ร้านกาแฟ "มั่วทองกับน้องรี"

[patcharin 51]

สวัสดีค่ะ คุณหมอเล็ก คุณงูดิน พี่แพท พี่อารายา Khun Keng09 น้องนับตัง น้องรูสสส น้องมัย คุณแบล็ก น้องมัย Khun itums คุณเล็กสตู น้องสาวมือใหม่ คุณSea คุณเด็ก คุณBullish คุณMsmit และเพื่อนๆ คอกาแฟทุกท่าน

 

นสพ.เฮียกัมพล วันนี้มีกราฟน้องดอลลี่ ใครมีของลุ้นให้อ่อนค่านะขอบอก http://www.thaigold..../page__st__6165

นสพ.Khun P59 (กูรูขวัญใจพี่น้องรี วิเคราะห์ขาขึ้นเก่งมากเลย) แอบจิ๊กมาฝาก กราฟเมื่อวาน http://www.thaigold....2/page__st__390

 

 

พี่น้องรี ดูตามปฏิทินปี 2009 ปลายเดือนยังมีเด้งอีกรอบ แต่กลางเดือนหน้าให้ระวัง (ถ้าผิดโทษปฏิทิน ถ้าถูกก็ได้กำไร )

 

การลงทุนมีความเสี่ยงสูง โปรดพิจารณาให้รอบครอบทุกครั้งด้วยตัวของท่านเอง

 

คุณน้องรีขรา ตอนนี้พี่แพทมะสนของถูกแร้วคร้า กลัวมันลงนานเป็นเดือนๆ มันเบื่ออะคร้า ให้มันเด้งไปเลยดีก่า มันหวิวๆอะคร้า เด๋วจาเอากำไรไปเที่ยวซะหน่อย

[MOR LEK 2,835]

ถ้าวันนี้โยมรู้สึกท้อแท้หรืออ่อนแอผิดหวัง

ถ้าวันนี้โยมรู้สึกท้อแท้หรืออ่อนแอ

อาตมาขอฝากไว้ ๔ คำ อย่า ทำ นม หก

คือให้เขียนเรียงลงมาว่า อย่า ทำ นม หก

อย่า..ท้อเมื่อพลาดพลั้ง

ทำ...ความหวังขึ้นมาใหม่

นม...นานสักปานใด

หก...ล้มไปเพียงชั่วคราว

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 28, 2010 โดย MOR LEK

[keng09 410]

สวัสดีค่ะพี่น้องรี คุณMorlex คุณBlackและทุกๆท่านหลังจากหยุดไปทำธุระเร่งด่วนไม่ได้เข้าNetเลยกระทู้ก็วิ่งไปไกลเห็นข่าวคุณพ่อน้องเอมยังไม่ล้าสมัยก็เอามาให้อ่านกันเผื่อมีประโยชน์ในการวางแผนค่ะอยากประกาศตามหาคุณน้องกลิ่นหายไปนานตอนเริ่มเล่นกราฟใหม่ๆเคยใช้Indyของคุณน้องกลิ่นด้วยค่ะและขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาshareกันทุกเรื่องราวค่ะ

 

พ่อน้องเอม

Full Member

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 502

 

 

 

Re: $$$$$$$$$ รวยทองแบบขํา ขํา สไตล์พ่อน้องเอม $$$$$$$$$

« ตอบ #2021 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 04:47:02 PM »

 

--------------------------------------------------------------------------------

 

สวัสดีคร๊าบ.....บ ทู๊กทุกท่าน ช่วงนี้มาบ่อยซะหน่อย เพราะมีน้องทองให้กอดเหลืออยู่นิดเดียวเอง กลัวตกขบวนเหมือนกัน ดูๆแล้วน้องทองแรงดีเกินคาด เฮียคิมคงอัดยาบ้าให้น้องทองเข้าไปหลายเม็ด ยังดีที่แนวต้าน $1380 ยังต้านไว้อยู่ หากสัปดาห์หน้าไม่หลุดแนวรับ $1350 ลงมา ทุกคนก็เตรียมทยอยเก็บเข้าพอร์ตไว้บ้างก็จะเป็นการดี ถึงราคาจะแพงไปหน่อย แต่ราคาก็น่าจะขึ้นไปได้อีกในระยะยาว

 

เมื่อกี่มีเพื่อนโทรมาบอกว่าที่เว็ปของเฮียกัมพลมีข่าวว่าจีนซื้อทองเพิ่ม3000 กว่าตัน ผมรีบเช็คทันที ว้าว.... มันจริงๆซะด้วย เฮียฮูเนี่ยแน่จริงๆ ปากบอกว่า "ไม่ซื้อ..ไม่ซื้อ... ยังไงอั๊วก็ไม่ซื้อ เพราะว่าตลาดทองมันเล็กไป" เฮียเค้าแอบซื้อเรื่อยๆ จากเหมืองในประเทศและทองเก่าที่ประชาชนเอาออกมาขาย แบบว่าเฮียฮูรับซื้อหมด เก็บเข้าคลังไปเลย อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้น้องทองทะลุฝ่าด่าน $1300 ได้อย่างสบายๆ มันคงเพิ่งประกาศตอนต้นเดือนตุลาคม แถมยังเปลี่ยนเป็นแนวรับสำคัญไปโดยปริยาย

 

หากสัปดาห์น้องทองไม่ยอมสระผมซะที ผมจะพาน้องทองไปอาบน้ำแถวๆรัชดา แล้วต้องแวะร้าน 7-11 ซื้อยาสระผม Head&Shoulder ให้น้องทองซักขวด จะได้พักผ่อน คลายกล้ามเนื่อ สบายหัว ก่อนที่จะตะลุยด่าน $1650-1700 ในปีหน้า (ก่อนตรุษจีน ยังไม่จะถึง หากเกิดการปรับฐานใหญ่ แต่ภายในปีหน้า น่าจะได้เห็น) ผมก็ยังหวังลึกๆว่าน้องทองอยากจะสระผมซักที $1250-65 เป็นแนวรับต่ำสุดที่จะเป็นไปได้ หรือเป็นฐานใหม่ของน้องทอง ลงมาแค่ $1330 ผมก็เริ่มกอดน้องทองแล้ว อีกแนวก็ $1300 สุดท้ายก็ $1270 เฮ้ย......ย คิดแล้วเหนื่อยไม่รู้ว่า $1330 จะได้เห็นหรือป่าว เพราะคิดไปคิดมา เฮียฮูคงจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอย่างมาก 0.25% ก่อนสิ้นปี

 

ขอให้ทุกท่านโชคดี

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 26, 2010, 08:48:26 AM โดย พ่อน้องเอม

 

[MOR LEK 2,835]

ผมเคยอ่านเจอมาเมื่อไม่นานนี้ว่าจีนจะเริ่มสะสมทองให้มากและเร็วที่สุดทุกวิถีทาง จะให้ได้ถึง 10,000 ตัน ใน 10 ปี เผลอแผล็บเดียว จาก 1,000 ตันเมื่อปีก่อน กลายเป็น 3,000 ตันในปีนี้

ผมก็เชื่อว่า 10,000 ตันที่ว่าเนี่ย คงอีกแค่ปี 2 ปีนี้แหละ 555 เรื่องอะไรจะไปเเก็บดอลล์เน่าๆไว้

[chiranan 34]

สวัสดีค่ะพี่น้องรี คุณMorlex คุณBlackและทุกๆท่านหลังจากหยุดไปทำธุระเร่งด่วนไม่ได้เข้าNetเลยกระทู้ก็วิ่งไปไกลเห็นข่าวคุณพ่อน้องเอมยังไม่ล้าสมัยก็เอามาให้อ่านกันเผื่อมีประโยชน์ในการวางแผนค่ะอยากประกาศตามหาคุณน้องกลิ่นหายไปนานตอนเริ่มเล่นกราฟใหม่ๆเคยใช้Indyของคุณน้องกลิ่นด้วยค่ะและขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาshareกันทุกเรื่องราวค่ะ

 

พ่อน้องเอม

Full Member

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 502

 

 

 

Re: $$$$$$$$$ รวยทองแบบขํา ขํา สไตล์พ่อน้องเอม $$$$$$$$$

« ตอบ #2021 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 04:47:02 PM »

 

--------------------------------------------------------------------------------

 

สวัสดีคร๊าบ.....บ ทู๊กทุกท่าน ช่วงนี้มาบ่อยซะหน่อย เพราะมีน้องทองให้กอดเหลืออยู่นิดเดียวเอง กลัวตกขบวนเหมือนกัน ดูๆแล้วน้องทองแรงดีเกินคาด เฮียคิมคงอัดยาบ้าให้น้องทองเข้าไปหลายเม็ด ยังดีที่แนวต้าน $1380 ยังต้านไว้อยู่ หากสัปดาห์หน้าไม่หลุดแนวรับ $1350 ลงมา ทุกคนก็เตรียมทยอยเก็บเข้าพอร์ตไว้บ้างก็จะเป็นการดี ถึงราคาจะแพงไปหน่อย แต่ราคาก็น่าจะขึ้นไปได้อีกในระยะยาว

 

เมื่อกี่มีเพื่อนโทรมาบอกว่าที่เว็ปของเฮียกัมพลมีข่าวว่าจีนซื้อทองเพิ่ม3000 กว่าตัน ผมรีบเช็คทันที ว้าว.... มันจริงๆซะด้วย เฮียฮูเนี่ยแน่จริงๆ ปากบอกว่า "ไม่ซื้อ..ไม่ซื้อ... ยังไงอั๊วก็ไม่ซื้อ เพราะว่าตลาดทองมันเล็กไป" เฮียเค้าแอบซื้อเรื่อยๆ จากเหมืองในประเทศและทองเก่าที่ประชาชนเอาออกมาขาย แบบว่าเฮียฮูรับซื้อหมด เก็บเข้าคลังไปเลย อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้น้องทองทะลุฝ่าด่าน $1300 ได้อย่างสบายๆ มันคงเพิ่งประกาศตอนต้นเดือนตุลาคม แถมยังเปลี่ยนเป็นแนวรับสำคัญไปโดยปริยาย

 

หากสัปดาห์น้องทองไม่ยอมสระผมซะที ผมจะพาน้องทองไปอาบน้ำแถวๆรัชดา แล้วต้องแวะร้าน 7-11 ซื้อยาสระผม Head&Shoulder ให้น้องทองซักขวด จะได้พักผ่อน คลายกล้ามเนื่อ สบายหัว ก่อนที่จะตะลุยด่าน $1650-1700 ในปีหน้า (ก่อนตรุษจีน ยังไม่จะถึง หากเกิดการปรับฐานใหญ่ แต่ภายในปีหน้า น่าจะได้เห็น) ผมก็ยังหวังลึกๆว่าน้องทองอยากจะสระผมซักที $1250-65 เป็นแนวรับต่ำสุดที่จะเป็นไปได้ หรือเป็นฐานใหม่ของน้องทอง ลงมาแค่ $1330 ผมก็เริ่มกอดน้องทองแล้ว อีกแนวก็ $1300 สุดท้ายก็ $1270 เฮ้ย......ย คิดแล้วเหนื่อยไม่รู้ว่า $1330 จะได้เห็นหรือป่าว เพราะคิดไปคิดมา เฮียฮูคงจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอย่างมาก 0.25% ก่อนสิ้นปี

 

ขอให้ทุกท่านโชคดี

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 26, 2010, 08:48:26 AM โดย พ่อน้องเอม

 

 

!thk !thk !thk

[NongRee 4,028]

คุณน้องรีขรา ตอนนี้พี่แพทมะสนของถูกแร้วคร้า กลัวมันลงนานเป็นเดือนๆ มันเบื่ออะคร้า ให้มันเด้งไปเลยดีก่า มันหวิวๆอะคร้า เด๋วจาเอากำไรไปเที่ยวซะหน่อย

 

สวัสดีค่ะ พี่แพท น้องทองเดือนนี้เล่นโต้คลื่นจน น้องรี ก็เมาคลื่นเหมือนกันค่ะพี่ เข้าถูกบ้าง พลาดบ่อยจนมึนเหมือนกัน เลยกะว่ารอให้หมดเดือนนี้ (รอบนี้)ก่อนค่อยเล่นใหม่

ตั้งเป้าหมายจากเดิมจะเข้าแถว 1350 เปลี่ยนเป็นใกล้ 1300 แทนค่ะ (เงินบาทอ่อนจน อ่อนใจ)

 

จากคำถาม คุณแบล็ก "ถ้างั้นปฏิทินก็บอกว่า เดือนนี้หมูขายดีที่สุด ในรอบปีด้วยรึป่าวคับ อิๆ " น้องทองขึ้นไปที่ 1425 Us New Hight เงินบาทไทยสูงสุด 19650 - 19750 บ.

 

จากประสบการณ์ ที่ติดดอยทุกปี โดดหนีทันแต่ดันคว้ามีดตอนหล่นทุกรอบ !033 !17 ตัดสินใจจำศีลดีก่าค่ะ ขอทำสมาธิ พอใจนิ่งตาสว่างไม่วิ่งมั่วกระโดดตามจังหวะฝรั่ง

กลัวประวัติศาสตร์ซ่ำรอย !32

[NongRee 4,028]

สวัสดีค่ะ คุณหมอเล็ก คุณงูดิน พี่แพท พี่อารายา Khun Keng09 น้องนับตัง น้องรูสสส น้องมัย คุณแบล็ก น้องมัย Khun itums คุณเล็กสตู น้องสาวมือใหม่ คุณSea คุณเด็ก คุณBullish คุณMsmit และเพื่อนๆ คอกาแฟทุกท่าน

 

เจ้าของร้าน คุณน้องกลิ่น หายไปนานจริงๆ ค่ะ พี่น้องรี ดูกราฟน้องกลิ่นง่ายที่สุดเลย ยังรออยู่นะค่ะน้องกลิ่น กลับบ้านเราเถอะ พี่ๆ น้องๆ รักและรออยู่น้าาาา

 

จิ๊บกาแฟเล่านิทาน วันนี้แนะนำหนังสือที่น้องๆ ควรอ่าน เรื่อง แม่เล่าให้ฟัง : พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เรื่องย่อ คัดลอกมาบ้างส่วน http://www.rspg.org/mom/kmom.htm

ประวัติผู้แต่ง http://www.palungdham.com/t095.html

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 28, 2010 โดย NongRee

[NongRee 4,028]

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ คอกาแฟวันหยุด

 

นสพ.อาจารย์ซีซ่าร์ วิเคราะห์ 4 โมงเย็นเมื่อวาน สรุปแนวรับแนวต้านสัปดาห์หน้า http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/140-%e0%b8%88%e0%b8%9a-%e0%b8%9b4-%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87/page__st__2640

สรุปลุ้น สัปดาห์หน้า เลขที่ออก แนวรับ ก็ลงมาหน่อย จาก 1355 ลงมาที่ประมาณ 1345 1329 1314 แนวต้าน 1370 1376 1381

นสพ.เฮียทองใหม่ หยุดเพราะร้อนใน กลับมามีกราฟตาแปะมาฝาก (คนดี บวกให้ 1 หมดใจ)http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/120-%e0%b8%97%e0%b8%b4%e0%b8%a8%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99-thaigold2/page__st__6765

นสพ.Khun Seam888 TFEX S50 future ระวัง ใกล้ปรับตัวลง Wave 4 และข่าวจากคุณส้มโอมือ 7 โมงเย็นวันนี้ http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/185-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%9a/page__st__3930

 

เปิดเทอมแรก ขอลงทะเบียนเรียนกับ Khun Kikkapu ด้วยคนค่ะ อาจารย์ ลงโปรแกรมแล้วแต่ยังใช้่ไม่เป็นเลยค่ะ

เรียนกราฟแบบเด็กอนุบาล1...กับเห็ดทองคำชุบแป้งทอด Khun Kikkapu http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/277-%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%9f%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a51%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%ab/

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 28, 2010 โดย NongRee

[keng09 410]

ธรรมะสวัสดี9วิธีทำบุญแบบง่ายๆ

1. คิดแต่สิ่งดีๆ ทันทีที่ตื่นนอน

 

 

หากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีที่งาม จิตใจเราก็สดชื่น แจ่มใส กระตือรือร้นและพร้อมที่จะรับมือกับทุกปัญหาด้วยใจที่เปิดกว้าง ไม่หงุดหงิดโมโหง่าย

 

 

การคิดแต่สิ่งดีๆ นอกจากตัวเราเองจะมีความสุขแล้ว คนรอบข้างก็จะมีความสุขด้วย

 

 

 

 

2. ยิ้มแย้มแจ่มใส

 

 

หัดยิ้มให้เป็นนิสัย ไม่ว่าจะยิ้มกับคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม หน้าตาที่ยิ้มแย้มทำให้ดูเป็นมิตร ใครๆก็อยากเข้าใกล้ พ่อแม่ยิ้มกับลูกก่อนไปทำงาน ลูกก็ดีใจ ลูกยิ้มกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็สบายใจ ว่าลูกไม่มีเรื่องเดือดร้อนใจแน่ นายยิ้มกับลูกน้อง ลูกน้องก็รู้ว่าวันนี้นายอารมณ์ดี ทำให้ทำงานด้วยความมั่นใจ สบายใจ ไม่ต้องระแวงว่าจะถูกเรียกไปต่อว่า

 

 

ยิ้มทำให้คนที่ยิ้ม และคนที่ได้รับยิ้มมีความสุข

3. พูดจาทักทายด้วยมิตรไมตรี

 

 

คนบางคน นอกจากจะไม่ยิ้มกับใครแล้ว ยังชอบทำหน้าบึ้ง ไม่คิดจะพูดจาทักทายใครก่อนด้วย หากคนที่ทำงานด้านบริการมีบุคลิกเช่นนี้ นอกจากทำให้งานเสียหาย คนมาติดต่อก็ไม่มีความสุข ดังนั้น นอกจากยิ้มแย้มแจ่มใสแล้ว การพูดจาทักทายคนรอบข้างด้วยมิตรไมตรี คือ หนทางสร้างสุขแก่ตนและคนรอบข้าง

 

 

เป็นความสุขที่ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

 

 

 

 

4. แบ่งปันน้ำใจ

 

 

การแบ่งปันน้ำใจ สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา เช่น ช่วยพ่อแม่ทำงาน.... ให้ที่นั่งแก่เด็ก ผู้หญิง คนชรา หรือคนที่อ่อนแอกว่า....ช่วยถือของหนักให้คนในรถเมล์..... หยุดรถให้คนข้ามถนน หรือให้รถอื่นไปก่อน.... ช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่พอจะช่วยได้ เป็นต้น

 

 

การแบ่งปันน้ำใจเช่นนี้ นอกจากเป็นการลดความเห็นแก่ตัวของเราลงแล้ว ยังทำให้เราได้รับมิตรไมตรีสนองตอบกลับมาด้วย

5. ปลุกปลอบให้กำลังใจ

 

 

หลายครั้งที่เพื่อนฝูงญาติมิตรอาจประสบปัญหาหรือมีความทุกข์กายทุกข์ใจ สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรมอบให้ คือ ความเป็นมิตรและถ้อยคำที่ปลุกปลอบให้กำลังใจ

 

 

คำพูดดีๆ ที่มาจากใจ จะทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ รู้สึกดีขึ้นและมีพลังที่ต่อสู้ชีวิตต่อไปได้

 

 

 

 

6. ให้คำชื่นชมด้วยความจริงใจ

 

 

การกล่าวคำชื่นชมต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ย่อมจะทำให้ผู้รับคำชมรู้สึกปลาบปลื้มยินดี และมีความสุข โดยเฉพาะในเรื่องที่เขาทำสำเร็จ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และจริงใจด้วย

 

 

คนส่วนใหญ่ล้วนอยากได้การยอมรับและคำชม เพราะคำชมจะเป็นการเสริมเพิ่มกำลังใจให้อยากทำสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นต่อไป

7. ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ

 

 

การอยู่ร่วมกันในสังคม บ่อยครั้งที่เราสามารถแบ่งปันความรู้ ความชำนาญจากประสบการณ์ของเรา แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานช่าง งานเสื้อผ้า อาหาร งานประดิษฐ์ การออกกำลัง การดูแลสุขภาพ การเรียน การวาดภาพ ฯลฯ หากเรามีความรู้ในงานนั้นและสามารถให้คำปรึกษาแนะนำได้ อาจช่วยให้ผู้ที่กำลังประสบปัญหา ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคไปได้

 

 

การช่วยเหลือผู้อื่นในลักษณะนี้เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่ผลที่ได้มากมายนัก

 

 

 

 

8. ให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น

 

 

โดยทั่วไปคนเรามักจะให้อภัยตัวเองง่าย และมีข้อแก้ตัวให้ตนเองต่างๆ นานา แต่ถ้าผู้อื่นผิดพลาดแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เราก็มักเห็นเป็นเรื่องใหญ่ ติเตียนกันได้ไม่รู้จบ ดังนั้น เราจะต้องหัดมีเมตตา รู้จักให้อภัยผู้อื่นให้ง่าย เหมือนให้อภัยตัวเราเอง

 

 

เพราะการให้อภัย นอกจากจะทำให้เราไม่ผูกใจเจ็บ ไม่อาฆาตมาดร้าย ไม่ก่อศัตรูแล้ว ยังจะช่วยให้จิตใจเราสงบ เย็น เป็นการฝึกจิตขั้นพื้นฐาน เพื่อจะนำไปสู่การสร้างกุศลในระดับที่สูงขึ้นต่อไป

9. ฝึกจิตให้สงบและสบาย ด้วยการทำสมาธิหรือสวดมนต์

 

 

การทำสมาธิ ฟังดูเหมือนยาก แต่จริงๆ เราทำได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือกำลังทำอะไร เช่น ทานข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ ทำงานในที่ทำงาน ฯลฯ หัวใจหลักคือให้เอาใจไปจดจ่อในสิ่งที่ทำเพียงอย่างเดียว จะทำให้เราทำทุกอย่างได้ดีขึ้น เพราะไม่พะวักพะวนคิดหรือทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน อันจะทำให้ขาดสติ

 

 

และทุกๆ คืนก่อนนอน ควรสวดมนต์ไหว้พระ โดยอาจเลือกบทสวดสั้นๆ ที่เราชอบ สวดมนต์เสร็จแล้ว ก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้ทั้งกับตัวเราเอง และผู้อื่นด้วย

 

 

 

 

แนวทางที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นการทำความดีที่ไม่ต้องใช้เงินเลย และสามารถปฏิบัติในชีวิตประจำวันของเราได้โดยไม่ยากเย็นอะไรนัก อีกทั้งปฏิบัติแล้วก็เป็นบุญกุศลที่จะเกื้อหนุนให้เราและคนรอบตัวมีความสุข

 

 

 

เพราะ'บุญ' ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เครื่องชำระกาย ใจ ให้บริสุทธิ์ เป็นการทำประโยชน์ให้แก่ตัวเราเองและผู้อื่น และยังช่วยลดกิเลส ความเศร้าหมองต่างๆด้วย

 

 

 

 

หากเชื่อว่า บุญ คือความดี คือความสุข ........ลงมือทำเสียแต่วันนี้เลยจะดีไหม ???

 

 

เพราะ ………….'ความดีไม่มีขาย .....อยากได้ต้องทำเองค่ะ'

[NongRee 4,028]

สวัสดีค่ะ Khun Keng09 ข้อ 8. ให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น (ข้อนี้เหมือนทำได้ง่าย จริงคือยากมาก เพราะความผิดของตนเองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ของผู้อื่นเท่าภูเขา ) !uu

 

ขอบคุณค่ะ มีข้อความดีดี เตือนสติ และบทวิเคราะห์มาเสมอเลย !thk !thk สมแล้วที่ได้เป็นคนดีขึ้นเทพ !gd

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 28, 2010 โดย NongRee

[patcharin 51]

แวะมาทักทายคร้า รอลุ้นพรุ่งนี้

[ปุยเมฆ 2,791]

ผู้ชายกับผู้หญิง (ตรงมากๆเลยอ่ะ ^-^)

1. ผู้ชายรู้สึกดีเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นที่ต้องการของคนอื่น ขณะที่ผู้หญิงรู้สึกดีเมื่อรู้ว่าตัวเองน่าทะนุถนอม

2. เมื่อเกิดปัญหา ผู้ชายจะเก็บตัวเพื่อคิดหาทางออก ผู้หญิงจะหาใครซักคนที่ไว้ใจ และพร่ำพรรณนาปัญหาให้ฟัง

3. จากสถิติพบว่า ผู้ชายมีอายุสั้นกว่าผู้หญิง เพราะผู้ชายใจร้อนและคึกคะนองมากกว่า

4. ผู้ชายมุ่งความต้องการไปที่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ความสำเร็จของผู้หญิงคือ การมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข

5. เมือทำอะไรซักอย่างไม่ได้ ผู้หญิงจะขอความช่วยเหลือ ในขณะที่ผู้ชายจะไม่พยามยามขอความช่วยเหลือ เพราะคิดว่านั่นคือการแสดงความอ่อนแอของตัวเอง

6. ผู้หญิงมีสมองเล็กกว่าผู้ชาย แต่สมองทั้งสองซีกกลับทำงานสัมพันธ์กันมากกว่าผู้ชาย

7. ผู้ชายจะเจริญเติบโตและก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นได้ช้ากว่าผู้หญิง

8. ผู้ชายถูกกระต้นความต้องการทางเพศโดยสายตา เช่น ดูภาพโป้ ดูหนังโป้ แต่ผู้หญิงถูกกระตุ้นความต้องการทางเพศ โดยการสัมผัสอันนุ่มนวล

9. เมื่อเล่นเกม ๆ หนึ่ง ผู้หญิงต้องการเอาชนะโดยที่อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องแพ้ก็ได้ (การเสมอ) แต่ผู้ชายต้องการเอาชนะ และอีกฝ่ายต้องเป็นผู้แพ้

10. เมื่อผู้ชายตกหลุมรักใครซักคน เค้าจะถูกกระตุ้นให้ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าจีบผู้หญิงคนนั้นไม่สำเร็จ เค้าจะกลับไปเห็นแก่ตัวเหมือนเดิม

11. ผู้หญิงเมาง่ายกว่าผู้ชาย

12. ผู้ชายจะจดจำเส้นทาง และอ่านแผนที่ได้เก่งกว่าผู้หญิง

13. ผู้หญิงกลัวที่จะเป็นฝ่ายรับ ในขณะที่ผู้ชายกลัวที่จะเป็นฝ่ายให้

14. ผู้หญิงพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าผู้ชาย แต่ผู้ชายทำสำเร็จมากกว่าผู้หญิง

15. ผู้หญิงจะเรียนภาษาได้ดีกว่า และมีความสามารถในการสื่อสารทางการพูดมากกว่าผู้ชาย

16. ผู้ชายจะคิดให้ตกซะก่อนจึงค่อยพูดออกมา แต่ผู้หญิงมักจะคิดออกมาเป็นเสียงดัง ๆ ให้คนอื่นได้ยินด้วย

17. ผู้หญิงจะไม่ทิ้งเพื่อนหากเพื่อนกำลังมีปัญหา ในขณะที่ผู้ชายจะทิ้งให้เพื่อนแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

18. เมื่อผู้หญิงรู้สึกดี เธอจะสามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่นมากมาย แต่เมื่อเธอรู้สึกแย่ สิ่งที่เธอต้องการที่สุดคือความรักจากคนรอบข้าง

19. นิสัยผู้ชายเหมือนหนังสติ๊ก: ในช่วงเวลาที่คบกัน ผู้ชายจะต้องการทั้งความผูกพันใกล้ชิด และความอิสระ แต่ผู้หญิงจะรู้สึกไม่ดีหากผู้ชายกำลังถอยออกไปหาอิสระ และพยายามดึงเค้ากลับมา ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เค้าถอยห่างมากขึ้น ทางที่ดีควรอยู่นิ่ง ๆ เมื่อถึงเวลาหนึ่งเค้าจะกลับมาเอง

20. ทั้งที่ผู้ชายและผู้หญิงพูดคำ ๆ เดียวกัน แต่ความหมายของคำ ๆ นั้น กลับไม่เหมือนกัน เช่น เมื่อผู้หญิงพูดว่า "เราเลิกกันเถอะ" แปลว่าฉันต้องการให้คุณเห็นความสำคัญของฉันมากกว่านี้ เมื่อผู้ชายพูดว่า "เราเลิกกันเถอะ" แปลว่าผมไม่ขอทนคุณอีกต่อไป เพราะผมเจอคนใหม่แล้ว

[นับตัง1 73]

แล้วเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายฟะเนี่ยยสับสน สับสน

[นับตัง1 73]

ทำใจให้มันสนุกยิ้มแย้มตลอดไปหากความทุกข์จะมาเมื่อไหร่เรานั้นก็ไม่กลัวดวงตาจะสดใสดวงใจไม่มืดมัวใจเราเมื่อมันสนุกสิ่งที่เจอมันก็คือความสุขใจ(ลอกเค้ามาเพลงของพี่ป้อมพี่โต๊ะเค้าจ้าาาา) ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 28, 2010 โดย นับตัง1

[ปุยเมฆ 2,791]

"ต้องอด" และ "ต้องห้าม" ไม่ตามใจปากจึงจะไม่แก่แน่หรือ?

Anti-aging ชะลอชรา

 

“ต้องอด” และ “ต้องห้าม” ไม่ตามใจปาก จึงจะไม่แก่แน่หรือ?

 

 

หลายท่านไปหาหมอมา หมอบอกว่าไขมันสูงห้ามกินพวก “ไข่แดง”, แกงกะทิ, หมึก, หอยนางรมและสารพัดอาหารอื่นๆ ที่อร่อยสุดพรรณนาในโภชนพิภพนี้

 

บางท่านเป็นเบาหวานพ่วงความดันโลหิตสูงจำใจต้องอดกินทั้งหวาน มัน เค็มจนชีวิตนี้มีแต่แกงจืด ยิ่งใครเป็นโรคเกาต์เข้าข้อกินอะไรแต่ละทีต้องชั่งใจคิดแล้วคิดอีกเพราะบทเกาต์จะกำเริบมันเจ็บปวดสุดหัวใจทีเดียว

 

แต่...ชีวิตคนก็ต้องมีสีสัน

 

จะให้มันอยู่กับแกงจืดหรือข้าวต้มตลอดเวลาได้อย่างไรไหว มันต้องมีวิธีใดวิธีหนึ่งในพิภพโลกานี้แน่นอนที่จะช่วยให้พบกันครึ่งทางได้คือ กินอร่อยแต่ก็ไม่ทำให้โรคกำเริบเติบโต ศาสตร์ด้านอายุรวัฒน์ปรารถนาดังนี้แล คือให้ชีวิตท่านมีรสชาติและไม่ขาดความสุขด้วย

 

“ต้องอด” และ “ต้องห้าม” มีจริงหรือ?

เดี๋ยวนี้มีคติใหม่ๆ ในเรื่องอาหารนอกจาก “กินอย่างไรได้อย่างนั้น - You are what you eat” ตอนนี้เขาว่าเป็น “กินอย่างไรให้ดูดซึมได้ดี - You are what you absorb”

สมมติง่ายๆ อย่างกินวิตามินซีเข้าไปหนึ่งเม็ด ถ้าร่างกายของเรากำลังป่วยออดแอดอยู่ ลำไส้ก็อาจงอแงดูดซับวิตามินซีไว้ได้ไม่เต็มที่ หรือถ้าท่านมีไตที่แย่กรองของเสียออกไปไม่ได้ พอกินวิตามินเข้าไปนิดนึง มันก็อาจกลายเป็นพิษได้เพราะไม่ถูกขับออก

 

ดังนั้นทางดีสุดคือทำให้ระบบ “ดูดซับ” และ “ขับออก” ของร่างกายนี้มีประสิทธิภาพดีที่สุด แล้วบางทีของอร่อยหลายชนิดที่ต้องอดไปก็อาจกลับมากินใหม่ได้บ้าง นี่แหละครับคือการแก้ถูกจุด ไม่ใช่งดไปเสียทุกอย่างร่ำไปเพราะพฤษมังสาหารทั้งหลายที่ธรรมชาติสร้างมาไม่เคยสร้างให้เป็นแง่ลบแต่เพียงอย่างเดียว มันจะมีข้อดีอยู่ด้วยเสมอ ดังจะยกมาสาธกให้ท่านทราบกัน ณ บัดนี้ครับ

 

 

ÍÒËÒõéͧËéÒÁ·Õè¶ÒÁãËéá¹è?

ปลาเนื้อมัน บางท่านกลัวหนักหนาอย่างแซลมอนหรือปลาสวายพื้นท้องมันนี้ บอกได้เลยว่ากินได้ เพราะมันนั่นแหละคือธาตุลดไขมันยังกับหนังจีนใช้พิษต้านพิษอะไรอย่างนั้น อยากให้หาปลาเนื้อมันอย่างปลาทู, ซาร์ดีน, แซลมอน, ปลาสวาย กินสักวันละ 1 ขีดก็ได้ครับ

 

หอยนางรม, สารพัดหอย, หมึก ถูกห้ามร่ำไปยามไขมันจับในเลือด ทำให้อดกินของอร่อยรวมถึงญาติหอยอย่างหมึกด้วย ซึ่งอันที่จริงแล้วหอยกับหมึกนั้นมีโคเลสเตอรอลสูงก็จริงอยู่แต่ในเนื้อตัวมันมีธาตุลดไขมัน (โอเมก้า-3) ชุ่มชอุ่มอยู่มากด้วย ขอให้เลือกกินอย่าให้มากนักและอย่าเลือกกินเฉพาะส่วนที่เป็น“ไข่” แสนอร่อยแล้วกันครับ

 

ถั่วเหลือง มาแรงมากสำหรับอีเมลโจมตีถั่วสารพัดประโยชน์นี้ โดยประเด็นที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมากสุด คือ ถั่วเป็นตัวร้ายก่อมะเร็ง ค่าที่ว่าเจ้าถั่วชอบเลื้อยนี้ดันมีธาตุคล้ายฮอร์โมนสตรีอยู่มากทำให้ คนผวาว่ากินแล้วจะสาวแตกหรือแอ๊บแมนเลื้อยไปมาได้เหมือนถั่วหรือเปล่า ยาวไปจน ถึงกลัวว่ากินแล้วจะเป็นมะเร็งกัน ก็ขอเรียนว่า ถั่วเหลืองก็เช่นเดียวกัน คือถ้าไม่ได้ถือการบริโภคถั่วเป็นวัตร นัดเพื่อนกินถั่วกันทุกอิริยาบถ ทุกมื้อก็ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ

 

ตรงกันข้ามกลับอยากจะให้ท่านกิน ถั่วเหลือง,ถั่วดำ, ถั่วแดง, ถั่วขาวหรือถั่วอะไรก็ได้สักวันละกำมือหรือเต้าหู้สักวันละแผ่นเพื่อสุขภาพด้วยครับ

 

กะหล่ำปลี เป็นความเชื่อปรัมปราพอๆ กับกินถั่วเหลืองเกิดมะเร็งทีเดียวครับ สำหรับกะหล่ำปลีกินแล้วจะไม่ดีต่อผู้ชายไปจนถึงทำให้เกิดคอหอยโตพอกออกงานวัดได้ ที่จริงแล้วถ้าจะกินให้ได้ผลพิสดารถึงเพียงนั้น ต้องกินกะหล่ำปลีเป็นเข่งใหญ่หรือหลายกิโลกรัมต่อวัน ซึ่งถ้ากินได้อย่างนั้นแล้วก็น่าจะตรวจสมองกับกระเพาะมากกว่าอย่างอื่น เพราะกะหล่ำปลีมีธาตุช่วยรักษาโรคกระเพาะและต้านมะเร็งได้อย่างดี

 

น้ำมันหมู มีความเชื่อปรัมปรานานกว่านิทานกริมม์ว่าน้ำมันหมูคู่กับโรคหัวใจ จริงแล้วไซร้ใช่จะเลวเกวมันเปลวจุกอกเสมอไป ลองใช้น้ำมันหมูในครัวเทียบกับน้ำมัน-พืชสักอาทิตย์จะรู้ได้ทันทีว่าคราบน้ำมันหมูขัดถูออกง่ายกว่าน้ำมันพืชเยอะเป็นก่ายกอง แต่ไม่ได้เชียร์ให้กลับไปใช้น้ำมันหมูกินกากมันหมูเหมือนแต่ก่อนนะครับ (แม้ว่ามันจะอร่อยสุดใจ) แต่อยากบอกว่านานๆ กินทีได้ครับ โดยเฉพาะเวลาเจียวไข่หรือทำไข่ดาวนั้น ใครก็รู้ดีว่าใช้น้ำมันอะไรก็ไม่สุโค่ยได้ใจเท่า “น้ำมันหมู” อีกแล้ว

 

นมวัว มีชื่อเสียงลุ่มๆ ดอนๆ มาก เคยถูกเชียร์ให้ดื่มจะได้สูงใหญ่ไล่เลี่ยฝรั่ง เนื้อนมไข่ แต่ต่อมาก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวร้ายทำให้เด็กแพ้นมวัว เป็นผื่น ตื่นเต้นกันทั้งพ่อแม่ลูก ซึ่งสัจธรรมจริงๆ ของนมวัวคือ “มันเหมาะกับลูกวัวมากที่สุด” แต่ลูกคนหรือผู้ใหญ่จะกินก็ได้ ไม่เป็นไร แค่ระวังให้เลี่ยงนมรสหวานมากไปหรือกินนมวัวมากจนไม่กินอาหารอื่น เพราะมันอาจทำให้อ้วนพีและแกล้งไปดึงกระดูกเราให้บางลงได้ครับ

 

ถั่วมันๆ อย่ากลัวว่าถั่วเคี้ยวมันทั้งหลายจะทำให้อ้วนนะ กินถั่วไม่อ้วนแน่นอน ไม่ใช่เพราะไม่เคยเห็นอาบังขายถั่วตัวอ้วนๆ หากแต่มันในถั่วนั้นคือมันดีไม่อิ่มตัวร่วมกับวิตามินอีอีกทำให้ผิวพรรณดีไม่ย่นจับกลีบราวกับสไบเฉียงทำให้ผิวนุ่มดูชื่นตาราวกับผ้ากำมะหยี่มีราคามากกว่า เรียกว่างานนี้คนชอบกินถั่วและผองอาบังมีเฮได้

 

ไก่ ความโทษที่ไก่โดนตราหน้า (หงอน, ปีก, คอ,ขา) มาตลอดคือเรื่อง “ฮอร์โมน” เร่งโตที่ฝังเข้าหัวไก่บ้างหรือฉีดเข้าตัวบ้าง เรื่องนี้ไม่ยากเลยลองมองตรรกะง่ายๆ ว่าไก่ในฟาร์มมีนับโกฐอสงไขยตัว ถ้าจะมัวค่อยประจงหยิบโหย่งฮอร์โมนฝังเข้าทีละตัวก็หัวฟูบานเบิกแล้ว ส่วนอาหาร ไก่ไข่ในปัจจุบันก็เป็นสารสีแดงแสดที่สกัดมาจากธรรมชาติอย่างดอกดาวเรือง ดังนั้นเนื้อไก่เป็นโปรตีนย่อยง่ายครับ กินได้ไม่ต้องพะวงจนหมดอร่อย

 

ไข่ไก่ สุดยอดคำเตือนคลาสสิกที่ตอกย้ำกันทุกรุ่นจนครบสาแหรกตระกูลว่า “อายุมากไม่ควรกินไข่แดง” หรือ “ไขมันในเลือดเยอะแล้วต้องลดกินไข่ลง”แล้วทุกคนก็เป็นเด็กดีไม่มีใครกล้าฝืนมตินี้มาตลอด จนฝรั่งตัวห้ามเองตอนนี้กลับมาอุบๆ อิบๆ บอกว่า ไข่น่ะ กินได้กินไปเถิด วันละ 1 ฟองยังได้เลย เพราะจริงแล้วไข่ไก่เป็นของดี ท่านใดผมบางลองกินไข่แดงสักนิดกับธาตุสังกะสีสักหน่อยจะพอช่วยได้เพราะไข่แดงมี “ธาตุปลูกผม (Biotin)” ผสมอยู่ด้วยครับ

 

หน่อไม้ อาหารใต้ดินที่ตัวตุ่นและหมูป่าชอบซึ่งยายฉิมไม่สามารถเก็บได้ง่ายเหมือนเห็ดโคน แต่สำหรับท่านที่ปวดข้อจากเกาต์จะถูกห้ามไว้ราวกับอนันตริยกรรมทำไม่ได้แม้แต่จะคิด ที่จริงแล้วหน่อไม้มี “ธาตุเกาต์ (Purine)” อยู่เยอะก็จริง แต่ถ้ากินโดยต้มกับใบย่านางจะมีธาตุที่ช่วยตัดกัน ทำให้พิวรีนไม่แผลงฤทธิ์มาก อย่างแกงลาวใส่ใบย่านาง เป็นต้น

 

ข้อสำคัญคือกินหน่อไม้แล้วให้ดื่มน้ำตามเยอะๆ และอย่ากินบ่อยทุกวี่วันแล้วกัน

 

กาแฟ ราวกับดาราดังที่จะต้องมีทั้งข่าวดีและข่าวฉาวเพื่อสกัดดาวรุ่งมาตลอดศกจนผู้คนสับสนว่าจะกินดีหรือไม่ดีแน่ ก็ขอฟันธงง่ายๆ ดังนี้ว่า ถ้าไม่เคยดื่มอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปขวนขวายหามาดื่มเพื่อให้ได้ “แอนตี้ออกซิแดนท์” ตามที่เคยได้ยินครับ เพราะเราอาจหาแอนตี้ออกซิแดนท์ได้จากผักหญ้ามากมาย แต่ถ้าดื่มอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวขนาดเลิกดื่มของอร่อย ถ้าดื่มไม่เกินวันละ 2 แก้ว (กาแฟไม่เกิน 2 ช้อนต่อวัน) ก็ไม่เป็นไร เพราะการดื่มกาแฟมากไปจะดึงกระดูกและเฆี่ยนตีหัวใจให้ทำงานหนักขึ้น

 

น้ำตาลเทียม เยี่ยมยุทธ์สำหรับคนรักสุขภาพ ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคฟีนิลคีโตนยูเรีย(Phenylketonuria) ให้ระวังอย่า “ติดหวาน” มากไป โดยเฉพาะเวลาประชุม, ดื่มกาแฟ, รับอาหารว่าง,กินก๋วยเตี๋ยวหรือไปงานศพ ขอให้พบธัมมสังเวชเข้าไว้ อย่าใช้ความหวานกลบเศร้าเด็ดขาดครับ

 

น้ำตาลเทียมเป็นตัวเลือกที่ดีทว่าพยายามอย่าไปติดหวานมากจนเกินไปไม่อย่างนั้นน้ำตาลเทียมดีอย่างไรก็อาจรั้ง (น้ำหนักตัว) เอาไว้ไม่อยู่

 

น้ำอัดลม กินแล้วสดชื่นลื่นคอกับพรายฟองซาบซ่า ยิ่งหน้าร้อนได้น้ำขวดเย็นเจี๊ยบเป็นวุ้นสักแก้วก็แซบแล้ว น้ำอัดลมนั้นมีส่วนช่วยมากยามที่เด็กหรือผู้ใหญ่ท้องเสียขาดเกลือแร่กินอะไรไม่ได้ อาจเหยาะเกลือป่นลงไปสักนิด หรือในท่านที่ท้องอืดน้อยๆก็จิบน้ำอัดลมสักหน่อยช่วยไล่ลมได้ เพียงแต่ขออย่าดื่มจนติดเท่านั้นเองครับ ดื่มสลับกับน้ำเปล่าบ้างก็สร้างสุขภาพดี

 

ผงชูรส ถกเถียงกันมานานปีดีดักแทบทำงานวิจัยปริญญาเอกได้นับโหล แต่ที่จริงผงชูรสนี้มาจากสารธรรมชาติ กินได้เพียงแต่อย่ากินเยอะ เช่น อย่ากินข้าวนอกบ้านทุกมื้อ หรือผู้ป่วยความดันพุ่งปรี๊ดอยู่แล้วต้องเลี่ยง

 

ถ้าไม่อยากกินผงชูรสก็มีวิธีเลือกอาหารมาคู่กันทำให้เกิดรสชาติแบบเดียวกับเอ็มเอสจี (MSG) ได้เรียกว่า “อาหารผงชูรส” ได้แก่ เห็ดเข็มทอง, หอมใหญ่, หน่อไม้ฝรั่ง, กุ้ง, สาหร่ายทะเลและอีกมาก

 

 

ตัวอย่างอาหารที่ยกมาสาธกให้ดูนี้เลือกเอาเฉพาะที่พบเจอบ่อยจนถูกจัดอยู่ใน “อาหารต้องห้าม (ที่แสนอร่อย)” ทำให้คนอดนั้นนั่งทำตาปริบๆ กล้ำกลืนน้ำลายและน้ำย่อยตัดพ้อโชคชะตาที่เล่นตลกไม่ให้ลิ้มชิมของอร่อยเมื่อยาม “มีโอกาสกินได้” ผมเชื่อด้วยว่าอาหารหลายๆ อย่างที่เราถูกห้ามกันในตอนนี้ประเดี๋ยวอีกไม่นานก็อาจเปลี่ยนไปได้อีกในอนาคตถ้าไม่กลายเป็นอาหารพิษก่อมะเร็งก็อาจกลายเป็นอาหารสุขภาพขั้นเทพเลยก็ได้มีถมไปครับ

 

ฉะนั้นสูตรการกินที่ดีก็หนีไม่พ้น “อร่อยอย่างไรก็ไม่ให้กินมากไป” คือให้กินพอดีนั่นเองครับ

 

มหาดเล็กชาวเครื่องของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เคยเล่าว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 จะเสวยพระกระยาหารไม่มากโดยเฉพาะถ้าอย่างไหนอร่อยมาก พระองค์จะเสวยแต่เพียงคำหนึ่งแล้วหยุดเพื่อไม่ให้ทรง “ติดรส” เช่นเดียวกับพระป่าที่ท่านมีปฏิปทาเข้มเคร่งก็จะไม่ฉันอาหารให้ติดรสเช่นกันโดยจัดการฉันสำรวม

 

ดังนั้นเทรนด์ “อาหารสุขภาพ” ในอนาคตนั้น ในฐานะแพทย์อายุรวัฒน์ขอฟันธงเลยว่าไม่ใช่ “อาหารต้องห้าม” หรือ “อาหารต้องอด” แน่ แต่เป็นการรู้จักกินมากกว่า