ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

 

ปรีชา แซ่เซีย

 

หลายปีมากมาแล้ว เพื่อนผู้เป็นกัลยาณมิตร 2-3 ท่านได้เอ่ยปากขอให้ผมเขียนอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์เดือนตุลา เพื่อไม่ให้กาลเวลาทำให้ความทรงจำถูกทอดทิ้ง

ผมรับปากและเลือกเขียนถึง “ผู้คนแห่งเดือนตุลา” ในบางมุมเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครบันทึกไว้ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ด้วยเหตุผลที่ว่าการเล่าเรื่องที่ยิ่งเล็กในเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่นั้นทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องอาศัยทฤษฎีอะไรมาวิเคราะห์มากมาย อีกประการหนึ่งเรื่องที่ยิ่งเล็ก คนพูดถึงก็ยิ่งน้อย จึงเป็นอานิสงส์แก่ผู้อ่านที่จะได้รับรู้เรื่องราวที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกัน

051004.jpg?t=1475632658366

ในครานั้น ผมเขียนถึงหนุ่มสาวชาวธรรมศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่ช่วยกันนำปูนปลาสเตอร์ไปอุดรูกุญแจห้องสอบ และเอาโซ่ไปล่ามประตูลิฟท์แบบโบราณที่ตึกคณะศิลปศาสตร์ในค่ำคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2516 เพื่อไม่ให้มีการสอบในวันรุ่งขึ้น จนสามารถระดมนักศึกษามาชุมนุมประท้วงให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ต้องหาเรียกร้องรัฐธรรมนูญทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข อันนำไปสู่การชุมนุมใหญ่ที่ลานโพธิ์ และเหตุการณ์ 14 ตุลาอันยิ่งใหญ่

เขียนถึงพ่อค้าแม่ค้าแถวท่าพระจันทร์ ท่าช้าง และปากคลองตลาดที่คอยส่งเสบียงอาหารไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือข้าวห่อหลายร้อยเข่งมาให้ที่ชุมนุม รวมทั้งช่วยเหลือการหลบหนีของนักศึกษาประชาชนที่ถูกระดมยิงอย่างบ้าคลั่งมาทางหน้ามหาวิทยาลัยในเช้าวันที่ 14 ตุลาคม

เขียนถึงบรรดาทหารเรือ คุณหมอ และคุณพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราชที่ช่วยรับนักศึกษาประชาชนที่หนีการระดมยิงจากหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามายังฝั่งโรงพยาบาล

เขียนถึงสองสามีภรรยาที่ช่วยพาผมกับเพื่อนนักศึกษาอีกคนหนีออกจากการไล่ล่าของทหาร ตำรวจ ไปส่งยังที่ปลอดภัยและเขียนถึงพี่วิทย์ กับ พี่หวัน ผู้เอื้ออาทรแห่งโรงพิมพ์เจริญวิทย์การพิมพ์ ตลาดบ้านพานถม บางลำพู ที่รับพิมพ์หนังสือก้าวหน้ามากมายของพวกเราในเวลานั้น

เรื่องราวทั้งหมดที่เขียนขึ้นครานั้น เป็นเรื่องราวของผู้คนแห่งเดือนตุลาในมุมเล็กๆ มุมหนึ่ง บนถนนสายใหญ่แห่งเดือนตุลาที่ผมได้สัมผัสมาโดยตรง เป็นผู้คนเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักหรือบันทึกไว้ แต่สำหรับผมแล้ว พวกเขาคือวีรชนที่แต่งแต้มสีสันและความสมบูรณ์ให้กับประวัติศาสตร์เดือนตุลาเช่นเดียวกับวีรชนอีกหลายคนที่เรารู้จัก เพียงแต่พวกเขาเป็นวีรชนนิรนามที่เดินเข้ามาในชีวิตเราพร้อมกับเหตุการณ์ และจากเราไปเมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดลง

เฉกเช่นเดียวกับ “ปรีชา แซ่เซีย” วีรชนคนเล็กๆ อีกคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ผมรู้จักเขาเป็นอย่างดี น่าเสียดายตรงที่เขาจากเราไปอย่างทรมานและไม่มีวันกลับในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรืออีก 3 ปี ต่อจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516

051001.jpg?t=1475632658366

การที่ตัดสินใจทำงานขีดๆ เขียนๆ แทนที่จะเป็นนักกฎหมายตามที่ร่ำเรียนมา ทำให้ผมได้มาพบและร่วมงานกับปรีชา วีรชนคนเล็กๆ อีกคนหนึ่งของเดือนตุลา แม้ว่าปรีชาจะไม่ได้ทำงานเขียนอย่างผมเลย

ผมเขียนหนังสือตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่สวนกุหลาบ และเขียนมากขึ้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยมีรุ่นพี่ที่รู้จักมากมายเป็นนักเขียนอยู่ที่นั่น ในยุคก่อน 14 ตุลานั้น พวกเรานักศึกษาที่ชอบการเขียนหนังสือจะผลิตหนังสือเล่มละบาทออกขายให้เพื่อนนักศึกษาหน้ามหาวิทยาลัย จากนั้นก็ยกระดับมาออกหนังสือรายประจำ ตามแนวที่แต่ละคนถนัด

สำหรับผมไปช่วยทำหนังสือ รวมข้อคิดข้อเขียนของนักศึกษาประชาชน หรือที่รู้จักกันดีในเวลานั้นในชื่อหนังสือ “ลอมฟาง” ที่มีพี่สำเริง คำพะอุ รุ่นพี่นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ที่ผมเชิญมาช่วยเขียนในคอลัมน์“ราชดำเนิน อเวนิวส์” แห่งนี้เป็นหัวเรือใหญ่ หนังสือ “ลอมฟาง” ออกมาจนถึงปี 2517 จึงปิดตัวลงเพราะไม่มีทุนจะพิมพ์ต่อ พี่สำเริงไปเป็นบรรณาธิการนิตยสาร “ปิตุภูมิ” ซึ่งมีพรรคพวกออกทุนให้ ผมก็ติดสอยห้อยตามไปทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการกับพี่สำเริง พอ “ปิตุภูมิ” ปิดตัวลงอีกด้วยเหตุผลเดียวกับ “ลอมฟาง” พี่สำเริงก็ไปทำงานในหนังสือพิมพ์ “เสียงใหม่” ที่มีพี่กำแหง ภริตานนท์ เป็นบรรณาธิการ ส่วนผมไปอยู่หนังสือพิมพ์ “ประชาธิปไตย”ของคุณณรงค์ เกตุทัต สักพักหนังสือพิมพ์ “ประชาธิปไตย” ก็ดึงตัวพี่สำเริงซึ่งเคยอยู่ “ประชาธิปไตย” มาก่อน กลับมาเป็นบรรณาธิการข่าว และนำคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาหมาดๆ เข้ามาเป็นบรรณาธิการบริหาร เวลานั้นบ้านเมืองเต็มไปด้วยสถานการณ์แห่งการลอบสังหารผู้นำนักศึกษา ผู้นำกรรมกร และผู้นำชาวนา ท่ามกลางกลิ่นอายการเมืองที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศ “ขวาพิฆาตซ้าย” ของกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัด พี่สำเริงกับผมก็ถูกยื่นซองขาวให้ออกพร้อมกับพี่ๆ และเพื่อนๆ นักข่าวและคอลัมนิสต์อีก 2-3 คน

การออกจากหนังสือพิมพ์ “ประชาธิปไตย” ทำให้ผมมีโอกาสใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาเข้าเป็นอาจารย์สอนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมกับใช้เวลาว่างช่วยทำนิตสาร “เอเชียวิเคราะห์ข่าว” ไปด้วย

และ ณ ที่นี้เอง ที่ผมได้พบ “ปรีชา แซ่เซีย” กับคณะของเขา ซึ่งผมเรียกพวกเขาจนติดปากว่า “ลัก ก่น หยาง”

“ลัก ก่น หยาง” เป็นชายหนุ่ม 3 คน คนหนึ่งชื่อ ลัก คนหนึ่งชื่อ ก่น คนที่ชื่อ หยาง คือ ปรีชา แซ่เซีย พวกเขาทั้งสามมีพื้นเพเป็นผู้ใช้แรงงานมากกว่าปัญญาชน มีความขยันขันแข็ง ทรหดอดทน ซื่อตรง และรักความเป็นธรรม พวกเขามีหน้าที่จัดส่งนิตยสารไปตามเอเย่นต์ร้านหนังสือต่างๆ โดยผ่านบริษัทที่รับขนส่งสินค้าซึ่งตั้งอยู่แถววงเวียน 22 กรกฎา และเนื่องจากนิตสาร “เอเชียวิเคราะห์ข่าว” เป็นหนังสือเล็กๆ ของฝ่ายก้าวหน้า ไม่ได้มีทุนรอนอะไรมากมาย ไม่ต่างอะไรกับ “ลอมฟาง” หรือ “ปิตุภูมิ” ทีมงานของนิตยสารเล่มนี้จึงรู้จักรักใคร่และสนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดี

051003.jpg?t=1475632658366

แม้การทำงานจะแทบไม่มีค่าจ้างค่าออนอะไร เพราะคนที่มาทำนั้นต่างมีงานประจำของตน และสละเวลาว่างมาช่วยกันทำด้วยใจรักและด้วยเห็นว่าควรต้องทำหนังสือดีๆ ออกมาให้ประชาชนได้อ่านในยามที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยอิทธิพลของกลุ่มการเมืองขวาจัด ทั้งพรรคการเมืองฝ่ายขวา สถานีวิทยุยานเกราะ หนังสือพิมพ์ฝ่ายขวา กลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง และกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน

“ลัก ก่น หยาง” ก็เข้ามาช่วยทำนิตยสาร “เอเชียวิเคราะห์ข่าว” ด้วยเหตุผลนี้

ในยามว่าง ผมเคยเห็นพวกเขานั่งคุยแลกเปลี่ยนสถานการณ์บ้านเมืองกัน ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเห็นพวกเขาชวนกันไปเที่ยวในที่อโคจร หรือชวนกันกินเหล้าจนเมาหยำเปเหมือนเด็กหนุ่มในวัยเดียวกันอีกหลายคน ที่สำคัญพวกเขาไม่เคยขาดการเข้าร่วมชุมนุมทุกครั้งที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านเผด็จการและความไม่เป็นธรรมในสังคม

เย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2519 ขณะที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีการชุมนุมประท้วงการกลับมาของ ถนอม กิตติขจร “ลัก ก่น หยาง” มาที่โรงพิมพ์เจริญวิทย์ บางลำพู เพื่อจัดนิตยสาร “เอเชียวิเคราะห์ข่าว” ที่เพิ่งพิมพ์เสร็จ มัดรวมกันเป็นห่อๆ ก่อนนำส่งบริษัทขนส่งสินค้าแถววงเวียน 22 กรกฎา ตามหน้าที่ที่เคยปฏิบัติ

เย็นวันนั้น ผมเสร็จงานจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมาช่วยพวกเขามัดหนังสือ หยางเห็นผมมัดไม่ได้เรื่อง เขาจึงสอนเทคนิคการมัดหนังสือให้แน่นและไม่แตกเวลาถูกจับโยนลงไปบนรถสิบล้อว่า ผมจะต้องผูกปมเชือกที่มัดไว้ตรงมุมใดมุมหนึ่งของห่อหนังสือ ปมเชือกที่มัดตรงมุมหนังสือจะแน่นและไม่เคลื่อนที่ โยนอย่างไรหนังสือก็ไม่หลุดไปจากห่อ นี่เป็นเทคนิคที่อาจารย์สอนกฎหมายไม่มีวันรู้!

051005.jpg?t=1475632658366

เย็นย่ำวันนั้น มอเตอร์ไซค์ 3 คัน ของ “ลัก ก่น หยาง” ลำเลียงหนังสือจากบางลำพูไปยังวงเวียน 22 กรกฎา ผมนั่งซ้อนท้ายคันที่หยางขี่ พอส่งหนังสือเสร็จ มอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 คันก็ดิ่งไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตลอดทางมีด่านตำรวจโบกมือให้หยุดเป็นระยะๆ

เมื่อมาถึงธรรมศาสตร์ “ลัก ก่น หยาง” เข้าร่วมชุมนุมในสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัย ส่วนผมขึ้นไปคุยกับเพื่อนอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์บนตึกคณะนิติศาสตร์ซึ่งอยู่ข้างสนามฟุตบอล ก่อนเที่ยงคืนวันนั้นผมตัดสินใจกลับบ้าน เนื่องจากรุ่งเช้าต้องไปทำงานที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

แต่อนิจจา... ย่ำรุ่งของวันที่ 6 ตุลาคม “ลัก ก่น หยาง” และผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ชุมนุมกันอย่างสงบ ปราศจากการก่อการร้ายหรือใช้ความรุนแรงก็ถูกล้อมฆ่า!

มีการระดมยิงด้วยอาวุธสงครามทั้งปืนกล ปืนพก และเครื่องยิงลูกระเบิด M79 จากตำรวจทั้งตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) ตำรวจหน่วยคอมมานโด ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และตำรวจท้องที่ เข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างเมามัน ขณะที่วิทยุยานเกราะก็ออกอากาศปลุกระดมให้ผู้คนเข้าไปฆ่านักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมอยู่ โดยบิดเบือนว่าผู้ชุมนุมเป็นคอมมิวนิสต์และมีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่าหนึ่งร้อยคน บาดเจ็บหลายพันคน ที่โหดร้ายกว่านั้นคือ มีการข่มขืนนักศึกษาหญิงแล้วทำร้ายจนถึงแก่ความตายก่อนจะเปลื้องผ้าผู้เคราะห์ร้ายออกจากร่าง มีการจับผู้ชุมนุมออกไปแขวนคอ มีการเผาทั้งเป็น มีการกระทำทารุณกรรมต่อศพ เป็นต้นว่า เอาเก้าอี้ฟาด เอาเชือกมัดคอแล้วลากไปตามพื้น และมีการกระทำอนาจารศพ อย่างชนิดที่หาดูได้ยากในประวัติศาสตร์การทารุณกรรมต่อมนุษยชาติบนโลกใบนี้

051002.jpg?t=1475632658366

ลัก กับ ก่น หนีออกมาได้ ส่วนหยางถูกรุมทำร้าย รายงานข่าวบอกว่าเขาเสียชีวิตเพราะ ”ถูกของแข็ง อาวุธหลายชนิด และถูกรัดคอ"

หลังจากนั้นไม่นาน ผมเดินทางเข้าป่า เช่นเดียวกับนักศึกษาประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจเช่นนั้น ผมได้พบก่นที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และต่อมาได้พบลักในประเทศไทย ทั้งสองเล่าให้ผมฟังว่า คืนนั้นพวกเขา 3 คน ร่วมชุมนุมกันอย่างสงบดังเช่นทุกคืนที่ผ่านมา เมื่อมีการระดมยิงเข้ามาในช่วงเช้า และมีผู้คนบุกเข้ามาไล่ฆ่าผู้ชุมนุมร่วมกับตำรวจ พวกเขาทั้งสามพยายามช่วยผู้ชุมนุมที่อยู่ข้างๆ ให้หนีไปได้ด้วยกัน เวลานั้นผู้คนแตกตื่นเบียดเสียดยัดเยียดจนไม่รู้ใครเป็นใคร หยางพยายามช่วยเพื่อนและช่วยตัวเองให้พ้นจากการถูกเข่นฆ่า แต่โชคร้าย เขาถูกคนเหล่านั้นทำร้ายและลากตัวไป

หยาง หรือ ปรีชา แซ่เซีย “ถูกของแข็ง ถูกอาวุธหลายชนิด และถูกรัดคอ" เขาเป็นหนึ่งในร่างที่ถูกลากไปตามพื้นของเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519 หลังจากที่เขาส่งนิตยสาร “เอเชียวิเคราะห์ข่าว” ฉบับสุดท้ายให้กับผู้อ่าน

หยางจากไป 40 ปีแล้ว แต่เพื่อนๆ ไม่เคยมีใครลืมเขา ทั้งไม่เคยมีใครคิดว่า คนดีๆ อย่างหยาง ที่เคยแต่ใช้เชือกรัดห่อหนังสือให้แน่นด้วยการผูกปมไว้ตรงมุม เพื่อส่งไปให้ผู้อ่านทั่วประเทศ จะต้องมาถูกคนอื่นใช้เชือกรัดคอ แล้วลากไปตามพื้น

หยางจากไป 40 ปีแล้ว แต่คำสอนอันมีค่าของเขา ยังคงก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของผมมิรู้เลือน...

ถ้าจะมัดอะไรให้อยู่ เราต้องผูกปมเชือกไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งให้แน่น เพื่อไม่ให้มันเคลื่อนไปไหนได้”

4 ตุลาคม 2559

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ล้างผักแบบไหนให้ปลอดภัย คลิบนี้มีคำตอบ

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1175782055812048&id=435245623199032&_rdr

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

 

14523262_1581285345513817_695811787890433547_n.jpg?oh=d6d8fb592c845e2b411420e507adba85&oe=5866A2B0

 

 

 

ปราชญ์ สามสี

15 hrs · -pz5JhcNQ9P.png

 

"การล่มสลายของสายปฎิวัติและจุดเริ่มต้นของ กบฎเยาวชน - youth Rebel"

เขียนโดย ปราชญ์ สามสี ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙

ขอบคุณสำหรับการติดตาม อ่าน เว็บไชต์เฟสบุ๊กแฟนเพจ "ปราชญ์ สามสี" มาตลอดนะครับ ขอบคุณสื่อมวชน ที่คอยติดตาม และขอบคุณ ทุกๆคนที่ติดตามและช่วยกันแบ่งปันบทความของข้าพเจ้ามาตลอด

เอาหล่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า หลังจากที่ข้าพเจ้าพูดถึง ขบวนการการเคลื่อนไหว ของกลุ่มที่พยายาม ทำลายประเทศชาติ หรือ กลุ่มที่ ถูกนิยามว่า "ลัทธิชังชาติ"นั้น ข้าพเจ้าได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ถึงเรื่องที่ทางข้าพเจ้าได้เคยวิเคราะห์ไป หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า "ลัทธิชังชาติ"นี่คือกลุ่มไหน? ข้าพเจ้าคงบอกได้ว่า มันคือกลุ่มเดียวกับ กลุ่มที่มีความพยายามใส่ร้ายสถาบันฯพระมหากษัตริย์นั้นแหล่ะครับ เพียงแต่ว่า การพยายาม โจมตีใส่ความต่อสถาบันเบื้องสูงนั้น เป็นเพียง ส่วนหนึ่ง ของแผนการของกลุ่ม "ลัทธิชังชาติ" นั้นแหล่ะครับ แท้จริงแล้วนอกเหนือจากการทำลาย สถาบันเบื้องสูงแล้ว ยังมีเจตนาในการทำลายวัฒนธรรมสังคมไทย และ ทำลายศรัทธาต่อชาติ และ ความดีงามถูกต้อง ทัง้ทางโลกและทางธรรม โดย มักใช้ ยุทธวิธีในการวินาศกรรมทางความคิด ทำลายเชิงประวัติศาสตร์ ทำลายความเชื่อมั่น และทำลายความรู้จักผิดชอบชั่วดี โดยอ้างสื่อนอกกระแส การออกนอกกรอบ หรือการคิดต่างแต่หัวรุนแรงและวิสัยทัศน์แคบ

แต่ปัจจุบันฯสถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อ การรัฐประหารปี ๒๕๕๗ นั้นสามารถเบรคเกมได้ทัน หลังจากที่ "นักรบ - สายปฎิวัติ" ไปประกาศออกสื่อนอกเกี่ยวกับการพยายาม แบ่งแยกดินแดน เหนือใต้ จนไปถึงการยุยงปลุกปั่นประชาชนให้ทำลายอำมาตย์ศักดินา ตามที่เขาได้โฆษณาไว้

เราจะเห็นว่า ตั้งแต่ การรัฐประหารปี ๒๕๕๗ จนได้รัฐบาล คสช.เป็นรัฐบาลใหม่นั้น ก็พบว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม "ลัทธิชังชาติ" ก็มีการหลบหนีออกไปยังต่างประเทศหลายคน แต่อีกหลายคนก็ถึงจับและติดคุกในเวลาต่อ สิ่งที่เป็นไปตามคาด คือขบวนการ"ลัทธิชังชาติ" มีการปรับเปลี่ยน ยุทธศาสตร์ จำนวนมาก โดยเฉพาะ การปลดระวาง "นักรบ - สายปฎิวัติ" ที่เคยปฎิบัติการ ยุยงผู้คนให้ให้เกลียดชังสถาบันเบื้องสูง โดยใช้ทฤษฎี โค่นล้มล้าง "อำมาตย์ - ศักดินา" ซึ่ง จะมีเฉพาะ "ตัวใหญ่ๆ - สายปฎิวัติ" เท่านั้นที่ยังถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออยู่ เผื่อเอาไว้ใช้งานในอนาคต นอกเหนือจากนั้นก็ไห้ไป หากินกันเอง ตามชะตากรรม ...

แต่ งบประมาณทั้งหมดที่หั่นออกไปจาก"สายปฎิวัติ" กลับไปสนับสนุน "สายวิชาการ - และสายเยาวชน" แทน

**ที่จริง "ลัทธิชังชาติ สายวิชาการ - และสายเยาวชน "ก็มีความเคลื่อนไหวมานานแล้วเพียงแต่ มีลักษณะของการเป็นทีม สนับสนุน ให้ "นักรบ - สายปฎิวัติ" อยู่มาตั้งแต่ต้น ถ้าสังเกตกรณี การต่อต้าน "ม.๑๑๒ - ม.๑๑๖" ซึ่ง ก็เป็นผลงานของ "สายวิชาการ " ที่ตั้งเรื่องให้ "นักรบ - สายปฎิวัติ" ทั้งนั้น**

แต่เพราะ สถานการณ์เปลี่ยนไป ...การดำรงอยู่ของ รัฐบาลทหารอย่าง คสช. สามารถรักษาฐานเสียง และความมั่นใจของประชาชนได้ในระดับดี ด้วยผลงานที่ไม่ค่อยจะปรากฎให้เห็นในรอบ "สิบกว่าปี" ที่ผ่านมา ตั้งแต่บูรณะระบบคลอง การชลประทาน การปรับชุมชนแออัด ซึง่สิ่งเหล่านั้นมักถูกมองข้ามไปในหลายุยคสมัย แต่ปัญหา ยังคงมีอยู่ตลอดซึ่งอาจจะใช้เวลา เป็น10ปีกว่าจะแก้ใขได้สำเร็จทั้งหมด

ความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลคสช. นั้นทำให้ "นักรบ - สายปฎิวัติ" ไม่สามารถ ยุยงปลุกระดมได้อย่างชัดเจน และ ยังไม่สามารถใช้ความรุนแรงโจมตี ได้เหมือนเมื่อก่อนอย่างสะดวก เพราะ การเอาความรุนแรง ชนะความรุนแรงนั้น ไม่สามารถนำพาให้ ฝ่าย"นักรบ - สายปฎิวัติ" ได้รับชัยชนะแต่อย่างใด "ลัทธิชังชาติ สายวิชาการ" จึงถูกดึงให้ขึ้นมาเป็น ขุนพลเอกในเกมนี้อีกครั้ง โดยกำหนด ยุทธศาสตร์ ใช้ ประวัติศาสตร์ อย่าง ๖ ตุลาโมเดลในการเคลื่อนไหว ในการผลักดันให้เยาวชนออกมาสู้กับรัฐบาลทหาร โดยหวังว่าจะใช้เยาวชน เป็น"กระดาษหุ้มฆ้อน"

"เหยี่ยว" ถูก ทดแทนด้วย "พิราบ" เพราะเป็นเกมที่ต้องการดิสเครดิต ฝ่ายรัฐบาลหากแตะต้อง "เด็กๆ" รุนแรงเกินไป โดยที่หารู้ไหมว่า เด็กๆที่ออกมา นั้นคือ มนุษย์ไขลานของนักวิชาการที่แค้นฝังหุ่น ตั้งแต่ตอนที่ตนเองเป็นเด็ก

เพราะฉะนั้นการที่ "ลัทธิชังชาติ สายวิชาการ" จะได้รับเงินสนับสนุน จากต่างชาตินั้นแทบจะไม่ต้องแปลกใจเลยครับ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ เหมือนกับที่ ประเทศมหากำนาจอย่างสหรัฐ เคย สนับสนุน เงินทุนให้ อัลกออิดะห์ ในการ รบกับรัฐบาลซีเรีย ซึ่งเป็นศตรูของสหรัฐ ทั้งๆที่ อัลกออิดะห์ เคยทำร้ายสหรัฐ ด้วยการ วินาศกรรม ในเหตุการณ์ ๙/๑๑

ในอนาคต พลังเยาวชน กำลังจะเป็นกำลังสำคัญ และ ประชาชนคนไทยควรรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมันไม่ไช่แค่การเมืองในประเทศ อีกต่อไป แต่มันคือการเมืองในระบบโลก ที่ ประเทศมหาอำนาจต่าๆงกำลังใช้ ดินแดนประเทศไทย เป็น "สนามรบ"

เราก็คงต้อง มาจับตามองกันถึงการเคลื่อนไหว ของกลุ่มคนเหล่านนี้ ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๙ ถึงปี ๒๕๖๐ ครับ

 

 

 

 

14522926_1581255085516843_7875393426181826526_n.jpg?oh=3bc9a2bdc927b0c910e49764d08cb042&oe=586C32C7

===

 

"คลื่นใต้น้ำเคลื่อนไหว" ล่าอาณานิคม ๓.๐

ปราชญ์ สามสี ๒๘ กันยายน ๒๕๕๙

วันนี้คงได้พูดสำหรับประเด็นใหญ่ๆ สองสามประเด็น ที่กำลัง จะเกิดขึ้นในอนาคต อันไกล้นี้ ผมเชื่อว่าหลายคน สามารถจับ สัญญาน"อันตราย" อะไรบางอย่างได้ ในช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ เครือข่าย "ซ้ายอกหัก" ที่หลายๆฝ่าย รวมถึงกระผมด้วย มักจะเรียกพวกนี้ว่าพวก "ลิเบอร่าน" ที่มาจากคำว่า "Libertard" และ แน่นอนว่าพวกนี้คือกลุ่มเดียวกันกับพวก"ลัทธิชังชาติ"ที่เอะอะๆไม่ว่าอะไร ก็จะตอบว่า "ประเทศไทยผิด"ไปเสียทุกอย่าง

หลังจากยุค"เสื้อแดง" กำลังจะสิ้นไป พร้อมกับ การที่ อดีตนายกฯอย่าง นาง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ นักโทษหนีคดี อย่างทักษิณ ชินวัตร กำลังจะต้องติดคุก เพราะ คดีโกงที่ตัวเองก่อไว้ ราว๑๐กว่าคดีที่ผ่านมา พร้อมกับ พรรคเพื่อไทย ที่แทบจะต้องไปตั้งที่ทำการพรรคในเรือนจำบางขวาง เพราะ ตั้งแต่ ส.ส.,โฆษกพรรค ยัน รองประธานพรรคก็ล้วนติดคุกหรือหนีคดีอยู่ทั้งสิ้น

ทำให้ เครือข่าย "มดงาน" ที่เคยทำงานต่างอดอยากปากแห้งไปตามๆกัน และนั้นหมายถึง ขบวนการ"ลิเบอร่าน"อีกด้วย แต่นั้นเป็นเพียง ช่วงเวลาตกอับเพียงสั้นๆ เพราะเวลานี้ "ลิเบอร่านใหม่" พึ่งได้"งบใหม่แกะกล่อง" และแนวทางใหม่ๆ หลังจากที่ ผจญทางตันมาตลอด ๒ปีที่ผ่านมา

สัญญานบอกเหตุหลังเหตุระเบิด ๗ จังหวัดภาคใต้ และ ปัญหาไฟใต้รูปแบบใหม่ กับการเคลื่อนไหวเรียกร้องสันติภาพให้ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ที่ผิดเพี้ยนไปสู่การสนับสนุนกลุ่ม BRNแบ่งแยกดินแดนไปเสียอย่างนั้น ไฟใต้เวลานี้ นับเป็น "ภัยที่น่าสนใจยิ่ง" ถึงการพยายาม เคลื่อนไหวใหม่ๆ ของกลุ่มเยาวชน PerMAS ได้ กลุ่ม ประชาธิปไตยใหม่ อย่าง "จ่านิว" ลงไปขยายเครือข่ายเยาวชน และ ยังมีกลุ่มNGO สายสันติภาพเด็กอีกหลายกลุ่มที่ ลงไปสร้างภาพให้ "เครือข่าย สนับสนุนให้ภาพลักษณ์ของ PerMAS นั้นหรูดูดี น่าเชื่อถือ"

----------------------------------------------------------

กลุ่มเยาวชนต่างๆ เหล่านี้ หากเจาะหาสายต้นตอก็จะรู้ว่ามาจากกลุ่ม นิติราษฎร์ ,YPD, สภาเด็กและเยาวชน รวมไปถึง กลุ่ม ม.เที่ยงคืน ซึ่ง เยาวชน มดงานพวกนี้ นอกจากได้รับทุน จาก สสส. ที่หากินจากการรณรงค์ต้านยาเสพติดและโครงการทำนองนี้... ล่าสุด ก็มีการได้รับ ทุนสนับสนุน จาก USAID อีกด้วย ***หากใครจำได้ จะเห็นว่าท่านทูตสหรัฐ คนดี้ทั้งสองสมัยก็ เลี้ยงดูปูเสื่อ เปิดบ้านต้องรับ กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ อย่างรังสิมัน โรมและ เพนกวิ้นไว้อย่างดี***

ซึ่งหาก ย้อนดู ประวัติ กองทุนUSAID นั้น ก็จะเกี่ยวข้องกับกองทุน NED และ กองทุน FreedomHouse ของรัฐบาลสหรัฐและ นาย จอร์จ โซรอส ที่ สนับสนุน องค์กร อย่าง ILAWS / ประชาไท / และ เครือข่ายของ นาย จอร์น อึ้งภากรณ์ ทั้งสิ้น ทุนสนับสนุนอย่าง USAIDเหล่านี้ จะเข้าไป สนับสนุนองค์กรอิสระ รวมไปถึงสื่อมวลชน อีกหลายกลุ่มที่ต้องสงสัย อย่าง กลุ่มลูกเหรียงที่รักของอุดม ที่พึ่งมีเบาะแสไป ประชุมกับ PerMAS สดๆร้อนๆ เมื่อปี ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา หรือแม้แต่ กลุ่มนักเขียน ของ นาง รจเรข วัฒนพาณิชย์ เจ้าของร้านหนังสือ อย่าง BOOK REPUBLIC ซึ่งจะมี นักเขียนชื่อดังอยู่ในเครือข่ายArticle ๑๑๒ ... ก็ดูเหมือนว่า จะมีเบื้องหลังเชื่อมกับกลุ่มPerMAS ,รัฐบาลสหรัฐ และ กลุ่มเยาวชนที่เป็นหัวหอกในการต่อต้านคสช.อีกด้วย

----------------------------------------------------------

มีเบาะแสเพิ่มเติมว่า กลุ่มเครือข่าย "ซ้ายอกหัก" กำลังเริ่ม Strategy ใหม่ กับการเริ่ม ผลักดัน "พลังเยาวชน" ที่ตนเองแอบ ล้างสมองในห้องเรียนอย่างหลบๆซ่อนๆ อยู่ในมหาวิทยาลัย อย่างจุฬาฯและ ธรรมศาสตร์ สิง่ที่เป็น หลักฐาน ชีดเกี่ยวกับ สิ่งที่คาดคะเนนี้ คือการมาถึง นาย โจชัว หว่อง ซึ่งจะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเสวนาให้เยาวชนสายการเมืองฟังใน วันที่ ๖ ตุลาคม ที่ จุฬาฯ ซึ่งนาย โจชัว หว่อง ผู้นำ ปฎิวัติร่มในฮ่องกง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สหรัฐและ Freedom House อย่างออกหน้าออกตา

การมาครั้งนี้ ของโจชัว หว่องทำให้ เชื่อได้ว่า น่าจะมีการฟื้นฟู เครือข่าย" สมาพันธ์นักศึกษาเอเชีย" เพื่อเคลื่อนไหว ในการเมืองภายในประเทศ เอเชีย โดยมีการสนับสนุนโดยประเทศสหรัฐและประเทศตะวันตกอย่างฝรั่งเศส

การเคลื่อนไหวของ เครือข่ายเยาวชนที่ถูกจัดตั้งโดยสหรัฐครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีการขยับทัง้การเมืองในระบบและนอกระบบ รวมไปถึงการเมืองท้องถิ่น ที่มีปมความขัดแย้งต่างๆเช่น ปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมท้องถิ่นใน อีสานเหนือ หรือแม้แต่การแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดภาคใต้ ทั้งหมดก็ทำไปเพื่อ สร้างช่องโหว่ทางการเมือง เป็นโอกาสที่เป็นประโยชน์กับสหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลาที่ ต้องการ ซึ่ง คล้ายกับ เหตุกาณร์ใน สมัย ๖ ตุลาคม ปี พ.ศ.๒๕๑๙

---------------------------------------------------

การเคลื่อนไหว ของสหรัฐ และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก ครั้งนี้ มันเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ในขณะเดียวกัน ก็มีการกดดันทางการเมืองระหว่างประเทศ อีกด้วยทำให้ ผมหวนนึกถึง ประเทศไทย ในช่วงเวลาเหตุการณ์ สงครามโลก ครั้งที่ ๑ - ๒ รวมไปถึง สงครามอินโดจีนไม่น้อย

โดยเฉพาะการพยายาม เข้ามา แทรกแซงประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำอาเซียน เหมือนที่ ต่างชาติ เคยพยายามแทรกแซง สยามใน"อินโดจีน"

ในอนาคต สถานการณ์จะเป็นอย่างไร เรื่องนี้เราต้องดู "การเมืองในระบบโลก" เป็นสำคัญ เพราะ มีการจับสัญญาน ถึง "สภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในซีกโลกตะวันตก" โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหนี้จำนวนมหาศาลกับสภาวะที่ต้องแบกรับปัญหาความขัดแย้งภายในชาติและปัญหาผู้ลี้ภัยซึ่งเกี่ยวข้องกับ ระบบโลกโดยตรง อันเป็นการสั่นคลอน "อำนาจตำรวจโลก" ที่ อาจทำให้อินทรีพ่ายแพ้ หมีและมังกรที่กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง ปัญหาการเงินขนาดใหญ่โลกตะวันตกและการสูญเสียความน่าเชื่อถือไปของสหรัฐอเมริกากำลังทำให้โลกกำลังเปลี่ยนขั้ว และเริ่ม เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ โลกวันนี้กำลัง เข้าสู่ ยุคล่าอาณานิคม ๓.๐ ซึ่งเขามาในพื้นเอเชียตะวันออกเพื่อเจาะโอกาสในการสูบทรัพยากรณ์อีกครั้ง โดยแฝงมาในรูปแบบ ของการ อารักขาป้องกันปัญหา ISIS และ ปัญหาหมู่กเกาะทะเลจีนใต้หรือที่เรียกว่า หมู่เกาะสแปลตลี่ย์

การที่สหรัฐ เปลี่ยนพื้นที่สงคราม จาก "ตะวันออกกลาง" อันเป็นแหล่งน้ำมัน วันนี้ สหรัฐกำลัง ย้าย เป้าหมายปฏิบัติการ มาสู่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย พูดว่า ISIS อาจอยู่ในเอเชีย เพื่อขอให้อาเซียนเปิดทางให้สหรัฐเข้าไปอาศัยในพื้นที่ไกล้ ข้อพิพากหมู่เกาะสแปลตลี่ย์เพราะรอปะทะกับจีน นั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ต้องจับตามาก เพราะ ประเทศไทยเองก็ถือว่าเป็นประเทศสำคัญที่กุมหัวใจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในแนวคิดของชาติ"ล่าอาณานิคม"

การเปิดทางเกี่ยวกับความขัดแย้งมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้ จึงเป็นประเด็นที่น่าจับตาว่ามีคนพยายามทำให้ ไฟใต้ดูแรงเกินจริง หรือการพยายาม ยั่วยุให้ เยาวชนไทยก่อการปฎิวัติประชาชนในเป็นสงครามกลางเมือง เพื่อ เปิดโอกาสให้ ต่างชาติแทรกแซง อาเซียน รวมไปถึงประเทศไทยของเรา ก็มีความเป็นไปได้สูงมากในอนาคตเช่นกัน

คลื่นลูกใหม่กำลังมา... ประชาชนคนไทย รู้แล้วหรือยัง?

 

 

 

 

14457294_1579130935729258_1785823290868489525_n.jpg?oh=b2272205a99915b4036d08e0749df8f5&oe=5872864B

 

 

 

 

 

14600937_198718807226898_3418471597412389458_n.jpg?oh=e465903f788f93ab9340c949283c348e&oe=587734D0

แกนนำนศ.ฮ่องกงถูกกักตัวสุวรรณภูมิ ห้ามเข้าไทยอ้างจีนขอ หลังมีกำหนดการพูดที่จุฬาฯ

วันนี้ (5 ต.ค.) โจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาเข้าร่วมกับการชุมนุมชาวฮ่องกงประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน ที่มีกำหนดเดินทางมาถึงประเทศไทย เวลา 23.00 น.…

MATICHON.CO.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาพนี้มีคอมเม้น

14568066_519214778274901_1617868417333432004_n.jpg?oh=cdf868b5cb1ed0292ac365a17083b773&oe=586EF581

เลือกมาร์คพร้อมรับมือWW Cr Thanong Fancl

 

 

Cr

Paisal Puechmongkol

 

ท่านมาร์คมาแล้ว

ขี่ควายโชว์ซะด้วย

ส่งสัญญานชัดไหม?

 

 

พี่น้องผองไทย ยังต้องตระหนักภัยอันตราย

ไอ้โม่งกำลังเสี้ยมให้ไทยจีนทะเลาะกัน

อยู่ดีไม่ว่าดี มหาลัยดังเชิญนักกิจกรรมต่อต้านจีนที่เคยจัดชุมนุมกบฎร่มที่ฮ่องกงให้มาพูดที่เมืองไทย หมายปลุกระดมนักศึกษาออกมาชนรัฐบาลในช่วง ๖ ตุลา

ข่าวว่ารัฐบาลจีนทักท้วง

และทางสนามบินก็ไม่ให้เข้าประเทศตามกฎหมายคนเข้าเมือง

เพราะเห็นชัดว่าจะมาสร้างความวุ่นวายในประเทศ

ดูมันทำสิพี่น้องเอ๊ย

อย่าประมาท

ตราบใดที่ไทยสามัคคี ก็จะไม่มีเพทภัย

เมื่อวานเครือข่ายสลัม๔ ภาค ประสานรัฐบาลยกขบวนมายื่นหนังสือ

รัฐบาลก็ยินดีต้อนรับเพื่อช่วยหาทางออกแก้ปัญหาที่ค้างคาหมักหมมมานาน

สื่อเลือกข้างกลับโหมข่าวทางโซเชี่ยลมีเดียให้แตกตื่นว่าประชาชนบุกทำเนียบชุมนุมใหญ่ขับไล่นายกตู่ ว่าไปโน่น

 

 

7 hrs · -pz5JhcNQ9P.png

 

 

๒ บอกว่าถ้า พท ไม่เปลี่ยนจุดยืน ก็ไม่ร่วม(แปลว่าถ้าจะร่วมตั้งรัฐบาลก็แค่พูดว่า พท เปลี่ยนจุดยืน ใช่ไหม)

ก็ต้องตามดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปละครับ

อย่าลืมว่าคนไทย พศ นี้สามารถทราบคำตอบล่วงหน้านะครับ ก็ขนาดหวยมีหลายประตู

ยังแทงแม่นเลย เรื่องนี้แค่ร่วม ไม่ร่วม นะหมูมากๆๆๆ

 

 

ทำไมรัสเซียเสริมกำลังในซีเรียโดยไม่สนมะกัน

๑ ซีเรียเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของตะวันออกกลางและเป็นพื้นที่หลักที่ตะวันตกต้องการยึดตั้งเป็นประเทศใหม่โดยเดิมจะผนวกกับดินแดนอิรัคด้วย เมื่อพันธมิตรรัสเซีย ซีเรีย อิรัคอิหร่านทำลายแผนตั้งประเทศใหม่จึงต้องยึดซีเรียคืนให้เบ็ดเสร็จ ถึงมะกันจะอยู่ในโมซุลของอิรัคได้ก็ทำอะไรไม่ได้

๒ รัสเซียอ่านขาดว่ามะกันยังไม่พร้อมทำสงครามใหญ่ จึงขู่มากกว่าปกติเหมือนคนกลัวผีแล้วพูดเสียงดัง รัสเซียจึงไม่สน เสริมการยึดพื้นที่ซีเรียอย่่างเดียว อะไรที่ทำให้รัสเซียมั่นใจไว้วิเคราะห์อีกที

๓ นาโต้แตกเละ ขนาดเยอรมันยังหันไปจับมือกับอิหร่านเฉยเลย พันธมิตรอาหรับกับมะกันก็กำลังเละ ขนาดซาอุประกาศจะแฉว่าใครในวงอำนาจมะกันที่เป็นผู้บงการถล่ม twc เมื่อ 9/11

๔ ภายในมะกันเกิดจลาจลปั่นป่วน และในวงอำนาจส่วนส่วนกลางก็มีปัญหาระหว่่างฝ่่ายการเมืองกับ ๘๘ นายพล โดยเฉพาะอาการถังแตกที่เครื่องบินรบจำนวนมากต้องจอดทิ้งมานานแล้ว

๕ที่สำคัญคือความจำกัดเรื่องทหารราบที่มะกันหรือนาโต้ไม่สามารถระดมทหารราบเข้าไปในพื้นที่ได้ตามที่ต้องการ ขนาดอิรัคใหญ่โตมะกันส่งทหารไปได้แค่ ๑๐๐ คน ตรงข้ามฝ่้ายพันธมิตรรัสเซียฯ มีทหารราบไม่อั้น เฉพาะศึกยึดเมืองอาเลปโปในซีเรียที่เพิ่งเสร็จไปโดยพื้นฐานนั้น แค่กองกำลังของกองทัพฮิสบุลเลาะห์ก็มีรายงานข่าวว่ามีจำนวนถึง ๑๐,๐๐๐ คนแล้ว ยังมีหน่วยรบพิเศษของรัสเซียอีก ๓,๐๐๐ คน โดยยังไม่นับกองทัพหลักของซีเรียซึ่งเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมายอีก

เมื่อเผด็จศึกซีเรียได้ พันธมิตรรัสเซียก็จะยินอยู่ในฐานะที่ไม่พ่ายแพ้แล้ว จากนั้นก็คงยึดโมซุลของอิรัคต่อ แต่วิธีการนั้นคงใช้แผนเดิมคือล้อมแต่ไม่ตี พล่ากำลังของตะวันตกและทำลายความชอบธรรมทางการเมืองระหว่างประเทศไปเรื่อยๆ

เหล่่านี้ส่งผลกระเทือนต่อกองเรือที่ ๕ ของมะกัน และกระทบต่อการเชื่อมโยงกองเรื่องที่ ๕-๖และ ๗ ด้วย

แน่นอนว่ากระทบต่อการเชื่อมโยงแสนยานุภาพทางทะเลกับทางบกทั่วโลกด้วย

นี่ไงฐานะทางยุทธศาสตร์ของซีเรีย

 

 

ภาพนี้มีคอมเม้น

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รักเธอประเทศไทย

 

 

 

อพยพหนีตายเมื่อประเทศล่มสลาย สื่อจีนลงข่าวประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลกเพราะ 9ข้อนี้

http://www.kratisod.com/news/internews/250

 

เห็นแล้วสะเทือนใจคนอพยพหนีตายเมื่อประเทศล่มสลาย สื่อจีนลงข่าวประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลกเพราะ 9ข้อนี้

S__7446553.jpg

เห็นแล้วสะเทือนใจกับภาพของชาวแอลเบเนียที่อพยพหนีตายไปยังยุโรปในปี 1991 เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเมื่อแผ่นดินล้มสลาย.ผู้คนต้องลี้ภัยเพื่อความอยู่รอดโดยพวกเขาต่างอยากหนีออกนอกประเทศไปตายดาบหน้านั่นคือประเทศอิตาลี ในภาพจะเห็นผู้คนว่ายน้ำพยายามตะกายขึ้นเรือไปให้ได้ทั้งๆที่บนเรือเต็มแน่นไปด้วยผู้อพยพหลายร้อยหลายพัน เป็นภาพที่เห็นแล้วหดหู่ยิ่งนัก

S__7446554.jpg

หากเราไม่รักประเทศเราไม่กลมเกลียวร่วมมือรักสามัคคี คิดหรือว่าต่างชาติเขาจะมาจริงใจกับเราจริงๆ พวกเราชาวไทยต้องร่วมมือร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคช่วงนี้ให้ผ่านไปให้ได้ รักเธอประเทศไทย.เราจะช่วยกันแก้ไขปรับปรุงทุกปัญหาให้ดีกว่าวันวานที่ผ่านมา ล่าสุดสื่อจีนลงข่าวบอกว่าประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก 9 สิ่งที่บอกว่าประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก

S__7446555.jpg

เหตุผลที่ประเทศไทย เป็นสยามเมืองยิ้ม มีดังต่อไปนี้

  • ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวโลก ไม่ต้องกลัวอดตาย มีอาหารกินตลอดเวลา และส่งออกไปทั่วโลก
  • ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีป่าไม้ ภูเขา ทะเล ทองคำ จนได้ชื่อว่าดินแดนสุวรรณภูมิ

3.ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตแผ่นดินไหวโดยตรง แนวแผ่นดินไหวอ้อมประเทศไทยทั้งประเทศ ในขณะที่เกือบทั้งโลกอยู่ในเขตแผ่นดินไหวรุนแรง

Profughi_della_Vlora_in_banchina_a_Bari_8_agosto_1991.jpg

  • ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตพายุรุนแรง นานๆจะเจอสักครั้ง เพราะพายุไต้ฝุ่นส่วนใหญ่เกิดในทะเลจีนใต้ บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มาถล่มหนักเวียดนาม ลาว เขมรและอ่อนตัวลง กลายเป็นพายุธรรมดาเมื่อเข้าประเทศไทย
  • ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ในขณะที่ทุกประเทศในอาเซียนตกเป็นอาณานิคม
  • ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้พ่ายแพ้ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
  • คนทุกชนชาติ และทุกศาสนาในประเทศไทยมีสิทธิ เสรีภาพ มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
  • ประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ทรงมีโครงการในพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ โครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตรลดาทรงก่อตั้งมูลนิธิต่างๆมากมาย เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นต้น ทรงอุปถัมถ์พระศาสนา ภาษาไทย วัฒนธรรม ประเพณี พระราชพิธี งานช่างหลวง การศึกษา การแพทย์ การคมนาคม การอนุรักษ์ดินและน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ ป่าชายเลน เกษตรทฤษฎีใหม่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ
  • พระพุทธศาสนา เจริญที่สุดในโลกในประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพุทธมามกะ

อพยพหนีตายเมื่อประเทศล่มสลาย สื่อจีนลงข่าวประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลกเพราะ 9ข้อนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

14595590_1021081608013661_345017080132338516_n.jpg?oh=9309850707e6ff4d07ac0405f354a59b&oe=58734765

 

 

 

'กองหนุนที่คอยปกป้องคุ้มครองบ้านเมือง'

". . . ความจริงหกสิบแล้ว...

...มีโอกาสทำหน้าที่..เราก็ยังเป็นกองหนุนที่คอยปกป้องคุ้มครองบ้านเมือง...เรียกว่าเบรนแบงก์ (Brain Bank) ธนาคารสมอง...

 

..เรียกว่าคณะกลุ่มที่คอยจ้องดู เพื่อว่าจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อย่างไรบ้าง...

...คล้ายๆ เป็นผู้ช่วยของคนหนุ่มสาวซึ่งเป็นกำลังของแผ่นดินเรา

ถึงแม้จะหกสิบกว่า..แต่เรายังช่วยได้

เราจะคอยเพ่งพิจารณาทุกเรื่อง ที่ต่อไปจะเป็นปัญหาที่น่าห่วงใยของประเทศ. . ."

พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

พระราชทานในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต

เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๓

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Cr ตามรอยพ่อ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10348536_609113525877140_3840711357056400298_n.jpg?oh=6e4412d9463e52ce5348721e5edb0d1b&oe=5861F3E3

 

14502766_1019332601521895_9135725952004747982_n.jpg?oh=581220df358a27dcef00014d65c46531&oe=585FE708

 

แก้ปัญหาด้วยปัญญา

 

ปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีทางแก้ไขได้

 

ถ้ารู้จักคิดให้ดี ปฏิบัติให้ถูก

 

การคิดได้ดีนั้น มิใช่การคิดได้ด้วยลูกคิด หรือด้วยสมองกล

 

เพราะโลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไปมากเพียงใดก็ตาม

 

ก็ยังไมมีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใด

 

สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างสมบูรณ์

 

การขบคิดวินิจฉัยปัญหา จึงต้องใช้สติปัญญา

 

คือคิดด้วยสติรู้ตัวอยู่เสมอ

 

เพื่อหยุดยั้งและป้องกันความประมาทผิดพลาด

 

และอคติต่างๆมิให้เกิดขึ้น

 

ช่วยให้การใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาต่างๆ

 

เป็นไปอย่างเที่ยงตรง ทำให้เห็นเหตุเห็นผลที่เกี่ยวเนื่องกัน

 

เป็นกระบวนการได้กระจ่างชัด ทุกขั้นตอน

 

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร

 

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 สิงหาคม 2539

 

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล ดวงพระวิญญาณสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ได้โปรดอภิบาลรักษาองค์พ่อและแม่แห่งแผ่นดิน ให้ทรงพระสิริสวัสดิ์ หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน มีพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง ทรงพระราชประสงค์ในสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตราบชั่วนิรันดร์กาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ กราบแทบพระบาท

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Paisal Puechmongkol

 

2 mins · -pz5JhcNQ9P.png

 

 

จะด่วนหรือไม่ก็ให้เรตกันเองครับ

คนละดอก แต่ดอกใครจริงและหนักกว่า

หลังจากมะกันส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ออกบินขู่เกาหลีเหนือมา ๒ รอบและล่าสุดผู้บัญชาการทหารสูงสุดมะกันออกมาสำทับตามหลังคำขู่ของนายพลหลายคนของมะกันว่าจะส่งเรือรบติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ ไปทุกแห่งหนตามที่มะกันต้องการ และทุกเวลาตามที่มะกันต้องการ และจะอยู่นานถาวรเท่าใดตามที่ต้องการด้วย

ว้าวๆๆๆๆ พูดแบบนี้เหมือนเป็นจ้าวโลกเชียว

วันนี้รัสเซียไม่พูดพล่ามทำเพลง ส่งฝูงบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ติดอาวุธนิวเคลียร์บินลาดตระเวณไกล้แผ่นดินใหญ่มะกัย รวมทั้งแถวฮาวาย กวม และเพิลฮาร์เบอร์เฉยเลย ประสานเสียงกับทางกลาโหมรัสเซียว่าถ้ามีการถล่มกันรัสเซียสามารถถล่มมะกันให้ราบภายใน ๘ นาที กลายเป็นว่าตอนนี้มีเจ้าภาพ ๓รายแล้วที่ประกาศว่่าสามารถถล่มมะกันให้ราบได้คือรัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ

ใครสงสัยก็ลองย้อนไปอ่านบทวิเคราะห์เรื่องแสนยานุภาพทางนาวีของผมในประเด็นกองเรืองภาคเหนือและกองเรือแปซิฟิคของรัสเซียดูอีกทีครับ

โดยสรุปคือ ยุทธศาสตร์หลักของรัสเซียนั้น คุณมะกันจะคิดทำสงครามจำกัดเขต สงครามนิวเคลียร์จำกัดเขตที่ไหน ใครจะฉิบหายก็ว่าไป แต่รัสเซียจะทำสงครามนิวเคลร์จำกัดเขตเฉพาะกับแผ่นดินใหญ่ของมะกันด้วยเวลาเพียง ๘ นาที ดังที่วางแสนยานุภาพหลักไว้ที่กองเรือภาคเหนือและกองเรือแปซิฟิคที่คาบสมุทรคัมซักกาและวลาดิวอสต๊อกพร้อมอยู่นานแล้ว จุ๊ๆไม่รวมเรือดำน้ำล่วงหนซึ่งข้อยไม่มีข่าวเรื่องนี้นะคร้าบเจ้านาย

 

===

วันนี้7ตุลาแล้ว

1การสุมไฟเผาเมืองที่เริ่มมาแต่การดิสเครดิตรัฐบาล จนถึงการลากเด็กโจชั่วนักป่วนเมืองฮ่องกงปลอมชื่อแอบเข้าเมืองมาเป็นตัวเอกป่วนไทยให้ดังไปต่างประเทศโดยเตรียมสืี่อป่วนโลกคอยขับเคลื่อน เพื่อเริ่มต้นการชุมนุมไล่รัฐบาลในวันที่14ตุลา จุดไม่ติดเพราะคนไทยไม่อยากเป็นซีเรียจึงเห็นแต่หน้าเก่าและจอมเสือกชัดเจน แผนนี้พังแล้ว อาจมหัวโจกอาจต้องไปกินข้าวแดง

2ท่านแม้วไปอเมริกาเดินตามรอยนายกุเรนแห่งตุรกี แต่บทเรียนของตุรกีดังมากและล้มเหลวจนทำให้ตุรกีเลิกคบมะกันหันไปจับมือกับรัสเซียแล้ว คงไม่เกิดเหตุซ้ำรอยในไทยนะจ๊ะ

มิน่าก่อนนี้ไม่กี่วันสื่อเลือกข้างไปถามนายทหารใหญ่เรื่องปฏิวัติซ้อนแต่ถูกย้อนเสียหน้าหงาย ลองต่อจิ๊กซอดูสิว่าเขาคิดทำอะไร

3มะกันขู่รัสเซียหลายระลอกให้หยุดถล่มพวกก่อการร้ายในอาเลปโป้ ไม่งั้นโดนนิวเคลียร์แน่ รัสเซียไม่สนเดินหน้าเต็มตัว สามวันผ่านไปมะกันยังเงียบ

4ซาอุจะซ้อมรบในช่องแคบเฮอร์มุสใกล้อิหร่านๆไม่พูดมากเตือนเบาๆว่าถ้าล้ำน่านน้ำโดนถล่มโดยไม่ต้องเตือนแล้วเตรียมขีปนาวุธเต็มพิกัด อ้อ เตรียมถล่มถึงอิสราเอลด้วย

5เกิดปรากฎการณ์มะกันทุ่มตลาดทองขายทองมหาศาลแต่เป็นทองกระดาษสะทัอนว่าต้องการเงิน และช่วงแรกมีคนหลงชืี้อ พอข่าวชัดก็จะเทขายทองกระดาษและหาทองจริง ราคาทองจริงจะขึ้นแรงอีกทีทองกระดาษจะเป็นกงเต็ก ฝ่ายหนึ่งจะขายกระดาษมาทำสงครามกับอีกฝ่ายที่มีเงินไม่อั้น ผลจะเป็นเช่นไร

ตามดูการเคลื่อนไหวของมะกันอีกไม่เกินสามวันก็น่าจะเห็นอะไรชัดขึ้น

6 ไม่ต้องสงสัยว่า รัสเซียเตรียมการในซีเรียมาก จะไม่สิ้นเปลืองและอ่อนกำลังหรือ เขาคงคิดเตรียมการพร้อมหมดแล้ว รัสเซียเคลื่อนไหวเฉพาะจุด ไนซีเรีย แต่มะกัน ต้องเคลื่อนไหวทั่วโลก ต้นทุนต่างกันลิบลับ

===

 

 

21040.jpg?t=1475808772055

 

ลอยตัวค่าเงินบาท 2540 บนความเสียหาย มีใครได้ประโยชน์?

 

 

 

กรณีเกี่ยวกับการลอยตัวค่าเงินบาท เมื่อปี 2540

มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจ 2 คดีแล้ว

1) ล่าสุด คือ คำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่แบงก์ชาติฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการ ธปท. กรณีทำธุรกรรมใช้เงินทุนสำรองปกป้องค่าเงินบาทเรียกค่าเสียหาย 1.86 แสนล้านบาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายเริงชัยจ่ายค่าเสียหาย 1.85 แสนล้านบาท

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องระบุว่าการกระทำของนายเริงชัยไม่ได้เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ เป็นไปตามวิสัยที่เกิดขึ้นขณะนั้น

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

เป็นอันว่า นายเริงชัยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย

2) คดีฮือฮาก่อนหน้านี้ คือ คดีที่นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตสส. พรรคประชาธิปัตย์ กรณีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เกี่ยวกับการลดค่าเงินบาท

โดยนายสุเทพตั้งข้อสงสัยทำนองว่านายโภคินได้นำมติจากที่ประชุมลับเรื่องการลดค่าเงินบาท ไปบอกทักษิณ ชินวัตร ทำให้บริษัทของทักษิณได้ประโยชน์

ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 5730/2550 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2550 ยกฟ้อง

ในคดีนี้ จำเลยนำสืบว่า ขณะเกิดเหตุ เป็น สส. อภิปรายในสภาเกี่ยวกับพฤติกรรมของโจทก์ที่เกี่ยวข้องกับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ในเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท ประเพณีปฏิบัติที่ทำกันทุกสมัยในกรณีที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมจะมีเพียง 3 คน คือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่การประชุมในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 นั้น โจทก์เข้าร่วมประชุมด้วยทั้งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทย

ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้ได้ทำเป็นความลับโดยมีผู้รู้เห็นเพียง 3 คน คือ ตนเอง นายทนงพิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

แต่จำเลยทราบว่า โจทก์เข้าร่วมประชุมด้วย โดยทราบจากนายภูษณปรีย์มาโนช นายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ และนายเริงชัย มะระกานนท์ เมื่อจำเลยทราบว่าโจทก์เข้าร่วมประชุมด้วย จึงเห็นเป็นข้อพิรุธว่าโจทก์สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการค้าขายเก็งค่าเงินบาทได้ผลกำไร

การอภิปรายของจำเลยไม่เคยใช้ข้อความยืนยันว่าโจทก์ทุจริต แต่จะใช้คำว่าตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมของโจทก์ว่าไม่เหมาะสม ไม่โปร่งใส สงสัยว่าโจทก์จะนำความลับเกี่ยวกับการปรับลดค่าเงินบาทไปบอกดอกเตอร์ทักษิณ เพราะเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ดอกเตอร์ทักษิณไม่ได้รับความเสียหายจากการปรับค่าลดค่าเงินบาทในครั้งนี้ แต่กลับได้รับผลกำไรและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลดค่าเงินบาท

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 1 (นายสุเทพ) เป็น สส. มีสิทธิและหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลพลเอกชวลิตได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โจทก์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกชวลิตเป็นบุคคลที่ต้องรับการตรวจสอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

“....การกระทำของพลเอกชวลิตที่ยอมให้โจทก์ได้ร่วมรับรู้ถึงการปรึกษาหารือและตัดสินใจเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท อันเป็นเรื่องความลับที่ และหลังจากนั้นยังยืนยันในที่สาธารณะต่อสื่อมวลชนมาโดยตลอดว่า มีผู้รู้ถึงการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเพียง 3 คนเท่านั้น คือ ตัวพลเอกชวลิต นายทนง และนายเริงชัย เป็นข้อพิรุธสำคัญ

ประกอบกับพันตำรวจโททักษิณซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจการค้ารายใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบเสียหายรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอย่างผู้ประกอบธุรกิจการค้าใหญ่รายอื่นที่มีหนี้สินเป็นเงินตราต่างประเทศที่ต่างประสบความเสียหายอย่างรุนแรง ย่อมเป็นมูลเหตุเพียงพอที่จะทำให้จำเลยที่ 1 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายตั้งข้อสงสัยโจทก์ได้

จำเลยที่ 1 เพียงแต่ตั้งข้อสงสัยว่าโจทก์เป็นผู้นำเอาความลับที่สุดดังกล่าวที่รู้มาโดยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและไม่ควรจะรู้ไปบอกพันตำรวจโททักษิณ ไม่ได้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง

การตั้งข้อสงสัยดังกล่าวของจำเลยที่ 1 จึงมีมูลเหตุเพียงพอที่จะให้ตั้งข้อสงสัยเช่นนั้นได้ ไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอย่างเลื่อนลอย อันจะทำให้เห็นเจตนาร้ายของจำเลยที่ 1 ที่จงใจฉวยโอกาสในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้านให้ร้ายโจทก์โดยปราศจากเหตุอันสมควร

การอภิปรายของจำเลยที่ 1 ที่พาดพิงถึงโจทก์นั้นยังอยู่ในขอบเขตของการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของพลเอกชวลิตนายกรัฐมนตรีเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน อันเป็นวิสัยที่พึงกระทำคำอภิปรายของจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป”

3)การลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงจริง

เสียหายทั้งต่อรัฐ ต่อเอกชน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

หลายคน หลายครอบครัว เหมือนตายทั้งเป็น

บางคน ฆ่าตัวตาย

ในความเสียหายร้ายแรงนั้น มีธุรกิจของใครได้สบายตัว กระเป๋าตุง?

สารส้ม

 

 

 

 

กรณี ‘โจชัว หว่อง’ สุมไฟชักศึกเผาบ้าน?

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถนนบางนา-ตราด เปลี่ยนชื่อเป็น ถนนเทพรัตน เทิดพระเกียรติฉลองพระชนมายุ 5 รอบ

 

tepparatroad1.jpg

 

ถนนบางนา-ตราด เปลี่ยนชื่อเป็น ถนนเทพรัตน เนื่องในโอกาส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ

 

วานนี้ (4 ตุลาคม 2559) จส.100 มีรายงานว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานชื่อทางหลวงหมายเลข 34 หรือถนนบางนา-ตราด เป็นถนนเทพรัตน ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ วันที่ 2 เมษายน 2558 ประดับที่ป้ายชื่อทางหลวงดังกล่าวด้วย



ทั้งนี้สำหรับทางหลวงหมายเลข 34 หรือ ถนนบางนา-ตราด ตั้งอยู่ในช่วงระหว่าง กม.0+000 ถึง กม.58+855 หรือช่วงแยกบางนา ถึงนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร

 

ภาพและข้อมูลจาก จส.100

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

14611022_326466381041783_3526766507762015033_n.jpg?oh=bb8e729b11b791454aca8278774bb7ea&oe=58ABB8E7

 

 

อ้อนเก่งแล้ว

  • Friday, October 7, 2016 - 00:00
     
     
     
     
     
    051059_naayk_00.jpg
    เมื่อวันพุธ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกคณะไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วม และมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องเมืองกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา
    คณะ “บิ๊กตู่” เที่ยวนี้น่าสนใจ เพราะเหมือนเป็นการพา 2 ขุนศึกอย่าง “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กับ “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ไปเปิดตัวด้วย
    โดยเฉพาะ “บิ๊กแดง” ที่งานนี้นอกจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว “บิ๊กตู่” ก็ฝากความหวังไว้ที่เจ้าตัวในการนำนายทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ภาคกลางในยามน้ำท่วม
    ไฮไลต์การลงพื้นที่ของนายกฯ หนนี้ มีเยอะพอสมควร ตั้งแต่เท้าแตะพื้นที่ก็หยอดชาวบ้านชาวช่องที่มานั่งรอกันตั้งแต่เช้า แม้ตัวไม่มา แต่ใจอยู่นี่!
    แถมยังชื่นชม สมัยเป็น ผบ.ทบ. ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เคยบินตรวจน้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา “บิ๊กตู่” บอกว่า ตอนนั้นไม่เจอพื้นที่ดินเลย แต่ชาวกรุงเก่าเข้มแข็งอยู่กันได้
    กล่าวกับพี่น้องประชาชนเสร็จ เดินทางลงเรือไปแจกของชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกน้องช่างรู้ใจ เอาไมค์ลอยให้ “บิ๊กตู่” พูดตลอดเส้นทาง
    ระหว่างอยู่กลางลำน้ำ ก็พูดผ่านไมค์ให้พี่น้องสองฟากฝั่งที่ตัวเองไปไม่ถึง “อดทนกันหน่อยนะ ตัวไปไม่ถึง แต่ใจถึง ไปเยี่ยมเยียน นั่นๆ บ้านนั้น ต้นกล้วยล้มใช่มั้ย ไม่เป็นไร ปลูกใหม่นะๆ”
    ลีลาลูกอ้อนนับวันชักไม่ธรรมดาซะแล้ว “ลุงตู่”.

 

====

http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1

"ศาสนา-การเมือง" เรื่องของเทียม

อีก ๙ วันก็ "ออกพรรษา"! ไม่ทราบว่า "สมีโย" หายป่วยโรคตีนโตแล้ว หรือ อาการลุกลาม โตจากตีน ถึงโคนสะเอวแล้ว? แต่ที่ทราบ เมื่อวาน (๖ ต.ค.๕๙) สำนักอัยการสูงสุด "เลื่อนนัดสั่งคดี" นายศุภชัย, ธัมมชโย และพวก รวม ๕ คน ในความผิดฐาน "สมคบกันฟอกเงิน-รับของโจร" ออกไปอีก เป็นครั้งที่ ๔! ก็อย่าเพิ่ง @#?@?$#@!!! อัยการท่าน อ่านนี่ก่อน ค่อยโชว์วาทะกันทีหลังก็ยังไม่สาย เอกสารสำนักงานอัยการสูงสุด เผยแพร่ ความตอนหนึ่ง มีว่า

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

 

Sutin Wannabovorn

Yesterday at 12:57 ·

-pz5JhcNQ9P.png

 

 

 

ตรวจสอบต้องรอบด้าน

วันนี้แปลกใจมากที่มีคนขยันการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเอาเป็นเอาตาย ถือได้ว่าเป็นเรื่องดี แต่จะเป็นเรื่องดีมากถ้าสื่อ เจ้าหน้าทำเนียบ การบินไทยได้ตรวจสอบกันอย่างขมีขมันจริงจังเมื่อสิบปีก่อน เหมือนกับการตรวจสอบในวันนี้บ้านเมืองคงไม่วิบัติฉิบฉายจน คมช และ คสช ต้องเข้ามาควบคุมอำนาจ

กลางเดือน ก.ย. 2549 คณะนายกฯรักษากร สื่อมวล ตลอดเจ้าหน้าจาทำเนียบรัฐบาล นำคณะใหญ่เดินทางไปประเทศฟินแลนด์ ด้วยเครื่องบินจัมโบ้ 747 ชื่อเครื่องบินไทยคู่ฟ้า ถึงฟินแลนด์นายกฯรักษาการและคณะไปทำอะไรไม่เป็นที่เปิดเผย แต่หลังจากเครื่องไทยคู่ฟ้า จอดอยู่ทีสนามบินเมืองเฮลซิงกิ สามวัน นายกรักษาการได้เช่าเหมาลำเครื่องจัมโบ้ 747 ของสายการบินไทยอีกหนึ่งลำ เพื่อขนกระเป๋าขนาดใหญ่ 76 ใบ โดยมีผู้โดยสารควบคุมกระเป๋าไปเพียง 6 คน บินออกจากสนามบินทหาร (บน. 6) ตรงไปยังฟินแลนด์ เพื่อรับนายกรักษาการและคณะ เดินทางต่อไปนิวยอร์ก ว่ากันเพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติ

 

วันที่ 19 ก.ย. ทหารยึดอำนาจในกรุงเทพฯ นายกรักษาการและ คณะใช้เครื่องบินจัมโบ้ 747 ที่เหมาลำไปพร้อมกับกระเป๋า 76 ใบ และผู้โดยสารเพียง 6 คน บินต่อมาลอนดอน สถานที่ที่เขาใช้ลี้ภัยอยู่เป็นเวลานาน เครื่องบินไทยคู่ฟ้าจอดทิ้งอยู่สนามบินในเมืองเฮงซิงกิ 19 วัน ก่อนกองทัพอากาศจำนำกลับ เครื่อง 747 ที่เหมาลำไปจากการบินไทยหลังส่งอดีตนายกลงลอนดอนแล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ตั้งแต่ 19 ก.ย. 49 จนถึงวันนี้ผมยังไม่เห็น สื่อมวลชน นักเคลื่อนไหว ปปช ปปง สตง ฯลฯ ได้ตั้งคำถามหรือตรวจสอบ ว่าตอนนั้นทำไมคณะเดินทางจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบิน 747 ถึงสองลำ ตอนออกจากกรุงเทพฯไปกับเครื่องบินไทยคู่ฟ้าพร้อมกระเป๋าเดินขนาดใหญ่ 50 กว่าใบ และทำไมต้องเช่าเครื่องจัมโบ้ 747 ของสายบินไทยไปอีกหนึ่งลำ เพื่อให้ผู้โดยสารเพียงหกคน พร้อมกระเป๋า 76 ใบไปรับช่วงต่อเครื่องบินไทยคู่ฟ้า

เจ้าหน้าการบินไทย เจ้าหน้าที่ทำเนียบ ทีแอบเผยรายการอาหารและรายชื่อผู้โดยสาร เปิดเผยได้ไหมครับว่าค่าเช่าเครื่องบินจัมโบ้ 747 ใส่กระเป๋าขนาดใหญ่ไป 76 ใบกับผู้โดยสารเพียง 6 คน ค่าเช่าเท่าไหร่ ใครเป็นคนจ่าย สำนักข่าวจอมแฉทั้งหลายช่วยสร้างความกระจ่างหน่อยได้ไหมว่าทำไมพวกท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยในระหว่างที่คณะผู้เดินทางชุดนั้นมีอำนาจ

ยกเรื่องขึ้นมาพูดเพราะเห็นหลายคนขุดคุ้ยกันอย่างขมีขมัน ให้เกิดความประหลาดใจว่าผีความเป็นธรรม ผีจริยธรรมได้สิงสื่อและนักตรวจสอบไทยแล้ว จึงอยากได้ความกระจ่างเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง

 

tnews_1475817514_6917.jpg

ตรวจสอบด่วน!!!ย้อนสอบ"ทักษิณ"เหมาลำบินไทยขนกระเป๋า76ใบไปลอนดอนปี49!!(รายละเอียด)

ย้อนสอบทักษิณเหมาลำบินไทยขนกระเป๋า76ใบไปลอนดอนปี49

HEADSHOT.TNEWS.CO.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง

10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้างข้อมูลดีๆ ที่พี่แนทนำมาฝากกันในบทความนี้ ไม่ได้หวังให้น้องๆเลิกทานเลยสะทีเดียว เพราะแต่ละอย่างเนี่ยมันอร่อยๆทั้งนั้นเลย (บ

BLOG.EDUZONES.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พี่น้อง ผองเพื่อน ณที่นี้มะมีความแตกต่าง

สนุก ผจญภัย อ่อนโยน ห่วงใย ด้วยรัก

Cr pinterest.com

 

3d4400736813400288f3f08f5005819b.jpg

 

e8b669ed21fe5e4fe4e34120a39ab2ec.jpg719215ba2a12202cd09c6641d6315f8a.jpg

 

072394f4259dc7af335bf7f180929b85.jpg

 

fc63540aaf2de9d30b5bfc1593974e94.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลูกวาฬกตัญญูช่วยแม่วาฬเกยตื้น

 

https://www.youtube.com/watch?time_continue=103&v=kn9-yBih2L4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...