ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิตที่เร่งตัวขึ้นสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่พุ่งขึ้นอย่างมากเช่นกัน ตามการปรับเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและอาหารในระดับโลก นอกจากนั้น ในกรณีของเกาหลีใต้ยังได้รับผลกระทบจากโรคปากและเท้าเปื่อย (Foot-and-Mouth Disease) ที่ระบาดในเกาหลีใต้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อุปทานของสินค้าปศุสัตว์ขาดแคลน อันส่งผลให้ราคาอาหารสดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระทบต่อผู้บริโภคในวงกว้าง จนทางการต้องใช้มาตรการลดภาษีนำเข้าเนื้อหมูและเนื้อวัวเพื่อบรรเทาปัญหาสินค้าขาดแคลนเป็นการเฉพาะหน้า อีกทั้งภาวะการบริโภคที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้า ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนก.พ. 2554 โดยคาดว่าหากสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2554 ต่อไป

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

l สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์ม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มว่า ราคาที่เกษตรกรขายได้ขณะนี้ยังสูงกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกรที่รวมค่าขนส่งแล้ว ซึ่งอยู่ที่ 3.80 บาท/กิโลกรัม แม้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้ (7-13 ก.พ. 54) ราคาปรับลดลงเป็น 7.03 บาท/กิโลกรัม เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา (31 ม.ค. – 6 ก.พ. 54) ที่ราคาอยู่ในระดับ 10.65 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มยังรอดูสถานการณ์ราคานำเข้าน้ำมันปาล์มจำนวน 120,000 ตันก่อน (ตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554)

 

ขณะที่ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันในเดือนก.พ. 54 เข้าสู่ตลาดจำนวน 400,000-450,000 ตัน แม้ว่าปริมาณมากกว่าเดือนม.ค. 54 แต่ปริมาณดังกล่าวยังน้อยกว่าผลผลิตในเดือนก.พ. 53 ซึ่งมีผลผลิตเข้าสู่ตลาด 750,000 ตัน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การอนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์ม 3 หมื่นตันในช่วงเดือนมกราคม 2554 เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำมันพืชบรรจุขวดนั้น แม้ว่าจะสามารถบรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ปัจจุบันน้ำมันพืชบรรจุขวดที่จำหน่ายผ่านช่องทางห้างค้าปลีกยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการ และยังคงต้องมีการจำกัดปริมาณการซื้อ ขณะที่การจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดตามตลาดสดและร้านค้าปลีกทั่วไป ขายสูงถึงขวดละ 65-80 บาท สูงกว่าราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ที่ 47 บาท/ขวด สำหรับการนำเข้าน้ำมันปาล์มอีก 1.2 แสนตันนั้น ยังคงต้องติดตามในเรื่องของปริมาณการจัดสรรให้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวช้อง รวมทั้งราคานำเข้า ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงราคาของสินค้าต่างๆ ที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันปาล์มที่นำเข้าในรอบใหม่นี้จะสูงกว่าการนำเข้าในรอบแรก นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการดำเนินมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ในการขอความร่วมมือให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันในประเทศ โดยแลกเปลี่ยนกับการจัดสรรโควตานำเข้าน้ำมันปาล์มรอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพิ่มขึ้น

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทความเผยแพร่ วันที่ 11 ก.พ. 2554 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย

 

 

“การลดค่าเงินดองครั้งแรกของปี 2554 : แก้ไขปัญหาความเชื่อมั่น ขณะที่เศรษฐกิจเวียดนามยังคงต้องปรับตัว” ในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ธนาคารกลางเวียดนามลดค่าเงินดองอย่างเป็นทางการลง 8.5% มาที่ 20,693 ดองต่อดอลลาร์ฯ โดยให้มีผลทันที พร้อมทั้งลดกรอบการซื้อ-ขายเงินดองเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ รายวันลงด้วย ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้การดำเนินการดังกล่าว จะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดดุลการค้าลงได้บางส่วน รวมทั้งทำให้ความแตกต่างระหว่างค่าเงินในตลาดมืดและตลาดทางการลดน้อยลง แต่การแก้ไขปัญหาเสถียรภาพต่างประเทศผ่านเครื่องมืออัตราแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับกรณีเศรษฐกิจเวียดนามที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงในเวลาเดียวกันด้วย ในขณะที่ ปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกันของประเทศในเอเชีย คงจะทำให้ผลกระทบจากการลดค่าเงินดองของเวียดนามต่อสกุลเงินในภูมิภาค มีค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ แม้การลดค่าเงินดองอาจสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับสินค้าส่งออกของเวียดนาม แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การพิจารณาถึงประเด็นความสามารถในการแข่งขันยังคงต้องขึ้นอยู่กับอีกหลากหลายปัจจัยประกอบกัน อาทิ คุณภาพของสินค้าแต่ละประเภท และความเพียงพอของปริมาณสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเด็กขายของ มี facebook ปะครับ จะได้ติดตามข่าวสนุกมากครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:lol: Mubarak has left Cairo: reports ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

นักเศรษฐศาสตร์ IMF ชี้มาตรการ QE2 ของเฟดเป็นต้นตอปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 14:04:32 น..expanded { width: 620px; z-index: 9999 }นายราจ์ฮูรัม ราจัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดโดยสภาฝ่ายกิจการต่างประเทศของสหรัฐว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้นั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจสหรัฐตามที่คาดการณ์ไว้

 

นายราจันกล่าวว่า มาตรการ QE2 ที่เฟดนำมาใช้เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐแค่ในวงจำกัดเท่านั้น ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือว่า การใช้นโยบายการเงินของเฟดได้ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆทั่วโลก เมื่อประเทศเหล่านั้นไม่ยอมให้อัตราแลกเปลี่ยนผลักดันและปกป้องนโยบายการเงินของตนเอง

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NEW YORK (MarketWatch) -- Egyptian leader Hosni Mubarak has left Cairo, according to reports on Friday. A western official told The New York Times that the government is signaling that Mubarak has handed over all power. The Egyptian Armed Forces issued a statement that the military was in effective control of the country -- not Mubarak

 

กองทัพบกอียิปต์ ออกแถลงการณ์ว่า ได้ทำการควบคุมประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว โปรดทราบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold Futures (โกลด์ฟิวเจอร์ส) หรือ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า เป็นเครื่องมือที่ผู้ลงทุนสามารถใช้ทำกำไรได้ตามความคาดการณ์ที่มีต่อราคาทองคำได้ทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้นและราคาทองขาลง ด้วยคุณลักษณะเด่นที่สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ และใช้เงินลงทุนน้อยประกอบกับราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้น โกลด์ฟิวเจอร์สจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการทำกำไรและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน ข้อควรระวังในการซื้อขาย Gold Futures โกลด์ฟิวเจอร์สใช้เงินทุนน้อย เนื่องจากผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินทั้งจำนวนในการซื้อขาย ผู้ลงทุนเพียงแค่วางเงินประกันแค่ 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญา ดังนั้น หากผู้ลงทุนได้กำไร ก็จะเป็นอัตราส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินลงทุน แต่หากขาดทุนก็จะเป็นอัตราส่วนที่สูงเช่นเดียวกัน

 

การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยน ก็เป็นปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรคำนึงในการซื้อขาย โดยปกติแล้วราคาทองคำจะเคลื่อนไหวสวนทางกับอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ลงทุนควรติดตามให้ความสนใจ

 

นอกจากนี้ ฟิวเจอร์สมีอายุจํากัด ซึ่งแตกต่างจากหุ้นและทองคำจริงที่ไม่มีวันหมดอายุ หากผู้ลงทุนถือโกลด์ฟิวเจอร์สไปจนถึงวันครบอายุสัญญา ก็จะมีการปิดสถานะของสัญญาให้ผู้ลงทุนโดยอัตโนมัติ ผู้ลงทุนจะได้กำไรขาดทุนเท่ากับส่วนต่างระหว่างราคาที่ซื้อหรือขายฟิวเจอร์สไว้ และราคาที่ใช้ชำระราคาวันสุดท้าย ดังนั้นผู้ลงทุนจึงควรรู้จักระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน และควรติดตามสถานะการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

 

icon.gif Gold Futures

 

Gold Futures (โกลด์ฟิวเจอร์ส) หรือ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า เป็นเครื่องมือที่ผู้ลงทุนสามารถใช้ทำกำไรได้ตามความคาดการณ์ที่มีต่อราคาทองคำได้ทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้นและราคาทองขาลง ด้วยคุณลักษณะเด่นที่สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ และใช้เงินลงทุนน้อยประกอบกับราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้น โกลด์ฟิวเจอร์สจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการทำกำไรและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้ง่าย สะดวก ผ่านระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดอนุพันธ์ (TFEX ) โดยมีบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด (TCH) เป็นผู้ประกันการชำระราคาจากการซื้อขาย และมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของ ตลาดอนุพันธ์และบริษัทสมาชิก ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าในทุก ๆ การซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ มีความโปร่งใสและเชื่อถือได้

 

icon.gif กำไรสองทาง ทั้งทองขึ้นทองลง

 

โกลด์ฟิวเจอร์สช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ลงทุน ทําให้สามารถซื้อขายทำกำไรได้ทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้น และราคาทองขาลง โดยในการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สจะไม่มีการส่งมอบทองคำจริงระหว่างคู่สัญญา แต่ใช้วิธีจ่ายชำระเงินตามส่วนต่างกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น เรียกว่า “การชำระราคาเป็นเงินสด” (Cash settlement) ผู้ลงทุนสามารถ “ ซื้อก่อนขาย” หรือ “ขายก่อนซื้อ” ก็ได้ โดยกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจะเท่ากับส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาที่ซื้อเอาไว้ เช่น หากผู้ลงทุนคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็สามารถซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สไว้ก่อน และเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้น ก็สามารถขายโกลด์ฟิวเจอร์สในภายหลัง ทำให้ได้กำไรเท่ากับส่วนต่างของราคาซื้อและขาย หรือในกรณีที่ผู้ลงทุนคาดว่าราคาทองจะปรับตัวลดลง ก็สามารถสั่งขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้เลย แม้ว่าไม่เคยซื้อ โกลด์ฟิวเจอร์สมาก่อน และเมื่อราคาทองปรับตัวลดลง ก็ค่อยซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สในภายหลัง ทำให้ได้กำไรตามส่วนต่างของราคาขายและราคาซื้อ

 

icon.gif ทุกภาวะตลาด ทุกความคาดการณ์ คือโอกาสทำกำไร

 

การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส คือ การซื้อขายทองคำล่วงหน้า ราคาของโกลด์ฟิวเจอร์สจึงเป็นราคาทองที่ผู้ลงทุนคาดการณ์ในอนาคต จึงอาจจะแตกต่างจาก ราคาทองที่มีการซื้อขายและส่งมอบกันในปัจจุบัน (Gold Spot Price) ความคาดการณ์ราคาทองที่แตกต่างกันนี้ คือ โอกาสในการซื้อขายเพื่อทำกำไรจากโกลด์ฟิวเจอร์ส เช่น ในภาวะทองราคาขึ้น ราคาทองในปัจจุบันอาจอยู่ที่ 15,000 บาท แต่ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สที่ครบกำหนดในอีก 6 เดือนข้างหน้า อาจซื้อขายอยู่ที่ 15,500 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สไว้ ก็คือ ผู้ที่คาดว่าราคาทองคำในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะสูงกว่า 15,500 บาท จึงซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สโดยหวัง ส่วนต่างราคาในกรณีที่ทองคำปรับตัวสูงขึ้น สำหรับผู้ขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ก็คือ ผู้ที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไม่ถึง 15,500 บาท ในอีก 6 เดือนข้างหน้าและรอซื้อกลับเมื่อราคาถูกลง ราคาซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สจะปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนซื้อขายทำกำไรได้ตามความคาดการณ์

 

icon.gif กำไรเหนือกว่า ด้วยต้นทุนต่ำกว่า

 

การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สต่างจากการซื้อขายหุ้น และซื้อขายทองคำ ตรงที่โกลด์ฟิวเจอร์สเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผู้ลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน ทั้งจำนวน ผู้ลงทุนแค่เพียงวางเงินส่วนหนึ่งซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญาทั้งจำนวน ไว้กับโบรกเกอร์อนุพันธ์ก่อนส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อเป็นเงินมัดจำ เรียกว่า เงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) ซึ่งการซื้อขายที่ใช้เงินลงทุนน้อยนี้ ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับเงินทุน เช่น ผู้ลงทุนคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จึงลงทุนซื้อทองคำน้ำหนัก 50 บาท ที่ราคาบาทละ 14,000 บาท เพื่อเก็งกำไร โดยต้องใช้เงินทุนซื้อทองทั้งหมดรวม 700,000 บาท แต่หากผู้ลงทุนซื้อโกลด์ฟิวเจอร์ส จะใช้เงินทุนเพื่อวางเป็นหลักประกันขั้นต้นประมาณ 50,000 บาท (โบรกเกอร์จะเป็นผู้กำหนด) ซึ่งหากราคาทองคำสูงขึ้นจริง ผู้ลงทุนที่ซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สก็มีโอกาสได้รับอัตราผลกำไรสูงกว่าการซื้อทองคำ

 

ในกรณีราคาทองขาลง ผู้ลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากทองคำและมีทองคำอยู่ในมืออยู่แล้ว ก็สามารถเร่งขายทองคำในช่วงที่ราคาทองยังสูง และค่อยซื้อทองคำกลับคืนหลังจากราคาทองปรับตัวลดลง แต่สำหรับ ผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในมือก็จะไม่สามารถใช้วิธีนี้สร้างทำกำไรได้ โกลด์ฟิวเจอร์สช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรโดยใช้ต้นทุนต่ำได้ เนื่องจากผู้ลงทุนสามารถวางเงินแค่หลักประกันขั้นต้น ก็สามารถทำการขายโกลด์ฟิวเจอร์สก่อน เพื่อทำกำไรในตลาดขาลง

 

icon.gif เพิ่มทางเลือก กระจายการลงทุน

 

ราคาซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส มาจากความคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคตของผู้ลงทุน แม้ว่าจะไม่ใช่ราคาเดียวกับราคาทองคำที่ซื้อขายและส่งมอบในปัจจุบัน แต่ก็มีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน โดยผลจากการศึกษาทางสถิติ (ข้อมูลในช่วง ก.พ. 2541 – มิ.ย. 2550) พบว่า ราคาทองคำมีทิศทางการ เคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับหลักทรัพย์ชนิดอื่น ๆ โดยเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือนพบว่าทองคำมีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) ติดลบสูงสุดเท่ากับ -0.24 และเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index ) ทองคำมีค่าสหสัมพันธ์ติดลบเท่ากับ -0.09 โกลด์ฟิวเจอร์ส จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีพอร์ตการลงทุนในหุ้นอยู่ นอกจากนี้ ราคาทองคำยังมักเคลื่อนไหวในทิศทาง เดียวกับดัชนีราคาผู้บริโภคและราคาน้ำมัน การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใน การกระจายการลงทุนที่เรียกว่า การลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง จากภาวะเงินเฟ้อได้ (Inflation Hedge)

 

icon.gif ซื้อขายง่าย สภาพคล่องสูง ราคาโปร่งใส

 

การซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สตามความคาดการณ์ได้ตลอดเวลาทำการของ TFEX เพียงแค่ โทรศัพท์สั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์อนุพันธ์ที่มีสาขารวมกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ หรืออาจใช้วิธีส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่โบรกเกอร์ อนุพันธ์ให้บริการ จากนั้นโบรกเกอร์อนุพันธ์จะเป็นตัวแทนส่งคำสั่งซื้อขายของผู้ลงทุนเข้ามาในระบบการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ของ TFEX เพื่อรอจับคู่คำสั่งกับผู้ลงทุนอีกฝั่งหนึ่ง ดังนั้น การเดินทางจึงไม่ใช่อุปสรรคของการซื้อขายอีกต่อไป ผู้ลงทุนจึงสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว นอกจากนี้ การซื้อขายใน TFEX ยังมีสภาพคล่องสูง ผู้ลงทุนสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของราคาโกลด์ฟิวเจอร์สได้ตลอดเวลาจากหลากหลายช่องทาง ทั้งทางเว็บไซต์ โทรทัศน์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และช่องทางอื่น ๆ ที่บริษัทสมาชิกเปิดให้บริการ ทำผู้ลงทุนให้มีโอกาสในการทำกำไรได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการ

 

icon.gif เชื่อถือได้ ทุกครั้งที่ซื้อขาย

 

บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการภายใต้ พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 เพื่อทำหน้าที่จัดให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน และดูแลการซื้อขายให้ถูกต้อง โปร่งใส และยุติธรรม นอกจากนี้ ทุกๆ การซื้อขายใน TFEX จะมี บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด (TCH) ทำหน้าที่รับประกันการจ่ายชำระเงินระหว่างคู่สัญญา หากคู่สัญญาฝ่ายที่ขาดทุนบิดพลิ้วไม่ยอมจ่ายชำระเงินให้ฝ่ายที่ได้กำไร สำนักหักบัญชีก็จะค้ำประกันการจ่ายชำระเงินนั้นให้ก่อน ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าหากได้กำไรจากการซื้อขายก็จะได้รับเงินส่วนกำไรนั้นอย่างแน่นอน

 

สำหรับการกำกับดูแลนั้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นหน่วยงานสำคัญที่คอยดูแลการดำเนินงานของ TFEX และโบรกเกอร์อนุพันธ์เพื่อให้การซื้อขายโปร่งใสและเชื่อถือได้ ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถซื้อขายในราคาที่เป็นธรรม

 

icon.gif ปรับยอดเงินทุกวัน กลไกสำคัญในการช่วยติดตามสถานะการซื้อขาย

 

ผู้ลงทุนที่มีสถานะซื้อหรือสถานะขายโกลด์ฟิวเจอร์สอยู่ จะได้รับปรับยอดเงินในบัญชีหลักประกันให้ทุกสิ้นวัน แม้ว่าจะยังถือสัญญาไว้ก็ตาม โดยในการ ซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ผู้ลงทุนจะต้องวางเงินหลักประกันขั้นต้น ( Initial Margin) ไว้กับโบรกเกอร์อนุพันธ์ก่อนส่งคำสั่งซื้อขาย และเมื่อซื้อหรือขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ไปแล้ว ทุกสิ้นวันโบรกเกอร์จะปรับยอดเงินในบัญชีของผู้ลงทุน โดยจะคำนวณว่าในวันนั้นๆ ผู้ลงทุนได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไร และจะนำยอดกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น มารวมกับเงินในบัญชีของผู้ลงทุน เช่น หากผู้ลงทุนได้กำไร ก็จะได้รับโอนเงินส่วนกำไรจากคู่สัญญาฝ่ายที่ขาดทุนเข้ามารวมในบัญชีหลักประกัน โดยในทางกลับกัน หากผู้ลงทุนขาดทุน ก็จะถูกโอนเงินส่วนขาดทุนออกจากบัญชีหลักประกันไปให้คู่สัญญาฝ่ายที่ได้กำไรเช่นกัน

 

ในกรณีที่ผู้ลงทุนขาดทุนจนทำให้เงินในบัญชีที่วางไว้ลดลงจนต่ำกว่าระดับหลักประกันที่โบรกเกอร์กำหนด หรือที่เรียกว่า หลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) โบรกเกอร์ก็จะเรียกให้ผู้ลงทุนนำเงินมาวางเพิ่มเติม (Margin Call) ให้ระดับเงินในบัญชีกลับไปอยู่ที่ระดับหลักประกันขั้นต้นอีกครั้งหนึ่ง การคำนวณกำไรขาดทุนทุกสิ้นวันนี้ เรียกว่า Mark to Market ซึ่งเป็น กลไกสำคัญที่ช่วยผู้ลงทุนในการติดตามสถานะการซื้อขายของตน หากเกิดภาวะขาดทุน ก็สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างทันท่วงที

 

icon.gif ตัวอย่างการซื้อขาย

 

หากปัจจุบันคือวันที่ 1 มีนาคม 2552 ราคาทองคำที่ซื้อขายและส่งมอบในปัจจุบันอยู่ที่บาทละ 14,000 บาท นาย A คาดว่าอีก 2 เดือนข้างหน้า ราคาทองจะปรับขึ้นเป็น 14,500 บาท จึงเข้าไปตรวจสอบราคาโกลด์ฟิวเจอร์สและพบว่าราคาโกลด์ฟิวเจอร์สที่ครบกำหนดปลายเดือนเมษายน 2552 พบว่าซื้อขายอยู่ที่ 14,300 บาท

 

ในมุมมองของนาย A คิดว่าราคาโกลด์ฟิวเจอร์สต่ำกว่าที่ควรจะเป็น จึงตัดสินใจซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สครบกำหนดเดือนเมษายน ที่ราคา 14,300 บาท สมมติให้โบรกเกอร์กำหนดระดับหลักประกันขั้นต้นที่ 50,000 บาทต่อสัญญา และหลักประกันรักษาสภาพที่ 35,000 บาทต่อสัญญา (ในทางปฏิบัติระดับเงิน ประกันจะเปลี่ยนแปลงไปตามความผันผวน ของภาวะตลาด)

 

 

ปล. ที่นำมาลง เพราะเด็กขายของอยากอ่าน ไม่เคยได้รับรู้มาก่อน เลยเก็บไว้อ่านให้กระทู้นะครับ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

และแล้วกระทู้นี้ก็กลายเป็นของคุณ เด็กขายของ โดยสมบูรณ์ ^_^ ^_^

 

ดีครับ ข่าวเยอะๆแบบนี้ ผมชอบ

 

ขอบคุณที่เอาข่าวมาฝากเสมอครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

และแล้วกระทู้นี้ก็กลายเป็นของคุณ เด็กขายของ โดยสมบูรณ์ ^_^ ^_^

 

ดีครับ ข่าวเยอะๆแบบนี้ ผมชอบ

 

ขอบคุณที่เอาข่าวมาฝากเสมอครับ

 

สวัสดีครับ คุณ leo-attack ขอบคุณที่เข้ามาทักทายครับ เคยเห็นแวบๆ กับคำถาม ขอ คิดต่างหน่อยนะครับ เด็กขายของ

ลุยเขียนสดๆ เลยดีกว่า

 

ข้อสงสัยเกี่ยวกับ ประเทศจีน ที่บอกว่า พอประเทศจีนจะทำอะไรก็แล้วแต่ จะมีผลกระทบต่อ เศรษฐกิจทั้งโลก สภาพหนี้สินของสหรัฐต่อจีน

จะลดลงไหม แล้วก็ตั้งข้อสังเกตุในเรื่องหลายๆ เรื่อง แล้วสรุปรวบรัดว่า ทองจะขึ้นหรือลง

 

เอาล่ะนะ เริ่มเลย

 

นักวิเคราะห์เรื่องหนี้สินของสหรัฐฯ กล่าวไว้ว่า หากตรวจสอบกันอย่างละเอียดแล้ว หนี้สินของสหรัฐ 75% อยู่ในมือของกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ

ในสหรัฐฯ แต่ถ้าถามว่า ใครถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด ก็ต้องบอกว่า ประเทศจีนถือพันธบัตรสหรัฐอยู่ใกล้ 900 พันล้านดอลล่าห์

แต่ ยอดหนี้ล่าสุดของสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 14.5 ล้านล้านดอลล่าห์แล้ว แปลว่า ประเทศจีนเป็นเจ้าหนี้อยู่แค่ร้อยละ 7.5% เท่านั้น

( ต้องบอกว่าเท่านั้น จริงๆ ) ไม่ใช้เจ้าหนี้ รายใหญ่ ที่ใครๆ ต่อใคร บอกมา

 

จากอดีต 10 ปีที่แล้ว ถึงปัจจุบัน ตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน คือ สหรัฐอเมริกา ประเทศจีน ตัดสินใจก้าวเท้าออกจากระบบคอมมิวนิสต์ มุ่งหน้าสู่ ระบบ ทุนนิยม ซึ่งก็ทำให้รัฐบาลจีนเคลิบเคลิ้มกับคำว่า อิสระเสรี Freedom มากยิ่งขึ้น ไม่สามารถกลับไปสู่ระบอบเดิม

ได้อีกต่อไป เพราะประชาชนเริ่มชินกับการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเมื่อประเทศจีน ยอมเปิดรับ ระบอบทุนนิยม แล้ว ในสภาพของ โลกาภิวัฒน์ จีนก็

ต้องยอมรับ ในคำที่กล่าวไว้ว่า เศรษฐกิจของโลกในธุรกิจค้าขายนำเข้าส่งออก ต้องผูกพันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งคู่ค้าที่ทำมาหากินติดต่อ

กัน ใหญ่ทั้งคู่ คือ สหรัฐฯ กับ จีน ก็จะถือว่า ได้เข้าร่วมเป็นส่วนเดียวกันไปแล้วในวงจรธุรกิจโลกาภิวัฒน์ ระหว่างประเทศ

 

ประเทศจีน ถือว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เป็นสิ่งที่มีเสถียรภาพพอสมควร เป็นวิธีการสำคัญอย่างหนึ่งที่รับรองความมั่นคงและปลอดภัย กว่า

การเอาเงินไปฝากไว้ที่อื่นๆ หรือลงทุนในแหล่งอื่นทั่วโลก เพราะ สหรัฐฯ ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับ ประเทศจีน ถึงแม้ว่า สหรัฐฯ ก็ต้องยืม

เงินคนอื่นมาจ่ายดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้ พันธบัตรของสหรัฐ เป็น เศษกระดาษ

คนอเมริกันส่วนมาก ที่เมื่อไปซื้อสินค้าในห้างฯ ที่สหรัฐ จะเป็นสินค้า Made in China เต็มบ้านเต็มเมือง นั้นก็คือ สหรัฐมีปัญหาขาดดุลการค้า

กับจีน ในทางที่สอง รองจาก พันธบัตรสหรัฐ ประเทศจีนรู้ดีครับว่า สหรัฐฯ จะเป็นลูกหนี้ที่ดี และ สหรัฐฯ ก็รู้ดีครับว่า ประเทศจีนก็เป็นเจ้าหนี้ที่ดี เหมือนกัน รับรองครับ ไม่มีใครกินกันลงหรอก เพราะ ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ เพราะต่างคนต่างก็มีอาวุธทางการเมือง และเศรษฐกิจ ที่จะควักล้วงออกมาเล่นงานอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ได้รับ การกระทบกระเทือบบอบช้ำได้ ถ้าต้องการ แต่ทั้ง 2 ประเทศ ก็ไม่ได้ต่อกรอะไรขนาดนั้น ได้แต่มองหน้ายิ้มแหยะๆ กันไปมา เพราะต่างคนต่างรู้ว่า

" มึงเป็นอะไรไป กูก็อยู่ไม่เป็นสุขเหมือนกัน "

 

ประเทศจีน เข้าไปช่วย ซื้อพันธบัตรของประเทศต่างๆ ในยูโรโซนที่มีปัญหา PIGS คำพูดแบบนั้นดูดีครับ ในสายตาทั่วโลก แต่จีนก็เป็น

เหมือนนักลงทุนทั้งหลาย แต่เป็นขาใหญ่มาก มีการ กระจายความเสี่ยง การลงทุนในสิ่งต่างๆ แต่ตอนนี้ เห็นเป็นโอกาส ประเทศจีน เลือก

จะไปลงทุนในรูปแบบ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศกลุ่ม PIGS นะครับ เพราะ ได้รับดอกเบี้ยสูงมาก และเขาก็ไม่กล้าเบี้ยวหนี้ด้วย

ถ้าเกิดสภาวะการชักดาบขึ้นมา จีน ก็อาจจะหาอย่างอื่นมาขอแลกเปลี่ยนก็ได้ เช่น สัมปทาน พลังงาน หรือ แร่ธาตุ ต่างๆ ที่ประเทศจีนจะเข้า

ไปลงทุนในประเทศนั้นๆ

ประเทศจีน รู้ดีกว่า ความต้องการพื้นฐานของ ชาวโลก คือ ด้านอาหาร และ เทคโนโลยี่ จีนเป็นนักเลียนแบบ และ มีประชากรจำนวนมาก

ก็อยากได้เทคโนโลยี่มาพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม และ ก็ต้องฐานผลิตอาหาร ให้มีความสมดุลกับ จำนวนชาวจีนทั่วโลก

 

ในกลุ่ม ยูโรโซน ประเทศจีน พิจารณามากที่สุด ในการโยกย้ายเงินทุนเข้าไปประเทศอื่นๆ ก็คือ เป็นแหล่งผลิตอาหาร หรือ วัตถุดิบ

เพื่อป้อนกลับมายังประเทศจีน ในอนาคต

 

ในกลุ่ม สหรัฐ ประเทศจีน พิจารณามากที่สุด ด้านเทคโนโลยี่ชั้นสูง กรณีการซื้อเครื่องบินโบอิ้ง จำนวน 200 ลำ ก็ไม่รู้ว่า 200 ลำ จะใช้เวลา

นานขนาดไหนที่จะผลิตได้ครบ หรือกว่าจะครบ ลำสุดท้าย ก็ตกรุ่นไปแล้ว มีนวัติกรรมใหม่ๆ ออกมา ประเทศไทยสั่งเครื่องบิน ยังต้อง

ใช้เวลากว่าจะส่งมอบ ก็ 5 ปี สิงคโปร์สั่ง กว่าจะส่งมอบ 15 ลำ ก็ใช้เวลา 4 ปี แล้ว 200 ลำ กว่าจะส่งหมด เด็กขายของมองว่า ประเทศจีน

สั่งไว้ล่วงหน้า เหมือน Hedge Fund สั่งซื้อ Gold Future ระยะสั้น แบบไม่ต้องการสินค้า ( Non- Commercial ) หรือเปล่า เพราะรู้ว่า

เทคโนโลยี่ของสหรัฐก้าวไปไกลขนาดไหน แต่ออกมา ใช้ในโลกเป็นเพียงไม่ถึง 30 % เป็นเทคโนฯ ชั้นสูงที่ค่อยๆ ปล่อยออกมา

ประเทศจีนรู้ข้อนี้ดี และ กระหาย เทคโนฯ ชั้นสูง เพื่อ มาเลียนแบบ ให้กับ สินค้าของตัวเอง เป็นแผนการอย่างหนึ่งที่จะล้วง

ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จาก สหรัฐ ครับ

 

เรื่องการเยินยอสหรัฐ ว่า อนาคตประเทศสหรัฐ จะยั่งยืนยง ควบคู่ไปกับ ดอลล่าห์ ยังเป็นสกุลหลักต่อไป ประเทศจีนทำด้วยความจริงใจครับ

เพราะรู้ดีว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอยู่ในตำแหน่งได้ครั้งละ 4 ปี ไม่เกิน 2 ครั้ง รวม 8 ปี และมีพรรคฯ อยู่ 2 พรรค ที่สามารถเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ได้ ก็จำเป็นต้องแทงกั๊กไว้ก่อน เพียงเพื่อผลประโยชน์ในอนาคตล่ะครับ และ ในความคิดของประเทศจีน ชอบที่จะอยู่เบื้องหลังมากกว่าอยู่เบื้องหน้า เพราะฉะนั้น เบื้องหน้า ก็ให้ สหรัฐ รับไป ส่วน จีน ขออยู่เบื้องหลัง ในสิ่งต่างๆ แต่เบื้องหน้าจะทำอะไร ก็ต้องถามเบื้องหลังก่อน ส่วนทิศทางการเงิน ที่เบื้องหน้าจะต้องเดินไปทางไหน ก็อยู่ที่คนเบื้องหลัง เป็นคนสั่งการ ครับ ก็เหมือน สส ที่มี คนอื่นคอยชี้นำการยกมือ ล่ะครับ

 

เช่น OK กูให้ดอลลาห์เป็นสกุลหลักในการพูดถึง แต่ถ้าพูดถึง การมีมูลค่าซื้อขาย ก็ต้องเป็น หยวน ทุกอย่างไม่แน่นอนหรอกครับ แต่คู่กัด

คู่นี้ เป็นของคู่กัน ฝ่ายได้ล้ม ฝ่ายหนึ่งก็ล้มตาม ดังนั้น ไม่มีใครหรือใคร อยากให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอะไรไปหรอกครับ ต้องประคับประคอง

กันเดินต่อไป

 

การเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายงบประมาณ เพิ่มสวัสดิการให้แก่คนสหรัฐ ก็เป็นนโยบายหาเสียง หลังจาก คะแนนเสียงลดลง กับ นโยบาย CHANGE

แต่ไม่ MOVE สมกับที่พูด ดังนั้น สหรัฐ ซึ่งป็น รัฐ สวัสดิการ คนสูงอายุส่วนมากในสหรัฐจะถูกทอดทิ้งจากลูกหลานให้อยู่ลำพัง เป็นหน้าที่ของรัฐในการดูแล เป็นสิ่งที่กำหนดโดยธรรมนูญการปกครอง อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การเพิ่มรายจ่ายส่วนนี้ จะกระตุ้นคะแนนเสียงให้ดีขึ้น

ในระยะเวลาอันสั้น

 

ลดการใช้จ่ายในภาครัฐมากยิ่งขึ้น ก็เป็นการไปลดในส่วนของความฟุ่มเฟือยในด้านการบริหารมากกว่า แค่ลดความสะดวกสะบายลง แต่ก็

ทำให้เกิดเสียงตอบรับจากประชาชน เพราะ ผู้แทนยอมลำบากเพื่อช่วยประชาชน ซึ้งใจมาก ครับ แต่พวกเขาก็ มีงบลับมากมาย

ที่เงินส่วนมาก มาจากพวกกองทุน Hedge Fund ที่เข้ามาทำลายเสถียรภาพ ทางการเงินในกลุ่มประเทศพัฒนา และ หรือ มาหากำไร

ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน หรือ ลงทุนในตลาดหุ้น

 

ประเทศจีน กำลัง สร้างสกุลเงินตัวเอง หยวน ให้เป็น หนึ่งในตระกูลเงินโลก และสร้างความสำคัญในตัวมันเอง หลังจาก

ปิดมูลค่าค่าเงินหยวนคงที่มานาน (ประกาศอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เหมือน มาเลเซียตอนเจอวิกฤติ ทำให้สามารถรอดพ้นวิกฤติการเงินได้ )

ทำให้สินค้าประเทศจีน มีต้นทุนที่ถูกที่สุดในโลก และถูกที่สุดในโลก แต่ความคงทนไม่มี ก็เลยอยากได้จากสหรัฐ ดังนั้น จีน

ก็จะต้องขนเงินหยวน ไปลงทุนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างศักยาพความน่าเชื่อถือทางการเงิน และ สร้างบารมีให้เกิด แก่ประเทศจีน

ขนาด IMF ยังออกปากเชิญเงินหยวนให้เป็นเงินสกุลหลักในตะกร้าเงินเร็วๆ นี้ แต่จีนไม่ตอบคำถามนี้ เพราะมุ่งที่จะขยายอิทธิพล

ความเกรงใจในฐานะเจ้าหนี้ ไปในประเทศต่างๆ ก่อน เพื่อให้ประเทศนั้นๆ สำนึกในพระคุณที่ช่วยชาติ ก็เหมือนกับเจ้าของกิจการ

ที่ทำธุรกิจโรงงานผลิตอาหาร วันดีคืนนี้ แทนที่จะผลักดันคนในองค์กรขึ้นมาตามสายงาน แต่ไปเอา ลูก เอา หลาน มารับตำแหน่ง

ใช่ครับ เป็นสิ่งถูกต้อง ตามหลักการ แต่เด็กคนนั้นไม่เคยเข้ามาดูกิจการของพ่อเลย ทำอะไรก็ไม่เป็น จีบดาราไปวันๆ สักวัน บริษัทฯ

ก็ต้องล้มละลาย นั้นแหละ จีน ถึงไม่อยากเป็นแบบนั้น เพราะ จีนถูกปลูกฝัง ให้มีการเรียนรู้ เตรียมตัวให้ดี ก่อนที่จะลุยสนามรบ ครับ

การลงทุนในต่างประเทศ เพิ่มอย่างมากในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา โดยเน้นบริษัทฯ ที่ เป็นแหล่งผลิตอาหาร เป็นหลัก เพราะเห็นความสำคัญ

ในด้านอาหาร เช่น

 

เอเอฟพี - คอฟโค(COFCO) บริษัทผู้ผลิตอาหารจีนรายใหญ่ ซื้อไร่องุ่นชั้นนำ ของ Chateau de Viaud ไวน์ฝรั่งเศสชื่อดัง ซึ่งอยู่ที่เมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส

บรรดาบริษัทก่อสร้างของจีนก็พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการลงทุนในซิมบับเวด้วย รวมทั้งการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติและที่ทำการรัฐอีกหลายแห่ง

สำนักสถิติแห่งชาติเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา จีนส่งออกสินค้าไปยังซิมบับเวมูลค่า 159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

สื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์(6 ก.พ.) โดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการยื่นประมูลสัญญฯดังกล่าว เผยว่ายักษ์ใหญ่วิสาหกิจรัฐของจีน คือ AVIC (Aviation Industry Corporation of China ) กำลังเจรจาจับมือกับบริษัทสหรัฐฯที่กำลังดิ้นหาทุนคือ US Aerospace เพื่อเตรียมการประมูลสัญญาของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งสัญญาดังกล่าวจะรวมสัญญาสร้างเฮลิคอปเตอร์สำหรับประธานาธิบดีลำใหม่ ที่จะมาแทนที่ลำเก่า ของหน่วย Marine One แห่งสหรัฐฯ และ เป็นการ Joint Venture กิจการร่วมค้า กับบริษัทฯ ในสหรัฐ

ประเทศจีน ต้องการทราบความลับเทคโนโลยี่ ด้านความปลอดภัย เป็นอย่างมาก เคยอยากรู้ว่า AIR FORCE ONE มีระบบ Software Hardware

แบบไหน ซึ่งสหรัฐไม่ยอมเปิดเผย ขนาดเครื่องบ้นรบล่องหน จีนต้องไปแอบเอาเครื่องบินที่ตกในรัสเซีย มาถอดดูแล้วประกอบเลียนแบบ

เลยครับ จุดประสงค์หลักที่แท้จริง คือ เทคโนโลยี่

นั้นแหละ เพราะจีน มองไปไกล ว่า อนาคต จะเป็นอย่างไร ก็ต้องหาวิธีที่จะได้มาให้ครบ ทุกด้าน ยูโรโซน มีอะไร สหรัฐ มีอะไร

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอะไร เขาวางเกมไว้หมดล่ะครับ และการสร้าง จดหมายลูกโซ่ หรือ อีเมล์ลูกโซ่ ก็เพื่อหวังให้ประเทศจีน

หรือสหรัฐแตกคอกัน โดยอาศัย ความยากจนที่จะเกิดขึ้น จากการรับฟังข้อมูลการลงทุนโดยไม่ระวัง และจะสร้างความไม่พอใจ คิดว่า

เป็นการกระทำของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แล้วเมื่อถึงเวลาที่เขาทำสำเร็จ หรือ เมื่อรู้ว่าทำไม่สำเร็จก็ตามที พวกเขาเหล่านั้น ก็จะเปิดเผยตัวตน

ที่แท้จริงออกมา พร้อมกับลัทธิใหม่ ที่กลุ่มทุนของพวกเขา ต้องมีเอี่ยว เพราะเป็นผู้ร่วมกันสร้างกระแสปลุกเร้า โดยถือว่า เป็นรางวัล

แห่งความสำเร็จ ไม่ถึงขั้นเป็นรัฐมนตรี แต่อาจจะได้ เป็น จ้าวครองแคว้นใดแคว้นหนึ่ง ก็ย่อมได้ครับ เพราะฉะนั้น อย่าตกเป็นเหยื่อของ

ความโลภครับ ความพอเพียงมีคุณค่ามากกว่าครับ

 

คืนนี้ คุณหลับตาลงนอน คุณ แน่ใจหรือเปล่าว่า พรุ่งนี้เช้า จะได้ตื่นขึ้นมาดูหน้าตา ลูกเมีย เฮ้อ เฮ้อ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคับ..

 

คอลัมส์นิส ตัวจริงงงง

 

โดนสุดๆๆ เขียนทุกวันนะครับ !031

ถูกแก้ไข โดย jaiy

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...