ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

นายกฯชี้โครงสร้างพื้นฐานศก.ไทยดี-หุ้นร่วงตามตปท.แค่ผลระยะสั้น

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2011 เวลา 16:37 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงในวันนี้ว่า มาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่ามีผลกระทบต่อไทยไม่มาก เพราะประเทศไทยมีการเตรียมพื้นฐานของเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวย้ำว่าโครงการประชานิยม จะเน้นการสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ ลดภาระหนี้สิน และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ส่วนระยะยาวจะเน้นโครงการรถไฟและเมกะโปรเจ็คต์ โดยจะพยายามทำให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารเพิ่มมากขึ้น และยืนยันว่าการลงทุนในประเทศยังเปิดกว้างสำหรับนักลงทุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดยสถิติคืนวันศุกร์ทองมักจะลากขึ้น สาธุ !21

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!45 หุหุ...อ่านะ แบ่งรับ แบ่งสู้

มีเพื่อนติดดอยอยู่แล้ว

วันนี้น้องแท่งปรับราคาหลายรอบ

ตาลายเลยอะ !bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 23 กันยายน 2554 15:09

กังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป กดทองลงช่วงสั้น!

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

คลาสสิกโกลด์ชี้ตลาดทองคำสัปดาห์นี้รีบาวน์

'ณัฐฑี จุฑาวรากุล' เกิดบนกองทอง

เตือนราคาทองผันผวน เก็งกำไรระวังเจ็บตัว

คลาสสิกโกลด์ฯอัด3โปรโมชั่นปั๊มยอดเทรด

คลาสสิกโกลด์ ฟิวเจอร์ส เล็งบุกตลาดแมส

กังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป กดราคาทองลงช่วงสั้น! คลาสสิก โกลด์ ชี้ลดลงกว่า 3.67% เหมาะสะสมลงทุนระยะยาว

 

นางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 66.40 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,723.20 – 1,789.00 USDต่อออนซ์ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงมากถึง 3.67% ภายในวันเดียวเนื่องจากนักลงทุนกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง โดย IMF ออกมาเตือนว่าระบบการเงินทั่วโลกอยู่ในภาวะเสี่ยงกว่าเมื่อครั้งวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์

 

ก่อนหน้านี้ FED ได้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะกลับเป็นขาลงอีกครั้ง นอกจากนี้ตัวเลขยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเพียง 9,000 ราย ลงมาที่ระดับ 423,000 รายมากกว่าคาดที่ 420,000 ราย และเมื่อวาน (22 ก.ย. 54) มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 3 แบงก์ของสหรัฐ ได้แก่ แบงก์ ออฟ อเมริกา เวลส์ ฟาร์โก แอนดโค และซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจไม่ให้ความช่วยเหลือธนาคารรายใหญ่ หากเกิดวิกฤตการณ์การเงิน

 

ด้านทองคำถูกขายหนักเช่นเดียวกับตลาดหุ้นที่ปรับลดลงแรงถึง 391 จุดหรือ 3.51% เมื่อนักลงทุนกังวลในเรื่องเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทองคำในช่วงนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีความผันผวนรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม นักลงทุนหันไปซื้อเงิน USD และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นมาก ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ขึ้นไป high ที่ 78.8 ก่อนที่จะปรับลดลงมาที่ระดับ 78.1 ในช่วงเช้าวันนี้ และเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.35 USDต่อยูโร ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงแรงอย่างต่อเนื่อง ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง 4 – 5%

 

โดยแนวโน้มราคาทองคำปรับลดลงแรงมากโดยทำ low ที่ระดับ 1,723 USDต่อออนซ์ จากนั้น rebound ขึ้นมาที่บริเวณ 1,752 ในช่วงเช้าวันนี้ คาดว่าในวันนี้มีโอกาส rebound ขึ้นมาที่ระดับ 1,758/1,797 USDต่อออนซ์ ถ้าไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,800 ได้มีโอกาสลงต่อ กรอบความเคลื่อนไหววันนี้ คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,723/1,704 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,758/1,797 แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้รอ rebound เพื่อปิดสถานะบริเวณ 1,758/1,797 USDต่อออนซ์ ส่วนผู้ยังไม่มีสถานะ รอเปิด short เมื่อถึงแนวต้านบริเวณ 1,760/1,797 USDต่อออนซ์

 

ส่วนราคาโลหะเงินปิดลดลง 3.89 USDต่อออนซ์ หรือ 9.61% ปิดที่ 36.58 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 35.53 – 39.85 USDต่อออนซ์ วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 38.0/39.20 เคลื่อนไหวหลุดกรอบ DownTrend ลงมา แนวโน้มราคาคาดว่ามีโอกาส Rebound ได้ ส่วนแนวรับบริเวณ 35.4/33.5 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 33.5 – 38.0 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 30.29 ตันขายเป็นวันที่ 3 ติดต่อรวม 3 วันขายไป 87.3 ตัน รวมถือโลหะเงินจำนวน 9,868.49 ตัน

 

Classic Gold Group ผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรมายาวนาน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่การตลาด และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสในการลงทุนรวมไปถึงการจัดสัมมนาฟรี!! ทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2618-0808 หรือทาง www.classicgoldfutures.co.th “Classic Gold Futures อนาคตทอง เรามองขาด”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไหนก็ลงแล้ว ลงให้สุดๆไปเลย ไปปิดGapเลยก็ดีครับ จะได้จบๆไปซักทีอยากเห็น1650

 

ส่วนทองที่ถือไว้ บาททองคำยังเท่าเดิม ไม่ขายไม่ขาดทุน (ปลอบใจตัวเองสุดๆครับ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"บริคส์"เล็งเพิ่มเงินช่วยเหลือไอเอ็มเอฟกู้วิกฤติยูโรโซนและสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก

 

ผู้นำทางการเงินและผู้นำหลายประเทศทั่วโลก เร่งกดดันยุโรปให้แก้ไขวิกฤติหนี้ โดยกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่สำคัญระบุว่า ทางกลุ่มอาจจะให้เงินช่วยเหลือมากยิ่งขึ้น เพื่อยับยั้งการลุกลามของวิกฤติหนี้ยุโรป

ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลัง และผู้นำธนาคารกลางของหลายประเทศ ประชุมกันที่กรุงวอชิงตัน และผู้นำของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 7 ประเทศย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมวิกฤติหนี้ยูโรโซน

ผู้นำออสเตรเลีย แคนาดา อินโดนีเซีย อังกฤษ เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และเกาหลีใต้ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประธานกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) โดยระบุในจดหมายว่า รัฐบาลและสถาบันของยูโรโซน จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วในการคลี่คลายวิกฤติยูโรโซน และทุกประเทศในยุโรป ต้องแก้ไขภาระหนี้สินเพื่อสกัดกั้นการลุกลามสู่เศรษฐกิจโลกในวงกว้าง

เจ้าหน้าที่ของกลุ่มประเทศบริคส์ ได้แก่บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ กล่าวว่า กลุ่มบริคส์จะพิจารณาเรื่องการให้ทุนมากยิ่งขึ้นแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพของโลก แต่อินเดียระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศร่ำรวย

นายดุฟวูรี ซับบาเรา ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย กล่าวว่า "เราเป็นตัวแทนของกลุ่มประเทศที่มีความต้องการใช้ทุนทรัพย์จำนวนมาก ในการปรับลดความยากจนภายในประเทศ

วิกฤติหนี้ยูโรโซน สร้างแรงกดดันต่อทุนทรัพย์ของไอเอ็มเอฟในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศสำคัญบางแห่ง ใกล้จะประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย จึงมีแนวโน้มว่าบางประเทศจะขอกู้เงินฉุกเฉินจากไอเอ็มเอฟในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ทุนทรัพย์ของไอเอ็มเอฟร่อยหรอลงไปอีก

รายงานของเจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟระบุว่า ไอเอ็มเอฟสามารถปล่อยกู้ได้อีก 3.90 แสนล้านดอลลาร์ โดยไม่สร้างความเสียหายต่องบดุลของไอเอ็มเอฟ แต่ถ้าหากสถานการณ์อยู่ในภาวะเลวร้ายที่สุด ไอเอ็มเอฟ อาจจะได้รับการติดต่อขอกู้เงิน 8.40 แสนล้านดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(Update) หุ้นไทยปิดลบ 32 จุด ตามตลาดต่างประเทศ กังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ-หนี้ยุโรป กดดันเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ต่างชาติ-สถาบัน ถล่มขาย!!!

 

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 ก.ย.) ดัชนีปรับตัวในแดนลบตามตลาดต่างประเทศ จากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ และปัญหาหนี้ยุโรป กดดันเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 972.53 จุด และต่ำสุดที่ 940.42 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 958.16 จุด ลบ 32.43 จุด หรือ 3.27%

 

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

 

PTT ปิดที่ 290.00 บาท -12.00 (-3.97%)

 

ADVANC ปิดที่ 120.00 บาท -3.50 (-2.83%)

 

PTTCH ปิดที่ 100.00 บาท -8.50 (-7.83%)

 

TOP ปิดที่ 51.50 บาท -4.00 (-7.21%)

 

SCC ปิดที่ 284.00 บาท -11.00 (-3.73%)

 

ขณะที่พอร์ตลงทุนหุ้นหุ้นวันนี้ ต่างชาติขาย 3.1 พันล้าน รายย่อยซื้อ 5.9 พันล้าน สถาบันขาย 4 พันล้าน บัญชีบล.ซื้อ 1.2 พันล้าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ 30.86/88 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าตามภูมิภาค กังวลปัญหาหนี้ยุโรป แนะจับตาผลประชุมจี 20 เสาร์-อาทิตย์นี้ สัปดาห์หน้าจ่อแตะ 31

นักบริหารเงินธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันนี้ (23 ก.ย.) ว่า ปิดตลาดที่ระดับ 30.86/30.88 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดที่ระดับ 30.89/30.90บาท/ดอลลาร์ และแข็งค่าสุดที่ระดับ 30.76/30.78 บาท/ดอลลาร์

 

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า คาดว่าจะอ่อนค่าในกรอบ 30.70-31.00 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังคงกังวลกับปัญหาหนี้ยุโรป ทั้งนี้ต้องติดตามผลการประชุม จี 20 ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส.ค.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษลดเป็น 48 จุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2011 เวลา 17:32 น. กอง บก.ออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

Nationwide Building Society รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษลดลงจาก 49 ในเดือนกรกฎาคม เป็น 48 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากมาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ภาคครัวเรือนชะลอการใช้จ่าย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามค่ำค่ะเฮียนายห้าง เฮียกัมฯ คุณเด็กขายของ คุณกัปตันฯ คุณเศรษฐีน้อยฯ และเพื่อนๆทุกคน เป็นกำลังใจให้คนติดดอยทุกคนน่ะ รักษาสุขภาพด้วยอย่ามัวแต่คิดว่าติดดอยๆๆๆๆๆๆๆๆ มันลงได้มันก็ขึ้นได้เหมือนกันสู้ๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอเรียนถาม คุณเด็กขายของหน่อยคะ แนวโน้มทองจะยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่หรือเปล่า เห็นเทขายแบบเทกระจาด จะเก็บก็ดอย จะคอยก็กลัวเก้อ ขอคำแนะนำด้วยคะ แบบไม่ต้องหาผ้าห่มมาเพิ่ม นาทีทอง คนมีทุนน้อย จะเสี่ยงแบบน้อยฯ ควรทำอย่างไร แบบเงินไม่หาย กำไรไม่หด อย่าบอกนะว่านั่งดูเขาเล่นก็พอแย๊ว :wub: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NASA เลื่อนเวลาดาวเทียมร่วง ยัน พรุ่งนี้ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 23 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 16:55 น.

share

 

องค์การ NASA เลื่อนเวลาดาวเทียม UARS โหม่งโลกคืนวันศุกร์ เวลาของสหรัฐฯ ตรงกับเสาร์นี้ ตามเวลาในไทย ยัน ไม่ทราบที่หล่น

 

สื่อต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าการตกของดาวเทียม UARS สำหรับไว้ใช้สำรวจสิ่งแวดล้อมโลก ที่หมดอายุการใช้งาน ล่าสุด องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ (NASA) ได้ออกมาประกาศ เลื่อนเวลาการตก เป็นคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ ทำให้จะตรงกับช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 24 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย โดยทาง NASA ก็ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่า จะตกลงที่ใดของโลก

 

ซึ่งทาง นายเทียรี่ เลอโกลท์ นักดาราศาสตร์สมัครเล่นชาวฝรั่งเศส กำลังมุ่งหน้าสู่โลก ซึ่งอยู่ห่างจากโลกถึง 252 ก.ม. ส่วนพื้นที่ที่คาดว่าดาวเทียมจะโหม่งโลกนั้น คือระหว่างละติจูดที่ 57 องศาเหนือ และละติจูดที่ 57 องศาใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่

 

Link : http://www.innnews.co.th/NASA-เลื่อนเวลาดาวเทียมร่วง-ยัน-พรุ่งนี้--310017_04.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

AEONTSปันผลระหว่างกาล 1.05บาท/หุ้น,เตรียมเสนอขายหุ้นกู้1.5พันล้านเยนในญี่ปุ่น

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2011 เวลา 18:23 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

นายยาซูฮิโกะ คอนโดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออนธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯวันนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2554 ในอัตรา 1.05 บาทต่อหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนเงินรวม 262.50 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 52.5

 

โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม. 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 10 ตุลาคม 2554 และให้กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 ตุลาคม 2554

 

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯมีมติการออกและเสนอขายหุ้น เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และมีหลักประกัน สกุลเงินเยนหรือดอลลาร์สหรัฐ วงเงินของหุ้นกู้ เทียบเท่า 1.5 พันล้านเยน (ประมาณ 600 ล้านบาท) อายุไม่เกิน 5 ปี โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายในประเทศญี่ปุ่นให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะจง และ/หรือผู้ลงสถาบัน อัตราดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยตามตลาด ณ วันที่เสนอขายและออกหุ้นกู้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรไทยชี้ธุรกิจเช่าซื้อปีนี้โต28-30%และปีหน้าโตเหนือ25%'รับอานิสงส์มาตรการรถคันแรก

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2011 เวลา 18:31 น. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ "ธุรกิจเช่าซื้อระยะที่เหลือปี 2554-2555 เติบโตสูงต่อเนื่องจากแรงส่งมาตรการใหม่"ระบุว่า มาตรการลดภาษีสรรพสามิตสูงสุด 100,000 บาท สำหรับผู้ซื้อรถยนต์คันแรกที่เข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไขของรัฐบาล (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ย. 2554) ซึ่งมีผลสำหรับการจองซื้อตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2554 และรับรถภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2555 นั้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ในช่วง 15.5 เดือนนับจากนี้ให้เพิ่มขึ้น ทั้งจากความต้องการใช้รถตามปกติ และจูงใจให้เกิดตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายก่อนมาตรการจะสิ้นสุด ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงการให้สินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ในระบบธนาคารพาณิชย์ ที่ยังคงมีทิศทางเติบโตดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยอยู่ในช่วง 28-30% เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (2553-2555)

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้นโยบายดังกล่าว จะมีผลบวกต่อการเติบโตของยอดขายรถและสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นที่มีส่วนสัมพันธ์กัน แต่การเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ควบคู่กับการรักษาความสามารถในการแข่งขัน อาจต้องอาศัยการปรับตัวและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของผู้ให้บริการเช่าซื้อ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจไว้ดังนี้

 

 มาตรการภาษีสำหรับรถคันแรก...หนุนอำนาจซื้อ เพิ่มโอกาสการครอบครองรถของผู้ที่มีรายได้ระดับกลางลงไป

จากนโยบายมาตรการภาษีสำหรับรถคันแรกดังกล่าว คาดว่าจะหนุนอำนาจซื้อของผู้บริโภคผ่านเงินคืนภาษีที่คิดเป็นอัตราตั้งแต่ 3%-25% ของราคาขายเฉลี่ย ซึ่งอำนาจซื้อที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งผู้บริโภคที่สนใจซื้อรถยนต์นั่งขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 cc รถกระบะ (Pick up) และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab) ซึ่งจากข้อมูลในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2554 พบว่า รถในกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 68% ของยอดจำหน่ายรถยนต์รวม (โดยเป็นการประเมินเบื้องต้นที่ยังไม่รวมประเภทรถที่อาจเข้าข่ายมากขึ้นหากรัฐบาลมีการปรับปรุงมาตรการเพิ่มเติมในระยะถัดไป)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลังโสมขาวผนึกแบงก์ชาติจับตาสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2011 เวลา 18:38 น. กอง บก.ออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

 

สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า กระทรวงการคลังและธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องนโยบายว่า กระทรวงและแบงก์ชาติเห็นพ้องว่าจะจับตาสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่า ปฏิกริยาที่เกิดขึ้นในตลาดปริวรรตเงินตราระยะนี้นั้น "มากเกินปกติ" และควรจะดำเนินการในทันทีเพื่อรับมือกับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในตลาดปริวรรตเงินตรา

 

ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่กระทรวงและธนาคารกลางเห็นชอบเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า จะจัดการหารือด้านนโยบายทุกๆเดือน ซึ่งในการประชุมนัดล่าสุดนี้มีนายชิน เจ-ยูน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง และลี จู-ยอล รองผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าร่วมการประชุมด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...