ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นในวันพุธเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุน จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน อย่างไรก็ดี ความผันผวนยังคงอยู่ใน ระดับสูง และนักลงทุนคาดว่าความอ่อนแอทางเศรษฐกิจและวิกฤติหนี้ยูโรโซนจะส่งผล ให้ดัชนีร่วงลงอีกครั้งในเร็วๆนี้

 

 

ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทะยานขึ้น 114.09 จุด หรือ 1.73 % สู่ 6,704.50 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,622.90-6,733.34

 

 

ดัชนี CAC-40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดพุ่งขึ้น 64.14 จุด หรือ 2.02 % สู่ 3,233.46 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,174.02-3,253.56

 

 

ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดปรับขึ้น 10.05 จุด หรือ 0.97 % สู่ 1,042.55 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,032.50-1,045.58

 

 

ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากผลกำไรที่ดีเกินคาดของบริษัทแอปเปิลของสหรัฐ และจากตัวเลขผลกำไรจากการดำเนินงานของธนาคารสเวดแบงก์ของสวีเดน ซึ่งร่วงลง 10 % ต่อปี สู่ 4.6 พันล้านคราวน์สวีเดน (683 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสแรก แต่อยู่สูง กว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.8 พันล้านคราวน์สวีเดน นอกจากนี้ บริษัทเปอโยต์ ซีตรอง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสยังรายงานว่า รายได้ในไตรมาสแรก ร่วงลงสู่ 1.43 หมื่นล้านยูโร (1.89 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งอยู่สูงกว่าตัวเลข คาดการณ์ที่ 1.39 หมื่นล้านยูโร

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจอย่างเช่น หุ้นกลุ่มรถยนต์และธนาคารให้พุ่งขึ้นในวันพุธ หลังจากที่หุ้นสองกลุ่มนี้เคยได้รับ ความเสียหายอย่างรุนแรงจากแรงเทขายในช่วงกลางเดือนมี.ค.-กลางเดือนเม.ย.

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรปพุ่งขึ้น 2.86 % ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร ทะยานขึ้น 1.71 %

 

ดัชนีความผันผวนของ Euro STOXX 50 ซึ่งใช้วัดความกังวลของนักลงทุนที่มี ต่อหุ้นยูโรโซน ดิ่งลง 1.26 จุด หรือ 4.38 % สู่ 27.40 ในวันพุธ อย่างไรก็ดี ดัชนี ยังคงพุ่งขึ้น 4.4 % จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงใช้ความ ระมัดระวังในการลงทุน

[namchiang 468]

เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 26 เมษายน 2555 07:46

อาร์เจนฯเพิ่มทุนสำรองทองครั้งแรกรอบ 6 ปี

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ไอเอ็มเอฟเผยอาร์เจนตินาซื้อทองในเดือนก.ย.เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาร์เจนตินาเปิดเผยว่า อาร์เจนตินา ได้เพิ่มปริมาณทองคำสำรองในเดือนก.ย. 2554 ขณะที่ราคาทองเริ่มลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นการซื้อทองเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

 

ข้อมูลของไอเอ็มเอฟ บ่งชี้ว่า อาร์เจนตินา ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของละตินอเมริกา ได้เพิ่มการถือครองทองคำสำรองอีก 7 ตัน ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทองคำสำรองทั้งหมดของอาร์เจนตินาอยู่ที่ 61.74 ตัน โดยธนาคารกลางของอาร์เจนตินา ตัดสินใจที่จะกระจายการลงทุนจากการถือครองสกุลเงินเช่นเดียวกับธนาคารกลางของประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ

 

ทั้งนี้ ราคาทองสปอตแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,920.30ต่อออนซ์ ในเดือนก.ย. 2554 โดยแหล่งข่าวที่ธนาคารกลางอาร์เจนตินาระบุว่า เจ้าหน้าที่ซื้อทองในเดือนดังกล่าว เมื่อราคาร่วงลงเกือบ 250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในเวลาต่อมา จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

รายงานสถิติการเงินระหว่างประเทศรายเดือนของไอเอ็มเอฟ บ่งชี้ว่า การซื้อทองดังกล่าวเป็นการซื้อเพื่อเพิ่มทุนสำรองทองเป็นครั้งแรกของอาร์เจนตินานับตั้งแต่เดือนก.พ. 2548

 

ที่ผ่านมา สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดประมาณการแนวโน้มหนี้ต่างประเทศของอาร์เจนตินาลงสู่เชิงลบ โดยระบุถึงนโยบายต่างๆ อาทิ การดำเนินการของรัฐบาลที่จะยึดกิจการบริษัทพลังงานวายพีเอฟ จากบริษัทเรปซอลของสเปน

 

ข้อมูลของไอเอ็มเอฟ บ่งชี้ว่า เม็กซิโกได้เพิ่มการถือครองทองมากที่สุดในเดือนมี.ค.ในรอบ 1 ปีด้วย หลังจากเพิ่มทุนสำรองทองอีก 16.81 ตัน สู่ระดับ 122.58 ตัน โดยเม็กซิโกเป็นผู้ซื้อทองสุทธิในปี 2554 และเพิ่มการถือครองทองเกือบ 100 ตัน สู่ 106 ตัน

 

ธนาคารกลางทั่วโลก ได้เพิ่มการถือครองเกือบ 500 ตันในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ธนาคารกลาง เป็นผู้ซื้อทองสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบอย่างน้อย 20 ปี ขณะที่เม็กซิโก, เกาหลีใต้, ไทย, ฟิลิปปินส์และรัสเซียได้เพิ่มการถือครองทองคำอย่างมาก แม้ประเทศขนาดเล็กกว่าอื่นๆ อาทิ โคลัมเบียและเบลารุส ก็เป็นผู้ซื้อทองอย่างมากด้วยเช่นกัน

 

ข้อมูลของไอเอ็มเอฟ สำหรับเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า รัสเซียได้เพิ่มการถือครองทอง 16.55 ตัน สู่ 895.75 ตันในเดือนที่ผ่านมา ขณะที่คาซัคสถาน เพิ่มการถือครองทองสำรอง 4.30 ตัน สู่ 96.16 ตัน และการถือครองทองของคาซัคสถานเพิ่มขึ้นเกือบ 39 ตันหรือ 42% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

 

โพสต์นี้ ได้รับการโปรโมตให้เป็นบทความ

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นเหมืองแร่ หนุนฟุตซี่ปิดบวก 9.40 จุด

 

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น ขานรับผลประกอบที่แข็งแกร่งของแอปเปิล อิงค์

 

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5718.89 จุด บวก 9.40 จุด

 

 

การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเวแดนต้า พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นเฟรสนิลโลพุ่งขึ้น 3.4% หุ้นเกล็นคอร์ อินเตอร์เนชันแนล ดีดขึ้น 3.2% และหุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 3.2%

 

 

หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท แอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น หลังจากแอปเปิลเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2555 อยู่ที่ 3.92 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 59% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 2.47 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดขายไอโฟนเพิ่มขึ้น 88% และยอดขายไอแพด พุ่งขึ้น 151%

 

 

หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ ผู้ผลิตยารายใหญ่สุดของอังกฤษ ดิ่งลง 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายและผลกำไรไตรมาสแรกที่น้อยกว่าการคาดการร์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เนื่องรายได้ในยุโรปปรับตัวลดลง

หุ้นแมนกรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.8% ขณะที่หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 3.3%

 

อย่าไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของอังกฤษ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 0.2% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 หลังจากที่หดตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2552

 

การเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2555 เมื่อวานนี้ถือเป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้นจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ซึ่งได้จากข้อมูลเพียงประมาณ 40% ของข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ในการคำนวณจีดีพี

[Pete 15,187]

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดปรับตัวขึ้นในวันพุธหลังการซื้อขายที่ผันผวน โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, การที่ธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำและการขนส่งน้ำมันที่ล่า ช้าในทะเลเหนือ แต่ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดของสหรัฐถ่วงตลาด

 

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 96 เซนต์หรือ 0.81% สู่ระดับ 119.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังปรับตัวในช่วง 117.45- 119.25 ดอลลาร์

 

[Pete 15,187]

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้น ไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมปรับขึ้นได้ แต่ไม่มาก เหตุต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกทำให้กรอบการขึ้นจำกัด แต่ Sentiment บวกของตลาดฯก็คงมาจากตลาดต่างประเทศที่ไม่ได้เป็นตัวถ่วง โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้ก็ยังบวกได้แม้จะเล็กน้อยมาก อีกทั้งตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากการประกาศงบฯ Q1/55 ของบริษัทจดทะเบียน ภาพรวมน่าจะดี วันนี้จับตางบฯ PTTEP คาดทำกำไรสูงสุดใหม่ พร้อมให้กรอบแกว่ง 1,195-1,205 จุด

 

นาย ปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่คงจะไม่มาก เนื่องจากเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติได้พลิกกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกทำให้ กรอบการขึ้นตลาดฯมีจำกัด

 

แต่ Sentiment บวกของตลาดฯก็คงจะมาจากที่ตลาดต่างประเทศไม่ได้เป็นตัวถ่วง โดยตลาดสหรัฐฯก็ไม่ปรับตัวลง และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ยังบวกได้แม้จะเล็กน้อยมากก็ตาม

 

อีก ทั้งตลาดบ้านเรายังมีปัจจัยหนุนในประเทศในเรื่องของการประกาศผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 1/55 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งภาพรวมก็น่าจะออกมาดี และในวันนี้ก็จะมีการประกาศงบฯของ PTTEP ซึ่งก็คาดว่าจะออกมาดีด้วย และคงจะทำกำไรสูงสุดใหม่ โดยคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 16,000 ล้านบาท

 

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,195-1,205 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(24 เม.ย.55) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,001.56 จุด เพิ่มขึ้น 74.39 จุด (+0.58%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,371.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด (+0.37%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,961.60 จุด ลดลง 8.85 จุด(-0.30%)

 

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,119.91 ล้านบาทเมื่อวานนี้

 

- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 103.55 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.43%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เมื่อวานนี้(24 เม.ย.)ปิดที่ 9.29 เหรียญฯ/บาร์เรล

 

- รัฐดึง4 แบงก์อัดฉีด 4.5 หมื่นล้านรับภาระพักหนี้ลูกค้าดี 3.8 ล้านราย พร้อมลดดอกเบี้ยให้ 3% นาน 3 ปี เปิดลงทะเบียน 2 พ.ค.นี้ "กิตติรัตน์"เชื่อเพิ่มจีดีพีโตถึง 7% ธ.ก.ส.รับรายได้สูญ 6 พันล้าน เหตุมีลูกค้าเข้าข่ายถึง 2.9 ล้านราย ขณะที่แบงก์ออมสินคาดมี 8.4 แสนรายร่วมโครงการ มูลหนี้ 6.4 หมื่นล้าน ด้าน "ธีระชัย" ชี้ไม่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจริงหลักเกณฑ์ไม่สมเหตุผล

 

- พาณิชย์เรียกทูตพาณิชย์ทบทวนแผนส่งออกรับมือค่าแรงพุ่ง เผยไตรมาสแรกติดลบ แต่คงเป้าทั้งปีที่ 15% หวังจัดงาน"ไทยเฟกซ์" 23-27 พ.ค. แสดงศักยภาพด้านผลิต ดันส่งออกอาหารเพิ่ม 12% ซีพีเอฟคาดปีนี้คึกคัก ระบุกองทุนต่างชาติเริ่มสนใจธุรกิจอาหาร

 

- อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกเผยตัวเลขส่งออกสินค้าไทยเดือน มี.ค.55 มีแนวโน้มขยายตัวติดลบ ซึ่งจะทำให้การส่งออกไตรมาสแรก(ม.ค.-มี.ค.)ติดลบแน่ โดยการส่งออกเดือน มี.ค.ติดลบ เพราะโรงงานที่เสียหายจากน้ำท่วมปลายปี ยังกลับมาผลิตไม่เต็มที่ และการส่งออกเดือน มี.ค.ปีก่อน มีฐานส่งออกสูงมาก โดยส่งออกได้ถึง2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ปีนี้ การส่งออกจึงขยายตัวติดลบ แต่อาจติดลบเล็กน้อย - คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายอายุมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ดีเซลเหลือ 0.005 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.นี้ออกไปอีก 1 เดือน หรือเป็นสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. 2555

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 26 เมษายน 2555

 

[Pete 15,187]

นักบริหารเงินธนาคารซีไอ เอ็มบี ไทย จำกัด กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.94/96 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.95/97 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวเดียวกันกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค

 

"(เงินบาท) ขยับแข็งค่าเล็กน้อยตามภูมิภาค แนวโน้มแข็งค่า แต่เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ผล การประมูลพันธบัตรรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ประกอบกับตัวเลขราคาบ้านของสหรัฐฯ ออกมาดี ส่งผลให้เงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ส่วนผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ให้คงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงปี 2114 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

สำหรับ ความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทสที่สำคัญ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3192/3194 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 1.3167/3170 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินเยนอยู่ที่ระดับ 81.39/43 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 81.18/20 เยน/ดอลลาร์

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 30.90-31.00 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 26 เมษายน 2555

 

[Pete 15,187]

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้น ไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมปรับขึ้นได้ แต่ไม่มาก เหตุต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกทำให้กรอบการขึ้นจำกัด แต่ Sentiment บวกของตลาดฯก็คงมาจากตลาดต่างประเทศที่ไม่ได้เป็นตัวถ่วง โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้ก็ยังบวกได้แม้จะเล็กน้อยมาก อีกทั้งตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากการประกาศงบฯ Q1/55 ของบริษัทจดทะเบียน ภาพรวมน่าจะดี วันนี้จับตางบฯ PTTEP คาดทำกำไรสูงสุดใหม่ พร้อมให้กรอบแกว่ง 1,195-1,205 จุด

 

นาย ปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่คงจะไม่มาก เนื่องจากเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติได้พลิกกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกทำให้ กรอบการขึ้นตลาดฯมีจำกัด

 

แต่ Sentiment บวกของตลาดฯก็คงจะมาจากที่ตลาดต่างประเทศไม่ได้เป็นตัวถ่วง โดยตลาดสหรัฐฯก็ไม่ปรับตัวลง และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ยังบวกได้แม้จะเล็กน้อยมากก็ตาม

 

อีก ทั้งตลาดบ้านเรายังมีปัจจัยหนุนในประเทศในเรื่องของการประกาศผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 1/55 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งภาพรวมก็น่าจะออกมาดี และในวันนี้ก็จะมีการประกาศงบฯของ PTTEP ซึ่งก็คาดว่าจะออกมาดีด้วย และคงจะทำกำไรสูงสุดใหม่ โดยคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 16,000 ล้านบาท

 

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,195-1,205 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 26 เมษายน 2555

 

[Pete 15,187]

ราคาน้ำมัน WTI ดีดขึ้น 12 เซนต์ หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง (26/04/2555)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมิ.ย.ซึ่งมีการซื้อขายผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิก ดีดตัวขึ้น 12 เซนต์ แตะที่ 103.67 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

 

ทั้ง นี้ API เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลง 985,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.6%

 

นัก ลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 เม.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 700,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.5%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 26 เมษายน 2555

 

[DonJuan 4,685]

หุหุ จะไปถอยนิวไอแพด เหรอครับ ปัญหาเครื่องร้อน ยังไม่ได้แก้ไขสเปคเลยนะ เพราะฉะนั้นถ้าซื้อ ห้ามวางที่ตัก เดี๋ยว..สุก

 

ครับผม ขอบคุณครับ รับทราบ ว่าแต่ ของร้อนๆจน ... สุกนั้น ทนได้ครับ เพราะเจอของร้อน(แต่ใจเย็น) ของเจ้ บดขยี้บี้ทุกคืน อิอิ ทนไหวๆ ถ้าเจ้ เปลี่ยนให้อย่างอื่นร้อนแทน อย่างอื่นบ้าง คงได้ หรรษกันน่าดูครับ(ไปไงวกมากัดเจ้ได้นี่)

[DonJuan 4,685]

24150/24050 รับทราบ เค๊

[arthas2u 407]

อรุนสวัส ทุกท่าน ยินดี กับผู้กล้า มะคืนด้วยนะ

[arthas2u 407]

แม้ จะไม่ได้ราคาต่ำเหมือนกับตัน แต่ มันก็เป็นราคาที่น่าพอใจ อิอิ

[ariya 1,481]

ครับผม ขอบคุณครับ รับทราบ ว่าแต่ ของร้อนๆจน ... สุกนั้น ทนได้ครับ เพราะเจอของร้อน(แต่ใจเย็น) ของเจ้ บดขยี้บี้ทุกคืน อิอิ ทนไหวๆ ถ้าเจ้ เปลี่ยนให้อย่างอื่นร้อนแทน อย่างอื่นบ้าง คงได้ หรรษกันน่าดูครับ(ไปไงวกมากัดเจ้ได้นี่)

 

แทงข้างหลังเห็นๆ ปกติ เข้าสาย กลับก่อน ประจำ เค้าเบื่อจะบ่นแล้ว

 

เครื่องเจ้จะร้อนต้องอยู่ที่ใช้กับใคร ของใหม่ๆ มักร้อนแรงร้อนเร็ว

[ariya 1,481]

อาทิดคุง ทำไมชอบมาดึกๆ วะ เอ้ยจ๊ะ

[DonJuan 4,685]

อาทิดคุง ทำไมชอบมาดึกๆ วะ เอ้ยจ๊ะ

 

ไปส่งเด็กอ่ะดิ เอาไว้จะถามน้องโบรกว่า 2--3 วันก่อนใครท้องเสียจนต้องฉีดยา รู้ตัวไม่ยาก อิอิ