บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้าของวันที่ 17-12-2012 เวลา 10.48 น.

 

ระยะนี้ใกล้จะสิ้นปีแล้วนะครับ ทางฝั่งตลาดยุโรปหรือตลาดอเมริกา เริ่มจะวางแผนหยุดยาวไปท่องเที่ยวกันแล้วนะครับ

 

ทำให้ระยะนี้ราคาทองคำ อาจจะยังคง Side Ways อยู่ในกรอบ 1680-1710 ก่อน และแนะนำให้ระวังแรงขาย

 

จากกลุ่มกองทุน บางกลุ่ม ซึ่งอาจจะรอจังหวะ เทขายทำกำไรอยู่ รวมไปถึง สัญญา GF ใกล้จะปิดสัญญาเดือนธันวาคมวันสุดท้ายในวันที่ 27 ธันวาคมนี้

 

ซึ่งประเมินเบื้องต้นว่า ราคาทองคำอาจจะ ถูกแรงขายออกมาก่อน รวมไปถึง นักลงทุนรายย่อยบางกลุ่มที่จะต้องปิดสถานะ

 

เนื่องจาก ทำให้ Long position ในระดับ 1710 ขึ้นไป ทำให้ มุมมองหรือแนวโน้มราคาทองคำในครึ่งเดือน สุดท้ายของปี 2555 นี้

 

อาจจะมีแรงขายออกมา และแนะนำให้ติดตามข่าวลือ เกี่ยวกับวันสิ้นโลกในวันที่ 21-12-2012 ไว้ด้วยนะครับ

 

เพราะต้องดูว่าจะส่งผลกระทบ ต่อตลาดหุ้นรวมไปถึง สินทรัพย์การลงทุน ต่าง ๆ ด้วยหรือไม่นะครับ ถึงแม้ว่าโลกอาจจะไม่แตกก็ตาม

 

ซึ่งถ้ามองจาก ข่าว ก็ถือว่าเป็นข่าวลบ ต่อการลงทุน ถึงแม้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม ครับ

 

ระยะนี้ แนะนำให้ลดสถานะ การลงทุน ในสินทรัพย์ต่าง ๆ ลงก่อนครับ และเตรียมเงินสดไว้ เมื่อราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ถูกแรงขาย ออกมา

 

แนะนำให้เข้าไปทยอย ซื้อสะสมไว้ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น บางกลุ่ม ทองคำ รวมไปถึง สินทรัพย์ต่าง ๆ

 

เพราะด้วยส่วนตัวผมเชื่อว่า ปีหน้า 2013 ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า ราคาปัจจุบัน รวมไปถึงการอัดฉีดเงินเข้าระบบ ของตลาดอเมริกา

 

ที่จะเตรียมออกมาตรา QE4 ออกมา รวมไปถึง การกระตุ้นและขยายตัว เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น อเมริกา ยุโรป จีนและ ญี่ปุ่น ครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน ระยะนี้ เน้น 1698 **** 1703-1707 ***ไม่ผ่านระวังแรงขาย 1717 ***** ( แนวต้าน อาจจะสามารถใช้ได้ ในระยะสัปดาห์นี้ )

 

สรุป แนวต้านระยะนี้ ตอนนี้ เน้น 1696-1710 ก่อนนะครับ เนื่องจาก ราคาทองคำระยะนี้ ยังคง Side ways อยู่ในกรอบ 1680-1710 อยู่ครับ

 

ยังไม่ขยับขึ้นและลงไปไหนมาก ทำให้ กรอบบน หรือแนวต้าน ยังให้มุมองมอง ที่ 1696 ขึ้นไป รวมไปถึงการกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1700 เหรียญ ให้ได้ก่อน

 

ดังนั้น ถ้านักลงทุนท่านใด ต้องการ ลงทุนระยะสั้น แนะนำให้ ให้ ระวังแรงขาย บริเวณ 1696-1710 ครับ หากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1700 เหรียญ ได้

 

ผมยังให้แนวโน้มทองคำ ในระยะนี้เป็น ไปในลักษณะ Side Ways Down ถึงแม้บางครั้ง ราคาทองคำ อาจจะกลับขึ้นไปทดสอบ แนวต้านดังกล่าวก็ตาม ครับ

 

แนวรับ 1687*** ระวังหลุด 1682-1680 **** 1674 **** ถ้าหลุด มากกว่านี้ อาจจะลงปรับฐาน 1670-1660 และ 1633 *** ( แนวรับ อาจจะสามารถใช้ได้ ในระยะสัปดาห์ นี้ )

 

สรุป แนวรับระยะนี้เน้น โซน แนวรับ 1680-1690 ต้องรับให้อยู่ครับ ถ้าไม่ ราคาทองคำมีแนวโน้ม ลงทดสอบแนวรับถัดไป โดยรูปแบบการ ลงทดสอบแนวรับ

 

อาจจะเป็นไปในลักษณะ Side Ways Down จนกว่าราคาทองคำจะสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1700-1710 เหรียญ ได้ครับ

 

กรอบเล็ก 1680-1710 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1670-1720 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side Ways 1687-1697 = 10 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.30 น. ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม ของเฟด สาขา นิวยอร์ค คาดการณ์ส่งผล ลบต่อราคาทองคำ เล็กน้อย

 

2. เวลา 21.00 น. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ เดือน ตุลาคม คาดการณ์ส่งผล ดีต่อราคาทองคำ เล็กน้อย

 

3. เวลา 21.30 น. ประธาน ECB ออกแถลงการณ์ คาดการณ์ส่งผลต่อ สกลุเงินยูโร

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

 

 

 

 

 

 

แต่ข่าวลือนี้ผมถือว่า ยังไม่สามารถมองข้าม เหตุการณ์นี้ไปได้ ครับ

[goldleng 98]

ขอบคุณครับ Rจานอั๋น

[gejen 5,749]

ขอบคุณมากๆๆค่ะ Rจานอั๋น^____^

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น

[luck 512]

ขอบคุณมากค่ะ จานอั๋น

จานอั๋นกลับมาแล้ว อย่าหายไปอีกนานๆนะ

เดี๋ยวต่ายทองมีงอลล อิอิ

[luck 512]

 

 

จานอั๋นกลับมาแล้ว..พร้อมความสุขความสดชื่น..เบิกบานเต็มหัวใจ..ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงในไม่อีกกี่วันข้างหน้า..ขอบคุณทุกการแบ่งปันที่มีให้เสมอมานะคะ....จานอั๋นเป็นเพื่อนคนแรก..

ต่ายทองเริ่มนับหนึ่งจากตรงนี้..มาจนถึงทุกวันนี้..

ทู้จานอั่นเป็นที่ๆต่ายทอง..ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้..มิตรภาพ....ที่ตรงนี้เป็นที่ๆต่ายทอง..ไม่มีวันลืม..ประสบการณ์การเรียนรู้ ความมีน้ำใจที่จานอั๋น และเพื่อนๆมีให้ มิตรภาพที่ดีระหว่างเราจะคงอยู่ตลอดไปนะคะเพื่อนๆ

ว่าแต่จานอั๋นคะ..ถ้าหายไปนานแบบครั้งนี้อีก..ขอบอกมีงอลนะคะคริคริ

มิตรภาพที่ดีจะคงอยู่ตลอดไปจ๊ะ ต่ายทอง

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[jewjang40 5,712]

 

 

 

Good Morning News 18 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

·

 

 

 

• อิตาลีมียอดเกินดุลการค้า 2.5 พันล้านยูโรในเดือน ต.ค. ดีขึ้นหลังจากที่ขาดดุล1.1 พันล้านยูโรในเดือนเดียวกันของปี 2554 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.9%
  

• จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยอมรับการขึ้นอัตราภาษีสำหรับคนรวยแล้ว ซึ่งลดอุปสรรคจากพรรครีพับลิกันที่มีต่อการทำข้อตกลงเพื่อยุติภาวะ Fiscal cliff หรือผลกระ ทบที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและลดงบรายจ่ายขนาด 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐที่อาจจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า
  

• FED ประกาศข้อเสนอคุมเข้มธนาคารต่างชาติเพื่อคุ้มครองผู้เสียภาษีชาวสหรัฐจากความจำเป็นในการจ่ายเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือธนาคารเหล่านี้ อย่างไรก็ดี มาตรการคุมเข้มดัง กล่าวอาจส่งผลให้ ธ.ต่างชาติถอนกิจการออกจากสหรัฐ เนื่องจากจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยกฎใหม่นี้จะบังคับให้ ธ.ต่างประเทศที่มีสินทรัพย์ในสหรัฐตั้งแต่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์จะต้องมีสินทรัพย์กันชนที่มีสภาพคล่องเป็นจำนวน 30 วัน และจำกัดการปล่อยสินเชื่อต่อคู่ค้ารายเดียวไว้ไม่เกิน 25% ของเงินทุนตามเกณฑ์ จะต้องจัดตั้งคณะกรรมการด้านความเสี่ยง และต้องได้รับการตรวจสอบภาวะวิกฤติจากสหรัฐ
  

• สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ(NABE) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเติบโตปานกลางในปีหน้าโดย GDP จะขยายตัว 2.1% หลังจากโต 2.2% ในปีนี้ ในขณะที่การบริโภคเติบโตขึ้นเพียงเล็กน้อย การลงทุนในการก่อสร้างนอกภาคที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง และอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจปรับลดลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวขึ้น การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและราคาบ้านอาจพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
  

• จีน ขยายเพดานการลงทุนในตลาดเงินตลาดทุนให้กับ ธ.กลางและกองทุนเพื่อความมั่งคั่งของรัฐบาลต่างประเทศโดยให้ลงทุนได้เกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก เพื่อกระตุ้นภาวะการลงทุนในตลาดหุ้น และรองรับการปฏิรูปตลาดเงินตลาดทุนให้มีความเป็นสากลมากขึ้น
  

• จีน ระบุว่า จะดำเนินนโยบายการเงินแบบระมัดระวังในขณะที่ดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกในแผนปี 2556 โดยจะผลักดันการขยายความเป็นเมือง (Urbanization) อย่างต่อเนื่องและจริงจัง แต่ยังควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไปพร้อมๆ กับกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศให้ขยายตัว ส่งเสริมการลงทุนให้มากขึ้นทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ
  

• ชินโซ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องรักษาและพัฒนาให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ
  

• สหภาพยุโรปและสิงคโปร์เสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลังจากดำเนินการเจรจามาเกือบ 3 ปี ซึ่งช่วยให้สิงคโปร์กลายเป็นประตูสู่อาเซียนให้กับบริษัทใน EU และทำให้มีฐานการส่งออกที่ใหญ่ขึ้น
  

• ยอดส่งออกสิงคโปร์เดือน พ.ย. ลดลง 2.5% และลดลงเป็นเดือนที่ 3 ในช่วง 4 เดือนหลังสุด หลังยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลง ทำให้กระทรวงพาณิชย์สิงคโปร์คาดว่ายอดส่งออกในปีนี้จะขยายตัวราว 2%-3% ส่วนปีหน้าจะขยายตัว 4%
  

• ธ.เพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดว่า GDP อินโดนีเซียปี 2013 จะขยายตัว 6.6% จากปีนี้ที่ขยายตัว 6.3% โดยภาคการบริโภคจะยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากชาวอินโดนีเซียมีความเชื่อมั่นที่จะจับจ่าย นอกจากนี้ การลงทุนในอินโดนีเซียปีหน้าจะขยายตัว 25%-30% ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำน่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  

• สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ให้เปิดสำนักงานตัวแทนในกรุงย่างกุ้งได้ ส่งผลให้เป็นธนาคารระหว่างประเทศเพียงธนาคารเดียวที่เปิดดำเนินการครบทั้ง 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน
  

• อิหร่าน จะซ้อมรบในช่องแคบฮอร์มุซภายใน มี.ค. 2556 และจะตั้งกองกำลังความมั่นคงถาวรในช่องแคบฮอร์มุสซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก ทั้งนี้ อิหร่านระบุว่าสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกจะไม่สามารถจัดตั้งกองกำลังความมั่นคงในภูมิภาคนี้ได้
  

• ก.พาณิชย์ ตั้งเป้าการส่งออกของไทยในปีหน้าว่าจะขยายตัวจากปีนี้ 8-9% โดยมีมูลค่าการส่งออก 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับยอดส่งออกในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 4.17% เมื่อเทียบปีก่อน หรือ 2.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค.55) จะมีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
  

• ธปท. รายงานว่า การประชุม กนง. ครั้งแรกปีหน้ายังเน้นผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง โดยยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบของญี่ปุ่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ฝืดตัวซึ่งจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินโลกมากยิ่ง ขึ้นอีก ส่งผลให้แนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อไป ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ใกล้เคียงอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2.75% น่าจะสามารถประคองการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้ โดยคาดว่า GDP ไทยปี 2556 จะเติบโตที่ 4.7% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของปี 2554 และ 2555 ซึ่งโตปีละ 3%
  

• ไทย เตรียมเปิดสถานกงสุลที่เมืองทวาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุน ส่วนโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย คาดว่าในช่วงเม.ย. ปีหน้า จะเห็นความพร้อมมากขึ้น
  

• ตลาดหุ้นจีนปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน หลังการประชุมกำหนดนโยบายประจำปีที่มีสี จิ้นผิง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นประธาน โดยระบุว่า จีนจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในปีหน้า รวมทั้งจะปฏิรูปมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวในระยะยาว
  

• SET Index ปิดที่ 1,359.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด หรือ +0.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35,040 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,289 ล้านบาท ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวอยู่ในแดนบวกเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังได้รับปัจจัยบวกมาจากตลาดหุ้นยุโรปที่กลุ่มสหภาพยูโรได้อนุมัติเงินกู้รอบแรกจำนวน 49,000 ล้านยูโรให้กับประเทศกรีซ และการประกาศนโยบายเศรษฐกิจในปีหน้าของจีน
  

• ออสเตรเลียปรับการบินไทย 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (232 ล้านบาท) หลังจาก THAI ยอมรับว่าร่วมกันกำหนดราคากับสายการบินรายใหญ่ระดับโลกหลายแห่งในปี 2544-2548 ทั้งค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง ค่าธรรมเนียมความปลอดภัย และค่าภาษีเที่ยวบิน โดยการบินไทยสัญญาว่าจะไม่ทำเช่นนี้อีกเป็นเวลา 5 ปี และขอผ่อนจ่ายค่าปรับเป็นงวดๆ เนื่องจากกำลังประสบปัญหาทางการเงิน
  

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 0.00% ถึง 0.02% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท.อายุ 1/3/6 เดือน วงเงิน 70,000 ล้านบาท
  

• ธปท.รายงานว่าว่า เงินเยนอ่อนค่าลงมาต่ำสุดในรอบ 20 เดือน หลังพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ภายใต้การนำของ ชินโสะ อาเบะ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อภาคการส่งออกของญี่ปุ่น รวมทั้งส่งผลดีต่อโอกาสในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และในฐานะที่ไทยมีความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนร่วมกับญี่ปุ่นอย่างเข้มแข็งก็น่าจะได้รับอานิสงส์ด้วย นอกจากนี้ ธ.กลางญี่ปุ่นอาจถูกกดดันให้ขยายขอบเขตโครงการซื้อสินทรัพย์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 3 เดือน
  

ถูกแก้ไข ธันวาคม 18, 2012 โดย กระต่ายทอง

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคนสัวสดีตอนเช้าของวันที่ 18-12-2012 เวลา 9.38 น.

 

เมื่อราคาทองคำลงไปทดสอบแนวรับแถวโซน 1690-1685 เหรียญ ยังไม่หลุด สามารถดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แถวโซน 1696-1700 ได้สำเร็จ

 

ทำให้ มุมมองในวันนี้ รอดูว่าราคาทองคำจะสามารถ ดีดกลับหรือ รีบาวด์ ผ่านการทดสอบ แนวต้านที่ 1703-1707 ได้หรือไม่

 

ถ้าไม่หรือไม่สามารถ ยืนเหนือ 1700-1710 เหรียญ ได้ในระยะนี้ ราคาทองคำ ยังมีโอกาศหลุด 1680 ลงไปอีกครั้งครับ แต่อาจจะลงไปไม่นาน ครับ

 

มุมองวันนี้ ถ้าดูจากกราฟ แล้ว ราคาทองคำยังถือว่ายังคง Side ways อยู่ในกรอบ เล็ก 1680-1710 เหรียญ อยู่ครับ ยังไม่ขยับไปไหนมาก

 

หากผ่าน 1710 ขึ้นไป หรือ หากหลุด 1680 ลงไป ราคาทองคำก็จะเริ่มเปลี่ยนแนวโน้มอีกครั้ง ครับ

 

แนวต้าน แนวรับ

 

แนวต้าน 1703-1707 ไม่ผ่านระวังแรงขาย *****ผ่านได้ไปต่อ 1713 **** 1717-1721 ****** แนวต้าน ตรงนี้ยัง แข็งแรงอยู่

 

สรุป แนวต้าน เน้น แนวต้าน บริเวณ 1696-1710 เป็นแนวต้านหลักที่จะต้องผ่านหรือ ยืนเหนือให้ได้ก่อนครับ

 

หากราคาทองคำต้องการผ่านขึ้นไปทดสอบในแนวต้านถัดไป

 

แนวรับ 1691-1687 ถ้าลงมาทดสอบอีกครั้ง ระวังหลุด ** 1682 **** 1674 ***** ถ้าหลุด ปรับฐาน 1670-1650 *****

 

สรุป แนวรับ ยังให้น้ำหนัก ราคาทองคำ เป็น Side ways Down อยู่ครับ ถึงแม้ว่าบางครั้งราคา จะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ก็ตามครับ

 

จนกว่า ราคาทองคำจะสามารถผ่าน 1710 ขึ้นไป ได้ และยืนเหนือ 1710-1700 ได้ ผมถึงจะเปลี่ยนมุมมอง ราคาทองคำเป็น การ Side ways Up ระยะสั้นครับ

 

ระยะนี้ แนะนำให้นักลงทุน เก็งกำไรระยะสั้น เอาไว้ก่อนดีกว่า ครับ และแนะให้รอ รอ รอ จังหวะ หากราคาทองคำ ลงมาทดสอบแนวรับ หรือปรับฐาน

 

แถว โซน 1670 -1650 หรือลงต่ำกว่านั้น จริง ๆ ค่อย ทยอยเข้าไปซือ้สะสมไว้ และเก็บไว้ประมาณ 3-6 เดิอน

 

ซึ่ง หากลงไปจริง ผมคาดการณ์ไว้ว่า ผลตอบแทนในการลงทุน ถ้าคิดเปอร์เซ็นต์ ในปีหน้า ซึ่งผมมองจาก สภาพเศรษฐกิจ และ แนวโน้ม การขยายตัว

 

รวมไปถึงการกระตุ้นของเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ หรือการกระตุ้น ต่างๆ ขอนโยบายเศรษฐกิจแต่ละประเทศ คาดการณ์ไว้ว่า กลุ่ม ดัชนี หลักทรัพย์ รวมไปถึง

 

สินค้าโภคภัณฑ์ ที่ดิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะขยับและขยายตัว ปรับราคาขึ้นไปตามการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศครับ

 

กรอบเล็ก 1680-1710 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1670-1720 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side Ways 1695-1705 = 10 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจ ที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.30 น. ดุลบัญชีเดินสะพัด ไตรมาส 3 คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

2. เวลา 22.00 น. ดัชนีที่อยู่อาศัย คาดการณ์ ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ

 

เมื่อวานราคาลงไปทดสอบแนวรับ หากวันนี้ ราคาจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน บ้างก็อย่าเพิ่ง ตกใจ หรือ ดีใจไปนะครับ

 

ใจเย็น นะครับ ๆ อย่าเผลอไป เปิด Long ตามแนวต้าน และ อย่าเผลอ ไปเปิด Short ตามแนวรับ ละครับ ไม่งั้น เครียด แย่ ๆ เลย

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น

[gejen 5,749]

ขอบคุณมากๆๆค่ะ Rจานอั๋น

[sr20detgt 1,468]

ขอบคุณมากครับ อ.อั๋น

[wong53 10]

ขอบคุณครับ Rจานอั๋น

[jewjang40 5,712]

อรุณสวัสดิ์คะจานอั๋น เพื่อนๆ...

 

 

 

Good Morning News 19 ธันวาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

·

 

 

 

• ธ.กลางสวีเดน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงไปอยู่ที่ 1.00% และกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยนี้จะยังคงตัวในระดับต่ำไปถึงปีหน้า เนื่องจากปัญหายุโรปยังถ่วงเศรษฐกิจของประเทศ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
  

• อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. โดย ดรรชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น 2.7% จากราคาค่าบริการสาธารณูปโภคและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น
  

• ประธานาธิบดีโอบามา ยื่นข้อเสนอใหม่ในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการเงินโดยให้เพิ่มภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดาผู้มีรายได้ 400,000 ดอลลาร์/ปีขึ้นไป ลดงบประมาณค่าใช้จ่ายลง 1.22 ล้านล้านดอลลาร์ และขอขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางออกไปอีกสองปี
  

• ก.คมนาคมของสหรัฐ รายงานว่า รายได้สายการบิน 9 รายใหญ่ของสหรัฐเพิ่มขึ้นโดยมีผลกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้ สูงกว่าไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 670.2 ล้านดอลลาร์ และสูงกว่าปีที่แล้วซึ่งเป็น 909.2 ล้านดอลลาร์ นับเป็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ เนื่องจากคนมีการจับจ่ายใช้สอยทั้งในด้านการเดินทางส่วนตัวและเพื่อธุรกิจการค้า
  

• ชินโสะ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนถัดไป เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดใหม่ของเขาตั้งใจจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจำนวนมาก เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด และต้องการเสนอเป้าหมายเงินเฟ้อกับธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่ 2% เพื่อช่วยให้เงินเยนอ่อนค่าลงและหนุนราคาหุ้นให้สูงขึ้น
  

• จีนกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจปีหน้าไว้ที่ 7.5% เช่นเดียวกับปีนี้ และกำหนดกรอบอัตราเงินเฟ้อไม่เกิน 3.5% ซึ่งต่ำสุดนับแต่ปี 2010 แต่รัฐบาลจีนยังไม่ได้กำหนดกรอบปริมาณสภาพคล่องและการปล่อยสินเชื่อใหม่ สะท้อนให้เห็นว่าจีนตั้งใจจะมุ่งเน้นการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ
  

• ส.สถิติแห่งชาติจีนเผยว่า ราคาบ้านในมณฑลต่างๆ ของจีนเดือน พ.ย.สูงขึ้นใน53 เมือง เพิ่มขึ้นมากกว่าเดือน ต.ค. ที่เพิ่มสูงขึ้นใน 35 เมือง ท่ามกลางมาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาลเพื่อบรรเทาปัญหาในธุรกิจที่อยู่อาศัย
  

• ปริมาณการใช้ไฟของชุมชนจีนขยายตัว 7.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือน พ.ย.โดยฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง 2 เดือนติดกัน และเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. ตอกย้ำถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
  

• The Financialist ซึ่งเป็นแมกกาซีนดิจิตัลของ Credit Suisse ระบุใน Global Wealth Report ว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีเศรษฐีเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากจากประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น จีน และบราซิล โดยจีนจะมีคนรวยเงินล้านเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 964,000 ราย เป็น 1,901,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นถึง 97% ในขณะที่บราซิลจะเพิ่มจาก 227,000 เป็น 497,000 ราย หรือ 119% ส่วนรัสเซียกับมาเลเซียจะมีอัตราการเพิ่มของจำนวนคนมั่งมีเป็น 109% และ 108% ภายในปี 2017
  

• ธ.กลางอินเดีย คงอัตราส่วนกันสำรองทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ไว้ที่ 4.25% หลังจากลดลงครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 8% โดยเป็นการคงไว้ 5 ครั้งติดกัน เนื่องจากยังจำเป็นต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่ากรอบเป้าหมาย
  

• รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 แม้จะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นโบพาซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในภาคใต้ โดยGDP ของฟิลิปปินส์ในปีนี้อาจขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายที่ 5-6%เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศมีเสถียรภาพ และมีการขยายตัวของภาคบริการ
  

• ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 5 ขั้น เป็น 7 ขั้น และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากอัตราสูงสุดร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 35 ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2556 ที่จะต้องยื่นรายการในปี 2557 เป็นต้นไป
  

• SET Index ปิดที่ 1,362.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด หรือ +0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,994.75 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,289.05 ล้านบาท โดยดัชนีค่อนข้างผันผวนระหว่างวัน แต่ก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงท้ายตลาดจากความคาดหวังการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff เป็นไปด้วยดี
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง 0.00% ถึง 0.04%
  
• 
  

ถูกแก้ไข ธันวาคม 19, 2012 โดย กระต่ายทอง

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้าของวันที่ 19-12-2012 เวลา 9.17 น.

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ทุกคน ........... สบายดีกันนะครับ

 

อืม ต้องบอกว่า ราคาทองคำลงมาให้เราเริ่มทยอยซื้อสะสม แล้วนะครับ

 

รอบนี้ก็หาจังหวะ เข้าไปทยอยรับ ตามแนวรับที่ให้ไว้นะครับ

 

แต่วิธีการรับนัน้ ต้องทยอยรับ ห่างกันประมาณ 30-50 เหรียญนะครับ

 

เพราะว่าอะไรใช่ไหมครับ ง่าย ๆ ครับ เพราะเราไม่ได้มีเงินลงทุนมากมาย ดังเช่นกองทุน ครับ

 

จึงไม่สามารถเข้าไปทยอยรับ ณ แนวรับระดับต่าง ๆ ไว้ได้เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นได้ แต่เราต้องเปลี่ยนมุมองเป็นเก็งกำไรกลาง-ระยะยาว แทนในเบื้องต้นในระยะนี้ครับ

 

และอีกอย่างราคาทองคำก็อาจจะลงไปอีกจนกว่าจะเกิดแนวโน้มกลับตัวขึ้น หรือ เพื่อให้นักลงทุนรายย่อย เกิดความกลัว และไม่กล้าซื้อ หรือ บางคนอาจจะ ตัดขาดทุน และไม่มีเงินเก็บของไว้

 

คราวนี้ละ ขาใหญ่ จะเอาเงินมาทยอยเก็บ เก็บ เก็บ ของไว้ อยู่ เจ้าเดียวครับ และหลังจากนั้นก็รอจังหวะ สร้างข่าวดีดีขึ้นมาเพื่อสนันสนุนราคาทองคำ และดันราคาขึ้นมา

 

พร้อมกับนักลงทุนรายย่อย ที่ช่วยกันไล่ซือ้และช่วยดันราคาให้ขาใหญ่ ได้กำไรกันไปอีก ให้ผมเดาเนี้ยอย่างน้อย น่าจะ 100 เหรียญ ขึ้นไป ครับ

 

ก็อย่างที่ผมได้กล่าวไปเมื่อวานละครับ ระยะนี้เริ่มทยอยเข้าซื้อเก็บไว้ แล้วเตรียมนำมาขายอีกประมาณ 3-6 เดือน ถ้าไม่ได้กำไร เนี้ย ...ก็แสดงว่า ทองคำหมดคุณค่าแล้วครับ

 

ปีที่แล้วเดือนนี้ ณ วันเวลานี้ ผมจำได้ราคาทองคำก็ลงมา แบบนี้ และลงหนักกว่านี้ ครับ ปีนี้ ยังถือว่าราคาทองคำยังลงไม่แรงมากนะครับ

 

แต่ทำไม ผมละไม่เข้าใจครับ ยังมีนักลงทุน บางกลุ่มที่ไม่เคยจดจำ เหตุการณ์ ดังกล่าวไว้ และยังคงลงทุนเช่นเดิมครับ

 

คิดไปแล้ว วันนี้ที่ผมทำงานอยู่ก็น่าสงสาร นักลงทุนหลาย ท่าน ๆ นะครับ ที่ตอนนี้กำลังประสบปัญหาขาดทุนกันอยู่ และบางคน ถึงอาจจะต้องโดน เรียกหลักประกันขั้นต้นเพิ่ม

 

หรือบางราย อาจจจะออกจากตลาด การลงทุน ไปเลยนะครับ เหตุผล ไม่ใช่ว่า เราไม่มีดวงในการลงทุน หรือการลงทุน ไม่เหมาะสมกับเรา

 

แต่เราไม่มี วินัยในการลงทุน และก็ไม่มีการวางแผนในการลงทุน ต่างหาก ใช่ไหมครับ

 

ผมก็เคยลงทุน แบบขาดวินัยมาก่อนครับ เล่นไปตามอารมณ์ตลาด โดยเอานิสัยและเหตุผล ของตนเองเป็นใหญ่ ไม่เชื่อ ข้อมูลข่าวสารและความรู้ทางเทคนิคที่เรามี ครับ

 

สุดท้าย ก็ หมดไป เยอะเช่นกันครับ แต่ประสบการณ์จะช่วยสั่งสอนให้เราจดจำและแก้ไข เพื่อที่จำทำให้อนาคต ดีขึ้นกว่าเดิมครับ

 

ไม่อย่างนั้น เราจะอยู่บนโลกนี้ที่สวยงามนี้เพื่ออะไรครับ และในอนาคตเราจะไม่มีความก้าวหน้าได้อย่างสมบรูณ์แบบ หากเราไม่เคยผิดพลาดและเอาชนะความผิดพลาดนั้นได้ขอรับ

 

โม้มาเยอะละครับ กับมาที่แนวรับแนวต้านกันดีกว่าครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1681 ***** ดูจังหวะการทดสอบ **** 1688 ไม่ผ่านระวังแรงขาย***** 1696-1703 ***** แนวต้านหลักที่ต้องผ่านให้ได้

 

สรุป แนวต้าน หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน ณ ระดับโซน 1703-1707 เหรียญ ไปได้ ทำให้ราคาทองคำ มุมมองและเเนวโน้มราคาทองคำ

 

เริ่มมีทิศทางที่การเคลื่อนไหว เป็นไปในรูปแบบ Side Ways Down ครับ และเมื่อวานตอนกลางคืน ราคาทองคำได้สะท้อนเจตนาของราคาทองคำเองอีกครั้ง

 

หลังจาก แนวรับ 1690-1680 ไม่สามารถรับอยู่ได้และหลุดลงมา ว่าไม่มีแรงซือ้ หรือ ขึ้นต่อไปได้หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้านและยืนเหนือ ณ ระดับ 1700 เหรียญ ได้ครับ

 

ทำให้ เกิดแรงขาย ออกมา ในระดับหนึ่ง ประมาณ 30-40 เหรียญ (ไม่ได้เห็นนาน แล้วนะครับ ที่ราคาลงแรง ๆ แบบนี้ )

 

ดังนั้น ระยะนี้ หรือ 1-2 วันนี้ แนะนำติดตามดูการรีบาวด์ ขึ้นของราคาทองคำว่าจะสามารถกลับผ่านแนวต้าน 1680-1690 และกลับขึ้นไปทดสอบและยืนเหนือ

 

แนวต้านจิตวิทยา 1700 เหรียญได้หรือไม่ ครับ ถ้าไม่ก็คาดการณ์ไว้อยู่ 2กรณีนะครับ คือ

 

1. ราคาทองคำอาจจะ Side Ways ปรับฐาน ณ ระดับราคา 1630-1680 = 50 เหรียญ ก่อนที่จะเลือกขึ้นหรือลง อีกครั้ง (ลงก็จะลงไปอีกไม่มาก ประมาณ 50-100 เหรียญ )

 

(แต่ถ้าขึ้นเนี้ย มีโอกาศ ขึ้นได้ถึง 100-200 เหรียญ ) ขอเน้นมุมมองระยะกลางถึงยาว นะครับ

 

และ แนวรับตรงนี้ 1640-1670 = 30 เหรียญ อาจจะยังไม่เเข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่ถ้าราคาลงมาทดสอบเมื่อไหร่ ครั้งใด ราคาทองคำก็จะสามารถดีดกลับขึ้นไปได้อยู่เรื่อย ๆ ครับ

 

หรือพูดกันแบบ ง่าย ๆ คือ เป็น แนวรับด่านแรก นั้นเองครับ ถ้ารับอยู่ก็ดีดกลับเหนือ 1700 เหรียญ ถ้ารับไม่อยู่ ก็ไปแนวรับด่านต่อไปครับ

 

2. ราคาทองคำอาจจะเลือกหลุด แนวรับ จิตวิทยา 1600 ลงไป ปรับฐาน 1550-1600 อีกครั้ง ก่อนที่จะเลือกขึ้นในระยะยาว ต่อไป ดังเช่นที่ผ่านมาครับ

 

แต่ กรณี 2 เนี้ย มีความเป็นไปครับ แต่ผมไม่ให้น้ำหนักมากเท่าไหร่ ครับ เพราะ เกรงนักลงทุน จะอดทนรอ รอ รอ ให้ราคาปรับตัวขึ้นในอนาคต กันไม่ไหวครับ

 

แต่ระยะยาว ผมประเมินจาก สภาพเศรษฐกิจ และ ปัจจัย ต่าง ๆ แล้ว ยังไง ราคาทองคำปีหน้าก็มีโอกาศ ได้เห็น 1800 เหรียญ ขึ้นไป ถึงแม้ปีนี้แค่ เฉียด ๆ ก็ตามครับ

 

แนวรับ 1670-1660 ดุว่าแนวรับ จะรับไหวหรือไม่ ***** 1655-1653 ***** ระวังหลุดนิดหน่อย *** 1646 -1633 ถ้าไม่หลุด จะดีดกลับเองครับ *****

 

สรุป แนวรับ ระยะนี้ คงจะเน้น แนวรับ ณ ระดับ 1640-1670 เหรียญ เป็นแนวรับที่สำคัญ หรือแนวรับด่านแรก ก่อนนะครับ ว่าจะสามารถรับอยู่หรือไม่

 

เพราะครั้งที่แล้วก่อนที่ราคาทองคำจะขึ้นไป ทดสอบ 1795 เหรียญ นั้น (ทำ NEW HiGh ประจำปีนั้น ) แนวรับ ณ ระดับ 1645-1660 เหรียญ

 

ถือว่าเป็นแนวรับ ที่แข็งแรง ก่อนที่จะดันราคาขึ้นจุดสูงสุดประจำปี ครับ

 

แต่ถ้าแนวรับ 1660-1640 เหรียญ รับไม่อยู่ ก็จะมี ด่านแนวรับ เล็ก ๆ ตรง 1630-1600 อยู่ครับ

 

ยังไงแนวรับตรงนี้ก็ต้องหยุดและ Side Ways ก่อนที่จะเลือกดีดกลับหรือลง ต่อ ณ ระดับแนวรับดังกล่าวครับ

 

กรอบเล็ก 1650-1680 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1650-1700 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side Ways 1660-1680 = 20 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.30 น. ยอดการก่อสร้างบ้าน คาดการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะส่งผล ต่อราคาทองคำ ขึ้นหรือลงเล็กน้อย

 

2. เวลา 22.30 น. ยอดสต๊อคมันดิบ คาดการณ์ ส่งผลดีต่อราคาทองคำ

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ โชคดีกันทุกคนนะครับ