314_978774538882693_166557947633410638_n.jpg?oh=c715e3293c64c8803acc726e56486a29&oe=575D5A9612795506_978774558882691_4686403238009447026_n.jpg?oh=611eefdc2a79d2be47dccc080a2398af&oe=575D6AA912745778_978774595549354_1288785186547984743_n.jpg?oh=e764d09c618fab3dfe663ed33c7474e2&oe=576415FF1937300_978774615549352_5572747706550300334_n.jpg?oh=104f27fb459bfa4f6116a110eeb62779&oe=576D1DF8&__gda__=1465216313_2fddfc8ae4f6392077e3fb8a8f5773f812745822_978774652216015_7942799063328456328_n.jpg?oh=2afecf9c2b5f3810d9afe5c12b02ede2&oe=57585B21

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"เอาหมาขี้เรื้อนมาตั้งเป็นสังฆราช ใครจะไปกราบหมาขี้เรื้อนมันก็รู้อยู่นี่ คนไม่มีคุณธรรมมันก็เท่ากับหมาขี้เรื้อน เหม็นคลุ้งไปทุกแห่งทุกหน ตั้งขึ้นมาแล้วใครจะกราบไหว้ได้ลงคอ" - หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

ความจริงธรรมกาย

Yesterday at 12:00pm

 

 

 

12729154_10205448236237733_5600189120537754098_n.jpg?oh=8bb56bb39b2664b15cf2420e10d6eb35&oe=5723E6EF

 

12795537_1692656714355831_2633834110147819112_n.jpg?oh=76ea2995fed6961873a24b4d3d768640&oe=57531530

12744372_1552500601744799_8401627007412229104_n.jpg?oh=9893d8581e9b83951e6c43044f92d183&oe=57544A47&__gda__=1466013556_0f40c0a922205ba91fcdfadab9387195

 

10365732_1692284161059753_1022192399937707795_n.jpg?oh=208fff4056dbc9cfe1907e34dfa27821&oe=576580FD&__gda__=1466168650_f706bdce4e9cedb3759da367eadeaed9

12744054_1692284157726420_8500263474866141208_n.jpg?oh=bb8d9fc7a28b52ac91601820d031ad9e&oe=574C8ADD&__gda__=1465564281_d469053e03ac9435652e18aed2c5a63a

สนามข่าว : ไม่ปิดบังแล้ว...สำนักพุทธฯ ทำหนังสือถึงรมต. เสนอรัฐควรร่วมมือ"ธรรมกาย" | sanamkhao.com

สำนักพุทธเอียงกระเทเร่ สรุปข้อมูลส่งรัฐมนตรี “เนื้อหา- สำนวน”…

 

 

 

 

SANAMKHAO.COM|BY สนามข่าวดอทคอม

 

 

 

ตร.เบิกความคดีชายชุดดำ เห็นสวมหมวกไอ้โม่งถือ “อาก้า-เอ็ม 16” คืน 10 เม.ย.53 อ่านต่อhttp://worldenewsnow.tumblr.com/post/139936298202เกาะติดข่าว ข่าววันนี้ ...

YOUTU.BE

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12043047_155964071456015_6248939257729811428_n.jpg?oh=1089de100c84946fcf76c552e7b2448f&oe=5756F0D2&__gda__=1466105983_1d5994adf4716eecee75efd14fa2f9df

cr Rockkie Rockla

 

 

 

นายกฯส่งออกข้าวแฉ‘จีทูจี’พิสดารขายหน้าโกดังในไทย ตบตาทำสัญญาจีนแค่ล้านตัน แกนนำชาวนาตอกฝาโลงซ้ำชี้โรงสีสวมสิทธิ์แบบสมยอม ไต่สวนมัดรัฐบาลปูกลางศาล

-----------------------------------------

 

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานโจทก์ครั้งที่ 3 คดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

 

นายกฯส่งออกซัดจีทูจีพิสดาร

 

โดยอัยการ โจทก์ นำพยานให้ศาลไต่สวน ปากแรกคือ นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ซึ่งให้การถึงโครงการจำนำข้าวที่วางกรอบซื้อ-ขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีว่า ไม่ใช่การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐอย่างแท้จริง เพราะส่งข้าวที่ขายให้ผู้แทนไทยที่หน้าโกดังในประเทศไทย ไม่ใช่ส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เป็นยุทธศาสตร์ผิดปกติไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การค้าข้าว ทำให้เกิดช่องโหว่นำข้าวที่อ้างว่าเป็นการส่งออกมาหมุนเวียนขายในประเทศได้

 

เชื่อขายให้จีนแค่1ล้านตัน

 

ส่วนการขายข้าวจีทูจีช่วงปลายรัฐบาลจำเลยนั้น พยานระบุว่าดำเนินการจริงเพียง 1 ล้านตันที่บริษัทคอฟโก้ฯ รัฐวิสาหกิจจีน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เดินทางมาพร้อมรัฐบาลจีนแล้วทำสัญญารับซื้อข้าวที่เป็นข้าวใหม่ ส่วนสัญญาฉบับอื่นในช่วงแรกที่ซื้อข้าว 2 ล้านตันนั้น เป็นข้าวเก่าทั้งหมด ทั้งที่ปกติรัฐบาลจีนจะซื้อข้าวใหม่เท่านั้น ขณะที่จีนมีโควตารับซื้อข้าวต่างประเทศเพียง 5.3 ล้านตัน แต่มีระบุว่าทำสัญญาซื้อขายจีทูจี 14 ล้านตัน พยานไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะข้าวนั้นเป็นข้าวเก่าเก็บในโกดัง อีกทั้ง บริษัทเอกชนที่เป็นตัวแทนของจีนที่ได้สิทธิ์ซื้อข้าว ต้องเป็นบริษัทคอฟโก้บริษัทเดียวตามที่จีนแจ้งไว้ WTO ส่วนบริษัท ไห่หนาน เกรน แอนด์ ออยล์ อินดัสเทรียล เทรดดิ้ง ซึ่งรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวด้วยนั้น จะมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ไม่มีสิทธิ์เป็นตัวแทนจีนทำการค้าแทนได้ โดยหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ยึดอำนาจได้นำโควต้าข้าวมาให้สมาคมจัดสรรกับบริษัทผู้ส่งออก ซึ่งถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด

 

ชี้ผูกขาดรับจำนำสูงกว่าตลาด

 

นายวิชัยยังเบิกความอีกว่า ปกติไทยจะผลิตข้าวได้ปีละ 20 ล้านตัน แบ่งเป็นบริโภคในประเทศ 10 ล้านตัน ส่วนที่เหลือส่งออก แต่เมื่อมีการแทรกแซงตลาดด้วยราคารับจำนำ 15,000 บาทที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป โดยข้าวไปอยู่ในมือรัฐบาลถึง 13 ล้านตัน ขณะที่ไม่มีข้าวเหลือพอให้เอกชนส่งออก ก็เป็นเหมือนการผูกขาด แต่ที่เอกชนยังส่งออกได้ถึง7 ล้านตัน เพราะมีข้าวหมุนเวียน ขณะที่รัฐบาลไม่ได้ระบายข้าวจีทูจีที่แท้จริง จึงทำให้มีข้าวรั่วไหลมาถึงเอกชน อีกทั้ง การที่รัฐบาลรับซื้อแพงแต่ขายได้ถูก เพราะคุณภาพข้าวลดลงเมื่อถูกเก็บในโกดังหลายปี โดยราคาข้าวในตลาดระหว่างข้าวหอมมะลิ กับข้าวขาวค้างเก่าจะมีราคาต่างกันถึงครึ่งหนึ่ง

 

ส่งหนังสือท้วง8ครั้งรบ.ปูไม่ฟัง

 

“ขณะที่สมาคมฯ เคยทำหนังสือท้วงติงถึงรัฐบาล 8 ครั้ง และขอเข้าพบนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรมว.พาณิชย์ เพื่อให้ข้อเสนอแนะว่า ให้จำกัดจำนวนข้าวที่รับจำนำ เพราะในช่วงแรกของโครงการรัฐบาลประกาศรับจำนำข้าวทุกเม็ด กระทั่งงบประมาณเริ่มจะไม่พอ รัฐบาลจึงจำกัดจำนวนรับซื้อเหลือรายละ 350,000 บาท และขอให้ประกาศขายข้าวตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ที่จะกำหนดคุณภาพและลักษณะเม็ดข้าวแต่ละประเภทไว้ชัดเจน ไม่ใช่ขายข้าวตามสภาพที่อยู่ในโกดังที่มีข้าวเก็บไว้จำนวนมากเป็นหมื่นตัน อาจนำข้าวด้อยคุณภาพปะปน เมื่อไม่มีผู้แทนคลังสินค้ารับผิดชอบตรวจสอบคุณภาพข้าว เมื่อซื้อแล้วต้องยอมรับข้าวทั้งหมดไม่อาจฟ้องกลับรัฐบาลได้หากพบข้าวไม่ได้มาตรฐานหรือผิดประเภท ดังนั้น ถ้าจะขายข้าวตามสภาพ เอกชนก็ต้องเสี่ยง เว้นแต่เอกชนจะรู้จักกับโกดังนั้น แล้วทราบสภาพข้าวที่แท้จริง แต่สมาคมฯ ไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลเรื่องดังกล่าว”นายวิชัยระบุ

 

ซัดนโยบายปูไม่ช่วยชาวนาถล่มส่งออก

 

ขณะที่ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์พยายามซักถามถึงการกำหนดราคารับจำนำข้าวสูงจะช่วยเกษตรกรได้ นายวิชัยตอบว่า การกำหนดราคาข้าวไม่ควรสูงเกินไปจนขายข้าวไม่ได้ ซึ่งผลกระทบไม่ได้อยู่เพียงข้าวเหลือเก็บโกดังที่จะเน่า แต่ข้าวที่รับจำนำไปอยู่ในมือของรัฐบาลทั้งหมดทำให้เอกชนไม่เหลือข้าวส่งออก ซึ่งผู้ค้า-ผู้ส่งออกมีหน้าที่ระบายข้าวแต่ละปีไม่ให้เหลือโดยเอกชนจะปรับราคาตามกลไกตลาด ไม่ใช่การตั้งราคาสูงราคาเดียวติดต่อยาวนาน 3 ปีเหมือนรัฐบาลทำ เพราะถ้าราคาสูงตลาดโลกรับซื้อไม่ได้จะทำให้ข้าวเหลือค้างปี พร้อมชี้ว่ารัฐบาลจำเลยรับจำนำราคาสูง 15,000 บาทต่อตัน แล้วนำมาขายได้เพีย 6,000 บาทต่อตัน เพราะเป็นข้าวเก่าเก็บ แสดงว่าการแทรกแซงราคาข้าวของรัฐบาล ไม่สัมพันธ์กับราคาตลาด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการไต่สวน ทนายความจำเลยพยายามซักถามพยานว่า ข้อมูลสถิติตัวเลข เป็นเรื่องความเห็นของพยานเองใช่หรือไม่ นายวิชัยกล่าวว่า ข้อมูลตัวเลขการค้าข้าวที่ส่งให้ศาลเป็นหลักฐานนั้น เป็นสถิติที่รวบรวมข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์

 

“ระวี”ยันมีสวมสิทธิ์แบบสมยอม

 

จากนั้น เป็นการไต่สวนพยานปากที่ 2 คือ นายระวี รุ่งเรือง เครือข่ายแกนนำชาวนาซึ่งได้เบิกความถึงภาพรวมโครงการจำนำข้าวว่า เป็นโครงการที่ดี แต่ระบบจัดการ ตรจสอบโครงการไม่สามารถปฎิบัติได้จริง เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญการตรวจเมล็ดพันธุ์ข้าว ความชื้นคุณภาพข้าว พร้อมยืนยันว่าการสวมสิทธิ์ข้าวของชาวนาโดยโรงสีมีจริงลักษณะเป็นสมยอมกันระหว่างชาวนากับโรงสีที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่น หลักเกณฑ์ผลผลิตกำหนดให้ได้800 กก.ต่อไร่ แต่ความจริงถ้าชาวนาได้ผลผลิตไม่ถึง 800 กก.ต่อไร่ ส่วนต่างที่ขาดไปโรงสีจะมาขอใช้สิทธิ์ชาวนา โดยให้ค่าตอบแทน 1,000 – 3,000 บาทต่อใบประทวน เมื่อหน่วยงานรัฐมาตรวจสอบ โรงสีจะนำข้าวอื่นที่ไม่ได้คุณภาพมาใส่ให้ครบจำนวนตรวจสอบตามใบประทวน จึงหาหลักฐานยากคล้ายการซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้ง ที่ไม่มีหลักฐานเป็นเอกสาร แต่รับรู้ทั่วกัน โดยจับกุมดำเนินคดีทั่วประเทศ 270 คดี ซึ่งไม่ใช่โรงสีรายใหญ่ เทียบกับสัดส่วนชาวนาที่ร่วมโครงการถือว่าน้อยมาก

 

อ่านต่อที่นี่ : http://www.naewna.com/politic/204358

 

12795445_761565387321462_2283937917160418602_n.jpg?oh=d8af7c16608c9ed0b88b8e3d9739a374&oe=572361CA

 

 

ขอบคูณเจ้าของภาพและเรื่องทุกท่าน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วัฏฏะสงสารก็คือชีวิต

 

คำว่า "วัฏฏะสงสาร" นี้เข้าใจว่าท่านทั้งหลายเคยได้ยินแล้ว แต่อาจจะเข้าใจความหมายไม่ถูกต้อง

 

วัฏฏะสงสารที่เขาว่า เวียนว่ายตายเกิด ตายเข้าโลงแล้วเกิดใหม่ เกิดใหม่ตายอีกๆ อย่างนี้เรียกว่า วัฏฏะสงสาร ก็ถูกเหมือนกัน นั่นวัฏฏะสงสารโดยเอาร่างกายเป็นหลัก

 

นี่วัฏฏะสงสารที่เกี่ยวกับใจ เป็นเรื่องของจิตใจโดยแท้...

 

กิเลสเป็นเหตุแห่งกรรม : ความรู้สึกของเรา ทำให้เราทำอะไรไปอย่างหนึ่ง สิ่งที่เราทำลงไปเรียกว่า กรรม ทีนี้กรรมมันต้องมีผลการกระทำตามสมควรแก่กรรม แล้วก็ได้รับผลกรรม

 

กิเลสมันก็เกิดขึ้นมาใหม่อีก จากการที่ได้รับผลกรรม มันไม่หยุดอยู่ ว่ารับผลกรรมแล้วเลิกกัน รับผลกรรมเป็นที่พอใจมันก็เกิดอยากทำต่อไป เพื่อได้มากขึ้น อะไรทำนองนี้ ถ้าไม่พอใจมันก็คิดไปในทางร้าย ทางทำลาย ไปทางฆ่าฟันตามเรื่อง สรุปความว่า รับผลกรรมแล้ว กิเลสไม่ได้หยุด กิเลสเกิดต่อไปในรอบที่สอง...

 

ไปดูในสิ่งที่เรียกว่า วัฏฏะสงสาร คือ วนอยู่ในของสองสิ่งสามสิ่ง นี่เรียกว่า วัฏฏะสงสาร ที่มันมีอยู่ในชีวิตของเราจริงๆ ถ้าเรามีปัญญามองเห็นชีวิตของเราโดยแท้จริงโดยประจักษ์แล้วเราจะมองเห็นวัฏฏะสงสารอยู่ในชีวิตนั้น

 

ชั่วชีวิตของเรานั้นจะมีความอยาก

แล้วมีการกระทำตามความอยาก

แล้วมันได้ผลตามสมควรของการกระทำแล้วมันก็อยากอีก

แล้วอยากอันใหม่ต่อไปอีก

มันเนื่องมาจากที่ได้รับผลนั่นแหละ

มันก็อยากอีก ก็ทำอีก ได้รับผลอีก

อยากอีก ทำอีก ได้รับผลอีก

 

นี่ถ้าคุณยิ่งต้องศึกษาชีวิตจนมองเห็นอันนี้ว่า

ชีวิตนี้เต็มไปด้วยวัฏฏะสงสาร

ไม่ต้องเข้าโลง ไม่ต้องรอจนตายแล้วเกิดใหม่

นั่นเป็นวัฏฏะสงสารในอีกแบบหนึ่ง...

 

ที่มันเป็นปัญหาที่มันทรมานเรานักหนา

เท่ากับวัฏฏะสงสารในชีวิตหนึ่งๆ นี่

รอบหนึ่งของการกระทำ ของความอยาก

ของการกระทำแล้วได้รับผล แล้วอยาก

แล้วกระทำ ได้รับผลรอบหนึ่งๆ

นี่ เรียกว่า วัฏฏะสงสาร

 

ก็ไปนึกดูเราเคยอยากอะไรบ้าง

เมื่อวานนี้ก็ได้ วันนี้ก็ได้ เราทำอะไรลงไปตามนั้น

แล้วมันได้ผลขึ้นมาแล้วเราหยุดอยากได้เมื่อไร

เราก็อยากต่อไปอีก ถ้าได้อย่างที่เราต้องการ

ก็อยากมากไปอีกหรืออยากจะลองอย่างอื่นอีก

คือถ้าไม่ได้ตามต้องการ

มันก็อยากจะลองอย่างอื่นอีก มันก็ไม่หยุด

นั่นชีวิตก็คือวัฏฏะสงสารนั่นเอง

วัฏฏะสงสารก็คือชีวิตนั่นเอง

 

พุทธทาสภิกขุ

 

ที่มา อบรมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี พ.ศ. 2523

ครั้ง ๑ ชีวิตเป็นสิ่งที่ต้องรู้จัก

 

12729156_564503550392788_5127621327727001436_n.jpg?oh=1c0d4e1002271d02bfd12136f920485c&oe=57716A62&__gda__=1467008368_fcb6132193ec0d0b64d7d2a3bee46021

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

รัฐบาลสหรัฐมีฐานะการเงินที่ล้มละลายไปแล้ว

ถ้ารัฐบาลสหรัฐเป็นบริษัท คงต้องถูกประกาศให้ล้มละลายไปนานแล้ว เพราะว่ามีหนี้มากกว่าทรัพย์สินจนกู่ไม่กลับ

จากตัวเลขของฐานะการเงินของรัฐบาลสหรัฐที่รายงานโดยGovernment Accountability Office รัฐบาลสหรัฐมีทรัพย์สินทั้งหมด$3.2ล้านล้าน ทรัพย์สินเหล่านี้คือเงินในบัญชี เครื่องบินรบ รถถัง เรือรบ ถนน อุทยาน ฯลฯ แต่มีหนี้ทั้งหมด$21.5ล้านล้าน ทำให้มีฐานะการเงิน (net worth) ที่ติดลบ$18.2ล้านล้าน

 

ฐานะการเงินที่ติดลบ$18.2ล้านล้านอย่างนี้ แล้วดอลล่าร์ยืนอยู่ได้อย่างไร ทั้งๆที่ควรจะเป็นเงินกงเต๊กไปนานแล้ว ถ้าเป็นบริษัทต้องเข้าขบวนการล้มละลายไปแล้ว

ล่าสุดดอลล่าร์ทำท่าจะแข็งเอาๆเมื่อเทียบเงินสกุลต่างๆทั่วโลก ส่วนเงินบาทพยายามจะลดค่าเทียบดอลล่าร์ ทั้งๆที่ฐานะการเงินรัฐบาลไทยดีกว่าฐานะการเงินของรัฐบาลสหรัฐอย่างเทียบกันไม่ได้

ที่ตลกคือในจำนวนทรัพย์สิน$3.2ล้านล้านของรัฐบาลสหรัฐ ประมาณ37%หรือ$1.2ล้านล้านเป็นเงินกู้ที่ให้นักเรียนกู้เรียนหนังสือ คงทราบกันดีว่า เงินกู้นักศึกษาเป็นฟองสบู่ นักศึกษาเรียนจบแล้วไม่ค่อยจะจ่ายคืน เพราะว่าจ่ายไม่ไหว หรือไม่มีงานที่เงินเดือนสูงๆมาจ่ายหนี้

ใครไม่เชื่อไปถามหมอฟันไทยหนีทุนที่ฮาร์วาร์ดได้

ถ้ารัฐบาลสหรัฐตามเก็บเงินกู้นักศึกษาไม่ได้ ขณะนี้มีหนี้เสียประมาณ11.5% หรือแสนกว่าล้านเหรียญ ฐานะการเงินของรัฐบาลสหรัฐยิ่งติดลบหนักมากขึ้นไปอีก

นายJack Lew รมวการคลังสหรัฐเซ็นรับรองการตรวจสอบบัญชีฐานะของรัฐบาลกลางสหรัฐแล้ว แสดงว่าเขารู้ดีว่าฐานะการเงินของรัฐบาลสหรัฐไปไม่รอด

แต่นายJack LewยังไปประชุมG-20ที่เซี่ยงไฮ้ด้วยใบหน้าที่เบิกบาน เขาบอกว่าG-20ยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อรับมือวิกฤติเศรษฐกิจ เพราะว่าวิกฤติเศรษฐกิจยังไม่มี

ปรากฎว่ารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางที่เป็นตัวแทนของG-20ประชุมกันเรื่อง1. ปัญหาเศรษฐกิจจีน 2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลัง 3. นโยบายดอกเบี้ยติดลบ 5.ผลกระทบต่อยุโรปถ้าอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

คุยกันเรื่องไร้สาระทั้งนั้น ทั้งๆที่ปัญหาใหญ่ที่สุดของโลกคือ ฐานะการเงินของรัฐบาลสหรัฐล้มไปแล้ว เพราะว่ามีหนี้มากกว่าทรัพย์สิน$18.2ล้านล้าน

คำถามคือ แล้วดอลล่าร์ที่ทุกประเทศถืออยู่มีค่าอยู่ตรงไหน? ดอลล่าร์ยืนอยู่ได้อย่างไร? พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ$12ล้านล้านนักลงทุนถือเข้าไปได้อย่างไร? ดอลล่าร์กระดาษจะมีค่ามากกว่าทองได้อย่างไร?

https://www.sovereignman.com/…/breaking-us-government-rel…/…

คงจะเห็นภาพว่าทำไม จีนและรัสเซียถึงได้ถีบส่งด้วยการทิ้งดอลล่าร์แลกทองและทรัพย์สินอื่นๆ และทำไมสหรัฐถึงเร่งเครื่องสงครามไปทั่ว

thanong

27/2/2016

 

 

 

 

12495255_436445996551780_4635018920949347338_n.png?oh=56cdd5f1314fc8f66f2bb80f5e298fe3&oe=5759FE28&__gda__=1465914205_bfc835313f2d22792ef5786a4ae4b32f

 

 

แรงกดดันของตลาดจะบีบให้ดอกเบี้ยขึ้น

นายMartin Armstrongแห่งarmstrongeconomics.com เขียนรายงานว่าตลาดการเงินจะสร้างแรงกดดันตามธรรมชาติให้ดอกเบี้ยขึ้น แม้ว่าธนาคารกลางของประเทศต่างๆพยายามกดดอกเบี้ยลงให้ติดลบ

ถ้าตลาดการเงินสามารถส่งพลังบีบให้ดอกเบี้ยขึ้นได้ หมายความว่าธนาคารกลางจะพ่ายแพ้ต่อพลังของตลาด เมื่อธนาคารกลางพ่ายแพ้ต่อกลไกตลาดที่แท้จริง ระบบการเงินจะล่มจมอย่างสมบูรณ์

 

นายอาร์มสตรองบอกว่า แรงดอกเบี้ยขาขึ้นจะเริ่มมีพลังส่งในปี2017 และจะขึ้นต่อเนื่องถึงปี2020

สาเหตุที่ดอกเบี้ยต้องขึ้นเป็นเพราะว่าคนเริ่มเห็นว่าพันธบัตรรัฐบาลเป็นความเสี่ยง จึงโยกเงินที่ลงในทรัพย์สินของรัฐบาลไปยังทรัพย์สินของเอกชนแทน ตลาดการเงินจะไม่ซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือหนี้ของรัฐบาลที่ไม่มีวันชดใช้คืนได้อีกต่อไป เพราะเล็งเห็นว่าหนี้รัฐบาลกำลังจะระเบิดออกมา

ธนาคารกลาง (ญี่ปุ่น อีซีบี สวีเดน เดนมาร์ก สวิส)กดดอกเบี้ยลงติดลบ เพื่อเร่งให้แบงค์ปล่อยกู้ แต่เอาเข้าจริงแล้วส่วนหนึ่งเพื่อประคองหนี้รัฐบาล ด้วยเหตุนี้นักลงทุนจึงจะโยกเงินจากพันธบัตรรัฐบาลเข้าตลาดหุ้น เพราะว่าการถือพนัธบัตรที่ดอกเบี้ยติดลบ หมายความว่าเมื่อถือจนครบอายุพันธบัตรจะขาดทุน แต่ที่ผ่านมาจำใจต้องถือเพราะเกรงว่าเอาเงินไปปาร์คกับแบงค์มากๆ ถ้าแบงค์ล้มอาจจะไม่ได้เงินคืน และการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆมีความเสี่ยงเพราะว่าตลาดการเงินช่วงนี้ผันผวนมากจับต้นชนปลายไม่ถูก

ถ้าลงทุนในหุ้นไม่กำไร หรือไม่ขาดทุน อย่างน้อยดีกว่าถือพันธบัตรรัฐบาลที่ดอกเบี้ยติดลบ ตอนนี้ตลาดพันธบัตรรัฐบาลที่ดอกเบี้ยติดลบมีปริมาณกว่า$8ล้านล้านไปแล้ว พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ10ปีติดลบไปแล้ว นักลงทุนที่ถือพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเท่ากับว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยให้รัฐบาลญี่ปุ่นแทนที่จะได้ดอกเบี้ย

โลกมันกลับตาลปัตรไปแล้ว

มีความเสี่ยงว่าถ้ารัฐบาลถังแตก อาจจะเปลี่ยนพันธบัตรอายุ90วันเป็นพันธบัตรอายุ10ปีก็ได้ เพื่อยืดอายุการชำระหนี้

สภาพตลาดการเงินของดอกเบี้ยแบบนี้ แบงค์จะอยู่ไม่ได้ เพราะว่ามาร์จิ้นไม่มี คนจะไม่มั่นใจในแบงค์เพราะว่าพอร์ตของแบงค์ลงทุนในตลาดการเงินที่มีแต่กระดาษ เมื่อคนแห่งถอนเงินจากแบงค์ แบงค์ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้คนฝากเงินต่อ จะเป็นอะไรที่สวนทางกันกับนโยบายดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลาง

ธนาคารกลางอาจจะให้ดอกเบี้ยติดลบนานเท่าที่ธนาคารกลางช่วยเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเอง แต่จะทำอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ ถึงจุดหนึ่งจะไม่มีนักลงทุนคนเข้ามาซื้อ (bid) พันธบัตรรัฐบาลที่เอาออกมาประมูลเพื่อก่อหนี้ เมื่อไม่มีิbidจากนักลงทุน กลไกตลาดจะพัง ดอกเบี้ยจะขึ้นโดยธรรมชาติ ระบบการเงินจะล่มสลาย เพราะว่าไม่สามารถรับแรงกดดันของดอกเบี้ยขาขึ้นได้

นักลงทุนจะโยกเงินเข้าทอง หรือทรัพย์สินที่จับต้องได้แต่ต้องสามารถออกตัวได้เร็ว

เกมโอเวอร์

https://www.armstrongeconomics.com/…/who-will-raise-rates-…/

thanong

27/2/2016

 

See Translation

 

 

 

 

12801339_436353886560991_5144720030703408137_n.jpg?oh=b7b6c426e72cf373c66b5e7bfdc58fa5&oe=575774DF&__gda__=1465208408_cc783207b8a6f5622711a6f56524edc5

 

 

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

 

10 hrs · Bangkok, Thailand ·

 

 

ปูตินซื้อทองลูกเดียว

รัสเซียได้รายได้จากการขายน้ำมัน แม้ว่าจะได้ดอลล่าร์ลดลงเพราะว่าราคาน้ำมันตก แต่ก็เอาดอลล่าร์นั้นไปซื้อทองเป็นการใหญ่

สื่อเยอรมันDie Welt รายงานว่า รัสเซียไม่ได้ซื้อทองตามปกติ แต่กว้านซื้อทองอย่างเป็นกอบเป็นกำ ถือว่ารัสเซียกำลังโจมตีดอลล่าร์อย่างเงียบๆ

 

ทำให้รัสเซียมีทองคำสำรองเพิ่มเป็นเกือบ1,400ตันแล้ว

อย่างไรก็ตามตัวเลขที่เป็นทางการนี้เชื่อถือไม่ได้ เพราะว่าเอาเข้าจริงแล้วรัสเซียน่าจะมีทองคำสำรองสูงกว่านี้มาก

จีนอีกประเทศที่กว้านซื้อทองคำไม่หยุด ด้วยการทิ้งดอลล่าร์และเปลี่ยนมาเป็นทองคำแทน

นอกจากจะเผชิญหน้ากันทางสงครามเย็น รัสเซีย+จีนก็กำลังก่อสงครามการเงินกับสหรัฐ ด้วยการทิ้งดอลล่าร์เพื่อเก็บทองคำแทน

ระบบการเงินโลกที่มีดอลล่าร์เป็นศูนย์กลางกำลังเข้าสู่จุดอับ เนื่องมาจากนโยบายดอกเบี้ยติดลบของบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรติดลบไปด้วย และฐานะของแบงค์จะง่อนแง่นมีโอกาสเกิดวิกฤติการเงินที่รุนแรงมากอีกรอบ ทำให้สหรัฐออกฤทธิ์ดิ้นสุดขีดเวลานี้

http://sputniknews.com/…/1035375018/russia-gold-reserves-in…

thanong

27/2/2016

 

See Translation

 

 

 

 

12802797_436351459894567_4920358479185457651_n.jpg?oh=983bfccda759c78998c5b44097c391a8&oe=575F94A8&__gda__=1461943476_6568d8db265d7300352f05604d39b319

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

 

 

3 hrs ·

 

ดูมันโกหก แม้กระทั่งรายงานมันยังโกหกเลยพี่น้อง

๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึง พศ. ให้รวบรวมข้อมูลฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน เพื่อให้รัฐบาลใช้ประกอบในการพิจารณา

ซึ่ง พศ. ได้รวบรวมและตอบคำถามต่างๆ โดยเตรียมส่งหนังสือดังกล่าวกลับไปให้นายสุวพันธุ์แล้ว

พุทธะอิสระไม่คิดนะว่า พศ. จะกล้าโกหกรัฐมนตรีได้ เพราะหากหนังสือคำสั่งของท่านรัฐมนตรีสุวพันธุ์สั่งรวบรวมข้อมูลของทั้งสองฝ่าย

นั่นก็หมายถึงว่า พศ. ต้องมีการพูดคุยสอบถามถึงปัญหาและความต้องการของทั้งสองฝ่าย แล้วจึงนำไปสรุปให้รัฐมนตรีทราบ

แต่ฝ่ายพุทธะอิสระไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของ พศ.

แล้วอยู่ดีๆ จะมีข้อสรุปออกมาเป็นสิบข้อ แถมยังอ้างข้อมูลใส่ร้ายฝ่ายผู้คัดค้าน โดยไม่สนใจว่าพวกเราคัดค้านด้วยเหตุผลใด

แถมยังทำบทสรุปว่าผู้คัดค้านมีความผิด พฤติกรรมทำลายล้างคณะสงฆ์และมหาเถร

ตัวอย่างเช่น

1.2 ฝ่ายคัดค้านสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์

1.2.1 พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม

1.2.2 นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

1.3 เครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นกลุ่มลูกศิษย์ของพระพุทธะอิสระ

2.ความเห็นและท่าทีของสังคมต่อกิจกรรมของคณะสงฆ์ และวัดพระธรรมกาย

2.1 คณะสงฆ์ ชาวพุทธที่อ้างตนว่าเป็นชาวพุทธเชิงวิชาการ และลูกศิษย์สันติอโศก และลูกศิษย์ของพระพุทธะอิสระ ออกมาโจมตีกิจกรรมของคณะสงฆ์ทั่วประเทศ

2.2 วัดพระธรรมกาย เป็นวัดขนาดใหญ่พิเศษ มีพระสงฆ์สามเณรหลายพันรูป และมีเครือข่ายศูนย์สาขาอยู่ทั่วโลก มีกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมงานหลักแสน มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบระเบียบ มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่กระแสข่าวผ่านสื่อมวลชน ส่วนหนึ่งทำให้เกิดความลังเลสงสัยไม่กล้าเข้า และปฏิเสธการทำบุญกับวัดนี้ แต่ในทางกลับกันเกิดเป็นกระแสความท้าทายให้เข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ทำให้คนใหม่ๆ ไปวัดพระธรรมกายมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

3.1.1 คดีทางแพ่ง ข้อหาหลีกเลี่ยงการเสียภาษี หากยกรถให้ทางราชการ หรือชำระค่าเสียภาษีที่ยังขาดอยู่ คดีทางแพ่งก็จะระงับลง

3.1.2 คดีทางอาญา ข้อหาสำแดงเอกสารเท็จต่อทางราชการ ความผิดจะตกอยู่กับผู้นำเข้ารถ และผู้สำแดงเอกสารต่อทางราชการ ส่วนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเป็นผู้ซื้อในมือสุดท้าย ตามกฎหมายจะไม่มีความผิด

3.2 คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย

3.2.1 ทางวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย ให้การว่าได้รับบริจาคเงินมาโดยสุจริต และเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน เงินทั้งหมดนำไปใช้ก่อสร้างศาสนสถานตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคหมดแล้ว โดยมีเส้นทางการเงินที่ชัดเจน และได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้กับทางดีเอสไอแล้ว

3.2.3 การตั้งข้อหารับของโจรอาจทำให้เกิด 2 มาตรฐาน ทางดีเอสไอกำลังพิจารณาว่าจะตั้งข้อหารับของโจรกับทางวัด แต่มีกระแสท้วงติงจากโซเชียลว่า จะทำให้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ ทำให้วัดและพระสงฆ์ถูกกลั่นแกล้งได้ง่าย รวมถึงมีการโพสต์ข้อความและภาพถ่ายที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล บริจาคเงินให้พระพุทธะอิสระตั้งโรงเจ จำนวน 10 ล้านบาท

ต่อมานายสนธิถูกดำเนินคดีฉ้อโกงกับธนาคารกรุงไทย จนศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก พระพุทธะอิสระต้องคดีรับของโจรด้วยหรือไม่

5.1.1 พระพุทธะอิสระ และนายไพบูลย์ ซึ่งเคยเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวมวลชน ออกมาโจมตีคณะสงฆ์อย่างต่อเนื่อง โดยระบุเป้าหมายชัดเจนว่ายกเลิก มส. และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เปลี่ยนรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์ไทย ทำให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศรู้สึกว่าถูกรังแก ไม่เป็นธรรม

5.1.2 คณะสงฆ์พิจารณาว่าภาครัฐเข้าข้างคนไม่กี่คน มารังแกคณะสงฆ์ทั่วประเทศ

5.1.3 คณะสงฆ์อ่อนประชาสัมพันธ์ ขาดการทำความเข้าใจกับสังคมเท่าที่ควร ทำให้มีการนำเรื่องพระภิกษุบางรูปที่มีอาจารไม่เหมาะสมมานำเสนออยู่ในสื่อเป็นระยะ ทำให้ประชาชนบางส่วนมองภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์เสียหาย ทั้งที่พระภิกษุส่วนใหญ่ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ

ข้อเสนอ

1.ระยะสั้น

1.1 หาทางระงับการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่โจมตีคณะสงฆ์ และให้หน่วยงานของรัฐไม่ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวนั้น

1.3 มอบนโยบายให้หน่วยงานภาครัฐระมัดระวังในการปฏิบัติกับพระสงฆ์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะระยะเวลาอันสั้นนี้ อย่าให้เกิดภาพทหาร ตำรวจ รังแก ข่มขู่พระ ด้วยการใช้กฎหมายทางโลก และมุ่งดำเนินคดีสถานเดียว

1.4 ให้เกียรติพระสงฆ์ โดยธรรมชาติคณะสงฆ์ไม่ชอบความรุนแรง ชอบการแก้ปัญหาด้วยความสงบ พูดคุย และมีแนวโน้มให้ความร่วมมือภาครัฐสูง

http://bangkok-today.com/web/เปิดเอกสารสำนักงานพระพ/

…………………………………………….

นี่คือหนังตัวอย่างการมดเท็จอยู่ข้างเดียวของ พศ. ที่เสนอแก่รัฐบาลโดยผ่านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กำลังจะพิจารณาดูว่าสามารถดำเนินคดีกับ พศ. เรื่องเป็นเจ้าพนักงานกล่าวเท็จ รายงานเท็จหรือเปล่า

พุทธะอิสระ

 

 

 

 

 

1915317_10153913040348446_3503262786331136553_n.jpg?oh=1d60346ca6746a800c2b49480d85248c&oe=5758F661&__gda__=1466465709_2b2ff3cb45cc8f70f824bf7e18a45c8f

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความท้าทาย ในขีดจำกัด

efd0246c0f59d66662eb486310204320.jpg

 

832556e526a47199ad4a744277c765f4.jpg

rboy.ro

 

64755856fe87052aedaf3efda1ade4a0.jpg

 

47b449a5eb3e47b4f539c8b4252085e6.jpg

ขอบคุณเจ้าของภาพ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1375720_1124957244182589_7466707726642808002_n.jpg?oh=cc6e7b57685cb8ca7fd6954e11c32142&oe=5751AB7C

 

 

 

เคล็ดลับ 20 ข้อ อยากให้อ่าน...

 

1. หาเวลาเดินทุกวัน

อย่างน้อยวันละ 10 - 30 นาที และควรยิ้มไปด้วย

 

2. หัดนั่งอยู่เงียบๆ อย่างน้อยวันละ 10 นาที

 

3. กินอาหารจากพืชให้มากขึ้น ลดการกินอาหารจากโรงงาน

 

4. ดื่มน้ำเยอะๆ กินบลูเบอรี่ บร๊อคคอรี่ และอัลมอนด์เป็นประจำ

 

5. ทำให้คนอื่นยิ้ม อย่างน้อยวันละ 3 คน

 

6. อย่าเสียเวลากับเรื่องซุบซิบนินทา เรื่องไม่ดีที่ผ่านไปแล้ว

และสิ่งต่างๆที่นอกเหนือการควบคุม

แต่ควรทุ่มเวลากับสิ่งที่เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน

 

7. กินมื้อเช้าเยี่ยงราชา

มื้อกลางวันเยี่ยงเจ้าชาย มื้อเย็นเยี่ยงยาจก

 

8. ชีวิตไม่มีคำว่าเท่าเทียม แต่มันก็ยังดีอยู่

 

9. ชีวิตนี้สั้นเกินไปที่จะเสียเวลาไปกับการเกลียดใคร

ให้อภัยคนนั้นในทุกเรื่อง

 

10. ไม่จำเป็นต้องชนะในทุกเรื่อง

หัดเห็นด้วยกับเรื่องที่ไม่เห็นด้วยบ้างก็ได้

 

11. อย่ายึดมั่นถือมั่นตัวเองมากเกินไป

เพราะคนอื่นเขาไม่คิดเหมือนคุณ

 

12. ปล่อยให้อดีตอยู่อย่างสงบสุข

เพื่อที่จะได้ไม่มารบกวนชีวิตปัจจุบัน

 

13. อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น

เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเจออะไรมาแล้วบ้าง

 

14. ไม่มีใครต้องมารับผิดชอบความสุขในชีวิตคุณ

ยกเว้นตัวคุณ

 

15. เวลาเกิดเรื่องที่คุณคิดว่า ร้ายแรงมากต่อความรู้สึก

ให้ถามตัวเองต่อว่า อีก 5 ปีข้างหน้า ยังคิดแบบเดิมหรือไม่

 

16. ให้ความช่วยเหลือแก่คนที่ต้องการ

จงเป็นคนใจกว้าง และควรเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้รับ

 

17. สิ่งที่ผู้อื่นคิดเกี่ยวกับตัวคุณ ไม่ใช่เรื่องของคุณ

ดังนั้นไม่ต้องใส่ใจมากนักก็ได้

 

18. เวลา คือ ผู้เยียวยาทุกสิ่ง

 

19. ไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะดีหรือแย่

มันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปในที่สุด

 

20. การงานที่คุณทำ ไม่ได้ช่วยเหลือคุณเวลาเจ็บป่วย

แต่เพื่อนแท้ช่วยคุณได้ จงแบ่งเวลาพบปะเพื่อนบ้าง kiki emoticon

 

Man Makii ผู้บ่าวริมคลอง

ขอบคุณเจ้าของภาพ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มอไซเต้นรำ

https://www.facebook.com/PovuciAMaloGaIPotegni/videos/540353629480541/

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...