ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

จุดธูปอาจน้อยไปค่ะ +100 คืนนี้จริงพรุ่งนี้จะวิ่งรอบหมู่บ้านเลย

 

สวัสดีจ๊ะ คุณ Pasaya สงสัยแค่วิ่ง :Kk รอบหมู่บ้านเฉยๆคงไม่พอมังคะ ...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณเด็กขายของและเพื่อนๆทุกคนมากคะ :_ee

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทิฐิ มี สองประเภทครับ (ตามแนวความคิดแบบพุทธ)

คือ สัมมาทิฐิ และมิจฉาทิฐิ

 

สัมมา แปลว่า ชอบ ดีงาม

ทิฐิ แปลว่า ความคิด ความเห็น

 

ส่วนมิจฉา ก็ตรงกันข้ามกับ สัมมา คือ ไม่ชอบ ไม่ดี

(ขอไม่กล่าวถึงมิจฉา แต่ให้นึกถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับ สัมมาเอานะครับ)

 

สัมมาทิฐิ แปลว่า ความเห็นถูกต้อง หมายถึงความเห็นที่ถูกคลองธรรม

เห็นตามความเป็นจริงเป็นความเห็นที่เกิดจากโยนิโสมนสิการ ประกอบด้วยปัญญา

ตามวัดส่วนใหญ่เขียนคำนี้ตามแบบภาษาบาลีว่า "สัมมาทิฏฐิ"

 

สัมมาทิฐิ ที่เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 หมายถึง

ความเห็นในอริยสัจ คือเห็นทุกข์ เห็นสมุทัย เห็นนิโรธ เห็นมรรค

 

สัมมาทิฐิ ที่เป็นมโนสุจริตหมายถึง ความเห็นถูกต้อง 10 อย่าง คือ

 

+เห็นว่าการให้ทานมีผลจริง (หมายถึงการให้ในระดับแบ่งปันกัน)

+การบูชามีผลจริง(หมายถึงการให้ในระดับสงเคราะห์กันมีผล)

+การเคารพบูชามีผลจริง (หมายถึงการยกย่องบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลดีจริง)

+ผลวิบากของกรรมดีกรรมชั่วมีจริง

+คุณของมารดามีจริง (หมายถึงมารดามีพระคุณต่อบุตรอย่างยิ่ง บุตรควรตั้งใจตอบแทนพระคุณท่านอย่างเต็มที่)

+คุณของบิดามีจริง (หมายถึง บิดามีพระคุณต่อบุตรอย่างยิ่ง บุตรควรตั้งใจตอบแทนพระคุณท่านอย่างเต็มที่)

+โลกนี้มี (หมายถึง โลกนี้มีคุณเป็นอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับใช้สร้างบุญบารมี)

+โลกหน้ามี (หมายถึง โลกหน้ามีจริง ตายแล้วไม่สูญ ความเป็นไปของโลกหน้า เป็นผลมาจากโลกนี้)

+พวกโอปปาติกะ (ผุดขึ้นเกิด) มี (หมายถึง สัตว์ที่ผุดขึ้นเกิดแล้วโตทันทีมีจริง อาทิเช่น ในภูมิทุคติ ได้แก่ สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ในภูมิสุคติ ได้แก่ เทวดา พรหม อรูปพรหม)

+สมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนบรรลุมรรคผลนิพพาน รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเองแล้วสอนให้ผู้รู้ตามด้วยมีจริง

 

ปล. ในความเห็นแบบสัมมาข้างต้น บางกรณีไม่สามารถทำความเข้าใจแบบวิทยาศาสตร์ได้(พุทธวิสัย)

ต้องอาศัยการปฏิบัติธรรม เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง จึงจะสามารถ ตั้งความเชื่อได้ตรง โดยไม่งมงาย

อนุโมทนาค่ะ

จริงแท้แน่นอนคือคำสอนของพระพุทธเจ้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แง!!!!!!! 1622

 

ไม่เป็นไรจ้า ลงมาเที่ยวเล่น เดี๋ยวน้องทองก็ไปต่อจ้า

 

ปลอบใจตัวเองด้วย อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเฮียและเพื่อนๆชาวดอยทุกคน ดอยสูงมากขนาดยอดดอยน้ำค้างแข็งถ้าลงไปมากกว่านี้ได้เห็นหิมะแน่ แงๆๆ

ถ้าลงไป15**. จะกู้มาซื้ออีก ตอนนี้ก็ต้องเป็นติ๊นาไปก่อน(กลับมายืนที่เดิม). มันตบกลางคืนอีกแล้ว แถวบ้านมีเขยฝรั่งอยู่สองคนเห็นแล้วอยากถีบจริงๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะคุณเกี้ยมอี

ใจเย็นๆค่ะอย่าไปยุ่งกับไอ้เขยสองคนนั่น ทองลงได้เดี๋ยวก็ขึ้นตอนนี้เราก็ดอยกันไปก่อนเนอะ

แต่รอบนี้ดอยนานจัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้าครับ คุณ noijaa, คุณเกี้ยมอี่, คุณ Aiya, คุณพลอยสีสวย, คุณย่าหยา, คุณ Oshikung, คุณ plaifa, คุณ Pasaya, คุณขาใหม่ , คุณมดตะนอย

เมื่อคืนโดนเรียกตัวด่วนตอน 4 ทุ่ม เลยไม่ได้แวะเข้ามาคุย มาให้ข่าวสาร ราคาทองคำ ก็แกล้งเราอีกเช่นเคย ขึ้น 1,670 แล้วก็ถูกถีบลงมา 1,625 " เจ้ามือ " สหรัฐอเมริกา เล่นงานแบบ นักเก็งกำไรไทยที่ซื้อขายทองหน้าร้านทองตู้แดง ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เมื่อวานตอนบ่าย ก็ยังเห็นนักเก็งกำไร ยืนแน่นร้านย่านเยาวราช และ ณ. สาขาซีคอนฯ อยู่ ไม่รู้ว่า วันนี้ จะมีนักเก็งกำไร เหลือเงินเข้าซื้อทองแท่งอีกมั้ยหนอ

มาดูข่าวสารดีกเมื่อคืนวันที่ เจออะไรบ้าง มีอะไรบ้าง ที่ส่งผลแบบนี้

 

กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออกหรือโอเปกลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีหน้า

กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออกหรือโอเปกลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีหน้า ก่อนที่รัฐมนตรีน้ำมันจะประชุมกันที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรียในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมัน โดยโอเปกระบุในรายงานประจำเดือนว่า ความต้องการใช้น้ำมันโลกอาจอยู่ที่วันละ 88.87 ล้านบาร์เรล ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 89.01 ล้านบาร์เรล.

 

ลดปริมาณผลิต ก็เพราะหลายๆประเทศมีการประกาศลดคาดการณ์อัตราความเจริญเติบโต เศรษฐกิจชลอตัว โดยมีผลมาจากหนี้สิน และ ค่าลดลงของเงินยูโร

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

น้ำมันพุ่งหลังลืออิหร่านซ้อมรบ-หุ้นสหรัฐฯขยับลงเล็กน้อย

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2554 05:29 น.

 

       เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งแรงวานนี้(13) หลังมีข่าวลืออิหร่านวางแผนซ้อมรบในช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งเชื้อเพลิงอันสำคัญ ขณะที่วอลล์สตีทปิดลบในกรอบแคบๆหลังเฟดยังไม่มีทีท่าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯรอบใหม่

       

       หนึ่งวันก่อนหน้าการประชุมของกลุ่มโอเปกในกรุงเวียนนาที่จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงกำลังผลิต สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

       

       แม้ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกมาปฏิเสธถึงข่าวลือเกี่ยวกับการซ้อมรบของกองทัพเรือแล้ว ทว่าก็สายเกินกว่าที่จะยับยั้งตลาดไม่ให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ หลังนักลงทุนตื่นตระหนกต่อความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆระหว่างชาติตะวันตกและเตหะรานต่อโครงการนิวเคลียร์

       

       ช่องแคบฮอร์มุซป็นช่องแคบที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างมาก เนื่องจากการขนส่งน้ำมันส่วนใหญ่ของภูมิภาคจะลำเลียงผ่านช่องแคบเล็กๆแห่งนี้ที่เชื่อมระหว่างอ่าวเปอร์เซียและทะเลอาหรับ

       

       ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย ก่อนปิดลบเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร(13) หลังไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจกรีซกำลังผจญความเสี่ยงอย่างแรงและธนาคารกลางอเมริกายังไม่มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบ

       

       ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 66.45 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,954.94 แนสแดค ลดลง 32.99 จุด (1.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,579.27 เอสแอนด์พี ลดลง 10.75 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,225.72

       

       "ขณะที่เฟดแสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจ แต่อีกด้านหนึ่งพวกเขากลับไม่ได้ส่งสัญญาณว่ามีแผนหรือนโยบายเชิงรุกใดๆแม้แต่น้อย" มาค บลิคซิลเวอร์ นักวิเคราะห์จากมาร์เบิลเฮดกล่าว พร้อมบอกว่าข่าวลือที่ว่าบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออาจลดอันดับเรตติ้งยุโรปลงก็เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลให้ตลาดขยับลงเช่นกัน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดีดขึ้นกว่า 2 % ในวันอังคาร ซึ่งถือ เป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากความ กังวลเรื่องปัญหาขัดข้องด้านอุปทานน้ำมัน ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่ากองทัพ อิหร่านอาจจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ

        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ทะยานขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.42 %  มาปิดตลาดที่ 100.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.64-101.25  ดอลลาร์ โดยการทะยานขึ้นในวันอังคารถือเป็นการทะยานขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ พุ่งขึ้น 3.24 % ในวันที่ 16 พ.ย.

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 2.24  ดอลลาร์ หรือ 2.09 % สู่ 109.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง  107.07-111.10 ดอลลาร์

        สมาชิกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติในรัฐสภาอิหร่านกล่าวในวัน จันทร์ว่า กองทัพอิหร่านมีกำหนดจะฝึกซ้อมการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทาง ขนถ่ายน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก แต่ข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน

        ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงการปิดช่องทาง เดินเรือฮุสตันในสหรัฐอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากมีเรือสองลำชนกันท่ามกลางหมอก ที่ลงจัด, การที่สถาบัน ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี พุ่งขึ้นสู่ -53.8 ในเดือนธ.ค. จาก -55.2 ในเดือนพ.ย. และความคาดหวังที่ว่าสหรัฐ อาจดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

        ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงนโยบายการเงินไว้ตามเดิมในการประชุมวัน อังคาร แต่ระบุเตือนเรื่องภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ และนักวิเคราะห์ตีความว่าถ้อยแถลง ดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้เฟดดำเนินการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปในปีหน้า

        บริษัทมาสเตอร์การ์ดระบุในรายงานสเปนดิงพัลซ์ว่า อุปสงค์ในน้ำมันเบนซิน ค้าปลีกของสหรัฐดิ่งลง 3.4 % ในสัปดาห์ที่แล้วเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดย เป็นผลจากการที่ประชาชนลดการเดินทางในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว

        กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการเติบโต ของอุปสงค์น้ำมันประจำปี 2012 โดยปรับลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ 1.1  ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแผนรัดเข็มขัดในประเทศพัฒนาแล้วอาจส่งผลลบต่อการ บริโภคในอินเดียและจีน

        สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันอาจเติบโตขึ้น 1.26  ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2012 โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนราว 40,000  บาร์เรลต่อวัน

        สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลข  สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ธ.ค.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า   สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 800,000   บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการ กลั่นน้ำมันอาจทรงตัว

        หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร การปิโตรเลียมสหรัฐ (API)  รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 462,000 บาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่  9 ธ.ค., สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 12,000  บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.6 % สู่ 85.2 %

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

        ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษดีดขึ้นท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายใน ระดับต่ำในวันอังคาร โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่ง ของราคาน้ำมัน

        ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดทะยานขึ้น 62.29 จุด หรือ 1.15 % สู่ 5,490.15  หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,413.70-5,525.96

        วอลุ่มการซื้อขายอยู่ในระดับต่ำกว่า 80 % ของค่าเฉลี่ย 90 วัน

 

 

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้(13 ธ.ค.) ขานรับข่าวสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้ และดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในเดือนธ.ค.

          ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 62.29 จุด หรือ 1.2% แตะที่ 5,490.15 จุด

          ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการจำหน่ายพันธบัตรระยะสั้นได้ 4.94 พันล้านยูโร (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวานนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 4.25 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทนในระดับที่ต่ำกว่าการประมูลครั้งก่อน

 

          นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสถาบัน ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวขึ้น 1.4 จุด สู่ระดับ -53.8 จุดในเดือนธันวาคม จากระดับต่ำสุดในรอบสามปีที่ -55.2 ในเดือนพฤศจิกายน โดยสถาบัน ZEW ระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ร่วงถึงจุดต่ำสุดและเริ่มดีดตัวขึ้นแล้ว

          หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากมีข่าวลือว่าอิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่และมีความสำคัญ โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 1.7% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.1%

          หุ้นปิโตรแฟค ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าบ่อน้ำมัน พุ่งขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ของอังกฤษ ดีดตัวขึ้น 3.2%

          นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ย.ของอังกฤษในวันนี้เวลา 16.30 น.ตามเวลาไทย และสหภาพยุโรป (อียู) จะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทยเช่นกัน

 

        หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.3 % หลังจากสำนักงานพลังงาน สากล (IEA) คาดว่าอุปสงค์น้ำมันอาจเติบโตขึ้นในปีหน้า และซิตี้กรุ๊ปปรับขึ้นตัวเลข คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ประจำปี 2012 โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะปัญหา ขัดข้องด้านอุปทานและสต็อกน้ำมันในคลังที่ระดับต่ำ

        ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า การที่ราคา น้ำมันรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้เป็นอย่างดีส่งผลให้หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ครองตำแหน่งหุ้นกลุ่มที่นักลงทุนชื่นชอบมากที่สุดเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันในเดือน ธ.ค.

        หุ้นปิโตรแฟคซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันพุ่งขึ้น 5.1 % และถือเป็นหุ้นที่พุ่งขึ้น มากที่สุดในดัชนี FTSE 100 โดยวอลุ่มการซื้อขายหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 160 % ของค่า เฉลี่ย 90 วัน ทั้งนี้ หุ้นปิโตรแฟคได้รับแรงหนุนจากการที่ทางบริษัทปรับขึ้น คาดการณ์ผลกำไรสำหรับปีนี้

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

        ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนและปริมาณ การซื้อขายที่เบาบางในวันอังคาร ในขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงหนุนจากการ พุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นผลจากกระแสข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาความตึงเครียดเรื่อง อิหร่าน

        ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีปิดร่วงลง 11.17 จุด หรือ 0.19 % สู่  5,774.26 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,734.12-5,852.43

        ดัชนี CAC-40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดอ่อนลง 10.87 จุด หรือ 0.35 % สู่  3,078.72 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,059.46-3,111.10

        ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดปรับขึ้น 5.35 จุด  หรือ 0.55 % สู่ 972.84 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 963.77-978.94 โดยมีวอลุ่มการ ซื้อขายอยู่ที่ระดับราว 75 % ของค่าเฉลี่ย 90 วัน

 

        ดัชนีลดช่วงบวกที่ทำไว้ในตอนเช้าลงครึ่งหนึ่ง โดยได้รับแรงกดดันจากความ กังวลเรื่องกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) หลังจากแหล่งข่าวกล่าวว่า  นางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคัดค้านข้อเสนอเรื่องการปรับขึ้นเพดาน การปล่อยกู้ของ ESM

 

        ESM เป็นกองทุนที่จะเริ่มเปิดดำเนินงานในช่วงกลางปี 2012 และจะทำหน้าที่ แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) โดย ESM จะมีความสามารถในการปล่อยกู้ ราว 5 แสนล้านยูโร (6.5435 แสนล้านดอลลาร์) โดยนายเฮอร์แมน แวน รอมพาย ประธาน สภาผู้นำยุโรปกล่าวว่า การพิจารณาทบทวนประเด็นที่ว่าขนาดการปล่อยกู้ดังกล่าวเพียงพอ หรือไม่จะเสร็จสิ้นลงในเดือนมี.ค. 2012

        หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น 2 % หลังจากราคาน้ำมันดิบสหรัฐทะยาน ขึ้นกว่า 2 % โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงความกังวลเรื่อง อิหร่าน, การคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินในอนาคต และการซื้อขาย สัญญาน้ำมันตามโปรแกรมคอมพิวเตอร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

        ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันอังคารหลังธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ไม่ได้บ่งชี้ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆเพื่อชดเชยผลกระทบของ วิกฤติหนี้ยุโรปที่เลวร้ายลง

        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 66.45 จุด หรือ 0.55%  สู่ 11,954.94, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 10.74 จุด หรือ 0.87% สู่ 1,225.73 แต่ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 32.99 จุด หรือ 1.26% สู่ 2,579.27

       ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 7.28 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,   ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ต่ำกว่า ปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีที่แล้วที่ 8.47 พันล้านหุ้น  

       จำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกประมาณ 2 ต่อ 1 ในตลาดนิวยอร์ค และหุ้น  ประมาณ 74% ร่วงลงในตลาด Nasdaq 

        แม้เฟดเปิดโอกาสสำหรับการผ่อนคลายนโยบายต่อไปในปีหน้าเช่นเดียว กับการประชุมครั้งที่ผ่านๆมา แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ

        เฟดตรึงนโยบายการเงินตามเดิมและระบุว่า ความปั่นป่วนในตลาดการ เงินเป็นความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐ กำลังขยายตัวปานกลาง แม้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลง 

        นอกจากนี้ เฟดยังระบุว่า การว่างงานยังคงเพิ่มขึ้น และตลาดที่อยู่อาศัย ยังคงซบเซา

        ตลาดปรับตัวขึ้นในการซื้อขายที่ผันผวนส่วนใหญ่ของวัน แต่ปรับตัวลงหลัง เฟดประกาศมติการประชุม โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในรอบ  50 วันในระยะสั้นๆ ซึ่งการปิดตลาดต่ำกว่าระดับดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า  ตลาดจะปรับตัวลงอีก

        การซื้อขายส่วนใหญ่ยังคงมุ่งความสนใจไปที่ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง นางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีปฏิเสธคำแนะนำใดๆในการเพิ่ม เพดานกองทุนช่วยเหลือยุโรป

        นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดต่อความคืบหน้าของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพ ยุโรป (ESM) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในกลางปีหน้า และมาแทนที่กองทุนรักษาเสถียรภาพ การเงินยุโรป (EFSF) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยกองทุน ESM มีขีดความสามารถในการ ปล่อยกู้ 5 แสนล้านยูโร    

        หุ้นที่เกี่ยวกับผู้บริโภคร่วงลงมากที่สุด โดยหุ้นเบสต์ บาย ดิ่งลง 15.5%  หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาสต่ำกว่าคาด และดัชนี S&P หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับผู้ บริโภคร่วงลง 2%

        ยอดค้าปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย.โดยยอดขายอาหาร และเครื่องดื่มลดลง แม้ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น

        ราคาน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 2% เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเทรดเดอร์ระบุถึงความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่านที่อาจจะเกิดขึ้น โดยดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากกว่า 2% แต่ไม่สามารถรักษาแรงบวกไว้ได้ และปิดลดลง 0.5%

         หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากถือเป็นหุ้น กลุ่มปลอดภัยจากความผันผวนของเศรษฐกิจ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,513.77 จุด ลดลง 39.04 จุด

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,852.20 จุด ลดลง 11.86 จุด

**ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,184.50 จุด ลดลง 8.90 จุด

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Home > News & Events > 2011 Monetary Policy Releases

Print

Press Release

 

Release Date: December 13, 2011

 

For immediate release

Information received since the Federal Open Market Committee met in November suggests that the economy has been expanding moderately, notwithstanding some apparent slowing in global growth. While indicators point to some improvement in overall labor market conditions, the unemployment rate remains elevated. Household spending has continued to advance, but business fixed investment appears to be increasing less rapidly and the housing sector remains depressed. Inflation has moderated since earlier in the year, and longer-term inflation expectations have remained stable.

 

Consistent with its statutory mandate, the Committee seeks to foster maximum employment and price stability. The Committee continues to expect a moderate pace of economic growth over coming quarters and consequently anticipates that the unemployment rate will decline only gradually toward levels that the Committee judges to be consistent with its dual mandate. Strains in global financial markets continue to pose significant downside risks to the economic outlook. The Committee also anticipates that inflation will settle, over coming quarters, at levels at or below those consistent with the Committee’s dual mandate. However, the Committee will continue to pay close attention to the evolution of inflation and inflation expectations.

 

To support a stronger economic recovery and to help ensure that inflation, over time, is at levels consistent with the dual mandate, the Committee decided today to continue its program to extend the average maturity of its holdings of securities as announced in September. The Committee is maintaining its existing policies of reinvesting principal payments from its holdings of agency debt and agency mortgage-backed securities in agency mortgage-backed securities and of rolling over maturing Treasury securities at auction. The Committee will regularly review the size and composition of its securities holdings and is prepared to adjust those holdings as appropriate.

 

The Committee also decided to keep the target range for the federal funds rate at 0 to 1/4 percent and currently anticipates that economic conditions--including low rates of resource utilization and a subdued outlook for inflation over the medium run--are likely to warrant exceptionally low levels for the federal funds rate at least through mid-2013.

 

The Committee will continue to assess the economic outlook in light of incoming information and is prepared to employ its tools to promote a stronger economic recovery in a context of price stability.

 

Voting for the FOMC monetary policy action were: Ben S. Bernanke, Chairman; William C. Dudley, Vice Chairman; Elizabeth A. Duke; Richard W. Fisher; Narayana Kocherlakota; Charles I. Plosser; Sarah Bloom Raskin; Daniel K. Tarullo; and Janet L. Yellen. Voting against the action was Charles L. Evans, who supported additional policy accommodation at this time.

 

2011 Monetary Policy Releases

 

Last update: December 13, 2011

Home | News & Events

Accessibility Contact us Disclaimer Linking Policy FOIA PDF Reader

http://www.federalreserve.gov/newsevents/press/monetary/20111213a.htm

 

เป็นรายละเอียดแถลงการณ์ของ Fed. ซึ่งเขามองว่า เครื่องมือฯ ที่ถูกประกาศใช้เมื่อเดือนกันยายน ทำงานได้ดี เศรษฐกิจยังมีการขยายตัว คนตกงานลดลง แผนในเรื่องสินเชื่อบ้านเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ทำงานได้ดี อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลง จึงจะดำเนินแผนฯ ต่อไป อัตราดอกเบี้ยนโยบายยืนยันคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ยังไม่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการใหม่มาเสริม รอดูข้อมูลเศรษฐกิจ ต่อไป / ไม่มีการพูดเรื่องของฝั่งยูโร หรือ การแข็งค่าของค่าเงินเหรียญดอลล์ สงสัยว่า จะชอบใจเรื่องนี้ เพราะมีประโยชน์อย่างเดียว คือ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศได้ถูก และคงไม่สนใจว่า จะยิ่งขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น เพราะคิดว่า ถึงจุดหนึ่ง มาตราการที่นักลงทุนต่างๆ รอคอย ต้องออกมาใช้ คือ QE3 ในกลางปีหน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...