ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ และ เพื่อนๆ ทุกๆคน วันอาทิตย์ เป็นวันหยุด เขียนเล่านิทานดีกว่า นิ

เด็กขายของ ไปอุดหนุนหนังไทย " Succeed ห่วยขั้นเทพ " พระเอกชื่อ เป็ด ก็เลย นึกถึงเรื่องเป็ดกับไก่ที่ไม่เคยพบหน้ากัน เจอ

แต่ในโลกออนไลน์ วันหนึ่งทั้งสอง ก็มานัดเจอกัน ที่ถนนเยาวราช หน้าร้านทอง ฯ เป็ดกำลังยืนรอรับบริการ อย่างสบายใจอยู่ในร้านทองฯ

พอดีไก่เดินผ่านมา เป็ดก็ร้องเรียกไก่

 

"ไก่ ไก่ มาซื้อทองแท่งจริงๆ ด้วยกันสิ ราคาทองหล่นมาเยอะแล้วนะ มาสิมาซื้อด้วยกัน"

 

ไก่ก็บอกว่า "ไม่เอาหรอกฉันว่ามันยังลงได้อีกนะ ฉันไม่ขึ้นรถไปกับแกหรอก"

 

เป็ด "ไม่เห็นเป็นไรฉันยังขึ้นรถมาแล้วเลย มาสิมาขึ้นรถด้วยกันนะ"

 

ไก่ "ไม่เอาหรอกฉันไม่อยากขึ้นรถตอนนี้จริง ๆ เธอก็ขึ้นรถไปสิ ฉันอยู่นิ่งๆ แหละ"

 

เป็ด "อะไรเป็นเพื่อนกัน ทำไม ไม่เชื่อ ก็ฉันยังขึ้นรถได้เลย ขึ้นรถมาซะทีสิจะให้พูดไปถึงไหน มาขึ้นรถด้วยกันมะ"

 

ไก่ก็บอกว่า "ไม่เอาหรอกฉันว่าทองคำยังลงได้อีกนะ เธอก็ซื้อไปสิ ฉันอยู่นิ่งๆ แหละ เป็ดโมโหมาก ที่เรียกเท่าไหร่ไก่ก็ไม่ยอมซื้อทองแท่งด้วยซะที"

 

ใครบ้ากันแน่ เป็ดหรือไก่?

 

 

ถ้าเป็นเพื่อนๆ เพื่อนก็จะยอมรับว่าธรรมชาติของเขาเป็นอย่างนั้น แล้วปล่อยวาง และจะไม่พยายามอยากให้คนอื่นเป็นได้ใจเรา

เพราะเราก็เป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็นไม่ได้เหมือนกัน " เพราะ เงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นของ กู "

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณเฮียแบทเสียดายไม่ได้ไป -_-

 

ขออภัยที่ไม่ได้โปรโมท งานสัมมนาฟรีของ GT มากนัก

เพราะผมไม่ได้เข้าเว็บเลยไม่ได้แจ้งให้ทราบนักเลยครับ

ไว้งานหน้าจะประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ครับ

เรื่องราคาทองเมื่อราคามันวิ่งขึ้นสูงแล้ว ร้านทองส่วนมากไม่เข้าไล่ซื้อนะครับ

หรือถ้าขายไปแล้วในราคาที่ต่ำก็ใช้วิธีไม่กลับไปไล่ซื้อ

เพราะที่มันขึ้นมาจากการเก็งกำไรนะครับ มีความเสี่ยงสูงมาก

 

ตอนนี้ก็นอนตึกเดียวกับที่ในหลวงประทับรับการักษาพระวรกายอยู่

แต่ผมอยู่ชั้น5ในหลวงประทับอยู่ชั้น16

 

0VNPPANBKMRL4VWXPH0PQPU1CGHLFW2AXD4LSGWRWNYPHDRU.jpg

 

ห่างหายจากวงการไปหลายวันเกือบเดือน ตอนนี้พอเริ่มมีเวลาว่างแล้ว

ขอลองเคาะสนิม นำเสนอมุมมองทางเทคนิคที่เห็นกล่าวคือ

ราคาทองคำหลังจากวิ่งขึ้นบันไดแล้วลงลิฟท์

เล่นSliderไหลลงมาอย่างรวดเร็ว

จนเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาเอาไว้ได้ที่1461.5

จากนั้นก็เริ่มค่อยๆดันราคาเพิ่มขึ้นมาจนราคาทองคำมาหยุดตรง1495ในเวลานี้

 

ผมมองว่าราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวทำสามเหลี่ยมชายธง

โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1485ซึ่งน่าที่จะรับไว้อยู่

น่าที่จะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ 1500 ซึ่งอาจจะฝ่าไปได้

และแนวต้านถัดไปที่ 1507ซึ่งถ้าฝ่าไปได้ก็ยังมี1519ต้านเอาไว้

ซึ่งผมคาดว่าไม่น่าที่จะฝ่าผ่านไปได้

แต่ถ้าผ่านไปได้อีกก็ตัวใครตัวมันครับ (งานนี้มีภาคสอง)

ไม่เย็นวันจันทร์หรือเช้าวันอังคารก็จะรู้ว่าจะฉายภาคสองหรือไม่

แต่ถ้าให้ผมมองขึ้นได้ไม่ไกลน่าจะแค่1507

แล้วยังต้องลงมาก่อนครับ

 

ปล.คุณเด็กขายของไปดูหนังวัยสะรุ่นเสียด้วย

แต่นิทานที่เล่าน่าจะเป็น หมู กับแมลงเม่า คุยกันจะตรงกว่าหรือเปล่าครับ 555

 

namchiang.jpg

ถูกแก้ไข โดย ห้างทองน่ำเชียง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรื่องต่อไป เรื่องที่ 2

 

เป็ดมีพ่อแม่ที่มองเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในแง่ลบมากๆ พ่อแม่เป็ดวันๆจะอ่านแต่ข่าวร้าย แล้วเรียกเป็ดไป " ติวเข้ม" ว่า " ให้ระวังนะ ราคาทองจะพุ่งไม่หยุด สกุลเงิน US Dollar และ Euro และ อื่นๆ จะมีอันล้มลง เกิดสกุลเงินใหม่ ที่ค้ำประกัน โดย ทองคำ เหมือนในข่าวที่พวกเขาอ่านเจอมา ทุกอย่างที่เป็ดทำ หรือ พยายามอธิบาย และ บอกกับ พ่อแม่ ว่าราคาทองคำถูกปั่นราคาขึ้นมาจากกองทุนฯ ขาใหญ่ทั้งนั้น พ่อแม่จะไม่เชื่อ และจะพูดว่า

"ไม่มีทางเป็นไปได้"

 

ตอนเด็กๆพ่อแม่ของเป็ด จะพาเป็ดไปทำบุญตักบาตร และฟังเทศน์ พ่อแม่บอกว่า มันจะทำให้เราประสบความเจริญรุ่งเรื่องในชีวิต พ่อแม่สอนให้เป็ดแขวนพระที่คอ เพื่อที่จะได้แคล้วคลาด และได้รับความนิยมชมชื่น เพราะเชื่อความศัำกดิ์สิทธิ์ของพระเครื่อง

 

ตอนเป็ดไปอยู่ต่างแดนเป็ดมีปัญหา ป่วยทางร่างกาย และจิตใจ มี IQ ต่ำกว่ามนุษย์ทั่วๆไป แต่เผอิญเป็ดไปค้นพบคำสอนเรื่องทฤษฎีธาตุทั้ง 5 เป็ดจึงรู้ว่า พ่อแม่เรา

 

"ธาตุน้ำป่วย" .... "ธาตุน้ำ คือไตกับกระเพาะปัสสาวะ ถ้าป่วย จะทำให้ "กลัว และมองโลกในแง่ลบตลอดชีวิต" ดังนั้นการเปลี่ยนคนมองโลกในแง่ลบ

ทำได้โดยการฝึกสมาธิและพลังลมปราณเพื่อให้ไตและกระเพาะปัสสาวะแข็งแรงขึ้น มันก็จะทำให้ "เลิกกลัว" และหันมามองโลกในแง่บวกได้ในที่สุด

 

"ซึ่งในอดีตเป็ดมองโลกในแง่ลบ พูดได้ว่า มันเป็นโรคติดต่อ ที่เป็ดติดต่อมาจากการที่พ่อแม่ เลี้ยงดูเป็ดมาให้มองโลกในแง่ลบ เนื่องจากพ่อแม่เป็ดมี

ไตและหรือกระเพาะปัสสาวะที่อ่อนแอนั่นเอง"

 

การไปทำบุญตักบาตร์หรือแขวนพระเครื่องหรือฟังพระเทศน์เรื่องเีกี่ยวกับธรรมวินัยหรือบาบบุญคุณโทษ แก้ปัญญาที่ต้นตอ รักษาอาการมองโลก

ในแง่ลบของเราได้หมด

 

พอเป็ดมีสมาธิ ใจเย็น หาเหตุหาผล ซื้อ-ขายทองตามแนวโน้ม ขึ้นแล้วกำลังลง ก็ขาย ลงแล้วกำลังขึ้น ก็ซื้อ เป็ดก็อยากให้พ่อแม่เป็ดมีสมาธิบ้าง

ศึกษาอ่านข้อมูลมากๆ ไม่ใช่ ถามเป็น แต่ ทองคำขึ้นหรือยัง ? ทองคำเมื่อไหร่จะขึ้น ? ซื้อได้หรือยัง ? เป็ดจึงพยายามหาหนังสือแนวคิดต่างๆ

ในเรื่องกราฟ และ เทรนการขึ้น-ลง ของราคาทอง มาอัดใส่เทป เปิดให้ พ่อแม่ฟัง แต่เป็ดกลับโดนกล่าวหาว่า

 

" เก็บทองแท่งเอาไว้ไม่ขาย เก็บไปรอจนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาล้ม เกิดเศรษฐกิจโลกใหม่ ที่ตอนนั้น ราคาทองจะเป็นเท่าไหร่ รู้ไหม "

 

พ่อแม่เป็ดมีเงินทองมากพอที่จะอยู่เฉยๆได้ ฝากธนาคารแล้วรับดอกเบี้ย 3.5% และหาความสุขกับชีวิตได้ด้วยการทำอะไรดีๆหลายๆอย่าง

เช่นไปท่องเที่ยวสถานที่อันงดงาม หากแต่พวกเขา "มองโลกในแง่ลบว่า มูลค่าเงินของตัวเองจะลดลง อยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ ก็เลยลดจริงๆ

(ตามหลัก The Law of Attraction ในหนังสือ The Secret ของ Rhonda Byrne ที่บอกว่า Like attracts like.) เลย ตอนนี้เงินทองเป็น

จำนวนมาก แทนที่จะเอาไปใช้หาความสุขความสบายได้ กลับต้องมาถูกลดจำนวนลง ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด, เจ็บใจทำไมไม่ขายตอนราคาสูง

แก้ไม่หายด้วย เพราะมองแต่โลกในแง่ลบ และ บ่นทั้งวันทั้งคืน ว่า ทำไมกราฟ Sideway Down ราคาทองน่าพลิกกลับเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้น

ได้แล้ว ความเป็นจริงๆ ราคาทองต้องถีบตัวสูงขึ้นได้อีกเรื่อยๆ เพราะมูลค่าที่แท้จริงของทองคำ มากกว่านี้เสียอีก เพราะภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก

 

เป็ดพูดให้ระวังอย่างมาก เวลาราคาทองพุ่งอย่างรวดเร็ว ภายใน 1 เดือน แต่โรคที่พ่อแม่เป็นรักษาไม่หายด้วย เพราะมองแต่โลกในแง่ลบ และขาด

การหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นๆ คิดแต่จะซื้อทองเข้าพอร์ตเพิ่มเติม เมื่อราคาทองลงมาทุกๆ ครั้งที่ลด เพราะพ่อแม่เป็ดบอกว่า เดี๋ยวก็พุ่งยาว

ไปเลย เบรคไม่อยู่หรอก กำไรมหาศาล รวยลูกเดียว เงินทองจะมั่งคั่ง เป็ดพยายามบอกให้พ่อแม่ดูถึงที่มาที่ไปของข่าว ว่าเป็นอย่างไร

คิดแบบไหน เข้าข้างใครหรือเปล่า ลำเอียงหรือเปล่า เพราะ ถ้านั่งแต่เสพข่าวสารในแง่ลบมากๆ !!! จิตมนุษย์ทำได้ทุกอย่าง...

 

เป็ดพยายามบอกกล่าวว่า เป็นกลไกของตลาดโภคภัณฑ์ ที่ย่อมมีขึ้นมีลง เป็นหมากเกมส์ของตลาดทุนที่ถูกควบคุมจากคนมีเงินคนอื่นมาให้ใช้

จำนวนมากมาย โดยจุดมุ่งหมายของกองทุนฯ ก็คือ ผลตอบแทนจากการสร้างกำไรของกองทุนฯ เพื่อให้พวกเขาหยุดซื้อเข้าเสียที แต่แนวคิดอะไรที่ต่างจากคำบอกเล่ามองเศรษฐกิจโลกในแง่ลบ พ่อแม่เป็ดไม่ยอมรับเลย และจะพูดว่า "เป็นเรื่องนอกทฤษฎี (เพราะไม่เหมือนเรื่องที่เขาบอกมา) ผลลงเอย

ก็คือเป็ดต้องปลงว่า เป็ดคงช่วยพ่อแม่ให้พ้นทุกข์ไม่ได้ แล้วเป็ดต้องคิดแบบว่า

 

Let nature take its own course. By doing nothing everything is done and taken care for.

 

"การที่เราจะมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีได้นั้น เราจำเป็นต้องทำตัวเป็นลูกไม้ที่หล่นไกลต้น นั่นก็คือคิดทุกอย่างฉีกแนวออกไป ไม่ให้เหมือนพ่อแม่เรา และทำต้องลาย characteristics ทุกอย่างของพ่อแม่เราให้หายไปจากร่างกายและจิตใจของเรา ให้หมดสิ้น แบบถอนรากถอนโคน ให้สิ้นซากไปเลย...หากมิเช่นนั้นแล้ว เมื่อแก่ตัวเราจะลำบากมากๆ..."

 

และอีกอย่างหนึ่ง ถ้าเรากลายเป็นนักเก็งทองคำ และเราอยากให้ได้ผลตอบแทน เราจะไม่บอกเหมือนคนที่มาบอกพ่อแม่เราตอนพ่อแม่เราเข้า Internet

แต่เราจะบอก

 

"ทฤษฎีทางเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาค นโยบายการเงิน เนื่องจากว่า มันรักษาอาการป่วยทางร่างกายและจิตใจได้โดยตรง (ซึ่งนั่นก็เป็นความทุกข์ของมนุษย์โดยทั่วๆไป) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สอนให้มองเศรษฐกิจโลกในแง่บวก ให้สร้างความหวัง มีทางแก้ไข และออกมาตรการ กฎเกณฑ์ต่างๆ แทนที่จะคิดว่า สักวันหนึ่งเร็วๆ นี้ สกุลเงินต่างๆ ทั่วโลกจะล่มสลาย เกิดสกุลเงินใหม่ในโลก โดยใช้ทองคำเป็นตัวชี้นำค่าเงินใหม่ แล้วสะสมทอง แต่เป็ดจะสอนให้สร้างพลังอันเต็มเปี่ยมให้แก่ชีวิต ให้ชีวิตมันสดใสขึ้น โดยการมองโลกในแง่บวก และเชื่อใน พลังเร้นลับ โดยพูดว่า There are no miracles; what you see are only unknown laws. " ....

 

"ทุกวันนี้เป็ด พยายามมีความหวังในชีวิต และเชื่อว่า "ปาฎิหารย์" มีจริง...!!!"

 

แต่สิ่งที่เป็ดเพิ่งเรียกมันว่า "ปาฏิหารย์" นั้น แท้จริงแล้ว มันเป็น " ความโลภ " ต่างหากล่ะ

 

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ

 

งง ! ว่าเฮียนายห้างฯ แว๊ปมาจากไหน ขอบคุณมากครับ สำหรับมุมมองครั้งนี้ ของเฮียนายห้างฯ

อ้าว ! ตกลงว่า นิทานเรื่องที่ 1 เป็นเรื่อง หมู กับ แมงเม่า เหรอครับ ดีครับ ดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ และ เพื่อนๆ ทุกๆคน วันอาทิตย์ เป็นวันหยุด ขอเปลี่ยนชื่อ การสนทนา และเนื้อหา เอาใจเฮียนายห้างฯ นะครับ

หมู กับ แมงเม่า ไม่เคยพบหน้ากัน เจอแต่ในโลกออนไลน์ วันหนึ่งทั้งสอง ก็มานัดเจอกัน ที่ถนนเยาวราช หน้าร้านทอง ฯ แมงเม่ากำลังยืนรอรับบริการ อย่างสบายใจอยู่ในร้านทองฯ พอดี หมู เดินผ่านมา แมงเม่า ก็ร้องเรียก หมู

 

"หมู หมู มาซื้อทองแท่งจริงๆ ด้วยกันสิ ราคาทองหล่นมาเยอะแล้วนะ มาสิมาซื้อด้วยกัน"

 

หมูก็บอกว่า "ไม่เอาหรอกไอ้ราคานี้ ฉันพึ่งขายออกไปเมื่อเดือนที่แล้วเอง ยังเจ็บใจอยู่เลย ตอนที่มันขึ้นทำ New High ฉันไม่ขึ้นรถไปกับแกหรอก"

 

แมงเม่า "ไม่เห็นเป็นไรฉันยังขึ้นรถมาแล้วเลย มาสิมาขึ้นรถด้วยกันนะ"

 

หมู "ไม่เอาหรอกฉันไม่อยากขึ้นรถตอนนี้จริง ๆ เธอก็ขึ้นรถไปสิ ฉันพึ่งได้กำไรมา เงินก้อนนั้นก็ใช้หมดแล้ว จะต้องควักทุนซื้อทองแท่งเพิ่มขึ้นเหรอ"

 

แมงเม่า "อะไรเป็นเพื่อนกัน ทำไม ไม่เชื่อ ราคาทองกำลังจะพุ่งนะ เขาว่ามาเศรษฐกิจสหรัฐจอมปลอม ฉันยังขึ้นรถได้เลย ขึ้นรถมาซะทีสิจะให้พูดไปถึงไหน

มาขึ้นรถด้วยกันมะ"

 

หมูก็บอกว่า "ไม่เอาหรอก ฉันว่าทองคำยังลงได้อีกนะ และก็อยากซื้อในราคาที่ต่ำกว่าที่เคยเอาไปขายเสียด้วย เธอก็ซื้อไปสิ ฉันอยู่นิ่งๆ แหละ แมงเม่าโมโหมาก

ที่เรียกเท่าไหร่ หมูก็ไม่ยอมซื้อทองแท่งด้วยซะที"

 

ใครบ้ากันแน่ แมงเม่าหรือหมู?

 

 

ถ้าเป็นเพื่อนๆ เพื่อนก็จะยอมรับว่าธรรมชาติของเขาเป็นอย่างนั้น แล้วปล่อยวาง และจะไม่พยายามอยากให้คนอื่นเป็นได้ใจเรา

เพราะเราก็เป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็นไม่ได้เหมือนกัน " เพราะ เงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นของ กู "

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ และ เพื่อนๆ ทุกๆคน วันอาทิตย์ เป็นวันหยุด ขอเปลี่ยนชื่อ การสนทนา และเนื้อหา เอาใจเฮียนายห้างฯ นะครับ

หมู กับ แมงเม่า ไม่เคยพบหน้ากัน เจอแต่ในโลกออนไลน์ วันหนึ่งทั้งสอง ก็มานัดเจอกัน ที่ถนนเยาวราช หน้าร้านทอง ฯ แมงเม่ากำลังยืนรอรับบริการ อย่างสบายใจอยู่ในร้านทองฯ พอดี หมู เดินผ่านมา แมงเม่า ก็ร้องเรียก หมู

 

"หมู หมู มาซื้อทองแท่งจริงๆ ด้วยกันสิ ราคาทองหล่นมาเยอะแล้วนะ มาสิมาซื้อด้วยกัน"

 

หมูก็บอกว่า "ไม่เอาหรอกไอ้ราคานี้ ฉันพึ่งขายออกไปเมื่อเดือนที่แล้วเอง ยังเจ็บใจอยู่เลย ตอนที่มันขึ้นทำ New High ฉันไม่ขึ้นรถไปกับแกหรอก"

 

แมงเม่า "ไม่เห็นเป็นไรฉันยังขึ้นรถมาแล้วเลย มาสิมาขึ้นรถด้วยกันนะ"

 

หมู "ไม่เอาหรอกฉันไม่อยากขึ้นรถตอนนี้จริง ๆ เธอก็ขึ้นรถไปสิ ฉันพึ่งได้กำไรมา เงินก้อนนั้นก็ใช้หมดแล้ว จะต้องควักทุนซื้อทองแท่งเพิ่มขึ้นเหรอ"

 

แมงเม่า "อะไรเป็นเพื่อนกัน ทำไม ไม่เชื่อ ราคาทองกำลังจะพุ่งนะ เขาว่ามาเศรษฐกิจสหรัฐจอมปลอม ฉันยังขึ้นรถได้เลย ขึ้นรถมาซะทีสิจะให้พูดไปถึงไหน

มาขึ้นรถด้วยกันมะ"

 

หมูก็บอกว่า "ไม่เอาหรอก ฉันว่าทองคำยังลงได้อีกนะ และก็อยากซื้อในราคาที่ต่ำกว่าที่เคยเอาไปขายเสียด้วย เธอก็ซื้อไปสิ ฉันอยู่นิ่งๆ แหละ แมงเม่าโมโหมาก

ที่เรียกเท่าไหร่ หมูก็ไม่ยอมซื้อทองแท่งด้วยซะที"

 

ใครบ้ากันแน่ แมงเม่าหรือหมู?

 

 

ถ้าเป็นเพื่อนๆ เพื่อนก็จะยอมรับว่าธรรมชาติของเขาเป็นอย่างนั้น แล้วปล่อยวาง และจะไม่พยายามอยากให้คนอื่นเป็นได้ใจเรา

เพราะเราก็เป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็นไม่ได้เหมือนกัน " เพราะ เงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นของ กู "

 

 

คริคริ นิทานสนุกได้แง่คิดดีนะคะ แมงเม่ากับหมู และ เงินกู ขอบคุณนะคะ วันอาทิตย์ ยังสละเวลา มาเปิดมุมมองและรอยยิ้ม :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคะ เฮียนายห้าง คุณเด็กขายของ วันอาทิตย์ ยังสละเวลา มาให้แง่คิด และมุมมองดีๆๆ เป็นประโยชน์มากคะ ขอบคุณในความกรุณานะคะ ขอให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ นะคะ .. ใครไม่สบาย ก็ ขอให้หายไวๆๆนะคะ ....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณ ginger ครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจนะครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแคร์สื่อแล้วครับ คิดอยุ่ว่าอยากลง ก็ลงไปเลย จะได้กลับมาขึ้นใหม่ซะทีครับ

เพราะตอนนี้ผมก็ดูแล้วยังสามารถเก็บได้ถึงปลายปีได้สบายๆ ไม่มีปัฐหาเรื่องเงินครับ :wub:

 

คุณTopping ในการลงทุนทองเราไม่สามารถมั่นใจอะไรได้เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้

เราต้องไม่ประมาทเพราะไม่มีใครรู้ได้ เฮียปิรันย่าออกมาเตือนว่าจะปรับฐานประมาณไว้ 300

เมื่อทองลง เราไม่กล้าเข้าซื้อ คอยเตือนให้เพื่อนระวังอย่าเข้าซื้อมาตลอดเพราะไม่มีใครรู้ว่ามันจะลงมาแค่ไหน

แม้แต่ตอนที่คุณถามมา เรายังให้รอซื้อตอนขาลง(ต้องรอดูว่ามันจะลงแค่ไหน เพราะถ้ามันลงไปเรือยๆ เราไปซื้อเราก็ :( ) :wub:

ช่วงที่ราคาขึ้น เราไม่ให้เพื่อนรีบขายเพราะไม่รู้ว่าจะขึ้นต่อมั๊ย B)

พอเราแน่ใจว่าลงเราก็ขาย แต่ก็ยังเหลืออยู่บ้าง

เราก็เป็นคนตัวเล็กๆ ที่ยังต้องเรียนรู้ จึงหนักใจมาก !_18 เหมือนกัน

เพราะมองว่ามันขึ้นไป แล้วจะลงมาแค่ไหน จะยังไง

แต่ละคนมีสไตลย์และวิธีคิดไม่เหมือนกัน บางคนเห็นลงเขาก็เก็บเล่นสั้น

บางคนราคาลงเขาเก็บยาว เขาก็ทะยอยเก็บ และไม่สนใจเก็บไปเรื่อยๆ

บางคนรู้ว่าขาลงแน่เขาจะขายเมื่อเด้งขึ้น

แล้วค่อยเข้าใหม่เมื่อมีสัญญาณซื้อหรือเพื่อซื้อไนราคาต่ำลง หรือเพื่อลดความเสี่ยง( มันก็ไม่แน่ แล้วแต่อีก)

คนทีเค้าเก่งแล้วเขาเห็นลงแน่เค้าเล่นตามแนวโน้ม เขาก็ขายก่อน

 

ที่เล่ามานี่เพื่อให้คุณTopping เข้าใจเราด้วยว่าเราเป็นห่วง :wub:

เราก็เคยโดนแบบนี้ เราก็ต้องเลือก ถ้าตัดสินใจแล้วมากลุ้มใจอยู่ก็แย่

ขอให้คุณTopping ศึกษาและเรียนรู้ ตามดูความเคลื่อนไหวแบบไม่เครียด :lol:

ทำใจให้พร้อมที่จะเรียนรู้ มีสติตั้งมั่น แค่อย่ายึดมั่นเพราะไม่มีอะไรแน่นอน

สิ่งที่เราทำได้คือการเรียนรู้และยอมรับโดยรักษาใจเราไว้ :wub:

ต่อไปเราจะตัดสินใจได้ดีขึ้น อ่านของทุกคน เรียนรู้และรักตัวเองด้วย

อ่านของผู้ใหญ่หลายคน เรียนรู้ไปทำใจให้หนักแน่น ;)

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณTopping ในการลงทุนทองเราไม่สามารถมั่นใจอะไรได้เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้

เราต้องไม่ประมาทเพราะไม่มีใครรู้ได้ เฮียปิรันย่าออกมาเตือนว่าจะปรับฐานประมาณไว้ 300

เมื่อทองลง เราไม่กล้าเข้าซื้อ คอยเตือนให้เพื่อนระวังอย่าเข้าซื้อมาตลอดเพราะไม่มีใครรู้ว่ามันจะลงมาแค่ไหน

แม้แต่ตอนที่คุณถามมา เรายังให้รอซื้อตอนขาลง(ต้องรอดูว่ามันจะลงแค่ไหน เพราะถ้ามันลงไปเรือยๆ เราไปซื้อเราก็ :( ) :wub:

ช่วงที่ราคาขึ้น เราไม่ให้เพื่อนรีบขายเพราะไม่รู้ว่าจะขึ้นต่อมั๊ย B)

พอเราแน่ใจว่าลงเราก็ขาย แต่ก็ยังเหลืออยู่บ้าง

เราก็เป็นคนตัวเล็กๆ ที่ยังต้องเรียนรู้ จึงหนักใจมาก !_18 เหมือนกัน

เพราะมองว่ามันขึ้นไป แล้วจะลงมาแค่ไหน จะยังไง

แต่ละคนมีสไตลย์และวิธีคิดไม่เหมือนกัน บางคนเห็นลงเขาก็เก็บเล่นสั้น

บางคนราคาลงเขาเก็บยาว เขาก็ทะยอยเก็บ และไม่สนใจเก็บไปเรื่อยๆ

บางคนรู้ว่าขาลงแน่เขาจะขายเมื่อเด้งขึ้น

แล้วค่อยเข้าใหม่เมื่อมีสัญญาณซื้อหรือเพื่อซื้อไนราคาต่ำลง หรือเพื่อลดความเสี่ยง( มันก็ไม่แน่ แล้วแต่อีก)

 

ที่เล่ามานี่เพื่อให้คุณTopping เข้าใจเราด้วยว่าเราเป็นห่วง :wub:

เราก็เคยโดนแบบนี้ เราก็ต้องเลือก ถ้าตัดสินใจแล้วมากลุ้มใจอยู่ก็แย่

ขอให้คุณTopping ศึกษาและเรียนรู้ ตามดูความเคลื่อนไหวแบบไม่เครียด :lol:

ทำใจให้พร้อมที่จะเรียนรู้ มีสติตั้งมั่น แค่อย่ายึดมั่นเพราะไม่มีอะไรแน่นอน

สิ่งที่เราทำได้คือการเรียนรู้และยอมรับโดยรักษาใจเราไว้ :wub:

ต่อไปเราจะตัดสินใจได้ดีขึ้น อ่านของทุกคน เรียนรู้และรักตัวเองด้วย

อ่านของผู้ใหญ่หลายคน เรียนรู้ไปทำใจให้หนักแน่น ;)

 

 

ขอบคุณมากครับ คุณ ginger ที่คอยให้คำแนะนำ ปรึกษา และเป็นห่วง นะครับ

จะพยายามศึกษาหาความรู้ให้มากขึ้น และก็มีสติมากกว่านี้ครับ :lol:

ถูกแก้ไข โดย Topping

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ คุณ ginger ที่คอยให้คำแนะนำ ปรึกษา และเป็นห่วง นะครับ

จะพยายามศึกษาหาความรู้ให้มากขึ้น และก็มีสติมากกว่านี้ครับ :lol:

 

มันยากนะ :P

ขอบคุณนะที่เข้าใจ :)

ข้อแรกคุณต้องเข้าใจตัวเองก่อน555

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"อย่ามองราคาทองดิ่งลงในแง่ร้าย" นี่คือประโยคสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ให้กำลังใจใครสักคนหนึ่ง แต่เขาจะรู้บ้างไหมว่าวลีสุดคลาสสิค

"มองราคาทองดิ่งลงในแง่ร้าย" นั้นหมายความว่าอย่างไร

spacer.gif ถ้าจะแปลกันโดยตามความเข้าใจของคนเรา ก็จะหมายถึง การที่มองเห็นราคาทองคำตลาดโลกลดลงขณะนี้ หรือ กำลังจะเกิดขึ้นเป็น

เรื่องร้ายไปหมด เกิดความหวาดระแวงซื้อหรือรอลงอีกนิด ไม่กล้าเสี่ยงเพราะคิดแต่เพียงว่า มันจะต้องลงไปอีก หรือ ลงยังไม่สุด

 

spacer.gif ใช่ มันอาจจะดูเหมือนเป็นคนไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าเสี่ยง แต่ถ้าจะมองกันในอีกมุมหนึ่ง นั่นคือการมองราคาทองอย่างรอบคอบใช่หรือไม่?

นี่เป็นคำถามที่ท่านจะต้องเป็นคนตอบกับตัวเอง

spacer.gif หากคนที่มองราคาลงในแง่ดี หมายถึงคนที่เห็นลดลงแต่ละครั้งก็ดีไปหมด เข้าซื้อทองแท่งเก็บทุกวันที่ราคาทองลดลง ไม่มีความระแวง

ต่อเหตุการณ์ข้างหน้า หรือ การปรับฐานของราคาทองคำ ก็เปรียบเสมือนว่าพวกเขาเหล่านั้นมีอัตราเสี่ยงต่อความผิดหวังสูงกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้าย

ใช่หรือไม่?

 

spacer.gif เมื่อเราลองพิจารณาจากสองคำถามข้างต้นนี้แล้ว คำถามที่เกิดตามขึ้นมาในความคิดก็คือ ระหว่างมองราคาดิ่งลงในแง่ดีกับมองราคาดิ่งลง

ในแง่ร้าย อย่างไหนดีกว่ากัน? ปวดหัวครับ ปวดหัวจริงๆ

spacer.gif โดยสรุปแล้ว

spacer.gif "มองราคาทองดิ่งลงในแง่ร้าย" ----- มัวแต่กลัวจนไม่ได้ซื้อทองแท่ง หรือ อยากซื้อแต่ขอให้ลงให้สุดๆ ก่อน

spacer.gif "มองราคาทองดิ่งลงในแง่ดี"---------มั่นใจเต็มที่ หวังผลเพื่อรักษาความมั่งคั่ง และ ป้องกันสภาวะเงินเฟ้ออย่างหมดใจ มีกำลังใจด้วยคำปลอบใจตนเองที่คิดขึ้นมา " เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังล้มละลาย, สภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก "spacer.gif

 

เมื่อเรารวมสองวลีเข้าด้วยกันแล้วหารเฉลี่ยก็จะถึงบางอ้อทันที เพราะมันจะกลายเป็น "มองโลกอย่างรอบคอบ"---------ไม่กลัว และไม่ประมาท

ยอมรับในตนเอง ไม่โกหกตนเองเพื่อเป็นกำลังใจ

spacer.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การมองโลกในแง่ดี เป็นการมองโลกอย่างยอมรับ

ยอมรับกับสภาวะของสิ่งที่จะเกิดขึ้น รับได้ และยอมรับได้อย่างสุขใจ

 

แม้บางครั้ง สิ่งที่ได้รับ อาจไม่ใช่สิ่งที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังไว้ ไม่ใช่สิ่งที่พึงปรารถนา แต่ก็รู้จักหามุมมองในด้านบวก

ทำให้ตนเองรู้สึกมีความสุข และทำให้คนรอบข้างพลอยมีความสุขไปด้วยได้

 

ส่วนการมองโลกในแง่ร้าย หากมีระดับที่พอเหมาะพอสม ก็จักทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างปกติสุขได้ เช่นกัน

 

หากกลัวจน ก็ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยสัมมาชีพ

หากกลัวเจ็บป่วย ก็ต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพ

หากกลัวลืม ก็ต้องขยันจด

หากกลัวสอบตก ก็ต้องขยันอ่านหนังสือ

หากข้อความไม่ถูกใจ ก็ต้องหาข้อมูลมาแย้ง ไม่ใช่มาให้คะแนนติดลบ

อย่างไรก็ตาม อย่าเอาแต่หวาดกลัว หรือนึกถึงแต่สิ่งร้าย ๆ ผลร้าย ๆ นะจ๊ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นวิตกจริตไปซะก่อนนะจ๊ะ ...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีสายวันอาทิตย์ เฮียนายห้าง ที่เคารพ คุณnews (นักลงทุนช่วงนี้คงได้ทดสอบความแกร่งของหัวใจ แต่น่าจะได้ลุ้นก้นทำใจให้ว่างๆกว้างๆ เวลาที่ทองแกว่งขึ้นเกร่งลงจะได้ซิลๆ 555มะงั้นน่าสงสารหัวใจน้อยๆเดี๋ยวเลือดจะสูบฉีดแรงเกินไปเนอะ) คุณเด็กขายของ คุณDon nuchaba FOR GOLD gold gold raty Mr. Li puk88 jaiy jip วิภาดา ลูกชิ้นจัมโบ้ ทัมจัง มิ้ว

Arpat SUCHA xp_man1 add deb99 minda jije..NPT.. gold cross GOLD PIG Lekster Gui-hwin Chiranan GB2514 primer mumu

muchi muchi tree sit Till the end book2เพื่อนๆในเวปทุกคนแฟนคลับของน้องทอง วันนี้เป็นวันหยุด :wub: ใครมีแฟนคงพาเที่ยวบ้าง ใครมีลูกก็ไปกับครอบครัว พักผ่อนวันหยุดให้สบายใจนะจ๊ะ :P

สวัสดีครับคุณ ginger

ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การมองโลกในแง่ดี เป็นการมองโลกอย่างยอมรับ

ยอมรับกับสภาวะของสิ่งที่จะเกิดขึ้น รับได้ และยอมรับได้อย่างสุขใจ

 

แม้บางครั้ง สิ่งที่ได้รับ อาจไม่ใช่สิ่งที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังไว้ ไม่ใช่สิ่งที่พึงปรารถนา แต่ก็รู้จักหามุมมองในด้านบวก

ทำให้ตนเองรู้สึกมีความสุข และทำให้คนรอบข้างพลอยมีความสุขไปด้วยได้

 

ส่วนการมองโลกในแง่ร้าย หากมีระดับที่พอเหมาะพอสม ก็จักทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างปกติสุขได้ เช่นกัน

 

หากกลัวจน ก็ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยสัมมาชีพ

หากกลัวเจ็บป่วย ก็ต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพ

หากกลัวลืม ก็ต้องขยันจด

หากกลัวสอบตก ก็ต้องขยันอ่านหนังสือ

หากข้อความไม่ถูกใจ ก็ต้องหาข้อมูลมาแย้ง ไม่ใช่มาให้คะแนนติดลบ

อย่างไรก็ตาม อย่าเอาแต่หวาดกลัว หรือนึกถึงแต่สิ่งร้าย ๆ ผลร้าย ๆ นะจ๊ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นวิตกจริตไปซะก่อนนะจ๊ะ ...

:rolleyes: อ่านแล้ว +1 ค่ะ ขอบคุณมากๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...