ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

คุณทองใหม่กร๊าบบ 3BB ไม่ต้องเสียค่าคู่สายนะกร๊าบบ แต่trueต้องเสียค่าคู่สายบ้านที่ กทม.ของผมใช้อู่ยกร๊าบบบบบบบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟGold 1

ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง—ทิศทางลง สีขาว—กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง—ทิศทางลง สีขาว—กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้

ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา

ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

ดูกราฟทุกครั้งให้ดูที่หัวมุมซ้ายบน จะบอกเวลา H4=4ชม. H1=1ชม. D1=1วัน และบอกชนิดของกราฟด้วย เช่น goldหรือset50เป็นต้น

post-237-052852000 1284603749.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า

เส้นบน---แนวต้าน

เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)

เส้นล่าง---แนวหนุน

ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง

ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น

เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ

ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้

ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น

ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก

ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง

ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่

วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

ดูกราฟทุกครั้งให้ดูที่หัวมุมซ้ายบน จะบอกเวลา H4=4ชม. H1=1ชม. D1=1วัน และบอกชนิดของกราฟด้วย เช่น goldหรือset50เป็นต้น

post-237-043951800 1284603823.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯขยายตัว

 

Posted on Thursday, September 16, 2010

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯขยายตัว 0.2% ในเดือนส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากยอดการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นเกินความคาดหมาย และหากไม่นับรวมยอดการผลิตรถยนต์พบว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ขยายตัว 0.4%

 

ข้อมูลของ FED ระบุว่า ผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่พุ่งขึ้น 1.2% ขณะที่ผลผลิตด้านสาธารณูปโภคลดลง 1.5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 74.7% สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วอยู่ประมาณ 4.7%

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมี.ค.2547 ที่ทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยการแทรกแซงตลาดด้วยการเทขายสกุลเงินเยนและเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ มีขึ้นหลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ระดับประมาณ 82.90 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าเงินเยนที่แข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น

 

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงซบเซา ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มยังไม่มั่นใจในทิศทางของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมื่อ FED สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ย.ชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.14 จุด สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น

 

หุ้นมาสเตอร์การ์ด ปิดบวก 5.2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลกำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ขณะที่หุ้นคราฟท์ ฟู๊ดส์ อิงค์ ปิดบวก 53 เซนต์ แตะที่ 31.58 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 4/53 เพิ่มขึ้นประมาณ 9-11% เนื่องจากยอดขายในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัวขึ้น

 

ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก พร้อมทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ จากการเก็งกำไรข่าวการซื้อกิจการ รวมถึงการจ่ายเงินปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดแสดงถึงการชะลอตัวในภาคการผลิต

 

แรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในกลุ่ม Health care จนทำสถิติบวกแรงที่สุดในบรรดา 10 หมวดอุตสาหกรรมของ S&P 500 และยังสร้างระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมอีกด้วย โดยนักวิเคราะห์มองว่า จิตวิทยาการลงทุนในช่วงนี้ทำให้ตลาดดูเหมือนจะสามารถพลิกกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ทยอยสะท้อนไปในราคาหุ้นไปแล้ว ขณะที่เรื่องกระแสการควบรวมกิจการ รวมถึงท่าทีของภาคธุรกิจที่มีออกมาล่าสุดก็กำลังเป็นตัวชี้วัดถึงความเชื่อมั่นของผู้บริหาร

 

ส่วนหุ้น Yahoo ก็บวกขึ้นได้กว่า 4% หลังมีบทวิเคราะห์ที่ระบุว่า บริษัท search engine รายนี้อาจขายหุ้นที่มีอยู่ในบริษัท Alibaba Group Holdings ในจีนออกไปด้วยมูลค่าที่อาจสูงถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ตัวบริษัทเองจะยังปฏิเสธว่าไม่มีแผนดังกล่าว

 

- Dow Jones ปิดที่ 10,572.73 จุด (+0.44%)

- S&P 500 ปิดที่ 1,125.07 จุด (+0.35%)

- Nasdaq ปิดที่ 2,301.32 จุด (+0.50%)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำปิดลบ 3 เหรียญ ตามแรงขายทำกำไร-ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็ง

 

Posted on Thursday, September 16, 2010

นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนหลังจากทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาโลหะเงิน พลาตินัม และพัลลาเดียม ทะยานขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับรายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐขยายตัว 0.2% ในเดือนส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากยอดการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นเกินความคาดหมาย และหากไม่นับรวมยอดการผลิตรถยนต์พบว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ขยายตัว 0.4%

 

- ทองคำ ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดที่ 1,268.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-3.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

- เงิน ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดที่ 20.571 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ครับ ขอบคุณครับ

เน็ต True Hisp ดีแน่ครับแต่คู่สายไม่ทราบว่ามีไม๊ ส่วน 3BB ไม่ทราบครับ

รังสิตบ้านญาติ ใช้ True แรงดีครับ

!01 !01 !01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Home Breaking News ข่าวในประเทศ เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ30.85/30.87บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ30.85/30.87บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2010 เวลา 08:57 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

 

นักบริหารเงินธนาคารซีไอเอ็มบีไทยรายงานว่า เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาดเช้าวันนี้ (16 ก.ย.) ที่ระดับ 30.85/30.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวในระดับเดียวกับระดับปิดตลาดเมื่อวานนี้ โดยเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงหลังจากที่เมื่อวานนี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมายืนยันว่าธปท.ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินในการดูแลเงินบาทไปจากนโยบายเดิมที่ดำเนินการอยู่

 

ซีไอเอ็มบีไทย สรุปสถานการณ์ตลาดเงินเมื่อวานนี้ บาท/ดอลลาร์อ่อนค่าลงตามภูมิภาค หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงการแข็งค่าของเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ขณะที่ดีลเลอร์ มองว่าสร้างความชัดเจนให้กับกระแสข่าวที่ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมาตรการดูแลเงินบาทนั้น ไม่ได้มีน้ำหนักต่อตลาดเงิน ขณะเดียวกันผู้ว่าการ ธปท.เผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษเมื่อสัปดาห์ก่อน ยังคงเห็นด้วยกับแนวทางของ ธปท. ในการดูแลเงินบาท และยังไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่มีอยู่

 

เยน/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังจากทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อขายเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ถึงแม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางการญี่ปุ่นได้เข้าซื้อสกุลเงินอื่นใดนอกเหนือจากดอลลาร์สหรัฐหรือไม่ ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)ได้เข้าแทรกแซงตลาดในฐานะตัวแทนของกระทรวงการคลังญี่ปุ่น โดยเข้าแทรกแซงรอบแรกที่ระดับราว 83.00 เยน/ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ระบุว่าความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นเพียงการซื้อเวลาของญี่ปุ่นในการชะลอการแข็งค่าของเยน

 

ยูโร/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดสกุลเงินโลกในวันพุธ โดยฉุดเยนร่วง 3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้นักลงทุนยังคงระมัดระวังว่าการแทรกแซงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเยนในระยะยาวหรือไม่ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า จีนมีแนวโน้มขานรับการแทรกแซงตลาดของ ญี่ปุ่น เนื่องจากจะลดแรงกดดันของสหรัฐฯ ต่อจีนในการปล่อยให้หยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ครับ ขอบคุณครับ

เน็ต True Hisp ดีแน่ครับแต่คู่สายไม่ทราบว่ามีไม๊ ส่วน 3BB ไม่ทราบครับ

รังสิตบ้านญาติ ใช้ True แรงดีครับ

!01 !01 !01

!01 !01 !01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Set50ราย๑ชม. กรอบการเคลื่อนไหวของเมื่อวานนี้อยู่ที่ Yesterday HIGH-------- Yesterday LOW

ระวังหากทะลุขึ้นเลยเส้น Yesterday High หากต้านไม่อยู่ขึ้นสูงต่อ หากทะลุลงเลยเส้น Yesterday Low หากหนุนไม่อยู่ลงต่อ

ช่วงปิดตลาดเมื่อวาน ทิศทางขึ้น

post-237-081688900 1284604373.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 16 ก.ย. 53

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2553 09:45:56 น.

กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV10 ซื้อในช่วงราคา 18540 — 18570 ขายในช่วงราคา 18630 — 18660

GFZ10 ซื้อในช่วงราคา 18630 — 18650 ขายในช่วงราคา 18710 — 18730

SWING TRADER

ทิศทางราคาทองคำโลก(Gold Spot) อยู่ในทิศทางของขาขึ้นโดยมีแนวรับและแนวต้านที่1260และ1280เหรียญ มีโอกาสไปทำ New Highที่1300และราคาทองคำไทยถูกแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่ผันผวนซึ่งมีกระแสข่าวการแทรกแซงค่าเงินบาท คำแนะนำนักลงทุนรายวันให้เก็งกำไรตามภาวะขาขึ้น นักลงทุนรายสัปดาห์แนะนำเพิ่มสถานะ LONG POSITION เป็น30-40%ของ Portfolio

 

GFV10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18550 รอขายที่ระดับ 18670

ปัจจัยสำคัญ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐขยายตัว 0.2% ในเดือนส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากยอดการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นเกินความคาดหมาย และหากไม่นับรวมยอดการผลิตรถยนต์พบว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ขยายตัว 0.4%

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และเฟดจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ย. ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำ1294.746ที่ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 15ก.ย. ซึ่งลดลง9.952ตัน จากระดับ1298.698ตันของวันที่ 14 ก.ย.

 

GOLD Market Recap : 15/09/2010

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,269 $ ส่วน Gold Future V10 เปิดที่ 18,580 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,500 ปรับขึ้น 200 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำ ( ราคาต่างประเทศ )อยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 1,275 $ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าเริ่มชะลอตัวลง โดยล่าสุดอยู่ที่ 30.80 บาท ต่อดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงเช้าราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,268 - 1,271 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำต่างประเทศสามารถยืนแนว 1,270 $ ปิดตลาด Gold Future V10 ปิดตลาดที่ 18,590 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ปรับขึ้น 50 บาท ปิดตลาดอยู่ที่ 18,550 บาท นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างหนาแน่น หลังจากที่ Gold Spot ทำ New high ได้

 

NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1270 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1267 - 1271 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1268 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1263 - 1269 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1267 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเงินแล้วหลังค่าเงินเยนพุ่งไม่หยุด

 

Posted on Thursday, September 16, 2010

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 15 ก.ย. 2553)

• ราคานำเข้า (ส.ค.) เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า

• ราคาส่งออก (ส.ค.) เพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า

• ตัวเลขน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ส.ค.) เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 16 ก.ย. 2553)

• ดุลบัญชีเดินสะพัด (Q2/2010) โดย กระทรวงพาณิชย์

• ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

• ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI (ส.ค.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

 

 

ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเงินแล้วหลังค่าเงินเยนพุ่งไม่หยุด

 

นายโยชิฮิโกะ โนดะ รมว.คลังญี่ปุ่นยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินของญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศเมื่อวานนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมี.ค.2547 ที่ทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 

การแทรกแซงตลาดด้วยการเทขายสกุลเงินเยนและเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ มีขึ้นไม่นานหลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ระดับประมาณ 82.90 เยนต่อดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราช่วงเช้านี้วานนี้ แต่หลังจากมีข่าวการแทรกแซงตลาดแล้ว เงินเยนร่วงลงแตะระดับ 84.00 เยนต่อดอลลาร์

 

นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวยังช่วยหนุนดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นถึง 2.34% หรือ บวกประมาณ 217 จุด ในการซื้อขายเมื่อวานนี้

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศครั้งล่าสุดของทางการญี่ปุ่นมีขึ้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2547 และช่วงเวลาที่ปลอดการแทรกแซงตลาดมีระยะเวลายาวนานมากที่สุดถึง 6 ปี 6 เดือน หลังจากที่ญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดเงิน ทางฝากฝั่งมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นต่อการตัดสินใจดังกล่าว

 

นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หวังว่า การเข้าไปแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อวานนี้ จะช่วยสร้างเสถียรภาพในตลาด หลังจากที่สถานการณ์แวดล้อมมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่ตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดหุ้นก็ไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ทางการจึงต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงช่วงขาลงที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศ

 

ผู้ว่าการ BOJ ยังหวังว่า การดำเนินการของกระทรวงคลังในตลาดปริวรรตเงินตรา จะส่งผลให้เกิดเสถียรภาพในอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งธนาคารจะดำเนินการตามนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และจะจัดหาสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินต่อไป

 

 

รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นร้อง BOJ ใช้มาตรการสกัดเงินฝืด

 

มาซายูกิ นาโอชิม่า รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะใช้มาตรการทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืดในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่รัฐบาลและธนาคารกลางได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี

 

พร้อมกับย้ำว่า การแทรกแซงตลาดนั้นสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาให้มีการดำเนินการที่เฉียบขาด หากเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องสกัดเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นโยบายดังกล่าวนั้นรวมอยู่ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้รวบรวมไว้ เพื่อรับมือกับเงินเยนที่พุ่งสูงขึ้น และปัจจัยเสี่ยงช่วงขาลงที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินเยนกับดอลลาร์สหรัฐที่รัฐบาลต้องการนั้น รมว.เศรษฐกิจกล่าวว่า ยังเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ แต่ในส่วนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นนั้น อัตราแลกเปลี่ยนที่มีการตั้งสมมติฐานกันไว้อยู่ที่ 90 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งประเด็นก็คือ แต่ละคนมองเรื่องเพดานของอัตราแลกเปลี่ยนไม่เหมือนกัน

 

 

ญี่ปุ่นชี้ผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค DPJ ไม่เกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดเงิน

 

โยชิโตะ เซนโกคุ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า การที่รัฐบาลตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (DPJ) ต่อไปในการเลือกตั้งเมื่อวันอังคารทีผ่านมา

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายเซนโกคุ กล่าวในการแถลงข่าวว่า การแทรกแซงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2547 นั้น ได้มีการดำเนิกการบนพื้นฐานของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศโดยแท้จริง ซึ่งเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ถูกมองข้ามไป แต่รัฐบาลก็ไม่ได้สั่งการให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นดำเนินงานเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย

 

 

สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นขานรับการแทรกแซงเงินเยน

 

นายฮิโรมาสะ โยเนคุระ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นขานรับการที่รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีครึ่งเมื่อวานนี้ เพื่อสกัดเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม และคาดว่าจะมีการแทรกแซงตลาดอีกในอนาคต

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานสมาพันธ์ยังได้แสดงความหวังว่า นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะปฏิรูปการกำกับดูแล และมาตรการที่เฉพาะเจาะจงอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ภายใต้ยุทธศาสตร์การขยายตัวแผนใหม่ และขอให้นายกฯจัดการประชุมโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อหารือเรื่องการปฏิรูปภาษี การคลัง และระบบประกันสังคม

 

สำหรับงบประมาณพิเศษในปีงบประมาณปัจจุบันที่ทางพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องนั้น ประธานสมาพันธ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการตัดสินใจว่าจะใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ดังนั้นรัฐบาลควรจะประเมินผลพวงจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันว่าได้ผลมากน้อยเพียงใดต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

 

 

เอกชนญี่ปุ่นขนาดเล็กเสียงแตกรับการแทรกแซงเงินเยน

 

ธุรกิจขนาดเล็กของญี่ปุ่นบางส่วนขานรับกับการเข้าไปแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราของทางการญี่ปุ่น เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน

 

ขณะที่บริษัทบางส่วนก็มองว่า ญี่ปุ่นเข้าไปแทรกแซงตลาดช้าเกินไป เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นนั้นได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทไปแล้วก่อนหน้านี้

 

พนักงานของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองจะดีใจถ้ายอดขายที่อ่อนตัวลงก่อนหน้านี้นั้น ฟื้นตัวขึ้น บริษัทของเขามีพนักงานอยู่ 5 ราย มียอดขายที่ลดลงไปเหลือ 1 ใน 10 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

 

ขณะที่พนักงานอีกบริษัทก็กล่าวโทษว่า การที่ยอดขายของบริษัทลดลงนั้นเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (DPJ) สามารถโค่นพรรคเสรีประชาธิปไตยขึ้นมาทำหน้าที่รัฐบาลได้

 

พนักงานรายนี้มองว่า พรรคดีพีเจควรจะใช้มาตรการใหม่ๆ หากการเข้าไปแทรกแซงตลาดเมื่อวานนี้ไม่ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มากมายนักตามมา

 

มาซาคัตสึ ทานากะ ประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือสไตล์ตะวันตก กล่าวว่า รัฐบาลควรจะเข้ามาแทรกแซงตลาดก่อนหน้านี้

 

ด้านพนักงานของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายหนึ่งมองว่า การแทรกแซงตลาดตอนนี้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่สายเกินไป สิ่งที่ญี่ปุ่นสามารถดำเนินการได้เองเพียงลำพังนั้นมีอยู่ไม่กี่อย่าง

 

ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลใช้มาตรการเพิ่มเติมหากพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยยอดขายต่อปีของบริษัทหดตัวลงไปประมาณ 1 พันล้านเยนหรือมากกว่านั้น หลังจากที่เงินดอลลาร์ร่วงลง

 

สำหรับประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรรายหนึ่งมองว่า แม้ว่าการแทรกแซงตลาดจะช่วยพลิกฟื้นกำไรของบริษัทขนาดใหญ่ แต่ธุรกิจรายเล็กก็ไม่ได้อานิสงส์จากการแทรกแซงตลาดเสมอไป

 

พร้อมกับกล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นควรจะพิจารณาไม่เฉพาะแต่เรื่องการสกัดช่วงขาขึ้นของเงินเยน แต่ควรจะมองเรื่องเงินหยวนที่แข็งค่าด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ การส่งออกของญี่ปุ่นไปยังประเทศแถบเอเชียคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดการส่งออกของประเทศ

 

 

คาดราคาบ้านในสหรัฐอาจร่วงอีก 3 ปี หลังบ้านค้างสต็อก

 

คาดกันว่าราคาบ้านในสหรัฐอาจจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปอีกสามปี หลังจากตัวเลขสถิติบ่งชี้ว่ามีบ้านอีกกว่า 12 ล้านหลังที่จะเข้ามาสู่ตลาดในอนาคต โดยเฉพาะจากการหลุดจำนอง โดยราคาบ้านในสหรัฐขยับร่วงลงมาแล้ว 28% จากปี 2006 และนักวิเคราะห์จากมูดดี้ส์, แฟนนี่ เม, มอร์แกน สแตนเลย์ และ บาร์เคลย์ เห็นตรงกันว่าในอนาคต เจ้าของบ้านอาจต้องปล่อยบ้านออกมาสู่ตลาดอีกแม้ว่าจะด้วยราคาที่ตกต่ำก็ตาม

 

โอลิเวอร์ ชาง นักวิเคราะห์ด้านอสังหาริมทรัพย์ของมอร์แกน สแตนเลย์ คาดว่าจากจำนวนบ้านที่อยู่ในตลาดขณะนี้และที่กำลังจะเข้ามาอีกในอนาคต บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าอุปทานบ้านจะมากกว่าอุปสงค์ไปอีกพักใหญ่ และเมื่อตลาดบ้านถึงจุดต่ำสุด มันก็จะใช้เวลาไปอีก 3-4 ปี กว่าที่ราคาบ้านจะเริ่มขยับขึ้น และจะเป็นการขยับแบบช้า ๆ ที่ปีละ 1-2% เท่านั้นเองด้วย

 

โจชัว ชาปิโร หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Maria Fiorini Ramirez Inc ซึ่งเป็นสำนักพยากรณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ในนิวยอร์ก กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของอุปทานบ้าน จะไปขัดขวางนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล เพราะประชาชน จะเลือกรอให้ราคาบ้านตกลงมา มากกว่าจะเข้าไปซื้อบ้านแม้รัฐบาลจะให้สิทธิพิเศษ

 

ยอดขายบ้านใหม่และยอดขายบ้านมือสองตกลงมาสู่จุดต่ำสุดในเดือนกรกฎาคม หลังมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อคนซื้อบ้านของรัฐหมดอายุ รวมทั้งอัตราการว่างงานสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีทำให้ราบ้านเฉลี่ยของสหรัฐ ลดลงมาอยู่ที่ 182,600 ดอลลาร์ ขณะที่บ้านที่อยู่ในตลาด กลับมีมากถึง 4 ล้านยูนิต และต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี เพื่อขายบ้านทั้งหมดนี้

 

โจชัว ชาปิโร ยังคาดการณ์ด้วยว่าราคาบ้าน จะขยับลงไปกว่านี้อีก 10-15% ซึ่งผู้ซื้อบ้านทุกคนก็รู้ว่า ราคาบ้านขณะนี้ยังไม่ใช่จุดต่ำสุด ขณะที่ Mark Zandi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากมูดี้ส์ มีมุมมองที่ดีกว่า คือราคาบ้านน่าจะขยับลงไปอีกเพียง 5% ภายในปี 2013 ก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับขึ้นมาปีละประมาณ 3% และต้องใช้เวลากว่าสิบปี กว่าที่ราคาบ้านจะกลับไปที่จุดเดิม แต่ทั้งนี้ Zandi บอกข้อแม้ว่าจะต้องไม่เกิด Lost Decade ด้วย

 

นอกเหนือจากบ้าน 4 ล้านยูนิตที่อยู่ในตลาดขณะนี้แล้ว ยังมีบ้านอีกกว่า 8 ล้านหลังที่เตรียมเข้าสู่ตลาด และใน 8 ล้านยูนิตนี้ มีกว่า 3.8 ล้านหลังหรือ 5% ของบ้านทั่วสหรัฐ ที่เจ้าของบ้านมีแนวโน้มที่จะขายบ้าย ภายในระยะเวลาหกเดือนข้างหน้าอีกด้วย

 

 

อัตราว่างงานอังกฤษทรงตัว ผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ไม่มีงานทำในช่วง 3 เดือนจนถึงก.ค. ลดลง 8,000 คน มาอยู่ที่ 2.47 ล้านคน ส่งผลให้อัตราว่างงานโดยรวมของอังกฤษ ยังทรงตัวอยู่ที่ 7.8%

 

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2,300 ราย มาอยู่ที่ 1.47 ล้านราย ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกัน สำนักงานฯระบุว่า ผู้ที่ถูกจ้างงานมีจำนวนเพิ่มขึ้น 286,000 รายในช่วง 3 เดือนจนถึงก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรายไตรมาส นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2514 อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนของพนักงานพาร์ทไทม์

 

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเกรงว่า จำนวนคนว่างงานจะสูงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่การลดรายจ่ายของรัฐบาลเริ่มมีผลบังคับใช้ และส่งผลให้เกิดความกังวลว่า ตลาดแรงงานของอังกฤษจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะสนับสนุนภาวะการสูญเสียตำแหน่งงานในภาครัฐที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทบทวนงบประมาณรายจ่ายในเดือนหน้า

 

โฮเวิร์ด อาร์เชอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลบอล อินไซท์ กล่าวว่า ข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุดนี้ถือเป็นตัวเลขที่ทั้งน่าผิดหวังและน่าเป็นห่วง เพราะทำให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นว่า ช่วงเวลาที่ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นนั้นกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากบริษัทต่างๆกังวลกันมากขี้นเรื่องความยั่งยืนและความแข็งแกร่งของการฟื้นตัว

 

 

ฝรั่งเศสคาดลดยอดขาดดุลงบประมาณปีนี้เหลือ 7.8%

 

นายฟรังซัวส์ บาโรอิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณของฝรั่งเศส คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณปี 2553 ของฝรั่งเศสอาจลดลงต่ำกว่าระดับ 8% ของตัวเลขมวลรวมผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (จีดีพี)

 

นายบาโรอิน คาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณจะลดลงต่ำกว่า 8% ภายในสิ้นปี โดยคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 7.8% หรือ 7.9% ของจีดีพี นอกจากนี้ นายบาโรอิน กล่าวเสริมว่า งบประมาณขาดดุลของฝรั่งเศสน่าจะลดลงเหลือเพียง 6% ในปีหน้า

 

ทั้งนี้ นายบาโรอิน กล่าวว่า ฝรั่งเศสซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป กำลังพยายามลดงบประมาณค่าใช้จ่ายลง 1 แสนล้านยูโร (1.2543 แสนล้านดอลลาร์) ภายในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อลดยอดขาดดุลลงเหลือเพียง 4.6% ของตัวเลขจีดีพีในปี 2555 และ 3% ของตัวเลขจีดีพีในปี 2556

 

ส่วนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจฝรั่งเศสในปีนี้ นายบาโรอินกล่าวว่า อาจสูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 1.4% เพียงเล็กน้อย

 

ฝรั่งเศสคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ 1.4% แต่อาจจะขยายตัวได้ถึง 1.5% เนื่องจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งในปีนี้

 

 

คณะกรรมาธิการยุโรปเล็งคุมเข้มชอร์ตเซล

 

คณะกรรมาธิการยุโรปหาทางควบคุมการทำชอร์ตเซลในตลาดการเงินด้วยการเสนอร่างกฎระเบียบใหม่ที่จะควบคุมการทำชอร์ตเซล และการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความซับซ้อน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤตหนี้ยุโรป

 

คณะกรรมาธิการฯ ต้องการที่จะประเมินขอบเขตของการทำชอร์ตเซล และเพิ่มอำนาจให้กับหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล โดยตราสารอนุพันธ์และผลิตภัณฑ์ที่ถูกใช้ในการเก็งกำไรก็จะถูกจับตาด้วยเช่นกัน

 

ตราสารอนุพันธ์และการทำชอร์ตเซลถูกมองว่ามีส่วนทำให้เกิดวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งทำให้เกิดความความผันผวนครั้งใหญ่ในตลาด และยังทำให้เงินยูโรร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยเยอรมนีได้ตัดสินใจสั่งห้ามการทำชอร์ตเซลผลิตภัณฑ์การเงินบางประเภทแล้วเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายประเทศหวังว่าจะมีการใช้มาตรการแบบเดียวกันในอียู เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน

 

มิเชล บาร์เนียร์ คณะกรรมาธิการตลาดภายในของอียูหวังให้กลุ่มอียูใช้กฎเกณฑ์เดียวกันนี้ เพื่อกำหนดให้นักลงทุนเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการทำชอร์ตโพสิชั่นแก่ฐานข้อมูลส่วนกลางมากกว่านี้

 

อย่างไรก็ดี ร่างกฎระเบียบดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและรัฐสภาก่อนที่จะประกาศใช้เป็นกฎหมาย

 

 

จีนเผย FDI เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.38%

 

หยาว เจียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.38% แตะ 7,602 ล้านดอลลาร์

 

ขณะที่ยอด FDI ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว แตะระดับ 65,900 ล้านดอลลาร์

 

หลู เจิงเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์ของอินดัสเทรียล แบงค์ กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของจีนที่อยู่เหนือระดับ 8% นั้น เป็นปัจจัยที่ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามา แม้ว่าจีนจะอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอยู่ก็ตาม

 

หลิว หย่าจุน เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จีนกำลังทบทวนเรื่องนโยบายการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนในต่างประเทศ โดยอุตสาหกรรมที่ควรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ วัสดุประเภทใหม่ ผลิตภัณฑ์ไบโอเมดิซีน การผลิตระดับไฮเอนด์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

 

ขณะที่บริษัทข้ามชาติในจีนได้รับการสนับสนุนให้จัดตั้งศูนย์การวิจัยและพัฒนาขึ้นมา รวมทั้งขยายเครือข่ายอุตสาหกรรมในประเทศ

 

 

Twitter เปิดทางผู้ใช้โพสต์เนื้อหามัลติมีเดียได้ จ่อขึ้นชน Facebook

 

ถึงเวลาที่เว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดังเดินหน้าปรับปรุงบริการของตน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นบนโลกของ Social Network และจ่อขึ้นชิงธงกับผู้นำในธุรกิจอย่าง Facebook

 

ผู้ให้บริการเว็บสังคมออนไลน์ Twitter ที่โด่งดังจากบริการรับส่งข้อความภายใน 140 ตัวอักษร ประกาศปรับปรุงเว็บไซท์ของตนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถโพสท์รูปภาพ วิดีโอ รวมถึงแผนที่ ขึ้นบนหน้าเว็บได้โดยตรง ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับที่ทาง Facebook จัดให้กับสมาชิกของตน

 

Twitter Inc. เปิดเผยความร่วมมือที่ทำไว้กับพันธมิตร 16 แห่งในการอนุญาตให้ผู้ใช้อัพโหลดเนื้อหาที่อยู่ในรูปของมัลติมีเดียขึ้นบนเว็บไซท์ ขณะที่ผู้ใช้ของ Twitter ก็เริ่มที่จะได้เห็นหน้าตาของเว็บที่ถูกออกแบบใหม่ให้แบ่งเป็นสองคอลัมน์ และโชว์เนื้อหาในรูปวิดีโอจากเว็บ Youtube ของบริษัท Google รวมถึงอีกส่วนหนึ่งที่เป็นคอนเทนท์ของเว็บ Flickr จากค่าย Yahoo

 

ความพยายามของ Social Network ชื่อดังนี้ ส่วนหนึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ทางด้านการโฆษณา ที่จะช่วยเปิดช่องทางใหม่ให้กับนักการตลาดให้สามารถใช้มัลติมีเดียสำหรับการทำโปรโมชั่นต่างๆ

 

จริงๆ แล้ว Twitter เริ่มใช้กลยุทธ์ขายโฆษณามาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินค้าผู้บริโภค อย่างเช่น บริษัท Best Buy และ Starbucks ยอมควักเงินเพื่อแลกกับการลงข้อความที่ปรากฎอยู่เหนือช่องค้นหาด้านบนของเว็บไซท์

 

ทางด้านนาย Evan Williams ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Twitter ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่นักโฆษณาต้องการต่อจากนี้ก็คือ การเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะถือเป็นก้าวที่สำคัญและทำให้ทุกอย่างออกมาดีเกินความคาดหมายได้ในที่สุด

 

 

เผยคนสิงคโปร์แห่เที่ยวกาสิโนแห่งใหม่ แม้คิดค่าเข้าแพง

 

รัฐบาลสิงคโปร์เผยว่า มีชาวสิงคโปร์ไปใช้บริการกาสิโนเปิดใหม่ 2 แห่งแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน แม้ว่ารัฐบาลกำหนดค่าเข้าไว้สูงถึง 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,300 บาท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อไม่ให้คนท้องถิ่นไม่ให้เข้าไปเล่นการพนันในกาสิโน

 

รัฐมนตรีการพัฒนาชุมชน เยาวชน และการกีฬาของสิงคโปร์ เผยว่า 7 เดือนหลังกาสิโนเปิด มีคนสิงคโปร์ท้องถิ่นแวะเวียนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน แต่หลังจากกระแสเห่อของใหม่เริ่มจางทำให้ตัวเลขคนสิงคโปร์ที่ไปคาสิโนเริ่มทรงตัว แต่รัฐบาลยังคงย้ำถึงจุดยืน ก็คือ ป้องกันไม่ให้กาสิโนเล็งคนท้องถิ่นเป็นลูกค้าหลัก

 

ล่าสุดการให้บริการรถรับส่งฟรีจากจุดขนส่งหลัก ๆ ได้ถูกระงับจากาทงกาสิโนทั้งสองแห่ง ตั้งแต่สุดสัปดาห์ก่อน เพราะเกรงว่าจะส่งเสริมให้คนทำงานเล่นการพนัน

 

สิงคโปร์เปิดกาสิโนแห่งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนแห่งที่สองเปิดในเดือนเมษายน โดยได้กำหนดค่าเข้าสำหรับชาวสิงคโปร์และผู้มีสิทธิพำนักถาวรไว้คนละ 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วนนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่มีวีซ่าทำงานเข้าฟรี

 

ปัจจุบันประชากรในสิงคโปร์เพิ่มเป็น 5.1 ล้านคนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นชาวสิงคโปร์ 3.2 ล้านคนและชาวต่างชาติที่มีสิทธิพำนักถาวร 540,000 คน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...