ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

หัวใจทองคำกับรอยหยักของสมอง

โพสต์แนะนำ

รักนะ อยากดูแล

ในโลกกลม ๆ ใบนี้

ไม่มีใครที่ได้อะไรมาฟรี ๆ

โดยที่ไม่เสียอะไรเลย ☺

 

 

1016852_530842396969382_1866346511_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทำอย่างไร? ให้การลงทุนของเรา “น่าเสี่ยง”

 

ครั้งก่อนผมทิ้งท้ายไว้ว่า จะมาเล่าเรื่องจริงของการลงทุนที่ “น่าเสี่ยง” ให้ฟังกัน วันนี้ผมมาใช้หนี้ตามที่สัญญาไว้ครับ

ช่วงปี 2551 ผมลงทุนกู้เงินซื้อคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทเพื่อปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติ คอนโดหลังดังกล่าวราคา 2,500,000 บาท แผนการเบื้องต้นของผมก็คือ ผมจะกู้เต็มจำนวน 100% ทำให้มีภาระผ่อนส่งเดือนละ 15,000 บาท ในขณะที่ห้องลักษณะเดียวกันในพื้นที่ดังกล่าว เก็บค่าเช่าได้เดือนละ 20,000 - 22,000 บาท ค่าส่วนกลางเป็นภาระของผู้เช่า นั่นหมายถึง หากเป็นไปตามแผน ผมจะได้กระแเสเงินสดจากการลงทุนเดือนละประมาณ 5,000 - 7,000 บาท

ฟังดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไร แค่กู้เงินมาซื้อ แล้วก็ปล่อยให้เช่าไป คิดง่ายๆว่า ขอให้ค่าเช่าสูงกว่าเงินผ่อนชำระธนาคารก็น่าจะพอแล้ว ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ง่ายอย่างนั้นครับ ...

เพราะในทุกการลงทุนมีความเสี่ยงอยู่แล้วไม่มากก็น้อย หากเราไม่เตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ไว้ ก็เป็นไปได้ว่าการลงทุนอันสวยงามของเราอาจจะกลายเป็นการลงทุนที่แสนขมขื่นไปเลยก็ได้ เอาง่ายๆแค่ว่า ไม่มีคนมาเช่าสัก 3 เดือน การลงทุนนี้ก็ส่งผลกระทบกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเราเองแล้วครับ

แนวคิดในการจัดการกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับการลงทุนนั้น ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการตั้งคำถามกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบ (โดยเฉพาะทางลบ) กับ 4 ส่ิงดังต่อไปนี้

รายได้ - รายจ่าย - ทรัพย์สิน - หนี้สิน

และต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างรายการคำถามที่ผมใช้พิจารณาเพื่อหาความเสี่ยงอย่างคร่าวๆ ครับ

1. (รายได้) คอนโดหลังนี้ทำรายได้ 20,000 - 22,000 บาทต่อเดือน จริงหรือไม่

2. (รายได้) ค่าเช่าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปหรือไม่ ในระยะสั้น ถ้าห้องว่าง จะทำอย่างไร ในระยะยาว จะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นหรือไม่ คอนโดใหม่ๆจะมาสร้างเพ่ิมหรือเปล่า ถ้ามีมาสร้างเพิ่ม แล้วจำนวนผู้เช่าในพื้นที่หละ จะเพิ่มตามไปด้วยหรือไม่

3. (รายได้) กรณีผู้เช่าก่อปัญหา อาจเกิดจากอะไรได้บ้าง และต้องเตรียมการอย่างไร

4. (รายจ่าย) รายจ่ายที่โบรกเกอร์บอก เป็นของจริงหรือไม่ มีอะไรอีกหรือเปล่าที่ยังไม่ได้บอก ถ้าวันหนึ่งรายจ่ายเพิ่มขึ้น หรือลูกค้าผลักภาระให้เรา (เช่น ค่าส่วนกลาง) อัตราการผลตอบแทนการลงทุนจะเปลี่ยนไปอย่างไร

5. (รายจ่าย) มีค่าธรรมเนียม หรือภาษีอะไรบ้าง ที่อาจถูกคิดเพิ่มเติม เช่น ภาษีโรงเรือน เป็นต้น

6. (ทรัพย์สิน) ในอนาคตทรัพย์สินมีโอกาสเพิ่มหรือลดมูลค่าได้หรือไม่ เพราะอะไร มีแนวทางอะไรบ้างหรือไม่ที่จะปรับเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินได้

7. (หนี้สิน) ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยหรือเปล่า ถ้ามีจัดการอย่างไร ฯลฯ

ยกตัวอย่างการจัดการความเสี่ยงอย่างง่ายๆ เช่น กรณีของความเสี่ยงที่ว่า ค่าเช่าจะเป็น 20,000 - 22,000 ต่อเดือนจริงหรือไม่นั้น

ประเด็นนี้ผมจะลงพื้นที่ เดินดูห้องโดยรอบคอนโดมิเนียมนั้นว่าเขาปล่อยให้เช่ากันในราคาเท่าไหร่ และจะไม่ลืมดูที่พักบริเวณโดยรอบ (นอกเหนือไปจากคอนโดที่จะซื้อ) ด้วยว่า ห้องลักษณะเดียวกัน ขนาดเท่ากัน เขาปล่อยเช่าเดือนละเท่าไหร่ (ต้องดูคู่แข่งด้วย) เป็นต้น

นี่เป็นตัวอย่างคำถามและคำตอบเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้คุณผู้อ่านพอมองเห็นแนวคิดให้การวิเคราะห์ และจัดการกับความเสี่ยง ก็อย่างที่บอกไปครับว่า ลงทุนอะไรมันก็เสี่ยงทั้งนั้น คำถามสำคัญคือ มันเสี่ยงแต่เราบริหารจัดการมันได้หรือไม่

และแม้จะคิดป้องกันทุกอย่างไว้สรตะแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายได้อยู่เสมอ ... แต่อย่างน้อยการคาดการเบื้องต้นไว้อย่างครอบคลุม ก็เป็นการช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบทางการเงินไปได้มาก ไม่ทำให้คุณเจ็บตัวจากการลงทุน ที่สำคัญ มันทำให้การลงทุนของคุณ​ “น่าเสี่ยง” ขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลยครับ

พบกันฉบับหน้า

ก+ Ctrl+

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปั้นข้าวเหนียว

มีชีวิตเป็นต้นทุน

มีบุญเป็น กำไร

จะได้มากได้น้อยแค่ไหน

ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำ

 

 

1000827_597798296908816_645406523_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1044098_520709244650736_915395348_n.jpg

ความมั่งคงของใจสำคัญยิ่ง

หากเราสุจริตในการทำหน้าที่

อุปสรรคก็เป็นเพียงสิ่งท้าทาย

ใหัใช้สติ ปัญญา เพื่อก้าวไป สู่เป้าหมาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

941181_520673541320973_1889055080_n.jpg

การตัดสินใจ

 

การตัดสินใจ

มิเพียงขึ้นอยู่กับข้อมูล

หากขึ้นอยู่กับทักษะและวิสัยทัศน์

ใจที่นิ่งจะตัดสินใจได้ดี

คลื่นรบกวนใจ จะสงบได้

หากการตัดสินใจนั้นเป็นแผนทีวางไว้

โดยไตร่ตรอง ทบทวน มิใช่หุหัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

\บทความ : ราคาต้นทุนหน้าเหมืองทองคำ

 

 

 

Submitted by admin on Sat, 07/06/2013 - 11:36

 

 

 

goldmine_0.jpg

 

 

 

หลังจากเหล่าสถาบันการเงินต่างๆปรับมุมมองราคาทองคำโลกลงทั้งของปี 2013 และ 2014 เป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ต้นปี สาเหตุก็อย่างที่ทุกคนทราบคือความกังวลว่าเฟดจะยุติมาตรการ QE และห่วงว่าดอกเบี้ยสหรัฐกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้งหลังเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัว ทำให้เกิดแรงขายทองคำออกมาโดยเฉพาะจากกองทุน SPDR Gold Trust ที่ทยอยขายออกมาต่อเนื่อง ทำเอาตลาดเริ่มวิตกว่าทองคำกำลังจะเข้าสู่ช่วงพักฐานนานเป็นสิบปีกว่าจะมีการปรับขึ้นมาใหม่อีกรอบเหมือนในช่วงหลัง ค.ศ.1980 หรือไม่

ประเด็นที่นักลงทุนเป็นห่วงกันมากที่สุดคือ ราคาทองคำจะลงไปต่ำสุดที่เท่าไหร่

ก่อนหน้านี้เคยเกริ่นไว้บางส่วนแล้วว่าต้นทุนหน้าเหมืองของแต่ละบริษัทในแต่ละประเทศอาจจะไม่เท่ากัน แต่จะอยู่ราวๆ $900-1,290 เหรียญต่อออนซ์ แต่ตรงแถว $1,200-,1290 เหรียญต่อออนซ์นี่เป็นต้นทุนของพวกเหมืองที่ประสบปัญหาค่าแรงสูงเพราะมีการประท้วงกัน แต่หากไปดูเหมืองใหญ่ๆจริงๆแล้ว ราคาต้นทุนทองคำจะอยู่ราวๆ $900-1,150 เหรียญ

ยกตัวอย่าง 4 บริษัทเหมืองทองคำที่ใหญ่ๆของโลกเช่น

บริษัท Goldcorp ต้นทุนอยู่ที่ $1,135 เหรียญต่อออนซ์

บริษัท Newmont ต้นทุนอยู่ที่ $1,115 เหรียญต่อออนซ์

บริษัท Kinross ต้นทุนอยู่ที่ $1,038 เหรียญต่อออนซ์

บริษัท Barrick ต้นทุนอยู่ที่ $1,038 เหรียญต่อออนซ์

ต้นทุนเหล่านี้นอกจากรวมต้นทุนค่าขุดเจาะเหมืองแล้วก็ยังรวมค่าปฏิบัติงานอื่นๆด้วย รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน ฯลฯ ซึ่งใครที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า มีวิธีการ Hedge หรือป้องกันความเสี่ยงทั้งราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า หรือเรียกว่ามี Efficiency ก็จะมีต้นทุนการผลิตทองคำที่ต่ำกว่าคู่แข่ง

เนื่องจากต้นทุนเหมืองอยู่ระดับที่โชว์ข้างต้น ทำให้โอกาสที่ราคาทองคำโลกจะลงต่ำกว่าก็คงยากพอสมควร เพราะถ้าลงมาต่ำกว่าต้นทุนเหมือง การลดกำลังการผลิตทองคำเพื่อพะยุงราคาทองคำไม่ให้ตกลงเหมือนเวลากลุ่มโอเปกทำกับราคาน้ำมันก็คงเกิดขึ้นบ้าง แต่ควรระมัดระวังเหมือนกันเพราะในอดีต ราคาทองคำตลาดโลกเคยต่ำกว่าต้นทุนหน้าเหมืองก็เคยมีในช่วงภาวะตลาดทองคำเงียบเหงามากๆ

"ราคาต้นทุนทองคำหน้าเหมือง เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยหนุนราคาทองคำไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้เท่าไหร่ แต่ถ้าคุณเป็นนักเก็งกำไรทางเทคนิค ซื้อด้วยกราฟ คุณก็ควรขายด้วยกราฟ ถ้าคุณเป็นนักลงทุนสะสมทองคำในระยะยาว ราคาทุนหน้าเหมืองจะเป็นตัวช่วยบอกคุณว่า ราคาต่ำกว่า $1,250 ลงไปเป็นจังหวะสะสมทองคำแท่งแล้ว จะเลือกลงทุนด้วยเหตุผลอะไร เลือกให้เหมาะสมกับนิสัยตัวเองก่อน แล้วอย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่งั้นก็คงไม่ต่างกับแมงเม่าทั่วๆไปในตลาดเก็งกำไรทั่วๆไปในตลาดเก็งกำไร"

เขียนโดย สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช

ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก

เผยแพร่โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2556 15:30 น.

www.manager.co.th

gbx.jpg

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.globlex.co.th

www.gold.in.th

http://www.gold.in.th/node/1782

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รักนะ อยากดูแล

ในโลกกลม ๆ ใบนี้

ไม่มีใครที่ได้อะไรมาฟรี ๆ

โดยที่ไม่เสียอะไรเลย ☺

 

 

1016852_530842396969382_1866346511_n.jpg

941181_520673541320973_1889055080_n.jpg

การตัดสินใจ

 

การตัดสินใจ

มิเพียงขึ้นอยู่กับข้อมูล

หากขึ้นอยู่กับทักษะและวิสัยทัศน์

ใจที่นิ่งจะตัดสินใจได้ดี

คลื่นรบกวนใจ จะสงบได้

หากการตัดสินใจนั้นเป็นแผนทีวางไว้

โดยไตร่ตรอง ทบทวน มิใช่หุหัน

ปั้นข้าวเหนียว

มีชีวิตเป็นต้นทุน

มีบุญเป็น กำไร

จะได้มากได้น้อยแค่ไหน

ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำ

 

 

1000827_597798296908816_645406523_n.jpg

ขอบคุณคุณginger มากๆค่ะ ชอบมากๆค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตู้เย็นเฮาคึดว่า จะเป็น เพื่อน พี่ น้อง ได้ทั้งหมด โอบ่

เพลงอีสานบ้านเฮา

 

 

:v@ โอค๊า...เอิ้นอีหยั๋งกะได๋ เฮาบ่มีปัญหา ได๋เหมิด

วันหยุดกะพักผ่อนแน่เด้อ....เป็นห่วงสุขภาพจร้าาาาาา.....!!!!!!

ถูกแก้ไข โดย ตู้เย็น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ : Buddhadasa Indapanno Archives

สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา

เห็นทุกสิ่งที่เกิดดับดั่งนี้ชื่อว่าเห็นทุกข์

เพราะทุกข์นั้นก็คือเกิดดับ

เห็นว่าสิ่งใดเกิด สิ่งนั้นก็ต้องดับ

และต้องเป็นดั่งนี้ครอบโลกไปหมด

จึงเห็นสัจจะคือความจริงที่ครอบโลกทั้งหมด

 

สมเด็จพระสังฆราช

 

รวมสาระธรรม บน instagram

http://instagram.com/suanmokkh_bkk

 

 

 

1005424_10151727718580535_404268336_n.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

6wbbN8.jpg

 

 

ANAK

 

 

FREDDIE AGUILAR

 

 

 

เพลงนี้เดิมเป็นเพลงภาษาฟิลลิปปินส์ร้องโดย เฟรดดี้ อากิล่า ชื่อ อแน๊ก แปลว่า "หนูน้อย"

 

ได้มีการแปลภาษาออกมาหลายประเทศ รวมทั้งเฟรดดี้ ขับร้องด้วยตัวเขาเองเป็นภาษาอังกฤษ

อากิล่า ได้แต่งเพลงนี้เพื่อให้กับเด็กวัยรุ่นทุกคน เนื่องจากตนเองตอนเป็นวัยรุ่นได้หลบหนีออก

จากบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตตามที่ตนต้องการ ทำให้พ่อของเขาโกรธมาก เขาได้ใช้ชีวิตเล่นกีรต้าร้องเพลง

ต่อมา เขาก็ได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อขอโทษพ่อและแม่ เพลงของเขาได้รับการแปลถึง 26 ประเทศและ

สามารถจำหน่ายได้ถึง 30 ล้านแผ่น หลังจากดังขึ้นมาแล้วเขาจึงได้กลับไปบ้านขอโทษพ่อและแม่ และเขา

ก็ได้นำเพลงนี้ให้พ่อแม่ฟังด้วย พ่อแม่ก็ไม่โกรธเขาอีกต่อไป เมื่อพ่อเขาเสียชีวิตลง เขาก็ได้อยู่ทำศพให้กับพ่อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

XTo

 

ขอบคุณคุณginger มากๆค่ะ ชอบมากๆค่ะ

ขอบคุณคะคุณ ginger บทกลอนดีจังเลยคะ

 

 

:v@ โอค๊า...เอิ้นอีหยั๋งกะได๋ เฮาบ่มีปัญหา ได๋เหมิด

วันหยุดกะพักผ่อนแน่เด้อ....เป็นห่วงสุขภาพจร้าาาาาา.....!!!!!!

สวัสดีค่ะ ทุกคน

 

DANCE

fD1001355_527609677294820_145342514_n.jpgE

 

DDDif.dpuf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ ตู้เย็น ดอกเหมย ลูกแก้ว jingjo Alan Lavender yot T_G juy hong GoldLeng อยากเล่นด้วยคน ต่าย gejen แทุกท่าน

1016932_528322053890249_631785553_n.jpg

จีน The perfect Storm

 

จีนแค่จาม มะกันก็ฮัดเช้ย !

---------------------------

 

กาแฟดำ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 8 กรกฎาคม 2556

 

เมื่อรัฐบาลบอกว่า อัตราโตทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้ จะต้องปรับลงจากปีละ 5.3% เป็น 4.5%

 

เพราะว่าหนึ่งในปัจจัย คือ เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว เราก็ต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดกว่าเดิมอีกหลายย่างก้าว

 

หลายปีมาแล้วที่การเฟื่องฟูของเศรษฐกิจจีน ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่มี “อะไรซ่อนเร้น” หรือเป็นการ “ตีฟู” หรือไม่

 

แม้ว่านักวิเคราะห์ตะวันตก จะตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของสถิติอย่างเป็นทางการของปักกิ่ง แต่จีน ก็สามารถแสดง “ปาฏิหาริย์” ด้วยตัวเลขเติบโตของผลผลิตมวลรวม หรือ GDP ในระดับ 8-10% อย่างต่อเนื่องมาตลอด แม้ระยะหลังจะเริ่มแผ่วลงไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถรักษาอัตราโตได้ที่ 7-8%

 

แต่สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ความกังวลเดิมเริ่มกลับมาหลอกหลอนนักวิเคราะห์อีกรอบหนึ่ง เมื่อมีความหวาดหวั่นว่าระบบการเงินนอกระบบ สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนของรัฐในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของจีน “มากและเร็วเกินเหตุ”

 

วันที่ตลาดหุ้นจีนดิ่งเหวเมื่อสัปดาห์ก่อน สร้างความตื่นตระหนก ไม่เพียงแต่ในเอเชีย หากแต่ตลาดหุ้นทั่วโลก ก็พลอยหวั่นไหวไปด้วย

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดความโกลาหลในกรณีนี้ มีอยู่สองประการ ดังนี้

 

หนึ่ง คือ อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารจีนกันเอง พุ่งขึ้นอย่างน่ากลัว หลังจากธนาคารกลางของจีน แสดงความเป็นห่วงว่าการให้กู้ขยายตัวเกินกว่าที่ควร และจะต้องมีการเข้าไปควบคุมเพื่อปรับลดให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล

 

สอง คือ การวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่ของ Fitch Ratings ที่ชื่อ Charlene Chu ซึ่งวิพากษ์ว่าตัวเลขทางการของปักกิ่ง ไม่น่าเชื่อถือเพราะว่ามีการปิดบังซ่อนเร้นการขยายตัวอย่างน่ากลัวของ “การธนาคารเงา” อันหมายถึงการให้กู้ยืมที่ไม่ปรากฏในระบบธนาคารปกติ ซึ่งได้ขยายตัวไปอย่างมากมาย จนอาจจะถึงจุด “วิกฤติ”

บางคนเรียกเศรษฐกิจจีนส่วนที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง ว่าเป็น “Frankenstein economy”

 

ระบบกู้ยืมที่ไม่อยู่ในระบบปกติ แปลว่า ไม่มีการรายงานในบัญชีธรรมดา หรือที่เรียกว่า off-balance-sheet transactions นี่แหละที่นักวิเคราะห์คนนี้บอกว่ากำลังจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของจีนอยู่ในภาวะอ่อนไหว และอาจจะเกิดอะไรที่ไม่อาจคาดหมายได้

 

และกลุ่มธุรกิจที่ใช้วิธีการกู้เงินโดยไม่ผ่านระบบรายงานธรรมดา ก็คือ รัฐวิสาหกิจทั้งหลายที่ทำผ่านรัฐบาลท้องถิ่นและธนาคารรัฐนั่นเอง

 

ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลจีนต้องเข้าไปขุดคุ้ย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสอย่างแท้จริง

 

ในช่วงที่นักวิเคราะห์คนนี้ออกรายงานเรื่องนี้ ตรงกับที่เกิดปัญหา “ขาดแคลนสภาพคล่อง” ระหว่างธนาคารที่ถูกบีบจากธนาคารกลาง เพราะกลัวจะเกิด “ฟองสบู่” ในวงการอสังหาริมทรัพย์

 

สองข่าวนี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ซึ่งก็เกิดภาวะไม่ต่างกับจุดไม้ขีดไฟใกล้ ๆ ถังน้ำมัน ที่พร้อมจะลุกโชนได้ฉับพลัน

 

และในช่วงเดียวกันนั้นเอง ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ นายเบน เบอร์นันเก้ ก็ออกข่าวทำนองว่าอาจจะชะลอ หรือระงับการฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า QE ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมหาศาล

 

สองสามเรื่องนี้เกิดขึ้นใกล้ ๆ กัน ก็กลายเป็น Perfect Storm หรือ พายุยักษ์ ที่ซัดกระหน่ำตลาดหุ้น ตลาดการเงินการทองอย่างหนักหน่วง ไปทั่วโลก

 

ถามว่า สถานภาพเศรษฐกิจจีนน่ากลัวไหม คำตอบก็คือว่า หากติดตามสิ่งที่ผู้นำจีนคนใหม่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พยายามจะทำ คือ การลดการพึ่งพาเงินกู้หรือเครดิตง่าย ๆ และค่อยๆ ผ่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อความยั่งยืน อย่างแท้จริง

 

แต่ตลาดหุ้นและตลาดการเงิน มักจะ “แตกตื่น” ง่ายกว่าที่ควรจะเป็นเสมอ ทั้งๆ ที่ ผู้บริหารธนาคารกลางจีนกับสหรัฐ พยายามจะปลอบตลาดทั้งโลก ด้วยการยืนยันคล้ายๆ จะบอกว่า

 

“ไม่ต้องห่วง แม้เราจะพยายามลดการฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจที่ไม่จำเป็น แต่เราก็จะค่อยทำค่อยไป ไม่หักด้ามพร้าด้วยหัวเข่า อย่างแน่นอน...”

 

กระนั้น “ตลาด” ที่มักจะถูกกระชากลากถูด้วย “ความโลภ” สลับกับ “ความกลัว” เสมอ ก็ยังไม่ยอมรับรู้คำว่า “ความยั่งยืนและเสถียรภาพ” ในระยะกลางและระยะยาวอยู่ดี

 

ต้องยอมรับความจริงว่า จีนไม่อาจจะมีอัตราโตของจีดีพี ในระดับ 8-10% ตลอดไปได้ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการยอมรับว่า จะหนี “ฟองสบู่” ไม่ได้แน่

 

หรือ...จะคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ จะต้อง “ปั๊มเงิน” เข้าระบบตลอดเวลา ก็เป็นการฝืนความจริงอย่างไร้เหตุไร้ผล...อย่างแน่นอน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน

 

8 กรกฎาคม 2556

----------------------------------------------------------------------------

 

General News

 

• ฮาลิแฟ็กซ์ ธนาคารของลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยว่า ราคาบ้านของอังกฤษในช่วงไตรมาสสิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งขยับขึ้นเหนือระดับ 1-2% ของช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พร้อมระบุว่า ราคาบ้านในไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2553 ที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นถึง 4.6%

 

• องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า GDP ที่แท้จริงของประเทศสมาชิกในกลุ่ม ปรับตัวขึ้น 0.4% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 เมื่อเทียบกับการขยายตัวที่ทรงตัวในไตรมาสก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนการขยายตัวของGDP โดยมีส่วนให้ GDP ในภาพรวมขยายตัว 0.3% ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะเดียวกันการส่งออกสุทธิและการเพิ่มสต็อกต่างก็ช่วยให้ GDP ขยายตัว

 

• สมาพันธ์ธนาคารออมทรัพย์แห่งสเปนคาดว่า เศรษฐกิจสเปนจะขยายตัว 0.7% ในปี 2557 หลังจากที่หดตัวลง 1.5% ในปี 2556 ทั้งนี้ ทางสมาพันธ์ได้ปรับทบทวนการคาดการณ์อัตราขยายตัวสำหรับปีหน้าเพิ่มขึ้น 0.1% จากการประเมินครั้งก่อน

 

• ก.เศรษฐกิจเยอรมนีเผยยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานของเยอรมนีในเดือน พ.ค. อ่อนตัวลง 1.3% จากเดือน เม.ย. ที่ 2.2% นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เยอรมนียังคงประสบปัญหาในการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยยอดสั่งซื้อที่ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ยังสวนทางกับนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้คาดการณ์ไว้ว่า จะขยายตัวขึ้น 1.2%

 

• นายกรัฐมนตรีเปโดร ปาสซอส โคเอลโญของโปรตุเกสเผยมีแนวทางที่จะช่วยประคับประคองรัฐบาลผสมเอาไว้ได้ หลังจากการลาออกของนายเปาโล พอร์ตาส รมว.ต่างประเทศและนายวิเตอร์ กาสปาร์ รมว.คลังเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน โดยนายปาสซอส โคเอลโญกล่าวว่าการลาออกของนายพาร์ตาสเป็นเพียงการตัดสินใจส่วนตัว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ตามปกติของรัฐบาลผสม

 

• รัฐบาลกรีซแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงเงินกู้งวดใหม่จำนวน 8.1 พันล้านยูโรกับทรอยก้าได้ภายในวันจันทร์นี้ โดยประเด็นหลักที่ยังติดค้างอยู่คือความคืบหน้าเกี่ยวกับการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากในภาครัฐเพื่อลดขนาดและยกเครื่องข้าราชการพลเรือน ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้ภายในวันจันทร์นี้ กรีซอาจจะได้รับเงินช่วยเหลือล่าช้าออกไปอย่างน้อย 2 เดือน และอาจส่งผลให้รัฐบาลกรีซจำเป็นต้องเปิดประมูลตั๋วเงินคลังอายุ2 เดือนเพิ่มเติมพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

 

• ก.แรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 195,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวในระดับเดิมที่ 7.6% โดยการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นประกอบกับการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จุดกระแสให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับปัจจัยหนุนให้ขยายตัวได้ดีขึ้น แม้ว่าจะมีการปรับเพิ่มภาษีเงินเดือนและหน่วยงานรัฐบาลเริ่มปรับลดการใช้จ่าย

 

• นายอาเหม็ด อัล มิสลีมานี ที่ปรึกษาด้านสื่อของประธานาธิบดีอียิปต์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งนายเอลบาราดีหรือผู้ใดให้จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อย่างเป็นทางการ และกล่าวต่อไปว่า ยังมีการหารือกันอยู่ในเรื่องการเสนอชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่นายกฯรักษาการ โดยรัฐบาลชุดรักษาการจะต้องเป็นรัฐบาลที่เข้ามาบริหารจัดการวิกฤตในช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

 

• ก.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนมิ.ย. ลดลง 1.153 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.239 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากการร่วงลงของราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและราคาทองที่รัฐบาลญี่ปุ่นถือครองอยู่

 

• ผลสำรวจของธนาคารกลางญี่ปุ่นเผยว่า ประชากรมองว่าราคาสินค้าและบริการในประเทศจะเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปีนับจากนี้ มีจำนวนถึง 80.2% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2551 โดยผลสำรวจล่าสุดนี้นับเป็นสัญญาณว่า ความพยายามของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจที่จะผลักดันให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดนั้นอาจประสบผลสำเร็จ

 

• สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือน พ.ค. โดยดัชนีพ้องเศรษฐกิจซึ่งประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นแตะ 105.9 จากระดับ 105.1 ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบกับระดับฐานของปี 2553 ที่ 100 ส่วนสำหรับดัชนีนำเศรษฐกิจ ปรับขึ้นที่ 110.5 จาก 107.7 ในเดือนก่อนหน้า

 

• ศูนย์วิจัยการพัฒนาของคณะรัฐมนตรีจีนได้เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการที่ยั่งยืนในการกำกับดูแลตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ โดยนโยบายซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจะแตกต่างไปจากนโยบายที่ไม่รัดกุมก่อนหน้านี้ โดยจะให้ความสำคัญกับผลในระยะยาว โดยอ้างอิงข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการ

 

• รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจีนออกมาเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับความเสี่ยงจากยอดหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับโครงการการลงทุน โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ระบุเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกลางอาจจะถูกกดดันให้ช่วยเหลือทางการเงินแก่รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งเพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน

 

• คณะรัฐมนตรีจีนได้ออกมาย้ำว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายเงินตราอย่างรอบคอบ เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยคลายแรงกดดันของธนาคารพาณิชย์ หลังจากที่เกิดความวิตกกังวลเรื่องการผ่อนคลายนโยบาย ในช่วงที่เกิดภาวะสภาพคล่องตึงตัวในตลาดอินเตอร์แบงก์เช่นนี้ โดยรัฐบาลจะใช้เครื่องมือด้านนโยบายเชิงปริมาณและราคา เพื่ออัดเงินเข้าระบบและทำให้มั่นใจว่าจะมีการใช้เงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

• เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เห็นชอบที่จะเปิดนิคมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแกซองของเกาหลีเหนืออีกครั้ง และจะจัดการเจรจาร่วมกันในวันที่ 10 ก.ค.ที่นิคม เพื่อหารือเรื่องการดำเนินการเพื่อให้นิคมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เช่น การป้องกันไม่ให้เกิดการปิดนิคมโดยที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 2 ฝ่ายอีก

 

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2556 เหลือเติบโต 4.0% หรือกรอบคาดการณ์ 3.8-4.3% จากเดิมที่คาดไว้ 4.8% หรือกรอบคาดการณ์ที่ 4.3-5.3% เนื่องจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก จากการชะลอตัวของการใช้จ่ายในภาคประชาชนจากหนี้ครัวเรือนที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางความเสี่ยงจากรายได้และเงินออมที่เพิ่มช้ากว่าภาระหนี้ ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงความไม่แน่นอนการส่งออกหากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง

 

Equity Market

 

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม

กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท

นักลงทุนสถาบัน (1,142.52)

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 199.13

นักลงทุนต่างชาติ 1,332.08

นักลงทุนทั่วไป (388.69)

 

• SET Index ปิดที่ 1,441.33 จุด เพิ่มขึ้น 10.45 จุด หรือ 0.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36,828.62 ล้านบาท วันนี้รีบาวด์มาในแดนบวกตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย หลังจากปรับตัวลงติดต่อกันในช่วง 2 วันที่ผ่านมา รับผลบวกเชิงจิตวิทยาจากการที่ธนาคารกลางยุโรปตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป โดนกลุ่มที่หนุนตลาดขึ้นคือกลุ่มธนาคาร พลังงาน และ อสังหาริมทรัพย์ โดยเพิ่มขึ้น 1.2% 1.6% และ 0.8% ตามลำดับ

 

Fixed Income Market

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 5 ปีขึ้นไป โดยเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วงระหว่าง -0.01% ถึง 0.01% มูลค่าการซื้อขายรวม 88,504 ล้านบาท

 

• บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวแก่หุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของ ING Bank N.V. (ING Bank) ที่ ‘AAA(tha)’ โดยมีจำนวน 5.74 พันล้านบาท และ จำนวน 4.26 พันล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระในปี 2557 และ 2559 ตามลำดับ

 

(แทน)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...