บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น

[wong53 10]

ขอบคุณครับ Rจานอั๋น

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[jewjang40 5,712]

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ ​และตลาด​เงินต่างประ​เทศ

ข่าวต่างประ​เทศ สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กรกฎาคม 2555 07:38:33 น.

 

ตลาดหุ้นยุ​โรปปิดบวก​เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ​โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น​แข็ง​แกร่งสุด​ในรอบปี้ ​เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่​เป็นบวกว่าธนาคารกลางยุ​โรป (อีซีบี) ​และธนาคารกลางอีกหลายย​แห่งจะ​ใช้มาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ​เพิ่ม​เติม ​และตลาดยัง​ได้​แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อภาค​โรงงาน​ในสหรัฐปรับตัว​เพิ่มขึ้น​ใน​เดือนพ.ค.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น 1% ปิดที่ 257.39 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่ง​เศสปิดที่ 3271.20 จุด บวก 31.00 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้น​เยอรมนีปิดที่ 6578.21 จุด บวก 82.13 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5687.73 จุด บวก 47.09 จุด

 

-- ดัชนีดาว​โจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก​เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ​เพราะ​ได้​แรงหนุนจากกระ​แสคาด​การณ์ที่ว่าธนาคารกลางหลาย​แห่งทั่ว​โลกจะ​ใช้มาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ​เพิ่ม​เติม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยัง​ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อภาค​โรงงาน​ในสหรัฐปรับตัว​เพิ่มขึ้น​เกินคาด​ใน​เดือนพ.ค.

 

ดัชนี​เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาว​โจนส์ดีดขึ้น 72.43 จุด ​หรือ 0.56% ปิดที่ 12,943.82 จุด ดัชนี S&P 500 ​เพิ่มขึ้น 8.51 จุด ​หรือ 0.62% ปิดที่ 1,374.02 จุด ​และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 24.85 จุด ​หรือ 0.84% ปิดที่ 2,976.08 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบ​เวสต์​เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น​แข็ง​แกร่ง​เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ​เพราะ​ได้​แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อิหร่านขู่ว่าจะปิดช่อง​แคบฮอร์มุซ ​ซึ่ง​เป็น​เส้นทาง​เดิน​เรือน้ำมันที่สำคัญของ​โลก

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบ​เดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบ​เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 3.91 ดอลลาร์ ​หรือ 4.7% ปิดที่ 87.66 ดอลลาร์/บาร์​เรล หลังจาก​เคลื่อนตัว​ในช่วง 83.33-88.04 ดอลลาร์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ​เบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบ​เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 3.34 ดอลลาร์ ​หรือ 3.4% ปิดที่ 100.68 ดอลลาร์/บาร์​เรล หลังจาก​เคลื่อนตัว​ในช่วง 97.12-101.58 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น​แตะระดับสูงสุด​ในรอบ 2 สัปดาห์​เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ​เนื่องจาก​เทรด​เดอร์คาด​การณ์ว่าธนาคารกลางหลาย​แห่งทั่ว​โลกจะ​ใช้มาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ​เพิ่ม​เติม

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบ​เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 24.1 ดอลลาร์ ​หรือ 1.51% ปิดที่ 1,621.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจาก​เคลื่อนตัว​ในช่วง 1,595.30-1,625.70 ดอลลาร์

สัญญา​โลหะ​เงินส่งมอบ​เดือนก.ย.ปิดที่ 28.28 ดอลลาร์/ออนซ์ ​เพิ่มขึ้น 78.10 ​เซนต์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบ​เดือนต.ค.ปิดที่ 1,491.40 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 33.10 ดอลลาร์ ​และสัญญาพัลลา​เดียมส่งมอบ​เดือนก.ย.ปิดที่ 598.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 20.90 ดอลลาร์

 

-- สกุล​เงินยู​โรดีดตัวขึ้น​เมื่อ​เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ​ใน​การซื้อขายที่ตลาดปริวรรต​เงินตรานิวยอร์ก​เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดู​การประชุมของธนาคารกลางยุ​โรป (อีซีบี) ​ในวันพรุ่งนี้ ​ซึ่งมี​การคาด​การณ์ว่าอีซีบีอาจจะ​ใช้มาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ​เพิ่ม​เติม

 

ค่า​เงินยู​โรปรับตัวขึ้น 0.17% ​แตะที่ 1.2606 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2585 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่​เงินปอนด์ขยับลง 0.04% ​แตะที่ 1.5688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่า​เงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.49% ​เมื่อ​เทียบกับ​เงิน​เยนที่ระดับ 79.870 ​เยน จากระดับ 79.480 ​เยน ​แต่อ่อน​แรงลง 0.17% ​เมื่อ​เทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9527 ฟรังค์ จากระดับ 0.9543 ฟรังค์

 

ค่า​เงินดอลลาร์ออส​เตร​เลียพุ่งขึ้น 0.32% ​แตะที่ 1.0281 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0248 ดอลลาร์สหรัฐ ​และค่า​เงินดอลลาร์นิวซี​แลนด์ดีดตัวขึ้น 0.20% ​แตะที่ 0.8041 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8025 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้น​แตะระดับสูงสุด​ในรอบ 2 ​เดือน​เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ​เนื่องจากนักลงทุนคาด​การณ์ว่าธนาคารกลางยุ​โรป (อีซีบี) ​และธนาคารกลางอีกหลายย​แห่งจะ​ใช้มาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ​เพิ่ม​เติม

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 47.09 จุด ​หรือ 0.83% ​แตะที่ 5,687.73 จุด หลังจาก​เคลื่อนตัว​ในช่วง 5,636.05-5,689.00 จุด

 

--อิน​โฟ​เควสท์ ​แปล​และ​เรียบ​เรียง​โดย รัตนา พงศ์ทวิช

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนบ่ายของวันที่ 4/7/2555 เวลา 15.17 น. ครับ

 

เมื่อวานราคาทองคำ ขยับขึ้นมายืนเหนือ 1600 ได้เรียบร้อยแล้ว และสามารถไปได้ไกลถึง 1625 กันเลยทีเดียวครับ

 

แต่จะยืนได้นานเหนือ 1600 เหรียญหรือไม่นั้น ตรงนี้ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปอีกครั้ง ครับผม

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาดอยู่ที่ 1597.03 เหรียญ มีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1594.82 เหรียญ มีราคาสุงสุดอยู่ที่ 1624.83 เหรียญ

 

และปิดตลาดที่ 1617.03 เหรียญ การเคลื่อนตัวของราคาทองคำในเมื่อวานเป็นไปในลักษณะ UP Trend ครับ

 

รวมทั้งวันเมื่อวานราคาทองคำวิ่งรวมกันทั้งหมด 30 เหรียญแต่มีสัญญาเพิ่มขึ้นจากวันจันทร์แค่เพียง 5858 สัญญานะครับ

 

วันจันทร์ราคาทองคำวิ่งรวมทั้ง 15 เหรียญ มีสัญญาการซือ้-ขาย 108263 สัญญา

 

วันอังคารหรือเมื่อคืน ราคาทองคำวิ่งรวมทั้งหมด 30 เหรียญ มีสัญญาซือ้-ขาย 114121 เพิ่มขึ้นเพียง 5858 สัญญาครับ

 

ตรงนี้ก็เป็นจุดสังเกตุ อย่างหนึ่งนะครับ ว่า อาจจะมีขาใหญ่ดันราคาขึ้นมา เพื่อ รอข่าวพรุ่งนี้และวันศุกร์ แล้วขาย

 

หรือไม่ก็กำลังเล่นข่าว น้ำมันที่อิหร่านขู่จะปิดช่องแคบฮอร์มุส กันอยู่ก็มีความเป็นไปครับ

 

แต่ถ้าดูจากรายย่อยแล้ว คาดว่า ราคาทองคำเมื่อวานและตอนนี้รายย่อยเริ่มจะทยอยเข้าซื้อ กันบ้างแล้วครับ สังเกตุได้จากแรงขาย

 

ตอนนี้ที่ยังมีออกมาไม่มากครับ

 

แต่ทั้งหมดนี้แนะนำไม่ให้ประมาทนะครับ เพราะถ้าหากราคาทองคำยังถูกซือ้-ขายกันตามข่าวอยู่ พอข่าวหมดเมื่อไหร่ก็จะขายกันออกมาทุกครั้งครับ

 

ยังคงไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำระยะยาว ในช่วงนี้ (ติดดอยไม่เกี่ยวกันนะครับ)

 

แนวรับแนวต้าน

 

แนวต้าน 1625-1630 ไม่ผ่านระวังแรงขาย ******** 1636-1640 ระวังแรงขายอีกครั้ง**********1650***

 

สรุป แนวต้าน วันนี้คงต้องติดตามแนว ต้าน ที่ราคาทองคำขึ้นไปทำ High ที่ 1625 กันก่อนละครับ ว่าจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่

 

โดยจะมีแนวต้าน อีกหลายด่าน อยู่นะครับ ที่จะต้่องผ่านให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าราคาทองคำจะกัลบตัวเป็นขาขึ้นกัน จริง ๆ

 

แนวรับ วันนี้ 1613-1608 ดูกันแถว ๆ นี้ก่อนครับ ว่าจะเอาอยู่หรือไม่ *** 1600 ระวังหลุด **** 1585***1570-1560 ครับ

 

สรุป แนวรับ วันนี้ แนะนำ ให้ดูการลงมาทดสอบแนวรับการจังหวะการดีดกลับ ครับ

 

ดูแถว ๆ 1613-1608 กันก่อนนะครับ ดูว่าจะรับอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ ก็รอดูแถว ๆ 1600 อีกครั้ง**** ว่าจะหลุดหรือไม่ *********

 

ถ้าหลุด ก็ คาดว่า น่าจะ ยาว ๆๆๆๆๆ อีกรอบ ครับ

 

วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐรายงาน และตลาดอเมริกาปิด เนื่องจากวันชาติ

 

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ิยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

[kaykee 311]

ขอบคุณอาจานอั๋นมากมายค่ะ สุขภาพแข็งแรงนะคะ

[goldleng 98]

ขอบคุณRจานอั๋็นมากครับ

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น วิเคราะห์ได้ สวดยอด โดนใจจริงๆ ขอรับ

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[เกตู 2]

ขอบคุณค่ะ

[wong53 10]

ขอบคุณครับ Rจานอํ๋น

[onixue 1]

ขอบคุณครับ

[คนเล่นgold 3]

ขอบคุณครับอ.

[jewjang40 5,712]

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 5 กรกฎาคม 2555 06:45

 

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ปัญหาหนี้มหาศาล-เงินในคลังที่ร่อยหรอ กดดันให้ "สเปน" เดินสู่เส้นทางขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน แม้ผลประชุมอียูซัมมิตส่งสัญญาณบวก

 

สเปน เผชิญความยากลำบากมากขึ้น ที่จะหลีกเลี่ยงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเต็มรูปแบบ ถึงแม้ในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่าผู้นำได้ให้คำมั่นในการช่วยเหลือสเปน ผ่านการอัดฉีดเงินโดยตรงแก่ภาคธนาคารที่แบกหนี้หลังแอ่น รวมถึงเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อลดต้นทุนกู้ยืมลง

 

รอยเตอร์ส ระบุว่า ความพยายามของผู้นำยุโรปที่จะจัดการกับวิกฤตหนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสกุลเงินยูโร ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดจน ขณะที่นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย แห่งสเปน กำลังเผชิญแรงกดดันมากขึ้น ในการเจรจาหาข้อสรุปถึงแผนช่วยเหลือที่ยากลำบากและยืดเยื้อ ท่ามกลางภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่หยั่งลึก การขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น บวกกับประชากรเกือบ 1 ใน 4 ว่างงาน

 

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ทั้งนักลงทุนและเจ้าหน้าที่ มองว่า ยังไม่มีมาตรการใดที่รวดเร็วมากพอ เพื่อทำให้สเปนไม่ต้องร้องขอเงินเพิ่มเติมจากที่ได้เงินช่วยเหลือสำหรับภาคธนาคารไปแล้ว 1 แสนล้านยูโร

 

เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งซึ่งเข้าร่วมประชุมอียูซัมมิต ให้ความเห็นว่า สเปนยังคงมีความเสี่ยง เพราะหนี้มหาศาลทั้งในภาครัฐและเอกชน จึงต้องรอดูว่าการเพิ่มทุนจะทำได้รวดเร็วเพียงพอหรือไม่

 

สเปน จำเป็นต้องใช้เงินอย่างน้อย 4 หมื่นล้านยูโร ภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อไม่ให้ธนาคารต่างๆ เดินเข้าสู่ชะตากรรมล่มสลาย ตั้งแต่ธนาคารแบงเกีย, คาตาลุนญา ไคซา, โนวา กาลิเซีย และแบงโก เดอ วาเลนเซีย โดยทางการสเปนมีกำหนดจะลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการเพิ่มทุนของธนาคาร ในการหารือกันของที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน วันที่ 9 กรกฎาคมนี้

 

นอกจากนี้ รัฐบาลกระทิงดุยังจะดำเนินโครงการพันธบัตรตามปกติ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านยูโร ในระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ ขณะที่กระทรวงการคลังสเปนมีเงินสดในคลังหลวงประมาณ 4 หมื่นล้านยูโร แต่จะมีหนี้ครบกำหนดชำระราวๆ 2.75 หมื่นล้านยูโร ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นอีกความท้าทายของทางการสเปน

 

น่าสังเกตว่า ส่วนหนึ่งของปัญหา คือ ท่าทีของรัฐบาลแดนกระทิงดุ ซึ่งยืนกรานว่าไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม เป็นการส่งสัญญาณที่สร้างความสับสนเกี่ยวกับสถานะการคลังและระบบธนาคารของสเปน

 

นายราฮอย เผชิญกับภาวะน่าอึดอัด หลังสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาผู้นำประเทศเพื่อนบ้านไปมาก และอาจต้องพยายามอย่างหนักที่จะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้รวดเร็วที่สุด เพราะแม้ผลตอบแทนพันธบัตรสเปนจะขยับลดลง หลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำอียู แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ เริ่มคืบคลานสู่ตลาดอีกครั้ง ทุกสายตาจึงจับจ้องไปที่นากยรัฐมนตรีสเปนว่า จะสามารถยืนหยัดและคงภาวะการเงินของประเทศให้อยู่ในต้นทุนระดับนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน

 

ล่าสุด ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ของสเปน ลดลง 0.04% อยู่ที่ 6.36% แต่นี่ก็ไม่ได้ห่างไกลจากระดับ 7% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ยั่งยืนสำหรับประเทศอื่นๆ ในยูโรโซน สำหรับเงิน 4 หมื่นล้านยูโรสำหรับกอบกู้แบงก์ จะช่วยให้หนี้ของสเปนอยู่ใกล้ระดับ 84% ของจีดีพีในปีนี้ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงจะผลักให้ระดับหนี้เพิ่มขึ้นอีก

 

แม้ว่านายราฮอยจะพยายามงัดมาตรการต่างๆ ทั้งมาตรการภาษีใหม่ ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีพลังงาน และเลิกการยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น แต่นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า นี่จะยิ่งทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบ 2 ของสเปนดิ่งลึกลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า

 

ปัจจุบัน การขาดดุลงบประมาณของมาดริดอยู่ที่ 3.41% ของจีดีพี ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม ใกล้เคียงกับระดับ 3.5% ที่วางไว้ภายในปีนี้ แต่อาจต้องใช้เวลาจนถึงปี 2557 ที่จะกระตุกให้การขาดดุลลดลงต่ำกว่า 3% ตามที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้

 

แรงกดดันต่อสเปนยังคงมีอยู่ แม้จะโล่งอกจากการได้รับเงินช่วยเหลือภาคธนาคาร แต่คำถามหลายเรื่องยังไม่ชัดเจน ขณะที่จะมีการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของภาคธนาคารสเปนอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ โดยโฟกัสไปที่ธนาคาร 7 แห่ง นอกจากนี้ เพื่อนบ้านบางประเทศแสดงจุดยืนที่สวนทางกับสหภาพยุโรป อย่างกรณีของฟินแลนด์และเนเธอร์แลนด์ที่ไม่เห็นด้วยกับแผนอุ้มพันธบัตรสเปนและอิตาลี

 

 

จ่อหั่นดอกเบี้ยนโยบายอีซีบีเร่งกระตุ้นศก.

วันพุธที่ 04 กรกฏาคม 2012 เวลา 09:38 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก - เศรษฐกิจโลก

 

นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรปวันพฤหัสบดีนี้ (5 ก.ค.) คาดจะมีการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 0.25-0.5% หลังข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดแสดงตัวเลขว่างงานพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุด ขณะที่ภาคการผลิตชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี

เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า เวลานี้ความสนใจถูกเปลี่ยนมาอยู่ที่บทบาทของธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ในการช่วยนำพายูโรโซนออกจากวิกฤติหนี้ที่กำลังรุมเร้า หลังจากที่เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนที่ประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปเห็นชอบให้อีซีบีรับหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลธนาคารพาณิชย์ทั่วยุโรป พร้อมกับเห็นชอบตามแนวคิดของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ให้นำเงินจากกองทุนช่วยเหลือเข้ามาปรับโครงสร้างทุนของธนาคารพาณิชย์ที่มีปัญหาได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านการกู้ยืมของรัฐบาล

นักวิเคราะห์เชื่อว่า ในการประชุมสัปดาห์นี้อีซีบีไม่น่าจะออกมาตรการช่วยเหลือธนาคารหรือรัฐบาลโดยตรง เช่นการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาด แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าอีซีบีจะตอบสนองต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจของยุโรปที่ย่ำแย่ลงด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือต่ำกว่า 1% เป็นครั้งแรก

การลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ของประเทศในยูโรโซนที่พึ่งพาการกู้ยืมเงินจากอีซีบี ขณะเดียวกันสำหรับประเทศที่สินเชื่อจำนอง และสินเชื่อสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจอื่นๆ ผูกติดกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น อาทิ ไอร์แลนด์และสเปน การลดดอกเบี้ยจะช่วยให้ต้นทุนกู้ยืมของภาคเอกชนลดลง เป็นการช่วยเพิ่มรายได้ในระดับหนึ่ง

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอัตราการปรับลดดอกเบี้ยจะอยู่ที่อย่างน้อย 0.25% มาอยู่ที่ 0.75% แต่จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางรายมองว่ามีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดลงถึง 0.5% "สภาพการณ์แวดล้อมเป็นลบมากเพียงพอที่จะปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 0.5% เป็นที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นอย่างมาก" จูเลียน แคลโลว์ นักเศรษฐศาสตร์ยุโรปจากบาร์เคลย์ส ให้ความเห็น

สำนักงานสถิติยุโรปเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (2 ก.ค.) ระบุว่าอัตราการว่างงานในยูโรโซนเดือนพฤษภาคมพุ่งขึ้นถึงระดับ 11.1% หรือ 88,000 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน โดยในสเปนตัวเลขการว่างงานอยู่ที่ 24.6% และมีแรงงานอายุต่ำกว่า 25 ปีเกินกว่า 52% ที่ไม่มีงานทำ ขณะที่การว่างงานในฝรั่งเศสสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนในเยอรมนีตัวเลขคงที่อยู่ที่ 5.6%

คาร์สเทน เบอร์เซสกี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากไอเอ็นจี กล่าวว่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของทุกประเทศในยูโรโซนอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ยกเว้นในเยอรมนีที่การว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ความเชื่อมั่นในเยอรมนีเองก็กำลังลดลง เห็นได้จากข้อมูลของภาคการผลิตล่าสุดในเดือนมิถุนายนที่หดตัวลงสูงที่สุดในรอบ 3 ปี "จะเป็นเวลาอีกไม่นานที่ยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ" เบอร์เซสกี กล่าว

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ของภาคการผลิตในยูโรโซนวัดโดยบริษัทมาร์คิตฯ อยู่ที่ 45.1 ในเดือนมิถุนายน ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยพีเอ็มไอของเยอรมนีลดลงเหลือ 45 ขณะที่ในสเปนพีเอ็มไอลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันมาอยู่ที่ 41.1

นอกจากนี้ ยังต้องจับตามองว่าอีซีบีจะทำอย่างไรกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับเงินที่ธนาคารนำมาฝากไว้กับอีซีบี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% แต่มีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนน้อยเชื่อว่าอีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงเหลือ 0% แม้ว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 0.75% ก็ตาม

อีซีบีคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1% มาเกือบตลอดปี 2552 และ 2553 และตัดสินใจปรับขึ้นไปเมื่อช่วงต้นปีก่อน ก่อนที่จะปรับลดลงมาเหลือ 1% อีกครั้งในเดือนธันวาคมพร้อมกับประกาศมาตรการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะเวลา 3 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์มองว่าผลจากการปรับลดดอกเบี้ยลงในครั้งนี้อาจจะมีจำกัด "อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะไม่นำไปสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน มันเป็นเพียงปลาสเตอร์ปิดแผลเท่านั้น" เบอร์เซสกี กล่าว

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,754 5-7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

[luck 512]

ขอบคุณมากค่ะ จานอั๋น และต่ายทอง