บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[jewjang40 5,712]

ขอบคุณจ๊ะ ต่ายทอง

จานอั๋นเป็นไงบ้างคะ ขอให้แข็งแรงไวๆนะคะ

 

 

 

Good Morning News 11 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

• ธ.กลางเยอรมนี ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ลงสู่ 0.7% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 1.0% และคาดว่าปีหน้าจะขยายตัวเพียง 0.4% จากเดิมที่คาดว่าจะเป็น 1.6% โดยอัตราว่างงานมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแตะ 7.2% ในปีหน้าจาก 6.8% ในปีนี้
  

• นายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ ของอิตาลี แถลงในทำเนียบว่า หากร่างกฎหมายงบประมาณผ่านรัฐสภาได้เร็วเขาจะลาออกในทันที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในอิตาลีระบุว่าการขาดเสียงหนุนทางการเมืองส่งผลให้การฟื้นฟูภาคการเงินของรัฐบาลเปราะบาง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความเสี่ยงของมาตรการรัดเข็มขัดที่อาจทำให้เศรษฐกิจอิตาลีซึ่งอยู่ในภาวะถดถอยอยู่แล้วต้องสะดุดลง
  

• ก.แรงงานสหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวขึ้นสูงเกินคาดถึง146,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7.7% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 7.9% โดยตัวเลขที่ดีเกินคาดบ่งชี้ว่าพายุเฮอริเคนแซนดี้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานในสหรัฐเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า การที่อัตราว่างงานลดลงนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ว่างงานมาเนิ่นนานเกิดความท้อแท้ และไม่รายงานตัวต่อ ก.แรงงาน อีกต่อไป กลุ่มคนเหล่านี้จึงไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลว่างงานของ ก.แรงงาน
  

• สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า การจ้างงานของธุรกิจขนาดย่อมลดลงสู่ -0.04 ในเดือน พ.ย. จาก +0.02 ในเดือน ต.ค. เนื่องจากแซนดีส่งผลให้บริษัทขนาดย่อมหลายพันแห่งปิดตามแนวชายฝั่งตะวันออก และยังไม่ได้เปิดดำเนินการอีกครั้งเป็นจำนวนมาก
  

• ธ.กลางสหรัฐ รายงานว่า ความมั่งคั่งของครัวเรือนในประเทศเพิ่มขึ้น 2.7% ในไตรมาส 3 เพราะได้ปัจจัยหนุนจากมูลค่าบ้านและราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันหนี้สินภาคครัวเรือน และหนี้สินเชื่อบ้านหดตัวลง 2% และ 3% ตามลำดับ
  

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต้นเดือน ธ.ค. ร่วงลงแตะ 74.5 จาก 82.6 ในเดือนก่อน ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และลดลงครั้งแรกหลังจากที่ขึ้นมา 4 เดือนติดต่อกันซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการลดการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
  

• ก.สถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย เปิดเผยว่า กำลังเฝ้าระวังเหตุปะทุของภูเขาไฟ“พลอสกี โทลบาจิก” บริเวณคาบสมุทรคัมชัตกาที่งกว่า 3,085 เมตรเหนือน้ำทะเล เพราะปะทุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อน ทั้งที่สงบนิ่งมานานถึง 36 ปี โดยเกรงว่าจะเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น
  

• ส.สถิติ ออสเตรเลีย รายงานว่า ยอดปล่อยสินเชื่อบ้านเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่อ่อนตัวกว่าที่คาด ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
  

• ศุลกากรจีน รายงานว่า ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าทรงตัว ส่วนยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศลดลงเหลือ1.96 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิม 3.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน ต.ค.
  

• ส.สถิติแห่งชาติจีน รายงานว่า ยอดลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีนเพิ่มขึ้น 20.7%เมื่อเทียบกับปีก่อน ไปแตะ 32.32 ล้านล้านหยวนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ การลงทุนในภาคกลางของจีนขยายตัว 26.2% รองลงมาเป็นภาคตะวันตกที่ขยาย 24.2% และภาคตะวันออกที่ 18%
  

• ส.สถิติแห่งชาติของจีน รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนลดลง 2.2% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการปรับตัวลง 9 เดือนติดต่อกัน โดยดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของประเทศ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 10.1% โดยการขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือน พ.ย.บ่งชี้ว่า จีนกำลังฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนการขยายตัวและการผ่อนปรนนโยบายของทางรัฐบาล
  

• อัตราการขยายตัวของ GDP ญี่ปุ่นในไตรมาส 3 ที่ทบทวนแล้วกลายเป็นหดตัว 3.5% ต่อปี เพราะมีการปรับลดการลงทุนในภาคสาธารณะ แม้ความต้องการในภาคเอกชน เช่น การใช้เงินทุนจะถูกปรับให้อยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในไตรมาส 4 เป็นติดลบ 5.5 จากเดิมบวก 2.2 ในไตรมาสที่แล้ว โดยติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส เนื่องจากการผลิตและการส่งออกอ่อนตัวลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อพิพาทดินแดนกับจีน
  

• ก.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ต.ค. ร่วงลง 29.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการส่งออกอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง
  
• รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจร่วงลง 7 เดือนติดต่อกันในเดือน ต.ค. โดย Coincident Economic Indicators ร่วงลง 0.9% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.
  

• รอยเตอร์ รายงานผลสำรวจว่า สิ่งที่บริษัทผู้ผลิตของญี่ปุ่นครึ่งหนึ่งต้องการให้ผู้ชนะการเลือกตั้งรัฐสภาในเดือนนี้ทำมากที่สุดก็คือ “ผลักดันให้เยนอ่อนค่าลง” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
  

• รัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ยังไม่พบความผิดปกติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฟูกุชิมะ มิยางิและ อาโมโมริ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว 7.3 ริกเตอร์ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
  

• ธ.กลางเกาหลีใต้ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของเกาหลีใต้เดือน พ.ย.อ่อนตัวลง0.6% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. และอ่อนตัว 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันโลกร่วงลงต่อเนื่อง และเงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
  

• ส.สถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ภาคการผลิตเกาหลีใต้ขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับปีก่อน ขยายตัวต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 ปี เนื่องจากอุปสงค์เพื่อการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศยังคงอ่อนแรงลงท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
  

• โฆษกรัฐบาล รายงานว่า จีนสนใจลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงของไทย โดยจีนยืนยันว่ารถไฟฟ้าจีนมีราคาถูก ก่อสร้างไว คุณภาพดี และมีราคาก่อสร้างต่ำกว่าคู่แข่ง โดยจะใช้เวลาก่อสร้างแต่ละสาย 6-7 ปี ทั้งนี้ ไทย-จีน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือรถไฟไปแล้วเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ปีนี้ ซึ่งจีนได้ศึกษาเส้นทาง กทม-เชียงใหม่ และ กทม.-หนองคาย แล้ว
  

• SET Index ปิดที่ 1,334.95 จุด ลดลง 4.93 จุด หรือ -0.37% ด้วยมูลค่าซื้อขาย35,194.67 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 103.04 ล้านบาท ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลด สวนทางกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ในช่วงระหว่าง-0.01% ถึง 0.01%
  

• Bill Gates
  

”ลูกค้าที่ไม่มีความสุขกับสินค้าและบริการของคุณมากที่สุด จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดของบริษัท”

”โลกไม่ได้แคร์เกี่ยวกับความชื่นชมในตัวเองของเรา โลกหวังว่าเราจะทำอะไรสำเร็จสักอย่างก่อนที่เราจะเริ่มรู้สึกดีๆ ต่อตัวเอง”

• Peter Schiff
  

”อันตรายที่แท้จริงของสหรัฐไม่ใช่การตกหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) แต่เป็นการที่ไม่ยอมตกลงไป เพราะมันจะทำให้เป็นหนี้และขาดดุลงบประมาณมากขึ้น”

[jewjang40 5,712]

อรุณสวัสดิ์คะจานอั๋น เพื่อนๆ

 

 

 

Good Morning News 11 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

·

• ธ.กลางเยอรมนี ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ลงสู่ 0.7% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 1.0% และคาดว่าปีหน้าจะขยายตัวเพียง 0.4% จากเดิมที่คาดว่าจะเป็น 1.6% โดยอัตราว่างงานมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแตะ 7.2% ในปีหน้าจาก 6.8% ในปีนี้
  

• นายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ ของอิตาลี แถลงในทำเนียบว่า หากร่างกฎหมายงบประมาณผ่านรัฐสภาได้เร็วเขาจะลาออกในทันที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในอิตาลีระบุว่าการขาดเสียงหนุนทางการเมืองส่งผลให้การฟื้นฟูภาคการเงินของรัฐบาลเปราะบาง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความเสี่ยงของมาตรการรัดเข็มขัดที่อาจทำให้เศรษฐกิจอิตาลีซึ่งอยู่ในภาวะถดถอยอยู่แล้วต้องสะดุดลง
  

• ก.แรงงานสหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวขึ้นสูงเกินคาดถึง146,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7.7% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 7.9% โดยตัวเลขที่ดีเกินคาดบ่งชี้ว่าพายุเฮอริเคนแซนดี้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานในสหรัฐเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า การที่อัตราว่างงานลดลงนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ว่างงานมาเนิ่นนานเกิดความท้อแท้ และไม่รายงานตัวต่อ ก.แรงงาน อีกต่อไป กลุ่มคนเหล่านี้จึงไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลว่างงานของ ก.แรงงาน
  

• สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า การจ้างงานของธุรกิจขนาดย่อมลดลงสู่ -0.04 ในเดือน พ.ย. จาก +0.02 ในเดือน ต.ค. เนื่องจากแซนดีส่งผลให้บริษัทขนาดย่อมหลายพันแห่งปิดตามแนวชายฝั่งตะวันออก และยังไม่ได้เปิดดำเนินการอีกครั้งเป็นจำนวนมาก
  

• ธ.กลางสหรัฐ รายงานว่า ความมั่งคั่งของครัวเรือนในประเทศเพิ่มขึ้น 2.7% ในไตรมาส 3 เพราะได้ปัจจัยหนุนจากมูลค่าบ้านและราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันหนี้สินภาคครัวเรือน และหนี้สินเชื่อบ้านหดตัวลง 2% และ 3% ตามลำดับ
  

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต้นเดือน ธ.ค. ร่วงลงแตะ 74.5 จาก 82.6 ในเดือนก่อน ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และลดลงครั้งแรกหลังจากที่ขึ้นมา 4 เดือนติดต่อกันซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการลดการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
  

• ก.สถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย เปิดเผยว่า กำลังเฝ้าระวังเหตุปะทุของภูเขาไฟ“พลอสกี โทลบาจิก” บริเวณคาบสมุทรคัมชัตกาที่งกว่า 3,085 เมตรเหนือน้ำทะเล เพราะปะทุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อน ทั้งที่สงบนิ่งมานานถึง 36 ปี โดยเกรงว่าจะเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น
  

• ส.สถิติ ออสเตรเลีย รายงานว่า ยอดปล่อยสินเชื่อบ้านเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่อ่อนตัวกว่าที่คาด ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
  

• ศุลกากรจีน รายงานว่า ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าทรงตัว ส่วนยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศลดลงเหลือ1.96 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิม 3.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน ต.ค.
  

• ส.สถิติแห่งชาติจีน รายงานว่า ยอดลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีนเพิ่มขึ้น 20.7%เมื่อเทียบกับปีก่อน ไปแตะ 32.32 ล้านล้านหยวนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ การลงทุนในภาคกลางของจีนขยายตัว 26.2% รองลงมาเป็นภาคตะวันตกที่ขยาย 24.2% และภาคตะวันออกที่ 18%
  

• ส.สถิติแห่งชาติของจีน รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนลดลง 2.2% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการปรับตัวลง 9 เดือนติดต่อกัน โดยดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของประเทศ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 10.1% โดยการขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือน พ.ย.บ่งชี้ว่า จีนกำลังฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนการขยายตัวและการผ่อนปรนนโยบายของทางรัฐบาล
  

• อัตราการขยายตัวของ GDP ญี่ปุ่นในไตรมาส 3 ที่ทบทวนแล้วกลายเป็นหดตัว 3.5% ต่อปี เพราะมีการปรับลดการลงทุนในภาคสาธารณะ แม้ความต้องการในภาคเอกชน เช่น การใช้เงินทุนจะถูกปรับให้อยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในไตรมาส 4 เป็นติดลบ 5.5 จากเดิมบวก 2.2 ในไตรมาสที่แล้ว โดยติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส เนื่องจากการผลิตและการส่งออกอ่อนตัวลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อพิพาทดินแดนกับจีน
  

• ก.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ต.ค. ร่วงลง 29.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการส่งออกอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง
  
• รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจร่วงลง 7 เดือนติดต่อกันในเดือน ต.ค. โดย Coincident Economic Indicators ร่วงลง 0.9% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.
  

• รอยเตอร์ รายงานผลสำรวจว่า สิ่งที่บริษัทผู้ผลิตของญี่ปุ่นครึ่งหนึ่งต้องการให้ผู้ชนะการเลือกตั้งรัฐสภาในเดือนนี้ทำมากที่สุดก็คือ “ผลักดันให้เยนอ่อนค่าลง” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
  

• รัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ยังไม่พบความผิดปกติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฟูกุชิมะ มิยางิและ อาโมโมริ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว 7.3 ริกเตอร์ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
  

• ธ.กลางเกาหลีใต้ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของเกาหลีใต้เดือน พ.ย.อ่อนตัวลง0.6% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. และอ่อนตัว 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันโลกร่วงลงต่อเนื่อง และเงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
  

• ส.สถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ภาคการผลิตเกาหลีใต้ขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับปีก่อน ขยายตัวต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 ปี เนื่องจากอุปสงค์เพื่อการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศยังคงอ่อนแรงลงท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
  

• โฆษกรัฐบาล รายงานว่า จีนสนใจลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงของไทย โดยจีนยืนยันว่ารถไฟฟ้าจีนมีราคาถูก ก่อสร้างไว คุณภาพดี และมีราคาก่อสร้างต่ำกว่าคู่แข่ง โดยจะใช้เวลาก่อสร้างแต่ละสาย 6-7 ปี ทั้งนี้ ไทย-จีน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือรถไฟไปแล้วเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ปีนี้ ซึ่งจีนได้ศึกษาเส้นทาง กทม-เชียงใหม่ และ กทม.-หนองคาย แล้ว
  

• SET Index ปิดที่ 1,334.95 จุด ลดลง 4.93 จุด หรือ -0.37% ด้วยมูลค่าซื้อขาย35,194.67 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 103.04 ล้านบาท ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลด สวนทางกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ในช่วงระหว่าง-0.01% ถึง 0.01%
  

• Bill Gates
  

”ลูกค้าที่ไม่มีความสุขกับสินค้าและบริการของคุณมากที่สุด จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดของบริษัท”

”โลกไม่ได้แคร์เกี่ยวกับความชื่นชมในตัวเองของเรา โลกหวังว่าเราจะทำอะไรสำเร็จสักอย่างก่อนที่เราจะเริ่มรู้สึกดีๆ ต่อตัวเอง”

• Peter Schiff
  

”อันตรายที่แท้จริงของสหรัฐไม่ใช่การตกหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) แต่เป็นการที่ไม่ยอมตกลงไป เพราะมันจะทำให้เป็นหนี้และขาดดุลงบประมาณมากขึ้น”

[jewjang40 5,712]

 

 

 

Good Morning News 13 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

·

 

 

 

• ผลผลิตอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือน ต.ค.หดตัวลง 1.4% จากเดือนก่อนโดยการผลิตสินค้าคงทนและสินค้าทุนลดลง 3.8% และ 3.0% ตามลำดับ ขณะที่สินค้าไม่คงทนมีการผลิตเพิ่มขึ้น 1.2% ทั้งนี้ โปรตุเกสมีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็น 4.8% ขณะที่เอสโตเนียหดตัวลงมากที่สุดถึง 5.3%
  

• อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีและฝรั่งเศส เดือน พ.ย.เป็น 1.9% และ 1.4% ตามลำดับ ลดลง 0.1% และ 0.2% จากเดือนก่อน เพราะต้นทุนราคาพลังงานลดลง 1.1%-1.2%
  

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในเดือน พ.ย.ลดลง 3,000 คน จากที่เพิ่มขึ้น 6,000 คนในเดือนก่อน ทำให้จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานรวมอยู่ที่ 1.58 ล้านคน แต่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 7.8%
  

• บลูมเบิร์ก สำรวจความเห็นประชาชนผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน โดยพบว่า กึ่งหนึ่งเห็นด้วยกับการขึ้นภาษีผู้มีรายได้สูงตามแผนของโอบามา ซึ่งช่วยยืนยันว่าการขึ้นภาษีเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรทำตามที่ให้คำมั่นไว้ และจะช่วยให้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงFiscal Cliff เป็นไปได้มากขึ้น
  

• ราคาสินค้านำเข้าของสหรัฐเดือน พ.ย.ลดลง 0.9% จากเดือนก่อน ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เพราะราคาปิโตรเลียมและอาหารลดลง 3.6% และ 1.3% ตามลำดับ
  

• จำนวนตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 128,000 ตำแหน่ง ทำให้ตำแหน่งงานรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.68 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 4 เดือน บ่งชี้ว่า บริษัทในสหรัฐยังคงขยายธุรกิจต่อไปแม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนในเรื่อง Fiscal Cliff
  

• ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 2.6% เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ภาคเอกชนเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปีหน้ามากขึ้น
  

• IMF เตือนว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงกำลังเผชิญความเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่แตก หลังจากอัตราดอกเบี้ยต่ำและปริมาณเสนอขายที่จำกัดได้ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วง 4 ปี
  

• เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการยิงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรขณะที่นานาประเทศแสดงความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว โดยเกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยไกลซึ่งระบุว่าเป็นการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงสันติและทางวิทยาศาสตร์ และจะปฏิบัติตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นเตรียมเสนอให้ UN ออกมาตรการเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือ ขณะที่สหรัฐออกมาระบุว่าการกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุและคุกคามความมั่นคงของภูมิภาคเป็นอย่างยิ่ง
  

• ผลสำรวจของธนาคารกลางสิงคโปร์ ระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ในปีนี้จะขยายตัว 1.5% ลดลงจาก 2.4% ในการสำรวจเดือน ก.ย. โดยจะขยายตัวเพียง 0.3% ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยที่ 2.3% อย่างมาก
  

• อินโดนีเซียพบไข้หวัดนก H5N1 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งส่งผลให้เป็ดบนเกาะชวาล้มตายกว่า 320,000 ตัวนับตั้งแต่เดือน พ.ย. ทั้งนี้ อินโดนีเซียเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไข้หวัดนก จนทำให้ต้องกำจัดสัตว์ปีกหลายล้านตัวในปี 2546
  

• รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท.ในครั้งที่ผ่านมา ระบุว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้ามีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าประมาณการเดิมของ ธปท. จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าคาด ขณะที่การส่งออกจะกลับมามีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า อย่างไรก็ตาม กนง.ยังคงเห็นว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่ลงยังคงมีอยู่ จึงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งที่ผ่านมา และจะติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมต่อไป
  

• ผอ.สำนักนโยบายการเงิน ธปท. คาดว่า GDP ในปีนี้จะขยายตัว 5.7% และปีหน้า 4.6% จากการบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ขณะที่มีปัจจัยเสี่ยงจาก Fiscal Cliff ของสหรัฐ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และภาวะซบเซาของญี่ปุ่น ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปีหน้าจะอยู่ที่ 2.8% แต่มีความเสี่ยงจากการปรับค่าแรงเป็น 300 บาททั่วประเทศ และการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของภาครัฐที่อาจทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวเกินกว่าที่คาดไว้ได้
  

• ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า แนวโน้มนโยบายการเงินของไทยจะยังอยู่ในทิศทางผ่อนคลายต่อเนื่องในปีหน้าซึ่งจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ อันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การอุปโภคบริโภคในประเทศเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในประเทศให้สูงขึ้นได้ ทำให้ธปท.ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
  

• SET Index ปิดที่ 1,354.57 จุด เพิ่มขึ้น 13.24 จุด หรือ 0.99% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43,485.09 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,387.77 ล้านบาท ทั้งนี้ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศ และความคาดหวังว่า Fed อาจจะประกาศแผน QE4 ในการประชุมคืนที่ผ่านมา
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง +0.01% ถึง 0.06% โดยเป็นการปรับขึ้นมากในพันธบัตรรุ่นอายุ 9 และ 15 ปี ตามผลการประมูลในช่วงเช้า
  

• ธปท.เปิดเผยแผนการออกพันธบัตรธปท.ในปี 2556 โดยจะยกเลิกการออกพันธบัตร ธปท. อัตราดอกเบี้ยคงที่อายุ 4 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการระดมทุนของภาครัฐที่ต้องการเพิ่มพันธบัตรระยะยาว ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปี 2555 พบว่า ธปท.จะเพิ่มวงเงินประมูลต่อครั้งในพันธบัตรอายุสั้น และลดวงเงินประมูลต่อครั้งในพันธบัตรอายุระยะกลาง
  

• โอเปคมีมติคงเป้าหมายการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งโอเปคได้ส่งสัญญาณว่า ยังคงพอใจกับระดับราคาน้ำมันในปัจจุบัน ทั้งนี้ โอเปคยังไม่สามารถเลือกเลขาธิการคนใหม่ได้เนื่องจากยังคงมีความขัดแย้งกันระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน
  

ถูกแก้ไข ธันวาคม 14, 2012 โดย กระต่ายทอง

[jewjang40 5,712]

 

อรุณสวัสดิ์คะจานอั๋น เพื่อนๆ..

 

 

Good Morning News 14 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

·

• เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า การดำเนินการใดๆ ของเฟด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สามารถที่จะชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากภาวะหน้าผาการคลัง (Fiscal cliff) ที่จะเริ่มมีผลในเดือนหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาและเจ้าหน้าที่นิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันมีความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้เชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้โดยไม่ได้สร้างความเสียหายตามมาในระยะยาว
  

• ยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐในเดือนพ.ย. อยู่ที่ 1.72 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าระดับ 1.50 แสนล้านดอลลาร์ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ และปรับตัวขึ้นจากระดับ 1.37 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน พ.ย.2011 ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐมีแนวโน้มที่จะมียอดหนี้พุ่งขึ้นชนเพดานที่ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนสิ้นปีนี้ โดยในวันจันทร์ที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยอดหนี้ของกระทรวงการคลังอยู่ต่ำกว่าระดับเพดานเพียง 6.25 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่กระทรวงมีมาตรการฉุกเฉินที่สามารถนำมาใช้ได้เพื่อช่วยให้กระทรวงสามารถกู้ยืมเงินได้ต่อไปถึงช่วงต้นปี 2013
  

• ยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับที่ลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. เพราะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ยานยนต์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงการจับจ่ายซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดปลายปี อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกดังกล่าวขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 0.5% และน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8ธ.ค. ปรับตัวลดลง 29,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 343,000 ราย ซึ่งทำสถิติลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์ และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 369,000 ราย
  

• บริษัทเรียลตีแทรค รายงานตัวเลขการเริ่มต้นกระบวนการยึดบ้านติดจำนองในสหรัฐอยู่ที่ 77,494 หลังคาเรือนในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2006 นอกจากนี้ ตัวเลขนี้ยังลดลง 13% จากเดือนต.ค. และดิ่งลง 28% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. 2011 ซึ่งการลดลงนี้สอดคล้องกับการพุ่งขึ้นของราคาบ้านและความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเชื่อว่า ภาคที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว หลังจากประสบกับภาวะฟองสบู่แตกเมื่อ 6 ปีก่อน
  

• เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากการคาดการณ์ที่ว่านายชินโสะ อาเบะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่นซึ่งสนับสนุนการผ่อนปรนด้านเงินตราจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. นี้
  

• รายงานของสถาบันวิชาการด้านกลยุทธ์เศรษฐกิจในสังกัดวิทยาลัยสังคมศาสตร์ของจีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 7.7% ในปีนี้และเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ในปีหน้า โดยส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
  

• ผู้นำชาติอาเซียน ตัดสินใจประกาศเลื่อนกำหนดการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community: AEC) ออกไปอีก 12 เดือน จากเดิมต้องเปิดวันที่ 1 ม.ค. 2015 เป็นวันที่ 31 ธ.ค. 2015 แทน เนื่องจากข้อตกลงและขั้นตอนต่างๆ อีกหลายขั้นตอน ยังไม่สามารถตกลงกันได้ อาทิ เรื่องการตรวจลงตราภาษีอาการสินค้า กฎระเบียบว่าด้วยการลงทุนระหว่างกัน เป็นต้น
  

• กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 สำหรับชาวต่างชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ เนื่องจากเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับหน่วยเงินสำคัญอื่นๆ ส่วนกรุงเทพมหานคร ครองตำแหน่งอันดับที่ 3 ตามด้วยกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นอันดับที่ 4 ในภูมิภาค
  

• ผู้ว่าการ ธปท. มองกระแสเงินทุนในตลาดโลก มีโอกาสจะไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องรอบใหม่ แต่ยังต้องรอประเมินผลกระทบอีกครั้ง เพราะปริมาณเงินที่อัดฉีดไม่สูงนัก และเศรษฐกิจเอเชียในขณะนี้ ไม่ได้ขยายตัวสูงเหมือนในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้
  

• SET Index ปิดที่ 1,353.81 จุด ลดลง 0.76 จุด หรือ 0.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,588 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 967ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยยังมีแรงขับเคลื่อนจากสภาพคล่องของเม็ดเงินในตลาด แต่ความกังวลต่อปัญหาภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจขายทำกำไรออกมาบ้าง ส่งผลให้ดัชนีขยับได้ไม่มากนัก
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง +0.01% ถึง 0.03% สำหรับวันศุกร์นี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. 2 รุ่น ได้แก่ อายุ 15 วัน และประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอายุ 3 ปี วงเงินรวมทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท
  

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.75% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยยังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนก.ค.และต.ค.
  

• ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.5% ตามความคาดหมาย เนื่องจากคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับปานกลาง และเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวสดใส อันเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศ
  

• สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 90.5 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4 ปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้วอยู่ 4.35 แสนบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม IEA คาดการณ์ว่า ความเสี่ยงอุปสงค์ยังคงท้าทายตลาดน้ำมัน เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกยังคงเชื่องช้า สำหรับแนวโน้มการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีหน้า ยังคงค่อนข้างซบเซา ที่ระดับ 900,000 บาร์เรล/วัน
  

[meng166 131]

ขอใจหลาย

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้า ๆ เกือบสายนิดนิด ของวันที่ 14-12-2012 เวลา 10.32 น.

 

อืม .....หลังจากที่ไม่ได้เข้ามารายงานกระทู้มานาน ว่าไปแล้ว ก็คิดถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ญาติ ๆ ลุง ๆ ป้า ๆ น้า ๆ อา ๆ และแฟนคลับชาวไทยโกลด์ทั้งหลายเช่นกันครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสบายดีกันทุกคนนะครับ อย่างแรกต้องขอบคุณ คุณกระต่ายทองคนสวยและแสนใจดีของพวกเราชาวไทยโกลด์ก่อนนะครับที่เข้ามาทำให้

 

กระทู้ของผมรวมไปถึงเพื่อน ในห้องกระทู้ต่าง ๆ ไม่เงียบเหงา และได้ความรู้กันครบแบบเต็มรูปแบบทุก ๆ วัน ครับ

 

ตอนนี้ผมจะกลับมารายงานตัวอีกครั้ง หลังจากผ่านเรื่องราว ต่าง ๆ มามากมาย ครับ

 

ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะช่วยสอนให้เราแข็งแกร่งและเข้มเเข็งขึ้นต่อไปเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในอนาคต ครับ

 

โม้มาเยอะแล้ว กลับมาที่ ราคาทองคำในปัจจุบัน บ้างดีกว่านะครับ

 

เดือนนี้ เดือนอะไร มีใครจำได้ไหมครับ ... เอาเป็นว่าเฉลย ให้นะครับ ก็เดือนธันวาคมไงละครับ จริงก็รู้กันหมดแล้วเน้อ เพราะมันผ่านมาได้เกือบจะ ครึ่งเดือน ผมเนี้ยยังถามอยุ่ใช่ปะครับ

 

เปล่าเลยครับ ที่ผมเน้น ก็คือ ว่า ส่วนใหญ่แล้วเดือนธันวาคมมันจะเกิดอะไรขึ้นต่างหากละครับ

 

ก็ราคาทองคำมักจะลงนะซิ ถามอยู่ได้ ใช่ไหมครับ ตรงนี้ผมเคยเตือนตั้งแต่ วันที่ 13 พฤศจิกายน แล้วนะ นี้ก็ผ่านมาได้ 1เดือนละครับ

 

หวังว่า คงไม่มีใครอยู่บนดอยกันนะครับ ไม่งั้นเนี้ย มีงอล แน่ๆ เลยครับ

 

แต่ผมเชื่อนะพวกเราชาวไทยโกลด์ ไม่ค่อยมี ดอยกันแล้ว ใช่ปะ ..............อิอิ

 

นับจากนี้ไปก็เหลืออีก 2สัปดาห์แล้วนะครับ ใกล้จะถึงปีใหม่ 2013 กันแล้วนะครับ แต่มีข่าวลือ มาว่า โลกจะแตก ในวันที่ 21-12-2012 นี้

 

อืม ถ้าโลกจะแตก จริง เสียดาย ครับผมเองยังไม่ทันได้เตรียมตัว ต้อนรับวันโลกแตก เลยเฮ้อ .......จะรีบลาโลกอัน สวยงาม นี้ไปไหนกันนะ

 

ส่วนราคาทองคำก็ นี้เลย ครับ ระวัง แรงขายเอาไว้ก่อนดีกว่า ครับ เพราะนับจากนี้ไป จนถึงสิ้นปี คนส่วนใหญ่ จะเทขายสินทรัพย์ ต่าง ๆ ทีได้ซือ้สะสมไว้และได้กำไร

 

มาตั้งแต่ ต้นปี กลางปี เพือ นำเงินไปใช้ หรือไปฉลอง ในเทศกาล คริสมาสต์ รวมไปถึงปีใหม่ ถือว่า อาจจะเป็นวันหยุดยาว เลยก็ได้นะครับ

 

เพราะว่าใครที่วางแผนไปเที่ยวในช่วงนั้น ก็ต้องเตรียมใช้เงินกันทั้งนัน้ครับ ใชไหมครับ และวิธีที่หาเงินได้ง่ายและไว

 

ก็ไปถอนเงินจากธนาคาร และ ขายสินทัรพย์ที่ได้ลงทุนเมื่อต้นปี กลางปีไปนั้นเองครับ

 

และที่สำคัญ สัญญา GF ในเดือนธันวาคมก็จะใกล้ถึงเวลาปิด ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ แล้วด้วยนะครับ

 

จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ราคาทองคำถูกกดดัน และไม่ค่อยมีแรงขึ้นมากเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีข่าวเข้ามาสนับสนุน เบื้องต้นก็ตามครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1703-1707 ดูการขึ้นมาทดสอบตรงโซนแถว ๆ นี้ก่อนนะครับ ว่าจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ *****ผ่านได้ ลุ้น 1717-1719 ต่อไปอีกครั้งครับ ****

 

สรุป แนวต้าน ระยะนี้ เน้นการกลับขึ้นไปยืนเหนือ แนวต้าน 1700 เหรียญ ให้ได้ก่อนครับ เพราะถ้าหากยืนได้แล้วโอกาศที่จะทดสอบแนวต้าน ถัดไป ก็อาจะกลับ

 

เข้าไปเล่นในกรอบ Side ways 1700-1730 อีกครั้ง เพื่อรอทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้งหลังปี 2013 ครับ แต่หากยืนไม่ได้ละก็ อืม ........

 

แนวรับ 1693-1687 **** ระวังหลุดไว้ก่อนนะครับ ถ้าหลุดก็ลุ้น 1682 อีกครั้งแต่ผมว่าตอนนั้นก็เริ่มจะหนาวแล้ว 1674 ลุ้นดีดกลับ*****

 

สรุป แนวรับ ขอเน้นโซน 1690-1680 เอาไว้ก่อนครับ ดูว่าแนวรับตรงนี้หากลงไปทดสอบจริงแล้วจะมีแรงดีดกลับได้แค่ไหน สามารถดีดขึ้นยืนเหนือ 1705-1710 ได้หรือไม่

 

เพราะถ้าไม่ แนวโน้มราคาทองคำก็มีโอกาศหลุด 1680 ลงไป เพื่อพักฐานและปรับฐาน แถวโซน 1670-1640 ได้เช่นกันครับ

 

กรอบเล็ก 1690-1710 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1680-1720 = 50 เหรียญ

 

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1.การประชุม EU Summit วันที่สอง รอผลการรายงานออกมา

 

2.เวลา 20.30 น. ดัชนีราคาผู้บริโภค (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) คาดการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลง

 

3.เวลา 21.00 น. ดัชนีมุมมองฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิต คาดการณ์ ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

4.เวลา 21.15 น. ยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

5.เวลา 21.15 น. อัตราการใช้กำลังผลิต คาดการณ์ ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ ฝากกรอบ กรอบ Side ways ระยะนี้ 1695-1705 = 10 เหรียญ เอาไว้เป็นของแถม นิดหนึ่งครับ

 

หากหลุดไปทางใดทางหนึ่ง ราคาทองคำก็จะมีแนวโน้มที่ชัดเจนเพิ่มมากขึ้นครับ

ถูกแก้ไข ธันวาคม 14, 2012 โดย Rจานอั๋น

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น

[luck 512]

ขอบคุณมากค่ะ จานอั๋น ต่ายทอง

จานอั๋นแข็งแรงดีแล้วนะคะ

[jewjang40 5,712]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้า ๆ เกือบสายนิดนิด ของวันที่ 14-12-2012 เวลา 10.32 น.

 

อืม .....หลังจากที่ไม่ได้เข้ามารายงานกระทู้มานาน ว่าไปแล้ว ก็คิดถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ญาติ ๆ ลุง ๆ ป้า ๆ น้า ๆ อา ๆ และแฟนคลับชาวไทยโกลด์ทั้งหลายเช่นกันครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสบายดีกันทุกคนนะครับ อย่างแรกต้องขอบคุณ คุณกระต่ายทองคนสวยและแสนใจดีของพวกเราชาวไทยโกลด์ก่อนนะครับที่เข้ามาทำให้

 

กระทู้ของผมรวมไปถึงเพื่อน ในห้องกระทู้ต่าง ๆ ไม่เงียบเหงา และได้ความรู้กันครบแบบเต็มรูปแบบทุก ๆ วัน ครับ

 

ตอนนี้ผมจะกลับมารายงานตัวอีกครั้ง หลังจากผ่านเรื่องราว ต่าง ๆ มามากมาย ครับ

 

ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะช่วยสอนให้เราแข็งแกร่งและเข้มเเข็งขึ้นต่อไปเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในอนาคต ครับ

 

โม้มาเยอะแล้ว กลับมาที่ ราคาทองคำในปัจจุบัน บ้างดีกว่านะครับ

 

เดือนนี้ เดือนอะไร มีใครจำได้ไหมครับ ... เอาเป็นว่าเฉลย ให้นะครับ ก็เดือนธันวาคมไงละครับ จริงก็รู้กันหมดแล้วเน้อ เพราะมันผ่านมาได้เกือบจะ ครึ่งเดือน ผมเนี้ยยังถามอยุ่ใช่ปะครับ

 

เปล่าเลยครับ ที่ผมเน้น ก็คือ ว่า ส่วนใหญ่แล้วเดือนธันวาคมมันจะเกิดอะไรขึ้นต่างหากละครับ

 

ก็ราคาทองคำมักจะลงนะซิ ถามอยู่ได้ ใช่ไหมครับ ตรงนี้ผมเคยเตือนตั้งแต่ วันที่ 13 พฤศจิกายน แล้วนะ นี้ก็ผ่านมาได้ 1เดือนละครับ

 

หวังว่า คงไม่มีใครอยู่บนดอยกันนะครับ ไม่งั้นเนี้ย มีงอล แน่ๆ เลยครับ

 

แต่ผมเชื่อนะพวกเราชาวไทยโกลด์ ไม่ค่อยมี ดอยกันแล้ว ใช่ปะ ..............อิอิ

 

นับจากนี้ไปก็เหลืออีก 2สัปดาห์แล้วนะครับ ใกล้จะถึงปีใหม่ 2013 กันแล้วนะครับ แต่มีข่าวลือ มาว่า โลกจะแตก ในวันที่ 21-12-2012 นี้

 

อืม ถ้าโลกจะแตก จริง เสียดาย ครับผมเองยังไม่ทันได้เตรียมตัว ต้อนรับวันโลกแตก เลยเฮ้อ .......จะรีบลาโลกอัน สวยงาม นี้ไปไหนกันนะ

 

 

 

จานอั๋นกลับมาแล้ว..พร้อมความสุขความสดชื่น..เบิกบานเต็มหัวใจ..ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงในไม่อีกกี่วันข้างหน้า..ขอบคุณทุกการแบ่งปันที่มีให้เสมอมานะคะ....จานอั๋นเป็นเพื่อนคนแรก..

ต่ายทองเริ่มนับหนึ่งจากตรงนี้..มาจนถึงทุกวันนี้..

ทู้จานอั่นเป็นที่ๆต่ายทอง..ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้..มิตรภาพ....ที่ตรงนี้เป็นที่ๆต่ายทอง..ไม่มีวันลืม..ประสบการณ์การเรียนรู้ ความมีน้ำใจที่จานอั๋น และเพื่อนๆมีให้ มิตรภาพที่ดีระหว่างเราจะคงอยู่ตลอดไปนะคะเพื่อนๆ

ว่าแต่จานอั๋นคะ..ถ้าหายไปนานแบบครั้งนี้อีก..ขอบอกมีงอลนะคะคริคริ

ถูกแก้ไข ธันวาคม 14, 2012 โดย กระต่ายทอง

[sr20detgt 1,468]

ขอบคุณมากคร้าบ....อ.อั๋น

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[jewjang40 5,712]

 

การลงทุนในแบบ “ปัญญา นิรันดร์กุล“

 

เรียกว่ากำลังคึกคักและมีอนาคตที่สดใสทีเดียว สำหรับอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมในปัจจุบัน เพราะบรรดาผู้อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังวงการบันเทิงไทยต่างรุกเข้ามาสร้างโอกาสโกยรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาที่กำลังวิ่งเข้ามา

 

ซึ่งคนในวงการทีวีดาวเทียมต่างคาดกันว่าสัดส่วนโฆษณาช่องทีวีดาวเทียมปีนี้จะปิดอยู่ที่ประมาณ 6-7% จากงบโฆษณาทีวีรวม 60,000 ล้านบาท

 

ประมาณไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าว ที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบจริงจังได้ไม่นานนี้ ด้วยมูลค่าของเม็ดเงินโฆษณาจากฟรีทีวี กำลังถูกแชร์มายังช่องทีวีดาวเทียม

 

ทำให้ผู้ประกอบการในวงการบอร์ดคาสต์ต่างมองเห็นโอกาสที่กำลังพุ่งเข้ามา หนึ่งในรายที่ปรับตัวเพื่อฉกฉวยโอกาสอย่างชัดเจนคือ "เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์" ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการออกอากาศบนฟรีทีวี

 

ก็ต้องปรับกระบวนรบมาที่ทีวีดาวเทียม ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่น่าจับตามองคือการประกาศร่วมทุนกับบริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งบริษัท ฟรีไซซ์ บรอดแคสติ้ง จำกัด

 

"ปัญญา นิรันดร์กุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า การร่วมทุนดังกล่าว เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน

 

เนื่องจากพีเอสไอคือผู้ผลิตจานดาวเทียมและกล่องรับสัญญาณที่มีความแข็งแกร่งด้านช่องทางการออกอากาศที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมประมาณ 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ขณะที่เวิร์คพอยท์คือผู้ผลิตรายการที่มีคอนเทนต์ที่แข็งแรง

 

"ฟรีไซซ์ทำงานร่วมกับใครก็ได้ ไม่จำกัดอยู่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่พร้อมจะออกไปร่วมงานกับหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ทั้งเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียมต่าง ๆ เพราะการขยายฐานการออกอากาศให้มากเท่าไร ก็คือโอกาสทางการขายมากขึ้นเท่านั้น"

 

เขาเล่าว่า โปรเจ็กต์แรกของฟรีไซซ์คือการเปิดช่องทีวีดาวเทียม 1 ช่อง ประมาณกุมภาพันธ์ปีหน้า และจะทยอยเปิดอีก 1 ช่อง ในอีก 1-2 ปีต่อไป ขณะที่รายละเอียดและรูปแบบของช่องที่จะเกิดขึ้นนั้นยังอยู่ในระหว่างศึกษาว่าจะเป็นช่องรายการประเภทใด แต่จะครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชม ภายใต้งบฯการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะคืนทุนภายใน 1 ปี

 

หัวเรือใหญ่เวิร์คพอยท์เผยแนวคิดว่า ธุรกิจนี้จะค่อย ๆ เริ่มทำทีละช่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนอนาคตจะเปิดทั้งหมดกี่ช่องยังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความพร้อมในแต่ละจุด

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สูตรของการลงทุนในความคิดของ "ปัญญา" คือเมื่อลงมือแล้วก็ "ต้องมีกำไรทันที" ตามสไตล์ของเวิร์คพอยท์ เป็นการดำเนินธุรกิจแบบ "ปัญญาสไตล์"

 

"วิธีการลงทุนต้องทำให้เกิดการเดินหน้าของธุรกิจ และเพียงพอต่อการเลี้ยงตัวเอง ถึงจะทำธุรกิจต่อไปได้ โดยไม่ขาดทุน เช่นเดียวกับเวิร์คพอยท์ทีวี ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีกำไรทันทีภายใน 3 เดือนที่เริ่มออกอากาศ ดังนั้น แนวทางการเปิดช่องต่อไปก็ต้องเป็นโมเดลเดียวกัน"

 

ปีหน้าสำหรับเวิร์คพอยท์ทีวี เตรียมปรับขึ้นค่าโฆษณาเฉลี่ยประมาณ 10-20% รับความนิยมของผู้ชมที่เพิ่มขึ้น "ปัญญา" เผยว่า แนวทางการขยายธุรกิจทีวีดาวเทียมต่อจากนี้ "ฟรีไซซ์" จะเป็นหัวหอกหลัก โดยการขยายตัวจะเป็นไปได้ทั้งรูปแบบโทรทัศน์บอกรับสมาชิก หรือเพย์ทีวี แต่ต้องขึ้นอยู่ว่ามีคอนเทนต์รองรับเพียงพอหรือไม่ บวกกับมีความต้องการของตลาดที่เพียงพอต่อธุรกิจไหม ถ้าเพียงพอเราก็พร้อมจะทำ

 

"เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมแล้ว แต่จะเดินหน้าไปสู่เพย์ทีวีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขั้นแรกเวิร์คพอยท์ต้องจับมือกับพีเอสไอไว้ก่อน วันนี้อุตฯทีวีดาวเทียมมีโอกาสจะเติบโตอีกมาก และเราสามารถขยายช่องทางและรูปแบบการทำงานได้เพิ่มขึ้น

 

เขาชี้ว่า การเข้ามาสู่ธุรกิจตรงนี้ไม่ได้มองแค่ "ความอยาก" ทำช่องทีวีดาวเทียม แต่ทำแล้วต้องให้เกิดเป็นธุรกิจถึงจะทำ ส่วนการลงทุนก้าวต่อไปนั้น คงต้องรอให้อุตฯทีวีดาวเทียมเติบโตเต็มที่ พร้อมจะเบียดกับช่องใหญ่ ๆ ได้ มูลค่าก็จะมหาศาลขึ้น

 

เมื่อถึงเวลานั้นก็จะไม่ได้เทียบกันแค่เรื่องของจำนวนช่อง แต่เป็นการเทียบกันในเรื่องคุณค่าที่จะเกิดขึ้นกับช่อง ส่วนการเข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลทีวีนั้น "ปัญญา" ชี้ว่า ขึ้นอยู่กับว่าโอกาสของดิจิทัลทีวีคืออะไร จังหวะและเวลาที่เหมาะสมด้วย ถ้ายังคงต้องรอ เราก็ต้องรอต่อไป

 

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของเวิร์คพอยท์ มาจากฟรีทีวี ประมาณ 1,600 ล้านบาท และทีวีดาวเทียม ประมาณ 130 ล้านบาท

 

"คนอื่นทำก็ไม่เหมือนเวิร์คพอยท์ทำ ไม่มีกำไรเหมือนเรา เพราะคนอื่นทำ 1 ช่อง เป็นแบบหนึ่ง แต่เราไม่ใช่ เราเป็นวาไรตี้ แต่ไม่ใช่ว่าใครถูกใครผิด ขึ้นอยู่กับความถนัด แต่เวิร์คพอยท์ถนัดที่จะสร้างช่องรายการวาไรตี้ เหมือนกับร้านอาหาร

 

แม้ว่าจะซื้อวัตถุดิบจากร้านเดียวกัน แต่เวลาปรุงออกมารสชาติก็ต่างกัน เราก็จะมีสูตรของเรา เพราะการทำทีวีไม่ใช่คณิตศาสตร์ที่ 1+1 จะเท่ากับ 2 แต่ทีวีต้องใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป เพื่อให้สามารถสร้างรายได้และขยายงานออกไปกว้างขึ้น"

 

เป็นสูตรสำเร็จแบบ "ปัญญาสไตล์" ที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้

 

Credit : sanook.com

[gejen 5,749]

ขอบคุณ R จานอั๋นมากๆๆนะคะ

[porpor 2]

ขอบคุณคะ

[jewjang40 5,712]

 

 

Good Morning News 17 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

 

• มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นในภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 47.3 จุดในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าแสดงว่าการหดตัวของกิจกรรมธุรกิจมีอัตราชะลอลง ทั้งนี้ ดัชนี PMI ของเยอรมนีปรับเพิ่มขึ้นเป็น 50.5 จุดจาก 49.2 จุดในเดือนพ.ย. เป็นการกลับเข้าสู่ภาวะขยายตัว (ดัชนีระดับเกิน 50 จุด) ครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ในขณะที่ดัชนี PMI ของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับ 45.0 จุด ชี้ว่ากิจกรรรมทางธุรกิจยังคงหดตัว
  

• สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีคาดว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัว 0.7% ในปี 56 เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการส่งออก ทั้งนี้ เศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะยังหดตัวในไตรมาส 4/55 แต่จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า อย่างไรก็ตาม Ifo ได้ประเมินว่ายังไม่น่าจะเห็นภาวะการจ้างงานฟื้นตัวขึ้นในระยะอันใกล้นี้
  

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐขยายตัว 1.1% ในเดือนพ.ย. ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 0.3% และเป็นการขยายตัวที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมากนั้นเป็นเพราะเดือนก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแซนดี้ ทำใหการผลิตต่ำกว่าปกติ
  

• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนพ.ย. ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.2% และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมาก ซึ่งการปรับตัวลงของดัชนี CPI นี้จะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้อย่างสะดวกเพราะอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ที่ระดับต่ำ
  

• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขยายข้อตกลงสว็อปเงินดอลลาร์ออกไปอีก 1 ปีกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะขยายออกไปจนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2557 ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการพิจารณาขยายข้อตกลงสว็อปค่าเงินในการประชุมนโยบายการเงินครั้งถัดไป ซึ่งข้อตกลงสว็อปค่าเงินนี้มีเป้าหมายเพื่อจัดเตรียมสภาพคล่องเงินดอลลาร์ให้เพียงพอต่อระบบการเงินโลก
  

• นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับรีกันกล่าวว่า สภาคองเกรสจะไม่ยอมล้มเลิกการควบคุมระดับเพดานหนี้สินของรัฐบาลกลางเพื่อควบคุมให้สถานะการคลังของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และยังได้วิจารณ์ปธน.บารัค โอบามาว่าไม่มีความจริงจังในการเจรจาและไม่มีแผนชัดเจนที่จะปรับลดการใช้จ่าย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff)
  

• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการดำเนินงานธนาคารต่างประเทศในสหรัฐ โดยกำหนดให้ธนาคารจากต่างประเทศขนาดใหญ่ต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวดขึ้น และต้องมีการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพด้านการเงินของสหรัฐ ทั้งนี้ ธนาคารต่างประเทศที่มีทรัพย์สินทั่วโลกตั้งแต่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ขึ้นไปจะต้องทำตามมาตรฐานใหม่ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2558
  

• องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ประเมินเบื้องต้นคาดว่า จีดีพีของกลุ่มประเทศจี-20 จะขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 3/55 ดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 0.5% โดยประเทศที่มีการขยายตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐ บราซิล จีนและฝรั่งเศส ในขณะที่จีดีพีญี่ปุ่นนั้นหดตัวลง 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/54 จีนมีอัตราการขยายตัวสูงสุดที่ 7.4% ส่วนอิตาลีหดตัวหนักสุดที่ -2.4%
  

• เอชเอสบีซี โฮลดิงส์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50.9 จุด ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  

• ธนาคารดอยซ์แบงค์คาดว่า ความต้องการน้ำมันจากจีนจะขยายตัว 3.4% ในปี 56 ฟื้นตัวขึ้นจากปี 55 ที่ปริมาณการใช้น้ำมันในจีนมีอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ ดอยช์แบงค์ประเมินว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีหน้า โดยจีดีพีของจีนอาจจะขยายตัวได้ระดับ 8.5% ในครึ่งหลังของปี 56 ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเช่นกัน
  

• ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผย(บีโอเจ) เปิดเผยว่าผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นประจำไตรมาส 4/55 ย่ำแย่ลงจากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นการปรับตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ลดลงมาอยู่ที่ -12 จาก -3 ในไตรมาสที่แล้ว
  

• ผู้ว่าการธปท.คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ระดับ 5.8% ในปี 55 ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5.7% ส่วนในปี 56 คาดว่าการขยายตัวจะอยู่ที่ 4.7%เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.6% จากแรงขับเคลื่อนด้านอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ส่วนภาคการส่งออกนั้นคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 56 และจะเป็นแรงหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง
  

• ก.พาณิชย์เตรียมประกาศเป้าการส่งออกปี 56 อย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ซึ่งจากที่ประเมินเบื้องต้นคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยปี 56 น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5-9% โดยปัจจัยเสี่ยงการส่งออกปีหน้าได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปที่ยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องและปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐ ส่วนปัญหาที่น่ากังวลในประเทศคือการขาดแคลนแรงงาน ในขณะที่การปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทไม่น่าจะกระทบการส่งออกมากนัก
  

• SET Index ปิดที่ 1,358.50 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด หรือ +0.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 37,268 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 831 ล้านบาท โดยหุ้นไทยนั้นปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน หลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นส่งผลโดยตรงต่อบรรยากาศการลงทุนในหุ้น แต่หุ้นไทยที่ปรับขึ้นส่วนใหญ่นั้นยังเป็นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก ในขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่อิงกับเศรษฐกิจโลกนั้นปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าโดยเปรียบเทียบ แสดงว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงนิยมธุรกิจที่สามารถเติบโตไปกับเศรษฐกิจไทยมากกว่า
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นในทุกรุ่น มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง 0.00% ถึง 0.03% โดยรุ่นที่อายุคงเหลือระหว่าง 5 ถึง 10 ปีมีอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมากกว่ารุ่นอื่นๆ
  

ถูกแก้ไข ธันวาคม 17, 2012 โดย กระต่ายทอง