ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณฟื้นตัวช้า กดดันราคาน้ำมันดิบปิดร่วง

 

Posted on Thursday, July 15, 2010

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับลดลง 0.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 77.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

- มติจากที่ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)ได้เปิดเผยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ให้ความคิดเห็นว่า ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ควรเพิ่มนโยบาย กระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังอยู่ในสภาวะที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

 

- ค่าเงินยูโรแข็งค่ามากขึ้นเป็นเดือนที่สอง เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่ได้มีมติจากที่ประชุมของธนาคารกลางของสหรัฐฯว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

- ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือน มิ.ย. ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยที่อุตสาหกรรมรถยนต์และสถานีบริการน้ำมันที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากนี้ตัวเลขยอดค้าปลีกของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง, อุปกรณ์กีฬา, หนังสือและกระดาษ ก็ลดลงเช่น ทำให้เห็นได้ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังไม่ได้ฟื้นตัวมาก อย่างที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ได้ออกมาประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลงมากกว่าที่ได้มีคาดการณ์เอาไว้มาก เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลง ประกอบกับอัตราการกลั่นเฉลี่ยของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 90.5% โดยเฉลี่ย

 

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 76.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 73.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการกลับมาจากการซ่อมบำรุงของโรงกลั่น

 

ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับอุปสงค์ของน้ำมันดีเซลที่มากกว่าอุปทานภายในตะวันออกกลาง

 

- สนับสนุนข้อมูลโดยบมจ. ไทยออยล์ -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:rolleyes:

post-237-004431900 1279163912.gif

ถูกแก้ไข โดย ทองใหม่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 15 ก.ค. 53ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:49:57 น.

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18540 — 18570 ขายในช่วงราคา 18640 — 18680

GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18630 — 18660 ขายในช่วงราคา 18720 — 18750

SWING TRADER

ทิศทางราคาทองคำระยะกลางและระยะยาวยังคงเป็นทิศทางSIDEWAY โดยมีแนวรับและแนวต้านที่ 1195เหรียญและ1216เหรียญ คำแนะนำนักลงทุนรายวันให้เก็งกำไรในภาวะแกว่งตัวของตลาด นักลงทุนรายสัปดาห์รอดูความชัดเจน และคงถือครองLONG POSITION 50%ของPORTFOLIO

 

GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18630รอขายที่ระดับ 18800

ปัจจัยสำคัญ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 22-23 มิ.ย.ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวในระดับปานกลาง แต่สหรัฐอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยสหรัฐจำเป็นต้องหาทางเลือกใหม่ๆเพื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้งการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0 - 3.5% ซึ่งน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวราว 3.2 - 3.7% ส่วนในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวราว 3.5 - 4.2% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2555 จะขยายตัวราว 3.5 - 4.5%

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์กจะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ค.รวมทั้งข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย. และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดเข้าถือครองทองคำแท่งเท่าเดิมที่ระดับ 1314.819ตัน เมื่อวันที่14ก.ค. จากระดับของวันที่ 13ก.ค.

 

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,212 $ ส่วน Gold Future Q10 เปิดที่ 18,710 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,600 ปรับขึ้น 50 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำอยู่ในทิศทางปรับฐานใหญ่ ในช่วงเช้าราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,210 - 1,214 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำแกว่งตัว Side way ปิดตลาด Gold Future Q10 ปิดตลาดที่ 18,680 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเช้า ปิดตลาดอยู่ที่ 18,600 นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างคึกคัก ตามการปรับฐานของSpot Gold

 

NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1212 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1210 - 1215 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1213 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1202 - 1218 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1209 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคะ วันนี้เล่นผ่านpda กดบวกให้อาจารย์มิได้ ติดไว้ก่อนนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บาทแข็งเปิดตลาดที่ 32.30-32.32บาทต่อดอลลาร์

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฏาคม 2010 เวลา 09:23 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

User Rating: / 0

แย่ดีที่สุด

 

 

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยรายงานว่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาดวันนี้ (15 ก.ค.) ที่ระดับ 32.30-32.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 32.32-32.34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

 

ซีไอเอ็มบีไทยสรุปสถานการณ์ตลาดเงินเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) บาท/ดอลลาร์ ค่อนข้างทรงตัว แต่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินภูมิภาค ที่ได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่มีเข้ามาต่อเนื่องในช่วงนี้ ขณะที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาที่ 1.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีก่อน โดยระบุว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ไม่น่าจะมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนหรือการไหลเข้าของเงินทุน เนื่องจากที่ผ่านมาไทยเกินดุลการค้า และเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจากการเติบโตที่ค่อนข้างสูง

 

 

 

เยน/ดอลลาร์ เมื่อวันพุธ(14 ก.ค.) เยนเผชิญแรงกดดันและอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่มีข่าวลือเกี่ยวกับคำสั่งซื้อตัดขาดทุนที่เหนือระดับ 89.25 เยน ทั้งนี้ เยนซึ่งถือว่าเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยนั้น มักเผชิญกับแรงขายเมื่อนักลงทุนมีความต้องการเสี่ยงเพิ่มขึ้น

 

ยูโร/ดอลลาร์ เมื่อวันพุธ(14 ก.ค.) ยูโรทรงตัวใกล้จุดสูงสุดรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ดอลลาร์อาจถูกกดดันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง หลังการเปิดเผยผลประกอบการภาคเอกชนที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่กองทุนในต่างประเทศ พากันลดการถือครองเงินสดและพันธบัตรสหรัฐ เพื่อเข้าซื้อยูโรและสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังการประมูลพันธบัตรเยอรมนี, โปรตุเกส และกรีซ นอกจากนี้ รายงานของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ถ่วงดอลลาร์ลง หลังจากที่ดอลลาร์ร่วงลงในช่วงเช้าจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคะ วันนี้เล่นผ่านpda กดบวกให้อาจารย์มิได้ ติดไว้ก่อนนะคะ

post-237-023932600 1279164401.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+1 ค่ะ พักผ่อนบ้างนะคะ :wub:

ขอบคุณครับ เอาไว้ผมได้+1เยอะๆแล้ว ผมจะไปแลกโต๊ะจีนกับคุณเฮียกำพล คุณเฮียเขาจะให้ไหมเนี่ย? ฮาฮา

post-237-050132400 1279165634.jpg

post-237-035928700 1279165655.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าห่วง!!คนไทยติดยาบ้าอันดับ1ของโลก

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฏาคม 2010 เวลา 09:52 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

 

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 11 เรื่อง "รู้ลึก รู้จริง รู้ทันยาเสพติด : Update in Addiction" โดย น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์การติดยาเสพติดในประเทศไทยว่า ยังคงมีอัตราเพิ่มขึ้น จากปี 2552 พบผู้ติดยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัดประมาณ 1.2 แสนราย แต่ในช่วงไม่ถึง 8 เดือนของปี 2553 มีผู้เข้ารับการบำบัดแล้วสูงถึง 1 แสนราย โดย 32 % เป็นเด็กอายุ 15-19 ปี ขณะที่ผู้ติดยาเสพติดที่มีอายุต่ำที่สุดที่เข้ารับการบำบัดในสถาบันธัญญารักษ์ คืออายุ 12 ปี โดยส่วนใหญ่ติดยาบ้า กัญชา และยาไอซ์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมากลุ่มวัยรุ่นเริ่มติดยาไอซ์ มากกว่ายาบ้า โดยมีแหล่งผลิตอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน

 

การประชุมครั้งนี้ มีการหารือเรื่องการศึกษาวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างการติดยาเสพติดและยีนในร่างกายมนุษย์ เพื่อศึกษาว่าการติดยาเสพติดมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางพันธุกรรมหรือไม่ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเลยสหรัฐอเมริกา สถาบันธัญญารักษ์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหาความสัมพันธ์ดังกล่าว โดยทำการศึกษาวิจัยในประเทศต่างๆ ทั้งในแถบอาเซียน สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

 

รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับเลือกในการศึกษาครั้งนี้ เพราะประเทศไทยมีตัวเลขผู้ติดยาเสพติดประเภทยาบ้า มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก จากเดิมการสำรวจอัตราการติดยาเสพติดเมื่อปี 2536 พบว่า คนไทยติดยาเสพติดประเภทกัญชา เฮโรอีน สูงสุด รองลงมาคือ ยาบ้า แต่หลังจากปี 2539 จนถึงปัจจุบันพบอัตราการเสพยาบ้าในประเทศไทยสูงขึ้นจนมากที่สุดในโลก ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย และเวียดนาม ติดยาเสพติดประเภทเฮโรอีน สหรัฐอเมริกา มีการติด โคเคนสูงสุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อมยิ้มอยูค่ะ น่าทานจังค่ะ อ.ทองใหม่ สุขภาพดี อารมณ์ดี มีความสุข จัง :lol: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไทยออยล์รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 15 กรกฏาคม 2553

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:05 น. ทีมออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 15 กรกฏาคม 2553 ปิดตลาดวันที่ 14 กรกฏาคม2553 ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุน (บวก) และกดดัน (ลบ) ราคาให้เคลื่อนไหวเพิ่มสูงขึ้นและลดลงสำคัญ ๆ ดังนี้

 

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับลดลง 0.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 77.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจาก

 

- มติจากที่ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ให้ความคิดเห็นว่า ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ควรที่จะเพิ่มนโยบาย กระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังอยู่ในสภาวะที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

 

- ค่าเงินยูโรแข็งค่ามากขึ้นเป็นเดือนที่สอง เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ลังจากที่ได้มีมติจากที่ประชุมของธนาคารกลางของสหรัฐฯว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

- ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือน มิ.ย. ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยที่อุตสาหกรรมรถยนต์และสถานีบริการน้ำมันที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากนี้ตัวเลขยอดค้าปลีกของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง, อุปกรณ์กีฬา, หนังสือและกระดาษ ก็ลดลงเช่น ทำให้เห็นได้ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังไม่ได้ฟื้นตัวมาก อย่างที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ได้ออกมาประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลงมากกว่าที่ได้มีคาดการณ์เอาไว้มาก เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลง ประกอบกับอัตราการกลั่นเฉลี่ยของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 90.5% โดยเฉลี่ย

 

(หน่วย: ล้านบาร์เรล) EIA API รอยเตอร์โพล

 

น้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 5.1 เพิ่มขึ้น 1.7 ลดลง 1.4

 

น้ำมันเบนซินคงคลัง เพิ่มขึ้น 1.6 เพิ่มขึ้น 1.7 เพิ่มขึ้น 0.1

 

น้ำมันดีเซลคงคลัง เพิ่มขึ้น 2.9 เพิ่มขึ้น 3.2 เพิ่มขึ้น 0.8

 

 

 

ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 76.77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 2.51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 73.94 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

 

 

 

ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์นั้น ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการกลับมาจากการซ่อมบำรุงของโรงกลั่น และ ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับอุปสงค์ของน้ำมันดีเซลที่มากกว่าอุปทานภายในตะวันออกกลาง

 

 

 

สำหรับทิศทางแนวโน้มระยะสั้นนั้นคาดว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 72 - 79 เหรียญสหรัฐฯ จับตาดัชนีผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค และ จีดีพี ไตรมาส 2 ของประเทศจีน

 

ทั้งนี้ มีปัจจัยที่น่าจับตาติดตามดังนี้

 

• ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่

 

วันพฤหัส: ดัชนีผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค และ จีดีพี ไตรมาส 2 ของประเทศจีน

 

วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้บริโภค และความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ

 

• การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ สำหรับไตรมาส 2/53 ได้แก่ อัลโค, อินเทล, กูเกิ้ล, เจพี มอร์แกน เชส, แบงค์ อ๊อฟ อเมริกา และ ซิตี้กรุ๊ป

 

• รายงานสถาณการณ์น้ำมันเดือน ก.ค. ของโอเปก ในวันที่ 15 ก.ค. หลัง EIA ของสหรัฐฯ ปรับความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้เพิ่มขึ้น 60,000 บาร์เรลต่อวัน

 

• ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากมีการนำมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นมาใช้

 

• ฤดูกาลเฮอริเคน (มิ.ย. – พ.ย.) ที่อาจจะจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวเป็นพายุโซนร้อนในบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในบริเวณอ่าวเม็กซิโก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!031 !01 !57 ขอบคุณอ.ทองใหม่ค่ะ บวก1ให้จารย์ทุกวันอิอิ จารย์สอนวิธีดูกราฟละเอียดจังค่ะ เลยบวก1ทุกวันทุกวัน !10 !10 !10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!031 !01 !57 ขอบคุณอ.ทองใหม่ค่ะ บวก1ให้จารย์ทุกวันอิอิ จารย์สอนวิธีดูกราฟละเอียดจังค่ะ เลยบวก1ทุกวันทุกวัน !10 !10 !10

post-237-083034400 1279168209.gif

post-237-066999300 1279168289.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...