ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

เงินบาทปิด 30.39/41 ทิศทางยังผันผวน รอดูผลประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 กันยายน 2554 17:27:02 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.39/41 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.60/62 บาท/ดอลลาร์

 

เย็นนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้า และเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค คาดว่าตลาดรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ก่อน ว่านอกจากการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วจะมีมาตรการใดๆ เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 76.44/45 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3709/3711 ดอลลาร์/ยูโร

 

คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค. และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยวันแรก

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้มีโอกาสสูงที่จะผันผวน เพราะน่าจะเป็นช่วงที่เริ่มมีการ take profit หลังจากที่เงินบาทปรับตัวขึ้น-ลงเร็วในช่วงที่ผ่านมา โดยให้กรอบไว้กว้างๆ ที่ 30.30-30.60 บาท/ดอลลาร์

 

ปล. ตอนบ่ายแก่ ค่าเงินบาทแข็งค่า 20 สตางค์ เลยหายไปอีก 100 บาท

[Pete 15,187]

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมันเดือนก.ย.ดิ่งต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 กันยายน 2554 17:09:20 น.

ศูนย์ ZEW เพื่อการวิจัยเศรษฐกิจยุโรปเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนชาวเยอรมันในเดือนก.ย.ร่วงลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัว

 

ดัชนีความคาดหวังของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ของ ZEW เพื่อคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า 6 เดือน ลดลงมาอยู่ที่ระดับติดลบ 43.3 จากเดิมที่ติดลบ 37.6 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 2551 นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีอาจจะลดลงไปติดลบ 45 ได้

 

ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของเยอรมนีขยับขึ้นเพียง 0.1% ในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ไตรมาสแรกของปีนี้ดีดขึ้นมาถึง 1.3%

 

ด้านการขยายตัวในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเยอรมนี ชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 0.2% ลดลงมาจาก 0.8% เนื่องจากรัฐบาลกรีซและสเปนหั่นลดค่าใช้จ่ายเพื่อควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจะขยายตัว 0.2% ในไตรมาสที่ 3 และ 0.1% ในไตรมาสที่ 4

[Pete 15,187]

Housing starts fell 5% to an annual rate of 571,000 last month, compared with a downwardly revised 601,000 in July, the Commerce Department said. Economists surveyed by MarketWatch had expected housing starts to fall to 590,000 on a seasonally adjusted basis

 

ยอดเริ่มสร้างบ้านใหม่ ในสหรัฐฯ ลดลง 5.0% ในเดือนสิงหาคม ยอดรวมสะสม 571,000 โพลฯ คาดว่า 590,000

In the housing report’s only bright spot, permits for new construction actually rose 3.2% to an annual rate of 620,000, marking the highest level since January. Permits give an indication of whether demand for new homes is growing or slowing

 

ใบขออนุญาตฯ สร้างบ้าน เพิ่มขึ้น 3.2% อยู่ที่ 620,000

Also, single-family permits climbed 2.5% to 413,000, the best showing since December.

ยอดสร้างบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 2.5% อยู่ที่ 413,000

 

 

ถูกแก้ไข กันยายน 20, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

นายกฯอิตาลีประณาม S&P หั่นเครดิต ระบุมีการเมืองแอบแฝง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 กันยายน 2554 16:46:13 น.

นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลี กล่าวประณามกรณีที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี พร้อมกับปกป้องแผนรัดเข็มขัดของรัฐบาลที่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

"รัฐบาลได้รับการลงมติไว้วางใจเรื่องงบประมาณ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพของรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา" นายกฯอิตาลีกล่าว

 

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา S&P ได้ปรับลดความน่าเชื่อถืออิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ A/A-1 จากอันดับเดิมที่ A+/A-1+ และคงมุมมองเชิงลบ โดยให้เหตุผลว่าความอ่อนแอของรัฐบาลผสมและความแตกต่างด้านนโยบายในรัฐสภา จะจำกัดความสามารถของรัฐบาลในการตอบสนองต่อปัญหาในประเทศและสภาพเศรษฐกิจนอกประเทศ

 

"การประเมินของ S&P ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง แต่ดูเหมือนถูกกำหนดโดยรายงานของสื่อต่างๆ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายทางการเมืองแอบแฝง" นายแบร์ลุสโคนีกล่าว

 

"อิตาลีได้อนุมัติมาตรการต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้งบประมาณเข้าสู่ภาวะสมดุลภายในปี 2556 พร้อมกับดำเนินมาตรการต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นการเติบโต ซึ่งจะเห็นผลในระยะสั้นและระยะกลาง" นายกฯกล่าว

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภาอิตาลีรับรองแผนการรัดเข็มขัดของรัฐบาลมูลค่ารวม 5.4 หมื่นล้านยูโร เพื่อป้องกันอิตาลีจากวิกฤตหนี้สินและทำให้ตลาดโลกเชื่อมั่นว่าอิตาลีได้ทำตามข้อเรียกร้องของธนาคารกลางยุโรปในการคุมเข้มนโยบายการคลัง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

[Pete 15,187]

กรีซออกโรงปฏิเสธข่าวจัดประชาพิจารณ์เรื่องถอนตัวจากยูโรโซน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 กันยายน 2554 17:20:36 น.

รัฐบาลกรีซได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า กรีซวางแผนจัดประชาพิจารณ์ในประเด็นที่ว่า กรีซควรจะถอนตัวจากยูโรโซนเพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้หรือไม่

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเอเลียส มอสเซียลอส โฆษกรัฐบาลกรีซ ระบุว่า รัฐบาลสนับสนุนร่างกฎหมายว่าด้วยการจัดประชามติในกรีซ แต่ไม่ได้มีการหารือเรื่องการถอนตัวออกจากยูโรโซน

 

ก่อนหน้านี้ นสพ.รายวันของกรีซรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากเจ้าหนี้ต่างชาติและประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัด นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซ จึงกำลังพิจารณาที่จะจัดประชาพิจารณ์ในประเด็นที่ว่า กรีซควรจะรับมือกับวิกฤตหนี้ต่อไปในขณะที่ยังเป็นสมาชิกยูโรโซน หรือถอนตัวจากกลุ่ม

 

รายงานยังระบุด้วยว่า ผู้ช่วยบางคนของนายกฯกรีซเป็นผู้เสนอแนวคิดดังกล่าว พร้อมกับแนะให้จัดการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อที่จะได้มีการอนุมัติแผนการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปเพื่อให้กรีซสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตได้

[pookun 5]

ขอบคุณครับพี่เด็กขายของ

[Pete 15,187]

U.S. stock futures held Tuesday gains after a report showing U.S. housing starts fell 5% in August.

หลังจากประกาศรายงานการสร้างบ้านว่า ลดลง 5.0% ปรากฎว่า ดัชนีอนาคตของ ตลาดหุ้นฯ ลดลงจากเดิม

แต่ยังบวกอยู่นิดหน่อย

 

Futures for the Dow Jones Industrial Average +0.62% were up 56 points at 11,379.

the Standard & Poor's 500 Index +0.78% gained 6.3 points to 1,204.10.

Futures for the Nasdaq 100 Index added 19 points to 2,320.

[Pete 15,187]

โอบามาชี้ขึ้นภาษีคนมั่งคั่งไม่ใช่สงครามชนชั้น ตั้ง”กลุ่มเศรษฐีรักชาติ”เพิ่มภาษีคนรวย

September 19, 2011 | ,

• 1
• 2

เศรษฐีอเมริกันประกาศจัดตั้ง”กลุ่มเศรษฐีรักชาติ”รณรงค์ให้คนมีรายได้กว่า 1 ล้านดอลลาร์ยอมเสียภาษีเพิ่ม เพื่อสนับสนุนสหรัฐให้เป็นผู้นำทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและจริยธรรม โอบามาเสนอแผนเก็บภาษีคนมีเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เผยอาจไม่ผ่านเพราะพรรครีพับลิกันคุมคองเกรส

 

ที่ทำเนียบเมื่อวันที่ 19 กันยายน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้เสนอแผนการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้และงบประมาณรายจ่ายของประเทศเพิ่มเติม โดยมุ่งหวังที่จะจัดเก็บภาษีคนร่ำรวยในอัตราใหม่และคาดว่าน่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อจะนำมาลดการขาดุลงบประมาณรายจ่าย

 

“เรื่องนี้ไม่ใช่สงครามทางชนชั้น แต่เป็นคณิตศาสตร์”โอบามาประกาศและกล่าวเพิ่มเติมว่าถ้าไม่ขึ้นภาษีกับคนที่เสียภาษีก็ไม่มีทางที่จะแก้ปัญหางบประมาณขาดดุล,ไม่อาจปิดงบประมาณและอนาคตของคนอเมริกันรุ่นต่อไปก็ไม่อาจแก้ไขได้

 

ประธานาธิบดีบารัค โอบามากำลังแถลงกับผู้สื่อข่าวที่ Rose Garden ทำเนียบขาวที่วอชิงตันเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2011 (AP Photo/Evan Vucci)

 

“สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดต้องทำได้ดี รวมทั้งตัวผมเองด้วย จะต้องจ่ายภาษีในอัตราที่ยุติธรรม”โอบามากล่าว

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองมองว่านโยบายที่โอบามานำเสนอออกมานั้นยากที่จะผ่านสภาคองเกรสไปได้ เพราะคองเกรสถูกควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน

 

โอบามาต้องการลดขาดดุลงบประมาณ 3.0 ล้านล้านดอลลาร์ในรอบ 10 ปีข้างหน้าโดยกระทำ 2 อย่างพร้อมกันนั่นคือเพิ่มอัตราภาษีกับคนมั่งคั่งและตัดงบประมาณรายจ่าย “นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่เราเรียกร้องให้ทุกคนจ่ายอย่างยุติธรรม ถือเป็นการให้คำตอบกลับไปยังนายจอห์น เบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันที่ปฏิเสธเด็ดขาดไม่ยอมขึ้นภาษีเพื่อที่จะไปลดการขาดดุลงบประมาณ

 

“เรารับไม่ได้กับอัตราภาษีที่ต่ำมากของคนมั่งคั่ง เราไม่อาจรับได้เมื่อเราอยู่ในภาวะขาดดุลงบประมาณ”โอบามากล่าว ทั้งนี้การลดภาษีให้กับคนร่ำรวยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลจอร์จ บุชและกำลังจะหมดอายุลง

 

“ชนชั้นกลางจะต้องไม่เสียภาษีมากกว่าเศรษฐีและมหาเศรษฐี นี่ต้องกล่าวอย่างตรงๆ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะถกเถียงได้”โอบามากล่าว และโจมตีไปยังคำพูดของนายเบห์เนอร์ที่บอกอยู่เสมอว่า(การขึ้นภาษี) ไม่ใช่ “my way or the highway”ซึ่งถือว่าไม่ฉลาดและไม่ถูกต้อง(ในคำกล่าวเช่นนั้น)

 

ข้อเสนอของรัฐบาลโอบามาครั้งนี้เพื่อแนะไปยังคณะกรรมการร่วม (Congressional supercommittee)ที่มีพรรคละ 6 คนร่วมกันทำงานเพื่อหาทางลดงบประมาณรายจ่ายลง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 23 พฤศจิกายน

 

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโอบามายังขู่จะวีโต้กฎหมายทุกฉบับที่ผ่านโดยสภาคองเกรส หากมีการตัดสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลที่มอบแก่ผู้สูงอายุและคนพิการ แต่ไม่ได้บรรจุการเพิ่มภาษีคนร่ำรวยและบรรษัทต่างๆเข้าไว้ในคราวเดียวกัน

 

ปฏิกิริยาจากพรรครีพับลิกัน

 

นายมิทช์ แมคอนแนล ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเห็นว่าการเพิ่มภาษีจะทำให้อัตรการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างล่าช้า และจะไม่ช่วยให้การขาดดุลงบประมาณลดลงไปได้ แต่ข่าวดีก็คือคณะกรรมการร่วมทำงานอย่างหนักและไปไกลกว่าทำเนียบขาว

 

ทางด้านนายมิตต์ รอมนีย์ ผู้เสนอตัวเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันลงชิงชัยประธานาธิบดีปี 2012 ปฏิเสธข้อเสนอของโอบามาเช่นกัน โดยเห็นว่าข้อเสนอนี้เป็นเพียงการพยายามดีดตัวออกของประธานาธิบดีในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่

 

“การเพิ่มภาษีก็หมายถึงการจ้างงงานน้อยลง เป็นการคิดง่ายๆ ซึ่งประธานาธิบดีโอบามายังไม่มีแนวทางใดที่จะดึงเศรษฐกิจของประเทศกลับคืนมาได้ “นายรอมนีย์ให้ความเห็น

 

ข้อเสนอของโอบามา

 

1.แผนการหรือข้อเสนอการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนี้จะทำให้สหรัฐลดการขาดดุลลงได้ 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ในรอบ 10 ปีข้างหน้า

 

2.ในจำนวนดังกล่าวงบประมาณรายจ่ายถูกตัดไปแล้ว 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ตามข้อตกลงระหว่างสภากับรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคม เป็นการประนีประนอมกันระหว่างสองพรรค

 

3.งบประมาณรายจ่ายถูกตัดเพิ่มอีก 580,000 ล้านดอลลาร์และจะลดค่าใช้จ่ายได้อีก 1.1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อมีการถอนทหารอเมริกันกลับจากอิรักและอัฟกานิสถาน

 

4.เมื่อปฏิรูปการจัดเก็บภาษีคนมั่งคั่งจะมีรายได้เพิ่ม 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังจะประหยัดเงินอีก 430,000 ล้านดอลลาร์อันเป็นเงินที่รัฐต้องเสียอัตราดอกเบี้ยในทุกด้าน

 

5.การตัดงบประมาณรายจ่ายครั้งนี้ยังจะประหยัดได้ 248,000 ล้านดอลลาร์จากโครงการรักษาพยาบาล (Medicare) แก่ผู้สูงอายุ และประหยัดอีก 72,000 ล้านดอลลาร์เป็นเงินค่ายา(Medicaid)รักษาโรคแก่คนยากจน

 

6.รัฐจะมีรายได้อีก 800,000 ล้านดอลลาร์ ในนโยบายของรัฐบาลจอร์จ บุช หมดอายุลงกรณีการลดภาษีแก่คนที่มีรายได้เกินปีละ 200,000 ดอลลาร์ ซึ่งเรื่องนี้พรรครีพับลิกันพยายามที่จะให้มีการต่ออายุต่อไป

 

กลุ่มเศรษฐีรักชาติหนุนโอบามา

 

ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาเสนอโครงการเพิ่มอัตราภาษีแก่คนอเมริกันมั่งคั่งที่มีรายได้เกิน 1 ล้านดอลลาร์ต่อไปและถูกพรรครีพับลิกันกระหน่ำอย่างหนักนั้น ได้มีเศรษฐีอเมริกันกลุ่มรักชาติรวมตัวกันและจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเรียกว่าเศรษฐีรักชาติ (the Patriotic Millionaires) อัดกลับพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะพวกที่นั่งอยู่ในสภาออกมาปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าประเทศชาติ

 

เว็บไซท์ของกลุ่มรวมทั้งรายชื่อเปิดขึ้นที่ มีการทำวิดีโอคลิปโจมตีส.ส.พอล ไรอัน,วุฒิสมาชิกออร์ริน แฮทช์,ประธานสภาจอห์น เบห์เนอร์,ส.ส.เอริค แคนตัน,วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน,ส.ส.รอน พอล,ส.ส.ดาร์แรล อิสซาและวุฒิสมาชิกมิทช์ แมคคอนแนล

 

สคริปประกอบเพลงเขียนไว้ว่า”คนอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการขึ้นภาษีเศรษฐีโดยใช้เพลงรักชาติประกอบ พร้อมชูภาพนักการเมืองแต่ละคนขึ้นมาและบอกว่า”นักการเมืองเหล่านี้ไม่ต้องการ”

 

จดหมายจากกลุ่มเศรษฐีรักชาติ

 

กลุ่มเศรษฐีรักชาติเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีโอบามา,นายแฮร์รี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาและนายจอห์น เบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเริ่มด้วยการให้ทุกคนนำปัญหาของประเทศชาติอยู่เหนือปัญหาการเมือง

 

เพื่อความมีสุขภาพของประเทศชาติและเพื่อนพลเมืองของเรา เราขอเรียกร้องให้เพิ่มอัตราภาษีของคนที่มีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป พร้อมกับเรียกร้องให้เพื่อนพลเมืองทุกคนที่มีรายได้กว่า 1 ล้านดอลลาร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันให้ความร่วมมือ

 

จดหมายระบุว่าประเทศสหรัฐมีทางเลือก เราสามารถจ่ายหนี้และสร้างอนาคตของเราได้ หรือเราจะยุติปัญหาความรับผิดชอบทางการเงินและยุติโอกาสของประเทศ

 

ประเทศชาติเราดีกับเรามาตลอด สามารถวางพื้นฐานให้เราได้รับความสำเร็จ ขณะนี้เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะรักษาพื้นฐานให้แข็งแรงมากขึ้นเพื่อให้คนอื่นได้ประสบผลสำเร็จเหมือนที่เราได้รับ

 

โปรดทำในสิ่งที่ถูกต้องแก่ประเทศของเรา ด้วยการขึ้นภาษี จากนั้นจะมีรายชื่อของบรรดาเศรษฐีต่างๆลงนามตามเมืองและรัฐที่อาศัยอยู่

 

คนอเมริกันมั่งคั่งมี 375,000 ราย

 

จากสถิติระบุว่าคนอเมริกันทีมีรายได้เกินปีละ 1 ล้านดอลลาร์มี 375,000 ราย

 

ในระหว่างปี 1979-20087 รายได้ของคนมั่งคั่งอเมริกัน 1 % รวมกันแล้วเพิ่มขึ้นถึง 281 %

 

ในช่วงเกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ของประเทศ(the Great Depression ทศวรรษ 1930 )เศรษฐีอเมริกันเสียภาษีอัตรา 68 %

 

ปี 1963 เศรษฐีอเมริกันเสียภาษีอัตรา 91 %

 

ในปี 1976 คนอเมริกันมั่งคั่งเสียภาษีอัตรา 70 %

 

ปัจจุบันคนอเมริกันมั่งคั่งเสียภาษีอัตรา 35 %

 

ในสภาคองเกรส (553 คน ส.ส.453+ ส.ว.100 )เป็นเศรษฐีที่มีรายได้เกินกว่าปีละ 1 ล้านดอลลาร์ 44 %

 

การเพิ่มอัตราภาษีไม่ได้หมายความว่าจะต้องเพิ่มตลอดไป (มีระยะเวลา)

ถูกแก้ไข กันยายน 20, 2011 โดย เด็กขายของ

[สนใจ 91]

ได้เวลามันเริ่มจะเทอีกแล้ว

[เด็กอู่ทอง 76]

วันนี้ไปเยาวราชมาครับพยายามมองซ้ายมองขวามองหาหนุ่มใหญ่ใจดี คุณเด็กขายของ มองยังไงก็ไม่เจอเลยกลับมานั่งลุ้นคืนนี้ที่บ้านต่อดีกว่า(วันนี้ไปมองๆดูร้านหูฉลามไว้ก่อนอีกวันสองวันอาจจะได้มากิน)วันนี้จะนั่งลุ้นเป็นเพื่อนกับทุกๆคนครับ

[Pete 15,187]

รัฐบาลสหรัฐเสนอให้ไปรษณีย์งดส่งจดหมายวันเสาร์แก้ปัญหาขาดงบประมาณ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2011 เอกสารจากฝ่ายบริหารรัฐบาลบารัค โอบามา ในนโยบายกอบกู้การไปรษณีย์สหรัฐเสนอให้งดส่งจดหมายและภัสดุภัณฑ์ในวันเสาร์ หรือทำงานสัปดาห์ละ 5 วันจากจันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น

 

แผนการกอบกู้วิกฤติการไปรษณีย์ยังจะขายทรัพย์สินส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการไปรษณีย์ออกไป ข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพหลังเกษียณ และภายในไม่กี่ปีข้างหน้าจะช่วยให้การไปรษณีย์ประหยัดได้มากกว่า 20 พันล้านดอลลาร์

 

เอกสารของทำเนียบขาวกล่าวว่า”ฝ่ายบริหารเข้าใจในคุณค่าของการไปรษณีย์ว่าเป็นการค้าและการสื่อสารของประเทศ ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปเร่งด่วนเพื่ออนาคต”

 

ธุรกิจหลักของการไปรษณีย์สหรัฐคือการส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์ปัจจุบันลูกค้าต่างๆใช้อีเมลส่งจดหมายแทนและจ่ายบิลต่างๆผ่านออนไลน์ ทำให้จำเป็นต้องลดขนาดขององค์กรลง ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงฤดูร้อนปี 2012 จะไม่อาจส่งจดหมายได้อีกต่อไป

 

ดังนั้นจำเป็นต้องลดการจ่ายเงินเดือนลงให้เหลือ 220,000 คนภายในปี 2015 ขณะนี้สำนักงานไปรษณีย์ 300 กว่าแห่งอยู่ในขั้นตอนการของการปิดทำการและอีกหลายพันแห่งอยู่ในระหว่างการศึกษาว่าจะปิดหรือไม่

 

รายงานข่าวกล่าวว่าการให้บริการเพียง 5 วันจะทำให้ลูกค้าบางส่วนได้รับผลกระทบ อาทิเช่นการส่งสินค้าไปให้กับลูกค้าเป็นต้น

 

สมาชิกสภาคองเกรสส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้ทำการเพียง 5 วันต่อสัปดาห์

 

การไปรษณีย์สหรัฐต้องเพิ่งรายได้ของตนเองจากการขายแสตมป์,การส่งหีบห่อพัสดุภัณฑ์และบริการอื่นๆโดยไม่ได้พึ่งภาษีของประชาชน เมื่อไตรมาสที่ผ่านมาการไปรษณีย์สูญรายได้ไป 3 พันล้านดอลลาร์

 

เมื่อถึงสิ้นเดือนกันยายน 2011 การไปรษณีย์จะไม่มีเงิน 5.5 พันล้านดอลลาร์จ่ายค่าประกันสุขภาพแก่

 

ไปรษณีย์ที่เกษียณอายุแล้ว ยกเว้นสภาคองเกรสจะเข้ามาช่วยเหลือ

ถูกแก้ไข กันยายน 20, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

Though it's "still a bit early," the European Central Bank may want to move to reduce interest rates if downside risks persist, said Jorg Decressin, a senior advisor in the International Monetary Fund's research department, at a press conference following the publication of the IMF's world economic outlook. The ECB this year made two quarter-point rate hikes, to 1.5%. On Italy, which was downgraded by Standard & Poor's, he said the main problem is that the growth rate is still relatively low. The Italian government needs to implement its plans on fiscal consolidation as well as embark on structural reforms to boost growth, he added.

 

IMF โดยนาย Jorg Decressin ที่ปรึกษาอาวุโส ของ IMF แสดงความคิดเห็นว่า ECB ควรจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง

จากฐานะของประเทศต่างๆ ในยูโรโซน ที่อ่อนแอ ( น้องทอง กลัวขึ้น ดอกเบี้ย แต่จะกระดี๋กระด๋า ถ้า ดอกฯ ลด )

[Pete 15,187]

Dow industrials climb 50.37 points to 11,451.38

S&P 500 Index rises 5.37 points to 1,209.46

Nasdaq Composite up 13.44 points to 2,626.27

 

ตลาดหุ้น สหรัฐฯ เปิดทำการแล้ว หลังจากเปิดตลาดฯ บวกเล็กน้อย

[Pete 15,187]

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 20/09/11)

แนวโน้มวันที่ 21 กันยายาน 2554

 

ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุด สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี

ลง 1 ขั้นซึ่งก่อนหน้านี้ มูดี้ส์ก็กำลังจับตาอิตาลีเช่นกัน แต่นักลงทุนจะสังเกตุได้ชัดเจนว่า ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามคุณสมบัติสินทรัพย์

ปลอดภัยเหมือนเคย ในขณะทิ่สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆก็ถูกเทขายเช่นกัน สะท้อนมุมองของนักลงทุนต่อการลงทุนในช่วงนี้ว่าเสี่ยงเกินกว่าที่เข้า

ลงทุนในทุกตลาด การถือเงินสดยังคงเป็นแนวคิดของนักลงทุนในขณะนี้ ส่งผลให้เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยวายแอลจีเชื่อว่า ในระยะสั้นๆนี้

ราคาทองคำคงยากที่จะฟื้นตัวขึ้นมา เพราะนักลงทุนต่างมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนที่จะเลี่ยงการเข้าถือทองคำ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหาก

ราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นต่อทองคำของนักลงทุนจะยังไม่กลับมา ทำให้กลยุทธ์

การลงทุนในช่วงนี้ต้องลงทุนตามกรอบพร้อมตั้งจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุน และต้องติดตามประเด็นข่าวสารอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ

การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

 

กลยุทธ์การลงทุนวายแอลจี มีมุมมองว่าสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจรอการตั้งฐานของราคา แต่สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มาก

แนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวของราคา แต่หากยืนไม่ได้ให้รอดูบริเวณ

แนวรับสำคัญถัดไปที่ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,820 หรือ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

 

แนวรับ 1,760 (25,390บาท) 1,745 (25,170บาท) 1,730 (24,950บาท)

แนวต้าน 1,820 (26,260บาท) 1,833 (26,840บาท) 1,851 (27,100บาท)

 

[Pete 15,187]

Nasdaq Composite turns negative; Dow Negative too

ถูกแก้ไข กันยายน 20, 2011 โดย เด็กขายของ