คุยกานขำๆเรื่องทอง

[baskie30 6,060]

ขอบคุณค่ะ ที่ติดเอสอยู่จะได้ใจชื้นขึ้นมาหน่อย กลัวกลับตัวเป็นขาขึ้นจุงเบยเลยกังวลนิดๆค่ะ

 

ติดเอสตรงไหนครับผมมองว่าลงไม่ลึกนะครับไม่น่าเกิดโลวใหม่ต่ำกว่า1251

[tuktaaaa 81]

 

ติดเอสตรงไหนครับผมมองว่าลงไม่ลึกนะครับไม่น่าเกิดโลวใหม่ต่ำกว่า1251

1258 ค่ะ

[auntnextdoor 4,268]

ถึงคุณสลาตัน 88 18975 ถ้าขายแล้วซื้อกลับโดยไว รับที่น่าจะยันอยุ๋ซักพัก 82 18950 78 แล้วรอขายใหม่ โชคดีค่ะ

gs แอล79 ปิด87 มีเอสติดอยู่ จ้ากส์ๆ แอลก็มี ตั้งcut93 มะถึง แงๆ ติดลบทั้ง2ข้างเลย ไปแว้ว ฟ้าสว่างขึ้นหน่อย เจอกันดึกๆจ้า

[auntnextdoor 4,268]

ขาย 975 88 ซื้อ905 78 แล้วค่ะ

[baskie30 6,060]

บทเรียนที่1 เรียนรู้พื้นฐาน Elliott Wave คลื่นแห่งโอกาส

 

 

 

 

 

 

 

ขาขึ้น 5 คลื่น 1 2 3 4 5 คือ Motive Phase

 

 

Wave 1 คือคลื่นที่เริ่มต้นมาจากการ breakout downtrend หรือ sideway เป็นการเริ่มต้นของคลื่นรอบใหม่ โดยปกติทาง Chartychology Trader จะไม่เข้าที่ wave นี้เพราะการที่ทำ breakout downtrend หรือ sideway ขึ้นมาได้เกิดจาก 3 ส่วนคือ

 

1.Accumulated Trader คือนักลงทุนระยะยาว(VI)

2.Position Trader หรือ Momentum Trader คือ นักลงทุนเก็งกำไรที่ทำให้มีแรง...ดันราคาขึ้นไปได้

3.Novice Trader คือ นักลงทุนมือใหม่หรือที่เขาเรียกว่าแมงเมา เอ้ย!!!! แมงเม่าครับ Novice Trader นี้จะซื้อขายตามอารมณ์ ตามข่าว ตามกระแส ฯลฯ

 

เพราะเมื่อไรที่ Novice Trader เข้าซื้อจนถึงจุดอิ่มตัวของช่วงนึงแล้ว Momentum Trader จะขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาย่อตัวและทำให้ Novice Trader บางส่วนขายตาม

 

Wave 2 คือคลื่นที่ย่อลงมาจากคลื่นลูกแรกเพราะเกิดจากขายทำกำไรจากที่กล่าวมาข้างต้นและต่อจากนี้ไปจะเป็นเวลาของ Chartychology หรือ Swing Trader เข้าซื้อที่คลื่นนี้หรือที่เรียกคลื่นนี้ว่า First Pullback แต่การเข้าซื้อจะต้องดู Price Pattern ก่อนและต้องประกอบด้วย Support Area(สำหร้บ Long Position)

 

 

 

Wave 3 คือคลื่นที่ยาวที่สุดและแข็งแรงที่สุดในบรรดา 5 คลื่น คลื่นนี้จะเป็นที่น่าสนใจสำหรับทุก Traders และทาง Chartychology จะเกาะหรือขี่ไปกับคลื่นนี้ไปจนจบคลื่นเพราะจะเป็นช่วงที่จะทำกำไรได้ค่อนข้างมาก

 

Wave 4 คือคลื่นที่จะใกล้จบรอบของ Elliott Wave เป็นคลื่นที่ย่อลงมาจากคลื่นลูกที่ 3 เหตุผลโดยส่วนมาก(ในกรณีไม่มี bias จากภายนอกเช่น ข่าวร้าย นักลงทุน panic ฯลฯ)จากการที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อในช่วงปลายคลื่นลูกที่ 3 เลยขายทำกำไรออกมาก่อนเพราะรู้ว่าราคาใกล้จะจบรอบแล้ว

 

Wave 5 คือคลื่นลูกสุดท้ายคือการวิ่งขึ้นก่อนที่จะลงไปเป็นคลื่น A ถามว่าสามารถเข้าเก็งกำไรในคลื่นลูกได้ไหม ตอบว่าได้แต่จะต้องระวังตัวมากกว่าทุกๆคลื่น

 

3 คลื่น A B C คือ Corrective Phase

 

Wave A คือคลื่นที่ย่อจากคลื่นลูกที่ 5 ซึ่งจะจุดเริ่มต้นที่จะก่อเกิด downtrend

 

Wave B คือคลื่นที่เกิดการ rebound แต่จะไม่ทำ new high ที่คลื่นลูกที่ 5 ถ้าเกิดแบบนี้ให้เห็น ต้องระวังให้มากๆนะ เขากำลังเตือนท่านอยู่และเขาก็รักท่านนะไม่อยากให้ล้มเหลวหรือขาดทุน

 

Wave C คือคลื่นที่ยืนยันการเป็นขาลงหรือจบรอบ Elliott Wave อย่างสมบูรณ์ในช่วงนั้นๆ พอถึงคลื่นนี้ให้เฝ้าดูและรออย่างอดทนเพื่อหาโอกาสในครั้งต่อไปคร้าบ

 

 

เครดิตบทที่1 <a href="http://www.stockmoneygear.com/2013/03/elliott-wave.html"'>http://www.stockmoneygear.com/2013/03/elliott-wave.html" style="font-size: 14px;">http://www.stockmoneygear.com/2013/03/elliott-wave.html

 

บทเรียนที่ 2 คลื่นย่อยในคลื่นใหญ่

 

จากบทเรียนที่ 1 เราได้เรียนรู้แล้วว่าคลื่นอะไรนิสัยยังไงบ้าง แต่ในคลื่น 12345 & ABC ยังมีคลื่นย่อยในคลื่นเหล่านี้อีกแต่ละคลื่นย่อยก็ยังมีย่อยกว่าอีก เราจะรู้ได้ยังไงว่าคลื่นย่อยเหล่านี้เป็นคลื่นใหญ่ตัวไหน ซึ่งเราสามารถเเบ่งกลุ่มคลื่นได้ 3 กลุ่มตามลักษณะคลื่นย่อยที่เหมือนกันได้ดังนี้

1 กลุ่มที่ประกอบด้วยคลื่นย่อย 5 คลื่น ซึ่งประกอบด้วยคลืน่ย่อย 1 2 3 4 5 ได้เเก่ คลื่น 1 3 & 5

2 กลุ่มที่ประกอบด้วยคลืนย่อย 3 คลื่น ซึ่งประกอบด้วยคลื่นย่อย A B C ได้แก่ คลื่น 2 4 & B

3 กลุ่มที่ไม่เลือกว่าจะเอาคลื่นย่อยแบบ 3 คลื่นหรือ 5 คลื่น ได้แก่ คลื่น A & C

มาดูรูปแบบคลื่นย่อยในคลื่นใหญ่กันบ้าง กรณีเป็นคลื่นขาขึ้นหรือขาลง 5 คลื่นจะมีรูปแบบคลื่นย่อย แบบเดียว คือแบบคลื่นย่อย 5,3,5,3,5 ตามรูป ในกรอบสีเดียวกันจะมีคลื่นย่อยตามรูป

แต่ถ้าเป็นรูปแบบคลื่นขาขึ้นหรือขาลง3คลื่นหละ จะมีรูปแบบคลื่นย่อย ทั้งหมด 4 แบบ ตามรูปดูในกรอบสีเดียวกันคลื่นใหญ่ ABC ทางขวามือ คลื่นย่อยในกรอบสีเดียวกันจะมี4รูปแบบให้เทียบ

 

ถ้าขาขึ้นหรือขาลง5คลื่นเราก็เล่นง่ายหน่อยแต่ถ้าขาขึ้นหรือขาลง3คลื่นคงจะมึนเป็นแถวๆ

 

บทเรียนที่ 3 chart pattern head and shouder(H&S) และ reverse head and shouder(rH&S) กับคลื่น Elliott Wave

chart pattern มีหลายแบบแต่ที่เราจะพบเห็นบ่อยสุดและเห็นง่ายสุดคือ head and shouder(H&S) และ reverse head and shouder(rH&S) หากเราดูออกจะสร้างโอกาสทำกำไรได้หลายครั้ง

เชื่อหรือไม่ว่า พฤติกรรมคลื่นElliott Wave มีความสัมพันธ์กับ head and shouder(H&S) และ reverse head and shouder(rH&S) ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยน่เทรนขาขึ้นเป็นขาลงและขาลงเป็นขาขึ้น

 

รูปแรกเลยเราจะเห็นว่าในคลื่นใหญ่มีคลื่นเล็ก ในคลื่นเล็กสีเขียวเป็นตัวเทรนของขาขึ้น ในคลื่นเล็กสีแดงเป็นตัวเทรนของขาลง มองเห็นรึป่าวว่ามีอะไรซ่อนอยู่ไม่เห็นมาดูรูปต่อไปรูปนี้นำเสนอreverse head and shouder(rH&S) patternดูที่มุมซ้ายบนก่อนจะเห็นว่าทำรูปแบบคลื่นตามรูปมีไหล่ซ้ายหัวและไหล่ขวา(L&H&R)ตามลำดับด้วยเส้นยึกยักสีม่วงเป็นรูปคนคว่ำหัวมีเส้นแนวนอนสีฟ้าเรียกว่าเส้นnecklineเป็นแนวต้านสำคัญซึ่งจากรูปถ้าทะลุแนวเนคไลน์ได้จะสามารถขึ้นเท่ากับความยาวที่วัดจากยอดตรงหัวจนถึงเส้นnecklineนี้ดูได้จากเส้นสีฟ้าแนวตั้ง

ซึ่งเราจะเจอได้ในทุกคลื่นไม่ว่าจะเป็นคลื่นย่อยหรือคลื่นใหญ่โดยจะเกิดในรูปแบบการกลับตัวเป็นขาขึ้นหรือคลื่นรีบาวขึ้นซึ่งในรูปจะเห็นในคลื่นย่อย2จุดคือจุดกลับตัวจากคลื่นย่อยขาลงw2เป็นคลื่นย่อยขาขึ้นw3และคลื่นย่อยขาลงw4กลับตัวเป็นคลื่นย่อยขาขึ้นw5โดยในรูปจะเห็นว่าคลื่นย่อยAของw2หรือw4เป็นไหล่ซ้ายคลื่นย่อยCของw2หรือw4เป็นหัวคลื่นย่อย2ของw3หรือw5เป็นไหล่ขวาโดยมีเส้นสีฟ้าที่ลากจากยอดคลื่นย่อยBของw2หรือw4และคลื่น1ของw3หรือw5เป็นแนวต้านเนคไลน์สีฟ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าเมื่อทะลุแนวเส้นnecklikeสีฟ้านี้ราคาจะขึ้นถึงเป้าหมายเสมอในขาขึ้นหากเทรนใหญ่เป็นขาขึ้น

แต่ถ้าเทรนใหญ่เป็นขาลงแต่เกิดในคลื่นรีบาวราคาจะไม่ค่อยถึงเป้าหมายนะครับ

รูปนี้เป็นรูปแบบ head and shouder(H&S) patternดูที่มุมซ้ายบนก่อนจะเห็นว่าทำรูปแบบคลื่นตามรูปมีไหล่ซ้ายหัวและไหล่ขวา(L&H&R)ตามลำดับด้วยเส้นยึกยักสีชมพูเป็นรูปคนปกติมีเส้นแนวนอนสีเหลืองเรียกว่าเส้นnecklineเป็นแนวรับสำคัญซึ่งจากรูปถ้าทะลุแนวเนคไลน์ได้จะสามารถลงเท่ากับความยาวที่วัดจากยอดตรงหัวจนถึงเส้นnecklineนี้ดูได้จากเส้นสีเหลืองแนวตั้ง

ซึ่งเราจะเจอได้ในทุกคลื่นไม่ว่าจะเป็นคลื่นย่อยหรือคลื่นใหญ่โดยจะเกิดในรูปแบบการกลับตัวเป็นขาลงซึ่งในรูปจะเห็นในคลื่นย่อย2จุดคือจุดกลับตัวจากคลื่นย่อยขาขึ้นw1เป็นคลื่นย่อยขาลงw2และคลื่นย่อยขาขึ้นw3กลับตัวเป็นคลื่นย่อยขาลงw4โดยในรูปจะเห็นว่าคลื่นย่อย3ของw1หรือw3เป็นไหล่ซ้ายคลื่นย่อย5ของw1หรือw3เป็นหัวคลื่นย่อยbของw2หรือw4เป็นไหล่ขวาโดยมีเส้นสีเหลืองที่ลากจากยอดคลื่นย่อย4ของw1หรือw3และคลื่นaของw2หรือw4เป็นแนวต้านเนคไลน์สีเหลืองสังเกตดีๆจะเห็นว่าเมื่อทะลุแนวเส้นnecklikeสีเหลืองนี้ราคาอาจไม่ได้ลงถึงเป้าหมายเสมอเพราะว่าเทรนใหญ๋เป็นขาขึ้นหากเทรนใหญ่เป็นขาลงราคาจึงจะมีลุ้นถึงเป้าหมายครับ

หมายเหตุในกรณีที่คลื่นสุดท้ายเป็นคลื่นw5ดังรูปเท่ากับเทรนใหญ่จบขาขึ้นแล้วกลับตัวเป็นขาลงรูปแบบคลื่นย่อยขาลงจะซับซ้อนอาจต้องพิจารณาดูว่าคลื่นใหญ๋ขาลงทำรูปแบบใดใน4แบบเราอาจใช้คลื่นw4ของคลื่นขาขึ้นใหญ่เป็นจุดพิจารณาแรกการเกิดแพทเทิ้ลกลับตัวแบบhead and shouder(H&S) pattern ก็ได้

[tuktaaaa 81]

คุณบาสค่ะเป้ายังเหมือนเดิมไหมค่ะที่ตั้ง sell limit buy limit เมื่อเช้า ขอบคุ ณค่ะ

[TheRichman 34]

บทเรียนที่1 เรียนรู้พื้นฐาน Elliott Wave คลื่นแห่งโอกาส

 

 

 

 

 

 

 

ขาขึ้น 5 คลื่น 1 2 3 4 5 คือ Motive Phase

 

 

Wave 1 คือคลื่นที่เริ่มต้นมาจากการ breakout downtrend หรือ sideway เป็นการเริ่มต้นของคลื่นรอบใหม่ โดยปกติทาง Chartychology Trader จะไม่เข้าที่ wave นี้เพราะการที่ทำ breakout downtrend หรือ sideway ขึ้นมาได้เกิดจาก 3 ส่วนคือ

 

1.Accumulated Trader คือนักลงทุนระยะยาว(VI)

2.Position Trader หรือ Momentum Trader คือ นักลงทุนเก็งกำไรที่ทำให้มีแรง...ดันราคาขึ้นไปได้

3.Novice Trader คือ นักลงทุนมือใหม่หรือที่เขาเรียกว่าแมงเมา เอ้ย!!!! แมงเม่าครับ Novice Trader นี้จะซื้อขายตามอารมณ์ ตามข่าว ตามกระแส ฯลฯ

 

เพราะเมื่อไรที่ Novice Trader เข้าซื้อจนถึงจุดอิ่มตัวของช่วงนึงแล้ว Momentum Trader จะขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาย่อตัวและทำให้ Novice Trader บางส่วนขายตาม

 

Wave 2 คือคลื่นที่ย่อลงมาจากคลื่นลูกแรกเพราะเกิดจากขายทำกำไรจากที่กล่าวมาข้างต้นและต่อจากนี้ไปจะเป็นเวลาของ Chartychology หรือ Swing Trader เข้าซื้อที่คลื่นนี้หรือที่เรียกคลื่นนี้ว่า First Pullback แต่การเข้าซื้อจะต้องดู Price Pattern ก่อนและต้องประกอบด้วย Support Area(สำหร้บ Long Position)

 

 

 

Wave 3 คือคลื่นที่ยาวที่สุดและแข็งแรงที่สุดในบรรดา 5 คลื่น คลื่นนี้จะเป็นที่น่าสนใจสำหรับทุก Traders และทาง Chartychology จะเกาะหรือขี่ไปกับคลื่นนี้ไปจนจบคลื่นเพราะจะเป็นช่วงที่จะทำกำไรได้ค่อนข้างมาก

 

Wave 4 คือคลื่นที่จะใกล้จบรอบของ Elliott Wave เป็นคลื่นที่ย่อลงมาจากคลื่นลูกที่ 3 เหตุผลโดยส่วนมาก(ในกรณีไม่มี bias จากภายนอกเช่น ข่าวร้าย นักลงทุน panic ฯลฯ)จากการที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อในช่วงปลายคลื่นลูกที่ 3 เลยขายทำกำไรออกมาก่อนเพราะรู้ว่าราคาใกล้จะจบรอบแล้ว

 

Wave 5 คือคลื่นลูกสุดท้ายคือการวิ่งขึ้นก่อนที่จะลงไปเป็นคลื่น A ถามว่าสามารถเข้าเก็งกำไรในคลื่นลูกได้ไหม ตอบว่าได้แต่จะต้องระวังตัวมากกว่าทุกๆคลื่น

 

3 คลื่น A B C คือ Corrective Phase

 

Wave A คือคลื่นที่ย่อจากคลื่นลูกที่ 5 ซึ่งจะจุดเริ่มต้นที่จะก่อเกิด downtrend

 

Wave B คือคลื่นที่เกิดการ rebound แต่จะไม่ทำ new high ที่คลื่นลูกที่ 5 ถ้าเกิดแบบนี้ให้เห็น ต้องระวังให้มากๆนะ เขากำลังเตือนท่านอยู่และเขาก็รักท่านนะไม่อยากให้ล้มเหลวหรือขาดทุน

 

Wave C คือคลื่นที่ยืนยันการเป็นขาลงหรือจบรอบ Elliott Wave อย่างสมบูรณ์ในช่วงนั้นๆ พอถึงคลื่นนี้ให้เฝ้าดูและรออย่างอดทนเพื่อหาโอกาสในครั้งต่อไปคร้าบ

 

 

เครดิตบทที่1 <a href="http://www.stockmoneygear.com/2013/03/elliott-wave.html"'>http://www.stockmoneygear.com/2013/03/elliott-wave.html" style="font-size: 14px;">http://www.stockmoneygear.com/2013/03/elliott-wave.html

 

บทเรียนที่ 2 คลื่นย่อยในคลื่นใหญ่

 

จากบทเรียนที่ 1 เราได้เรียนรู้แล้วว่าคลื่นอะไรนิสัยยังไงบ้าง แต่ในคลื่น 12345 & ABC ยังมีคลื่นย่อยในคลื่นเหล่านี้อีกแต่ละคลื่นย่อยก็ยังมีย่อยกว่าอีก เราจะรู้ได้ยังไงว่าคลื่นย่อยเหล่านี้เป็นคลื่นใหญ่ตัวไหน ซึ่งเราสามารถเเบ่งกลุ่มคลื่นได้ 3 กลุ่มตามลักษณะคลื่นย่อยที่เหมือนกันได้ดังนี้

1 กลุ่มที่ประกอบด้วยคลื่นย่อย 5 คลื่น ซึ่งประกอบด้วยคลืน่ย่อย 1 2 3 4 5 ได้เเก่ คลื่น 1 3 & 5

2 กลุ่มที่ประกอบด้วยคลืนย่อย 3 คลื่น ซึ่งประกอบด้วยคลื่นย่อย A B C ได้แก่ คลื่น 2 4 & B

3 กลุ่มที่ไม่เลือกว่าจะเอาคลื่นย่อยแบบ 3 คลื่นหรือ 5 คลื่น ได้แก่ คลื่น A & C

มาดูรูปแบบคลื่นย่อยในคลื่นใหญ่กันบ้าง กรณีเป็นคลื่นขาขึ้นหรือขาลง 5 คลื่นจะมีรูปแบบคลื่นย่อย แบบเดียว คือแบบคลื่นย่อย 5,3,5,3,5 ตามรูป ในกรอบสีเดียวกันจะมีคลื่นย่อยตามรูป

แต่ถ้าเป็นรูปแบบคลื่นขาขึ้นหรือขาลง3คลื่นหละ จะมีรูปแบบคลื่นย่อย ทั้งหมด 4 แบบ ตามรูปดูในกรอบสีเดียวกันคลื่นใหญ่ ABC ทางขวามือ คลื่นย่อยในกรอบสีเดียวกันจะมี4รูปแบบให้เทียบ

 

ถ้าขาขึ้นหรือขาลง5คลื่นเราก็เล่นง่ายหน่อยแต่ถ้าขาขึ้นหรือขาลง3คลื่นคงจะมึนเป็นแถวๆ

 

บทเรียนที่ 3 chart pattern head and shouder(H&S) และ reverse head and shouder(rH&S) กับคลื่น Elliott Wave

chart pattern มีหลายแบบแต่ที่เราจะพบเห็นบ่อยสุดและเห็นง่ายสุดคือ head and shouder(H&S) และ reverse head and shouder(rH&S) หากเราดูออกจะสร้างโอกาสทำกำไรได้หลายครั้ง

เชื่อหรือไม่ว่า พฤติกรรมคลื่นElliott Wave มีความสัมพันธ์กับ head and shouder(H&S) และ reverse head and shouder(rH&S) ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยน่เทรนขาขึ้นเป็นขาลงและขาลงเป็นขาขึ้น

 

รูปแรกเลยเราจะเห็นว่าในคลื่นใหญ่มีคลื่นเล็ก ในคลื่นเล็กสีเขียวเป็นตัวเทรนของขาขึ้น ในคลื่นเล็กสีแดงเป็นตัวเทรนของขาลง มองเห็นรึป่าวว่ามีอะไรซ่อนอยู่ไม่เห็นมาดูรูปต่อไปรูปนี้นำเสนอreverse head and shouder(rH&S) patternดูที่มุมซ้ายบนก่อนจะเห็นว่าทำรูปแบบคลื่นตามรูปมีไหล่ซ้ายหัวและไหล่ขวา(L&H&R)ตามลำดับด้วยเส้นยึกยักสีม่วงเป็นรูปคนคว่ำหัวมีเส้นแนวนอนสีฟ้าเรียกว่าเส้นnecklineเป็นแนวต้านสำคัญซึ่งจากรูปถ้าทะลุแนวเนคไลน์ได้จะสามารถขึ้นเท่ากับความยาวที่วัดจากยอดตรงหัวจนถึงเส้นnecklineนี้ดูได้จากเส้นสีฟ้าแนวตั้ง

ซึ่งเราจะเจอได้ในทุกคลื่นไม่ว่าจะเป็นคลื่นย่อยหรือคลื่นใหญ่โดยจะเกิดในรูปแบบการกลับตัวเป็นขาขึ้นหรือคลื่นรีบาวขึ้นซึ่งในรูปจะเห็นในคลื่นย่อย2จุดคือจุดกลับตัวจากคลื่นย่อยขาลงw2เป็นคลื่นย่อยขาขึ้นw3และคลื่นย่อยขาลงw4กลับตัวเป็นคลื่นย่อยขาขึ้นw5โดยในรูปจะเห็นว่าคลื่นย่อยAของw2หรือw4เป็นไหล่ซ้ายคลื่นย่อยCของw2หรือw4เป็นหัวคลื่นย่อย2ของw3หรือw5เป็นไหล่ขวาโดยมีเส้นสีฟ้าที่ลากจากยอดคลื่นย่อยBของw2หรือw4และคลื่น1ของw3หรือw5เป็นแนวต้านเนคไลน์สีฟ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าเมื่อทะลุแนวเส้นnecklikeสีฟ้านี้ราคาจะขึ้นถึงเป้าหมายเสมอในขาขึ้นหากเทรนใหญ่เป็นขาขึ้น

แต่ถ้าเทรนใหญ่เป็นขาลงแต่เกิดในคลื่นรีบาวราคาจะไม่ค่อยถึงเป้าหมายนะครับ

รูปนี้เป็นรูปแบบ head and shouder(H&S) patternดูที่มุมซ้ายบนก่อนจะเห็นว่าทำรูปแบบคลื่นตามรูปมีไหล่ซ้ายหัวและไหล่ขวา(L&H&R)ตามลำดับด้วยเส้นยึกยักสีชมพูเป็นรูปคนปกติมีเส้นแนวนอนสีเหลืองเรียกว่าเส้นnecklineเป็นแนวรับสำคัญซึ่งจากรูปถ้าทะลุแนวเนคไลน์ได้จะสามารถลงเท่ากับความยาวที่วัดจากยอดตรงหัวจนถึงเส้นnecklineนี้ดูได้จากเส้นสีเหลืองแนวตั้ง

ซึ่งเราจะเจอได้ในทุกคลื่นไม่ว่าจะเป็นคลื่นย่อยหรือคลื่นใหญ่โดยจะเกิดในรูปแบบการกลับตัวเป็นขาลงซึ่งในรูปจะเห็นในคลื่นย่อย2จุดคือจุดกลับตัวจากคลื่นย่อยขาขึ้นw1เป็นคลื่นย่อยขาลงw2และคลื่นย่อยขาขึ้นw3กลับตัวเป็นคลื่นย่อยขาลงw4โดยในรูปจะเห็นว่าคลื่นย่อย3ของw1หรือw3เป็นไหล่ซ้ายคลื่นย่อย5ของw1หรือw3เป็นหัวคลื่นย่อยbของw2หรือw4เป็นไหล่ขวาโดยมีเส้นสีเหลืองที่ลากจากยอดคลื่นย่อย4ของw1หรือw3และคลื่นaของw2หรือw4เป็นแนวต้านเนคไลน์สีเหลืองสังเกตดีๆจะเห็นว่าเมื่อทะลุแนวเส้นnecklikeสีเหลืองนี้ราคาอาจไม่ได้ลงถึงเป้าหมายเสมอเพราะว่าเทรนใหญ๋เป็นขาขึ้นหากเทรนใหญ่เป็นขาลงราคาจึงจะมีลุ้นถึงเป้าหมายครับ

หมายเหตุในกรณีที่คลื่นสุดท้ายเป็นคลื่นw5ดังรูปเท่ากับเทรนใหญ่จบขาขึ้นแล้วกลับตัวเป็นขาลงรูปแบบคลื่นย่อยขาลงจะซับซ้อนอาจต้องพิจารณาดูว่าคลื่นใหญ๋ขาลงทำรูปแบบใดใน4แบบเราอาจใช้คลื่นw4ของคลื่นขาขึ้นใหญ่เป็นจุดพิจารณาแรกการเกิดแพทเทิ้ลกลับตัวแบบhead and shouder(H&S) pattern ก็ได้

 

 

 

ระหว่างรอดูน้องทองขึ้นๆลงๆก็มาอ่าน หาความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณพี่บาสมากครับ

ถูกแก้ไข ตุลาคม 16, 2013 โดย TheRichman

[zlatan 131]

ถึงคุณสลาตัน 88 18975 ถ้าขายแล้วซื้อกลับโดยไว รับที่น่าจะยันอยุ๋ซักพัก 82 18950 78 แล้วรอขายใหม่ โชคดีค่ะ

gs แอล79 ปิด87 มีเอสติดอยู่ จ้ากส์ๆ แอลก็มี ตั้งcut93 มะถึง แงๆ ติดลบทั้ง2ข้างเลย ไปแว้ว ฟ้าสว่างขึ้นหน่อย เจอกันดึกๆจ้า

ไม่ได้กดเลยคับเจ้าป้า งานยุ่งๆ ตอนนี้ย่อลงมาแล้ว รอจังหวะใหม่คับ

[ขวด 65]

yyyyyyy

[sr20detgt 1,468]

 

http://www.icn.com/TechnicalPortal/en/Commodities%20Technical%20Analysis/GOLD/U.S.%20Session/16-10-2013-13514.aspx

[gejen 5,749]

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกขึ้น ขณะตลาดจับตาเจรจาเพดานหนี้สหรัฐ

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ตุลาคม 2556 19:20:14 น.

 

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 65 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 15,160 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้น 0.4%

ที่ระดับ 1,698.7 จุด เมื่อเวลา 7.27 น.ตามเวลานิวยอร์ก ท่ามกลางความหวังที่ว่าสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อนกำหนด

เส้นตายในวันพรุ่งนี้เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

 

นักลงทุนเชื่อว่าสหรัฐจะสามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ในที่สุด หลังจากที่กระทรวงการคลังได้กดดันให้สภาคองเกรสเร่งขยายเพดานหนี้

โดยอ้างคำขู่ของฟิทช์ เรทติ้งส์ ที่เตือนว่าจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ AAA โดยระบุถึงความขัดแย้งทางการเมือง

ในประเด็นการปรับเพิ่มเพดานการกู้ยืมของรัฐบาลกลาง นับเป็นการย้ำเตือนต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติถึงความเร่งด่วนในการบรรลุข้อตกลง

เพดานหนี้

 

หุ้นยาฮู! อิงค์ และหุ้นแมทเทล อิงค์ ทะยานกว่า 2% หลังบริษัทเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ปเพิ่มขึ้น 1.1% หลังผลกำไรเพิ่มขึ้น

ถูกแก้ไข ตุลาคม 16, 2013 โดย gejen

[gejen 5,749]

ราคาน้ำมัน WTI ขยับลง ขณะการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุป

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ตุลาคม 2556 19:39:07 น.

 

ราคาน้ำมัน WTI เคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะที่ตลาดจับตาดูการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งต้องบรรลุข้อตกลงให้ได้

ก่อนกำหนดเส้นตายในวันพรุ่งนี้ เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เคลื่อนไหวอย่างผันผวน

ก่อนที่จะปรับตัวลดลง 29 เซนต์ แตะระดับ 100.92 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 19.22 น.ตามเวลาไทย

ถูกแก้ไข ตุลาคม 16, 2013 โดย gejen

[gejen 5,749]

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดขึ้น เหตุวิตกสหรัฐผิดนัดชำระหนี้

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ตุลาคม 2556 20:06:48 น.

 

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า

ทั้งที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันพรุ่งนี้แล้ว

 

เมื่อเวลาประมาณ 19.50 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 4.00 ดอลลาร์

หรือ 0.31% แตะที่ 1,277.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ถูกแก้ไข ตุลาคม 16, 2013 โดย gejen

[baskie30 6,060]

เพิ่มbuy stop1289cut1278เป้า1310

ปล.ถ้าแมทbuylimit1266ให้ยกเลิกbuystop1289ครับ

[gejen 5,749]

ดอลล์แข็งค่าเทียบเยน จากความหวังสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ตุลาคม 2556 20:39:00 น.

 

เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบเงินเยน ท่ามกลางความหวังที่ว่าสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อนกำหนดเส้นตายในวันพรุ่งนี้

เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

 

เมื่อเวลา 7.21 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินเยนอ่อนค่าลง 0.2% เทียบดอลลาร์ ที่ระดับ 98.34 เยน/ดอลลาร์ ขณะเดียวกันเงินเยนอ่อนตัวลง 0.4%

เทียบยูโรแตะที่ 133.29 เยน/ยูโร อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์อ่อนลง 0.2% เทียบยูโร ที่ 1.3554 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักลงทุนเชื่อว่าสหรัฐจะสามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ในที่สุด หลังจากที่กระทรวงการคลังได้กดดันให้สภาคองเกรสเร่งขยายเพดานหนี้

โดยอ้างคำขู่ของฟิทช์ เรทติ้งส์ ที่เตือนว่าจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ AAA โดยระบุถึงความขัดแย้งทางการเมือง

ในประเด็นการปรับเพิ่มเพดานการกู้ยืมของรัฐบาลกลาง นับเป็นการย้ำเตือนต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติถึงความเร่งด่วนในการบรรลุข้อตกลง

เพดานหนี้

ถูกแก้ไข ตุลาคม 16, 2013 โดย gejen