ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เย็นนี้ ก็มีตัวเลขรายงานของเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ฝั่งยูโรฯ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ? แล้วนั้นจะเป็นที่ไปของนโยบายธนาคารกลางยุูโรฯ ต่อไป

Release: CPI m/m (December Prelim.)

Consensus Forecast: 0.8%. ประมาณการณ์ว่า เพิ่มขึ้น

Previous: 0.0%

 

Release: CPI y/y

Consensus Forecast: 2.2% ประมาณการณ์ว่า ลดลง

Previous: 2.4%

 

 

 

Will Rising Inflation Limit Germany’s Appetite for ECB Easing?

 

As we wind down the year, we have an interesting release coming out from Europe which is the December preliminary reading on consumer prices from Germany. We all know that Germany is the main economy in the euro zone and German authorities have important sway at the European central bank – limiting the bank from undertaking quantitative easing selectors being done in the US and UK.

 

The expectation for inflation is a 0.8% monthly increase compared to Novembers flat reading on prices. In annual terms inflation is expected to cool to a 2.2% rate from 2.4% previously.

122811-germany-CPI-nov.png

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝั่งสหรัฐฯ ตัวเลขคนว่างงาน Release: Jobless Claims (Week Ended Dec 23rd)

Consensus Forecast: 372K

Previous: 364K

ที่ซึ่ง คาดการณ์ว่า " ลดลง "

 

Jobless to Remain Below 400K, A Positive Sign for NFP

 

first up in tomorrow’s session will be our latest weekly reading on new jobless claims. This indicator has certainly moved in a positive direction of late falling and staying below the 400 K level positive signs of labor market. Expectation is that for the week ending December 23th jobless claims rose by a round 8K to 372K from the previous reading of 364K.

claims.png

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Release: Chicago PMI (December)

Consensus Forecast: 60.4

Previous: 62.6

ความเชื่อมั่น ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ชิคาโด เขาเดาว่า " ลดลง "

 

The Chicago PMI is significant because it tends to track the national ISM manufacturing index quite closely and therefore is a good leading indicator for that more important release. The manufacturing PMI came in at 52.7 for November (not pictured the below graph).

122811-us-chicago-pmi-dec.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขขายบ้าน ก็เพิ่มขึ้น. Release: Pending Home Sales m/m (December)

Consensus Forecast: 1.7%

Previous: 0.4%

 

The final report tomorrow from the US we get a look at pending home sales which are expected to show a 1.7% increase in November following it’s and .4% rise in October. The pending home sales is tricky because the measure is taken prior to the closing and many deals can fall through if the buyer cannot find financing from a bank for instance. it is also released by the National Association of Realtors which had its credibility taken down several notches when it admitted overstating existing home sales by 15% over the last five years this month.

122811-us-existing-home-sales-oct.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

FX DXY: Fall in gold price seen as broadly supporting USD

Wed, Dec 28 2011, 23:45 GMT | IFR Markets

 

Gold fell 2.5% on Wednesday and moved below the 55-week MA (1,563) for the first time since April, 2009. Key support is found at the Sept 26, 2011 low at 1,534 and a break below that level could see losses accelerate towards the 100-week MA around 1,413.

 

Analysts say the weakness in the gold price should support the USD if the gold correction turns into a down-trend. The DXY traded as high as 80.60 yesterday and the next level of resistance is found at the Dec 14 trend high at 80.73. The DXY trades 80.50/52

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ยอดหนี้สาธารณะของฝรั่งเศสดิ่งลงร้อยละ 0.9 ในช่วงไตรมาส 3

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานว่ายอดหนี้สาธารณะของฝรั่งเศสในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.9 มาอยู่ที่ระดับ 1.69 ล้านล้านยูโร หรือคิดเป็นร้อยละ 85.3 ของจีดีพี แต่ทางการฝรั่งเศส ตั้งเป้าไว้ว่าสิ้นปีนี้ ยอดหนี้สาธารณะจะดิ่งลงมาอีกจนแตะร้อยละ 84.9 ของจีดีพี ขณะที่ปีหน้า คาดว่ายอดหนี้สาธารณะของฝรั่งเศสมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้นแตะร้อยละ 88.3 ก่อนจะค่อยๆ ปรับตัวลดลงในปีต่อๆ ไป อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสมีเป้าหมายระยะยาวเช่นเดียวกับชาติยุโรปอื่นๆ ที่ต้องการจะลดยอดขาดดุลงบประมาณให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 3.0 ของจีดีพี และยอดหนี้ไม่เกินร้อยละ 60 ของจีดีพี เพื่อให้เป็นไปตามระดับเพดานที่อียูกำหนดไว้ 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : พรทิพย์ แสงมหาชัย   Rewriter : พรทิพย์ แสงมหาชัย

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 29 ธันวาคม 2554

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลังสหรัฐวิจารณ์ญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินเยน

กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุในรายงานฉบับล่าสุดที่ส่งถึงสภาคองเกรส วันนี้ แสดงจุดยืนคัดค้านการเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนของรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมและตุลาคมที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังสหรัฐมองว่าการแทรกแซงค่าเงินของญี่ปุ่นเป็นการตัดสินใจแบบฝ่ายเดียว แต่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อค่าเงินสกุลอื่น ถือเป็นการซ้ำเติมวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังดำเนินอยู่ อย่างไรก็ดี คำวิจารณ์ดังกล่าวของคลังสหรัฐ สวนทางกับท่าทีของรัฐบาลวอชิงตันก่อนหน้านี้ที่ออกโรงหนุนให้กลุ่มชาติจี-7 ใช้มาตรการแทรกแซงค่าเงิน หลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม

 

 

ผู้นำญี่ปุ่นเยือนอินเดียหวังกระชับสัมพันธ์การค้า

นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ของญี่ปุ่น เดินทางถึงอินเดียเมื่อวานนี้ เพื่อเริ่มต้นภารกิจการเยือนเป็นเวลา 2 วัน หมายมั่นจะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นการค้าขายระหว่างกัน เนื่องจากปัจจุบันญี่ปุ่นค้าขายกับอินเดียคิดเป็นมูลค่าเพียงปีละ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้อยมากหากเทียบกับมูลค่าการค้ากับจีนที่สูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์

 

 

อัฟกานิสถานลงนามข้อตกลงด้านน้ำมันกับจีน

 

อัฟกานิสถาน ลงนามข้อตกลงด้านน้ำมันกับจีน หวังโกยรายได้เข้าประเทศให้ได้ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในช่วง 25 ปีข้างหน้า โดยข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดทางให้บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของจีนเข้ามาพัฒนาแห่งน้ำมัน 3 แห่งทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของสองประเทศ ทั้งนี้ ความกระหายพลังงานของจีน ทำให้ทางการปักกิ่งต้องพยายามเข้าไปครอบครองทรัพยากรน้ำมันในหลายประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของโลกในปัจจุบันโดยเป็นรองเพียงสหรัฐชาติเดียว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

จีนระบุเหตุรถไฟชนกันเมื่อเดือนกรกฎาคม มีสาเหตุมาจากการออกแบบที่ผิดพลาดและการจัดการที่ล้มเหลว

 

นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีน เปิดเผยผลการสอบสวนเหตุรถไฟชนกันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 40 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 200 คน โดยนายกรัฐมนตรีเวิน ระบุว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากความบกพร่องด้านการออกแบบและการจัดการระบบรถไฟที่ไม่ดีพอ อย่างไรก็ดี ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้สั่งลงโทษเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 54 คน ฐานปฏิบัติงานบกพร่องจนนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงดังกล่าว 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : จีรธิดา คำสวน / สวท   Rewriter : จีรธิดา คำสวน / สวท

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 28 ธันวาคม 2554

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารญี่ปุ่น เล็งขยายธุรกิจรุกตลาดเอเชีย

สำนักข่าวเอ็นเอชเค รายงานว่าธนาคารใหญ่หลายรายของญี่ปุ่น มีแผนจะขยายธุรกิจรุกตลาดเอเชียมากยิ่งขึ้น โดยในปีหน้า มิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป มีแผนจะเปิดสำนักงานตัวแทนแห่งแรกในพม่า ขณะที่ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์เปอเรชัน และแบงก์ ออฟ โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มีแผนจะเปิดสำนักงานตัวแทนในปีหน้าที่กรุงพนมเปญ ของกัมพูชา หลังเศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมือง โดยธนาคารทั้งสองแห่งนี้จะเป็นธนาคารญี่ปุ่นแห่งแรกที่ตั้งสาขาในกัมพูชา นับตั้งแต่แบงก์ ออฟ โตเกียว ถอนกิจการออกจากกัมพูชาเมื่อ 45 ปีก่อน

 

 

ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนาม ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี

สำนักงานสถิติของเวียดนาม รายงานว่ายอดขาดดุลการค้าของเวียดนามประจำปีนี้ ปรับลดลงสู่ระดับ 9,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี หลังเคยทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2551 อย่างไรก็ดี ทางการเวียดนาม เตือนว่ายอดขาดดุลการค้าอาจขยับเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า เนื่องจากการค้าโลกมีแนวโน้มชะลอตัว

 

 

เซียร์ส และเคมาร์ท เล็งปิดสาขา 120 แห่ง หลังยอดขายทรุด

บริษัทเซียร์ส โฮลดิงส์ ประกาศว่ามีแผนจะปิดสาขาของห้างเซียร์และเคมาร์ททั่วสหรัฐ รวมแล้วราว 120 สาขา หลังห้างทั้งสองแห่งมียอดขายลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ข่าวร้ายนี้ทำให้หุ้นของเซียร์ส โฮลดิงส์ ดิ่งลงถึงร้อยละ 27 ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ ชี้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้อยู่เหนือการคาดหมายของนักลงทุน เนื่องจากสถานการณ์ของเซียร์สนั้นถือว่าย่ำแย่มานานแล้ว

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก.ไอซีที เปิดตัว ICT_FREE_WIFI อินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี 20,000 จุดทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในวันนี้

 

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดตัว ICT_FREE_WIFI อินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี 20,000 จุดทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั่วประเทศ และจะเพิ่มจุดให้บริการเป็น 250,000 จุดภายใน 5 ปี

 

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีได้ร่วมกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และผู้ให้บริการภาคเอกชน เปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีแก่ประชาชนตามแนวนโยบาย SMART THAILAND ที่จะเปิดให้บริการฟรีในพื้นที่สาธารณะ ส่วนตามหน่วยงานราชการ สถานศึกษาและแหล่งชุมชนที่สาธารณะที่มีประชาชนจำนวนมาก โดยระยะแรกจะเปิดให้บริการ WIFI จำนวน 20,000 จุด ความเร็ว 2 เมกกะบิท และจะทยอยเปิดเพิ่มเติมอีก 20,000 จุดภายในปี 2555 และเพิ่มเป็น 250,000 จุด ภายใน 5 ปี โดยผู้ใช้บริการ WIFI ฟรี สามารถเปิดค้นหาสัญลักษณ์ WIFI ฟรี ในชื่อ ICT_FREE_WIFI และลงทะเบียนสมัครใช้บริการ รอรับรหัสเข้าใช้งานหลังจากนั้นสามารถเข้ารหัสเพื่อใช้งาน WIFI ฟรีได้ทันที มีระยะเวลาการเชื่อมต่อสัญญาณครั้งละ 2 ชั่วโมงติดต่อกัน โดยคาดว่าการให้บริการ WIFI ฟรีดังกล่าว จะสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการเทคโนโลยีอย่างทั่วถึงและเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั่วประเทศ

 

ปล. ถนนเจริญกรุง หน้าร้าน 7-11 ก็จะมีจุดนี้นะ เปิดดูไทยโกลด์ ผ่าน วิฟิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ย่านสีลมยังครองแชมป์ราคาที่ดินสูงสุด ตารางวาละ 850,000 บาท ขณะที่กรมธนารักษ์เตรียมประเมินราคาพื้นที่น้ำท่วมและเส้นทางน้ำผ่านอีกครั้ง

 

ย่านสีลมยังครองแชมป์ราคาที่ดินสูงสุด ตารางวาละ 850,000 บาท ขณะที่กรมธนารักษ์เตรียมประเมินราคาพื้นที่น้ำท่วมและเส้นทางน้ำผ่านอีกครั้ง โดยจะประกาศภายในเดือนมกราคม 2555

นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากการจัดทำบัญชีราคาประเมินที่ดินทั่วประเทศ และจะประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2555 พบว่าราคาที่ดินทั่วประเทศเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 21.34 โดยที่ดินต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 21.40 ส่วนกรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.13 และที่ดินที่มีราคาประเมินสูงสุดยังคงเป็นย่านถนนสีลม ตั้งแต่แยกศาลาแดงไปจนถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ ตารางวาละ 850,000 บาท รองลงมาเป็นถนนราชดำริ จากแยกราชประสงค์จนถึงคลองแสนแสบ และถนนพระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน ถึงแยกราชประสงค์ และถนนเพลินจิตตลอดสาย อยู่ที่ตารางวาละ 800,000 บาท โดยพื้นที่ที่ราคามีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือพื้นที่ในเขตวัฒนา คลองเตย พระโขนง และบางนา ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 39.20 จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนพื้นที่เขตจตุจักร ลาดพร้าว และประเวศ มีราคาเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้ปรับราคาประเมินไปแล้วก่อนหน้านี้

ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด ภาคเหนือราคาปรับสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 14 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 25 ภาคกลาง ร้อยละ 12.9 และภาคใต้ปรับขึ้นสูงสุดที่ร้อยละ 31 โดยจังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ที่ปรับราคาขึ้นสูงที่สุด เมื่อเทียบพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีราคาสูงสุดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 141.09 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ค่อนข้างดี และยางพารามีราคาสูงส่งผลให้มีกำลังซื้อ ประกอบกับราคาประเมินไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน 2 รอบบัญชีที่ผ่านมา รองลงมาคือจังหวัดบุรีรัมย์ และตราด มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 81.27 และร้อยละ 74.47 ตามลำดับ ทั้งนี้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่ที่มีราคาที่สุดสูงสุด ตารางวาละ 400,000 แสนบาท ขณะที่จังหวัดอุทัยธานี อำเภอบ้านไร่ และเชียงใหม่ อำเภอดอยหล่อ แม่แจ่ม เป็นพื้นที่มีราคาที่ดินต่ำที่สุด เพียงตารางวาละ 10 บาท เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมไม่มีทางเข้าออก

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวด้วยว่า ได้ให้กรมธนารักษ์ลงพื้นที่ไปสำรวจ และส่งข้อมูลมายังคณะกรรมการจังหวัดเพื่อประเมินราคาที่ดิน ในพื้นที่น้ำท่วม และเส้นทางน้ำผ่าน หรือ Flood way โดยจะพิจารณาตั้งแต่คณะกรรมการระดับจังหวัด ผ่านไปยังคณะกรรมการกลาง คาดว่าจะมีการประกาศราคาประเมินใหม่อีกครั้งภายในเดือนมกราคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

รถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ เชิญชวนผู้โดยสารเช็คอิน และจอดรถฟรีในเทศกาลปีใหม่

 

รถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ เชิญชวนผู้โดยสารเช็คอิน และจอดรถฟรีในเทศกาลปีใหม่ที่สถานีมักกะสัน

นางประภาภรณ์ คชรินทร์ ผู้จัดการแผนกมวลชนสัมพันธ์ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท จำกัด เปิดเผยว่า ขอเชิญชวนผู้โดยสารให้มาใช้บริการระบบเช็คอิน และระบบขนส่งสัมภาระได้ที่แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีมักกะสัน โดยผู้โดยสารที่ต้องการเช็คอินสามารถใช้บริการได้ที่เคาน์เตอร์สายการบินไทย (Thai Airways International) ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. สามารถเช็คอินล่วงหน้าก่อนเดินทางได้ 3 -12 ชั่วโมง เพื่อเป็นการลดปัญหาผู้คนหนาแน่น และลดการรอคิวการเช็คอินบริเวณสนามบินด้วย นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถจอดรถได้ที่สถานีมักกะสันฟรี ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งสามารถรองรับจำนวนรถได้ถึง 300 คัน 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : นภสร แก้วคำ    Rewriter : วินิดา สุขกาย(2)

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 28 ธันวาคม 2554

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:32 หวัดดีคะคุณเด็กขายของ ทองน่าซื้อเนอะเอางัยดีหละอิอิ :Hot

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆสำหรับการเยือนไทยของ 2 ยักษ์ผู้นำเศรษฐกิจและการเมือง ทั้งสองซีกโลก คือซีกอเมริกาเมื่อเดือนก่อนโดยส่งนางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะเบอร์สองทางการเมือง ที่มาพร้อมกับนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น)แม้จะบอกว่า เป็นวาระอาเซียน แต่ก็ถือว่า มีความจงใจแสดงการให้ความสำคัญ หลังจากนั้นไม่นาน พี่ใหญ่อย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ได้ส่ง เบอร์ 2 อย่าง"สี จิ้นผิง"รองประธานาธิบดีมาเยือนประเทศไทย ขอพบทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้าน โชว์ความเป็นพี่ใหญ่อย่างแท้จริง ซึ่งยังไม่รวมถึงการเยือนระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ ในปีที่แสนจะวุ่นวาย 2554 ที่กำลังจะผ่านไปนี้

 

ทั้งที่ประเทศไทยปีนี้ ถือได้ว่า เป็นประเทศไม่น่าจะลงทุน,ไม่น่าเที่ยว หรือไม่น่าอยู่ด้วยซ้ำ ด้วยเพราะปัญหาการเมืองจากการเลือกตั้ง ปัญหาน้ำท่วมยาวนานที่ส่งผลมหันต์ต่อภาคธุรกิจ จากการที่ทั้งสนามบินปิดไป ระบบลอจิสติกส์ขนส่งสินค้าพัง ต้องปิด 7 นิคมอุตสาหกรรม และต้นทุนสูงมากช่วงเกิดวิกฤติ ตลอดจนการซื้อขายล่วงหน้า ก็ทำลายเครดิตรเอกชนไปหลายราย และยังไม่นับรวมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมประกอบทั้งหลาย ที่ต้องหยุดกิจการถ้วนทั่ว ถึงขั้นต้องนำเข้าอาหารและน้ำดื่มจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ต้องไปไล่เลียงว่าเกิดจากอะไร แต่ก็ลากเอาจีดีพีไทยปีนี้โตไม่เกิน 2.5 % แต่เหตุที่ยังเนื้อหอมอย่างนี้ได้เพราะปัจจัยของความเป็นประชาคมอาเซียนหรือ AEC ที่จะสมบูรณ์แบบในปี 2558 หรือในอีก4ปีข้างหน้า ที่จะทำให้อาเซียนยกระดับเป็นภูมิภาเศรษฐกิจระดับต้นๆของโลก สู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเช่นเดียวกับสหภาพยุโรป

 

ปี 2555 ถูกระบุในทุกตำราเศรษฐกิจของโลกว่า จะเป็นปีแห่งวิกฤติและการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจโลกใหม่ เหตุหนึ่งเป็นเพราะถึงรอบวัฏจักรของประเทศพัฒนาแล้วที่ต้องชะลอตัวเอง ไม่ได้แปลว่า ความเป็นอยู่ของประชาชนจะแย่ลง หากแต่ถึงกาลของความอิ่มตัวของระบบเศรษฐกิจ ที่อยู่ในช่วงต้องปรับ เพื่อการโตในอีกระดับ ทั้งของสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น

 

สหรัฐ คือประเทศมหาอำนาจทางทหารและทางเศรษฐกิจ แต่ในทางตรงกันข้ามก็เป็นอันตรายต่อประเทศต่างๆในโลก ทั้งในเรื่องความมั่นคงและถือเป็นหัวเชื้อพิษเศรษฐกิจมาเกือบจะสิบปีแล้ว แต่ด้วยความได้เปรียบของระบบการเงินและการชูนโยบายตำรวจของโลก ทำให้ยังรอดพ้นจากวิกฤติหนักๆมาไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งใหญ่ๆแล้ว แต่สหรัฐก็อาจสร้างคุณูปการต่อการรอดพ้นของวิกฤติเศรษฐกิจโลกรอบนี้ด้วย เพราะเป็นตัวหลักในการสร้างภูมิภาคอเมริกาใต้ให้เป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ควบคู่ไปกับการเป็นตลาดขนาดใหญ่ขึ้นมาช่วยสหรัฐอีกด้วย และอาจนำไปสู่ประเทศกลุ่มทุนในไม่ช้า โดยเฉพาะบราซิล

 

สหภาพยุโรปกลุ่มที่ใช้เงินสกุลยูโร(Euro Zone) และประเทศชั้นนำใน EU ต้องบอกว่าโชคไม่เข้าข้างโดยแท้ ที่ต้องได้รับผลกระทบจากวิกฤติค่าเงินเหรียญสหรัฐหนักกว่ากลุ่มอื่น หากแต่ปัญหาแท้จริงของสหภาพยุโรปเกิดจากระบบภายใน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพียง 1 ปี สหภาพยุโรป 27 ประเทศ ถือว่ามีสัดส่วนจีดีพี 1 ใน 3 ของโลก และมีอิทธิพลต่อภาคการค้า เป็นตลาดรับซื้อจากประเทศกำลังพัฒนามูลค่าประมาณ 1,501,844 ล้านยูโร และมีการส่งออกไปทั่วโลกมูลค่าประมาณ 1,348,792 ล้านยูโร ที่สำคัญคือ ศูนย์รวมของธนาคาร และบรรษัทข้ามชาติมากที่สุดในโลก

 

การชะลอตัวลงของการเติบโต ของกลุ่มประเทศชั้นนำในยุโรป แม้จะเป็นเรื่องทีตั้งใจไว้ แต่ด้วยความแตกแยกและไม่พร้อมของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกที่พึ่งเข้าร่วม การไม่ปฏิบัติตามกฎที่วางไว้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการรวมประเทศฝั่งยุโรปตะวันออกเข้ามา ทำให้บัดนี้ นอกจากที่กรีซเป็นหัวเชื้อของปัญหาจากเรื่อง วิกฤติการเงินของตนเอง ก่อนลุกลามสู่ประเทศสมาชิกกลุ่มนำอย่างอิตาลีและสเปนในวันนี้ จนทำให้เศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยุโรปมีปัญหาจนได้ แต่ที่ยังคงสภาพอยู่ได้ เพราะทั้ง สหภาพยุโรปและ IMF ตัดสินใจอุ้มกรีซเต็มตัว ด้วยการให้ความช่วยเหลือการเงินในรูปเงินกู้ถึง 145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้วก็ตาม แต่หลายคนบอกว่าการตัดสินใจนโยบายดังกล่าว กลายเป็นต้นเหตุของปัญหาหนี้สาธารณะอันเกินตัวของกรีซ จนทั้งยุโรปต้องช่วยกันแบกรับ

 

บรรษัทและเงินทุนทั้งหลายของโลก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องหมุนมายังเอเชีย ที่ได้จังหวะจัดแถวใหม่พอดีเช่นกัน แม้ญี่ปุ่นจะล่วงลงไปเพราะภัยธรรมชาติและปัญหาค้างเก่าหมักหมดปะทุพอดี

 

ในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ ปัจจัยไม่ใช่การแข่งขันกันแบบเดี่ยวๆ หรือการพยายามที่จะร่วมเป็นหนึ่งด้วย WTO แต่คือ การช่วงชิงความได้เปรียบของการมุ่งสู่การเป็นตลาดเสรีของโลก นั่นคือการแข่งกันลดความแตกต่างของต้นทุนการค้าและกฎกติกาที่เป็นอุปสรรคทั้งหลาย เพื่อเร่งรอบการปั่นรายได้ประชาชาติ จบด้วยการจับมือกันระหว่างประเทศและกลุ่มประเทศ ทั้งจากการเลือกประเทศที่มีลักษณะคล้ายกันและประเทศที่อยู่ในพื่นที่ภูมิภาคเดียวกัน สหภาพยุโรปคือความสำเร็จดังกล่าว ทั้งระบบการเศรษฐกิจ การเมือง และการเงิน ลักษณะใกล้เคียงกันนี้นับได้เพียงอาเซียนเท่านั้นที่กำลังก้าวสู่จุดนั้นเร็วๆนี้ และด้วยกำลังอยู่ในช่วงขาลงของญี่ปุ่น ขณะที่กลุ่มเอปคที่เข้มแข็งก็ไม่อยู่ในปัจจัยของความขัดแย้งอยู่แล้ว จีนพี่ใหญ่แห่งเอเชีย ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและเล่นบทพี่ทุกคน โดยเฉพาะชุดนโยบายจีนเองในปี 2553 ที่ประกาศชัดว่า จะผลักดันอาเซียนขึ้นมาให้ได้ ทำให้ทุกประเทศในโลกหันมามองอาเซียนแบบตาไม่กระพริบ

 

จีนกำลังจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่แทนสหรัฐ ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง จีนเตรียมพร้อมเมื่อไหร่แค่ไหนไม่มีใครคาดเดา แต่จีนเลือกเอาปี 2553 ประกาศตั้งศูนย์กลางทางการเงินที่คุนหมิง ให้เป็นศูนย์กลางการเงินของอาเซียนและเอเชียใต้ ณ สิ้นปีที่แล้ว จีดีพี มีมูลค่าถึง 5.88 ล้านล้านเหรียญ เงินตราสำรองต่างประเทศมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก และในที่สุดเปิดยุทธการนำเงินหยวนสู่เงินสกุลหลักของโลก ทั้งที่กำลังมีปัญหาการต่อสู้ค่าเงินกับสหรัฐ และจีนก็ทำสำเร็จ สกุลเงินหยวนกำลังขึ้นเหนือเหรียญสหรัฐและยูโร ด้วยพื้นฐานสำคัญคือ สหรัฐฯขาดดุลการค้ากับจีนอย่างมหาศาลนับแสนล้านเหรียญไปแล้ว รวมถึงอีกหลายประเทศในเอเชียและยุโรป

 

คู่ค้าสำคัญของไทยและอาเซียน ยังคงเกาะกลุ่มกันระหว่างจีน สหรัฐและญี่ปุ่นเหตุเพราะญี่ปุ่นยังคงมีฐานการผลิตในไทยอยู่มาก แต่คู่ค้าสำคัญมากที่สุดของประเทศต่างๆในอาเซียนก็คือกลุ่มอาเซียนตามการลดภาษีระหว่างกัน จนสินค้ามีภาษีเป็นศูนย์ เหลือแต่ภาคบริการ แต่ทุกก้าวของจีนในอาเซียนจะมีสหรัฐประกบทุกวงหรือต้องเทียบเคียงได้ จนทำให้อาเซียนขยายวงไปเป็นอาเซียนบวก 3 และอาเซียนบวก6

 

ปี 2555 โอกาสจากวิกฤติ ที่อาเซียนไปถึง แต่ไทยอาจไปไม่ถึง

 

จากวิกฤติเศรษฐกิจของอีกซีกโลกหนึ่งจึงกลายเป็นโอกาสสำคัญของอาเซียนในการเติบโต และตอนนี้จึงเป็นการช่วงชิงกันระหว่างประเทศในอาเซียนขึ้นเป็นแกนนำ ก่อนจะเป็นAEC ในอีก 4 ปี แต่ไทยอาจไม่ถึงวันนั้น หากมีปัจจัยเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในปลายปีนี้

 

ปัญหาของไทยที่จะทำให้ไม่ไปถึงในจุดนั้น นอกจากปัจจัยธรรมชาติ ที่หลายคนหวาดกลัว สิ่งสำคัญมากกว่าคือ ฝีมือของแกนนำรัฐบาลและ ชุดนโยบายว่ากลุ่มใดจะได้ประโยชน์

 

ปัญหาเรื่องความรู้ความสามารถของผู้กำหนดนโยบายและผู้แทนเจรจาการค้าของไทยตั้งแต่ช่วงหลังรัฐประหารที่ผ่านมา ถือว่าร่นถอยและขาดมืออาชีพมาทำอย่างต่อเนื่อง ผลที่เกิดก็คือ การชะลอของการเจรจาทุกอย่าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไทยถือเป็นแกนนำในอาเซียน ตลอดจนการเปิดประตูเจรจาทวิภาคีกับประเทศใหม่ๆ แต่จากการเมืองที่มีปัญหาอย่างกรณีการที่กลุ่มเสื้อแดงถล่มการประชุมอาเซียนเมื่อสองปีก่อน ก็ทำลายเครดิตประเทศอย่างมหาศาล และหากหันไปมองชุดนโยบายของรัฐบาลนี้ ที่ไม่เอื้อต่อนักธุรกิจไทยส่วนใหญ่ของประเทศ แต่กลับจะเอื้อเฉพาะกับธุรกิจของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ขณะที่การวางตัวมือการค้านักเจรจา ฝีมือดี มืออาชีพอย่าง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง กลับถูกวางไว้เป็นตัวรองในทีมเศรษฐกิจ ขณะที่ ตัวหลักอย่างรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กลับละทิ้งยักษ์ใหญ่อย่างจีนและสหรัฐ แต่เลือกโปรญี่ปุ่น และหันหลังให้ยุโรป ทั้งที่เวลานี้ควรจะถือเป็นโอกาสได้เปรียบในการต่อรองกับยุโรป และอย่างน้อยควรประคองประเทศแกนนำคู่ค้ากับอาเซียน เพื่อรักษาความได้เปรียบเหนือประเทศอื่นในอาเซียน

 

ปัจจัยข้อหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือท่าทีของผู้นำไทย ที่เลือกปฏิบัติต่อประเทศในอาเซียนเพียงกัมพูชาและพม่า ด้วยวาระเรื่องเดียวเท่านั้นคือพลังงาน แม้จะได้ประโยชน์โดยตรงในเรื่องการตัดสินใจอย่างรวดเร็วของผู้นำทั้งสามฝ่ายเพราะ ทั้งกัมพูชาและพม่านั้นอำนาจเจรจาเรื่องสำคัญอยู่เพียงผู้นำสูงสุดผู้เดียวเท่านั้น ทำให้ไม่แน่ใจนักว่า คนในประเทศทั้งสามจะได้ประโยชน์ร่วมไปกับกลุ่มทุนในรัฐบาลหรือไม่

 

แทนที่ประเทศไทยจะช่วงชิงโอกาสทางเศรษฐกิจ ก่อนจะถึงปี 2558 แต่ก่อนจะไปถึงจุดดังกล่าว ในภัยพิบัติธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้านี้อีกครั้ง หากผู้นำ และแกนนำทีมเศรษฐกิจ ยังคงเป็นชุดปัจจุบัน ที่แก้ไขวิกฤติประเทศในปีนี้ เราอาจจะกลายเป็นประเทศร่วมขบวนติดร่างแหไปกับวิกฤติเศรษฐกิจโลก และคงไม่มีนักลงทุนไหนจะเชื่อมั่นมาลงทุนใหม่ หรือแม้กระทั่งอยู่ต่อไป แม้แต่กลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นที่รัฐมนตรีพาณิชย์ เทกระเป๋าหนี้ให้ประชาชนช่วยแบกรับแทน ก็ยังอาจไม่คิดจะอยู่ต่อด้วยซ้ำ

 

 

"คนผู้หนึ่งตอนหนีเอาชีวิตรอด กลับไม่เลือกเฟ้นทางราบเรียบ

มักเข้าใจว่าหากหลบหนีตามเส้นทางกันดาร บุคคลอื่นยากไล่ล่าตามทัน"

(โกวเล้ง จากเรื่อง จับอิดนึ้ง)

 

ที่มา : ข่าวราคายาง (วันที่ 29 ธันวาคม 2554)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...