ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

จอมโกหก

image%5B8%5D.png?imgmax=800

มีเด็กอยู่สองคน โกหกชั้นหนึ่งไม่มีใครจับได้ วันหนึ่งทั้งสองคนได้ไปอาบน้ำที่ท่าน้ำแห่งหนึ่ง และได้ตกลงกันว่า ถ้าใครโกหกได้ดีจะมีรางวัลให้

คนหนึ่งกระโดดลงไปในแม่น้ำ โดยได้อมเหรียญห้าบาทลงไปด้วยหนึ่งเหรียญ พอโผล่ขึ้นมาก็บอกแก่เพื่อนว่า

“เฮ้ย ! ฉันดำน้ำลงไปเจอพญานาคกำลังเล่นไพ่กันอยู่ ฉันยังขอเหรียญห้าบาทมาหนึ่งเหรียญเลย”

เพื่อนอีกคนหนึ่งรู้ว่าโกหกแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็เลยโดดลงไป ในน้ำด้วยความโมโห หัวเลยไปชนตอหัวแตก พอโผล่ขึ้นมาก็บอกแก่เพื่อนว่า

“เฮ้ย ! ฉันโดดลงไปในน้ำโชคไม่ดีเลย ท่านพญานาคกำลังเล่นไพ่เสีย เลยตีหัวข้าแตก แล้วบอกว่าให้ฉันมาเอาเงินที่แกครึ่งหนึ่งไปซื้อยา”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ขึ้นชื่อว่าคนโกหกแล้วจะโกหกได้ทุกอย่าง ถ้าหากว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

dc235.gif ขอบพระคุณ ขอบคุณ พระอาจารย์ นักเขียน นักคิด กวี ศิลปิน ผู้สังสรรค์งาน

 

ขอบคุณเวปต่างที่เก็บ คำสอน คติธรรม บทความ งานศิลปะ บทกวี

 

ขอบคุณสื่อสร้างสรรค์ นักข่าวอิสระ .....

 

ขอบคุณหัวใจที่มีคุณธรรม กล้าหาญ สื่อความจริง เพื่อส่วนรวม มนุษยชาติและธรรมชาติ

 

ธรรม การให้ การเสียสละ เพื่อดำรงธรรม ย่อมเกื้อกูลโอบอุ้มโลกและสรรพชีวิต

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี คุณๆทุกคน

 

ขอบคุณ กระต่ายทอง ^______^

 

In Pics : เมืองใหญ่ทั่วโลกร่วมกิจกรรม “เอิร์ธ อาวร์” ปิดไฟ 1 ชม.ลดโลกร้อน blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2555 09:13 น.

 

Share6

blank.gif 555000004314701.JPEG หอเอนแห่งเมืองปิซาในอิตาลีแลดูมืดมิด หลังร่วมกิจกรรม "เอิร์ธ อาวร์" ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ในเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น วานนี้(31) blank.gif เอเอฟพี - เมืองหลวงและสถานที่สำคัญทั่วโลกร่วมรณรงค์ปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในกิจกรรม “เอิร์ธ อาวร์” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 วานนี้ (31) เพื่อให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโลกร้อน

 

เมืองใหญ่หลายพันแห่งในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ตั้งแต่อ่าวซิดนีย์ในออสเตรเลีย, จตุรัสตะห์รีห์ในอียิปต์ ไปจนถึงอาคารเอ็มไพร์สเตทในสหรัฐฯ ต่างร่วมประหยัดพลังงานโดยการปิดไฟในเวลา 20.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น

 

หมู่เกาะซามัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นประเทศแรกที่เริ่มกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในปีนี้ ตามมาด้วยเมืองใหญ่ของนิวซีแลนด์ รวมถึงสัญลักษณ์สำคัญอย่าง สกาย ทาวเวอร์ ในเมืองออคแลนด์ที่ดูมิดมืดไปถนัดตา หลังร่วมปิดไฟลดโลกร้อน

 

กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นซึ่งเคยเต็มไปด้วยแสงสีตั้งแต่พลบค่ำยันเที่ยงคืนก็ร่วมกิจกรรม เอิร์ธ อาวร์ ด้วยเช่นกัน โดยผู้จัดงานหวังว่า จะเป็นโอกาสอันดีที่ผู้คนจะได้สวดมนต์ให้แก่เหยื่อในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อปีที่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม หอสื่อสารสูงที่สุดในโลกอย่าง โตเกียว สกาย ทรี ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆและจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ยังคงเปิดไฟประดับตามปกติ

 

อากิโกะ อิชิฮาระ โฆษกกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุว่า จะขอร้องให้ผู้บริหารโตเกียว สกาย ทรี ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมเอิร์ธ อาวร์ ในปีหน้า

 

จากโครงการที่เริ่มขึ้น ณ นครซิดนีย์เมื่อปี 2007 ปัจจุบัน เอิร์ธ อาวร์ ถือเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อลดปัญหาโลกร้อนประจำปีที่มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมมากที่สุดของโลก กองทุนสัตว์ป่าโลกระบุ

555000004314702.JPEG โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ในกรุงโรม blank.gif

555000004314703.JPEG อะโครโพลิส แห่งนครเอเธนส์ blank.gif

555000004314704.JPEG โอเปราเฮาส์ และฮาร์เบอร์บริดจ์ ในนครซิดนีย์ blank.gif

555000004314705.JPEG เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ของจีน blank.gif

555000004314706.JPEG หอคอยกรุงโซล blank.gif

555000004314707.JPEG อาคารแฝดเปโตรนาส ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ blank.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทความพิเศษ : 5 วิธีง่ายๆ รับมือ "อาหารเป็นพิษ" blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2555 15:49 น. blank.gif

TabOver.gif คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 555000003049501.JPEG

555000003049502.JPEG

555000003049503.JPEG

555000003049504.JPEG

blank.gif blank.gif อาหารเป็นพิษมีสาเหตุสำคัญจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียในอาหาร โดยเฉพาะในสภาวะอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น นั่นหมายถึงจะส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตเร็วตามไปด้วย

 

และยิ่งถ้าหากเชื้อแบคทีเรียอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ก็จะสามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและผลิตสารพิษได้อย่างรวดเร็ว จนมีปริมาณมากพอที่จะทำให้เกิดอาการป่วย เช่น ถ่ายเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้ บางรายอาจมีอาการลำไส้อักเสบ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวตามมาด้วย

 

อาหารที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษในประเทศไทย ได้แก่

 

• อาหารทะเลปรุงสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารทะเลซึ่งกินโดยไม่ผ่านการปรุงให้สุก(โดยเฉพาะที่บีบมะนาวใส่ โดยที่เข้าใจว่าอาหารเหล่านี้สุกเพราะสีของเนื้อเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเหมือนเนื้อที่สุกแล้ว ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด)

 

• อาหารประเภทปรุงเสร็จแล้ว ไม่มีการผ่านความร้อนก่อนบริโภค เช่น อาหารยำ ส้มตำ สลัด น้ำราดหน้าชนิดต่าง ๆ

 

• อาหารเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก ซาลาเปาไส้ต่างๆ ถ้าจะเก็บไว้รับประทานในมื้อต่อๆ ไปควรเก็บในตู้เย็น เมื่อจะนำมารับประทานต้องอุ่นให้ร้อนจัดอีกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ยังเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์

 

แต่ถ้ามีอาการท้องเสียมากๆ ร่างกายจะเกิดอาการขาดน้ำ และเกลือแร่ บางรายอาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากมีการติดเชื้อและเกิดการอักเสบที่อวัยวะต่างๆ ของร่างกาย และเมื่อเชื้อเข้าสู่กระแส โลหิตก็ทำให้เกิดโลหิตเป็นพิษได้ แต่ถ้าพิษนั้นเกิดจากสารเคมีหรือพืชพิษบางชนิด จะมีผลต่อระบบประสาท เช่น ชัก หมดสติ และร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

 

เมื่อเป็นแล้วควรทำอย่างไร

 

รักษาแบบอาการท้องเดินทั่ว ๆ ไป เช่น ดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ อาการท้องเดินมักหายเองภายใน 1-2 วัน ถ้าท้องเสียหรืออาเจียนมาก ปวดท้องรุนแรง หรือมีอาการทางระบบประสาท (เช่น ชัก หมดสติ) หรือสงสัยว่าจะเกิดจากยาฆ่าแมลงหรือสารพิษอื่นๆ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

 

ข้อสำคัญ

 

อย่ากินยาแก้ท้องเดินเอง เพราะอาการท้องเดินส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง ขอให้เข้าใจว่าการขับถ่ายเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่จะต้องขับของเสียออกจากร่างกายอยู่แล้ว

 

5 วิธีง่ายๆ รับมือ "อาหารเป็นพิษ"

 

1. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงและกินอาหาร

 

2. ดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง

 

3. หลีกเลี่ยงการกินอาหาร หรือขนมค้างคืนที่ผสมกะทิ

 

4. ล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำไหล (ควรแช่ด่างทับทิมทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง)

 

5. ไม่ควรทิ้งเนื้อสดๆ ไว้นอกตู้เย็น เพราะอุณหภูมิที่ร้อน จะเร่งให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

 

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 135 มีนาคม 2555 โดย ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พระบรมราโชวาท "พระเจ้าอยู่หัว

" วันข้าราชการพลเรือน "ข้าราชการ... ต้องไม่ถือตัวแบ่งแยกกัน"

 

 

วันที่ 01 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:00:00 น.

 

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน 1เมษายน พุทธศักราช 2555

 

"งานราชการทุกอย่าง ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ง่ายหรือยาก ย่อมมีความสำคัญอยู่ในงานของแผ่นดินด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งงานทุกด้านทุกสาขาย่อมสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน เป็นปัจจัยเกื้อกูลส่งเสริมกันและกันอยู่. ข้าราชการทุกคน ทุกฝ่าย ทุกระดับ จึงต้องไม่ถือตัวแบ่งแยกกัน หากต้องพิจารณาให้เห็นความสำคัญของกันและกัน แล้วร่วมงานประสานสัมพันธ์กัน ด้วยความเป็นมิตร ด้วยความเข้าใจเห็นใจกัน และด้วยความเมตตาปรองดองกัน. งานของแผ่นดินทุกส่วน จักได้ดำเนินก้าวหน้าไปพร้อมเสมอกัน และยังประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือความเจริญมั่นคง ให้เกิดแก่บุคคล แก่งาน

และแก่ส่วนรวมได้แท้จริง."

 

อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช

 

วันที่ 31 มีนาคม พุทธศักราช 2555

 

 

"ทรงพระเจริญ"

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

905Bio1.jpg

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ ๓ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๘ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ได้รับพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์

 

ด้วยเหตุที่ทรงบำเพ็ญพระราชกิจจานุกิจนานัปการอันเป็นประโยชน์แก่แผ่นดินและราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สถาปนาพระราชอิสริยยศ และพระราชอิสริยศักดิ์ เป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๐ และจากพระวิริยะอุตสาหะในการทรงศึกษาหาความรู้และบำเพ็ญพระราชกิจนานัปการ พระเกียรติคุณ เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้ง ทั้งในราชอาณาจักร และนานาชาติ

 

ทรงพระเจริญ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

560352_10150761661492922_393085192921_11308488_1488418762_n.jpg

 

ทรงพระเจริญ

 

ทรงงาน ทุกวัน

 

รอยพระสรวล และ แววพระเนตรน่าประทับใจยิ่งนัก 727617ndmh6sxvej.gif

 

ขอจงทรงพระเจริญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บมาฝาก “ดาวเคียงเดือน” จากปราชญ์ดาราศาสตร์ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2555 15:01 น.

 

Share104

blank.gif 555000004060901.JPEG ปรากฏการณ์ "ดาวเคียงเดือน" เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่อำนวยจึงเห็นเพียงดาวศุกร์ส่องสว่างคู่ดวงจันทร์ blank.gif หลายคนคงประทับใจกับภาพปรากฏการณ์งามๆ “ดาวเคียงเดือน” ในค่ำคืนที่ผ่านมา แต่หลายคนอาจพลาดชมปรากฏการณ์เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ แต่ “วรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต” ปราชญ์ชาวบ้านทางด้านดาราศาสตร์จากเมืองแปดริ้วได้บันทึกภาพปรากฏการณ์บนฟากฟ้ามาฝาก

 

ทั้งนี้ เมื่อคืนวันที่ 25 และ 26 มี.ค.55 มีปรากฏการณ์ “ดาวเคียงเดือน” ที่น่าสนใจ โดยคืนแรกนั้นเกิดดาวเคียงเดือนคล้ายปรากฏการณ์ “พระจันทร์ยิ้ม” เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.51 ส่วนวันที่สองทั้งดาวศุกร์ ดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์ก็เรียงกันเป็นเส้นตรง

 

นอกจากภาพปรากฏการณ์ “ดาวเคียงเดือน” แล้ว “วรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต” ปราชญ์ชาวบ้านด้านดาราศาสตร์จากฉะเชิงเทรายังได้ส่งภาพปรากฏการณ์ดาวพฤหัสบดีเคียงดาวศุกร์มายังทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ เพื่อเผยแพร่ต่อด้วย

 

พร้อมกันนี้ทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ยังได้ประมวลภาพปรากฏการณ์ทั่วฟ้าเมืองไทยมาฝาก

555000004060902.JPEG "ดาวเคียงเดือน" (บนลงล่าง) ดาวศุกร์ ดวงจันทร์ และดาวพฤหัสบดีเรียงกันเป็นเส้นตรง blank.gif

555000004060903.JPEG ปรากฏการณ์ดาวพฤหัส (ซ้าย) เคียงดาวศุกร์ (ขวา) blank.gif

555000004060904.JPEG blank.gif

555000004060908.JPEG แผนภาพแสดงการเกิดปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนในวันต่างๆ blank.gif

555000004060909.JPEG ปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน blank.gif

555000004060910.JPEG blank.gif

555000004060911.JPEG blank.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ใช้ผู้เชี่ยวชาญการทะลายน้ำแข็งค้นความลับ “ไอติม” ที่อร่อยขึ้น blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2555 14:05 น.

 

Share23

blank.gif

blank.gif blank.gif blank.gif blank.gif 555000004036001.JPEG blank.gif blank.gif blank.gif blank.gif ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทะลายของน้ำแข็งมาช่วยค้นหาความลับในการรักษาไอติม

TabOver.gif คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 555000004036002.JPEG ภาพจากรังสีเอกซ์เผยให้เห็นโครงสร้างของไอศครีมที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเกิดการผันผวนของอุณหภูมิ (ภาพประกอบทั้งหมดจากบีบีซีนิวส์)

blank.gif blank.gif ผู้เชี่ยวชาญด้านการพังทลายของหิมะใช้องค์ความรู้ที่มีศึกษาโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเก็บไว้ในตู้แช่ตามบ้านเรือน เพื่อค้นหา “ไอศครีม” ที่อร่อยกว่าเดิม โดยสแกนตัวอย่างไอศครีมด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ที่ปกติใช้ศึกษาผลึกน้ำแข็งซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการก่อตัวของการพังทลาย

 

ทั้งนี้ เนสท์เลย์ (Nestle) ผู้ผลิตไอศครีมคาดหวังที่จะเผยสภาพที่แท้จริงระหว่างที่ผลึกน้ำแข็งหลอมรวมและก่อตัว ซึ่งบีบีซีนิวส์รายงานว่าเมื่อผลึกน้ำแข็งมีขนาดใหญ่เพียงพอก็จะเปลี่ยนผิวสัมผัสของไอศครีมและกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไปตามผิวสัมปัสเมื่อเรากินไอศครีม โดยการศึกษาการก่อตัวของผลึกน้ำแข็งนี้ลุล่วงไปด้วยความช่วยเหลือของนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเพื่อการวิจัยหิมะและการพังทลายของน้ำแข็ง (Institute for Snow and Avalanche Research) ในเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

 

เครื่องมือถ่ายภาพตัดขวางด้วยรังสีเอ็กซ์ของสถาบันวิจัยน้ำแข็งที่สวิตเซอร์แลนด์นี้ เป็นเครื่องมือในจำนวนน้อยนิดที่สามารถบันทึกภาพโครงสร้างของสิ่งเล็กๆ ที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียสได้ ซึ่ง ดร.ซีดริก ดูบัวส์ (Dr.Cedric Dubois) นักวิทยาศาสตร์การอาหารจากเนสท์เลย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เราไม่อาจศึกษาลงไปในไอศครีมโดยที่ไม่ทำลายตัวอย่างได้

 

จากงานวิจัยที่สรุปในรายงานของวารสารซอฟต์แมตเทอร์ (Soft Matter) นั้นทางเนสท์เลย์หวังว่าจะหาวิธีต่อสู้กับการเสื่อมคุณภาพในรสชาติทีละน้อยๆ ของไอศครีมได้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากอาหารทั้งหลายที่โครงสร้างของไอศครีมจะมีผลต่อรสชาติได้

 

ดร.ดูบัวส์กล่าวว่า งานวิจัยครั้งนี้เผยให้เห็นว่าเกล็ดสีขาวของผลึกน้ำแข็งที่เห็นบนไอศครีมนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างที่มีขนส่ง ขายและเก็บรักษา ซึ่งเครื่องแช่แข็งตามบ้านเรือนส่วนมากจะตั้งอุณหภูมิไว้ที่ -18 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิที่ตั้งไว้ก็ไม่คงที่ โดยมีอุณหภูมิขึ้นลงประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเหตุให้บางส่วนของไอศครีมนั้นละลายแล้วแข็งอีกครั้ง

 

ภาพถ่ายเร่งเวลาของผลึกน้ำแข็งที่มีขนาดเพียงไม่กี่ไมครอนนั้นถุกรวบรวมระหว่างศึกษาว่าตัวอย่างในวงรอบไหนที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วงอุณหภูมิที่ผันผวนอย่างแคบๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อน้ำแข็งตัวก็จะก่อผลึกน้ำแข็งที่ส่งผลต่อโครงสร้างของไอศครีม และทำให้ไอศครีมนั้นเหนียวหนึบ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้จะทำให้ไอศครีมแข็งขึ้นและตักได้ยากขึ้น แล้วยังทำให้รสชาติรสชาติแย่ลง

 

การศึกษาครั้งนี้ได้เริ่มต้นเพื่อเผย “วัฏจักรชีวิต” ของผลึกน้ำแข็งและปัจจัยที่กระตุ้นให้บางผลึกเหล่านั้นหลอมรวมกัน ขยายใหญ่ขึ้น และกระตุ้นผิวสัมผัสของไอศครีมที่ส่งผลต่อรสชาติ ซึ่ง ดร.ดูบัวส์กล่าวว่า ตอนนี้ทีมวิจัยทราบแล้วว่าการก่อตัวของผลึกน้ำแข็งนั้นเกดจากปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง และหากสามารถจำแนกกลไกหลักๆ ได้ เราก็มีวิธีที่ดีขึ้นในการชะลอไม่ให้รสชาติแย่ลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...