ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีข่าวหรือข้อมูลใหม่ ที่ทำให้ตลาดกังวล แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะตลาดมุ่งความสนใจไปที่การสัมมนาที่ Jackson Hole รัฐ Wyoming ประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงปลายอาทิตย์ ที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ มีคิวต้องพูด ตลาดจึงอยากรู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะการใช้นโยบายการเงินเพิ่มเติม เพราะธนาคารกลางสหรัฐ ถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ

 

 

จากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐพูด เมื่อวันศุกร์ ก็ชัดเจนว่า ธนาคารกลางสหรัฐยอมรับเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่ำกว่าคาด แต่จะยังไม่ทำมาตรการการเงินเพิ่มเติมในชั้นนี้ อย่างน้อยจนถึงการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งผมเห็นด้วย เพราะสิ่งที่เศรษฐกิจสหรัฐต้องการมากที่สุดขณะนี้ ไม่ใช่สภาพคล่องเพิ่มเติม แต่เป็นการขยายตัวของกำลังซื้อและการใช้จ่ายในประเทศ ที่ยังไม่เข้มแข็ง เพราะปัญหาการว่างงานที่สูง ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ยังไม่ดีขึ้น แรงกระตุ้นทางการคลังที่ลดลง และปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีอยู่ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ภาครัฐ  ประธานธนาคารกลางสหรัฐพูดชัดเจนว่า  นโยบายการเงินมีข้อจำกัดที่จะแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่ก็พร้อมที่จะทำมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเศรษฐกิจ

 

 

ดังนั้น จากนี้ไป ตลาดการเงินโลกคงจะต้องอยู่กับความไม่แน่นอนด้านนโยบายไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งมาตรการการเงินในสหรัฐ และการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในสหรัฐ และยุโรปว่าจะเดินต่ออย่างไร ความไม่แน่นอนนี้ ทำให้ตลาดการเงินจะผันผวน และความสนใจของนักลงทุนจะมุ่งไปที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะออกมา ซึ่งการตอบรับของตลาดต่อข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้ความผันผวนในตลาดการเงินโลกปรับเปลี่ยนขึ้นลงเป็นช่วงๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทเรียนจาก QE2 ถึง QE3 กลยุทธ์ไม้ตาย หรือได้ไม่คุ้มเสีย (29/08/2554)

เศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังคืบคลานเข้าสู่ภาวะตกต่ำทุกขณะ ประกอบกับรัฐบาลวอชิงตันอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ลดการขาดดุลงบประมาณโดยการหั่นรายจ่าย จนไม่อาจงัดมาตรการออกมากระตุ้นการเติบโตได้ในเร็ว ๆ นี้ หน่วยงานเดียวที่ดูจะเป็นที่พึ่งของตลาด คือธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ซึ่งก็เหลือเครื่องมือให้หยิบใช้ไม่มากนัก หลังให้คำมั่นว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ต่อปีอีก 2 ปี

 

นิวยอร์ก ไทมส์ ระบุว่า ตัวเลือกของเฟดในขณะนี้ได้แก่การซื้อคืนพันธบัตรรอบใหม่ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (Quantitative Easing : QE3) ซึ่งหวังผลลดอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว, ลดอัตราดอกเบี้ยที่เฟดจ่ายให้กับเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อกระตุ้นให้สถาบันการเงินปล่อยกู้มากขึ้น, ขยายระยะเวลาครบกำหนดของตราสารที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของตน และเพิ่มตัวเลขเงินเฟ้อเป้าหมายในระยะกลาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจของภาคครัวเรือนและธุรกิจให้ใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เสียงเรียกร้องใช้กลไกแรก ดูจะดังกระหึ่มที่สุด

 

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ตระหนักดีว่า ตลาดคาดหวังให้ธนาคารกลางออกมาตรการซื้อคืนตราสารอีกครั้ง เพราะจะช่วยผลักดันให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์วิ่งขึ้นเหมือนที่ QE2 ทำให้ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐสดใสอยู่นาน 9 เดือนจนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา แต่บทเรียนชี้ว่า อานิสงส์จากมาตรการเช่นนี้อาจส่งไปไม่ถึงภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง เห็นได้จากระดับการจ้างงานที่แทบไม่ผงกหัว ตลอด จนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ทรุดลง

 

เดอะ การ์เดี้ยนชี้ว่า กลไกผ่อนคลายเชิงปริมาณถูกออกแบบมาเพื่อดึงต้นทุนการกู้เงินระยะยาวให้ต่ำลง เมื่อธนาคารกลางซื้อคืนพันธบัตร ซัพพลายในตลาดตราสารก็จะหด ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น เพราะราคาพันธบัตรเปลี่ยนแปลงในทิศทางตรงข้ามกับอัตราผลตอบแทน ตราสารยิ่งแพงผลตอบแทนก็ยิ่งดิ่งลง หมายความว่ารัฐบาลสหรัฐสามารถ ก่อหนี้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูก และยังช่วยให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคกู้ยืมด้วยต้นทุนที่ต่ำลงตามไปด้วย

 

แต่ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนบอนด์รัฐบาลวอชิงตันต่ำเป็นประวัติการอยู่แล้ว เพราะตลาดกังวลเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำรอบสองในทั้งสองฟากฝั่งแอตแลนติก จึงยากที่ QE ครั้งที่สามจะฉุดดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดลงกว่าที่เป็นอยู่ได้ และไม่แน่ชัดว่าหากดอกเบี้ยต่ำลงอีกจะช่วยกระตุ้นสินเชื่อได้อย่างที่หวัง เพราะขณะนี้ธุรกิจขาดแรงจูงใจในการขยายการผลิต เนื่องจากดีมานด์ของผู้บริโภคตกต่ำ ไม่ใช่เพราะต้นทุนกู้ยืมสูง

 

นอกจากนี้สถานการณ์เมื่อปีกลายก็สมเหตุสมผลที่จะใช้กลไกดังกล่าวมากกว่าปีนี้มาก เศรษฐกิจมะกันไม่เพียงซบเซาหนัก แต่ยังจ่อเข้าสู่ภาวะเงินฝืด โดยเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ช่วงไตรมาสสองของปี 2553 อยู่ที่ 0.2% เทียบกับ 3.1% ในช่วงเดียวกันของปีนี้

 

ทว่าสภาพคล่องล้นเกินในตลาดเงินจากการซื้อคืนตราสาร ทำให้มีเงินทุนไหลไปยังประเทศตลาดเกิดใหม่ และเก็งกำไรสินค้าโภคภัณฑ์มหาศาล โดยเฉพาะน้ำมัน ดันราคาเชื้อเพลิงให้กระฉูด ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า "เป็นเหมือนการขโมยอำนาจซื้อของผู้บริโภค ทำให้ต้องกระเบียดกระเสียรมากขึ้น แทนที่จะเต็มใจควักกระเป๋ากว่าเดิม"

 

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของจีนและหลายประเทศในเอเชีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสเงินทุนไหลเข้าจากแดนลุงแซมนำไปสู่ดีมานด์อันแข็งแกร่งต่อแร่โลหะ น้ำมัน และพืชเกษตร กดดันให้ราคาในตลาดโลกพุ่งขึ้น ต้นทุนการผลิตสินค้าพลอยขยับตาม คนอเมริกันจึงต้องบริโภคสินค้าแพงกว่าแต่ก่อน

 

ยังไม่รวมปัจจัยเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทรง ๆ ทรุด ๆ ของสหรัฐ รวมถึงผลของมาตรการ QE2 โดยนับจากสิงหาคมปีกลาย ที่เบอร์นันเก้ประกาศจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 6 แสนล้านดอลลาร์ ค่าเงินของมะกันก็อ่อนคงลงไป 11% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ของโลก ในแง่หนึ่งอาจช่วยกระตุ้นการส่งออก แต่ในอีกแง่ก็ทำให้สินค้านำเข้าแพงขึ้น กระทบต่อเงินเฟ้อ

 

แม้ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะขจัดปัญหาเงินฝืดที่เฟดวิตกไปได้ แต่ในภาวะที่ค่าแรงแทบไม่เขยื้อน เงินเฟ้อสูงส่งผลให้รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงหดลง ผู้บริโภคยิ่งระมัดระวังการใช้จ่าย เศรษฐกิจมะกันที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคภายในประเทศจึงแทบไม่เห็นวี่แววกระเตื้อง

 

วอลสตรีต เจอร์นัล ตั้งข้อสังเกตว่า ในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อทะลุ 3% และดอกเบี้ยใกล้แตะ 0% หากเฟดดึงดันใช้ QE3 ดัชนีราคาผู้บริโภคอาจกระฉูดชนิดฉุดไม่อยู่ กดดันให้ธนาคารกลางจำต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ให้คำมั่นไว้ว่าจะคงเดิมไปจนถึงกลางปี 2556 เฟดจะสูญเสียความน่าเชื่อถือและอิทธิพลที่มีต่อตลาด ทำให้การดำเนินนโยบายในอนาคตยากลำบากมากขึ้น

 

ทั้งหมดทั้งมวลบีบให้เบอร์นันเก้อยู่บนทางสองแพร่งระหว่างออก QE3 ซึ่งจะส่งอานิสงส์ไปยังตลาดเงิน แต่ซ้ำเติมภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง หรือถ้าไม่ใช้มาตรการนี้ ตลาดหุ้นอาจยิ่งทรุด และกระทบชิ่งมายังเศรษฐกิจโดยรวมด้วย ไม่ว่าเลือกทางไหนก็มีคนต้องเจ็บตัว อยู่ที่ว่าจะมากน้อยเพียงใด

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 29 สิงหาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สถานการณ์ตอนนี้ นักลงทุนต่างชาติหัวหด หันมากำเงินสด

 

 นายบันลือศักดิ์  ปุสสะรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยกล่าวว่า   ปัจจุบันมีสัญญาณว่าธนาคารและบริษัทในยุโรปเริ่มถือเงินสดมากกว่าเดิมเท่าตัว  เพราะทุกฝ่ายเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดวิกฤติการเงินอีกรอบหนึ่ง  เพราะปัญหาของสหรัฐอเมริกาและยุโรปไม่จบลงง่ายๆ  การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้ช่วยอะไรมาก  เป็นเพียงการซื้อเวลาแต่ยังขาดมาตรการเบ็ดเสร็จ  ขณะที่จีนที่เคยปลุกเศรษฐกิจโลกแต่วันนี้จะไม่สามารถเป็นตัวช่วยในการชดเชยภาคการส่งออกของไทย เพราะจีนยังมีแนวโน้มที่อาจจะเกิดหนี้เอ็นพีแอลจากการใช้จ่าย หรือปัญหาฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์และหนี้สาธารณะอาจแตะ 100% 

 กรณีไม่เลวร้ายมากเศรษฐกิจยุโรปคงถดถอยหรือชะลอตัวจากการรัดเข็มขัด  แต่หากเลวร้ายอาจลามไปอิตาลี สเปน เพราะมีการถือพันธบัตรของประเทศที่มีปัญหามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี อิตาลีและสเปนคงไปรอด แต่ในอีก 12 เดือนข้างหน้าวิกฤติกรีซจะกลับมาหลอนอีกรอบ ขณะที่ประเทศไทยปีหน้าอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสทยอยปรับลดลง จึงแนะนำให้รัฐบาลไทยเก็บมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ใช้ในจังหวะที่จำเป็นและเหมาะสม  แต่ควรพิจารณามาตรการระยะยาวภาพรวมเพื่อแก้โจทย์ใหญ่ให้ไทยออกจากกับดักของประเทศกำลังพัฒนาระดับกลาง(Middle Income Trap)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายโยชิฮิโกะ โนดะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่นซึ่งเป็นพรรครัฐบาลแล้ว และจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในการลงคะแนนเสียงรอบที่ 2 หลังไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงชี้ขาดในการลงคะแนนเสียงรอบแรกเมื่อเช้านี้ โดยในรอบ 2 นี้เป็นการชิงชัยกันระหว่างนายบันรีไคเอดะ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม กับ นายโนดะ ซึ่งมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 และ 2 ในการลงคะแนนเสียงรอบแรก.

 

 

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ร่างนโยบายตามลำดับความสำคัญ เพื่อรับมือกับภาวะเงินเยนแข็งค่าที่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในวันนี้ ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่กลุ่มบริษัทส่งออก

 

มาตรการต่างๆ ซึ่งเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) นั้น ครอบคลุมถึงการสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นให้ขายเงินเยนเพื่อแลกกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่นๆ เพื่อเป็นทุนสะสมที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งเสนอแรงจูงใจต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความเสียหายให้กับบริษัทส่งออกญี่ปุ่น เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนได้บั่นทอนประสิทธิภาพด้านการแข่งขันของบริษัท เพราะทำให้สินค้าส่งออกจากประเทศคู่แข่งอย่างเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ มีราคาถูกกว่า

 

ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสข่าวแพร่สะพัดในแวดวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นว่า มีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากขึ้นที่ต้องการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆที่มีต้นทุนถูกกว่า อันเนื่องมาจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายบัค แจ-วอน รมว.คลังเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า กระทรวงการคลังจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในปีนี้ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

 

"รัฐบาลกำลังจับตาดูแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ แต่ผมคิดว่าการคาดการณ์อย่างถูกต้องแม่นยำจะมีขึ้นอีกครั้งในภายหลัง โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง" นายบัคกล่าวในที่ประชุมในกรุงโซล

 

การแสดงความคิดเห็นของรมว.คลังเกาหลีใต้มีขึ้นหลังจากกระทรวงการคลังได้ปรับลดการประเมินแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.5% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ว่าจะขยายตัว 5%

 

นายบัคกล่าวว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง แต่เตือนว่ามีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจภายในประเทศจะเผชิญกับภาวะขาลง โดยระบุว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจจะได้รับอิทธิพลในด้านลบหากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และภาวะไร้เสถียรภาพในตลาดการเงินยืดเยื้อยาวนาน

 

นอกจากนี้ นายบัคกล่าวว่า รัฐบาลจะสามารถบรรลุเป้าหมายการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับ 4% ต่อปี ในปีนี้ พร้อมระบุว่า ราคาสินค้าทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และเป็นเหตุให้อัตราเงินเฟ้อในส่วนของราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในเดือนส.ค.

 

อย่างไรก็ตาม หากการขยายตัวของราคาผู้บริโภคชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 3% ในเดือนส.ค. และเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงปลายปีนี้ ก็อาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ระดับ 4%

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนก.ค.ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.7% จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 4.4%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 29 สิงหาคม 2554)

 

 

นายจู เจียนฝาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากซิติก ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน อาจพุ่งถึงจุดสูงสุดแล้วในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้นแรงกดดันเงินเฟ้อจะบรรเทาเบาบางลงตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

 

ในปี 2554 ดัชนี CPI จีนจะขยายตัวราว 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จะขยายตัวราว 6.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

นายจูกล่าวว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่ทรุดลงอย่างหนักเพราะแรงกระทบจากนอกประเทศ แต่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง โดยนายจูคาดว่าจีดีพีจีนจะชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาส 3 และ 4 ที่ระดับ 9.1% และ 9% เมื่อเทียบรายปีตามลำดับ ส่วนจีดีพีตลอดปีนี้คาดว่าจะขยายตัวราว 9.3% เมื่อเทียบรายปี

 

นายจูคาดว่ารัฐบาลจีนจะใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคอย่างรอบคอบ และจะใช้นโยบายการเงินที่มีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ไม่น่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นวงกว้าง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 2 จากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.5% เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับลดงบประมาณ ขณะที่เงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยตัวเลขดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากการรายงานครั้งก่อน  นอกจากนี้ การขยายตัวที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 2 ยังเป็นเพราะการผลิตที่หดตัวลงและภาคบริการที่ซบเซา ซึ่งเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับนายกฯอังกฤษที่จะต้องดำเนินการมากกว่านี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 29 สิงหาคม 2554)

 

ปล. ดีที่ว่า วันนี้ ธนาคารอังกฤษหยุดทำงาน แต่ก็มีประเทศอื่นๆ ในยูโรโซน ไม่หยุด

ทนดูกราฟหรือราคาไม่ได้ ปิดตาชั่วคราวนะครับ ถ้าโชคดี ก็มีเด้งกลับคืน ถ้า......

หลุด 1,800 หรือเปล่า ติดตามต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ ถ้าเกิดมีใครอยากถามเด็กขายของว่า

" ปล่อยหมู หรือยัง ". คำตอบ " ปล่อยหมูไปแล้ว 75% "

ถามอีกว่า ทำไมถึงปล่อย

คำตอบ " หมูชุดนี้ มันต่างกรรมต่างวาระ " ดันซื้อเข้าครั้งแรกสูง ได้ราคามาถัวให้ลง

ถือนานๆๆๆ อนาคตอันใกล้ หว้าเหว่โหวงเหวง ครับ

 

ต่างกรรมต่างวาระ เดี๋ยวหาจังหวะเข้าใหม่ครับ หมูมันแพง เดี๋ยวประชาคมโลกสั่งควบคุม

ราคาหมู โดยการเทของ กลัวต้องปิดตาครับ

 

แบ้วแต่พิจารณาครับ เด็กขายของแค่มาบ่นให้ฟัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในภาวะปกติ ตอนนี้

 

The Stoxx Europe 600 index XX:SXXP +0.66% rose 0.7% to 227.21

the France CAC 40 index FR:PX1 +1.44% rose 1.6% to 3,137.50

the German DAX 30 index DX:DAX +1.25% gained 1.6% to 5,624.07.

Gains were led by financial

 

Futures on the Dow Jones Industrial Average DJ1U +0.73%

futures on the Standard & Poor’s 500 index SP1U +0.89%

Nasdaq 100 futures ND1U +0.89%

 

ตลาดหุ้นฯ เขียวทุกกระดาน ในภาวะที่ไม่ได้รอคำพูดใครๆ เสียงบางจังหวะ !

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ ถ้าเกิดมีใครอยากถามเด็กขายของว่า

" ปล่อยหมู หรือยัง ". คำตอบ " ปล่อยหมูไปแล้ว 75% "

ถามอีกว่า ทำไมถึงปล่อย

คำตอบ " หมูชุดนี้ มันต่างกรรมต่างวาระ " ดันซื้อเข้าครั้งแรกสูง ได้ราคามาถัวให้ลง

ถือนานๆๆๆ อนาคตอันใกล้ หว้าเหว่โหวงเหวง ครับ

 

ต่างกรรมต่างวาระ เดี๋ยวหาจังหวะเข้าใหม่ครับ หมูมันแพง เดี๋ยวประชาคมโลกสั่งควบคุม

ราคาหมู โดยการเทของ กลัวต้องปิดตาครับ

 

แบ้วแต่พิจารณาครับ เด็กขายของแค่มาบ่นให้ฟัง

 

ใจตรงกันครับ แต่ราคาต่างกัน คิดมากไปหน่อย แต่ก็ OK หลุดมาได้

ตั้งต้นใหม่ :wacko:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้เงียบเหงาพิกล เสียวจิงๆคืนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ท่านกัปตัน Donjuan วันนี้หายไปไหนน้า.. ได้ปล่อยหมูวันนี้บ้างหรือยัง

 

ว่าจะไปปล่อยซักครึ่งพอร์ตตามเด็กขายของ จะได้ไม่เครียด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แล้วเพิ่งเข้าไปก็บมาเมื่อวันเสาร์ 25950 ล่ะ ทำไงดีนี่ ปล่อยออกก็ขาดทุนจิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ ถ้าเกิดมีใครอยากถามเด็กขายของว่า

" ปล่อยหมู หรือยัง ". คำตอบ " ปล่อยหมูไปแล้ว 75% "

ถามอีกว่า ทำไมถึงปล่อย

คำตอบ " หมูชุดนี้ มันต่างกรรมต่างวาระ " ดันซื้อเข้าครั้งแรกสูง ได้ราคามาถัวให้ลง

ถือนานๆๆๆ อนาคตอันใกล้ หว้าเหว่โหวงเหวง ครับ

 

ต่างกรรมต่างวาระ เดี๋ยวหาจังหวะเข้าใหม่ครับ หมูมันแพง เดี๋ยวประชาคมโลกสั่งควบคุม

ราคาหมู โดยการเทของ กลัวต้องปิดตาครับ

 

แบ้วแต่พิจารณาครับ เด็กขายของแค่มาบ่นให้ฟัง

สวัสดีครับ คุณเด็กขายของ

ถือว่าผมโชคดีครับ ออกตั้งแต่วันศุกร์ และวันเสาร์ มีกําไร 1,000บาท ต่อบาท ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แล้วเพิ่งเข้าไปก็บมาเมื่อวันเสาร์ 25950 ล่ะ ทำไงดีนี่ ปล่อยออกก็ขาดทุนจิ

 

มี 2 ทางเลือกครับ..

 

1.เฝ้ารอวันนั้นกลับมา เมื่อไหร่คือปัญหา..

 

2.ถ้ายังมีกระสุน อีกซักชุด พยายามหาจังหวะเก็บราคาต่ำที่สุด เท่าที่เราสามารถ

 

มาถัวชุดแรก ดอยก็จะหายไป ต้องการเสมอตัวหรือกำไร ก็ขึ้นอยู่กับคุณครับ

 

เอ๊ะ...เมื่อวันเสาร์ไปเก็บที่ไหนมาครับ...มีคนหากันเยอะ แต่ไม่ได้ :wacko:

ถูกแก้ไข โดย GB2514

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...