ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

หัวใจทองคำกับรอยหยักของสมอง

โพสต์แนะนำ

Kung KamolkorndrP8vlvSl_8.gifเตรียมอนุบาล

ตามนี้อ่ะ ลองในเดโมซะก่อนนะ เพื่อจับตาดูพฤติกรรมมันก่อน อินดี้นี้อยู่ระหว่างทดสอบความแม่นยำของตำแหน่งเส้นต่างๆ ใช้วิธี pending order และจุดSLตามในภาพ เท่าที่ทดลองใช้มา พบว่า ตั้งSL ใกล้เส้นเกินไป เพนดิ้งได้ออเดอร์มา จะโดนแหลก SL ไปซะหลายไม้เรย ต้องตั้งให้ห่างๆ หน่อยนะจร๊า ขอย้ำว่าใช้เพื่อดูเปนแนวทาง ส่วนคนที่จะเทรดให้ทดสอบในเดโมจนแน่ใจแล้วเท่านั้นนะ ถ้าใช้งานได้ดี มาชมกันได้ แต่ถ้าใช้แล้วไม่ดี ห้ามมาด่านะจร๊า กร๊ากกกกกกกกกกกก

 

1044013_396531077118387_2052273992_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Kung Kamolkorn uploaded a file in the group เตรียมอนุบาล.

เอาเทมเพลทนี้ไปใส่ก่อนนะ ลองดูว่าขึ้นภาษาไทยให้หรือไม่ เพราะยังหาสาเหตุของการขึ้นภาษาไทยมาให้ไม่ได้เรยอ่ะจร้า บางโบรคขึ้น บางโบรคไม่ขึ้น

 

 

 

(1)gold cama 8.tpl

Download

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

7Catalog

 

9 สิ่งที่คุณไม่ควรเก็บมาใส่ใจให้ปวดหัว

1005253_563907723671317_617523313_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวของประชาชาติธุรกิจ “ล็อก4หมื่นไร่ผุดฟลัดเวย์-ถนนไฮเวย์ฝั่งตต. ผ่าน6จังหวัด "นครสวรรค์-มอเตอร์เวย์"เมืองกาญจน์” อ้างบริษัทที่ปรึกษาของโครงการน้ำเองนี่แหละ บอกเองว่าฟลัดเวย์จะก่อให้เกิดพื้นที่ชลประทาน 6 แสนไร่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีเด้อ ตู้เย็น บ่ต้องเอิ้นข้อยว่าน้อง ลูกข้อยเปิ้นอยู่มหาลัยปี ๒ . ๑ แหล่ว

 

 

:53 กะบ่แน่ดอก !!!! ลูกเป็นหนุ่มเป็นสาว เฮา 2 คน กะอาจสิอายุซำกันกะได๋

ข้อยมีลูกซ้ากว่าหมู่รุ่นเดียวกัน....บ่เอิ้น กะ บ่เอิ้น เน๊าะ สังเกตอยู่ว่าหลาย ๆ ท่าน

เอิ้นคุณ ginger ว่าป้า... กะเลยคิดว่า คุณginger คือสิรุ่น ๆ เดียวกันกับข้อย

เห็นเขียนภาษาวัยรุ่นได๋น่ารัก....กะเลยคิดว่าอาจสิเป็นน้อง จังได๋กะขอโทษเด้อ

บ่ได๋ตั้งใจ เลยอาจสิบ่ระมัดระวังเท่าที่ควร...อันได๋ล่วงเลินหรือบ่เหมาะบ่ควร

กะขอโทษอีกเถือ....บ่ได้เคียดเด้อ...แต่เว้าตามความจริง เว้าตามความรู้สึก

คึดจังได๋กะเว้าไปจังซั้น

 

 

:_Rd ช่วงนี้กะยังบ่หายหยุ่งเลย เหมื่อยคักอีหลี

 

:01 ขอบคุณหลาย ๆ สำหรับข้อมูลข่าวสาร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

432068_432691656781541_1046276508_n.jpg

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน

 

4 กรกฎาคม 2556

----------------------------------------------------------------------------

 

General News

 

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนเดือน มิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 48.3 จาก 47.2 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนียังคงต่ำว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของภูมิภาคยังคงหดตัว แต่หดตัวในอัตราที่ผ่อนคลายลง โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของธุรกิจบริการในเยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ส่วนประเทศสำคัญอื่น เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส ยังอยู่ในภาวะหดตัวรุนแรง

 

• S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือคู่ค้าระยะยาวของธนาคารใหญ่ 3 แห่ง คือ บาร์เคลส์ ดอยช์แบงก์ และเครดิตสวิสกรุ๊ป จากระดับ A+ เป็น A มุมมองมีเสถียรภาพ หลังจากประเมินว่า สถาบันการเงินเหล่านี้เผชิญความเสี่ยงมากขึ้นจากกฎระเบียบในภาคการเงินที่เข้มงวดขึ้น , ภาวะตลาดเงินตลาดทุนของโลกมีความเปราะบาง รวมถึงเศรษฐกิจยุโรปอยู่ในภาวะชะงักงันและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากวิกฤตหนี้

 

• นายเจอโรเม พาวเวลล์ หนึ่งในผู้ว่าการของเฟด เปิดเผยว่า ยังมีความเป็นไปได้มากที่เฟดจะสนับสนุนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง ส่วนเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2%

 

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐสิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 343,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

• ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 135,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. โดยธุรกิจภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 161,000 ตำแหน่ง

 

• ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียเดือน พ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากที่ปรับตัวลดลงในเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงปรับตัวเพิ่มน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าภายในบ้าน และรับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง

 

• อัตราแลกเปลี่ยนเงินรูปีอ่อนค่าใกล้แตะระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ โดยเงินรูปีอ่อนค่ามาแล้วเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากนักลงทุนต่างชาติยังคงถอนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเดือน มิ.ย. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ไปแล้วกว่า 7.1 พันล้าน ดอลล่าร์ เนื่องจากมีความกังวลต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

 

• ธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของจีน ได้เพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่ออีก 2.30 แสนล้านหยวนในเดือนมิ.ย. จากระดับ 6.67 แสนล้านหยวนในเดือนพ.ค. เนื่องจากในเดือนมิ.ย. รัฐบาลท้องถิ่นและภาคพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น

 

• สำนักวิจัย ธ.ซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า เฟดจะยังไม่สามารถลดวงเงินมาตรการ QE ในปีนี้และยุติในปี 2557 ได้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันยังไม่เข้าสู่ช่วงขยายตัวอย่างที่แท้จริงตามที่คาดการณ์ไว้ และยังมองว่าเฟดมีมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจดีเกินไป เช่น คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.7% ในปีนี้ และ 3 – 3.5% ในปี 2557 ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวเพียง 1.9% และ 2.6% ในปี 2557

 

• ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เตือนว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกควรเพิ่มงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมให้มากขึ้น เนื่องจากช่องว่างระหว่างรายได้ถือเป็นความเสี่ยง โดยประเทศที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจแบ่งปันไม่เท่าเทียมกัน จะส่งผลต่อความเป็นปึกแผ่นทางสังคม ก่อให้เกิดความไม่สงบและนำไปสู่ความขัดแย้งได้

 

• นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผอ.อาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีธนาคารจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ เข้ามาหารือเรื่องการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ (Subsidiary) รายใหม่ในไทย โดย ธปท.จะออกใบอนุญาติให้กับ Subsidiary รายใหม่ได้ไม่เกิน 5 ราย โดยจะคัดเลือกนาคารต่างประเทศที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดและจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนมิ.ย. 2557

 

• นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เปิดเผยว่า ไม่ห่วงเรื่องเงินไหลออกในช่วงนี้ เพราะเป็นเงินที่ไหลเข้ามาก่อนหน้านี้ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น และมองว่ายังไม่กระทบกับระบบโดยรวม และยังเชื่อมั่นว่าสภาพคล่องในระบบยังมีเพียงพอ

 

• นายธีระ ภู่ตระกูล นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย แนะนำแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้สิน หลังจากหนี้ภาคครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้น โดยให้เริ่มจากการสำรวจภาระหนี้ ว่ามีสัดส่วนหนี้ที่ก่อให้เกิดความมั่งคั่ง (หนี้กู้ยืมบ้านหรือหนี้เพื่อการศึกษาบุตร) และหนี้ไม่ก่อให้เกิดความมั่งคั่ง (หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล) จำนวนเท่าใด โดยจำนวนเงินผ่อนชำระต่อเดือนไม่ควรเกิน 36% ของรายได้ หากสูงเกินกว่านี้อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคตได้ ขณะเดียวกันควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ใช้จ่ายตามความจำเป็นและทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อให้ทราบรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริง

 

Equity Market

 

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม

กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท

นักลงทุนสถาบัน 771.14

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -1,010.32

นักลงทุนต่างชาติ -3,385.50

นักลงทุนทั่วไป 3,624.68

 

• SET Index ปิดที่ 1,443.57 จุด ลดลง -20.41 จุด หรือ -1.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50,984.88 ล้านบาท โดยตลาดผันผวนตลอดทั้งวัน และปิดตลาดในแดนลบตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อเศรษฐกิจในยุโรปที่ยังคงชะลอตัว รวมถึงปัจจัยในประเทศที่เริ่มมีการออกมาปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ

 

• นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 15-20% จากเดิมที่คาดไว้ 15-30% โดยสาเหตุที่มีการปรับลงเนื่องมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัว หลังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนเหมือนในปี 2555 รวมถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ก็ยังไม่มีความชัดเจน

 

Fixed Income Market

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุ โดยเปลี่ยนแปลงช่วงระหว่าง 0.00% ถึง -0.04 โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิที่ระดับ 388 ล้านบาท และยังคงเป็นการขายต่อเนื่องในพันธบัตรรุ่นอายุมากกว่า 1 ปี

 

• อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกสอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 8.2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 55 เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเรื่องความคืบหน้าของมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งหากความต้องการพันธบัตรรัฐบาลลดลง นั่นหมายความว่าการที่โปรตุเกสจะกลับเข้ามาถึงแหล่งเงินทุนในตลาดตราสารหนี้อีกครั้งอาจต้องใช้เวลานานออกไป

 

 

Gold Corner

 

• สิงคโปร์ เปิดตัวตลาดซื้อขายโลหะมีค่าพร้อมด้วยบริการซื้อขายทองคำแท่งระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย โดยตรงเป็นครั้งแรกของโลก โดยร่วมมือกับบริษัท Certis CISCO ซึ่งทำหน้าที่เก็บรักษาทองคำแท่งให้กับลูกค้าแต่ละราย และตั้งเป้าจะคว้าส่วนแบ่งการตลาด 10-15% ของการซื้อขายทองคำแท่งทั่วโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า รวมถึงช่วยสนับสนุนตลาดซื้อขายทองคำในประเทศและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน เทรดเดอร์ และสถาบันต่างๆ

 

(แทน)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:53 กะบ่แน่ดอก !!!! ลูกเป็นหนุ่มเป็นสาว เฮา 2 คน กะอาจสิอายุซำกันกะได๋

ข้อยมีลูกซ้ากว่าหมู่รุ่นเดียวกัน....บ่เอิ้น กะ บ่เอิ้น เน๊าะ สังเกตอยู่ว่าหลาย ๆ ท่าน

เอิ้นคุณ ginger ว่าป้า... กะเลยคิดว่า คุณginger คือสิรุ่น ๆ เดียวกันกับข้อย

เห็นเขียนภาษาวัยรุ่นได๋น่ารัก....กะเลยคิดว่าอาจสิเป็นน้อง จังได๋กะขอโทษเด้อ

บ่ได๋ตั้งใจ เลยอาจสิบ่ระมัดระวังเท่าที่ควร...อันได๋ล่วงเลินหรือบ่เหมาะบ่ควร

กะขอโทษอีกเถือ....บ่ได้เคียดเด้อ...แต่เว้าตามความจริง เว้าตามความรู้สึก

คึดจังได๋กะเว้าไปจังซั้น

 

 

:_Rd ช่วงนี้กะยังบ่หายหยุ่งเลย เหมื่อยคักอีหลี

 

:01 ขอบคุณหลาย ๆ สำหรับข้อมูลข่าวสาร

ขอบใจหลายเด้อที่เล่า ตู้เย็นเขียนได้ม่วน

บ่ต้องขอโทษเด้อ เฮาสิเป็นเพื่อนกันเนาะ บ่ต้องเอิ้นคุณเด้อ

คึดว่าตู้เย็น อารมณ์ดีหลาย เป็นตาฮัก หยุ่งนักก็พักสิน้อยเด้อ

หัดเว้า ผิด ถึกจะใดก็บอกให้ฮู้เนาะ

1002757_426991827407736_1400466140_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นวัยรุ่นคุณgingerกะวัยรุ่นคุณตู้เย็นคุยกัน ขอแจมด้วยคนนะคร๊าบ :53

 

http://youtu.be/5LLGDJph_uw

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thursday, 4 July 2013

 

ข้อคิดการลงทุนในภาวะตลาดผันผวน

 

« USD Futures | Main

สวัสดีค่ะเราเริ่มครึ่งหลังของปีกันแล้วนะคะ หกเดือนที่ผ่านมานี้นับเป็นช่วงที่ท้าทายความสามารถของทุกๆ ท่านเนื่องจากราคาหุ้นและดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ไทยนั้นเคลื่อนไหวทั้งขึ้นและลงในแต่ละวันด้วยความรวดเร็วและในขนาดที่มาก SET Index มีจุดสูงสุดที่ 1,649.77 จุด และต่ำสุดที่ 1,338.81 จุด ในขณะที่ SET50 Index ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ Futures วิ่งอยู่ระหว่าง 899.82 จุด ถึง 1,096.29 จุด โดยความผันผวนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาดูจะส่งสัญญาณบวก ผู้ลงทุนจากประเทศตะวันตกจึงปรับลดน้ำหนักการลงทุนในแถบเอเชียเพื่อเตรียมกลับไปลงทุนในสหรัฐ ตลาดหุ้นในเอเชียจึงตกอยู่ในภาวะการถูกขายออกมาอย่างหนักจากผู้ลงทุนต่างประเทศ ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเมื่อปิดครึ่งแรกของปี ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดไปที่ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้นจากเมื่อสิ้นปีก่อน59.97 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 4.31% ในวันนี้จึงขอนำข้อคิดของ Dr. Robert Webb และ Mr. Alexander Webb ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์พฤติกรรมและธรรมชาติของการซื้อขายและผู้ที่เป็นผู้ลงทุนและเทรดเดอร์ในตลาดล่วงหน้า รวมถึงมีผลงานการเขียนหนังสือ Shock Markets: Trading Lessons for Volatile Times ที่มาให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนชาวไทย มาเล่าสู่กันฟังในหัวเรื่อง “สาเหตุหลักที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ขาดทุน” โดยเขาได้วิเคราะห์ผ่านพฤติกรรมของมนุษย์ในการตัดสินใจด้านการเงินการลงทุน โดยเริ่มจาก ประโยคที่สำคัญ “Cut your losses short and let your profits run” ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ควรทำ แต่เป็นเรื่องยากที่เราทุกคนจะทำได้ เพราะมิฉะนั้นแล้วก็คงได้กำไรจากการซื้อขายกันถ้วนหน้า เพราะพฤติกรรมของผู้ลงทุนหรือเทรดเดอร์แต่ละท่านนั้นมักมีข้อด้อยในหลายๆ เรื่อง

 

Over Confidence ความมั่นใจสูงในความสามารถของตนเอง โดยจากการศึกษามักพบว่าเพศชายจะมีความมั่นใจในเรื่องนี้สูงกว่าเพศหญิง ตัวอย่างก็คือเมื่อมั่นใจในแผนการลงทุนของตนเองแล้ว จึงไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้าว่าตลาดอาจมีความผันผวน ทำให้ไม่ได้เตรียมใจไว้ ต้องเคลื่อนไหวตามตลาด ปรับเปลี่ยนการซื้อขายบ่อยขึ้นตามสภาวะตลาด เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นและอาจลดทอนกำไรที่ควรจะได้ หรือบางครั้งก็เกิดผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และในบางกรณีก็ไม่กระจายพอร์ตการลงทุนเพราะมั่นใจเกินไป จึงมีความเสี่ยงสูงขึ้น

 

ปัจจัยในเรื่องของการจัดการกับความเสี่ยง ทั้งในเรื่องของ Risk Aversion/ Loss Aversion/ Disposition Effect โดยพฤติกรรมของมนุษย์ปุถุชนเรานั้นมักบอกว่าตนเป็นคนไม่ชอบความเสี่ยง (Risk Aversion) ดังนั้น ในกรณีที่มีทางเลือกในการได้รับผลตอบแทนหรือผลกำไร จึงมักเลือกทางที่มีความแน่นอนมากกว่า โดยแม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนหรือกำไรในจำนวนที่น้อยกว่า อีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่เสี่ยงสูงกว่า แต่มนุษย์คนเดียวกันนี้กลับตัดสินที่จะรับความเสี่ยงมากขึ้น ในกรณีที่พอร์ตของเขาเริ่มขาดทุนหรือมีโอกาสที่จะขาดทุนได้ เพราะคนส่วนใหญ่มักไม่ยอมตัดผลขาดทุนแต่เนิ่นๆ แต่กลับทนยอมรับกับความเสี่ยงที่จะมีผลขาดทุนรออยู่ข้างหน้า พฤติกรรมนี้แสดงถึงว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับความเสี่ยงมากขึ้นในกรณีที่เกิดผลขาดทุน แต่จะไม่ค่อยรับความเสี่ยงกรณีมีผลกำไร หรือแปลความได้ว่า ผู้ลงทุนยอมที่จะรับความเสี่ยงเพื่อเพียงรักษาเงินต้น (ไม่ยอมขาดทุน) มากกว่าที่จะยอมรับความเสี่ยงเพื่อหาผลกำไร และพฤติกรรมเช่นนี้ยังนำไปสู่การตัดสินใจที่มักจะขายของที่ดีที่สุดออกไปจากพอร์ตและคงเหลือของที่ขาดทุนไว้ในพอร์ต เมื่อเวลาเราเริ่มเห็นการขาดทุนของพอร์ต

 

Mental Anchoring ผู้ลงทุนมักจะติดกับกับดักของราคาที่เขาซื้อมา โดยไม่ยอมที่จะยอมรับกับข้อมูลใหม่ที่มีเข้ามา เพราะในยามที่สินทรัพย์ที่เราลงทุนนั้นมีข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ราคาที่เราซื้อมานั้น ไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว แต่เราก็มักจะรอจนราคานั้นกลับมาเท่าเดิมจึงขายออกไป ในทางที่ถูกนั้น ควรจะหาทางที่จะขายออกไปตั้งแต่เมื่อผิดทางแล้ว ไม่ควรที่จะรั้งรอเพื่อรอราคากลับมาที่เดิม ซึ่งอาจไม่กลับมาทำให้เราถือของที่ขาดทุนอยู่เป็นเวลานาน ท่านผู้แต่งหนังสือทั้งสอง ยังได้ยกตัวอย่าง การลงทุนของ GIC ซึ่งกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ และ Warren Buffet ที่ไม่ลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเกิดผลขาดทุน เสียแต่เนิ่นๆ แต่กลับถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวจนในที่สุดก็เกิดผลขาดทุนเป็นจำนวนสูงในหลายปีต่อมา

 

Heuristics not Statistics เป็นการย้ำให้เราตระหนักถึงการวิเคราะห์ตัวเลขทางสถิติ ที่ในหลายๆ ครั้งเรามักยึดติดค่าทางสถิติเหล่านี้มากเกินไป โดยอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง ณ ขณะนั้นๆ โดยที่ตัวเลขทางสถิตินั้นเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนมากและมีระยะเวลายาวนาน แต่สำหรับ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง อาจเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของค่าสถิตินั้น จึงไม่อาจใช้ค่าสถิติมาทำนายได้ เช่น (ขอยกตัวอย่างเองนะคะ) อัตราผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้นไทยในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น ได้รับผลตอบแทนโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 12% แต่ในช่วงของปีใดปีหนึ่งนั้น ผลตอบแทนของหุ้นไทยอาจมากกว่า หรือ น้อยกว่าอัตราดังกล่าวก็ได้ เพราะไม่ใช่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว

 

การที่เทรดเดอร์หรือผู้ลงทุนจะประสบความสำเร็จในการซื้อขายนั้น คงต้องเรียนรู้จากประสบการณ์และต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่ถือว่าเป็นกับดักที่จะนำไปสู่ความล้มเหลวต่างๆ ได้แก่ Failure to cut losses short ความล้มเหลวที่ไม่ตัดผลขาดทุนอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการที่ไม่อดทนการรอคอยให้ผลกำไรเพิ่มพูนมากขึ้น Failure to let profit run ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำง่าย เนื่องจากภาวะตลาดที่อาจมีความผันผวนระหว่างทาง และในบางครั้งก็รอเนิ่นนานไปจนกระทั่งผ่านจุดสูงสุดและกลายเป็นผลขาดทุนที่ย้อนกลับมาไม่ได้ และในหลายๆ ครั้งที่เราไม่ได้ Cut Loss แต่โชคช่วยที่ราคาสินทรัพย์นั้นกลับทิศอย่างไม่คาดฝัน ก็เลยทำให้ผลขาดทุนที่ไม่ยอมตัดใจนั้นกลับมาเป็นบวกได้ เรื่องเหล่านี้มีผลต่อการบริหารพอร์ตในกรณีที่ต้องการลดโพสิชั่น ซึ่งมักจะลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงก่อน เพราะราคาที่ขายได้นั้นมักเป็นราคาตลาด แต่ถ้าเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องน้อยมักต้องเสียส่วนลดเพื่อชดเชยความไม่มีสภาพคล่อง ทำให้ต้องถือครองสินทรัพย์พวกนี้ไว้ ซึ่งอาจเป็นผลเสียเมื่อต้องยกเลิกกองทุนหรือพอร์ตทั้งหมด เพราะอาจเกิดผลขาดทุนจำนวนมาก

 

รวมทั้งการฝังใจกับราคาที่ซื้อเข้ามาในพอร์ต และความพยายามที่จะรอให้ราคากลับมาที่เดิม เพราะเมื่อผิดทางแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดก็คือ ทำอย่างไรถึงจะออกตัวได้อย่างเร็วที่สุดมากกว่า Failure to listen to the market ทั้งนี้ ผู้ลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่ดีต้องรู้จักฟังเสียงจากตลาด เพราะการไม่รับรู้นั้นทำให้เราไม่สามารถตัดใจCut Loss ในเวลาอันเหมาะสมได้ จนบางครั้งพลาดโอกาสอันควรไป หรือบางครั้งการมีสัญชาตญาณการดูตลาดจะช่วยให้ท่านทำกำไรได้ เช่น ในช่วงก่อนการบุกคูเวตของซัดดัม ฮุสเซ็น ราคาน้ำมันดิบได้ค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างผิดปกติ โดยไม่มีสาเหตุจากปัจจัยพื้นฐาน แต่เทรดเดอร์ Jerry Parker ก็ได้ใช้หลักการตามน้ำโดยการเข้าซื้อ และเมื่อเกิดการบุกคูเวตขึ้นจริงๆ ราคาน้ำมันก็พุ่งสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม อย่าเชื่อมั่นในทฤษฎีหรือความคิดของตนจนเกินไป โดยเมื่อซื้อขายไปแล้ว มีความผิดพลาด ตลาดไม่เป็นไปตามคาด ก็ต้องยอมรับกับสถานการณ์

 

สุดท้ายแล้ว อย่าซื้อขายมากจนเกินตัว Excessive Leverage เราควรมีวินัยในการตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหาย โดยเฉพาะในตลาดอนุพันธ์นั้นเมื่อมีผลขาดทุนก็จะต้องนำเงินประกันส่วนเพิ่มมาวางเพิ่มเติม ผู้ซื้อขายจึงต้องประเมินความสามารถของตนเองในการที่จะกำหนดสถานะที่จะถือครองสัญญาอนุพันธ์ หลักเบื้องต้นก็คือ เรามีเงินเพียงพอในการที่จะยอมรับผลขาดทุนได้หรือมีเงินประกันมาเพิ่มได้อย่างไม่เดือดร้อนในกรณีที่เกิดผลขาดทุนขึ้น แล้วก็อย่าเทรดบ่อยครั้งจนเกินไปเพราะต้องเสียคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นด้วย

การที่จะซื้อขายหุ้นหรืออนุพันธ์ ท่านต้องมีแผนชัดเจนในเรื่องของราคาที่เข้าซื้อขายและกำไรที่คาดการณ์ไว้ แต่อย่าซื้อขายเพราะคาดว่าหรือเขาบอกมา เพราะแสดงว่าท่านเองก็ไม่แน่ใจในการซื้อขายและยังไม่แน่ใจว่าจะทำกำไรเมื่อใด เพราะถ้าท่านมีแผนที่แน่นอนแล้ว หากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ท่านก็จะสามารถตัดสินใจ Cut Loss ได้ง่ายขึ้น

webblog_7_kesara.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซาหวัดดี ชาย yot

 

 

Stock2morrow shared Infographics by S2M's photo.

อย่าหยุดหาความรู้กันนะครับ

 

INFOGRAPHIC: Sector BANKING Q1/2556

 

Cr. Infographics by S2M

 

 

1044341_271467869657862_1687516356_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวลา 10.00 น.

 

สำหรับ SET50 Index Futures (S50U13) จะมีแนวรับแนวต้านระยะสั้นรายวันดังนี้

 

แนวรับที่ระดับ 960 จุด

แนวต้านที่ระดับ 980 จุด

 

ติดตามกลยุทธ์ได้กับ บทวิเคราะห์ SET50 Index Futures จาก MTS Gold แม่ทองสุก

 

ประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2556

 

1016539_632608890083030_159274009_n.jpg

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับบทวิเคราะห์ทองคำจาก MTS Gold แม่ทองสุก ประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค. 2556 (ภาคเช้า)

 

เวลา 10.00 น.

 

MTS Gold คาดว่าในวันนี้จะมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,225 เหรียญ แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,260 เหรียญ

 

สำหรับ Gold Futures จะมีแนวรับแนวต้านระยะสั้นรายวันดังนี้

 

Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,530 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,730 บาท

Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,800 บาท

 

ถ้าท่านต้องการรายละเอียดสามารถติดตามได้ในบทวิเคราะห์ Dr. Gold Analysis

382530_632608690083050_1549135828_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

เจริญครับประเทศนี้ ยังจะมีเลือกตั้งมีสภา มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลไปให้เปลืองภาษีกันไปทำไมหละนี่ ในเมื่อสารพัดเรื่องก็ต้องไปจบที่ตาแก่ไม่กี่คน ...

*********

ทำไมหุ้นรับเหมาร่วง?

 

พ.ร.บ.กู้2ล้านล้านขัดรธน.'คณิต'แนะทำเป็นก.ม.งบประจำปี-ขู่เปิดเวทีรณรงค์ถ้ารัฐไม่ฟัง "ยิ่งลักษณ์"สั่งเดินหน้า"วราเทพ"ประสานงานนำก.ม.2ล้านล้าน เข้าสภาทันทีส.ค.นี้

 

คปก.ชี้"พ.ร.บ.เงินกู้2ล้านล้าน"ขัดรัฐธรรมนูญ ยกมาตรา 169 ยันเงินกู้เป็นเงินแผ่นดิน จ่ายเงินได้ต้องจัดทำตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ ชี้เงินกู้ลัดขั้นตอนฝ่ายนิติบัญญัติไม่ได้ตรวจสอบตลอด 7 ปีของการกู้เงิน แผนยุทธศาสตร์ไม่ผ่านการศึกษาความคุ้มค่าทางการเงิน เศรษฐกิจ สอนมวยรัฐรอบคอบ ก่อนออกพ.ร.บ.ต้องคำนึงสิทธิประชาชนและการมีส่วนร่วมขู่รัฐไม่ฟังเปิดเวทีรณรงค์ ด้านนายกฯสั่งครม.เศรษฐกิจเดินหน้าโครงการทันทีหลังรัฐสภาเห็นชอบ "ชัชชาติ" ลั่นไม่สะดุดเหมือนโครงการน้ำ

 

โบรกเกอร์กล่าวว่า-ความเห็นของ คปก. ในข่าวข้างล่าง หากเรื่องนี้ทำให้เกิดความล่าช้าในการใช้จ่ายเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จะถือเป็นปัจจัยลบต่อการคาดการณ์ GDP ปี 2557 (2014) ให้มีความเสี่ยงขาลง (downside risk) จากคาดการณ์ปัจจุบันของ Consensus Economics , ธนาคารแห่งประเทศไทย และ ของ Nomura ซึ่งทั้งหมดคาดการณ์ การเติบโตของ GDP ที่ 5.0% ในปี 2014

 

· หากไม่มีการใช้จ่ายเพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวในปี 2014 คาดว่าหน่วยงานต่างๆอาจจะต้องมีการปรับลดการคาดการณ์ GDP ปี 2014 ลงมาราว 0.8-1.2 pp จากคาดการณ์เดิม

 

· ทั้งนี้ในการคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2013-14 ของ ธปท. ได้ใช้สมมติฐานการใช้จ่ายดังกล่าวจำนวน 1.7 หมื่นล้านบาทในปี 2013 และ 9.3 หมื่นล้านบาท ในปี 2014 IRIS คิดว่าน่าจะทำให้การคาดการณ์ GDP ปี 2014 ของ ธปท. มีความเสี่ยงขาลง ราว 0.8 pp

 

 

1000098_578398998878862_2057916058_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ร่วมพูดคุยในหัวข้อวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคเกี่ยวกับราคาทองคำ

ทางรายการมือใหม่ (ตอนสุดท้าย) ทางช่อง Money Channel ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2013

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...