ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
aunson

บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

โพสต์แนะนำ

post-4992-0-59430200-1349485681.gif

 

 

ทองคำ

 

ราคาทองคำแท่งวันเสาร์ที่ 6 ต.ค. 55 ครั้งที่ 1 เวลา 9:12 น. [-100] ร้านทองซื้อเข้าบาทละ 25700 ขายออกบาทละ 25800

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

จับกระแสโลก คาดการณ์กระแสทุน วิเคราะห์เศรษฐกิจการลงทุนปี 2556

 

วรวรรณ ธาราภูมิ และทีมจัดการกองทุนบัวหลวง

6 ตุลาคม 2555

 

1. ทิศทางเศรษฐกิจไทยของปีนี้และช่วงเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนจะเป็นอย่างไร

 

• ไทยมีความเสี่ยงขาลงจากการส่งออกเป็นหลักเพราะปริมาณการค้าโลกชะลอตัวลง แต่การบริโภคภายในประเทศยังดีอยู่

 

• การส่งออกของไทยชะลอตัวลง ยอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าลดลง (YoY, QoQ เหลือ 50.2 จุด) แต่ยังดีขึ้นจากช่วงน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา

 

• การบริโภคภายในประเทศยังดีอยู่ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ

 

o มูลค่าการจัดเก็บ VAT ช่วง 8M12 อยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท +12.4%YoY

 

o ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่สูงขึ้น (8M12 = 8.6 แสนคัน +49%yoy)

 

o จำนวนนักท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่เข้ามาในไทยรอบ 8 เดือนล่าสุด +8.7% เป็น 14.3 ล้านคน

 

o Loan Growth ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยครึ่งปีแรกยังขยายตัว 8% YoY

 

แสดงว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจมาจากทั้งภาครัฐและเอกชน

 

• แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะมีแรงส่งหลักมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เนื่องจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทำให้ต้องพัฒนาระบบสาธารณู ปโภคอย่างเร่งด่วนภายใต้แผนลงทุน 5 ปี 2.27 ล้านล้านบาท Contributtion to GDP = 3.5%

 

2. พิจารณาจากเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ กระแสการลงทุนของต่างชาติจะมีทิศทางอย่างไร มีแนวโน้มข้างหน้าเป็นอย่างไร

 

• เงินลงทุนจากต่างชาติจะยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะ FDI

 

- ตัวเลขอนุมัติการลงทุนผ่าน BOI 8 เดือนล่าสุด 5.92 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 120% yoy ใกล้เคียงกับ Target ทั้งปี ที่ 6 แสนล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วทั้งปีที่เป็น 4.49 แสนล้านบาท

 

• เงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนใน

 

- อุตสาหกรรม Auto 20%

- Electronic 14%

- Chemical 13%

 

• การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพื่อเชื่อมโยงการค้าการลงทุนในภูมิภาค ทำให้ไทยได้ประโยชน์จากเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะ

 

- ไทยมีจุดเด่นในที่ตั้งซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมโยงของประเทศต่างๆ ได้ง่าย

 

- มีฝีมือแรงงานที่ดี มีทรัพยากรพร้อม ยิ่งทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศมากขึ้น

 

- โครงสร้างของประชากรส่วนใหญ่เป็น Middle Income ทำให้เกิดการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนเพื่ออุปโภคบริโภคตามมา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

 

• เงินลงทุนยังเข้ามาในรูปแบบ Portfolio Investment หรือการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น และพันธบัตรในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็น Area of Positive Growth

 

• ค่ายเราเล็งเห็นความสำคัญต่อการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเงินลงทุนเหล่านี้ โดยเฉพาะ Consumer Products

 

• Marc Faber มองว่า ขณะนี้ไทยยังไม่มีฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ราคาบ้านเชียงใหม่จะแพงแล้ว มีแต่ฟองสบู่ในหนี้ภาครัฐ แต่นักธุรกิจไทยเก่งมากที่นำพาประเทศผ่านวิกฤติทุกครั้งมาได้

 

3. ทิศทางเศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้าจากปัญหาปัจจุบันเรื่องหนี้ยุโรป และ QE3 รวมไปถึงข้อพิพาทที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐ-มุสลิม และจีน กับ ญี่ปุ่น

 

• การออก QE3 โดยการเพิ่มปริมาณเงินในระบบผ่านการซื้อ MBS อย่างไม่จำกัด

 

- ทำให้ดอลลาร์จะด้อยค่ามากขึ้น น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน

 

- ดอกเบี้ยที่ถูกกดให้ต่ำมากจะทำให้นักลงทุนต้องหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีผลตอบแทนสูงขึ้น เช่น หุ้น ทองคำ) มากกว่าเป็นการช่วยภาคเศรษฐกิจอย่างแท้จริง เนื่องจากภาคธนาคารยังไม่ค่อยปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ

 

- ดอกเบี้ยที่ต่ำในปัจจุบันจะยิ่งส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อในระยะยาว

 

• ปัญหาหนี้ยุโรปยังแก้ไขได้ไม่ตรงจุด แค่เป็นการซื้อเวลา

 

- ปัญหาที่แท้จริงคือหนี้ภาครัฐ และระบบธนาคารพาณิชย์ที่อ่อนแอเพราะมีหนี้เสียมาก ผนวกกับการเมืองในประเทศ ทำให้แก้ไขปัญหาแบบผ่าตัดได้ลำบาก เพราะจะรัดเข็มขัดลดงบประมาณ ก็เกิด Social Unrest รุนแรงอย่างในกรีซ สเปน ฝรั่งเศส

 

- Nouriel Rubini มองว่า กรีซน่าจะออกจากยูโรโซนได้ในปีหน้า ก่อนที่อิตาลีกับสเปนจะสร้างแนวป้องกันผลกระทบได้ทัน (วานนี้นายกรัฐมนตรีกรีซก็มีอาการโยนผ้าขาว บอกว่า กรีซอาจจะล้มละลายในเดือนหน้าแล้ว เพราะแม้จะรัดเข็มขัดจนเหลือแต่กระดูก แต่ยังลดรายตจ่ายไม่ได้ตามเป้าของ Troika) สเปนก็เหมือนกรีซที่กำลังลงดิ่งสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Depression) และคงต้องการความช่วยเหลือแบบเต็มที่จาก Troika (ECB + EC + IMF)

 

- ยุโรปต้องจะยังใช้เวลานานในการฟื้นตัว การลดหนี้ให้ลูกหนี้ก็เลี่ยงไม่ได้ การที่ธนาคารกลางยุโรปจะรักษาเป้าเงินเฟ้อที่ระดับ 2% สำหรับยูโรโซนนั้น ประเทศหลักๆ จะต้องมีเงินเฟ้อสูงกว่า 2% ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการคัดค้านอย่างมากในเยอรมนี ซึ่งภาวะเงินเฟ้อสูงในช่วงทศวรรษ 1920 ยังคงมีผลต่อการอภิปรายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

 

- IMF และ Paul Krugman เห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจโลกจะต้องใช้เวลาอีกนานมาก เพื่อฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤติการเงินซึ่งเริ่มในปี 2551 โดย IMF มองว่า อย่างน้อย 10 ปี

 

- Nouriel Rubini มองว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จีนจะ Hard Landing ปีหน้า

 

- Marc Faber กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของ GDP จีน เป็นเพียง 4% เท่านั้น ไม่ใช่ 7%+ อย่างที่เปิดเผยออกมา (ไต้หวัน เกาหลี ซึ่งส่งออกให้จีนสูง ยังมียอดส่งออกไปจีนที่ลดลงมาก แล้วจีนจะโตได้ถึง 7% ได้อย่างไร) หากจีนเป็นอะไรไปโลกจะมืดเลย เพราะการค้าเกี่ยวพันกันหมด

 

- ถ้ายุโรปแตกออก All Paper Money จะแทบไม่มีค่า แต่ราคาทองคำจะพุ่ง

 

- สหรัฐ มีปัญหาด้านการคลังซึ่งต้องแก้ไขเช่นกัน (Fiscal Grand Canyon)

 

• สหรัฐฯ- มุสลิม

 

การประท้วงสหรัฐในตะวันออกกลางผ่อนคลายลงแล้ว ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคนี้กับสหรัฐ มีมาตั้งนานแล้ว ประเด็นก่อการร้ายไม่ใช่เรื่องใหม่ เหตุการณ์จึงไม่น่าจะบานปลาย และตอนนี้คน อิหร่านเริ่มประท้วงรัฐบาลตนแล้วเพราะค่าเงินอิหร่านลดลงอย่างมาก เนื่องจากแบนธุรกรรมกับ สหรัฐ ยุโรป ฯลฯ

 

ในแง่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ-ตลาดทุน ยังไม่เห็นข่าวว่ายอดส่งออกสหรัฐ – อาหรับโดยรวมจะ ลดลง เพราะการส่งออกส่วนใหญ่ของสหรัฐไป UAE กับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ได้มี ปัญหาอะไร และการประท้วงไม่ได้มีผลต่อการผลิตน้ำมัน จึงเชื่อว่าประเด็นนี้ส่งผลกระทบต่อไทย น้อย และไม่มีผลต่อการลงทุนในหุ้น ยกเว้นอิสราเอลเริ่มสงครามก่อน

 

• จีน-ญี่ปุ่น

 

ข้อพิพาทหมู่เกาะเป็นประเด็นทางการเมืองโดยใช้เศรษฐกิจเป็นตัวประกัน เพราะจีนเป็น ตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ส่วนญี่ปุ่นเป็นตลาดลำดับ 3 ของจีน ซึ่งญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าดังนั้น ญี่ปุ่นน่าจะเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่า ที่ผ่านมาบริษัทญี่ปุ่นในจีนหลายแห่งต้องหยุดกิจการชั่วคราว เที่ยวบินระหว่างจีน - ญี่ปุ่น ลดลงมาก

 

ปัญหานี้น่าจะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราว ตอนนี้เหตุประท้วงในจีนก็เริ่มสงบแล้ว บริษัทญี่ปุ่นในจีนกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง เพียงแต่ผลิตน้อยลง เชื่อว่าในที่สุดรัฐบาลน่าจะเจรจากันได้

 

ในแง่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ-ตลาดทุน อาจมีผลกระทบด้านการท่องเที่ยว เพราะการทะเลาะกันระหว่างจีน-ญี่ปุ่น เมื่อปี 2010 ทำให้จำนวนผู้ท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น

 

ทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยนั้นได้รับผลกระทบนิดเดียว เพราะ Supply chain ของไทยกับจีนไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่ละประเทศจะเน้นผลิตสำหรับลูกค้าในภูมิภาคใกล้เคียง

 

การส่งออก Raw materials จากจีน ก็ยังไม่เห็นว่ามีปัญหาว่าชะงักลงแต่อย่างใด แต่ถ้าเหตุการณ์ยืดเยื้อก็น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของญี่ปุ่นในจีน และประเทศไทยอาจจะได้รับผลดีก็ได้ถ้าญี่ปุ่นหันมาซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น

 

หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการลงทุน เช่น นิคมอุตสาหกรรม อาจจะได้ผลดี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นผลในลักษณะนั้น ดังนั้น ยังมองว่าประเด็นเรื่องนี้ยังไม่มีนัยสำคัญมากพอต่อทางการลงทุนของเรา

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

อานุภาพแห่งรอยยิ้ม

 

เวลานี้ผู้คนต่างวิตกกังวลเรื่องความวุ่นวายเรื่องสงคราม และเรื่องอาวุธเชื้อโรคซึ่งกำลังเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ใจคนก็หม่นหมองลงทุกทีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มนับวันจะเลือนหายไปจากโลกมนุษย์ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยโดยเฉพราะเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงเทพฯ หรือสยามที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองยิ้มกจวนจะเหลือแต่ชื่อเต็มที “ยิ้ม” ไม่ใช่เป็นเพียงการแสดงออกทางสีหน้า บ่งบอกถึงความสุขสมหวัง ปลื้มปิติ เท่านั้น “ยิ้ม” ยังมีอนุภาพอีกหลายอย่างในตัวของมันเอง เพราะ...

 

ยิ้มเปรียบเสมือนภาษาสากล ไม่ว่าคนเราจะเดินทางไปไหน ณ มุมไหนของโลก หรืออยู่ในสถานที่ที่มีข้อกีดขวางทางวัฒนธรรมและภาษา ยิ้มสามารถใช้เป็นภาษาที่สื่อสารและเข้าใจง่ายมากที่สุด เป็นภาษาที่ไม่ต้องการคำอธิบาย ไม่ต้องอาศัยเวลาเล่าเรียน ฝึกฝน เพราะทุกคนต่างเข้าใจความหมายแง่บวกที่สื่อออกไปแน่นอน

ยิ้มคือแม่เหล็กดูดมิตร ธรรมดาแม่เหล็กดูดสิ่งของที่มีประจุต่างกันและผลักสิ่งที่มีประจุต่างกัน ยิ้มก็เช่นกันเป็นตัวดูดคนดีให้เข้ามาใกล้ ยามที่เราต้องการจะเริ่มบทสนทนาหรืออยากรู้จักเพื่อนใหม่สักคนเพียงส่งยิ้มแห่งมิตรภาพไป ไม่ถึงเสี้ยววินาทีคุณก็จะได้รับรอยยิ้มแบบเดียวกันกลับมา อานุภาพแห่งยิ้มชั่วพริบตานี้อาจนำมาซึ่งมิตรแท้ที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต

 

ยิ้มเป็นยาชูกำลัง เมื่อคนเราเกิดความเศร้า ท้อแท้เป็นอาการป่วยทางจิต ยาปฏิชีวนะขนาดใดๆก็ไม่สามารถรักษาเยียวยาได้ ทว่าหากมีใครสักคนเดินเข้ามาด้วยความจริงใจพร้อมมอบรอยยิ้มเห็นอกเห็นใจให้แม้ไม่มีคำปลอบประโลมใดแต่ทำให้ใจที่มืดมนเกิดหนทางสว่างขึ้นได้ ประหนึ่งยาชูกำลังจิตใจคนเศร้าหมองให้มีพลัง กลับมายืนหยัดสู้กับปัญหาอีกครั้ง

 

ยิ้มยังเป็นยาอายุวัฒนะ ใครก็ตามที่มีอารมณ์ดีเป็นนิสัยมองไปคราใดก็พบใบหน้าเปื้นยิ้มอยู่เป็นนิจ จะเป็นผู้ที่สภาพจิตดีและอายุยืน เขาว่า “ใจเป็นนายกายเป็ยบ่าว” เมื่อใจซึ่งเป็นนายของกายดีก็พลอยทำให้บ่าวอย่างกายมีพลานามัยแข็งแรง ส่งผลให้มีอายุยืนยาวตามไปด้วย

 

ในทางจิตวิทยากล่าวไว่ว่า ไม่มีใครสามารถโกรธได้จริงในขณะที่พูดคำว่า “ยิ้ม” แบบทดสอบง่ายๆให้ลองทำหน้าให้บึ้งที่สุด เครียดที่สุด แล้วพูดคำว่า “ยิ้ม” สักสี่ห้าครั้งดูไม่มีทางเลยว่าคุณจะไม่เผลอหลุดยิ้มออกมาจริงๆในที่สุด

 

เมื่ออานุภาพของยิ้มมีมากถึงเพียงนี้แล้วคุณจะสงวนรอยยิ้มไว้ทำไม ลองแจกจ่ายให้ผู้คนรอบข้าง เริ่มจากจุดเล็กที่ตัวคุณ ค่อยๆ ขยายสู่คนรอบข้างสักวันเราจะได้กลับมาเป็น สยามเมืองยิ้ม อย่างสมบูรณ์ดังเดิม และท้ายที่สุดอานุภาพแห่งยิ้มก็จะขยายวงกว้างไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อสันติภาพจะกลับคืนสู่ใจมนุษย์อีกครั้ง

 

Credit: www.kalyanamitra.org

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-4992-0-71446900-1349663788.gifอรุณสวัสดิ์คะจานอั๋น เพื่อนๆpost-4992-0-01075300-1349664753.gif

 

 

Good Morning News 8 ตุลาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

 

 

47919_3322083750804_935207593_n.jpg

 

282360_3322091070987_1554019454_n.jpg

  • สเปนคงไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณปี 2555 ตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป (EU) ได้ จึงอาจต้องพิจารณามาตรการเพิ่มเติมซึ่งหมายถึงต้องลดการใช้จ่ายลงอีก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดโดย EU

  • ยอดสั่งซื้อภาคอุตสาคกรรมของเยอรมนีเดือน ส.ค.ลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักมาจากยอดสั่งซื้อภายในประเทศลดลง ขณะที่ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศทรงตัว แม้ว่าอุปสงค์จากประเทศอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซนจะเพิ่มขึ้น

  • ฝรั่งเศสลดคาดการณ์ขยายตัวของ GDP ปีนี้ลงสู่ 0.2% เนื่องจากกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมซบเซาและการบริโภคอ่อนแอ และมีแนวโน้มจะชะงักงันเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลพรรคสังคมนิยมให้ตระหนักถึงคำมั่นเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะหาทางกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 0.8%

  • รัฐบาลฝรั่งเศสมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายมาตรการปรับขึ้นภาษีสำหรับธุรกิจขนาดย่อมในปีงบประมาณ 2556 หลังจากที่ผู้ประกอบการจำนวนมากพากันออกมาคัดค้านอย่างไรก็ตาม คาดว่ารัฐบาลอาจปรับปรุงงบประมาณใหม่เพื่อควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับเป้าหมายที่ 3% เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือในสายตาของตลาดและประเทศอื่นๆ ในยูโรโซน

  • ยูโรโซนกำลังพิจารณาให้ความช่วยเหลือสเปนด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสเปน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเพื่อช่วยให้สเปนระดมทุนจากตลาดทุนได้ต่อไป โดยลดการใช้เงินของผู้เสียภาษีชาวยุโรปให้เหลือน้อยที่สุด โดยจะใช้เงินราว 5 หมื่นล้านยูโรต่อปี

  • นายกรัฐมนตรีกรีซ เปิดเผยว่า หลังเดือน พ.ย. กรีซไม่สามารถบริการประเทศได้หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืองวดถัดไป เนื่องจากเงินจะหมดคลังในเดือนพ.ย.นี้ ทั้งนี้ ECB อาจช่วยเหลือกรีซด้วยการยอมรับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงสำหรับการถือพันธบัตรที่กรีซมีอยู่ หรืออนุมัติการยืดเวลาไถ่ถอนพันธบัตรเมื่อพันธบัตรเหล่านั้นครบกำหนดไถ่ถอน

  • ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 114,000 ตำแหน่ง โดยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะครอบคลุมการจ้างงานภาครัฐด้วยส่วนอัตราการว่างงานเดือน ก.ย. ลดลงมาอยู่ที่ 7.8% จากระดับ 8.1% ในเดือน ส.ค.ทั้งนี้ มีข้อถกเถียงกันมากระหว่างภาคการเมืองต่างค่ายกัน (Democrat vs. Republican) และนักวิเคราะห์กับกูรูในภาคการเงินการลงทุน ที่มีทั้งผู้สนับสนุนข้อมูลนี้กับผู้ปฏิเสธว่าข้อมูลนี้ไม่สะท้อนภาพจริง เนื่องจากผู้ที่ว่างงานมานานมากได้ถอดใจออกไปจากระบบข้อมูลไปอยู่บ้าน ตัวเลขนี้จึงไม่ได้รวมผู้ว่างงานที่ออกจากระบบไปแล้ว ทำให้อัตราว่างงานลดลง

  • ยอดขายรถยนต์โตโยต้าในประเทศจีนเดือน ก.ย.ลดลงกว่า 40% สะท้อนว่าแบรนด์สินค้าญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุพิพาทเรื่องดินแดนระหว่าง 2 ประเทศ นับตั้งแต่เกิดเหตุประท้วงรุนแรง ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท เพราะจีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ค่ายรถยนต์คู่แข่งอย่างฮุนไดมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15%

  • ดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (Index of Coincident Indicators) ของญี่ปุ่นในเดือน ส.ค.ลดลง 0.2 จุด จากเดือนก.ค. ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 (ดัชนีนี้ใช้เป็นมาตรวัดสภาพเศรษฐกิจอย่างหนึ่งในปัจจุบันที่ครอบคลุมถึงการผลิต ยอดค้าปลีก และอัตราการนำเสนอตำแหน่งงานใหม่)

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วง 0.0%-0.1% และคงขนาดของแผนซื้อสินทรัพย์ไว้ที่ 80 ล้านล้านเยน แต่ได้ลดการประเมินทางเศรษฐกิจลง เนื่องจากมองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังชะลอลง ขณะที่การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างอ่อนแอ รวมถึงเศรษฐกิจในต่างประเทศปรับตัวลงสู่ช่วงที่ตกต่ำ

  • ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.ขยายตัว 0.3% จากเดือน ส.ค. สู่ 1.277 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยมีเหตุจากพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศที่ถือครองมีมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงการแข็งค่าของเงินยูโรทำให้สินทรัพย์สกุลเงินยูโรที่ถือครองอยู่มีมูลค่าสูงขึ้น และจากราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น

  • ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ทำสถิติสูงสุดในเดือน ก.ย.ที่ 3.2201 แสนล้านดอลลาร์ จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์ และผลตอบแทนจากการลงทุนที่ขยายตัว
  • ยอดการส่งออกของมาเลเซียในเดือน ส.ค. ลดลง 4.5% ต่อปี เนื่องจากอุปสงค์ในกลุ่มยูโรโซน จีน และอินเดีย อ่อนตัวลง โดยมีการลดลงในการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิก และไฟฟ้า

480369_3322092871032_38544875_n.jpg

  • SET Index ปิดที่ 1,311.35 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือ 0.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38,003.48 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตามตลาดต่างประเทศ และจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด

548687_3322093671052_434737308_n.jpg

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวช่วงระหว่าง 0.00% ถึง 0.01% มูลค่าซื้อขายรวม 108,223 ล้านบาท

404690_3322102071262_1589069479_n.jpg

  • Jim Roger “ผมเริ่มเข้าไปทำงานในธุรกิจจัดการลงทุนใน Wall Street ปี 1968 ด้วยเงินเพียง 600 ดอลลาร์ในกระเป๋า ผมออกจากที่นั่นเมื่ออายุ 37 พร้อมเงินมากพอที่จะผจญภัยด้วยตนเองได้”

  • Marc Faber

มุมมองต่อเศรษฐกิจไทย

 

- ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีโอกาสเกิดฟองสบู่ให้เห็นในบางส่วน เช่นที่เชียงใหม่ ซึ่งมีราคาปรับขึ้นมามากจนอาจเป็นฟองสบู่ได้ แต่ฟองสบู่นี้จะยังไม่แตกทันทีทันใด ส่วนในกรุงเทพตอนนี้ยังไม่เห็นว่าจะเป็นฟองสบู่ อย่างไรก็ตาม อสังหาริมทรัพย์ไทยมีหลายภาคส่วนซึ่งอาจเป็นอย่างสหรัฐคือบางแห่งเป็นฟองสบู่แต่บางแห่งไม่เป็น ทั้งนี้ หากมองโดยรวมแล้ว อสังหาริมทรัพย์ไทยยังไม่เป็นฟองสบู่ แต่ฟองสบู่เดียวที่เห็นในไทยคือ“หนี้ภาครัฐ

 

- เศรษฐกิจไทยจะไม่ขยายตัวได้ดีเหมือนที่เคยเป็น แต่ที่วันนี้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนั้นส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลที่เข้าไปแทรกแซงเศรษฐกิจ เช่น โครงการรับจำนำข้าว และการคืนภาษีรถยนต์คันแรกซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายรถเพิ่มขึ้น

 

- การส่งออกของไทยยังอ่อนแอและจะยังไม่ขยายตัวมากนัก เพราะตลาดสำคัญอย่างยุโรปอยู่ในภาวะตกต่ำ ผู้คนเดินทางมาเที่ยวน้อยลง และไทยเองก็มีคู่แข่งอย่าง พม่า เวียดนาม ลาว และ กัมพูชา ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ไทยยากลำบากมากขึ้นในการทำให้ประเทศเกิดกิจกรรมเศรษฐกิจที่ช่วยให้อัตราเติบโตสูงได้

 

- จากนี้ไปการเติบโตในเอเชียโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3%-4% ซึ่งก็ยังดีกว่าสหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่นซึ่งแทบจะไม่เติบโตเลย โดยที่สหรัฐนั้นในช่วง10 ปีข้างหน้าจะขยายได้อย่างมากแค่ 2% เท่านั้น

 

มุมมองต่อพอร์ตลงทุนทั่วโลกโดยรวม

 

- ผมมีเงินสดเพิ่มขึ้นมากในวันนี้ เพราะผมขายสินทรัพย์ออกไปในช่วงที่ตลาดทะยานขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมอยากมีเงินสดสัก 20% เพราะภายใน 6-9 เดือนข้างหน้า เราน่าจะซื้ออะไรได้ในราคาที่ลดลงจากวันนี้สัก 20%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเย็นของวันที่ 8/10/2555 เวลา 17.20 น.

 

เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำถูกแรงขายออกมา สาเหตุเบื้องต้นก็ ตัวเลขการจ้างงานของอเมริกาที่ประกาศออกมามีการจ้างงานนอกาคเกษตรกรรมเพิ่มมากขึ้น

 

รวมไปถึงการจ้างงานของอเมริกา Unemployment Rate ที่คิดเป็น % ลดลง เมื่อก่อนประธานเฟด เคยกล่าวไว้ว่า อยากจะลดตัวเลขการจ้างงาน ของอเมริกาให้ต่ำกว่า 7.0 %

 

ตอนนี้ลดลงมาเหลือ 7.8 % แล้ว หลังจากออก QE3 มาได้เกือบ 1 เดือน ซึ่งตอนนี้ หากประเมินตาม ข้อมุลข่าวสาร

 

จะพบว่าเบื้องต้นราคาทองคำ อาจจะมีการย่อตัวลง และ US อาจจะดีดกลับขึ้นระยะสั้น ตามการเก็งกำไรระยะสั้น หรือไหลของเงินไปตามผลตอบแทนต่าง ๆ

 

ซึ่งตอนนี้ถ้าหากเรามาลองวิเคราะห์เบือ้งต้นจากตัวเลขการจ้างงานอเมิรกาที่ดีขึ้น ท่ามกลาง QE3 นี้

 

1. จะพบว่า ราคาทองคำอาจจจะมีการย่อตัวลงปรับฐานใหญ่ระยะสั้น อีกครั้ง นักลงทุนจะเทขายทองคำ นำเงินไปเก็งกำไร US ดอลล่าร์ แทน ชั่วคราว

 

2. ถ้าตัวเลขการจ้างดีขึ้นแบบนี้ต่อไปในอนาคต คำถาม ...QE3 จะเลิกใช้เมื่อไหร่ (ตรงนี้ก็ระวังเอาให้ดีดีครับ เฟดไม่เตือนล่วงหน้าอยุ่แล้ว) เพราะเฟด กล่าวว่า

 

หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น จะยังใช้ QE3 ต่อไปอีกสักระยะ จะเลิกเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบได้

 

3. ตอนนี้เฟด จะอัดฉีดเงินเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ดีขึ้นกว่านี้ อีกหรือไม่ หรือว่าจะรอดูผลไปเรื่อย ๆ ตรงนี้ก็ต้องประเด็นที่

 

เราต้องอ่านใจ เฟด ให้ออก ถ้าเพิ่มก็น่าจะส่งผล ต่อ ตลาดเงิน ต่าง ๆ อีกครั้งแน่ครับ ถ้าไม่เพิ่มก็ ระวัง สินทรัพย์ต่าง ๆ ย่อตัวลงปรับฐาน

 

หลังจากที่วิ่งขึ้นสู้มาฟัดมาได้สักระยะ แล้ว (ถ้าเป็นตำราพิชัยสงคราม ตอนนี้ อเมริกาก็เข่าข่าย ได้เปรียบแล้ว แต่จะรุก ต่อ หรือ จะนิ่งไว้ ก่อน

 

ตรงนี้ก็สุดที่จะ คาดเดา จากใจของประธานเฟด ได้ ) ครับ

 

แนวต้าน แนวรับ

 

แนวต้าน 1774-1777 ดูว่าจะผ่านได้หรือไม่ **** 1783 ระวังแรงขาย **** 1797 ระแรงขายอีกครั้ง ***** เป้าหมาย 1800 ******

 

สรุป แนวต้าน เน้นการยืนระดับ 1770 ให้ได้ก่อน ถ้าได้ เป้าหมาย ถัดไป ก็คือการกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1780 เพื่อ สะสมกำลังอีกครั้ง

 

เพื่อขึ้นทดสอบ เป้าหมาย 1800

 

แนวรับ 1766 - 1760 ดูว่าหลุดหรือไม่ ***** 1757 สมควรดีดกลับ *****1748 *** 1735 *****

 

สรุป แนวรับ เน้นการยืน แนวรับ 1760-1750 ให้ได้ก่อนในระยะสัปดาห์นี้เพื่อ สะสมกำลังขึ้นทดสอบ แนวต้าน อีกครั้ง

 

แต่ถ้าหลุด 1750 ลงไป คงแนะนำให้เป็นการหยุดดู แนวโน้ม ราคาทองคำก่อนละกันนะครับ

 

กรอบเล็ก 1760-1790 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1750-1800 = 50 เหรียญ

 

วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกา

 

คาดว่าถ้าไม่มีข่าว เสริมเข้ามาราคาทองคำก็จะ Side Ways อยู่แถว โซน 1760-1780 มากกว่าครับ

 

 

2012_10_08-100-20121008vvIdvTEdlPPdE42727.gif

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รุ้จบ :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Rจานอั๋นมาแว้ว ขอบคุณมากๆๆค่า Rจานอั๋น :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รบกสนถามอ อั๋นครับ เป็นไปได้มั้ยครับ

 

1. เพราะเฟดอัดฉีดเงินเข้าไป เเน่นอนงานเพิ่ม ดีใจเเป๊ปๆ เเต่เงินเฟ้อยาววววว เด๋วก็กลับไปที่ปัจจัยพฐ ทอง คือทองทะยายขึ้นต่อ

 

2, คนเลิกหางาน เลยทำให้ตัวเลขดี ดีใจเเปปๆ เดี๋ยวก็มีเงินเฟ้อมาอีก :21

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีคะจานอั๋น เพื่อนๆ :32

 

 

 

Good Morning News 9 ตุลาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

l431674_3325338232164_541828182_n.jpg

 

58291_3325347432394_1836407501_n.jpg

  • องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศสมาชิก OECD ลดลงแตะ 100.1 ในเดือน ส.ค. จาก 100.2 ในเดือน ก.ค. บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจของประเทศรายใหญ่ส่วนมากมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และดัชนีชี้นำต่างๆแสดงเห็นว่าประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะยังคงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงไตรมาสต่อๆไป

  • สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าที่มีการปรับค่าตามฤดูกาลเพิ่มขึ้นเป็น 1.83 หมื่นล้านยูโร จาก 1.63 หมื่นล้านยูโรในเดือน ก.ค. ขณะที่ผลสำรวจคาดว่าจะลดลงสู่ 1.53 หมื่นล้านยูโร ซึ่งการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้ทำให้เยอรมนีเป็นประเทศที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ท่ามกลางวิกฤตหนี้ที่ยืดเยื้อและส่งผลกระทบทั่วทั้งภูมิภาค

  • กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศร่วงลง 0.5% ในเดือน ส.ค. จากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือน ก.ค. ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ในภูมิภาคที่ยังคงยืดเยื้อ แม้ตัวเลขที่ลดลงในเดือน ส.ค. จะมีสาเหตุมาจากวันหยุด และแม้แนวโน้มการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังค่อนข้างมีเสถียรภาพ แต่ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่อ่อนแอส่งสัญญาณให้เห็นถึงภาวะซบเซาเพิ่มขึ้นในเดือนต่อๆไป

  • ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้และปีหน้าจากร้อยละ 8.2 และ 8.6 เหลือ 7.7 และ 8.1 เช่นเดียวกับเอเชียตะวันออกทั้งภูมิภาคที่ปรับลดตัวเลขขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าจากร้อยละ 7.6 และ 8.0 เหลือ 7.2 และ 7.6 เนื่องจากยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ธนาคารโลกยังคาดการณ์ในแง่ดีเพราะการบริโภคในประเทศแข็งแกร่ง โดยเฉพาะไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีการใช้จ่ายด้านการลงทุนอย่างคึกคัก โดยคงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ของอินโดนีเซีย และไทยไว้ที่ร้อยละ 6.1 และ 4.5 ส่วนมาเลเซียปรับขึ้นจากร้อยละ 4.6 เป็น 4.8

  • กระทรวงการคลังไต้หวันเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากลดลงมาติดต่อกัน 6 เดือนโดยยอดส่งออกที่ฟื้นขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ยอดส่งออกไต้หวันลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 2.24 แสนล้านดอลลาร์

  • จากการสำรวจผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหารพบว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้นโดยอยู่ที่ระดับ51.4 ขณะที่ความเชื่อมั่นใน 3 เดือนข้างหน้ามีค่าเท่ากับ 54.2 ซึ่งยังอยู่ในระดับดี โดยข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจที่มากที่สุดคือ ค่าจ้างแรงงานซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 89.2 รองลงมาคือภาวะเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศร้อยละ 66.3

  • นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดว่า ภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทยในปี 2555 จะหดตัว 1.3% ในขณะที่การส่งออกอาหารจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.6% ด้วยมูลค่า 980,000 ล้านบาท แต่ลดลงจากเป้าที่คาดว่าจะส่งออกได้มูลค่า 1 ล้านล้านบาท จากปัญหาเศรษฐกิจโลก ส่วนปี 2556 คาดว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทยจะเติบโต 2.0-4.0% และการส่งออกอาหารขยายตัวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนการผลิต และการแข็งค่าของค่าเงินบาท

548485_3325347752402_1747141472_n.jpg

  • SET Index ปิดที่ 1,304.71 จุด ลดลง 6.64 จุด หรือ -0.51% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,741.67 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 780.92 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค

420478_3325353392543_342382915_n.jpg

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ในช่วงระหว่าง-0.01% ถึง 0.01%

383463_3325354232564_1027440416_n.jpg

 

Jim Rogers

“ผมเขียนไว้ในหนังสือชื่อ Investment Biker ว่า ผมไม่เคยพบประเทศใดในประวัติศาสตร์โลกที่อยู่ได้ยืนยาวกว่า 200 ปีโดยมีอาณาเขตเท่าเดิม และมีรัฐบาลหรือชนชั้นปกครองเดิมๆ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาหากจะมีอีกหลายประเทศที่แยกออกจากกัน เพราะในรอบ 1-2 ทศวรรษที่ผ่านมาเรามีอย่างน้อย 10-12 ประเทศที่แยกออกจากกันแล้ว เช่น Yugoslavia, Czechoslovakia, Ethiopia, Eritrea, Sudan, Soviet Union ฯลฯ แล้วมันก็จะเกิดขึ้นอีกเหมือนที่เคยเป็นมาในประวัติศาสตร์“

“จีนจะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่าซื้อหุ้นของจีนเมื่อมันมีราคาพุ่งสูงในปี 2007 ผมเองจะซื้อต่อเมื่อตลาดดิ่งลงเท่านั้น“

“ขณะนี้ผมไม่เห็นว่าหุ้นที่ไหนที่ลงทุนแล้วจะคุ้มกับราคาซื้อในวันนี้เลย“

Marc Faber

“มันยากที่จะเอาชนะพลังของดอกเบี้ยทบต้นได้ ถ้าเราเริ่มลงทุนตั้งแต่พระเยซูประสูติแล้วได้ดอกเบี้ยสัก 5% ป่านนี้เราคงมีเงินมากกว่าทุกคนในโลกรวมกันแล้ว”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...