บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[pichthiam 4]

>
[b]ขอบคุณครับ[/b]

[auntnextdoor 4,268]

ขอบคุณค่ะ

[Hellokitty 33]

ขอบคุณ อ.อั๋นและคุณกระต่ายทองค่ะ

[wong53 10]

ขอบคุณครับ Rจานอั๋น

[luck 512]

ขอบคุณจานอั๋น และกระต่ายทอง มากๆค่ะ

[jewjang40 5,712]

ขอบคุณ อ.อั๋นและคุณกระต่ายทองค่ะ

ขอบคุณจานอั๋น และกระต่ายทอง มากๆค่ะ

ตำราพิชัยยุทธ์ เล่มที่ 2

 

กลยุทธพิชิตหุ้น 10 อย่า 10 ควร 20 ต้อง..........

 

10 อย่า

 

1.อย่าเล่นหุ้นด้วยอาการงงกับตลาดและงงตัวเอง

2.อย่าแห่ตามจนไร้สติ

3.อย่ามั่นใจกับภาวะตลาดจนเกินไป

4.อย่าตั้งเป้าทำกำไรไว้ตายตัว

5.อย่าเชื่อข่าวอินไซด์มากระวังจะถูกหลอก

6.อย่าเล่นหุ้นมากตัว

7อย่าเล่นหุ้นเกินกำลังตัวเอง

8.อย่าหูเบาเชื่ออะไรง่าย

9.อย่าประมาทกับตลาดหุ้นเด็ดขาด

10.อย่าเป็นผู้ที่ติดหุ้นในราคาสูง

 

 

10 ควร

 

1. ควรคาดหวังแต่ต้นเริ่มซื้อหุ้นว่าซื้อแล้วต้องไม่ขาดทุน

2.ควรรู้เขารู้เราอ่านกันให้ออก โดยเฉพาะแนวโน้มตลาด

3.ควรเล่นหุ้นที่มีพื้นฐานรองรับ หรือเป็นหุ้นติดตลาด

4.ควรติดตามค้นหาข้อมูล ทำการบ้าน

5.ควรเล่นหุ้นอย่างมีหลัก มีกติกา ไม่ใช้อารมณ์ตัดสิน

6.ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรองรับสิ่งที่เลวร้ายซะก่อน

7.ควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีปัญหา

8.ควรบอกตัวเองเสมอว่าราคาหุ้นนั้นคือภาพลวงตา

9.ควรแยกแยะให้ออกหุ้นไหนเก็งกำไร หุ้นไหน ลงทุน

10.ควรซื้อหุ้นเพราะมองเห็นอนาคต

 

 

20 ต้อง

 

1. ต้องติดตามกระแสปัจจัยเกี่ยวพันตลาดฯ

2.ต้องศึกษาตัวหุ้นก่อนเข้าซื้อ หรือขาย

3.ต้องอ่านแรงซื้อแรงขายหุ้นที่เล่นด้วยให้ออก

4.ต้องรู้จักตัดขายแต่ต้นทาง

5.ต้องรู้จักอดทนรอคอย ในแต่จังหวะ ในแต่ละรอบ

6.ต้องรู้จักประเมินความเสี่ยง

7.ต้องปรับพอร์ตลดเพิ่มให้เป็น

8.ต้องรู้จักทิศทางแนวโน้มขาขึ้นขาลงของตลาดให้ได้

9.ต้องอ่านทางนักลงทุนรายใหญ่ พวกสถาบันให้ออก

10.ต้องรู้จักลักษณะเฉพาะตัวของหุ้นที่จะเล่นให้ได้

11.ต้องเล่นให้เป็นทั้งสั้นและยาว

12.ต้องรู้จักเล่นเก็งกำไรผสมผสานกับการลงทุน

13.ต้องไม่แก้ปัญหาจนกลายเป็นแย่

14.ต้องระวังอย่าเล่นผิดจังหวะ

15.ต้องไม่วาดฝันสวยหรูจนเกินไปโดยความจริงยังไม่เกิด

16.ต้องรู้จักพึ่งตนเองเป็นสำคัญ

17.ต้องไม่ซื้อถั่วเฉลี่ยหุ้นขาลงโดยเด็ดขาด

18.ต้องซื้อถั่วเฉลียขึ้น หรือแนวโน้มในระยะต่อไปดูดี

19.ต้องไม่รักหุ้นเป็นเด็ดขาด

20.ต้องรู้จักเก็บกำไรบ้างเผื่อไว้ขาดทุนภายหน้า

 

ความผิดมหันต์ 7 กระทง ของนักลงทุน(หุ้น)

[jewjang40 5,712]

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 27 มิถุนายน 2555 07:29

ทองคำสหรัฐปิดทรุด13ดอลล์

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ทองคำสหรัฐปิดทรุด13ดอลลาร์ขณะนักลงทุนจับตาประชุมอียูปลายสัปดาห์นี้

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ การที่ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 13.5 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,574.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุน ลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ปรับตัวขึ้น 0.7% ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้น

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมผู้นำอียูจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) หรือกองทุนช่วยเหลือถาวรที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค.ปีนี้ แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือชั่วคราวของภูมิภาคที่จะสิ้นอายุลงในกลางปีนี้

 

 

เศรษฐกิจ-หุ้นการเงิน.posttoday

เงินบาทเปิด 31.87/89บาท

27 มิถุนายน 2555 เวลา 08:37 น

 

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย รายงาน เงินบาทเปิด 31.87/89 อ่อนค่าตามเงินยูโร มองกรอบวันนี้ 31.80-32.00

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.87/89 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.81/83 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินยูโร

 

"(เงินบาท)ปรับตัวอ่อนค่าตามเงินยูโร" นักบริหารเงิน กล่าว

 

เงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าจากความกังวลต่อการประชุม EU Summit ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ เนื่องจากตลาดไม่ตอบรับเรื่องความมั่นใจในมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 79.37/38 เยน/ดอลลาร์ ขยับอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับ 79.35/37 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2487/2489 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.2506/2507 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์

 

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 27 มิถุนายน 2555 06:51

เยอรมนียันไม่ผ่อนปรนเงื่อนไขกรีซอียูซัมมิต

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

เยอรมนีดับฝันกรีซ ยันไม่มีการหารือผ่อนปรนเงื่อนไขกรีซในอียูซัมมิท

 

นายสตีเฟน ไซเบิร์ท โฆษกรัฐบาลเยอรมนี เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป(อียู) อาจจะไม่มีการทำการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับกรีซในการประชุมสุดยอดในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ ซึ่งทำลายความหวังของกรีซที่ว่า อียูอาจจะผ่อนปรนเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน

 

ทั้งนี้ ต่อข้อถามที่ว่า จะมีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับกรีซในการประชุมผู้นำยุโรปหรือไม่นั้น นายไซเบิร์ทกล่าวว่า "ผมคิดว่าประเทศยุโรปทั้งหมดจะยึดถือตามกระบวนการ"

 

นายไซเบิร์ท กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จากกลุ่มทรอยกา ซึ่งประกอบด้วยอียู,ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ต้องเดินทางไปยังกรีซก่อนเพื่อพิจารณาว่าการดำเนินโครงการปฏิรูปของกรีซมีประสิทธิภาพอย่างไร และต้องรายงานกลับมา

 

"จากการดำเนินการเช่นนี้ เราจึงจะเจรจาเกี่ยวกับแนวโน้มความคืบหน้า ที่จำเป็นต่อโครงการช่วยเหลือกรีซ" เขากล่าว "เป็นกำหนดการที่ทุกคนในยุโรปต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นเราจึงไม่คาดว่าจะมีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับกรีซในคณะกรรมาธิการยุโรป"

 

นายไซเบิร์ท กล่าวเสริมว่า การประชุมระหว่างนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสในวันพุธนี้ ก็จะไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับกรีซด้วยเช่นกัน

ถูกแก้ไข มิถุนายน 27, 2012 โดย กระต่ายทอง

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเย็นของวันที่ 27-6-2555 เวลา 17.03 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำ ไม่สามารถยืนเหนือ 1580 จึงถูกแรงขายออกมาและหลุด แนวรับ 1580 ลงมาอีกครั้งแล้วครับ

 

เมื่อวานตลาดเปิด 1586.08 เหรียญ มีราคาสุงสุดอยู่ใกล้เคียงกับตลาดเปิดอยู่ที่ 1587.08 เหรียญ มีราคาต่ำสุดที่ 1567.55 เหรียญ

 

และปิดตลาดที่ 1572.63 เหรียญ กราฟ แท่งเทียน ปิดเป็น ลบ 1 วัน ราคาทองคำเมื่อวานเคลื่อนตัวเป็นไปในลักษณะ Down Trend

 

ลงมาทดสอบแนวรับ 1570-1560 อีกครั้ง เมื่อวานมี Volume การซื้อ-ขาย ลดลง 2768 สัญญาจากเมื่อวันจันทร์ เหลืออยู่ที่ 112131 สัญญา

 

คาดว่าน่าจะมาจาก การขายออกมาจากขาใหญ่ ที่ดันราคาขึ้นไปเมื่อวันจันทร์ ส่วนหนึ่งครับ

 

สาเหตุหลัก คาดว่าน่าจะเป็นการเก็งกำไร ส่วนหนึ่งครับ และอีกส่วนหนึ่งน่าจะเคลียร์พอร์ต ให้ว่าง เพือ่รอผลการประชุม EU

 

ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิถุนายน นี้ครับ

 

แนวรับแนวต้าน

 

แนวต้าน ตอนนี้ คงต้องมองที่ 1574-1577 ก่อนครับ ถ้าไม่ผ่านระวังแรงขาย *** 1580-1588 **** ลุ้นให้ยืนเหนือ 1580 ให้ได้ครับ ********

 

สรุป แนวต้าน คงต้องมองใกล้ ๆ ก่อนครับ ว่า จะสามารถ ผ่าน 1574-1577 ขึ้นไปได้หรือไม่ หรือง่าย ๆ ก็คือ ขอให้ยืนเหนือ 1570 ให้ได้ก่อนนั้นเองครับ

 

แนวรับ 1570-1560 ***** ไม่ควรหลุด 1553 **** 1547*********1532

 

สรุป แนวรับ 1570-1560 ตรงนี้ คาดว่าน่าจะเป้นแนวรับที่สำคัญครับ ห้ามหลุด ถ้าหลุดเกรงว่าราคาทองคำอาจจะลงทดสอบแนวรับถัดไป ได้ครับ 1553-1547*****

 

กรอบเล็ก 1550-1580 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1550-1600 = 50 เหรียญ

 

คืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้ครับ

 

1. เวลา 19.30 น. ตัวเลขยอดสั่งซือ้สินค่าคงทน สหรัฐ คาดการณ์เป็นผลลบ ต่อราคาทองคำ

 

2. เวลา 21.00 น. ยอดทำสัญญาขายบ้านใหม่ คาดการณ์เป็นผลลบ ต่อราคาทองคำ

 

3. เวลา 21.30 น. สต๊อกน้ำมันดิบ คาดการณ์เป็นผลบวก ต่อราคาทองคำ

 

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ

[Pasaya 499]

ขอบคุณค่ะ R จานอั๋น

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[jewjang40 5,712]

ตำราพิชัยยุทธ์ เล่มที่ 3

 

ความผิดมหันต์ 7 กระทง ของนักลงทุน(หุ้น)

เนื้อหานี้ย่อและคัดใจความมาจาก MSN Money Central

 

หัวข้อ Careful Investor -- นักลงทุนผู้รอบคอบ

เรื่อง ความผิดมหันต์ 7 กระทง

 

ถ้าหากคุณเป็นผู้กระทำผิดตามนี้ คุณมีเพื่อนเยอะครับ นักลงทุนหลาย ๆ ท่านตกเป็นเหยื่อของความมั่นใจเกินเหตุ ซื้อ-ขายบ่อยครั้งเกินความจำเป็น และไม่เห็นความเสี่ยงอยู่ในสายตา และเราจะเสียใจกับความผิดพลาดเหล่านี้

 

เราทุกคน (ไม่มียกเว้น) ได้เคยตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องการลงทุน สำหรับบางท่านแล้ว สิ่งที่แตกต่างระหว่างอดีตและปัจจุบันคือการที่อินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วน ช่วยเราในการตัดสินใจและให้อำนาจในการควบคุมมากขึ้น นักเก็งกำไรรายวันมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง คนเป็นหมื่นติดตามราคาหุ้นจากที่บ้านหรือสถานที่ทำงานทุกวัน ๆ เราสามารถตัดสินใจ(และซื้อ-ขาย)ได้ในทันทีทันใดซึ่งอาจจะก่อผลดีหรือผลเสีย ต่อเงินในบัญชีเราได้

 

ที่ว่ามานี้เป็นทั้งประโยชน์และโทษต่อเรา เพราะมันอาจจะทำให้เรากระทำผิดพลาดได้ง่ายกว่านักลงทุนรุ่นพ่อหรือรุ่นปู่ ของเรา แต่ข้อสำคัญคือ "อย่าให้เรากระทำผิดซ้ำสอง" ที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรง 7 กระทง

 

1. Chasing Performance "ซื้อตามหุ้นแรง" นักลงทุนหลาย ๆ คนซื้อหุ้นตอนอยู่ยอดดอย หลังจากที่มันขึ้นไม่หยุด ดูจากตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น กองทุนเช่น Fidelity Japan (FJPNX) พุ่งขึ้น 170% จากราคาเมื่อต้นปี และทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากใน chatroom ของ MSN MoneyCentral ว่าควรจะซื้อกองทุนนี้หรือไม่ เวลาที่ควรซื้อกองทุนนี้คือเมื่อมกราคมที่ผ่านมา!!! (ดูอีกตัวอย่างก็คือ KK ของบ้านเราตอนที่มันวิ่งไม่หยุดนั่นแหละ โน่น 80 ก่า ๆ หรือดู EFS เมื่อสามเดือนที่แล้ว)

 

2. Misunderstanding Risk "มีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับความเสี่ยง" นักลงทุนบางท่านเลือกลงทุนแบบ "รวยหรือหมดตัวไปเลย" และเรียกตัวเองว่าเป็นคนชอบความเสี่ยง ที่จริงแล้วคนเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกึ๋นและการรักความเสี่ยง

 

ในความเป็นจริงแล้ว "การบริหารความเสี่ยงที่ยอมรับได้" นั้นเป็นเหมือนกล้ามเนื้อ มันสามารถพัฒนาได้ด้วยความรู้ ประสบการณ์และการฝึกฝน ฝึกฝนมาก ๆ ด้วย ผมอยากให้นักลงทุนฝึกและทำความเข้าใจกับการบริหารความเสี่ยงมาก ๆ

 

เรื่องตลกคือนักลงทุนเป็นจำนวนมากไม่รู้สึกว่าหุ้นหรือกองทุนที่เป็นกระทิงวิ่งไม่หยุด นั้นมีความเสี่ยงมากต่อการสูญเสีย

 

การยอมรับความเสี่ยงมากนั้นหมายถึงการที่เราอาจจะหกล้มหัวฟาดพื้นได้ เราเห็นตัวอย่างจาก Fidelity Disciplined Equity (FDEQX) ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า S&P 500 อย่างเปรียบกันไม่ได้ และต่อมาไม่นานกองทุนนี้ก็เริ่มมีผลตอบแทนน้อยลงกว่า S&P 500 และนักลงทุนหลาย ๆ คนก็ช๊อค

 

3. Loss aversion. "ไม่ยอมเสีย(น้อย)" นักจิตวิทยาผู้ที่ทำการตรวจวัดเรื่องนี้ พบว่าคนทั่วไปไม่ชอบเสียเงิน เราจะรู้สึกเจ็บปวดกับการขาดทุน 1 บาท มากกว่าความยินดีจากการทำกำไร 1 บาท ความเจ็บปวดนั้นเทียบได้เป็นมากกว่าสองเท่าของความยินดี

 

ดังนั้นนักลงทุนจำนวนมากยอมเสี่ยงกับการสูญเสียมากขึ้นเพื่อจะมีโอกาส เท่า ทุนหรือกำไร นิดหน่อยในภายหลัง ซึ่งเป็นแนวคิดกลับตาลปัดกับที่เราควรจะทำ เราควรจะเสี่ยงกับผลกำไรที่จะเพิ่มขึ้น (เช่นไม่ยอมขายเมื่อหุ้นเป็นกระทิง) ไม่ใช่เสี่ยงเพื่อบรรเทาการสูญเสีย (ไม่ยอมขายเมื่อหุ้นปักหัวลง และเราขาดทุนเล็กน้อย) ความคิดเช่นนี้จะทำให้เราไม่ยอมขายหุ้นที่ขาดทุนถึงแม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่ มีเหตุมีผลมากกว่า

 

4. Trading too much. "ซื้อ-ขายมากเกินเหตุ" สิ่งนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เด่นชัดมากเนื่องด้วยการซื้อ-ขายทางอินเตอร์เน็ต โดยนักเก็งกำไรวันต่อวัน การซื้อ-ขายมากทำให้กำไรหด ศจ. Terrance Odean จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ได้ศึกษาและแสดงให้เห็นจากการสำรวจบัญชี 150,000 บัญชีจากโบรคเกอร์แห่งหนึ่ง จากนั้นท่านได้แยกนักลงทุนแบ่งเป็น 5 กลุ่มจากพฤติกรรมการซื้อ-ขายของแต่ละบัญชี ผลปรากฏว่ากลุ่มที่มีการซื้อ-ขายมากที่สุดได้รับผลตอบแทนน้อยกว่ากลุ่มที่มี การซื้อ-ขายน้อยที่สุดถึง 7%

 

5. Ignoring expenses with mutal funds. "ไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายเนื่องด้วยการบริหารกองทุน" ค่าใช้จ่ายมีความสำคัญ การที่คิดถึงแต่ผลตอบแทนจากกองทุนโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับการ บริหารกองทุนเป็นเรื่องเหลวไหล

 

กองทุนที่มีค่าใช้จ่ายสูงนั้นถือเป็นการดูถูกและไม่ใส่ใจต่อนักลงทุน หรือผู้ ถือหุ้น ผู้จัดการกองทุนที่ดีจะยอมลงทุนกับกองทุนของเขาเอง และเขาจะไม่ยอมเสียค่าใช้จ่าย 2% จากผลกำไร เราก็ไม่ควรจะยอมเช่นกัน

 

6. Buying on tips/Not researching investments. "ซื้อหุ้นตามข่าว/ไม่วิเคราะห์การลงทุน" ความผิดสองกระทงนี้ใกล้เคียงกันและไปด้วยกัน อย่าซื้อถ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้น ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มีมาแต่ปฐมกาล ในปี 1980 นักลงทุนทั้งหลายให้คำแนะนำกันที่ปาร์ตี้หรืองานสังคมต่าง ๆ ปัจจุบันนี้ข่าวหรือคำแนะนำมาทางอินเตอร์เน็ตตามห้องสนทนาหรือกระทู้ทั้ง หลาย อย่างไรก็ตามการซื้อ-ขายหุ้นตามข่าวทำให้การลงทุนเป็นกิจกรรมทางสังคมอย่าง หนึ่ง หากเราขาดทุนเนื่องจากการลงทุน"ตามข่าว" เราสามารถหาแพะหรือคนปลอบใจได้

 

ทำการวิเคราะห์ด้วยตัวของเราเอง ถ้ามีใครมาถามว่าเราซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเหตุผลอันใด เราต้องสามารถตอบได้ภายในสามหรือสี่ประโยค ใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่เพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของสถาณะการเงินของบริษัท ค้นหาว่านักวิเคราะห์คิดอย่างไรกับหุ้นตัวนั้น ๆ อ่านข่าวต่าง ๆ ที่บริษัทแจ้งต่อคณะกรรมการบริหารหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

(สำหรับบ้านเรา ค้นหาข้อมูลได้จาก websites ต่าง ๆ ที่แนะนำกันบ่อย ๆ ที่โต๊ะสินธรครับ)

 

7. Overconfidence "มีความเชื่อมั่นเกินเหตุ" ผู้เขียนยอมตามความคิดเห็นของนักวิเคราะห์พฤติกรรม เขาว่าเมื่อเราตัดสินใจในเรื่องใดแล้ว เราจะมีทัศนะคติที่ดีเกี่ยวกับการตัดสินใจอันนั้น (เข้าข้างตัวเอง ว่างั้นดีกว่า) นักวิจัยอย่าง ศจ. Daniel Kahneman แห่งมหาวิทยาลัยพริ้นส์ตั้นบอกว่าการมีทัศนะคติที่ดีต่อการตัดสินใจของเรา นั้น เป็นจริงกับเรื่องเช่นการทายหัว-ก้อย หากเรา"เป่าและขอให้ออกหัวหรือก้อย"กับเหรียญก่อนทอยเหรียญ เราจะมีความมั่นใจสูงขึ้น 15% กับการทายของเรา

 

มีคนประเภทเดียวเท่านั้นที่ไม่มีความเชื่อมันเกินเหตุหลังจากที่เขา ตัดสินใจ คือผู้ป่วยทางจิตด้วยโรคซึมเศร้า เขามีความคิดเห็นที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงต่อการเสี่ยงทาย

 

แท้จริงแล้วการที่มีความเชื่อมั่นเกินเหตุนั้นดีกว่าการเป็นโรคซึม เศร้าเป็น ไหน ๆ เพียงแต่ให้เราใช้วิจารนญาณที่เหมาะสมเมื่อเราต้องลงทุน เมื่อตลาดหันหัวลงผู้ที่มีความเชื่อมั่นเกินเหตุ(เนื่องจากซื้อเต็มปอด)จะ กลัวว่าโชคของเขาจะหนี(ปอดแหก)และเริ่มขายแหลก

 

เราควรจะพึงพิจารณาตนเองว่ามีพฤติกรรมเช่นนี้หรือไม่ และพยายามแก้ไขให้ไม่กระทำผิดเช่นนี้ต่อไป

 

ป.ล. ถ้าจำไม่ผิด ตำรานี้เก็บไว้ตั้งแต่ต้นปี 2000 โน่น ตัวข้าเองก็เอามาอ่านทบทวนเพื่อตรวจสอบตัวเอง และเห็นว่าบางครังข้าเองก็ยังกระทำผิดทั้ง 7 กระทงเหมือนกัน ต้องฝากพี่น้องทั้งหลายให้เช่วยเตือนขุนศึกนักเก็งกำไรด้วยกันแล้วกัน

 

ความผิดพลาดสามัญ 19 ประการ ที่นักลงทุนส่วนมากกระทำ

[jewjang40 5,712]

[jewjang40 5,712]

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 28 มิถุนายน 2555 07:31

ทองสหรัฐปิดบวก3.5 ดอลลาร์

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ราคาทองสหรัฐปิดบวก3.5 ดอลลาร์ ขณะตลาดจับตาประชุมผู้นำอียู

 

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดปรับตัวขึ้น แต่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวัง ก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู)

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,578.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1577.5 - 1577.5 ดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาทองคำปิดตลาดปรับตัวขึ้น ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำผันผวนตลอดทั้งวัน โดยตลาดเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมผู้นำอียูซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้

 

นอกจากนี้ ราคาทองคำ ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่แข็งแกร่ง รวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 5.9% สู่ระดับ 101.1 จุด

 

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 28 มิถุนายน 2555 08:03

แบงก์ในยูโรโซนแห่กู้เงินอีซีบีเพิ่มกว่า 4 เท่า

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

แบงก์ในยูโรโซนแห่กู้เงินอีซีบีเพิ่มกว่า 4 เท่าในเดือนพฤษภาคม

 

ความต้องการของธนาคารต่างๆในการกู้เงินจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ทะยานขึ้นเป็น 1.80 แสนล้านยูโร สูงกว่าที่คาดไว้มาก และเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าจากเดือนที่แล้ว ทั้งยังถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงถึงการพึ่งพาเงินกู้ของอีซีบี อันเป็นผลจากวิกฤตการณ์

 

ปัญหาของยูโรโซน สกัดกั้นการปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร โดยมีเพียงธนาคารที่ปลอดภัยที่สุดในประเทศ ที่เป็นศูนย์กลางของยูโรโซนที่ยังคงสามารถขอเงินกู้ในตลาดเปิดได้ ซึ่งทำให้ธนาคารในสเปน, อิตาลี และประเทศอื่นๆที่มีภาระหนี้มากผิดปตกิ พึ่งพาเงินกู้จากอีซีบีมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ธนาคาร 105 แห่ง ได้ขอกู้เงินจากอีซีบีคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.80 แสนล้านยูโร (2.25 แสนล้านดอลลาร์) ในการปล่อยกู้ระยะ 7 วัน ที่คิดอัตราดอกเบี้ย 1% แบบวงเงินไม่จำกัด โดยยอดเงินกู้ดังกล่าวสูงกว่า 1.67 แสนล้านยูโรที่ธนาคาร 101 แห่ง ได้ขอกู้เมื่อสัปดาห์ก่อน และสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 1.69 แสนล้านยูโร และสูงกว่า ยอดเงินกู้ 3.8 หมื่นล้านยูโรที่ธนาคาร 84 แห่งขอกู้ในเดือนที่แล้ว

 

อีซีบี ได้อัดฉีดเงินสดระยะ 3 ปีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านยูโรเข้าสู่ระบบธนาคารนับตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอีซีบีคาดว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของธนาคารต่างๆได้เพียงพอ

 

ขณะนี้ อีซีบี ปล่อยกู้เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเมื่อ 6 เดือนก่อน ซึ่งจากการคำนวณของรอยเตอร์พบว่า มีปริมาณเงินสดส่วนเกิน 7.37 แสนล้านยูโรในระบบธนาคารของยูโรโซน แต่สถานการณ์ตึงเครียดจากวิกฤตการณ์ทำให้ธนาคาต่างๆต้องกักตุนเงินสดแทนที่จะปล่อยกู้

 

 

รอบโลกposttoday

วิกฤตหนี้พ่นพิษ!ไซปรัสขอเงินช่วยเหลือไอเอ็มเอฟ

28 มิถุนายน 2555 เวลา 05:52 น.

 

ภาคแบงก์แบกหนี้กรีซมหาศาล กลายเป็นชาติยุโรปรายที่ 5 ที่ขอเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ ในเบื้องต้นยังไม่ทราบจำนวน

 

 

ไซปรัสกลายเป็นชาติยุโรปชาติที่ 5 ที่ต้องเดินหน้าขอเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศหลังภาคธนาคารของประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตหนี้ยุโรป

 

'วันนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้รับคำร้องขอเงินช่วยเหลือจากทางการไซปรัส เพื่อช่วยป้องกันเศรษฐกิจ ของประเทศจากความเสี่ยงต่างๆ' คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าว

 

ภาคธนาคารของไซปรัสกำลังประสบปัญหาอย่างหนักเนื่องจากถือครองหนี้กรีซอยู่จำนวนมหาศาล

 

ทั้งนี้ การขอเงินของไซปรัส ส่งผลให้ประเทศกลายเป็นชาติที่ 5 ในยูโรโซนที่ต้องขอเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ และเป็นชาติที่ 4 ที่ต้องขอเงินช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ ตามหลังไอร์แลนด์ โปรตุเกส และกรีซ ในเบื้องต้นนั้น ทางไอเอ็มเอฟยังไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่จะให้ไซปรัส

 

 

เศรษฐกิจ-หุ้นการเงินposttoday

เงินบาทเปิด 31.84/86 บาท

28 มิถุนายน 2555 เวลา 08:45 น.

 

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย รายงาน เงินบาทเปิด 31.84/86 แกว่งแคบ-นักลงทุน รอ อียู ซัมมิต ออกมาตรการแก้ปัญหาหนี้

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.84/86 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.86/88 บาท/ดอลลาร์

 

โดยวันนี้คาดว่าเงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนต่างจับตาดูผลการประชุม EU Summit ในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่

 

"ต้องรอผลการประชุม EU Summit เป็นสำคัญ นักลงทุนรอดูว่าจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ที่เป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะทำให้ movement ของยูโรชัดเจนว่าไปทางไหน บาทก็น่าจะตามยูโร" นักบริหารเงิน ระบุ

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 79.47/49 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2490/2493 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้บาทจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 31.80-31.90 บาท/ดอลลาร์