ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
aunson

บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

โพสต์แนะนำ

8 นิสัยช่วยให้เป็นเศรษฐีเงินล้าน

 

 

"พฤติกรรม" และ "นิสัย" เป็นส่วนผสมที่ทำให้คุณเป็น"เศรษฐี"ได้ ในเวลาเดียวกันพฤติกรรมและนิสัยบางอย่าง ก็บันดาล "ความยากจน" ให้กับคุณได้เหมือนกัน

 

หากคุณลองหมั่นสังเกตนิสัยของบรรดาเศรษฐีทั้งที่อยู่รอบตัวเราและที่อยู่ห่างตัวหน่อย ก็จะเห็นว่าพวกเขามีลักษณะนิสัยที่คล้ายๆ กัน อาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมจะค่อนไปในทางละม้ายคล้ายกัน

ในทางตรงกันข้ามพวกที่ไม่เคยถูกเรียกว่าเศรษฐี ก็มักจะมีนิสัยที่ถอดแบบกันมาเช่นกันทั้ง ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ เกินตัว

 

ถ้าอย่างนั้นมีนิสัยอะไรบ้าง ที่ช่วยเนรมิตความเป็นเศรษฐีให้คุณ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 8 นิสัยที่ช่วยให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้าน

 

ไม่ใช่นิสัยหรือพฤติกรรมทุกอย่างของคนเรา ที่จะหนุนนำให้ทุกคนขึ้นบัลลังก์ของเศรษฐีได้ เวบไซต์เอ็มเอ็มแฮบบิทส์ดอทคอม ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับ "8 นิสัยที่จะช่วยให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้าน" ลองสำรวจตัวเองดู บางทีคุณอาจจะมีนิสัยเหล่านี้ซ่อนอยู่ในตัวอยู่แล้วก็ได้

 

บางคนอาจจะไม่มีเลย แต่ไม่เป็นไร นิสัยเหล่านี้สร้างและบ่มเพาะกันได้ หรือบางคนอาจจะแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนิดหน่อย แล้วนำนิสัยเหล่านี้มาประยุกต์ใช้อย่างไม่ยากเย็น

 

ลักษณะนิสัยทั้ง 8 ข้อจากนี้ไป เป็นเหมือนกฎขั้นพื้นฐานที่เศรษฐีเงินล้านส่วนใหญ่ทั่วโลกยึดถือและปฏิบัติ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ซึ่งคนไทยทั่วไปสามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่าง ช่วยให้ตัวเองเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ด้วยหนึ่งสมองและสองมือสองขาของเรานี่เอง

 

1. หาเงินไว้ลงทุน..ไม่ใช่เพื่อใช้จ่าย

 

ใครก็ตามที่มุ่งมั่นและตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะร่ำรวยเงินทอง เพราะคนที่หาเงินได้มาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นเจ้าของคำว่า "เศรษฐี"

 

เพราะบางคนหาได้เงินมากก็ใช้จ่ายมาก บางคนทำมาหากินแทบตาย แต่ต้องเอามาใช้หนี้สินที่ติดตัวอยู่

 

แต่สำหรับคนที่เป็นเศรษฐี จะมีนิสัยที่ค่อนข้างชัดเจนคือ เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปต่อยอดการลงทุน เข้าตำราหาเงินไว้เพื่อลงทุน ไม่ใช่เพื่อใช้จ่าย

 

"คนส่วนใหญ่ทำงานหนัก เพื่อชำระหนี้บัตรเครดิต และบำเรอความสุขให้กับชีวิตตัวเอง แต่กลุ่มคนมีเงินตระหนักว่า ถ้านำเงินก้อนที่มีอยู่ไปต่อยอดให้ออกดอกออกผลเพิ่มความมั่งคั่งให้กับตัวเองน่าจะดีกว่า" เวบไซต์เอ็มเอ็มแฮบบิทส์ให้ทัศนะ

 

"วิเชฐ ตันติวานิช" กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ MAI เห็นด้วยกับนิสัยนี้ เพราะมีคนจำนวนมากที่มีรายได้เยอะ แต่เมื่อมีมากใช้มากก็ไม่มีทางที่จะเป็นเศรษฐีได้ แต่คนที่เป็นเศรษฐีก็มักจะมีนิสัยที่ต่างออกไป เมื่อมีรายได้เข้ามา แทนที่จะโหมใช้จ่าย พวกเขาจะนำเงินไปต่อยอดลงทุนเพื่อให้เงินออกดอกออกผล

 

2. มีแผนและทำตามแผน

 

เศรษฐีเงินล้านที่รวยได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ได้ร่ำรวยเพราะความบังเอิญ ส่วนหนึ่งนั่นเพราะพวกเขามีนิสัยที่มีแผนและลงมือปฏิบัติตามแผน ซึ่งนั่นเป็นแรงผลักดันที่ช่วยพวกเขาให้เดินสู่ความรวย

 

"การวางแผนและทำตามแผนนำพวกเขาสู่จุดหมาย นั่นคือการลงทุนและสั่งสมความมั่งคั่งไว้ตลอดชีวิต" เวบไซต์เอ็มเอ็มแฮบบิทส์ให้ทัศนะ

 

"ดารบุษป์ ปภาพจน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด 2 บลจ.กรุงไทย มองว่า เรื่องสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งมือใหม่หัดลงทุนมักจะละเลยไป คือการทำตามแผนที่วางไว้โดยเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลยุทธ์ “ออมเงินก่อน” หรือ Pay Yourself First โดยการหักเงินออมออกจากบัญชีเงินเดือนทันทีที่เงินเดือนออก ก่อนที่จะนำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น เพราะแผนที่วางไว้อย่างสวยหรูนั้น จะไม่มีประโยชน์เลย หากไม่มีการนำมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

 

การมีวินัยในแผนลงทุนนั้นยังรวมถึง ผู้ลงทุนที่เลือกการลงทุน โดยใช้กลยุทธ์เฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Averaging) ด้วยการลงทุนเป็นประจำด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน ผู้ลงทุนควรมีวินัย ไม่หวั่นไหวไปกับการขึ้นลงของภาวะตลาด โดยอาจใช้ร่วมกับแผนการลงทุนอัตโนมัติที่บริษัทจัดการต่างๆ มีไว้บริการ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลา และลดความวุ่นวายใจไปได้มากทีเดียว

 

วิเชฐเห็นด้วยกับข้อนี้ ทุกคนคิดและวางแผนการเงินการลงทุนได้ว่าจะทำโน่นนี่นั่น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่วางแผนแล้วจะปฏิบัติหรือลงมือทำตามแผน ฉะนั้น ใครก็ตามที่วางแผนทางการเงินให้ตัวเอง แล้วเดินตามแผนก็มักจะมีแววที่จะเป็นเศรษฐี

 

3. ทำงานหาเงินให้มากขึ้น

 

ความหมายข้อนี้ดูเหมือนชัดเจน เพราะกลุ่มคนมั่งคั่งมักจะพากันแสวงหาหนทาง ที่จะสร้างหรือหารายได้ให้ไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีวันหยุด ด้วยการเพิ่มจำนวนเงิน ให้ทำงานออกดอกออกผลให้พวกเขาได้มากขึ้น

นี่คือนิสัยประจำตัวของบรรดาเศรษฐี จะสังเกตเห็นได้ว่า ยิ่งร่ำรวยอยู่แล้ว ยิ่งไม่หยุดทำงาน ยิ่งมั่งคั่งอยู่แล้ว ยิ่งหาทางต่อยอดการลงทุนให้มั่งคั่งยิ่งขึ้น

เรื่องนี้วิเชฐตั้งข้อสังเกตว่า คนที่มีเงินทองหรือร่ำรวยในระดับหนึ่งแล้ว พวกเขามักไม่เก็บเงินเอาไว้อย่างเดียว แต่หาช่องทางเพื่อขยับขยายความรวย ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้เขามักจะให้เงินทำงานช่วยอีกแรง เรียกว่าทำเงินได้ 2 เด้ง

 

4. เข้าใจฐานะการเงินของตัวเอง

 

กลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งต่างตื่นตัวกับการรับรู้รายได้ในบัญชีส่วนตัว และรู้ว่าการไหลเวียนของเงินที่ไหลเข้าออกในบัญชีมีเท่าไร ตรงนี้จะเห็นได้ชัดว่าต่างจากคนที่ยังไม่ได้เป็นเศรษฐี ที่มักจะไม่ค่อยสนใจและใส่ใจในฐานะการเงินของตัวเองซักเท่าไร

 

บางคนยิ่งไปกว่านั้น เพราะปล่อยให้หนี้ท่วม นอกจากไม่ได้จัดระเบียบหนี้แล้ว ที่ร้ายกว่านั้นคือแทบไม่รู้เลยว่าหนี้ของตัวเองเบ็ดเสร็จแล้วมีเท่าไร

 

เรื่องนี้ดารบุษป์บอกว่าก่อนที่จะทำสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ เราจะต้องมีการวางแผนรู้เขา รู้เรา ซึ่งการวางแผนการลงทุนก็ไม่ต่างกัน การเข้าใจฐานะการเงินของตนเองให้ถ่องแท้ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ก็จะเหมือนการขับรถทางไกลโดยไม่เตรียมความพร้อม ไม่ได้เช็คเครื่อง หม้อน้ำ ปริมาณน้ำมัน ไม่รู้ว่ากำลังเครื่องยนต์ของรถนั้นมีมากน้อยเพียงใด สามารถขึ้นเขา ลุยโคลนได้หรือไม่

 

ซึ่งการละเลยไม่เข้าใจตนเองเช่นนี้ ก็มีแต่จะจะทำให้เราประสบปัญหาและอุปสรรคระหว่างทาง ต้องเสียเวลามากกว่าที่ควรเพื่อจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ หรือบางทีก็อาจหมดกำลังใจไปก่อนที่จะถึงเป้าหมาย

 

"ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนการเงินนั้น เราจะต้องรู้ว่ารายรับของเรานั้นมีความสม่ำเสมอแค่ไหน มีส่วนเกินกว่ารายจ่ายหรือไม่ รวมถึงมีการกันเงินเผื่อสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินเพียงพอที่จะทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งเงินที่ตั้งใจเก็บไว้เพื่อการลงทุนระยะยาว ซึ่งหากเราละเลยขั้นตอนนี้ไป ก็ยากที่จะถึงเป้าหมายได้ "

 

วิเชฐเสริมว่า คนที่เป็นเศรษฐีมักจะมีนิสัยใส่ใจในเรื่องเงินทองอยู่แล้ว ทั้งรายรับรายจ่ายทำใส่เอ็กเซลชีทเอาไว้ ส่วนคนที่ยังไม่ได้เป็นเศรษฐี ควรจะทำอย่างยิ่ง นี่เป็นบันไดก้าวหนึ่งที่จะนำคุณไปเป็นเศรษฐีได้

 

5. กล้ารับความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

 

เวบไซต์เอ็มเอ็มแฮบบิทส์ดอทคอมบอกไว้ว่า การเป็นผู้กล้ารับความเสี่ยง เป็นสิ่งต้องทำเพื่อเพิ่มความรวยให้ตัวเอง หากไม่เข้าไปฉวยโอกาสบางครั้ง เงินที่มีอยู่จะไม่มีโอกาสงอกเงย แต่เหนืออื่นใด ต้องเป็นความเสี่ยงที่คุณรับได้ และต้องมีการวางกลยุทธ์อย่างดีเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะตลาดตกต่ำหรือช่วงขาลง

 

ข้อนี้ วิเชฐมองว่า คนที่จะเป็นเศรษฐีได้ พวกเขามักรู้ว่าความเสี่ยงคืออะไร ประเมินได้ว่าความเสี่ยงมันใหญ่ขนาดไหน และตัวเขาเองสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน

 

"เพราะความเสี่ยงในระดับสูง ไม่ใช่ว่าเราไปยุ่งกับมันไม่ได้ คนที่เป็นเศรษฐีได้เขาจะประเมินพละกำลังของตัวเองก่อนว่า ความเสี่ยงแค่นี้ เรารับมือไหวมั้ย เพราะถึงจะเสี่ยงสูง แต่ถ้าเรารับความเสี่ยงไหว เราจัดการกับความเสี่ยงนั้นได้ โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงก็มี "

 

6.มีความอดทน&สติซ่อนอยู่ในการลงทุน

 

สังเกตมั้ยว่าพวกเศรษฐีเงินล้านที่ร่ำรวยจากสองมือสองขากับหนึ่งสมองของตัวเอง ไม่ได้กลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน แต่เศรษฐีเหล่านี้เข้าใจถึงพลังแห่งดอกเบี้ยทบต้น และความพยายามลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เพื่อให้ได้ความร่ำรวยเป็นรางวัลตอบแทน

 

ดารบุษป์เปรียบเปรยให้ฟังว่ามีคนเคยเปรียบการลงทุนว่าเหมือนการไต่เทือกเขาสูง ยิ่งเป้าหมายสูงเพียงใด นอกจากต้องเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์แล้ว ต้องอาศัยจิตใจที่แข็งแกร่งจึงจะก้าวผ่านหุบเหวที่เป็นอุปสรรคไปได้ การลงทุนก็เช่นกัน ความผันผวนของตลาดหุ้นนั้นเกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัย มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป ดังนั้น เมื่อนักลงทุนได้แสวงหาเส้นทางการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเองแล้ว ก็ควรเตรียมใจที่จะพบอุปสรรคที่จะเข้ามา

 

หากอุปสรรคนั้นเป็นอุปสรรคที่ประเมินไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่น เมื่อตัดสินใจลงทุนในหุ้นของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย หรือรัสเซีย ซึ่งมีโอกาสรับผลตอบแทนสูง ก็ต้องเผื่อใจสำหรับโอกาสที่จะขาดทุนอย่างมากในบางช่วงเวลาด้วยเช่นกัน

 

วิเชฐเสริมว่าอดทนอย่างเดียวไม่พอ สำคัญที่สุดคนที่จะเป็นเศรษฐีได้ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะคนที่มีสติจะทำให้ตัดสินใจได้ว่าในสถานการณ์นั้นๆ เขาควรตัดสินใจอย่างไร เช่นถ้าภาวะตลาดหุ้นไม่ดี คนที่มีสติก็อาจจะประเมินและตัดสินใจได้ว่า สถานการณ์ย่ำแย่แบบนี้เขาควรจะถอนตัวออกหรืออยู่ต่อเพื่อรอ หรือหาจังหวะเข้าลงทุน

 

7.ได้ทีมที่ยอดเยี่ยม

 

กลุ่มคนร่ำรวยยังคงความมั่งคั่งของตัวเองไว้ได้ ด้วยผู้คนแวดล้อมซึ่งเป็นที่ปรึกษาการเงินและกฎหมาย ซึ่งล้วนมีฝีมือเป็นเลิศในแวดวงอาชีพนั้นๆ นั่นเป็นประเด็นที่เราเห็นได้ว่าบรรดาเศรษฐีเงินล้านมักไม่เดินหน้าสร้างความร่ำรวยโดยลำพัง

 

"ลองสังเกตดูสิ คนที่เป็นเศรษฐีไม่ใช่ว่าทุกคนเกิดมาท่ามกลางคนที่มีความรู้เรื่องการลงทุน แต่คนเหล่านี้จะพาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่มีความรู้เรื่องการลงทุน นั่นทำให้เขามีโอกาสได้เรียนรู้แง่มุมและช่องทางต่างๆ ของการลงทุน ว่าอะไรที่จะทำให้เงินทองของเขางอกเงยขึ้น หรือมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เงินออกดอกออกผล" วิเชฐให้ทัศนะ

 

8.รับฟัง..กลั่นกรอง...นำไปใช้

 

นิสัยอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ด้วยความสามารถของตัวเอง คือการแสวงหาคำแนะนำจากที่ปรึกษาเชื่อถือไว้ใจได้ เศรษฐีเหล่านี้รับฟังด้วยความมุ่งมั่นมีใจจดจ่อ จากนั้นพวกเขาก็สามารถนำไปปฏิบัติและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เพื่อพยายามสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง

 

ดารบุษป์บอกว่าการวางแผนการลงทุนนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนชีวิต ซึ่งต้องการความมีเหตุผลสูงกว่าการเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้ทั่วไป การฟังเขามาแต่เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะแน่ใจได้ว่าการลงทุนที่เหมาะกับคนอื่นนั้นจะเหมาะกับตัวเราด้วย เช่น เมื่อฟังเพื่อนๆ พูดถึงผลตอบแทนที่ได้รับ ก็ต้องนำมากลั่นกรองว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ผลตอบแทนที่ว่าสูงนั้นๆ คุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่ และตัวเรานั้นมีความพร้อมที่จะรับความเสี่ยงที่ว่านั้นแค่ไหน หรือมีวิธีที่จะลดหรือกระจายความเสี่ยงอย่างไรได้บ้าง โดยอาจต้องศึกษาจากข้อมูลการลงทุนในหนังสือชี้ชวน สอบถามผู้รู้ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน

 

วิเชฐเองก็เห็นด้วยว่าคนจะเป็นเศรษฐีได้ เบื้องต้นต้องหัดรับฟังข้อมูล หาข้อมูลการลงทุนให้เยอะเข้าไว้ จากนั้นก็นำมากลั่นกรอง เพราะเมื่อได้ข้อมูลเยอะเราต้องกรอง จากนั้นค่อยนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการตัดสินใจลงทุน

"ผมว่านิสัยเหล่านี้เศรษฐีมีทุกคน บางคนข้อมูลเยอะ กลั่นกรองแล้ว แต่ไม่กล้าตัดสินใจที่จะลงทุน คุณก็เป็นได้แค่นักวิเคราะห์ แต่เป็นเศรษฐีไม่ได้" วิเชฐให้ความเห็นทิ้งท้าย

 

ใน 8 นิสัยเหล่านี้ ลองถามไถ่ตัวเองดูซิว่ามีกี่ข้อ ถ้ามีครบ 8 เตรียมสะกดคำว่าเศรษฐีรอไว้ได้เลย แต่ถ้าไม่มีสักข้อ ก็ยังไม่สายเกินไปค่อยๆ บ่มเพาะนิสัยเหล่านี้กันใหม่ได้

ขอขอบคุณ คุณดารบุษป์ ปภาพจน์

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

image-7B45_50D570CE.gif

 

เปิดสูตรลงทุน..พระพุทธเจ้า นัยอันลึกล้ำกับ ท่านว.วชิรเมธี

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ขอบคุณความ 'ผิดพลาด' ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม ขอบคุณความ 'ไม่รู้' ทำให้รู้จักครูชื่อประสบการณ์ การลงทุนทางโลก-ทางพุทธ

 

หน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัย มีนัดหมายกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek แม้การลงทุนตามแนวทางของพระพุทธเจ้าจะไม่ใช่หัวข้อหลักแห่งเจตนาที่เรามากราบขอความกระจ่าง แต่พระอาจารย์ก็ให้ความสว่างตอบได้ฉะฉานโดยประยุกต์พระคัมภีร์เข้ากับภูมิรู้ร่วมสมัย อีกทั้งใช้ภาษาที่แม้แต่คนที่รู้เรื่องพระพุทธศาสนาเพียงผิวเผินก็ตื่นรู้ได้

 

"พระยุคใหม่ต้องปรับพระพุทธศาสนาให้ร่วมสมัยถึงจะอยู่ร่วมกับสังคมไทยต่อไปได้ อาตมาเรียกว่าจุดยืนเดิมแต่บนบริบทใหม่ มิเช่นนั้นพระจะอยู่อย่างมีตัวตนแต่ไม่มีความหมาย" ท่านว่า

 

ทุกๆ วันท่าน ว.วชิรเมธี จะอ่านหนังสือพิมพ์วันละ 6-7 ฉบับ ท่านบอกว่าวิถีชีวิตประจำวันเราต้องตามให้ทันการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่ศึกษาหาความรู้เราก็ไม่มีเครื่องมือมาอธิบายชีวิต ชีวิตคนเราอย่ามีแต่ความรู้ ต้องมีความลึก สิ่งที่อาตมาทำเรียกว่าการเผยแผ่ศาสนา "เชิงรุก" ให้ทั้งความรู้และความลึก

 

ในทางพุทธศาสนามีคำว่า เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ หรือ ธัมมิกเศรษฐศาสตร์ หรือ Buddhist Economics มีมั้ย! คำว่า Buddhist Investment...?? เราถามท่าน

 

"มี" ท่านว่า ค้นดูก็พบว่ามีการปรับใช้ หลักโภควิภาค 4 ในทางพระพุทธศาสนาคือการใช้จ่ายทรัพย์โดยจัดสรรเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1 ส่วน ใช้จ่ายเลี้ยงตัวเองและทำประโยชน์ 2 ส่วน ใช้ลงทุนประกอบการงาน อีก 1 ส่วน เก็บไว้ใช้ในคราวจำเป็น

 

ท่าน ว.วชิรเมธี ไม่ได้พูดถึงหลักโภควิภาค 4 ตรงๆ แต่ได้เกริ่นนำด้วยคุณสมบัติของนักลงทุนที่ดี 3 ประการ ท่านว่าต้องมี 1. จักขุมา คือ วิสัยทัศน์ ต้องมีสายตาที่ยาวไกลเป็นคนมองการณ์ไกล 2. วิธุโร เป็นนักบริหารจัดการที่ดีและมีความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ ซึ่งรวมความถึงต้องมีธรรมาภิบาลด้วย 3. นิสสยสัมปันโน ต้องมีกัลยาณมิตรเกื้อกูลอุปถัมภ์ ภาษาสมัยใหม่เรียกว่าต้องมี กู้ดคอนเนคชั่น ถ้าไม่มีคอนเนคชั่นจะทำมาค้าขายกับใครได้ล่ะ..ใช่มั้ย! พระพุทธเจ้าตรัสว่าต้องมีคุณสมบัติ 3 อย่างนี้ถึงจะเป็นนักลงทุนที่ดีได้

 

ทีนี้มาพูดถึงการบริหารจัดการเรื่องการเงินบ้าง นี่มาถึงหลักพุทธเศรษฐศาสตร์แล้วนะ ถ้าเราได้เงินมาแล้วจะบริหารจัดการยังไง! ในทางพระพุทธศาสนาแนะนำว่า...

 

1. เก็บเป็นเงิน สำรองคงคลัง สำหรับความมั่นคงให้ชีวิตยามเจ็บป่วย ยามฉุกเฉิน 2. ใช้เงินนั้นมาซื้ออาหารการกินเครื่องอุปโภคบริโภคจับจ่ายใช้สอยเพื่อดูแลตัวเอง และบุคคลอันเป็นที่รักให้ กินอิ่มนอนอุ่น 3. นำเงินนั้นไปลงทุนในลักษณะ เงินต่อเงิน 4. เสียภาษีท่านใช้คำว่า "ราชพลี" (ทำเพื่อสังคม) เมื่อเราได้ผลประโยชน์จากผืนแผ่นดินนี้ก็ต้องแบ่งปันให้กับแผ่นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้มาคุณเป็นหนี้บุญคุณประเทศนี้ทั้งนั้น 5. บำรุงสมณะชีพราหมณ์นักปราชญ์ราชบัณฑิตผู้ที่เป็น เสาหลักในทางธรรม ในทางสติปัญญาให้กับคนในสังคม

 

"นี่คือหลักการใช้เงินของพระพุทธเจ้า ห้าข้อนี้ไม่มีทางล้าสมัย ถ้าทำได้ชีวิตจะมีแต่เป็นสุข"

 

พระอาจารย์ไขปริศนาธรรมเรื่องการลงทุนต่อไปว่า ในโลกความเป็นจริงถ้าเรามีเงินก้อนหนึ่งเราก็ต้องฝากแบงก์ พระพุทธเจ้าแนะนำว่าต้องเอาเงินมาสร้างความมั่นคงก่อน และแบ่งส่วนหนึ่งมากินมาใช้ครอบครัวต้องกินอิ่มนอนอุ่นตรงนี้สำคัญ ท่านบอกว่ามีเงินให้เอามาใช้เพราะเงินเป็น "ปัจจัย" ไม่ใช่ "เป้าหมาย" เพราะฉะนั้นมีเงินต้องใช้เงิน เงินอีกส่วนหนึ่งให้เอาไปทำธุรกิจหรือลงทุนทำให้มัน "งอกเงย"

 

วัฏจักรของการลงทุนก็คือวัฏจักรของการเวียนว่ายแห่งชีวิต พระอาจารย์ อธิบายเรื่องการหากำไรในทางพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องผิดขออย่างเดียวให้มันเป็นสัมมาอาชีพ ไม่ทำให้ผู้อื่นมีความทุกข์ หรือทำกำไรบนความเดือดร้อนของผู้อื่นอันนี้รับไม่ได้ หลักในการทำธุรกิจในทางพระพุทธศาสนาได้ให้ไว้สั้นๆ คือ ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ถ้าหากินโดยสุจริตก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่ดีได้

 

คำว่า ไม่เบียดเบียนตน หมายความว่า คุณต้องเป็นนักธุรกิจหรือนักลงทุนที่ดีและเป็นมนุษย์ที่ดี คุณทำมาหากินไป สุขภาพคุณต้องดี ถ้าคุณประสบความสำเร็จแต่ชีวิตเครียดจัด คนในครอบครัวไม่พูดหากัน ต้องกินยานอนหลับทุกคืน อันนี้เรียกว่าเบียดเบียนตัวเอง

 

คำว่า เบียดเบียนผู้อื่น หรือเบียดเบียนสังคม อาชีพของคุณต้องไม่ทำให้สังคมเสียหาย เอาเปรียบคนอื่น มัวเมาสังคม ทำให้คนเป็นทาสสุรายาเสพติด ทำให้คนในสังคมมีค่านิยมที่ผิดๆ แล้วถ้าคุณได้เงินมาจากการคอร์รัปชัน เหล่านี้คือการเบียดเบียนสังคม ถ้าคุณไม่เบียดเบียนตน และไม่เบียดเบียนสังคมคุณจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

 

"นักลงทุนหรือนักธุรกิจที่ดีจะต้อง "เจริญสติ" (ระลึกรู้ในสิ่งที่ทำ) อยู่เสมอ ถ้าคุณไม่เจริญสติอยู่เสมอคุณอาจจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแต่คุณจะเป็นมนุษย์ที่ล้มเหลว"

 

พระพุทธศาสนาบอกว่า "การลงทุนมนุษย์" เป็นการลงทุน สูงที่สุด และสำคัญที่สุด ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมีลูก 1. ต้องห้ามปรามจากความชั่ว 2. สั่งสอนให้เขาเป็นคนดี 3. ให้ศึกษาหาความรู้ 4. ดูแลให้เขาเลือกคู่ครองที่ดี 5. เมื่อถึงเวลาให้เขียนพินัยกรรมมอบมรดกให้ถูกต้อง นี่คือการลงทุนมนุษย์

 

"ในทางพุทธศาสนาเน้นมากว่า ก่อนที่จะลงทุนทำธุรกิจใดๆ ให้ลงทุนในตัวมนุษย์ให้ได้เสียก่อน ถ้ามีคนคุณภาพก็จะมีธุรกิจที่มีคุณภาพ แต่ถ้าคุณไม่มีคนที่มีคุณภาพก็จะไม่สามารถสร้างธุรกิจที่มีคุณภาพขึ้นมาได้ ฉะนั้นการลงทุนในทางพุทธศาสนาจึงเริ่มต้นที่การลงทุนในตัวมนุษย์ก่อน ถามว่ามนุษย์คนไหนล่ะ! มนุษย์คนแรกที่จะต้องถูกลงทุนก่อนคือ..ตัวเราเอง"

 

ท่าน ว.วชิรเมธี ยกคำให้ฟังว่า ถ้าเราสร้างตึก 10 ชั้น ผ่านไป 10 ปีตึกนี้ก็ยังสูง 10 ชั้นเหมือนเดิม แต่การลงทุนให้ความรู้เราส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ 10 ปี เขาอาจจะกลับมาพร้อมกับธุรกิจหมื่นล้านก็ได้ใครจะรู้ คนนั้นมีพัฒนาการแต่วัตถุนั้นอยู่แค่ไหนก็หยุดนิ่งอยู่แค่นั้น การลงทุนที่ดีที่สุดก็คือ การลงทุนพัฒนา (คน) มนุษย์ ลงทุนดีก็เป็นมนุษย์ที่ดี ถ้าลงทุนไม่ดีก็เป็นมนุษย์ที่แย่ ในต่างประเทศเขาให้ความสำคัญมากกับ "ทุนมนุษย์" คำว่า "ทุน" ที่จริงอย่าไปมองแค่ "เงิน" มองแค่นี้มันจะทำให้ชีวิตเรา แคบ และไม่ลึก

 

หลักการลงทุนสูตรพระพุทธเจ้านอกจากไม่ล้าสมัยแล้ว ยังเปิดกว้างและร่วมสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ!! เรา "ตื่นรู้" ขึ้นมาอีกนิด ขณะที่ ท่าน ว.วชิรเมธี ยังคงทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกของท่านต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และไม่รู้เหน็ดเหนื่อยด้วยรอยยิ้มแห่งธรรมและศรัทธาอันแรงกล้า

 

Tags : พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี • ว.วชิรเมธี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้าของวันที่ 24-12-2012 เวลา 10.44 น.

 

สัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองคำสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดตลาด เหนือแนวรับ ณ ระดับ 1750 เหรียญ ได้

 

หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดแถว แนวรับ ณ ระดับ 1635-1630 เหรียญ

 

ทำให้ทิศทางราคาทองคำสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้าย ของปี 2012

 

มีแนวโน้มว่าราคาทองคำ Side Ways อยู่ ณ ระดับ 1630-1680 = 50 เหรียญ

 

หากปี้นี้ปิดตลาด ณ ระดับ แนว Side ways และพักฐาน ณ ระดับนี้ ได้ 1630-1680 เหรียญ

 

ปีหน้า 2013 เปิดตลาดมา ราคาทองคำมีโอกาศขึ้นทดสอบ แนวต้าน 1680-1700 เหรียญ ก่อนและหากไม่ผ่านจึงถูกแรงขายออกมาอีกครั้งครับ

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอดูก่อน สัญญา GF และ Option ที่จะมีการส่งมอบภายในสัปดาห์ นี้ ใน Serie Z ประจำเดือน ธันวาคม 2012 นี้

 

จะมีแรงขายทำกำไร และบังคับปิดสถานะมากแค่ไหนด้วยนะครับ แนะนำให้ รอติดตามเอาไว้ด้วยนะครับ

 

ส่วนราคาทองคำ ณ ระดับ ต่ำกว่า 1650 เหรียญ ลงไป หากนักลงทุน ท่านใดต้องการ ทยอยซือ้สะสมทองคำแท่ง ก็แนะนำให้ เข้าไปซือ้สะสมไว้บ้าง นะครับ

 

และแนะนำให้ เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำมาขาย จนกว่าราคาทองคำ จะทดสอบ 1680-1700 เหรียญ ก่อนหากไม่ผ่าน ก็ แนะนำให้ แบ่งขายทำกำไร

 

ก่อนส่วนหนึ่งครับ และ รอทยอยซือ้สะสมใหม่อีกครั้ง ส่วน GF นั้น แนะนำให้ เปิดสถานะ ใน สัญญาระยะยาว ไว้หากนักลงทุน ท่านใด อยาก

 

ทยอยซือ้สะสม แต่ต้องคำนึง ถึง เงินหลักประกันเบื้องต้น ของตนเองด้วยหาก ราคาทองคำ ถูกแรงขาย ออกมา ในสัปดาห์นี้ว่าจะไม่ต้อง เรียกหลักประกันเพิ่มอีก

 

เพราะว่า ตอนนี้ทาง ตลาดอเมริกา บริษัท ซือ้-ขาย ทองคำแท่ง รวมไปถึง ทองกระดาษ Gold spot เริ่มปิดรับออเดอร์ กันตั่งแต่ เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา แล้ว

 

ทำให้ ระยะนี้ Volume การซื้อ-ขาย จะหายไป ส่วนหนึ่ง ครับ

 

ดังนั้น ระวัง ความผันผวนของราคาทองคำ ที่อาจจะเกิดจาก การปั่นราคา หรือ สร้างราคา ของกลุ่ม กองทุน ต่าง ๆอีกครั้ง ครับ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง

 

ซึ่งกลุ่มกองทุน ต่าง ๆ นั้น ในระยะนี้ จะสามารถเข้ามา สร้างราคา ได้ง่าย และใช้เงินลงทุน น้อยกว่า สภาวะตลาดทั่วไป ครับ

 

แนวรับ แนวต้าน

 

แนวต้าน 1653-1656 *** ผ่านได้อีก ทดสอบ 1663-1666 ระวังแรงขาย **** 1677 *****

 

สรุป แนวต้าน หากวันนี้ ราคาทองคำสามารถผ่านยืนเหนือ 1650 ได้จะทำให้ทิศทางราคาทองคำ

 

มีโอกาศ ดีดกลับทดสอบแนวต้าน 1660-1670 เหรียญก่อน หลังจากนั้นไม่ผ่าน ระวังแรงขาย ณ ระดับแนวต้าน ดังกล่าวอีกครั้ง ครับ

 

แนวรับ 1644 **** ดูว่าหลุดหรือไม่ **** ถ้าหลุด ลงทดสอบ 1635-1633 อีกครั้ง ระวัง หลุด ******* 1626 **** 1610-1600 ****** 1585 ****

 

สรุป แนวรับ เน้น การยืนเหนือ แนวรับ 1650-1630 เหรียญ ให้ได้ก่อน หากราคาทองคำไม่สามารถ ยืนเหนือ และ แนวรับ ระดับนี้ ไม่สามารถรับอยู่ได้

 

แนะนำให้ระวังแรงขาย เอาไว้ด้วยนะครับ

 

กรอบเล็ก 1630-1660 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1630-1680 = 50 เหรียญ

 

กรอบแนว Side Ways 1645-1665= 20 เหรียญ

 

วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

 

ตลาดอเมริกาปิดทำการครึ่งวัน จนถึงวันพรุ่งนี้

 

 

F6dORi.gif

 

โชคชะตาฟ้าลิขิติ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่คือ การให้ต่อไปไม่รู้จบครับ :047

 

ปีนี้ 2012 แนะนำให้ รอดูว่าราคาทองคำ จะสามารถ ปิด ราคา เหนือ 1600 เหรียญได้หรือไม่

 

ถ้าราคาประจำปีนี้ปิดเหนือ 1600 เหรียญ ราคาทองคำ ในปี 2013 มีโอกาศ ดีดกลับขึ้นทดสอบเหนือระดับ 1700 เหรียญขึ้นไป+++

 

หลังจากนั้น หากไม่สามารถ่ผานแนวต้าน ดงักล่าวไปได้แนะนำให้ระวังแรงขายราคาทองคำอีกครั้ง ครับ

 

แต่ถ้าปิดต่ำกว่า 1600 เหรียญ ตรงนี้ อาจจะน่ากลัว นิดหนึง่นะครับ :17

(ลืมใส่รูป รีบไปหน่อย )

ถูกแก้ไข โดย Rจานอั๋น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.gtgoldonline.com/

 

2012-12-24_%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2.jpg

576361_459541494110488_1891921545_n.jpg

image-C9F5_50D85139.gif

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

image-A346_50D906C4.gif อรุณสวัสดิ์คะจานอั๋น เพื่อนๆ :32

 

Goog Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

Merry Christmas 25 ธันวาคม 2555

 

General News

------------------

 

• คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะให้เวลามากขึ้นแก่สเปน ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศสมาชิกยูโรโซนในการลดยอดขาดดุลสาธารณะให้ต่ำกว่าเพดานเป้าหมายที่ 3% ของ GDP

 

• มาริโอ มอนติ อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี พร้อมที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัย 2 หากได้รับการทาบทามจากพันธมิตรทางการเมืองที่สนับสนุนนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจของเขา

 

• ราคาบ้านในอังกฤษลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. เป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งผลสำรวจคาดว่า จะยังคงมีแนวโน้มลดลง โดยจะร่วงลง 1% ในปี 2556 เนื่องจากชาวอังกฤษลังเลที่จะกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้าน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอ

 

• ชินโซ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพิ่มแรงกดดันอีกครั้งเพื่อให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้มาตรการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% โดยระบุว่า ถ้า BOJ ไม่ทำตามข้อเรียกร้อง เขาจะพยายามแก้ไขกฎหมายคุ้มครองความมีอิสรภาพของ BOJ รวมถึงจะเลือกผู้ที่เห็นด้วยกับทัศนะของเขาในเรื่องการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินแบบเชิงรุกให้มากขึ้นเพื่อให้ดำรงตำแหน่งต่อจาก มาซาอากิ ชิราคาวะ ผู้ว่าการ BOJ ซึ่งจะสิ้นสุดวาระเดือน เม.ย.ปีหน้า

 

• ซัมซุง ซีเคียวริตีส์ ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของเกาลีใต้ ระบุว่า หากเงินเยนอ่อนค่าลงสู่ 110 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ และเงินวอนแข็งค่าขึ้นแตะ 1,050 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ 25 แห่งของเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็น 44.6% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ลดลง 1.6%

 

• China Index Academy (CIA) ซึ่งเป็นบริษัทศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน รายงานว่า จีนมีแนวโน้มจะใช้ระเบียบควบคุมด้านอสังหาริมทรัพย์ต่อไปในปี 2556 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

• สำนักงานกำกับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ (FFS) เปิดเผยว่า ชาวเกาหลีใต้พึ่งพาสินเชื่อจำนองและสินเชื่อบัตรเครดิตจากบริษัทประกันมากขึ้น หลังจากมีกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ของธนาคารต่างๆ สำหรับภาคครัวเรือน

 

• เกาหลีใต้พบสิ่งบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งอาจยิงได้มากกว่า 10,000 กิโลเมตรหรือไกลถึงชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ

 

• ก.คลัง รายงานดุลเงินงบประมาณใน2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ต.ค.-พ.ย.2555) ว่าขาดดุล 300,110 ล้านบาท โดยมีรายได้ 311,870 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 20.7% จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ขณะที่เบิกจ่ายเงินงบประมาณไป 611,980 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 92.9% เป็นผลจากการที่ พรบ.งบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณก่อนมีผลบังคับใช้ล่าช้า ประกอบกับรัฐบาลเร่งดำเนินนโยบายทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

• รมว.คมนาคม จะเร่งดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงโดยตั้งเป้าเปิดประมูลในไตรมาส 3-4 ของปีหน้า ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณราว 3 แสนล้านบาท

 

Equity Market

-----------------

 

• SET Index ปิดที่ระดับสูงสุดของวัน 1,375.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.44 จุด หรือ 0.18% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25,683 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 24 ล้านบาท โดยหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบด้วยมูลค่าซื้อขายที่ไม่มาก หลังจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการในเทศกาลคริสต์มาส ประกอบกับนักลงทุนยังรอดูความคืบหน้าการเจรจา Fiscal Cliff

 

Fixed Income Market

--------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร และมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายปีและใกล้เทศกาลวันหยุดยาว โดยนักลงทุนยังคงรอดูแนวทางแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ และปัญหาเศรษฐกิจยุโรป

 

• ธนาคารกลางเวียดนามลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์ลง 1.00% เหลือ 9.00% ซึ่งเป็นการลดครั้งที่ 6 ในรอบปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำลงมากที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะความวุ่นวายในภาคการธนาคารของเวียดนาม การลงทุนจากต่างประเทศที่ลดลง และรัฐวิสาหกิจที่กำลังประสบปัญหาขาดทุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Merry christmast ค่ะ Rจานอั๋น เและเพื่อนๆทุกท่าน

post-5900-0-39505600-1356439594.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

16111_10151340456489396_594873876_n.jpg

 

 

อรุณสวัสดิ์คะจานอั๋น..เพื่อนๆ.. :01

 

 

Good Morning News 26 ธันวาคม 2555

 

·

9715_3595753672381_150022606_n.jpg

375302_3595765512677_1417131823_n.jpg

  • ธ.กลางกรีซ รายงานว่า มูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวเดือน ต.ค. อยู่ที่ 9.77 พันล้านยูโร ลดลง 4%จากปีก่อนหน้า เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงถึง 5.5% โดยเฉพาะชาวยุโรป ทำให้ส่งผลเชิงลบต่อ GDP เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 16% ของ GDP กรีซ

  • IMF และสหภาพยุโรป รายงานว่า กรีซไม่ควรนำภาษีที่ประชาชนและบริษัทต่างคงค้างจ่ายให้รัฐบาล มูลค่า 53 พันล้านยูโร มาคิดรวมเป็นรายได้ เนื่องจาก รัฐบาลน่าจะเก็บได้เพียง 20% (10.6 พันล้านยูโร) เท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้กรีซลดยอดขาดดุลไม่ได้
  • เจียง เหว่ยซิน รมว.ก.การเคหะและการพัฒนาชนบทและเมืองของจีน เปิดเผยว่า ปีหน้าจีนจะสร้างที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา 6 ล้านหน่วยเพื่อช่วยเหลือครอบครัวรายได้ต่ำให้มีที่อยู่อาศัยของตนเอง พร้อมกับใช้มาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้เก็งกำไรจนเกิดฟองสบู่

  • คณะกรรมการ ก.ล.ต.จีน (CSRC) เตรียมอนุมัติให้ธ.พาณิชย์จัดตั้งบริษัทจัดการกองทุนได้เพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการเงินและช่วยเพิ่มจำนวนผู้ลงทุน

  • สถาบันวิจัยและที่ปรึกษา ไชน่าเวนเจอร์ คาดการณ์ว่า มูลค่าการระดมทุนของบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ยังคงมีเสถียรภาพ
  • พรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นจะกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% และจะจัดทำงบประมาณมูลค่ามหาศาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเอาชนะภาวะเงินฝืด

  • อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ใเดือน พ.ย.ลดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 3.6%ซึ่งเป็นเพราะค่าเช่าที่อยู่อาศัยและค่าบริการขนส่งลดลง ทำให้เป็นไปได้มากขึ้นที่ธ.กลางสิงคโปร์จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน (ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ)
  • GDP เวียดนามปีนี้ขยายตัว 5.03% ลดลงจากปีก่อนซึ่งเป็น 5.89% และต่ำสุดนับจากปี 2542 ซึ่งแสดงว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเอยู่ในแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่น ความอ่อนแอในภาค ธ.พาณิชย์ เป็นต้น

  • กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้และปี หน้าจะขยายตัวได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 5% โดยเป็นการขับเคลื่อนจากการลงทุนในโครงการสำคัญของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น

  • สมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า จะปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ในปลายเดือนนี้ โดยคาดว่า จะขยายตัวมากกว่าประมาณการเดิมที่ 5.5% เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในปีนี้ขยายตัวสูงมาก โดยการบริโภคเอกชนขยายตัวถึง 5.2% อันเป็นอัตราสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 8 ปี ซึ่งในอดีตโตเกิน 3% หรือ 4% ก็ถือว่ามากที่สุดแล้ว และเมื่อปีนี้เติบโตสูง ปีหน้าก็คงไม่สูงมาก แต่จะยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ อาจจะโตได้ 4%-5%

การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะสมดุลมากขึ้น โดยคาดว่าจะชะลอลงเหลือไม่เกิน 5% จากประมาณการเดิมที่ 5.2% และการส่งออกจะดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่จะขยายตัวขึ้น โดยการลงทุนของภาครัฐจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแรง เพราะจะมีเม็ดเงินจำนวนมากออกมาจาก พ.ร.บ.กู้เงินของรัฐบาล 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ประกอบกับ พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำที่ยังเบิกจ่ายล่าช้าในปีนี้ก็น่าจะได้ผู้ชนะการประมูลในปีหน้า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกอัดฉีดเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งโดยปกติเมื่อมีการลงทุนจากภาครัฐแล้ว เอกชนก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนตาม

ดังนั้น เสถียรภาพทางเศรษฐกิจจึงไม่มีอะไรที่น่าห่วง ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อ อัตราว่างงาน ทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ และระบบสถาบันการเงินที่ยังแข็งแกร่งทั้งในปีนี้และปีหน้าจากสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ (BIS) ที่ 15% ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้ 8.5% นอกจากนี้ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก็อยู่ในระดับต่ำประมาณกว่า 2% และกำไรของธนาคารพาณิชย์ก็ยังเติบโต

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ตามประมาณการหรือไม่ ส่วนความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับจีนอาจจะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นจะยังคงใช้มาตรการผ่อนปรนทางการเงินเชิงปริมาณ ทำให้เงินทุนของต่างประเทศต้องหาที่ลง โดยประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตได้สูงอย่างเอเชียและไทย จะต้องจับตาดูการบริหารความเสี่ยงการไหลเข้าออกของเงินทุนว่าทำได้ดีแค่ไหน เพราะจะกระทบต่อค่าเงินบาทด้วย

61027_3595768832760_607624154_n.jpg

  • SET Index ปิดที่ระดับสูงสุดของวันที่1,378.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.50 จุด หรือ 0.18%ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,660.51 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 311.94 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบด้วยมูลค่าซื้อขายที่ไม่มาก เพราะตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการในเทศกาลคริสต์มาส ประกอบกับไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด

  • ตลท. เปิดเผยว่า ปีนี้มีการเสนอขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนใหม่ (IPO) ด้วยสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี มีมูลค่ารวม 1.13 แสนล้านบาท และคาดว่าในปีหน้า 2556 มูลค่า IPO จะมีประมาณ 1.20 แสนล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียน และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน มากกว่า 30 แห่ง

398763_3595769272771_913674126_n.jpg

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบที่ระดับ -0.01% - 0.00% ในทุกช่วงอายุของตราสาร สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร

  • สนง.บริหารหนี้สาธารณะ รายงานว่า พันธบัตรรัฐบาลที่ออกในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2556 (ม.ค. – มี.ค.) มีมูลค่ารวม 1.33 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนบ่ายของวันที่ 26-12-2012 เวลา 13.21 .

 

วันนี้ช่วงเช้าราคาทองคำยังไม่ขยับไปไหนมาก นะครับ

 

วันนี้ ตลาดลอนดอนปิดทำการ วัน Boxing DaY

 

แต่ยังไง ระยะนี้ Volume การซือ้-ขาย จะหายไปค่อนข้างมาก เนื่องจากวันหยุดยาว

 

ดังนั้นระวัง การสร้างราคาของกลุ่มกองทุนบางกลุ่ม รวมไปถึงสัญญา GF ที่จะปิดทำการกันในวันที 27-12-2555 นี้ไว้ด้วยก่อนละครับ

 

ซึ่งประเมินสถาการณ์ไว้ สัญญา GF ของนักลงทุน บางกลุ่ม บางท่านอาจจะถูกบังคับปิดสถานะลงในวันที่พรุ่งนี้

 

ทำให้เกิดแรงขายราคาทองคำออกมาในระดับหนึ่ง ครับ

 

ปีนี้ 2012 ถ้าราคาปิดไม่ต่ำกว่าระดับ 1600 เหรียญ ลงไป คาดการณ์จากสถิติที่ผ่านมาของเดือนมกราคม

 

คาดการณ์ไว้ว่าราคาทองคำ อาจจะมีแรงซื้อเข้ามา และดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้าน แถวแนวระดับ 1680-1700 เหรียญ ก่อน

 

หากไม่ผ่านราคาทองคำจะถูกแรงขายออกมา และตรงนั้น แนวรับ 1650-1630 เหรียญ จะเป็นที่สำคัญในอนาคตอีกครั้งว่าห้ามหลุด

 

ถ้าหลุดก็มีแนวโน้มว่าราคาทองคำอาจจะลงไปทดสอบ ระดับ 15xx ดังเช่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มีความเป็นไปได้เช่นกันครับ

 

แนวรับแนวต้าน

 

แนวต้าน 1658 *** ผ่านได้มีสิทธ์ไปทดสอบ 1663-1666 ไม่ผ่านระวังแรงขาย*** 1677**********

 

สรุป แนวต้าน เน้นโซน 1660-1670 เหรียญ เป็นสำคัญ หากไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวในระยะนี้ได้

 

แนะให้ระวังแรงขาย ครับ

 

แนวรับ 1644-1641 **** ระวังหลุด *** 1633 ห้ามหลุด ******* 1626 ถ้าไม่ดีดกลับ **** 1603 ***

 

สรุป แนวรับ ในระยะนี้เน้นแนวรับ 1640-1630 เหรียญเป็นหลัก หากถ้า ราคาทองคำ หลุดลงไป ทิศทางแนวโน้มระยะสั้น อาจจะ

 

เปลี่ยนมุมมอง จาก Side Ways DowN เปลี่ยนเป็น Down Trend ตรงนี้แนะนำให้ระวัง หากหลุดลงไปแล้วไม่สามารถ รีบาวด์ ดีดกลับขึ้นมาได้ ครับ

 

กรอบเล็ก 1630-1660 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1630-1680 = 50 เหรียญ

 

กรอบ side ways 1640-1660 = 20 เหรียญ

 

แนวโน้ม Side Ways Down

 

วันนี้ตลาดอเมริกาจะกลับมาเปิดทำการครับและมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1.เวลา 21.00 น. ตัวเลขที่อยู่อาศัย คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำ

 

2.เวลา 22.00 น. ตัวเลขภาคการผลิต คาดการณ์ส่งผลต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

pbeCgc.gif

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ :047

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...