ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 (มีการแก้ไข) ดูภาพนี้ไว้...แล้วคุณจะมีพลังใจ ได้มีโอกาสมาที่ หาดเตยงาม ที่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ..สถานที่ประวัติศาสตร์ของชาติไทย ที่จารึกอยู่ในความทรงจำของคนไทยทั้งชาติ...ด้วยหาดแห่งนี้..เป็นสถานที่ที่....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแล่นเรือใบ... จากวังไกลกังวล หัวหิน ลัดข้ามอ่าวไทย.. มาขึ้นฝั่งที่ หาดเตยงาม.. แห่งนี้ได้สำเร็จ และทรงปักธงราชนาวิกโยธินที่พระองค์นำมาพร้อมกับ เรือ เวคา (VEGA) มาปักไว้ที่นี่ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...ทรงแล่นเรือใบ ชื่อเวคา (มาจากชื่อ ดาวเวคา VEGA ที่สดใสบนท้องฟ้า) ออกจาก วังไกลกังวล หัวหิน เวลา 04.28 น. ลัดข้ามอ่าวไทย ใช้เวลา 17 ชั่วโมง ระยะทาง 111 กิโลเมตร มาขึ้นที่ หาดเตยงาม สัตหีบ จ.ชลบุรี เวลา 21.28 น. วันที่ 19 เมษายน 2509 นับเป็นพระปรีชาสามารถของพระองค์อย่างยิ่ง ที่ต้องฝ่าฟันคลื่นแรงลม ในท้องทะเลอย่างโดดเดี่ยว ด้วยพระองค์เอง วันศุกร์ ที่ 30 มีนาคม 2555 ดูภาพนี้ไว้...แล้วคุณจะมีพลังใจ Posted by คนดีมีวินัย , ผู้อ่าน : 1763 , 13:41:24 น. หมวด : ต่างประเทศ ถูกแก้ไข มีนาคม 31, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 เศรษฐกิจต่างประเทศ ดอลลาร์อ่อนเทียบสกุลเงินอื่น ดอลลาร์อ่อนเทียบสกุลเงินอื่น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส สถานการณ์โลก ใกล้เปิดฉากเลือกครั้งตั้งประวัติศาสตร์พม่า การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของพม่า ที่มีนางอองซาน ซูจีเข้าร่วม กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในวันอาทิตย์นี้ท่ามกลางการจับตามองจากคนทั้งโลก อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 สุขภาพ แอปเปิล...ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก สวย ใส เปล่งประกายออร่ามาแต่ไกล เป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝัน แต่จะทำยังไงให้เข้าใกล้คำนั้น ทางลัดที่ลับเฉพาะ มาบอกสาวๆ ด้วยการเลือกรับประทาน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 พระเมรุ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระเมรุ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีเมื่อวานเย็นไปเดินถ่ายรูปที่สนามหลวง พระเมรุเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สร้างเกือบเสร็จแล้ว เสียดายเข้าไปถ่.... (INDYLOVE) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 (มีการแก้ไข) วัยรุ่นเป็นวัยของการต่อต้าน..? ผมว่ามันคงไม่ใช่ เพราะมันเป็นวัยที่เราเริ่มแสดงความเห็นอย่างมั่นคงขึ้นมากกว่า ถ้ามองไปผิดทาง เราก็ไม่มีทางเจอของที่หาหรอ โลกนี้มีคนเยอะไป วางตัวยังไงก็ไม่ถูกใจทุกคน บนโลกที่ทุกอย่างเคลื่อนที่ตลอดเวลา สิ่งใดหรือคนใดที่หยุดรอคุณล้วนมีความหมายสำคัญทั้งสิ้น ตอนนู้น สิงคโปร์กำลังวิ่ง ประเทศไทยกำลังเดิน ตอนนี้ พม่าเริ่มเดินหน้าอย่างช้า ๆ ประเทศไทยกำลังวิ่งถอยหลัง วาทะ วัยรุ่น . ถูกแก้ไข มีนาคม 31, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 Read & Write เริ่มแล้ว ! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 40 กลับมาพบบรรดาหนอนหนังสืออีกครั้ง สำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 40 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 10 คนรักการอ่านต้องเชื่อ "สตีฟ จ็อบส์ ยังไม่ตาย!" อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 นิตยสารซีเครท : Vol.4 No.90 26 March 2012 Joyful Life & Peaceful Death เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร พระไพศาล วิสาโล แบ่งปันบน facebook Share ยูริ กาการิน เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ท่องอวกาศและโคจรรอบโลก เรื่องราวของเขากลายเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คนทั้งโลกเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว อีกทั้งยังสร้างชื่อเสียงให้แก่สหภาพโซเวียตในฐานะผู้นำด้านอวกาศก่อนที่จะเสียตำแหน่งให้แก่สหรัฐอเมริกาในไม่กี่ปีต่อมา มีเรื่องเล่าว่าระหว่างที่เขาล่องลอยอยู่ในอวกาศและกำลังพิศวงอยู่กับโลกสีครามอันงดงามเบื้องล่างนั้น เขาได้ยินเสียงเหมือนเหล็กกระทบกัน ดัง ปิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ เขาพยายามหาที่มาของเสียง เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ แต่ก็หาไม่พบ ผ่านไปเป็นชั่วโมง เสียงนั้นก็ยังดังต่อไป ปิ๊ก ๆ ๆ ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งรู้สึกรำคาญกับเสียงนั้น เขาพยายามสืบหาว่าเสียงมาจากที่ใด จะได้กำจัดเสียงนั้น แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ลำพังการอยู่ในห้องนักบินที่คับแคบ เขยื้อนขยับแทบไม่ได้ ก็สร้างความอึดอัดแก่เขาอยู่แล้ว เมื่อมีเสียงปิ๊ก ๆ ๆ ๆ รบกวนไม่หยุดซ้ำเข้าไปอีก เขาก็เริ่มกระสับกระส่าย ยิ่งคิดต่อไปอีกว่าเขาจะต้องอยู่กับเสียงนี้อีกหลายชั่วโมง เขาก็หัวเสียขึ้นมาทันที แต่ก็มีวูบหนึ่งที่เขาได้สติ เกิดความคิดขึ้นมาว่า ในเมื่อหนีเสียงนี้ไม่พ้น ทำไมไม่ลองทำใจรักมันดูล่ะ แล้วเขาก็หลับตา ทำใจสงบ และจินตนาการว่าเขากำลังได้ยินเสียงเพลงบรรเลง สักพักใหญ่เขาก็ลืมตาขึ้น ปรากฏว่าเสียงปิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ หายไป สิ่งที่มาแทนที่คือเสียงเพลง เขาแย้มยิ้มทันที นับแต่นั้นบรรยากาศในห้องนักบินก็เปลี่ยนไป ความอึดอัดกลายเป็นความผ่อนคลาย จนกระทั่งยานวอสต็อค ๑ พาเขากลับมาสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัย น่าคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับกาการินหากเขายังคิดต่อสู้หรือเป็นปฏิปักษ์กับเสียงประหลาดนั้น เขาอาจคลุ้มคลั่ง หรือเป็นประสาทอ่อนๆ ไปเลยก็ได้ แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเพียงแต่หันมาทำใจรักเสียงนั้น เรื่องราวของเขาบอกเราว่า อะไรเกิดขึ้นกับเรา ไม่สำคัญเท่ากับว่าเรารู้สึกกับสิ่งนั้นอย่างไร เสียงปิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ อาจทำให้ใครบางคนเป็นบ้าไปได้หากรู้สึกจงเกลียดจงชังมันอย่างรุนแรง แต่มันกลับกลายเป็นเสียงเพลงกล่อมใจขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกรักมันหรือเป็นมิตรกับมัน คนเรานั้นเมื่อมีอะไรมากระทบใจ ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ เรามักทำอย่างใดอย่างหนึ่งคือ จัดการกับมัน หรือไม่ก็หนีไปไกล ๆ เช่น ถ้าเจอเสียงดัง ก็หาทางระงับเสียงนั้น หรือไม่ก็เดินห่างจากเสียงนั้น แต่บ่อยครั้งเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำทั้งสองอย่างได้ หรือทำแต่ไม่สำเร็จ สิ่งที่ตามมาก็คือ ความทุกข์ หลายคนมักมองว่าที่ตนทุกข์นั้นเป็นเพราะเสียงดังกล่าว แต่แท้จริงแล้ว สาเหตุแห่งความทุกข์อยู่ที่ใจของตนเองต่างหาก นั่นคือความรู้สึกปฏิเสธ ผลักไส ชิงชังเสียงนั้น ยิ่งรู้สึกลบต่อเสียงนั้นมากเท่าไร ก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น บางคนถึงกับคุมอารมณ์ไม่อยู่ ออกไปทะเลาะวิวาทเจ้าของเสียง ซึ่งอาจเป็นเพื่อนบ้านที่กำลังเลี้ยงฉลองหรือเปิดเพลงดัง บางกรณีถึงกับฆ่ากันตายเพราะเหตุดังกล่าว ในชีวิตของเรานั้น มีอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่างที่รบกวนจิตใจของเรา ไม่ใช่แต่เสียงประหลาดเท่านั้นในบรรดาสิ่งรบกวนเหล่านั้น มีมากมายที่เรามิอาจหนีพ้นหรือจัดการกับมันได้ อย่างน้อยก็ช่วงระยะเวลาหนึ่งดังนั้นแทนที่จะตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับมัน จะไม่ดีกว่าหรือหากเราทำใจให้เป็นมิตรกับมันหรือรักมัน เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะช่วยให้เราอยู่กับมันอย่างมีความสุข ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นงานการ ภูมิอากาศ จราจรที่แน่นขนัด หรือแม้แต่รูปร่างทรวดทรง หลายคนทำงานอย่างมีความทุกข์ แต่เราสามารถจะทำงานอย่างมีความสุขได้หากเรียนรู้ที่จะรักงานนั้น แม้รูปร่างหน้าตาเราจะไม่สะสวยเหมือนคนอื่น แต่เราก็สามารถอยู่อย่างมีความสุขได้หากเราเลิกชิงชังรังเกียจร่างกายของตนเอง จริงอยู่ปัญหาบางอย่างสมควรจะแก้ไข แต่หากยังแก้ไขไม่ได้ เราก็ควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุขหรือไม่ทุกข์มากไปกว่าเดิม นั่นคือหันมาเป็นมิตรกับมัน หรืออย่างน้อยก็ไม่ปฏิเสธชิงชังมัน อะไรก็ตามที่เรารังเกียจชิงชัง สิ่งนั้นจะมีอำนาจหรืออิทธิพลทางลบต่อเรา และยิ่งเราผลักไสมันออกไป มันก็ยิ่งตามมารังควาญเรา ยิ่งปฏิเสธก็ยิ่งนึกถึง เคยมีการทดลองให้อาสาสมัครนั่งอยู่คนเดียวในห้อง ทุกคนได้รับคำสั่งว่า จะคิดอะไรก็ได้ มีเงื่อนไขอย่างเดียวคือห้ามคิดถึงหมีขาว เมื่อใดก็ตามที่คิดถึงหมีขาว ให้กดกริ่งทันที ผู้ทดลองให้คำสั่งได้ไม่นานเท่าใด เสียงกริ่งก็ดังระงมไปทั่ว ไม่เพียงแต่สิ่งรบกวนจิตใจเท่านั้น สิ่งที่สร้างความทุกข์ทางกายก็เช่นกัน เช่น โรคภัยไข้เจ็บ หรือความเจ็บปวด ความทุกข์ส่วนหนึ่งมักเกิดจากใจที่ปฏิเสธผลักไสอาการดังกล่าว หากโรคภัยไข้เจ็บหรือความเจ็บปวดนั้นอยู่ในวิสัยที่จะเยียวยาได้ ก็คงไม่เป็นปัญหามากนัก แต่ในความเป็นจริงมีโรคภัยไข้เจ็บและความเจ็บปวดหลายประเภทที่ยากแก่การเยียวยาได้ ดังนั้นหากตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว มีทางออกใดเล่าจะดีไปกว่าการทำใจเป็นมิตรกับโรคภัยไข้เจ็บและความเจ็บปวด มีผู้ป่วยมะเร็งหลายคนที่พบว่าความทุกข์บรรเทาลงมากเมื่อหันมาเป็นมิตรกับมะเร็ง บางคนเรียกสิ่งแปลกปลอมในหน้าอกของตนว่า "คุณก้อนมะเร็ง" ถึงที่สุดแล้ว ไม่มีใครหนีความแก่ ความเจ็บ และความตายพ้น ในเมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ แทนที่จะทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับมัน จะไม่ดีกว่าหรือหากเราหันมาเป็นมิตรกับมัน อะไรก็ตามที่เราหันมาเป็นมิตรได้ สิ่งนั้นจะคลายพิษสงลง และอาจกลายมาเป็นคุณแก่เราด้วยซ้ำ จึงไม่ต้องแปลกใจที่ครูบาอาจารย์ หลายท่านย้ำนักย้ำหนาว่า พบทุกข์ก็เห็นธรรม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 (มีการแก้ไข) เจ้าเหมียวเลี้ยงเชื่อง ลูกสาวของเราเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยง แต่เลี้ยงไปสักพักฉันก็เริ่มไม่สบอารมณ์ เพราะเจ้าเหมียวยึดเอาด้านหลังโซฟาที่เราซื้อมาใหม่เป็นเครื่องลับกรงเล็บให้แหลมคม “ไม่ต้องห่วงหรอก” สามีบอก “เดี๋ยวผมจะฝึกมันเอง” หลายวันต่อมา ฉันเฝ้าดูสามีค่อยๆ “ฝึก” เจ้าเหมียวสมาชิกใหม่ของบ้านอย่างใจเย็น ทุกครั้งที่มันออกแรงเกาโซฟาแรงๆ สามีก็จะอุ้มไปไว้ด้านนอกเพื่อให้รู้ว่าห้ามเกาโซฟา เจ้าเหมียวเรียนรู้ได้เร็วมาก เพราะช่วง 16 ปีต่อมา ทุกครั้งที่อยากออกไปข้างนอก มันจะเกาด้านหลังโซฟาสุดแรง Submitted by gclf.net ถูกแก้ไข มีนาคม 31, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 31, 2012 (มีการแก้ไข) หากมัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง งานของคุณก็จะไม่มีวันสร็จ 1. จำเดดไลน์ไว้ให้ดี ในขณะที่คุณอาจเลื่อนลอยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เมื่อภารกิจได้รับเดดไลน์ นั่นแปลว่ามันสำคัญจริงๆ เพราะเดดไลน์ไม่ได้สำคัญต่อคุณคนเดียวเท่านั้น ยังสำคัญต่อเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณทำงานไม่ทัน ทีมงานคนอื่นอาจเห็นว่าคุณไม่ให้ความเคารพและไม่รับผิดชอบ 2. จด ไม่ว่าจะใช้กระดาษหรือออร์แกไนเซอร์ การจดเดดไลน์เป็นสิ่งสำคัญมาก 3. แบ่งงาน หลายคนรู้สึกว่าเดดไลน์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหากเราแบ่งมันออกเป็นเดดไลน์ย่อยๆ เช่น หากคุณมีพรีเซนต์วันศุกร์ ก็ลองกำหนดให้สไลด์เสร็จภายในวันอังคารสัก 70% แล้วที่เหลือเสร็จภายในวันพฤหัสบดี จะช่วยให้งานไม่ทับถมกันก่อนถึงเส้นตาย 4. มีตาข่ายรองรับ ถ้าคุณมีเดดไลน์ อย่าให้งานมารวมกันอยู่ในวันสุดท้าย ให้กำหนดเดดไลน์ส่วนตัวเป็นวันก่อนหน้า เพื่อที่คุณจะได้ตรวจความถูกต้องหรือซ้อมพรีเซนต์อีกรอบ หรือไม่ก็ทำโปรเจ็กต์อื่นๆ นี่จะช่วยให้งานคุณไม่ล่าช้าและยังได้เวลาพิเศษเผื่อมีปัญหาที่ต้องการการแก้ไขด้วย ขอขอบคุณ :นิตยสาร Lisaผู้สนับสนุนเนื้อหา ถูกแก้ไข มีนาคม 31, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 1, 2012 วันอาทิตย์ คิดดี มีความสุข น่าจะลุก ออกกำลังกายใจ ให้ครื้นเครง จะร้องเพลง เต้นระบำ ปั่นจักรยาน เบิกบานใจ เดินเล่น วิ่งเล่นหรือไทเก็ก ชวนลูกหลานวิ่งไลจับ ตีเเบต โยนบอลสารพัด ได้ไล่ฟัดเล่นกันนั่นละดี ได้หัวเราะเล่นสนุก ทำได้ทุกสถานที่ เลือกสักอย่าง ให้เหมาะนะคนดี เวลาว่างมีไว้ให้รื่นรมณ์ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 1, 2012 (มีการแก้ไข) รับมือกับอากาศเปลี่ยนแปลง Posted by piyawan on 20 May, 2009 อาการเหนื่อยเพลียเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงไม่ใช่โรค แต่คนจะรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายกำลังปรับตัวกับอากาศที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ ดร.ฟรัง เฟ็กเทเลอร์ แพทย์ชาวเยอรมัน จากเมืองเบอร์ลิน กล่าวว่า เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง ร่างกายเราต้องการเวลาในการปรับตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์ ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ไวกับอากาศเปลี่ยนแปลงก็คือ 1. เข้านอนเร็วขึ้น เพื่อจะได้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 2. ดื่มน้ำให้มาก เนื่องจากความดันโลหิตต่ำจะทำให้ง่วงเพลีย และการขาดน้ำก็ทำให้มีอาการดังกล่าวเหมือนกัน 3. ออกกำลังกาย ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เช่น จ็อกกิ้ง เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือหากมีเวลาเมื่อตื่นนอนก็ควรยืดเส้นยืดสายบนเตียงนอนก่อนลุกขึ้นทำกิจธุระ 4. อาบน้ำเย็นสลับน้ำอุ่น หากจำเป็นต้องตื่นแต่เช้า งัวเงีย ไม่อยากขยับตัวเลย ลองอาบน้ำเย็นๆ ก่อน รับรองว่าจะตาสว่างทันที หรือราดน้ำเย็นที่แขนและขาเท่านั้นก็ได้นะ 5. กินอาหารย่อยง่าย ไม่ควรกินอาหารย่อยยาก เพราะมันจะเป็นภาระแก่ร่างกาย ข้อควรรู้ : หากคุณมีปัญหาเลือดลมและนอนไม่หลับก็อาจเกิดจากตับทำงานหนักเกินไปก็ได้เพราะไม่ใช่แค่แอลกอฮอล์ นิโคติน และยาเท่านั้นที่เป็นอันตรายต่อการเผาผลาญและศูนย์กำจัดพิษในร่างกาย (ตับ) แต่มันอาจเกิดจากการกินอาหารไขมันมาก อาหารทอด ขนมขบเคี้ยวที่มีแคลอรีสูง กินอาหารที่ขาดวิตามิน และไม่ได้ออกกำลังกาย ซึ่งในช่วงเวลา 02.00-03.00 น. เป็นช่วงที่ตับกำลังทำการขจัดพิษ เมื่อตับซึ่งเป็นศูนย์กำจัดพิษถูกทำลาย ก็จะส่งผลเสียต่อการเผาผลาญพลังงานในอวัยวะซึ่งจะทำให้เราต้องตื่นขึ้นมา ที่มา หนังสือ Lisa ฉบับวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ถูกแก้ไข เมษายน 1, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 1, 2012 (มีการแก้ไข) โครงการส่งเสริมอาชีพ : หนึ่งในงานพัฒนาอย่างยั่งยืนตามพระราชดำริ ฯ โครงการส่งเสริมอาชีพ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (เรียกโดยย่อ ว่า “โครงการส่งเสริมอาชีพ ตามพระราชดำริ ฯ” ) คือ หนึ่งในกลุ่มโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นส่วนราชการในสังกัดสำนักพระราชวังจัดทำขึ้น เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลการคมนาคม โดยทรงเริ่มต้นจากโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา โภชนาการ สุขภาพอนามัย การสาธารณสุข การเกษตร เป็นต้น ในเวลาต่อมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินงานต่อยอด ขยายผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนทุรกันดาร เริ่มต้นจากครอบครัวของเด็กนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” รวมทั้งราษฎรในชุมชนที่ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ แม้ส่วนใหญ่จะมีอาชีพด้านการเกษตร เช่น การทำนา ทำไร่ ก็ได้ผลผลิตเพียงพอแค่การบริโภคในครัวเรือน มีเหลือพอจำหน่ายได้บ้างก็เพียงเล็กน้อย จึงไม่มีรายได้อื่นใดมาจุนเจือครอบครัว ทำให้สมาชิกในครอบครัวต้องเดินทางไปทำงานรับจ้างในพื้นที่อื่นๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดทำ “โครงการส่งเสริมอาชีพ” สำหรับราษฏรในพื้นที่โครงการตามพระราชดำริฯ โครงการส่งเสริมอาชีพ ตามพระราชดำริ ฯ มีลักษณะเด่นคือ เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาศักยภาพของราษฎร ให้มีงานทำ มีอาชีพเสริม โดยเน้นที่ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมพื้นบ้าน ส่งเสริมการรวมกลุ่มกันทำงานในลักษณะกลุ่มอาชีพ โดยขอให้แต่ละกลุ่มอาชีพตั้งถิ่นฐานอยู่ในภูมิลำเนาของตนเอง โดยมีสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานร่วมปฎิบัติงาน เช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นต้น ให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือ จัดฝึกอบรมและพาไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆ สนับสนุนด้านการพัฒนาทักษะฝีมือ การให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม การเงินการบัญชี ทรงพระเจริญ กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา ถนนราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๓ โทรศัพท์ ๐๒-๒๘๐-๑๖๔๐-๑ โทรสาร ๐๒-๒๘๐-๑๖๓๙ ถูกแก้ไข เมษายน 1, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น