ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

+1 ให้คุณทองใหม่ค่ะ ขยันจริงๆ ขอบคุณสำหรับกราฟนะค๊ะ :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ อาจารย์ ทองใหม่ ดีจริงๆๆๆๆ เลยนะครับ เวลาดอลล์ขึ้นเมื่อวันศุกร์ ราคาทองก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง

กลับมาที่เดิม 1,327-1,328 แต่เวลาดอลล์ตก ราคาทองก็ขึ้นมาขานรับทันที นี่ขนาดดอลล์ อินเด็กซ์ แค่ 77 เท่านั้นเอง

เมื่อก่อน 78 ก็มั 79 ก็มี 80 ก็มี ดีครับ เอาอีก เอาอีก นะครับ พี่ดอลล์ รักนะ จุ๊บๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส่งออก 9 เดือนพุ่งสวนบาทแข็ง

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2010 เวลา 08:51 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การค้า-ส่งออก - การค้า-ส่งออก

กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขส่งออก 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย.) หรือช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2553 ส่งออกแล้วมูลค่า 143,144.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วขยายตัวเพิ่มขึ้น 31.70% โดยในเดือนกันยายนล่าสุดส่งออกมูลค่าสูงถึง 18,061.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 21.81% ถือเป็นมูลค่าการส่งออกสูงสุดตั้งแต่ประเทศไทยมีการส่งออกมา ส่วนการนำเข้าช่วง 9 เดือนแรกมีมูลค่า 133,999 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 43.45% เมื่อนำตัวเลขการส่งออกหักตัวเลขนำเข้าไทยยังเกินดุลการค้าอยู่ 9,145.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากตัวเลขการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดีในช่วง 9 เดือนแรก ซึ่งสวนทางกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจากต้นปีประมาณ 12% และกำลังเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกในเวลานี้ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกกล่าวยอมรับว่า ตัวเลขการส่งออกในเดือนกันยายน รวมถึง 9 เดือนแรกที่ยังดูดีเป็นผลพวงจากคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์ล่วงหน้าที่ผู้ส่งออกรับไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคมในช่วงที่ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ตัวเลขการส่งออกที่ปรากฏจึงยังไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทมากนัก พ้องกับนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุว่า นอกจากเป็นผลจากออร์เดอร์ที่รับไว้ล่วงหน้าแล้ว ยังเป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ส่งออกได้มีการเจรจากับคู่ค้าเพื่อขอปรับราคาสินค้าขึ้นในรูปดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งเฉลี่ยปรับขึ้นได้ประมาณ 5-6% จากราคาเดิมจึงทำให้ตัวเลขการส่งออกช่วง 9 เดือนแรกยังขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ส่งออก และกระทรวงพาณิชย์ระบุตรงกันคือ จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคจะทำให้การเจรจาเพื่อรับคำสั่งซื้อส่งมอบไตรมาสที่ 4 รวมถึงต้นปีหน้ามีปัญหา และอาจกระทบต่อตัวเลขการส่งออกที่ลดลงได้

แต่กระนั้นนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ยังมั่นอกมั่นใจว่าเป้าหมายการส่งออกทั้งปีนี้ขยายตัวที่ 20% มูลค่าประมาณ 183,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจะผ่านฉลุย แม้การส่งออกโค้งสุดท้ายจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาททำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยลดลงก็ตาม เพราะจากเป้าหมายการส่งออกทั้งปีที่ 183,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เวลานี้ส่งออกไปแล้ว 143,145 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหากจะทำให้ได้ตามเป้าหมายในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะต้องส่งออกอีกมูลค่า 39,855 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตัวเลขกลมๆ ที่ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ยต้องส่งออกเดือนละประมาณ 13,333 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจึงจะบรรลุเป้าหมาย ซึ่งเชื่อว่าด้วยปัจจัยบวกที่มีอยู่มากจะสามารถทำตัวเลขได้อย่างแน่นอน อาทิ จากความสามารถในการปรับตัวรับการแข่งขันที่สูงของผู้ประกอบการไทย เศรษฐกิจของทุกตลาดสำคัญฟื้นตัว สต๊อกของผู้นำเข้าที่ลดลง และยังมีออร์เดอร์กลับเข้ามากขึ้น การใช้สิทธิประโยชน์ด้าน

ภาษีของความตกลงเขตการค้าเสรีต่างๆ ที่ไทยทำไว้กับต่างประเทศรวม 7 กรอบความตกลง รวมถึงการขยายตัวของการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น ส่วนปัจจัยลบที่สำคัญที่สุดยังเป็นเรื่องค่าเงินบาทที่จะทำให้รายได้รูปเงินบาทที่กลับเข้ามาจะหายไปจำนวนมาก โดยไตรมาสสุดท้ายคาดจะหายไปไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท และทั้งปีไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ในเรื่องค่าเงินบาทนี้แม้ล่าสุดกระทรวงการคลังจะออกมาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือแล้วในเบื้องต้น แต่ผู้ส่งออกสะท้อนว่ามาตรการต่างๆ ที่ออกมายังไม่เพียงพอ ไม่สามารถสกัดเงินบาทให้แข็งค่าขึ้นไปอีกได้และในรายละเอียดของบางมาตรการยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ ในเรื่องนี้ทางกระทรวงพาณิชย์จะทำหน้าที่เป็นตัวประสานงานนำความเห็นของผู้ส่งออกไปนำเสนอต่อกระทรวงการคลังหรือรัฐบาลเพื่อออกมาตรการ และช่วยดูแลให้ตรงจุดต่อไป

อย่างไรก็ตามหากจับประเด็นคำพูดของนางพรทิวาที่มั่นใจว่าในปีนี้การส่งออกจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 20% หรืออาจสูงกว่านี้ หากวิเคราะห์ตัวเลขการส่งออกในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่ต้องส่งออกอีกเดือนละประมาณ 13,333 ล้านบาทต่อเดือนจึงจะบรรลุเป้าหมายทั้งปีที่มูลค่า 183,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้วคงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเวลานี้ในความเป็นจริงการส่งออกของไทยสัดส่วนกว่า 70% ของมูลค่าการส่งออกในภาพรวมอยู่ในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ทั้งไทยและเทศประมาณ 30 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้ในความเป็นจริงได้รับผลกระทบการส่งออกจากเงินบาทที่แข็งค่าค่อนข้างน้อย เพราะมีการบริหารจัดการ และมีการวางแผนรองรับผลกระทบได้เป็นอย่างดี

แต่ปัญหาในเวลานี้อยู่ที่ผู้ส่งออกที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มดีที่สายป่านไม่ยาว อำนาจต่อรองต่ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากผลการสำรวจผู้ประกอบการในเรื่องทัศนคติต่อปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจำนวน 820 ตัวอย่างระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งที่สะท้อนออกมาตรงกันคือ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าและมีความผันผวน โดยธุรกิจที่มีธุรกรรมระหว่างประเทศระบุผลกระทบในเวลานี้ทำให้มียอดการส่งออก ยอดรับคำสั่งซื้อ และกำไรที่ลดลง เพราะไม่สามารถแข่งขันเรื่องราคากับประเทศคู่แข่งที่ค่าเงินแข็งค่าน้อยกว่าไทยได้

ขณะเดียวกันผลสำรวจยังชี้ชัดอีกว่าผู้ส่งออกสัดส่วนกว่า 66% ไม่มีการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน(ฟอร์เวิร์ด) ส่วนอีก 34% ที่มีการทำประกันความเสี่ยงส่วนใหญ่ก็ทำประกันเพียงบางส่วนไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมดของยอดขาย แสดงให้เห็นว่าจากนี้ไปหากรายใดยังรับออร์เดอร์ และไม่มีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงินก็จะยิ่งขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่แลกกลับมาเป็นเงินบาทมากขึ้น ทำให้ส่วนใหญ่ไม่กล้ารับออร์เดอร์ ส่วนที่ยังรับ ก็เหนื่อยกับการเจรจากับลูกค้าในราคาใหม่ที่สูงขึ้นเพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดเท่านั้น ซึ่งหากคู่ค้ารับราคาไม่ได้ก็คงต้องไปหาซื้อจากประเทศอื่นที่ราคาถูกกว่าแทนเช่นกัน

ผู้ส่งออกยังสะท้อนทิศทางธุรกิจอีกว่า หากเงินบาทยังแข็งค่าในระดับปัจจุบัน(เฉลี่ย 29 บาทต่อดอลลาร์) หรือแข็งค่าขึ้นอีก พวกเขาจะสามารถแบกรับภาระดังกล่าวได้อย่างมาก 3 เดือนเท่านั้น และปัญหาที่จะตามมาจากนี้ไปเรียงตามลำดับคือ การขาดสภาพคล่อง ขาดทุน หยุดการจ้างงาน/รับพนักงานเพิ่ม ลดการทำงานล่วงเวลา(โอที) ปลดคนงาน ลดชั่วโมงการทำงานลง และปิดกิจการในที่สุด

ดังนั้นหากตัวเลขการส่งออกในปีนี้ที่ยังสวยหรู และสามารถขยายตัวได้ 20% ตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ แต่จะมีประโยชน์อันใดเล่า หากเนื้อในตัวเลขดังกล่าวต้องมีผู้บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำในเวลานี้คือการออกมาตรการลดผลกระทบจากค่าเงินบาทเพิ่มเติม และมีผลในทางปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยให้กลับคืนมาในเร็ววัน เพื่อทำหน้าที่เป็นเสาหลักค้ำยันเศรษฐกิจไทยได้อย่างมั่นคงแข็งแรงต่อไปในภายภาคหน้า

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,577 24-27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพิ่งเข้ามาแสดงความเห็นครั้งแรกในกระทู้ของอาจารย์ทองใหม่ ขอขอบคุณสำหรับข่าวสารต่างๆที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่สมาชิกได้อ่านเป็นความรู้ครับ

 

กด+ ไม่เป็น แต่+10 ให้ผ่านกระทู้เลยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมหาข่าวตลาดบ้านเราอยู่ นึกในใจว่า ทำไมวันนี้ออกจะสายแล้วยังไม่มีข่าว เพิ่งนึกได้ อ๋อ.......วันนี้วันหยุดชดเชยวันปิยะมหาราช ตลาดบ้านเราปิด ฮาฮา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

-

post-237-086369200 1287974480.gif

post-237-076676900 1287975365.gif

post-237-043077600 1287975377.gif

ถูกแก้ไข โดย ทองใหม่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:rolleyes: อรุณสวัสดิ์คะ อจ.ทองใหม่ ตามกราฟเส้นเขียวมาแล้ว กำลังเปลี่ยนเทรนด์รึป่าวคะ หรือต้องดูนานๆ !10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:rolleyes: อรุณสวัสดิ์คะ อจ.ทองใหม่ ตามกราฟเส้นเขียวมาแล้ว กำลังเปลี่ยนเทรนด์รึป่าวคะ หรือต้องดูนานๆ !10

ตาม4ชม.เส้นเขียวช่องล่างปรากฏแล้ว ถ้าจะเข้าตอนนี้ เขาเรียกว่า เข้าซื้อขาขึ้นแบบเสี่ยง หากขึ้นต่อก็โชคดี เรียกว่าซื้อได้ในราคาที่ต่ำและดีมาก ได้กำไรงาม ข้อเสียก็คือ หากขึ้นแล้วไม่แข็งแรงเกิดลงต่อ เราก็จะติดดอย ถ้าจะเล่นแบบมั่นคงขึ้นอีกหน่อย ก็ต้องรอแท่งเขียวที่กราฟ4ชม.ปรากฏก่อน หากแท่เขียวที่ปรากฏยังเล็ก ก็ต้องระวังหน่อยเพราะยังไม่แข็งแรงพอ จะให้มั่นคงกว่านั้น ก็ต้องรอแท่งเขียวเริ่มจากแท่งที่2เป็นต้นไป และแท่งต้องใหญ่ขึ้นก็จะมั่นคงขึ้นแบบเสียงน้อยมากๆ โอกาสที่จะพลาดมีน้อยมาก หากยังพลาดเรียกว่า ดวงไม่ดีครับ ฮาฮา สุดที่ดวงครับ แล้วแต่เพื่อนๆจะตัดสินใจ แบบชอบเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงน้อย เลือกตามใจชอบได้เลยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตาม4ชม.เส้นเขียวช่องล่างปรากฏแล้ว ถ้าจะเข้าตอนนี้ เขาเรียกว่า เข้าซื้อขาขึ้นแบบเสี่ยง หากขึ้นต่อก็โชคดี เรียกว่าซื้อได้ในราคาที่ต่ำและดีมาก ได้กำไรงาม ข้อเสียก็คือ หากขึ้นแล้วไม่แข็งแรงเกิดลงต่อ เราก็จะติดดอย ถ้าจะเล่นแบบมั่นคงขึ้นอีกหน่อย ก็ต้องรอแท่งเขียวที่กราฟ4ชม.ปรากฏก่อน หากแท่เขียวที่ปรากฏยังเล็ก ก็ต้องระวังหน่อยเพราะยังไม่แข็งแรงพอ จะให้มั่นคงกว่านั้น ก็ต้องรอแท่งเขียวเริ่มจากแท่งที่2เป็นต้นไป และแท่งต้องใหญ่ขึ้นก็จะมั่นคงขึ้นแบบเสียงน้อยมากๆ โอกาสที่จะพลาดมีน้อยมาก หากยังพลาดเรียกว่า ดวงไม่ดีครับ ฮาฮา สุดที่ดวงครับ แล้วแต่เพื่อนๆจะตัดสินใจ แบบชอบเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงน้อย เลือกตามใจชอบได้เลยครับ

 

อรุณสวัสดิ์คร้า..จารย์ท่วมรึยังค้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์คร้า..จารย์ท่วมรึยังค้า

ยังไม่ท่วมครับ............................ !17 !17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ อ. ปกติชอบแอบอ่าน แต่เห็น อ. บอกว่ามีคนแสดงตัวน้อย เลยต้องแสดงตัวหน่อย กลัวอ. น้อยใจแล้วหายไปอีกน่ะคะ่ :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ อ. ปกติชอบแอบอ่าน แต่เห็น อ. บอกว่ามีคนแสดงตัวน้อย เลยต้องแสดงตัวหน่อย กลัวอ. น้อยใจแล้วหายไปอีกน่ะคะ่ :lol: :lol:

post-237-046308200 1287982403.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...