ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

1006248_651318754896460_1240714267_n.jpg

Beautiful sky-blue mushroom

พิเศษสำหรับวันศุกร์นะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

สาระแห่งสุขภาพ

15 minutes ago

 

***เรื่องที่ไม่รู้มาก่อนกับพาราเซตามอล***

 

ยาพาราเซตามอล (paracetamol) หรือ อะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) เป็นยาแก้ปวดลดไข้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายหาซื้อได้ง่าย เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกวิธี

 

พาราเซตามอลสามารถบรรเทาปวดจากสาเหตุต่างๆได้หลากหลาย และมักเป็นยาที่นึกถึงเป็นขนานแรกเมื่อมีอาการปวด เมื่อใช้ในรูปแบบยาเดี่ยว พาราเซตามอลมีฤทธิ์ลดอาการปวดจำกัด รักษาได้เพียงอาการปวดขั้นอ่อนถึงปานกลางเท่านั้น

 

อาการปวดที่ยาพาราเซตามอลใช้ได้ผลน้อยหรือไม่ได้ผล

 

-อาการปวดขั้นรุนแรง

เช่น ปวดจากแผลผ่าตัดใหญ่ หรือจากมะเร็ง ยาพาราเซตามอลแต่เพียงขนานเดียวไม่สามารถรักษาได้แม้ว่าจะใช้เกินขนาดไปเท่าใดก็ตาม ดังนั้นผู้ป่วยที่มีความปวดระดับดังกล่าวห้ามใช้พาราเซตามอลเกินขนาดที่แนะนำเพื่อหวังผลลดปวดและควรพบแพทย์เพื่อรับยาที่เหมาะสมต่อไป

 

-อาการปวดที่มีลักษณะอาการแบบแปลกๆ

อาการปวดโทยทั่วไปที่พาราเซตามอลมีผลรักษาเช่น ปวดตื้อ หรือ กดเจ็บ จากเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบ หรือปวดศีรษะทั่วไป แต่มีอาการบวดบางแบบที่พบได้ในผู้ป่วยเช่น ปวดแสบปวดร้อน เสียวแปลบเป็นพักๆ ปวดเหมือนเข็มเล็กๆทิ่มแทง ปวดเหมือนไฟช๊อต ปวดร้าวไปที่บริเวณอื่นๆ อาการปวดเหล่านี้อาจบ่งถึงอาการปวดจากการที่เส้นประสาททำงานผิดปกติ ปวดร่วมกับอาการชา ยาพาราเซตามอลมีผลน้อยมากในการรักษาอาการดังกล่าว ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทมักมีอาการเรื้อรังจึงอาจใช้ยาพาราเซตามอลเองเป็นระยะเวลานานซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตับ หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

 

-อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

การใช้ยาพาราเซตามอลรักษาอาการปวดศีรษะบ่อยๆ โดยเฉพาะการใช้ยามากกว่า 15 วันต่อเดือนประมาณ 2-3 เดือนติดต่อกันจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิด “โรคปวดศีรษะเหตุใช้ยาเกิน (medication overuse headache)” ดังนั้นผู้ที่อาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง เช่นปวดศีรษะไมเกรนมากกว่าเดือนละ 3-4 ครั้ง หรือปวดศีรษะจากความเครียดที่มีลักษณะอาการปวดเหมือนศีรษะถูกบีบรัดมากกว่า 15 วันต่อเดือน ควรปรึกษาบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนและอาจจำเป็นต้องรับยาอื่นที่ไม่ใช่พาราเซตามองเพื่อป้องกันอาการปวดศีรษะต่อไป

 

 

คำแนะนำการใช้ยาพาราเซตามอลในการระงับปวดให้ปลอดภัย

 

1.รับประทานยาอย่างเคร่งครัดตามที่ได้รับการแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ หรือห้ามใช้เกินขนาดที่แนะนำ

-ขนาดยาพาราเซตามอลโดยทั่วไปเมื่อใช้ในการรักษาความปวดเบื้องต้นในผู้ใหญ่คือ 500 มิลลิกรัมครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ใน 1 วัน (24 ชั่วโมง) ไม่เกิน 8 เม็ด (4,000 มิลลิกรัม) จากขนาดยาดังกล่าวสังเกตว่าหากรับประทานครั้งละ 2 เม็ดทุก 4 ชั่วโมง จะเท่ากับ 6,000 มิลลิกรัมซึ่งเกิน 4,000 มิลลิกรัม ให้ระมัดระวังการใช้ยาในขนาดสูงดังกว่า ขนาดยาที่แนะนำในผู้ใหญ่นี้ ใช้สำหรับรักษาความปวดเบื้องต้น แนะนำให้รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 5-7 วัน หากจำเป็นต้องใช้นานกว่านี้ควรปรึกษาแพทย์

 

2.หากใช้ยาบางชนิดร่วมด้วยต้องใช้พาราเซตามอลภายใต้การดูแลของแพทย์

-ยาบางชนิดอาจทำให้พิษต่อตับของยาพาราเซตามอลเพิ่มขึ้นเช่น ยารักษาวัณโรค เช่น rifampin หรือยารักษาโรคลมชักเช่น phenytoin, carbamazepine และ phenobarbital หรือการดื่มสุราจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน พาราเซตามอลอาจเพิ่มฤทธิ์ของยาบางชนิด เช่น warfarin ซึ่งเป็นยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด หากได้รับยาดังกล่าวควรใช้ยาพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดทุกชนิดภายใต้การดูแลของแพทย์

 

3.ตรวจสอบชื่อสามัญทางยาของยาที่ใช้อยู่ให้ถี่ถ้วนเพื่อป้องกันการได้รับพาราเซตามอลเกินขนาด

ในกรณีที่ผู้ป่วยใช้ยาอยู่หลายขนานให้ทำการตจาวลสอบชื่อสามัญทางยาว่ามี พาราเซตามอล (paracetamol) หรือ อะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) อยู่ในยาแต่ละขนานอย่างซ้ำซ้อนหรือไม่ เพราะมียาหลายชื่อการค้าที่มีพาราเซตามอลแฝงอยู่โดยเฉพาะยาสูตรผสมแก้หวัด เช่น Tiffy® Decolgen®, Pharcold® และ Apracur® และยาสูตรผสมแก้ปวด เช่น Norgesic®, Ultracet® และ Tylenol with codeine® การได้รับยาเหล่านี้ซ้ำซ้อนกันหลายชนิดอาจเป็นเหตุให้ได้รับยาพาราเซตามอลเกิดขนาดโดยไม่ตั้งใจได้ หากไม่แน่ใจในขนาดยารวมของพาราเซตามอลที่ใช้ให้ปรึกษาเภสัชกร

 

 

ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์มหิดล/by สาระแห่งสุขภาพ

 

 

971016_526599564085468_972080431_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MySci

ป่าพรุ เป็นประเภทของป่าดิบชื้นประเภทหนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม

 

เกิดจากแอ่งน้ำจืดเกิดขังตัวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มีการสะสมของชั้นดินอินทรีย์วัตถุ

 

เช่น ซากพืช, ซากสัตว์, เศษซากของต้นไม้ ใบไม้ ต่าง ๆ จนย่อยสลายช้า ๆ

 

กลายเป็นดินพีตหรือดินอินทรีย์ที่มีลักษณะหยุ่นยวบเหมือนฟองน้ำ

 

ดินพรุชั้นล่างมีอายุถึง 6,000-7,000 ปี ส่วนดินพรุชั้นบนอยู่ระหว่าง 700-1,000 ปีhttp://www.nextsteptv.com/mysci/?p=2400

 

 

579588_10151523281766123_936639237_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

เครือข่ายกลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

946723_571497406229894_629988814_n.jpg

 

 

“คนเรามันรักสุข เกลียดทุกข์นี่ หนักก็หนักอยู่ตรงนี้แหละ

ไม่รับความจริง เราเกิดมา นินทา สรรเสริญก็ดี อย่าไปรับเอามาหมักไว้ในใจ

ปล่อยผ่านไปเสีย…ความรัก ความชัง ความโลภ ความหลง เกิดขึ้นก็เพราะกิเลสมันเสวนากันอยู่…

จาโค ปฏินิสฺสคฺโค สละคืนถอนออกจากใจนี้เสีย"

 

หลวงปู่แหวน สุจิณโน

วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

 

ภาพ : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่แหวน สุจิณโน

ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ชายแคนาดาตกบันได ค้นพบว่ามองเห็นได้หลังตาบอดแต่กำเนิดมา 68 ปี

1375440341.jpg

 

2013-08-02 17:08:38

คุณลุงปิแอร์-พอล โทมัส วัย 68 ปี อาศัยอยู่ในโลกที่เทาหม่นมืดมาตลอดชีวิตนับตั้งแต่เกิด แต่เมื่อสองปีที่แล้วคุณลุงก็พลันได้ความสามารถในการมองเห็นกลับมาอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน หลังจากพลัดตกบันได !!

เว็บไซต์เดลี่เมลรายงานเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมว่า คุณลุงปิแอร์-พอล โทมัส จากเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เกิดมาพร้อมความผิดปกติทางดวงตา ที่เป็นโรคตากระตุก (nystagmus) โดยคุณลุงมีอาการตากระตุกแกว่งไปทางซ้าย-ขวาตลอดเวลาอย่างไม่สามารถบังคับได้ เส้นประสาทดวงตาได้รับความเสียหาย และมีต้อขึ้นบดบังลูกตามาตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้คุณลุงไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด ๆ ได้เลย นอกจากม่านหมอกสีเทาหม่น

แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณลุงเกิดเดินพลัดตกจากบันไดในอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง นอกจากร่างกายได้รับบาดเจ็บแล้วใบหน้าก็ได้รับความเสียหาย กระดูกเบ้าตาแตกหัก ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน และแล้วเมื่อถึงโรงพยาบาลมอลทรีออลคุณลุงเองก็ต้องแปลกใจ เมื่อแพทย์ถามด้วยอาการปกติว่านอกจากศัลยกรรมรักษาบาดแผลแล้วคุณลุงต้องการที่จะรักษาดวงตาไปพร้อมกันด้วยเลยหรือไม่

ลุงปิแอร์บอกว่า เพิ่งจะรู้ในตอนนั้นเองว่าอาการตาบอดที่ตัวเองเป็นมาตั้งแต่กำเนิดนี้สามารถรักษาได้ โดยแพทย์ได้ชี้แจงว่าสิ่งที่ทำให้คุณลุงไม่สามารถมองเห็นคือต้อที่ขึ้นมาบดบังลูกตา ไม่เกี่ยวข้องกับอาการของโรคตากระตุกแต่อย่างใด แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนักที่คุณลุงจะไม่เคยได้รับการรักษาเลย เพราะในตอนนั้นคุณยังไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการในการรักษาฟรี รวมทั้งเทคโนโลยีในการรักษาดวงตาก็ยังไม่พัฒนาเหมือนทุกวันนี้ด้วย

ดวงตาใหม่ที่คุณลุงได้มา ทำให้ลุงปิแอร์ต้องเรียนรู้ที่จะมองเห็นใหม่ไม่ต่างจากเด็ก ๆ โลกสีเทาของคุณลุงมีสีสันมากขึ้น แม้จะมีอุปสรรคในการแยกสีอยู่บ้าง อย่างสีเทากับสีเขียวของธนบัตรที่สร้างความสับสนให้คุณลุงอยู่บ่อยครั้ง หรือการจดจำแยกแยะด้วยการมองก็ยังไม่ค่อยแม่นยำนัก หลายครั้งที่คุณลุงเลือกจะใช้การสัมผัสเข้าช่วยในการแยกลักษณะสิ่งของมากกว่า แต่ถึงอย่างไรคุณลุงก็บอกว่ามีความสุขมากกับสายตาที่ได้รับกลับมา และสนุกกับการเรียนรู้โลกใบเดิมด้วยวิธีใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อนเอามาก ๆ ทีเดียว

ได้ฟังอย่างนี้แล้วก็ดีใจแทนคุณลุงด้วยนะคะ อยากให้ผู้พิการทางสายตาท่านอื่น ๆ ได้มีโอกาสเหมือนคุณลุงปิแอร์บ้างด้วยจริง ๆ เลยเนอะ

 

 

แหล่งที่มา : http://hilight.kapook.com/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สาระแห่งสุขภาพ

***แชมพูมะกรูดสูตรธรรมชาติมากๆ***

 

วันนี้มาแนะนำทำแชมพูมะกรูดแบบไร้สารเคมี คือ ไม่ใช้หัวแชมพูหรือผงฟอง

 

ส่วนผสมหาง่ายๆ ใช้เพียงมะกรูด 1 กิโลกรัม กับน้ำสะอาด 1 ลิตร

 

วิธีการทำ

1. นำผลมะกรูููดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วผ่าซีีีก เอาเมล็็็ดออก หั่ั่ั่นทั้งเปลืืือกให้ เป็นชิ้น

2. นำไปต้มกับน้ำในหม้อ ปิดฝา ต้มนาน 15 นาที

3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำทั้งน้ำและเนื้อ มะกรูดไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียด

4. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะกรูดที่ข้นเหนียวเป็นครีม

5. นำน้ำมะกรูดที่ได้ไปนึ่ง หรือ ต้มไฟอ่อน พอเดือดปุดๆ ยกลงทิ้งไว้ ให้เย็น นำไปบรรจุขวดที่มีฝาปิด เก็บได้นาน 3-6 เดือน

 

วิธีใช้

ใช้สระผมแทนแชมพูทั่วไป เวลาสระผมจะไม่มีฟอง แต่จะทำให้ผมสะอาด

 

นุ่มสลวย ผมลื่นหวีง่าย ผมจะดกดำ เงางาม

 

 

ที่มา : มูลนิธิสุขภาพไทย/by สาระแห่งสุขภาพ

 

 

47062_526606180751473_566277227_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...