ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ บอกว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.84-29.92 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 29.86-29.88 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงเล็กน้อย จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.80-29.95 บาท/ดอลลาร์ ตลาดรับข่าวการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของเยอรมนีที่ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ รีบาวน์กลับมาแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย ขณะที่วันนี้ตลาดรอฟังผลการประชุมธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ว่าจะมีแนวทางอย่างไรก็กับการสกัดกั้นการแข็งค่าของฟรังก์สวิส

 

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ บอกว่า ถ้าธนาคารกลางสวิสจะสกัดกั้นการแข็งค่าของฟรังก์ ก็จะต้องเทขายฟรังก์แล้วเข้าซื้อดอลลาร์ ดังนั้นเมื่อมีแรงซื้อดอลลาร์มากๆ ดอลลาร์ก็จะแข็งค่า และอาจจะมีผลให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 

ที่มา : money channel (วันที่ 17 สิงหาคม 2554)

 

[Pete 15,187]

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนนโยบยาการเคลื่อนย้ายเงินทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. บอกกับ Money channel ว่า สถานการณ์และแนวโน้มปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป จะยังคงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2012 เพราะการแก้ไขปัญหาหนี้ภาครัฐจะต้องใช้เวลามาก

 

ส่วนประเทศในกลุ่ม PIIGS จะยังคงมีปัญหาหนี้ต่อ GDP ต่อไป โดยกรีซยังคงเป็นประเทศที่น่าห่วงมากที่สุด แนวทางแก้ปัญหาคือประเทศจะต้องหารายได้เพิ่มขึ้น และ ลดรายจ่ายให้ได้มากขึ้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดมากขึ้น ส่วนประเทศไทยไม่ได้โดนรับผลกระทบโดยตรง สถานะการคลังของไทยยังแข็งแกร่ง และ หนี้สาธารณะยังคงต่ำ

 

ที่มา : money channel (วันที่ 17 สิงหาคม 2554)

 

[Pete 15,187]

หลี่ ตาวกุย หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน กล่าวว่า นโยบายการเงินของจีนจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของทิศทาง แม้ว่าจะเกิดวิกฤตหนี้สหรัฐ ยกเว้นเสียแต่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และเชื่อว่าตลาดต่างประเทศก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหลี่กล่าวว่า ประเด็นเรื่องสภาพคล่องที่สูงเกินไปในระบบการเงินของจีนยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่เป็นลบ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) – (วันที่ 17 สิงหาคม 2554)

[Pete 15,187]

บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส รายงานแนวโน้มราคาทองคำว่า ราคาทองสามารถราดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,780 ดอลลาร์ต่อทรอยออนได้ หลังตัวเลขจีดีพีเยอรมันออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจทำให้ตลาดหุ้นในยุโรปและสหรัฐปรับฐานลง หลังฟื้นตัวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

 

ส่วนผลการประชุมของผู้นำเยอรมันและฝรั่งเศสซึ่งไม่มีประเด็นที่เพียงพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากตลาดได้ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อ เช่นเดียวกับเงินฟรังก์สวิสที่ตลาดคาดว่าธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์อาจจะใช้มาตรการผูกค่าเงินฟรังก์กับค่าเงินยูโร จึงทำให้เงินฟรังก์เมื่อคืนนี้อ่อนค่าลงตามเงินยูโร สินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนนำเงินมาพักไว้จึงอยู่ในทองคำเป็นหลัก

 

จนทำให้ราคาทองในสั้นๆนี้ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ แม้ระดับราคาจะยืนในระดับสูงและอาจมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนราคาอ่อนตัวลงเป็นระยะๆ แต่คาดว่าความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลต่างๆจะทำให้ราคาทองแกว่งตัวขึ้นได้ต่อ แนวรับของราคาทองสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,170-1,775 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,790 และ 1,800 ดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตามประเด็นปัญหาต่างๆส่วนใหญ่ยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ ดังนั้นการปรับขึ้นของราคาทองคงไม่ได้ปรับขึ้นแรงดังเช่นสัปดาห์ก่อน และอาจมีการปรับฐานลงแรงกลับออกมาได้เช่นกัน ดังนั้นการเก็งกำไรระยะสั้นควรตั้งจุดขายตัดขาดทุนไว้ในกรณีที่ราคากลับปรับฐานลง ส่วนทิศทางราคาของโลหะเงิน คาดว่าจะถูกความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวกดดันให้ราคาปรับขึ้นในกรอบแคบลง และอาจเริ่มปรับฐานลง โดยมีแนวรับอยู่ที่ 39.0-39.20 ดอลลาร์

 

ที่มา : money channel (วันที่ 17 สิงหาคม 2554)

 

[Pete 15,187]

นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลกซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางเยือนออสเตรเลีย เตือนว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ใน "ช่วงเวลาที่ยากลำบากและเป็นอันตราย" พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลของทุกประเทศหาแนวทางการควบคุมปัญหาหนี้ในระยะยาว เพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปและสหรัฐ

 

ในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกับนายเวย์น สวอน รมว.คลังออสเตรเลียนั้น นายโซลลิคกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ยุโรปและสหรัฐจะต้องทำความเข้าใจประเทศอื่นๆที่มีส่วนร่วมใน "เกม" นี้ด้วย

 

"แม้ว่านี่จะเป็นการตัดสินใจของยุโรป แต่เราก็เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก และเราทั้งหมดก็มีส่วนอย่างมากด้วย สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อสารก็คือว่า กระบวนการจัดหาสภาพคล่องและความคาดหวังที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวขึ้นนั้น จะช่วยพาเราทุกคนออกไปจากที่นี่ ผมคิดว่านี่เป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ และเป็นสิ่งที่ตลาดกำลังสื่อสารกัน" นายโซลลิคกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กรุงแคนเบอราในวันนี้

 

นอกจากนี้ นายโซลลิคกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องผลักดันเรื่องการค้าเสรี พร้อมกับเตือนเรื่องนโยบายกีดกันการค้าในขณะที่หลายประเทศพยายามแก้ไขวิกฤตหนี้ภายในประเทศ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนายโซลลิคมีขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีจาก 5 ประเทศ ซึ่งได้แก่แคนาดา อังกฤษ แอฟริกาใต้ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อเรียกร้องให้ทั่วโลกใช้มาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่น และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูสถานะด้านการเงิน

 

ทั้งนายโซลลิคและนายสวอนกล่าวว่า ปัญหาหนี้ยุโรปและสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบที่มีต่อความเชื่อมั่นในตลาดโลกจะเป็นประเด็นสำคัญในการหารือกันในที่ประชุมผู้นำโลกกลุ่ม G20

 

นอกจากนี้ นายโซลลิคยังได้เข้าพบกับนางจูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียที่เมืองแคนเบอร์ราเมื่อวานนี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับผลกระทบของความไม่แน่นอนในปัจจุบันที่มีต่อกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและรปะเทศกำลังพัฒนา

[noijaa 12]

:rolleyes: ขอบคุณค่ะ สำหรับข่าวดีๆ

[Anna 567]

สวัสดคีครับ..เฮียนายห้างและทุกๆท่านครับ

 

ขอพลัง..เอาชนะแนวต้าน 1790 ด้วยเพี้ยงงงงงง

 

ส่งพลังช่วยคะ อิๆๆ

[Pete 15,187]

ผมขายเอากำไรก่อนครับ 25,220 บาทเวลา 13.32 น.เดี๋ยวย่อ 1,770 ค่อยเข้าใหม่

แสดงว่า ของคุณเศรษฐีน้อยฯ เป็นของร้านนาย ฮ. ใข่ไหมครับ เพราะในเวลาใกล้เคียงกัน

เด็กขายของปล่อยของหมดตรูดที่ 25,230 บาทที่ร้านนาย จ. ครับ รอรอบต่อไป ฮ่าฮ่า

[Pete 15,187]

 

ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คุณเด็กขายของ

วันนี้ว่างงานหน่อยเลยมีเวลามาอ่าน มาตอบ

ต้องดูความนิยมในสีและ%ของทอง ที่แตกต่างกันนะครับ

 

กะรัต สัญลักษณ์ เปอร์เซ็นต์ เฉดสีที่ได้ นิยมในประเทศ

24 24K 100% ทอง สวิสต์เซอร์แลนด์ จีน ฮ่องกง

22 22K 91.7% เหลืองทอง อินเดีย

21 21K 84.5% เหลืองทอง กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

18 18K 75% เหลืองขาว อิตาลี,ฝรั่งเศส,ญี่ปุ่น

14 14K 58.3% เหลืองขาว สหรัฐอเมริกา,อเมริกาเหนือ,อังกฤษ

10 10K 41.6% เหลือง สหรัฐอเมริกา ,อเมริกาเหนือ

9 9K 37.5% เหลืองปนเขียว อังกฤษ

8 8K 33.3% เหลืองซีด เยอรมนี

 

ของประเทศไทยอยู่ที่ 96.5% หรือ 23.16K ซึ่งมีประเทศเดียวในโลกน่ะครับ

ประเทศที่เริ่มมาซื้อทอง96.5%ก็มีจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เวียตนาม

ประเทศในแถบเอเชียที่ชอบทองสีออกเหลือง

แต่ฝรั่งแถบยุโรปมาซื้อน่ะ ซื้อให้แฟนคนไทยเสียทั้งนั้นครับ

หรือถ้ามีต่างประเทศมาซื้อไปขายก็ ซื้อไปขายให้คนไทยในต่างแดนน่ะครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับการบอกเล่าความรู้เรื่อง ของ เค ทอง ครับ

วันก่อนเด็กขายของเข็นรถขายของไปแถวซอยธนิยะ มีร้านทองฯ ขายเหรียญทองต่างประเทศ

คิดว่า พวกฝรั่งคงมาขายทิ้งเอาไว้ เฮียนายห้างฯ ว่า น่าซื้อเก็บไหมครับ

[thanksevery1 2]

ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องทองเค นะครับคุณห้างทองน่ำเชียง

[่jetmom3425 1]

ขอบคุณคุณเด็กขายของสำหรับข้อมูลข่าวสารครับ

 

แวะมาอ่าน ^ ^

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

แสดงว่า ของคุณเศรษฐีน้อยฯ เป็นของร้านนาย ฮ. ใข่ไหมครับ เพราะในเวลาใกล้เคียงกัน

เด็กขายของปล่อยของหมดตรูดที่ 25,230 บาทที่ร้านนาย จ. ครับ รอรอบต่อไป ฮ่าฮ่า

ครับ

[Ratcha 1]

เพี๊ยง!!!!!! !K2

ทะลุ 1800 แล้วรีบกลับลำลงมานะเจ้าคะ !21 !21 !21

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

สหรัฐกระตุ้นจ้างงานไฟเขียวธุรกิจขนาดเล็กข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 17 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 14:19 น.share ฟังคลิบเสียงข่าว

ปท.สหรัฐฯ เดินหน้าแผนกระตุ้นการจ้างงาน พร้อมอนุมัติวงเงิน จัดตั้งธุรกิจขนาดเล็ก ใน 11 รัฐ

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงอนุมัติวงเงินรวม 360 ล้านดอลลาร์ ภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก (SSBCI) ภายในพื้นที่ 11 รัฐ รวมถึง กรุงวอชิงตัน ดีซี หวังกระตุ้นการจ้างงานภาคเอกชน

 

ทั้งนี้ โครงการสนับสนุนการกู้ยืมให้กับธุรกิจขนาดเล็กในระดับรัฐ ถือเป็นสาระสำคัญของกฎหมายการจ้างงานของธุรกิจขนาดเล็ก (Small Business Jobs Act) ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในช่วงฤดู

ใบไม้ร่วง ที่ผ่านมา

 

ขณะที่ นายนีล โวลิน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นการลงทุนและการสร้างงานในชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Link : http://www.innnews.co.th/สหรัฐกระตุ้นจ้างงานไฟเขียวธุรกิจขนาดเล็ก--302785_04.html

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

แบงก์โลกขยับฐานะไทยเป็นประเทศมีรายได้ปานกลางระดับสูง (17/08/2011

ส่งถึงเพื่อน

กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก ประจำประเทสไทย เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้ปรับฐานะไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง โดยปัจจุบันรายได้ประชาชาติต่อหัวของประเทศไทยเท่ากับ 4,210 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 125,756 บาท) สืบเนื่องจากในแต่ละปี ธนาคารโลกจะทำการทบทวนการจัดกลุ่มประเทศต่างๆ ในโลกจากการประเมินรายได้ประชาชาติต่อหัว (GNI per capita) โดยใช้วิธีที่เรียกว่า Atlas method ณ วันที่ 1 กรกฏาคม 2554 ประเทศที่ถือว่ามีรายได้ปานกลางระดับสูง คือประเทศที่ประชากรมีรายได้เฉลี่ย 3,976 – 12,275 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 118,662 - 366,337 บาท) ด้วยวิธี Atlas method

 

การปรับเลื่อนฐานะในครั้งนี้แสดงถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งรายได้ประชาชาติต่อหัวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า ขณะที่ความยากจนก็ลดลงไปอย่างมาก ประเทศไทยมีความรอบคอบในการบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาค โดยมีฐานะการคลังที่เข้มแข็ง หนี้ภาคสาธารณะและเงินเฟ้อต่ำ ประเทศไทยมีบรรยากาศการลงทุนที่เป็นมิตร และประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการสร้างความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นในภาคการผลิตอุตสาหกรรม ทั้งในแง่การผลิตที่เพิ่มมูลค่าในระดับที่สูงขึ้นและการขยายไปยังตลาดส่งออกใหม่ๆ

 

“ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นในความสามารถของเศรษฐกิจไทยในการปรับตัวเพื่อรองรับวิกฤตทางการเงินโลกเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์กับอาเซียนและทั่วโลกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น” กิริฎากล่าว “ในการที่จะรักษาการเติบโตให้ยั่งยืนและหลีกเลี่ยงการติดกับดักรายได้ปานกลางนั้น ประเทศไทยก็จะต้องให้ความสนใจกับการเพิ่มผลิตภาพ ซึ่งไม่แต่เฉพาะของภาคการผลิตอุตสาหกรรมเท่านั้น ยังรวมถึงภาคการเกษตรและภาคบริการด้วย สิ่งที่จำเป็นคือระดับการศึกษาและทักษะที่สูงขึ้น ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ การคิดค้นนวัตกรรมและการแข่งขัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมไม่เพียงแต่ให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระจายผลของการขยายตัวนี้สู่ทุกภาคส่วนในสังคมอีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ที่มีอยู่สูงและมีมานานในประเทศไทย”

 

ธนาคารโลกใช้ตัวเลขประเมินรายได้ประชาชาติต่อหัวในการจัดกลุ่มประเทศต่างๆ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติในการกู้ยืม การจัดกลุ่มประเทศต่างๆ ในฐานข้อมูลของธนาคารโลก ตามภูมิภาคและระดับรายได้

 

 

 

ที่มา: มติชนออนไลน์