ทิศทางทอง--ตอน thaigold2

[kson 2]

!thk !thk !thk

[Printpound 7]

ขอบคุณครับ

[ทองใหม่ 7,435]

อันตรายจากเส้นเล็ก และเส้นหมี่

ถ้ารับประทานมากๆ มีความเสี่ยงที่จะเป็น.....โรคตับและโรคไตสูง ผลวิจัยชี้เส้นก๋วยเตี๋ยวมหาภัย เติมสารกันบูดเกินมาตรฐานอื้อโดยเฉพาะ....เส้นเล็ก และเส้นหมี่ เสีี่ยงตับไตพัง

เผยบะหมี่เหลือง-วุ้นเส้นปลอดภัยกว่า่ แนะผู้ประกอบการอย่าโลภผลิตขายข้ามจังหวัดจนต้องใส่สารกันบูดจำนวนมาก

ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่คนไทยนิยมบริโภค และเส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารได้หลายชนิด ทำให้มีการแข่งขันทางการตลาดสูง จากก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่เป็นเส้นสดที่ค้างหลายวันไม่ได้ ผู้ประกอบการมีการเติมสารกันบูด หรือสารกันเสียเพื่อยืดอายุเส้นก๋วยเตี๋ยวทำให้ยืดระยะเวลาการจำหน่าย ซึ่งสารกันบูดที่นิยมใช้คือ กรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิก

ถ้าร่างกายได้รับปริมาณสูงเป็นเวลานานจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับ และไตลดลง ดังนั้นคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานอาหารสากล (Codex) ได้กำหนดให้ใช้กรดเบนโซอิกในเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ผลการตรวจวิเคราะห์พบปริมาณกรดเบนโซอิกตั้งแต่ 1,079-17,250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และเมื่อเทียบกับปริมาณที่กำหนดกรดเบนโซอิกในเส้นก๋วยเตี๋ยวตามมาตรฐานสากล โดย

ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 17,250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

เส้นหมี่ 7,825 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ก๋วยจั๊บเส้นใหญ่ 7,358 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ก๋วยจั๊บเส้นเล็ก 6,305 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

บะหมี่โซบะ 4,593 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 4,230 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุบลราชธานี กล่าวว่า จากผลวิจัยดังกล่าวทำให้ความเชื่อเดิมที่คิดว่าเส้นหมี่ซึ่งมีลักษณะแห้งจะมีวัตถุกันเสียน้อย แต่จะพบมากในเส้นใหญ่ที่มีความชื้นสูงนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า กลับมีการใส่วัตถุกันเสียเยอะมากเป็นอันดับ 2 รองจากเส้นเล็ก ส่วนเส้นที่ไม่พบสารเลยคือ เส้นบะหมี่เหลือง เพราะผลิตจากแป้งสาลี ส่วนเส้นอื่นๆ จะผลิตจากแป้งข้าวเจ้าที่มีความชื้นสูง ทำให้ราขึ้นง่าย จึงมีการใส่วัตถุกันเสีย ขณะที่วุ้นเส้นไม่มีปัญหาเช่นกัน

ที่มา: นสพ. คมชัดลึก

[Srithong 0]

ขอบคุณท่านเหล่าซือขอรับ

[ทองใหม่ 7,435]

 

Uploaded with ImageShack.us

[LittleBua 11]

และแล้วก็เป็นดังคาด... อ่านข้อมูล อ.ทองใหม่ ไม่ทันแย้ววววว เยอะปายโหมด.. !45

[ทองใหม่ 7,435]

และแล้วก็เป็นดังคาด... อ่านข้อมูล อ.ทองใหม่ ไม่ทันแย้ววววว เยอะปายโหมด.. !45

ม่ายเป็นไล ค่อยๆอ่าน มีประโยชน์ !53

[Puiii 14]

!thk !thk !thk

[asuscore 5]

!10 !thk

[LEXSTUDIO 13]

ขอบคุณๆทองใสม่จ๊า

[nusnai 1]

ขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่ +1 ให้ทุกวันครับ

 

:rolleyes: :rolleyes:

[ทองคำแท้ 13]

ขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่ +1 ให้ทุกวันครับ

 

:rolleyes: :rolleyes:

อะไรคือ+1 ให้ทุกวันครับ น้องใหม่ยังไม่รู้เรื่องครับ

[ทองใหม่ 7,435]

สรุปสภาะตลาดทองคำและแนวโน้ม : YLG

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2010 เวลา 17:08 น. วายแอลจี บลูเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 29 มิถุนายน 2553สภาวะตลาดวันที่ 28 มิถุนายน 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,232.45– $1,240.80ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM10 ราคาปรับลดลง 270 บาท อยู่ที่ 19,040 บาท จากวันก่อนหน้าที่ 19,310 บาท

 

แนวโน้มวันที่ 30 มิถุนายน 2553เบื้องต้นราคาทองคำยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรบวกกับการอ่อนค่าลงของเงินสกุลยูโรจากความกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการเงินของธนาคารพาณิชย์ในยุโรป เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต้องเร่งระดมทุนเพื่อชำระคืนหนี้มูลค่ารวม 4.42 แสนล้านยูโร หรือ 4.455 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้สถานะเงินทุนและสภาพคล่องของธนาคารได้รับผล กระทบ แต่อย่างไรก็ตามทางวายแอลจีมองว่าท้ายที่สุดแล้วความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำจะทำให้กรอบการลงมีอย่างจำกัดและจะกลับมาหนุนให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้

 

 

 

โดยทางวายแอลจีให้ แนวรับแนวต้านดังนี้ แนวรับ $1,215 $1,200 แนวต้าน $1,245 $1,252

 

 

 

แนวโน้มระยะสั้น (ภายใน 1-2 วัน) : ราคาทองคำยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหากยังรักษาระดับเหนือเส้นแนวโน้มที่$1,230 ไว้ได้ในระยะสั้นจะมีการปรับฐานออกด้านข้างก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งแต่ถ้ายืนไม่ได้ให้รอรับที่ $1,215

 

 

แนวโน้มระยะกลาง (ภายใน 3-5 วัน) : ยังคงถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรแต่ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นเอาไว้ได้ แนวรับสำคัญคือ $1,215

แนวโน้มระยะยาว (>1สัปดาห์) แนวรับสำคัญที่ แนวรับสำคัญที่ $1,200 จะเป็นแนวรับสำคัญของราคาทองคำ หากลงไปที่จุดนี้ การเข้าซื้อจะมีความปลอดภัย

 

กลยุทธ์การลงทุน

ระยะสั้น : จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ $1,215 โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ $1,245

ระยะกลาง : จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ $1,215 โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ $1,245 แต่หากผ่านไปได้ จะมีแนวต้านอีกครั้งใกล้บริเวณ $1,252

ระยะยาว: จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ $1,200 โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ $1,252 แต่หากผ่านไปได้ จะมีแนวต้านอีกครั้งใกล้บริเวณ $1,265

Turning point : จุดเปลี่ยนจากซื้อเป็นขายคือ หากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ $1,200

 

 

แนะนำกลยุทธ์การลงทุน GOLD FUTURE

-แนวโน้มระยะสั้น (ภายใน 1-2 วัน): ราคาทองคำยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหากยังสามารถยืนเหนือระดับ 19,100 บาทระยะสั้นจะมีการปรับฐานออกด้านข้างก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งแต่ถ้ายืนไม่ได้ให้รอรับที่ 19,000 บาท

-แนวโน้มระยะกลาง(ภายใน 3-5 วัน): ยังคงถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรแต่ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นเอาไว้ได้ แนวรับสำคัญคือ 19,100 และ 19,000 บาท

แนวโน้มระยะยาว (>1สัปดาห์): แนวโน้มระยะยาวยังคงปรับตัวขึ้นให้หาจังหวะเข้าซื้อบริเวณ 18,650-18,850 บาท

กลยุทธ์การลงทุน

Long Position: ถือสถานะข้ามวัน

Short Position : ปิดสถานะบริเวณ 19,000 - 19,100 บาท

Open New Position: เปิด Long Position บริเวณ 19,000 -19,100 บาท

Turning point: จุดเปลี่ยนจากซื้อเป็นขายหากราคาต่ำกว่า 19,000 บาท(โดยรอซื้อคืนที่ 18,650-18,850 บาท)

[tanawatbkk 60]

ขอบคุณอ.ทองใหม่มากครับ ข้อมูลแน่นจริงๆ

[aga 1]

คุณ ทองใหม่ วิเคราะห์เดือนไหนครับ ราคาแต่ละเดือนต่างกัน วันนี้ เดือน Jun จะหายแล้ว

ถูกแก้ไข มิถุนายน 29, 2010 โดย aga