ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ถ้าพีทไม่ง่วงพีทคงได้เป้าสอง 1107 ตามวิพี่กบ แต่เมื่อคืนไม่ไหวจริงๆ ร่างกายคงร้องจะพักผ่อนพร้อมฤทธิ์ยาแก้หวัด พีทตื่นมาตี 4 ก็ยังคงง่วง พีทเลยนอนต่อไม่ได้ไปฟิตเนส ตื่นมาแจ่มใส หวัดใกล้หายครับ ตอนนี้พีทลดน้ำหนักควบคู่ไปด้วยให้ร่างกายเฟิร์ม เหลืออีก 3 กิโลจะได้เป้าแล้วครับ แฟนพีทอิจฉา ลดไม่ได้แบบพีท :v@

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โฆษก คสช. ยืนยัน จับ “จ่านิว” ทำอย่างละมุนละม่อม

ทนายเผยเตรียมฟ้องคนรวบตัวข้อหาขู่เข็ญและประทุษร้าย

 

สำนวนบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจนครบาลนิมิตรใหม่ระบุ

เจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.2 พัน 2 ร.อ. เป็นผู้ “เชิญตัว” นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา มาให้ตำรวจควบคุมตัว ขณะที่เจ้าตัวเตรียมฟ้องข้อหาประทุษร้าย

ด้านโฆษก คสช. ยันทำตามกระบวนการอย่างละมุนละม่อม

 

นายอานนท์ นำภา หนึ่งในทนายความที่ร่วมในห้องสอบสวน นักกิจกรรมที่ถูกควบคุมตัวและ สอบสวนที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี

เนื่องจากถูกออกหมายจับจากทำกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ให้สัมภาษณ์ ว่า

จากการสอบสวนนักกิจกรรมทั้งสี่คนปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในกระบวนการยุติธรรมของ ทหารและ ตร.ในครั้งนี้

ยืนยันที่จะต่อสู้คดีและจะไม่ขอยื่นประกันตัว

 

ความคืบหน้ากรณีที่นักกิจกรรม 4 คนประกอบด้วย

นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ น.ส. ชลธิชา แจ้งเร็ว และนายกรกช แสงเย็นพันธ์

ถูกควบคุมตัวและสอบสวนที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ล่าสุดนายอานนท์กล่าวว่า ทนายจะยื่นคัดค้านการฝากขัง

เนื่องจากเห็นว่าน.ส.ชนกนันท์ น.ส. ชลธิชา และนายกรกช เดินทางมาที่สถานีตำรวจเอง ไม่มีการแสดงว่าจะหลบหนี

และการสอบสวนในวันนี้ก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้ว หวังว่าวันนี้ ตร.จะไม่นำตัวทั้งสี่ไปฝากขัง

และหาก ตร.นำตัวไปศาลทหาร หวังว่าศาลจะไม่อนุมัติฝากขัง

 

นายอานนท์กล่าวด้วยว่าในส่วนของนายสิรวิชญ์ หรือ “จ่านิว” ต้องการจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ทหารจากเหตุรวบตัวขึ้นรถกระบะเมื่อคืนนี้

โดยคาดว่าจะฟ้องข้อหาขู่เข็ญและประทุษร้ายร่างกาย และกำลังหารือว่าจะมีข้อหาอื่นใดอีกบ้าง

ทั้งนี้ตามข้อมูลที่ปรากฏในใบส่งตัวของสถานีตำรวจนครบาลนิมิตรใหม่ ระบุว่า

เจ้าหน้าที่ของหน่วย ร.2 พัน 2 ร.อ.เป็นผู้ไปเชิญตัวนายสิรวิชญ์มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว

 

อีกด้านหนึ่ง ข่าวคราวการจับกุมนายสิรวิชญ์ถูกหยิบยกขึ้นมาถามในการตอบคำถามสื่อมวลชน

ของ นายมาร์ก โทเนอร์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี

โดยผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามถึงท่าทีของสหรัฐต่อกรณีการบุกเข้าจับกุม “จ่านิว” นักกิจกรรมที่เป็นนักศึกษา

ซึ่งนายโทเนอร์ตอบว่ายังไม่มีรายละเอียดพอที่จะให้ความเห็นอย่างจำเพาะ เจาะจง

แต่ได้เน้นย้ำจุดยืนของสหรัฐต่อเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

 

“เรายังคงห่วงกังวลเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิมนุษยชนและสิทธิขั้นพื้นฐานใน ประเทศไทย

รวมถึงการจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุม

อยากจะขอร้องให้รัฐบาลไทยให้การรับรองสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและสิทธิ มนุษยชนอื่นๆและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

ต่อกรณีนี้ถ้าได้รายละเอียดเพิ่มเติมจึงจะให้ความเห็นได้” นายโทเนอร์กล่าว

 

ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ระบุการจับกุมนายสิรวิชญ์เมื่อคืนนี้

เป็นการปฏิบัติหน้าที่ และการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามกรอบกฎหมาย

โดยเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติอย่างให้เกียรติและละมุนละม่อม ไม่มีการใช้ความรุนแรงอย่างที่บางคนพยายามบิดเบือน

 

พ.อ.วินธัยยังตั้งข้อสังเกตว่าระยะหลังนายสิรวิชญ์มีพฤติกรรมเชิงยั่วยุ และยืนยันว่าที่ผ่านมาในกรณีผู้เห็นต่าง

ทางเจ้าหน้าที่จะใช้แนวทางการขอความร่วมมือและทำความเข้าใจเป็นลำดับแรก

แต่กรณีนายสิรวิชญ์นั้นไม่พยายามเข้าใจ และไม่พยายามให้ความร่วมมือ จึงเลยไปถึงขั้นต้องออกหมายจับกุม

หลังจากที่เจ้าหน้าที่พยายามที่จะหาวิธีอะลุ้มอล่วยให้กันมาตลอด

อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกกล่าวหายังสามารถไปแก้ต่างได้ตามขั้นตอนกระบวนการ

 

 

12510500_1731561893731510_444539239494702529_n.jpg?oh=c38aad89a82b5da9a31f08099baba86c&oe=5731D364

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียกระเตื้องขึ้นหลังหุ้นปั่นป่วนทั่วโลก

 

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตัวมาสูงขึ้นหลังจากความปั่นป่วนของตลาดการเงิน

ส่งผลให้ดัชนีของยุโรปและสหรัฐฯ ทรุดตามราคาน้ำมันที่ตกฮวบอีกรอบ

 

ในวันพุธ ตลาดหุ้นต่างๆ ได้พากันร่วงลงมาถึงระดับต่ำสุดนับจากเดือนพฤษภาคม 2552

โดยตลาดหุ้นอังกฤษ ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นตกลงกว่า 20% จากระดับสูงสุดในปี 2558

ส่วนวอลล์สตรีทก็หนีไม่พ้น ดาวโจนส์ปิดต่ำลง 1.6% หลังจากเกิดความผันผวนในการซื้อขายมาทั้งวัน

 

 

ตลาดหุ้นหลักในเซี่ยงไฮ้ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.3% แสดงถึงความวิตกกังวลของนักลงทุนทั่วโลก

ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกแห่งนี้

แต่ฮ่องกงก็สามารถกระเตื้องขึ้นมาได้บ้างหลังจากการตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันก่อนหน้า

ดัชนีฮั่งเส็งฟื้นขึ้นมา 1.3% หลังจากร่วงไปเกือบ 4% ในวันพุธ

 

ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมาก่อน โดยเอสแอนด์พี/เอเอสเอ็กซ์ 200 เพิ่มขึ้น 1.1%

ทั้งที่ออสเตรเลียต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของจีนค่อนข้างมากเนื่องจาก ส่งออกสินค้าส่วนใหญ่ไปยังจีน

ส่วนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็กระเตื้องขึ้นเช่นกัน นิคเคอิเพิ่มขึ้น 1.4% และ Kospi เพิ่มขึ้น 0.5%

 

ราคาน้ำมันตกลงมาต่ำกว่า 28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ถ่านหิน แร่เหล็กและโลหะอื่นก็ตกยาว

นักวิเคราะห์หลายรายพากันลดค่าพยากรณ์ราคาน้ำมันในปี 2559 ลง โดยนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์บอกว่า

ราคาน้ำมันในระดับ 20 เหรียญสหรัฐฯ นั้นเป็นไปได้หากจีนยังลดค่าเงินหยวนลงไปอีก

 

นักเศรษฐศาสตร์ของรอยัลแบงค์แห่งสก็อตแลนด์บอกว่าราคาน้ำมันอาจร่วงลงไปถึง 16 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ขณะที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดทำนายว่าอาจลงไปถึง 10 เหรียญ

 

 

12540634_1731562460398120_3235587018658951018_n.jpg?oh=bb5b90baa583a125aa42d7d47a25cdce&oe=56FBE9DB

12540912_1731562483731451_566040529509163972_n.jpg?oh=295a3d3f2412bbf617095cb44b363195&oe=57412386

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: bullish bias above 1095.

 

Pivot: 1095

 

Most Likely Scenario: long positions above 1095 with targets @ 1106 & 1110 in extension.

 

Alternative scenario: below 1095 look for further downside with 1090.5 & 1086 as targets.

 

Comment: technically the RSI is above its neutrality area at 50.

 

 

169_20160121065950.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าพีทไม่ง่วงพีทคงได้เป้าสอง 1107 ตามวิพี่กบ แต่เมื่อคืนไม่ไหวจริงๆ ร่างกายคงร้องจะพักผ่อนพร้อมฤทธิ์ยาแก้หวัด พีทตื่นมาตี 4 ก็ยังคงง่วง พีทเลยนอนต่อไม่ได้ไปฟิตเนส ตื่นมาแจ่มใส หวัดใกล้หายครับ ตอนนี้พีทลดน้ำหนักควบคู่ไปด้วยให้ร่างกายเฟิร์ม เหลืออีก 3 กิโลจะได้เป้าแล้วครับ แฟนพีทอิจฉา ลดไม่ได้แบบพีท :v@

 

ขอให้พีทหายหวัดและแข็งแรงเร็วๆ จะได้ฟิตหุ่นเฟิร์มหล่อเฟี้ยวถูกใจแฟนนะจ๊ะ จะบอกไห่

 

ปล. พีทเก่งและดวงดี สั่งเจ้าได้ว่าจะเอากำไรเท่าไหร่ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฐานะการคลังไตรมาสแรกปีงบ 59 มีรายได้นำส่ง 5.79 แสนลบ. เบิกจ่าย 8.9 แสนลบ.

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2559 16:06:06 น.

 

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง

แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม – ธันวาคม 2558) ว่า

รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 579,473 ล้านบาท

ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 890,922 ล้านบาท

รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 265,303 ล้านบาท

ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 386,497 ล้านบาท

 

“จากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาทำให้ใน ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559

มีการเบิกจ่ายงบประมาณสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ

โดยสะท้อนให้เห็นจากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในไตรมาสแรกที่สูงกว่าประมาณการ

ในขณะที่เงินคงคลังอยู่ในระดับที่เข้มแข็งกว่าสามแสนแปดหมื่นล้านบาท ซึ่งเอื้อต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในระยะต่อไป"

 

ในเดือนธันวาคม 2558 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 17,064 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 39,723 ล้านบาท

และเป็นการเกินดุลนอกงบประมาณ 22,659 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 มีจำนวน 386,497 ล้านบาท

 

โดยรัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 244,070 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 57,600 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 30.9)

ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 4G ความถี่ 1,800 GHz

และการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

 

สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 283,793 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 13,048 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 4.8)

ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 206,044 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.7 และรายจ่ายลงทุน 33,052 ล้านบาท

สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 87.0 และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 44,697 ล้านบาท

สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 49.8 (ตารางที่ 1)

 

การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่

รายจ่ายชำระหนี้ของกระทรวงการคลัง 40,944 ล้านบาท

เงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ 26,544 ล้านบาท

เงินอุดหนุนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 15,036 ล้านบาท

และรายจ่ายอื่นของกระทรวงกลาโหม 10,148 ล้านบาท

 

ส่วนดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น

ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนธันวาคม 2558 ขาดดุล 39,723 ล้านบาท

เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 22,659 ล้านบาท

ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก รายจ่ายเหลื่อมไปเดือนมกราคม 2559 สุทธิ 14,248 ล้านบาท

และส่วนเพิ่มจากการประมูลพันธบัตรสุทธิ 5,832 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 57,133 ล้านบาท

ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุลเท่ากับ 40,069 ล้านบาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อะไรคือสิ่งที่สร้างความกังวลให้ตลาดหุ้นโลก

 

ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในภาวะซบเซานับแต่เปิดศักราชใหม่เป็นต้นมา

แอนดรูว์ วอล์กเกอร์ ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจของบีบีซี ชี้ว่า

เป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนทั้งต่อสภาพเศรษฐกิจโลก และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

ขณะที่ไอเอ็มเอฟเองเตือนว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่นักลงทุนทั่วโลกจะหลีกเลี่ยง ความเสี่ยงอย่างกะทันหัน

และหากตลาดยังจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ไม่ได้ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกก็อาจหยุดชะงัก

 

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถือได้ว่าย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่เริ่มต้น ปีใหม่

ซึ่งก็ไม่ต่างจากตลาดหุ้นทั้งที่แฟรงค์เฟิร์ต โตเกียว นิวยอร์ค ลอนดอนและเซี่ยงไฮ้ที่ซบเซาไม่แพ้กัน

โดยเฉพาะที่เซี่ยงไฮ้ ดัชนีหุ้นมีมูลค่าลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ในเวลาเดียวกันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ดำดิ่ง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 12 ปี ซึ่งก็ฉุดราคาหุ้นในธุรกิจน้ำมันให้ร่วงตามไปด้วย

 

ผู้สื่อข่าวชี้ว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนจะไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้ ตลาดหุ้นซบเซา

แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความไร้เสถียรภาพที่ลุกลามไปทั่วโลก

โดยตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักของจีนทำให้นักลงทุนจีนต้องขาดทุนมหาศาล ทั้งยังก่อให้เกิดแรงกดดันต่อค่าเงินหยวน

โดยอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนของทางการจีนปรับตัวลดลงเกือบ 2% ในสัปดาห์แรกของปีนี้

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่การอ่อนค่าลงอีกของเงินหยวน

จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

 

ผู้สื่อข่าวบอกว่านับตั้งแต่เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวลงจากที่เคยเติบโต เฉลี่ย 10% มาร่วมสาม ทศวรรษ

กลายเป็นมาเติบโตที่ 6.9% เมื่อปีที่แล้ว และล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่า

เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ 6.3% ในปีนี้ และ 6.0% ในปีหน้า ทำให้ทางการจีนถูกจับตาว่าจะรับมือกับสถานการณ์ได้ดีเพียงใด

 

ไอเอ็มเอฟ ยังเตือนด้วยว่าจีนจะประสบปัญหาการนำเข้าและส่งออกชะลอตัวรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ด้วย

ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมด้านการลงทุนและการผลิตที่ลดลง

ขณะเดียวกันมีการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าเศรษฐกิจจีนจะหันไปพึ่งพิง ภาคบริการมากกว่าการผลิต

ซึ่งจะพุ่งเป้าผู้บริโภคชาวจีนเป็นหลัก ขณะที่การส่งออกและนำเข้าวัตถุดิบจะน้อยลง

 

นอกจากปัญหาในจีนแล้ว ผู้สื่อข่าวชี้ว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเอง

ซึ่งไอเอ็มเอฟ คาดว่าจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยในปีนี้ และจะกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยในปีหน้า

โดยไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดประมาณการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา

โดยเฉพาะรัสเซียและบราซิล ซึ่งประสบปัญหาเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและปัญหาทางการเมือง

 

ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก

เพราะนั่นอาจเป็นผลทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้

 

ไอเอ็มเอฟ ยังเตือนว่า อาจเกิดภาวะที่นักลงทุนทั่วโลกหลีกเลี่ยงความเสี่ยงขึ้นมาอย่างกะทันหัน

แล้วหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่าง พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และทองคำ

ซึ่งนี่เป็นภาวะที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วในตลาดหุ้นหลายแห่งที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้น

และลดการลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน

 

ผู้สื่อข่าวบอกว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ถือเป็นเรื่องที่สร้างความวิตกกังวลให้แก่นักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก

และไอเอ็มเอฟเตือนว่า หากยังไม่สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกก็คงต้องหยุดชะงัก

 

 

12510296_1731634510390915_2604523272579086994_n.jpg?oh=3a67c56afff7db1022536e80902d49d6&oe=5745E6C2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ค๊าบบ รอวิพี่กบเพื่อกำหนดกรอบครับ :_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้บาทแข็งค่าขึ้น พีทเชียร์ให้ทองลงเพื่อเข้าซื้อครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: bullish bias above 1093.5.

 

Pivot: 1093.5

 

Most Likely Scenario: long positions above 1093.5 with targets @ 1106 & 1110 in extension.

 

Alternative scenario: below 1093.5 look for further downside with 1090.5 & 1086 as targets.

 

Comment: even though a continuation of the consolidation cannot be ruled out,

its extent should be limited.

 

 

169_20160122065037.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ค๊าบบ รอวิพี่กบเพื่อกำหนดกรอบครับ :_087

 

 

มาแล้ว

พีทจะรอ buy ที่เท่าไหร่จ๊ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รอซื้อที่ 1093 - 1096 ครับ ตอนนี้ใกล้จะได้ซื้อไม้แรกแล้วครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เล่นไปตามวิพี่กบเลยครับ แต่ถ้าลงต่ำ ก็ไล่ซื้อครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รอซื้อที่ 1093 - 1096 ครับ ตอนนี้ใกล้จะได้ซื้อไม้แรกแล้วครับ

 

ลงมา1094 กว่าๆขึ้นไปอยู่ที่ 1098 ตอนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เล่นไปตามวิพี่กบเลยครับ แต่ถ้าลงต่ำ ก็ไล่ซื้อครับ

 

พีทสะสมกำไรไว้เยอะ เป็นทองแท่ง buy ไม้แรกแล้วรอได้สบาย ยิ่งถ้า buy ราคาต่ำๆมีโอกาสกำไรอีกด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...