ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
aunson

บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

โพสต์แนะนำ

พุ่งทะยานทั้งโลก

 

โดย สุนันท์ ศรีจันทรา 30 มิถุนายน 2555 08:12 น.

 

ผู้จัดการ

พุ่งทะยานทั้งโลก

 

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเมื่อวันศุกร์ ส่งท้ายงวดครึ่งปีแรก แม้จะมีความผันผวน โดยดัชนีระหว่างชั่วโมงซื้อขายบวกขึ้นแรงประมาณ 13 จุด แต่ก็ถูกแรงขายทำกำไร จนอ่อนตัวลง และปิดตลาด ดัชนีเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่สถานการณ์ปัจจัยแวดล้อมมีความสดใสขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดช่วงเปิดรับสัปดาห์ใหม่

 

ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1172.11 จุด เพิ่มขึ้น0.79 จุด มูลค่าซื้อขาย33,552 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ5,698 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อขายสุทธิ 6.736 ล้านบาท โดยยอดซื้อสุทธินักลงทุนสองกลุ่มที่พุ่งขึ้นสูง เนื่องจากมีรายการบิ๊กล็อต หุ้นซีพีออลล์ ระหว่างนักลงทุนสถาบันกับต่างชาติ จำนวนประมาณ4,400 ล้านบาท ซึ่งถ้าหักรายการบิ๊กล็อตออก ต่างชาติจะซื้อเพียง 1 พันล้านบาทเศษเท่านั้น

 

ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ ดีดตัวกันแรง ยกเว้นตลาดหุ้นไทย เนื่องจาการประชุมอียูซัมมิท มีข่าวดีชิ้นใหญ่ โดยมีมติจะอัดฉีดเงิน120,000 ล้านยูโร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คลายความกังวลในวิกฤตยุโรป ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาไล่ซื้อหุ้น โดยดาวโจนส์บวก 277 จุด ตลาดหุ้นอังกฤษเพิ่มขึ้นเพียง 1 % เศษ แต่ตลาดหุ้นเยอรมันและฝรั่งเศส พุ่งกว่า 4% ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งวันเดียว 14 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ และขึ้นมายืนที่ 92 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ เช่นเดียวกับราคาทำคำที่ทะยานวันเดียวเกือบ 50 ดอลลาร์ต่อออนส์

 

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั้งโลกที่สดใส สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนทั่วโลก คลายความกังวลในวิกฤตหนี้ยุโรปในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย เพราะมีปัจจัยชี้นำการลงทุน โดยย่างเข้าสู่ไตรมาสที่3สัปดาห์หน้า มีโอกาสเริ่มต้นด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งน่าจะกลับขึ้นมาเป็นตัวนำตลาด

 

อย่างไรก็ตาม ข่าวดีจากยุโรป มักจะได้รับการตอบรับในระยะสั้นๆเท่านั้น ซึ่งหากตลาดปรับตัวขึ้นแรง ก็อาจเป็นจังหวะขายทำกำไร ซึ่งนักลงทุนรายย่อยในรอบนี้ ก็กำหนดจังหวะการเข้าออกได้ถูกต้องอยู่แล้ว และคงไม่ลุยไล่ราคาขานรับข่าวดีเพียงช่วงสั้นๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนนี้หากใครจะเข้าซือ้ทองคำแนะนำให้ระวัง ไว้ก่อนนะครับ หากราคาทองคำยังไม่สามารถ ผ่านและยืนเหนือ 1600ได้

 

การเข้าซือ้ทองคำ ณ จุดนี้ 1590-1600 ก็ยังคงมีความเสี่ยง อยู่บ้าง ครับ

 

โดย ตอนนี้คาดว่า แนวรับ แถว 1585-1580 วันนี้อาจจะได้ทำงานกันบ้างเล็กน้่อยครับ

 

แนวรับตอนนี้ ขอให้ที่ 1585-1580 ไว้ก่อนนะครับ แล้ว แนวต้าน ขอดูที่ 1600-1608 ก่อนครับ

 

(แนวต้าน ผมขอเน้นให้ ยืนเหนือ 1600 ให้ได้และไม่หลุดลงมา ให้เห็น 15xx ก็พอ ครับ )ถ้ายืนเหนือ 1600 ไม่ได้ ระวังแรงขายออกมาครับ

 

แล้วเดี๋ยวผมจะกลับมารายงานกระทู้ ในแบบฉบับ R จานอั๋น ให้ อีกครั้ง ครับ ตอนนี้ ขอเวลาทำงานและหาข่าว ก่อนนะ ครับ :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 2 กรกฎาคม 2555 08:09

หนี้ยุโรปกดดันหุ้น-ทองเดือน ก.ค.ขาลง

 

โดย : สาธิต อุปชา

 

 

วิกฤติหนี้ยุโรปป่วนเศรษฐกิจโลก ฟันด์แมเนเจอร์ มองแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้น-ทอง เดือน ก.ค.แกว่ง "ขาลง" แนะลดน้ำหนักลงทุนหุ้น เลี่ยงลงทุน

 

ปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปยังคงเป็นประเด็นที่กดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ และราคาน้ำมัน ปรับตัวลดลง เพราะภาพของความไร้เสถียรภาพในการเข้ามาจัดการปัญหาหนี้ในกลุ่มยูโรโซน แถมด้วยการออกมาปรับลดอันดับเครดิตเรทติ้ง ของสถาบันจัดอันดับเครดิตยักษ์ใหญ่อย่าง สถาบันจัดอันดับเครดิตมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ที่ออกมาเขย่าเครดิตสถาบันการเงินในยุโรปเป็นระลอก ถือเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่กดดันบรรยากาศการลงทุน นอกเหนือจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะชะลอตัว เพราะ 3 เสาหลักเศรษฐกิจโลกอย่างสหรัฐ ยุโรป และจีน แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ มีทิศทางที่ชะลอตัวลง

 

ณัฐดนัย ประทานพรทิพย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานจัดการลงทุน บลจ.ฟินันซ่า มองถึงแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ค. ว่า ตลาดน่าจะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,120-1,200 จุด เนื่องจากมุมมองของนักลงทุนในตลาดยังคงจับตาไปที่การแก้ปัญหาหนี้ในกลุ่มยูโรโซน ว่าท้ายที่สุดแล้วสหภาพยุโรปจะจัดการปัญหา หรือออกมาตรการเพิ่มเติมอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติการเงินลุกลาม

 

กลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นในช่วงเดือนนี้ แนะนำให้หาจังหวะขายทำกำไรในช่วงที่ดัชนีไต่ระดับขึ้นไปทดสอบ 1,200 จุด เพราะต้องยอมรับว่าระหว่างทางตลาดจะมีความผันผวนตามข่าวที่มีเข้ามากระทบเป็นระยะ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ยุโรป

 

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำ ณัฐดนัย มองว่า แนวโน้มยังแกว่งตัวในช่วงขาลง เพราะมีความเป็นได้สูงที่ยุโรปจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งหมายความว่าแนวโน้มค่าเงินยูโรมีทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตาม

 

ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ ยังคงเป็นทางเลือกในการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ในสิ้นปีนี้มีโอกาสปรับตัวลดลง 0.25-0.50% ส่วนการประชุม กนง.ในเดือนนี้คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.0% หากปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่ส่งผลกระทบรุนแรงกับเศรษฐกิจไทยมากนัก

 

"แม้ปัจจัยต่างประเทศจะเป็นแรงกดดันในการลงทุนตลาดหุ้นบ้านเรา แต่ปัจจัยภายในประเทศที่มีความแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภค-ลงทุนภายในประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อน จะช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยสามารถที่จะปรับตัวในแดนบวกได้"

 

กรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า ในเดือนนี้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น เพราะปัจจัยสำคัญที่จะกระทบยังเป็นปัญหาวิกฤติหนี้ในยุโรปที่ยังไม่เห็นการพัฒนาที่ดีขึ้น และยังไม่เห็นแนวทางที่จะแก้ไข เพราะเขตเศรษฐกิจใหญ่อย่าง เยอรมนี และฝรั่งเศส ยังไม่ได้ออกมาตรการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

 

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลต่อปัจจัยเดิมทั้งการปรับลดอันดับเครดิตเรทติ้ง สถาบันการเงินในยุโรป และอเมริกา ปัญหาการว่างงานในยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการต่ออายุ มาตรการ Operation Twist ไปถึงสิ้นปี ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น ทอง และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ จะมีความผันผวนต่อไป

 

ส่วนตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 1,100 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวกมาจากทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ยังเติบโตได้ดี และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเข้ามาหนุนดัชนีไม่ให้ปรับตัวลงไปต่ำกว่า ระดับ 1,000 จุด บวกกับในช่วงเดือน ก.ค.จะมีบริษัทประกาศการจ่ายปันผลระหว่างกาล ทำให้การเข้ามาลงทุนในหุ้นค่อนข้างน่าสนใจ

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะตลาดที่ผันผวนทำให้การลงทุนควรเน้น ค่อยทยอยลงทุน แนะนำหุ้นในกลุ่มที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศ เช่น กลุ่มธนาคาร และกลุ่มอุปโภคบริโภค ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานที่อิงกับทิศทางราคาน้ำมันให้น้ำหนักลงทุนน้อยกว่าตลาด มีแนวโน้มว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง

 

ส่วนทองคำยังไม่แนะนำลงทุนในช่วงดังกล่าว เพราะทิศทางเศรษฐกิจโลก กำลังอยู่บนความไม่แน่นอน ทำให้ไม่มีปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อเข้ามา การลงทุนในทองคำจึงไม่ให้น้ำหนักมาก ดังนั้น นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตลงทุนสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ และเงินสด ได้ 80% อีก 10-15% ให้ลงทุนในหุ้น และนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มาก ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นได้มากกว่า 15%

 

ศุกภร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้ไม่น่าจะปรับตัวลดลงรุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมหรือเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าไม่น่าจะมีข่าวร้ายจากฝั่งยุโรปเข้ามากระทบตลาดอย่างรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความกังวลว่ากรีซจะถูกบีบให้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือปัญหาหนี้สาธารณะสเปน หรือปัญหาหนี้ในอิตาลี

 

"แม้ความเสี่ยงยังไม่หายไปหมด แต่สถานการณ์ก็เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้เชื่อว่าตลาดน่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา แต่ระหว่างทางเชื่อว่าอาจมีเรื่องเข้ามากระทบบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดเรทติ้ง หรือปัญหาหนี้ต่างๆ ที่ยังคงคาราคาซัง"

 

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะนี้ ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น แม้การประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จะยังไม่มีการออกมาตรการ QE3 แต่เฟดก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมออก QE หากเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัว

 

"ผมมองว่าการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงในเดือน ก.ค.น่าจะดีขึ้น ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสขึ้น แม้จะไม่แรงเหมือนในเดือน พ.ค. แต่ก็จะค่อยๆ ขึ้น ในเดือนนี้ผมแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยงได้ โดยเฉพาะหุ้นไทย และตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะพื้นฐานยังแข็งแกร่ง และมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,200 จุด เพียงแต่รอข่าวบวกเข้ามาหนุน”

 

ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนนี้ คาดอยู่ที่ 1,150-1,175 จุด

 

ขณะที่การลงทุนในทองคำ ศุภกร แนะนำว่า ในช่วงนี้โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง แม้สถานการณ์หนี้ยุโรปจะเริ่มคลี่คลายในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มองว่าทองคำยังคงเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว แต่ต้องระมัดระวัง

 

Tags : Fund Focus • ศุกภร สุนทรกิจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น และคุณกระต่าย :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีอตเช้าของวันที่ 2/7/2555 เวลา 10.15 น.

 

สวัสดีเช้าวันจันทร์เริ่มต้นเดือน กรกฎาคม ปี 2555 หรือ เริ่มไตรมาส ใหม่ ของหลาย ๆ บริษัท ครับ

 

ว่าด้วยเรื่องของไตรมาส เมื่อเช้า ฟังข่าว จากวิทยุ FM คลื่นความถี่ 103. MHz เวลา 7.00 น.-7.30 น. จำไม่ได้ ว่า รายการอะไร ครับ

 

แต่ เค้าพูดถึงเรื่อง การปิดไตรมาส ในช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมานี้ ของหลาย บริษัท (ซึ่งผมก็เปิดมาแล้วฟังไม่ทันตอนต้นรายการ)

 

เลยไม่รู้ว่า เค้าปิดไตรมาสกัน เรื่องอะไร หรือ เดือนอะไร มีกี่ไตรมาส เพียงแต่ พอดีได้ยิน ช่วงท้ายรายการ

 

เค้าบอกว่า พอปิดไตรมาสเสร็จนี้แล้ว สินทรัพย์ ที่ถูกตกแต่ง(หรือดันราคา)ขึ้นมาให้ ให้ มัน สวย ๆ นั้น ก็ ระวัง ถูกแรงขาย ออกมา

 

และเค้าก็บอกด้วยว่า ราคาทองคำ ก้อาจจะถูกเทขายเช่นกัน ตอนนั้น ราคาทองคำ อยู่ที่ 1598 เหรียญ

 

เค้าบอกว่า อาจจะถูกเทขาย ออกมา อย่างน้อยก็น่าจะลงไป 1590 เหรียญ ครับ และก็ถูกแรงขายออกมาจริง

 

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกนี้ คงเป็นประเด็น ในเรื่อง ของปัจจัย พื้นฐานและการเก็งกำไร ครับ

 

จะเห็นได้จากราคาทองคำ จากวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ 1551.45 เหรียญ

 

มีจุดต่ำสุด LOW อยู่ที่ 1550.97 เหรียญ มี ราคาสูงสุด High อยู่ที่ 1606.86 และปิดตลาดที่ 1597.00 เหรียญ

 

รวมทั้งวัน ราคาทองคำ วิ่งรวมทั้งหมด 56 เหรียญ แต่ ตรงนี้ มีสัญญา เพิ่มขึ้นจาก วันพฤหัส ที่ผ่านมา ที่วิ่ง 31 เหรียญ

 

อยู่ที่ 144036 สัญญา เพิ่มขึ้นมา เพียงแค่ 17906 สัญญา ตรงนี้ สังเกตุได้เลยครับ ว่า

 

การเคลื่อนที่ของราคาทองคำ เคลื่อนที่เป็นไปในลักษณะ UP Trend ค่อย ๆ ขยับขึ้นมาเป็นจังหวะ ครับ

 

ตรงนี้อาจจะถูกขาใหญ่ ดันราคา ขึ้นมาเพือ่ ตกแต่งบัญชี ประจำไตรมาส ก็มีความเป็นไปได้อยู่ครับ

 

แต่ทั้งนี้ เราไม่มีหลักฐาน ครับ ว่ามันจริงหรือไม่ เพียงแต่เป็นการคาดเดา หรือ แค่ข่าววงใน แค่นั้นเองครับ

 

ดังนั้น ถ้าเป็นการตกแต่งบัญชี จริง ก็ ระวังแรงขาย ออกมาก่อน ด้วยนั้นเอง ครับ

 

แต่ถ้าดูจากสาเหตุหลักหรือการสมเหตุ สมผลของการขึ้นของราคาทองคำ แล้วนั้น

 

ถ้าอ้างจากข่าว ก็คงเป็นข่าว เรื่องของ สเปนได้แชมป์ ยุโรป 2 ครั้งติดต่อกัน เฮ้ย ไม่ใช่

 

เป็นเรื่อง ของ ผลการประชุม ยูโร ที่ผ่านมา สามารถแก้ไข ปัญหา เฉพาะหน้าเบื่องต้นได้บ้างแล้ว ตามข่าว ที่ออกมา ครับ

 

และอีกเรื่อง ก็เห็น มีข่าว การคว่ำบาตร อิหร่าน อีกครั้ง และอิหร่าน ก็ ยินดีและพร้อมรับการ คว่ำบาตร ของ EU ครับ (ตามข่าวนี้อิหร่าน ไม่กลัวด้วยครับ)

 

ถ้าดูจากความสมเหตุ สมผล ของการขึ้นของราคาทองคำ ก็ น่าจะ ส่งผลอยู่ครับ แต่ จะขึ้นได้นาน จริงหรือไม่นั้น

 

เราต้องครับ ว่า ปัจจัย พื้นฐาน ที่เกิดขึ้นนั้น มีมากแค่ไหน

 

ถ้าเป็น ข่าวการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน สินทรัพย์ ประเภท พลังงานหรือ สินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจจะอยู่ได้นาน หน่อย ครับ ตามราคาน้ำมัน

 

แต่ถ้าเป็น ข่าว EU ก็คงต้องบอกว่า อาจะจะเป็น ครึ่งผี ครึ่งคน ครับ ข่าวดีก็ขึ้น แบบน่าใจหาย ข่าวร้ายก็ลงแบบ ตกใจ กันเลยครับ

 

ว่าแต่โม้มาเยอะ มาดูกันที่แนวรับ แนวต้านกันดีกว่า ครับ

 

แนวต้าน ตอนนี้ วันนี้ 1600-1608 ไม่ผ่านและยืนเหนือ 1600 ได้ ระวังแรงขาย *** 1613*** 1620 ******

 

สรุป แนวต้าน วันนี้ สัปดาห์นี้ คงต้องให้ ยืนเหนือ 1600 ให้ได้ก่อนละกันครับ หลังจากนั้น แรงซือ้ จะตามเข้ามาเองครับ

 

ส่วนจะไปได้ไกล แค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ ข่าวที่ออกมาและก็ความเชื่อมั่น ของนักลงทุน ณ บรรยากาศตอนนั้น นั่นเองครับ

 

แนวรับ 1585-1580 คงต้องกลับมาติดตามดู แนวรับ แถว ๆ นี้ อีกครั้ง ครับ ว่า จะเอาอยู่หรือไม่ ถ้าก็ 1570-1560 ครับ 1553*********

 

สรุป แนวรับ ตอนนี้ สัปดาห์นี้ หากราคาไม่สามารถ ยืนเหนือ 1600 ได้ก็คงต้องกลับมาลุ้น แล้วละครับ แนวรับ แถว ๆ 1580 นั้นจะเอาอยู่หรือไม่

 

ถ้าไม่อยู่ ก็ไม่แน่ครับ ว่าแนวรับ 1570-1550 รอบนี้ อาจจะต้องลุ้นกันหนัก แล้วครับ ว่าไหว หรือปล่าว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ..................

 

วันนี้มีตัวเลข เศรษฐกิจที่น่าสนใจดังนี้ ครับ

 

1. เวลา 21.00 น. ตัวเลข ภาคการผลิต ISM คาดการณ์เป็นผลบวกราคาทองคำ

 

2. เวลา 21.00 น. ตัวเลขค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง คาดการณ์เป็นผลลบราคาทองคำ

 

2012_07_02-070-20120702vvIdvTEdvZOdllF51559.gif

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ :gd

 

ลืมบอกไปครับ อยากแนะนำให้นักลงทุน คิดไว้ 2 ทฤษฎี ด้วยนะครับ

 

คือ ถ้าราคาทองคำไม่เป็นอย่างที่เรา คาดการณ์ มันก็จะไปที่สิ่งที่เราได้เตรียมคาดการณ์ ไว้ อีกเหตุการณ์ หนึ่ง นั้นเองครับ :45

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชอบมากที่อาจานอั๋นพูดเยอะๆมุมมองกว้างไกล ขอบคุณมากๆๆค่า^______^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

02/07/2012 รอบด้านตลาดหุ้น Detail

 

Brief :

Beware a Bull trap: Trading buy

 

รายวันคาดดัชนีฯ เปิดกระโดดทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,200 จุด แล้วย่อ นักเล่นสั้นที่ซื้อตามคำแนะนำ พิจารณาขายเล่นรอบสั้นที่แนวต้านครึ่งหนึ่ง ที่เหลือถือลุ้นถึงกลางสัปดาห์ คาดดัชนีฯเทรด Sideway up มีโอกาสทดสอบบริเวณ 1,220 จุด (แนะขายเล่นรอบ) และรอซื้อคืนที่แนวรับ 1,170/1,180 จุด

 

หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ CPF INTUCH BECL / SCB (Laggard play) KBANK BBL (รอซื้อที่แนวรับคาดทำ New-high) THCOM (High beta play) GOLD (หลุด Cash balance วันนี้) หุ้นน้องใหม่ SRICHA (ราคาเหมาะสม 23.3 บ.)

 

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาด

 

(+) EU Summit มีมติให้กองทุน ESM (เดิม EFSF) เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและ เพิ่มทุนให้แบงก์โดยตรง และยกเลิกการเรียกร้องสิทธิ์แบบ Seniority (1) อนุญาติให้กองทุนในรูปแบบ Bailout fund เข้าช่วยเหลือ เพิ่มทุนให้แบงก์ยุโรปที่ต้องการสภาพคล่องได้โดยตรง ขณะที่ Bailout funds ที่ออกให้สมาชิกจะลดความเข้มงวดเรื่องรัดเข็มขัด (Austerity) (2) สนับสนุนการแก้ปัญหาหนี้ โดยให้สิทธิในการเรียกร้องหนี้ จากเดิมที่มีการให้สิทธิ์แก่ Seniority bond ก่อน Conventional bond (เพื่อหวังให้เจ้าหนี้ลดดอกเบี้ยชดเชยความเสี่ยงลง และยอมถือพันธบัตรยุโรปเพิ่มขึ้น)

 

ความเห็น (+) ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการเพิ่มทุนของแบงก์ในยุโรป (-) ไม่มีการระบุถึงขนาดเงินกองทุนที่ให้สำหรับ Bailout (อาจไม่พอต่อการการแก้ปัญหา)

 

(-) วิตกเศรษฐกิจโลกเข้าสู่โหมดถดถอย วันจันทร์ที่ 2 กค. สหรัฐฯรายงานดัชนีภาคการผลิต ISM เดือน มิย.คาดลดลงเป็น 52 จาก 53.5 ส่วนยุโรปรายงาน PMI ภาคการผลิต คาด 44.8 ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนจีนวานนี้ ดัชนีภาคการผลิตลดลงเป็น 50.2% ในเดือน มิย. ดีกว่าคาดที่ 49.8 (เดือน พค. 50.4)

 

(+) 5 กค. ECB meeting ตลาดคาดลดดอกเบี้ย 0.25-0.50% และ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม, 9-10 กค. Euro-group meeting และ Eco-fin Council meeting (รมต.คลังยูโร) คาดเซ็น MOU แผนเพิ่มทุนแบงก์ยุโรป และแถลงแผนดำเนินงานของ ESM (ที่ตั้งขึ้นแทน EFSF)

 

Investment theme:

 

Earning play: กลุ่มอุตสาหกรรมเด่นได้แก่ Consumer staple (ค้าปลีก รถยนต์) แบงก์ สื่อสารฯ และ Utilities (โรงไฟฟ้า ประปา ทางด่วน รถไฟฟ้า) คาดกำไร 2Q12F โตเด่น-พิจารณาจากหุ้นที่เราคาดการณ์เบื้องต้น (Preliminary) แนะนำ SAT STANLY CPALL CPF CPN HEMRAJ SPALI QH BECL SORKON THCOM (SCB BBL เรามีแนวโน้มปรับประมาณการณ์กำไรขึ้น)

 

Save haven: หุ้นมีปันผลระหว่างกาล 1H12F สูง INTUCH BECL ADVANC EGCO

 

Recommend : KBANK (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 191.00 บาท)

 

 

02/07/2012 Commodity Futures Detail

 

Brief :

กลยุทธ์การลงทุน

 

Recommend :

Gold

 

สัญญาทองคำทะยานขึ้นปิดที่เหนือระดับ 1,600 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูบรรลุข้อตกลงให้มีการนำเงินจากกองทุนฟื้นฟูถาวรของยุโรป เพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซนที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องในข้อตกลงการจัดสรรเงินมูลค่า 1.20 แสนล้านยูโร เพื่อกระตุ้นการขยายตัวและการจ้างงานในยุโรป

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก รวมทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่นน้ำมันดิบ

ในเย็นวันศุกร์ช่วงราคาทองคำอยู่ที่ประมาณ 1570 เหรียญ เราแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การทะลุกรอบระดับ 1560 หรือ 1580 เหรียญ แล้ว Short หรือ Long ตาม ซึ่งในคืนวันศุกร์ราคามีการปรับตัวขึ้นทะลุ 1580 เหรียญ จึงแนะนำ Long โดยราคาทองคำปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1600 เหรียญอีกครั้ง แล้วค่อยๆอ่อนตัวลง เราแนะนำให้หาจังหวะปิดสถานะทำกำไร และใช้กลยุทธ์ทะลุกรอบเหมือนเดิม โดยดูที่ระดับ 1590 – 1610 เหรียญ อย่างไรก็ตามเนื่องจากข่าวช่วงนี้เป็นบวก ถ้าเปิด Short ควรหาจังหวะในการทำกำไรเร็ว

Oil

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 6.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากที่ประชุมผู้นำอียูบรรลุข้อตกลงให้มีการนำเงินจากกองทุนฟื้นฟูถาวรของยุโรป เพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซนที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องในข้อตกลงการจัดสรรเงินมูลค่า 1.20 แสนล้านยูโร เพื่อกระตุ้นการขยายตัวและการจ้างงานในยุโรป หลังจากนั้นไม่นาน รัฐสภาเยอรมนีมีมติอนุมัติมาตรการต่อต้านวิกฤตของสหภาพยุโรป 2 ฉบับ ซึ่งได้แก่ มาตรการการคลังฉบับใหม่ที่ว่าด้วยการสร้างวินัยด้านงบประมาณ และมาตรการอัดฉีดเงินมูลค่า 2 แสนล้านยูโร หรือ 2.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) และนักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในอิหร่าน หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ โดยพุ่งเป้าไปยังกลุ่มสถาบันการเงินในประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน

หลังจากขึ้นมาแรงน่าจะมีการขายทำกำไรระยะสั้นน่าจะลดลงจาก 98 เหรียญมาที่ระดับประมาณ 95-96 เหรียญยังมีช่วงของการปรับลงได้ระดับหนึ่ง นักลงทุนอาจเก้งกำไรระยะสั้นได้ แต่ควรตั้ง cut loss ไวเท่านั้น หลังจากนั้นให้ดูช่วงราคาที่ 95 ว่ายืนได้หรือไม่ ถ้าเริ่มยืนได้อาจแนะนำให้เก็งกำไรกลับมาเป็นขา Long อีกครั้ง เพราะยังมีประเด็นเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่านรออยู่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...