ทิศทางทอง--ตอน thaigold2

[sukhonta 1]

ขอบคุณอาจารย์ทองใหม่มาก ๆค่ะ !gd !57 !10 !thk !thk !thk !thk

[ทองใหม่ 7,435]

กราฟตาแป๊ะรายวัน

กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นหักมุม(เส้นเส้นคู่เล็กบางสีขาง+เหลืองอ่อน)ขึ้น—ลง ตามมุมที่หัก(ให้ผลระยะกลางยาว)

ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้อมากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง

ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน

ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้

[ทองใหม่ 7,435]

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 13 กรกฎาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 14 กรกฎาคม 2553 07:42:00 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 13 กรกฎคม 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,195— $1,205 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ10 อยู่ที่ 18,640 บาท โดยเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ 18,630 บาท

 

แนวโน้มวันที่ 14 กรกฎาคม 2553

ราคาทองคำได้รับปัจจัยหนุนภายหลังมูลดีส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลของประเทศโปรตุเกสจากระดับ Aa2 เป็น A1 บวกกับ การรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษลดลงจากระดับ 28.7 เป็น 25.2 รวมทั้ง การรายงาน ECONOMIC SENTIMENT ของเยอรมันที่ลดลงจากระดับ 28.7 เป็น 21.2 ทำให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งถือว่าเป็นระดับจิตวิทยาของนักลงทุนได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามในระยะนี้ให้นักลงทุน จับตาการรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนที่จะมีการประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็น เจพีมอร์แกน เชสแอนด์โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา, เจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) และอินเทล คอร์ป โดยคาดว่าหากผลประกอบการของบริษัทออกมาดีกว่าที่คาดการณ์จะผลักดันให้ค่าเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงนอกจากนี้แล้วผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทเอกชนในสหรัฐอาจทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้นส่งผลให้เกิดการปรับพอร์ตการลงทุนโดยลดสัดส่วนการลงทุนในทองคำและเพิ่มสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นซึ่งอาจจะไปกลบประเด็นปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปที่เพิ่งรายงานออกมาล่าสุดอันจะส่งผลให้ราคาทองคำกลับลงไปอ่อนค่าอีกก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นกันดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุนให้มากขึ้นแต่ในเบื้องต้นทางวายแอลจี ยังคงให้มุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวต่อไป

[chadcha 0]

ขอบคุณกราฟตาแป๊ะมากๆ

[ทองใหม่ 7,435]

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 14 ก.ค. 53 (ภาคเช้า)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 14 กรกฎาคม 2553 11:54:18 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกเช้าวันนี้กลับขึ้นมาเหนือระดับ 1,210 ดอลล่าร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากบริษัทจัดอันดับเครดิตมูดี้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 2 ระดับ มาอยู่ที่ระดับ A1 ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องปัญหาหนี้ของยุโรปอีกครั้งและเข้าซื้อทองคำเพิ่มเพื่อใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนในอนาคต ประกอบกับในการเปิดเผยยอดการขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกกว่า 4.8% ส่งให้ค่าเงินดอลล่าร์ร่วงลงอีกครั้งและทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น ขณะ SPDR คงการถือครองหลังจากมีการซื้อเพิ่มในช่วงวันก่อนหน้า ค่าเงินบาทเช้าวันนี้แข็งค่าอีกเล็กน้อยเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 32.31 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ จากเงินทุนที่ยังคงไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม (GFQ10) ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันอังคาร (13 ก.ค. 53) 60 บาท เปิดที่ระดับราคา 18,710 บาท ราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,500 บาท ราคาเสนอขาย 18,600 บาท

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์แมเนจเมนท์ จำกัดกล่าวว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อของโปรตุเกสลงในครั้งนี้กระตุ้นให้นักลงทุนเกิดความกังวลอีกครั้งและส่งผลไปถึงการคาดการณ์การทำ Stress Test อย่างไรก็ดีเรามองว่าการปรับลดครั้งนี้จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อภาพรวมการลงทุน แต่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในช่วงต่อไปถ้ามีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีก

[Maenam 41]

!thk !thk !thk

[ทองใหม่ 7,435]

[LittleBua 11]

เช้านี้ว่าจะซื้อลดดอย แต่ราคาก็นิ่่งซะ..

สรุปเลยถอยมากินแคร่อกรอก่อนอ๊ะกัน.. !034

[patcharin 51]

แปลมะออกง่ะ เปงกาทิงขาBเหรอค้าจารย์ !17 !32 แปลผิดอายจังเลยง่ะ อิอิอิ แล้วทามมายรูปม่ายขึ้นอะ

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 14, 2010 โดย Arpat

[ทองใหม่ 7,435]

แปลมะออกง่ะ เปงกาทิงขาBเหรอค้าจารย์ !17 !32 แปลผิดอายจังเลยง่ะ อิอิอิ แล้วทามมายรูปม่ายขึ้นอะ

ฮาฮ ดูเล่นๆ ไม่เกี่ยวกับกราฟครับ

[jungpee 1]

ขอบคุณคร๊า

[deb99 290]

!01

[ทองใหม่ 7,435]

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส : YLG

วันพุธที่ 14 กรกฏาคม 2010 เวลา 16:40 น. บจ.วายแอลจี บลูเลี่ยนฯ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 กรกฎาคม 2553 สภาวะตลาดวันที่ 14 กรกฎคม 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,211 – $1,214 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ10 อยู่ที่ 18,680 บาท โดยเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ 18,650 บาท

 

แนวโน้มวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 เนื่องจากในระยะสั้น มีแรงซื้อกลับเข้ามาติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดการสร้างฐานราคาที่ไม่ต่ำกว่า $1,196 ดังนั้นหากมีการลดลงของราคา สามารถเข้าซื้อลงทุนได้เพื่อหวังทำกำไรจากการดีดกลับของราคา โดยมีแนวรับที่ $1,206 เป็นแนวรับระยะสั้น และมีแนวต้านสำคัญที่ $1,225 โดยต้องคำนึงว่าการลงทุนในช่วงนี้ ควรลงทุนระยะสั้นๆเป็นหลักเนื่องจากยังคงอยู่ในสภาพ side way ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่เป็นแนวโน้มชัดเจนนัก

 

แนวรับ $1,206 $1,196 $1,185 แนวต้าน $1,220 $1,225 $1,236

 

แนวโน้มระยะสั้น (ระดับวัน): คาดว่าราคาทองจะเข้าสู่สภาวะ SIDE WAY UP ในกรอบ $1,200 - $ 1,220 ให้จุดซื้อ ที่ $1,206 และ $1,200 จุดขายที่ $1,220 สำหรับจุดตัดขาดทุนอยู่ ที่ $1,196

แนวโน้มระยะกลาง (ระดับสัปดาห์): คาดว่าราคาทองจะเข้าสู่สภาวะ SIDE WAY จนถึง SIDE WAY UP ในกรอบ $1,196 – $ 1,235 ให้จุดซื้อ ที่ $1,200 และ $1,196 จุดขายที่ $1,225 สำหรับจุดตัดขาดทุนอยู่ที่ $1,185

แนวโน้มระยะยาว (ระดับเดือน): ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวโดยมีแนวรับสำคัญที่ $1,185 และ $1,175

 

กลยุทธ์การลงทุน

ระยะสั้น : แนะซื้อที่ $1,206 และ $1,200 โดยทำกำไรที่แนวต้าน $1,220

ระยะกลาง : แนะซื้อที่ $1,200 และ $1,196 โดยทำกำไรที่แนวต้าน $1,225 หรือ $1,235

ระยะยาว : .แนะนำ เริ่มสะสมซื้อที่ $1,185

Turning point : หากราคาต่ำลงกว่า $1,175 ให้ขายออกไปก่อนแล้วรอซื้อกลับบริเวณ $1,150

 

แนะนำกลยุทธ์การลงทุน GOLD FUTURE

แนวโน้มระยะสั้น (ระดับวัน): คาดว่าราคาทองจะเข้าสู่สภาวะ SIDE WAY UP ในกรอบ 18,600 – 18,800 บาท โดยให้จุดซื้อที่ 18,600 บาท จุดขายที่ 18,800 บาท

แนวโน้มระยะกลาง (ระดับสัปดาห์): คาดราคาทองจะเข้าสู่สภาวะ SIDE WAY จนถึง SIDE WAY UP ในกรอบ 18,450 - 19,000 บาท โดยให้จุดซื้อที่ 18,450 - 18,500 บาท จุดขายที่ 19,000 บาท

แนวโน้มระยะยาว (ระดับเดือน): แนวโน้มระยะยาวยังคงปรับตัวขึ้นให้เริ่มทะยอยซื้อบริเวณ 18,450 และ 18,250 บาท

 

กลยุทธ์การลงทุน

Long Position: แนะนำปิดสถานะบริเวณ 18,800 บาท หรือสูงกว่า

Short Position : ทะยอยปิดสถานะบริเวณ 18,450- 18,600 บาท

Open New Position: ทะยอยสะสม Long บริเวณ 18,450 - 18,600 บาท

Turning point: จุดเปลี่ยนจากซื้อเป็นขายหากราคาต่ำกว่า 18,400 บาท (โดยรอซื้อคืนที่ 18,000 -18,250 บาท)

[ทองใหม่ 7,435]

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 14 ก.ค. 53 (ภาคบ่าย)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 14 กรกฎาคม 2553 17:17:15 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกวันนี้ช่วงเช้าราคาปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากสถานบันจัดอันดับเครดิตปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 2 ชั้นมาอยู่ที่ระดับ a1 ประกอบกับค่าเงินดอลล่าร์ปรับอ่อนค่าลงอย่างมาก โดยอ่อนค่าลง 0.560 จุด (Dollar index) ทำให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ขณะช่วงบ่ายราคากลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากตลาดยุโรปเปิดทำการ โดยขึ้นมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,213 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ ส่วนค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่าเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวใกล้ 32.32 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ราคาทองคำในประเทศราคาเสนอซื้อ 18,500 บาท ราคาเสนอขาย 18,600 บาท ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์วันนี้สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม (GFQ10) ปิดที่ระดับ 18,680 ปริมาณการซื้อขาย 1,864 สัญญา สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม(GFV10) ปิดที่ระดับ 18,760 บาท ปริมาณการซื้อขาย 719 สัญญา สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม (GFZ10) ปิดที่ระดับ 18,840 บาท ปริมาณการซื้อขาย 109 สัญญา ปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด 2,692 สัญญา

[ทองใหม่ 7,435]