ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

หุ้น-ทองทรุดเหตุศก.โลกอ่อนแอ-เงินยูโรดิ่งต่ำสุด2ปี

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

 

แนวโน้มราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกยังคงทรุดตัวต่อเนื่อง หลังสัญญาณเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอยรุนแรงเด่นชัดมากขึ้น นักลงทุนขายทิ้งหุ้นในสหรัฐ-ยุโรปร่วงลงแรกเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา รวมทั้งสกุลเงินยูโรเพื่อลดความเสี่ยง างผลให้เงินยูโนดิ่งลงในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่กลางปี 2010 ลงมาอตะที่ระดับ 1.2165 ยูโรต่อดอลลาร์ และขายทำกำไรราคาทองร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังหลุดลงไปต่ำถึง 1,556 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้วันศุกร์ 13 ก.ค.ทรงตัวทั้งบวก-ลบ นิคเคอิบวก 0.02% คอสปี้ลบ 0.07% ออสซี่บวก 0.28%

 

 

ทั้งนี้หุ้นสหรัฐปิดตลาดลบ เพราะถูกแรงฉุดจากดัชนีแนสแด็กที่ดิ่งหนัก แม้มีข่าวดี ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐแตะระดับต่ำสุดด็ตาม

 

โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (12 ก.ค.) ร่วงลง 31.26 จุดหรือ 0.25% ที่ 12,573.27 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 6.69 จุดหรือ 0.5% ปิดที่ 1,334.76 ดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลดลง 0.75% หรือ 21.79 จุด ปิดที่

 

2,866.19

 

ด้านฟากฝั่งหุ้นยุโรปปิดในแดนลบ โดย FT100 ลอนดอนลบ 0.99% CAC40 ฝรั่งเศสลบ 0.7% และ DAX เยอรมันลบ 0.53% ตามทิศทางค่าเงินยูโรที่ถูกขายทิ้งเพื่อจำกัดความเสี่ยงการลงทุน ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินยูโรร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ระดับ 1.2165 ยูโรต่อดอลลาร์

 

ขณะที่หุ้นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมไอทีหลายแห่งร่วงลง รวมถึงอินโฟซิส ที่ปิดตลาดลดลงไป 11% และหุ้นของบริษัทแอปเปิล ลบ0.9% ส่วนหุ้นของไมโครซอฟต์ ปรับตัวลดลง 2.3%

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดแดนลบ เพราะนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและผลประกอบการของบริษัทเอกชน แม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยว่าจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม

 

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐส่งสัญญาณการฟื้นตัวก็ตาม

 

นักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักกับการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วที่ลดลง 26,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ มาอยู่ที่ 350,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2551 โดยลดลงจากระดับ 376,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 374,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ราว 370,000 ราย

 

ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลงกว่า 1.3% แม้นายบัฟเฟตต์จะกล่าวว่า เขายังคงเชื่อมั่นในความสามารถของนายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค โดยกล่าวว่านายไดมอน เป็นหนึ่งในนายธนาคารที่ดีที่สุดในโลก เพราะมีความเข้าใจด้านการธนาคารและความเสี่ยงเป็นอย่างดี

 

การแสดงความเชื่อมั่นของบัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของเจพีมอร์แกน มีขึ้นเพียงวันเดียวก่อนที่เจพีมอร์แกน จะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งเป็นที่จับต่อของตลาด เนื่องจากก่อนหน้านี้ ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐ ได้เปิดเผยว่าขาดทุนด้านเทรดดิ้งเป็นวงเงินสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดในตราสารอนุพันธ์ของ Chief Investment Office ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบริหารความเสี่ยงของเจพี มอร์แกน

 

ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลงกว่า 1.3% และหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 4.3% หลังจากบริษัท ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของโรงแรมนอกภูมิภาคอเมริกาเหนือ

 

กังวลอิหร่านหนุนน้ำมันไนเม็กซ์ปิดขยับขึ้น

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 86.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 84 เซนต์ปิดที่ 101.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิดเพิ่มขึ้น หลังจากกระทรวงต่างประเทศเปิดเผยมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจอิหร่านรอบใหม่ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้แก่รัฐบาลเตหะราน ในการชี้แจงด้วยท่าทีโปร่งใสเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเอง

 

คำประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐครั้งนี้ระบุถึงบริษัทนอมินีของอิหร่าน และธนาคารกว่า 50 แห่งที่อยู่ในข่ายได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมครั้งนี้

 

ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค. ลดลง 26,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ มาอยู่ที่ 350,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2551

 

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงจากระดับ 376,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 374,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ราว 370,000 ราย

 

ทองปิดร่วง10.40ดอลลาร์หลังยูโรดิ่ง

 

ราคาทองคำตลาดสหรัฐปิดร่วง 10.40 ดอลลาร์หลังดอลลาร์แข็งค่าและเฟดเมินใช้มาตรการคิวอี3

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3)

 

ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 10.40 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,565.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ราคาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการคิวอี 3 เหมือนกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

 

ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอัดฉีดสภาพคล่องของเฟด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วน หันมาซื้อทองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เป็นผลพวงจากการใช้มาตรการผ่อนคลายต่างๆ

 

บีโอเจคงดบ.-เพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์5ล้านล้านเยน

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยเผื่อเรียกข้ามคืนไว้ที่ 0-0.1% ในการประชุมวันนี้ ตามความคาดหมาย ขณะที่เพิ่มวงเงินซื้อหลักทรัพย์ระยะสั้นตามโครงการซื้อสินทรัพย์อีก 5 ล้านล้านเยน

 

ขณะเดียวกัน บีโอเจคงมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นการแสดงความเชื่อมั่นว่า อุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม

 

บีโอเจ ได้ปรับโครงการซื้อสินทรัพย์และปล่อยสินเชื่อ โดยประกาศว่า จะซื้อหลักทรัพย์ระยะสั้นเพิ่มเติม ขณะเดียวกันจะลดวงเงินการปล่อยกู้ภายใต้โครงการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ แต่บีโอเจคงมูลค่าทั้งหมดของโครงการซื้อสินทรัพย์และปล่อยสินเชื่อที่ 70 ล้านล้านเยน (8.79 แสนล้านดอลลาร์)

 

นอกจากนี้ ในรายงานทบทวนแนวโน้มเศรษฐกิจประจำไตรมาส บีโอเจยังได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐานสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้าลงสู่ 0.2% จาก 0.3% ที่เคยคาดไว้ในเดือนเม.ย.และบีโอเจคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับปีงบประมาณหน้าที่ 0.7%

 

บีโอเจ ผ่อนคลายนโยบายในเดือนก.พ.และเม.ย.ผ่านทางการเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ เพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 1% ที่ผ่านมา บีโอเจเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจและราคาในระยะยาว ในรายงานรอบครึ่งปีในเดือนเม.ย.และต.ค.ของแต่ละปี และจะทำการปรับทบทวนในเดือนม.ค.และก.ค

 

ADBคาดศก.ชาติกำลังพัฒนาเอเชียโต6.5%ปีนี้

 

นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวในการประชุมที่กรุงเทพฯว่า วิกฤตหนี้ในภูมิภาคยุโรป มีส่วนฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ขณะที่การปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกได้บรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในภูมิภาค

 

เอดีบี คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะอยู่ที่ 6.5% ในปี 2555 จาก 7.2% ในปี 2554

 

นอกจากนี้ นายคูโรดะ ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวกว่า 8% จากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง แม้ว่าการส่งออกของจีนยังต้องพึ่งพาตลาดยุโรป

 

คาดจีดีพีจีนขยายตัวQ2แค่7.5%

 

คาดจีดีพีจีนขยายตัวแค่ 7.5% ไตรมาส 2 และเกือบ 8% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

 

โดยนายหยู ปิง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของศูนย์วิจัยด้านการพัฒนา (ดีอาร์ซี) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของจีน อาจขยายตัว 7.5% ในไตรมาส 2 และเกือบ 8% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เมื่อเทียบจากปีก่อน และจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่มาตรการกระตุ้นด้านนโยบายส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ

 

"เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพ และฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่มาตรการด้านนโยบายส่งผลต่อเศรษฐกิจ" นายหยู กล่าว

 

ในวันนี้ จีนจะประกาศอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ซึ่งผลสำรวจของรอยเตอร์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว 7.6% เมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินโลกอย่างรุนแรง โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจของจีนขยายตัว 8.1% จากปีก่อน

 

ธนาคารกลางจีน ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการปรับลดครั้งที่ 2 ทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจของจีนอาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

 

จีน ได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (อาร์อาร์อาร์) ของธนาคารพาณิชย์ลง 3 ครั้งนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2554 ครั้งละ 0.5% ซึ่งทำให้ภาคธนาคารมีเงินประมาณ 1.2 ล้านล้านหยวน (1.90 แสนล้านดอลลาร์) สำหรับการปล่อยกู้

 

ข้อมูลเมื่อวันจันทร์บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภครายปีชะลอลงมากเกินคาดสู่ระดับ 2.2% ในเดือนมิ.ย. ทำให้จีนมีโอกาสมากขึ้นที่จะผ่อนคลายนโยบายลง โดยไม่ทำให้เกิดแรงกดดันด้านราคา

 

นักวิเคราะห์บางรายหวังว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 3 แต่นักวิเคราะห์รายอื่นๆ คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างซบเซา หากรัฐบาลไม่สามารถกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ เพื่อชดเชยการส่งออกที่อ่อนแอลง อันเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรปและการฟื้นตัวที่ไม่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

นายหยู กล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องกระตุ้นการลงทุนด้านโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อรับรองว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว ซึ่งสอดรับกับความเห็นของนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าในสัปดาห์นี้ที่ว่า การเพิ่มการลงทุนจะมีความสำคัญต่อการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ และคาดว่า การส่งออกของจีนจะเพิ่มขึ้นราว 10% ในปีนี้ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะบ่งชี้ถึงการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของค่าเงินหยวน

 

แบงก์ชาติเกาหลีใต้ลดดอกเบี้ยครั้งแรกรอบ13เดือน

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 13 เดือน

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3% ในวันนี้ เป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ซึ่งการตัดสินใจของธนาคารกลางเกาหลีใต้ ในการประชุมวันนี้ นับว่าสวนทางกับการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากปัจจัยหลายด้าน อาทิเช่น แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาลงอย่างมาก และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง

 

นอกจากนี้ การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเกาหลีใต้ ยังมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป และหลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น อยู่ในภาวะเปราะบางอย่างมาก

 

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% จากก่อนหน้านี้ ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.7% เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เลวร้ายในต่างประเทศ

 

FEDเดินหน้าผ่อนคลายการเงิน

 

ถึงแม้ว่า รายงานการประชุมเฟดบ่งชี้ เฟดยังคงเปิดกว้างต่อการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป โดยไม่ส่งสัญญาณ QE3 ที่ชีดเจนกลับส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินโลก

 

โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (เอฟโอเอ็มซี) ประจำวันที่ 19-20 มิ.ย. โดยระบุถึงภาวะชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการขยายตัวด้านการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องมีความชัดเจนมากขึ้นในการสนับสนุนการซื้อพันธบัตรรอบใหม่

 

“ข้อมูลในการประชุมวันที่ 19-20 มิ.ย.บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงกว่าเมื่อต้นปี การปรับตัวดีขึ้นของภาวะตลาดแรงงานเป็นไปอย่างเชื่องช้าในช่วงหลายดือนที่ผ่านมา และอัตราว่างงานยังคงสูง" รายงานการประชุมของเอฟโอเอ็มซี ระบุ

 

หลังการประชุมดังกล่าว เฟด ประกาศว่าจะขยายระยะเวลาของมาตรการ Operation Twist ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลง และเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวสำหรับปี 2555 ลงสู่ช่วง 1.9-2.4% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ 2.4-2.9%

 

“การปรับทบทวนดังกล่าวสะท้อนถึงข้อมูลที่บ่งชี้ ถึงอัตราการจ้างงานในภาคเอกชนที่ชะลอลง ยอดค้าปลีกที่ย่ำแย่มากขึ้น แนวโน้มรายได้ส่วนบุคคลที่ต่ำลง การควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาลมากขึ้น และการส่งออกที่อ่อนแอกว่าที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้"

 

ในการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่ตีความข้อมูลดังกล่าวว่า เป็นการบ่งชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และหลังจากนั้นจะปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างมาก

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังคาดว่านโยบายการคลังจะยังคงถ่วงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า

 

รายงานแสดงให้เห็นว่าสมาชิกคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซี เกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงรายเดียว เห็นพ้องกันว่าจะเป็นการเหมาะสมที่จะยังคงดำเนินมาตรการ Operation Twist ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้

 

“มีสมาชิกเพียงไม่กี่ราย ที่แสดงความเห็นว่า จำเป็นต้องมีการกระตุ้นด้านนโยบายต่อไป เพื่อหนุนการขยายตัวด้านการจ้างงาน และเพื่อสร้างความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ภายในเป้าหมายของเอฟโอเอ็มซี" รายงานระบุ

 

แต่สมาชิกอื่นๆหลายราย ก็ตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการด้านนโยบายเพิ่มเติมอาจมีความเหมาะสม หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง หากความเสี่ยงช่วงขาลงต่อการคาดการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนเพียงพอ หรือหากเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของเอฟโอเอ็มซีอย่างต่อเนื่อง

 

[Pasaya 499]

สวัสดีครับเฮีย และเพื่อนๆทุกคน

 

เมื่อคืนสรุปไม่ match ขาดไป 1 เหรียญ เลยอดลำไยพวงน้อยเลย 555

 

ซ้อได้กำไปพวงนึง แล้ววันนี้เอาไงดี สงสัยต้องรอดูผลจีน 9 โมงก่อนเนอะ

กินข้าวอาบน้ำประแป้งเป็น เทียน มี มี่ ของป๋าดีกว่า เดี๋ยวมาใหม่

[vitman 42]

http://www.youtube.com/watch?v=SE-HlEG9m7I

 

เทียน มี มี่ มี่ แต่ธูปของเราไม่มี มีเทียนมีธูป ......แต่ไฟแช๊คไม่มี แล้วเราจะทํายังงาย

[DonJuan 4,685]

ซ้อ ทัวร์้เราได้ จะออกสะที ทัวร์อะไรนะ ซ้อ

 

:53 :La ตกปลาแล้วโชคดี

อรุณสวัสดิ์เจ้

ปล่อยของแต่เช้า แต่ทำไมวันนี้มันทำท่าว่าจะตามเจ้ (วะ) หัวหักอีกแล้ว 555

สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อทัวร์ห้ามผวน ตรงๆ. ดีๆ เช่น พากันรวย แทรเวล ดีมั้ยล่ะ

ที่ร๊ากกกกก ของเจ้ เจ้ยังไม่ได้รับ mail เลยนะ

 

พากันรวย แทรเวล นำเสนอทริป ทองขึ้นระเบิดระเบ้อ หรือ เทอขึ้นระเบิดระบ้อง เมื่อคืน อ้ายกัน กว่าจะมาตามนั้นหลัง 5 ทุ่ม แต่แนวรับเจ้เกี้ยม ยังทำงานได้ยอดเยี่ยม ใครซื้อตามได้ค่า แซลม่อนไป

[Pete 15,187]

Latest News

10:01p

BREAKING

China Q2 GDP grows 7.6% from year-ago

10:01p

China Q2 GDP growth slows from 8.1% in Q1

[Pete 15,187]

 Chinese Retail Sales (YoY)

 

Actual 13.7%  

Forecast 13.5%  

Previous 13.8% 

Retail Sales measure the change in the total value of inflation-adjusted sales at the retail level. It is the foremost indicator of consumer spending, which accounts for the majority of overall economic activity.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 13, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

 Chinese Industrial Production (YoY)

 

Actual 9.5%  

Forecast 9.8%  

Previous 9.6% 

Industrial Production measures the change in the total inflation-adjusted value of output produced by manufacturers, mines, and utilities.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 13, 2012 โดย เด็กขายของ

[DonJuan 4,685]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ Nuchaba คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณ foo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ Madee คุณ forgame คุณ noonoon_ja คุณ luk คุณ 96Needle คุณ ดอกเหมยสีทอง คุณ กบจ๊า คุณ Tfex.Gril.. และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

ขา L ไม่ขออะไรมาก ให้ยืน 1575 ได้ถึงบ่ายแก่ๆก็แล้วกัน ยืนได้ไปต่อที่ 1595 เพื่อทดสอบ 1600 สัญญาณราย 4 ชั่วโมงดูดีไปต่อได้ ราวันกำลังตัดขึ้นขอยืนได้ตามที่บอกไป

 

ขา S ถ้าขึ้นไป 1575 หรือยืนไม่ได้ก่อนบ่ายแก่ โอกาสลงไปย้้ำ 1556 อีกครั้งก็เป็นได้ครับ ถ้าลงไปจริงโอกาสหลุดมีสูงกว่าเมื่อคืนครับ

 

เดาว่า วันนี้คงยืนได้ 1575 สลับทดสอบ 1570 ถึงบ่าย จากนั้นค่ำๆขึ้นทดสอบ 1590 แล้วยื้อกันจนยืนได้ ลึกๆหวังว่าดึกๆอ้ายกันจะลากไปปิดราคาแถว 1590-1595 โชคดีหน่อยอาจไปได้ถึง 1603 ครับผม ทั้งหมดเดาตามกราฟ และสถิติ ครับ

[Pete 15,187]

 Chinese Fixed Asset Investment (YoY)

 

Actual 20.4%  

Forecast 20.1%  

Previous 20.1% 

Chinese Fixed Asset Investment measures the change in the total spending on non-rural capital investments such as factories, roads, power grids, and property.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 13, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

 Chinese GDP (YoY)

 

Actual 7.6%  

Forecast 7.6%  

Previous 8.1% 

Gross Domestic Product (GDP) measures the annualized change in the inflation-adjusted value of all goods and services produced by the economy. It is the broadest measure of economic activity and the primary indicator of the economy's health.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

 

[namchiang 468]

อรุณสวัสดิ์เช้าวัน ศุกร์ 13 ฝันหวานครับทุกท่าน

ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ที่ $1,567 ทำท่าจะรับไว้อยู่ในช่วงเย็น

แต่ปรากฎว่าพอตกค่ำก็มีแรงขายทองคำออกมาแรงจนราคาทองคำร่วงลง

ไปทดสอบแนวรับที่ $1,555 ที่วาดไว้ ผลก็คือเอาอยู่ครับ

ราคาทองดีดกลับขึ้นมาทันที จนมายืนอยู่ที่ $1,571 ในเวลานี้นะครับ

มาอ่านข่าวกันก่อนดีกว่าครับ

(เป็นข่าวช่วงที่ราคาทองร่วงลงในช่วงหัวค่ำนะครับ เพราะภายหลังราคาทองดีดกลับขึ้นมาได้)

 

วันที่ 13 กรกฎาคม 2555 07:17

ทองสหรัฐปิดร่วง10.4 ดอลลาร์หลังดอลล์แข็ง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ราคาทองคำตลาดสหรัฐปิดร่วง 10.4 ดอลลาร์หลังดอลลาร์แข็งค่าและเฟดเมินใช้มาตรการคิวอี3

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (คิวอี3)

 

ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 10.4 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,565.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการคิวอี 3 เหมือนกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

 

ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอัดฉีดสภาพคล่องของเฟด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วน หันมาซื้อทองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เป็นผลพวงจากการใช้มาตรการผ่อนคลายต่างๆ

 

http://www.bangkokbiznews.com/

[Pete 15,187]

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ยูโรร่วงเช้านี้หลังมูดี้ส์หั่นเครดิตอิตาลี

 

 

ยูโรใกล้ทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในการซื้อขาย ช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสได้ปรับลดอันดับความน่า เชื่อถือของอิตาลีลง 2 ขั้น สู่ Baa2 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างไม่คาดคิดต่อตลาดที่กังวลอยู่ แล้วกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของจีน

 

 

มูดี้ส์เตือนว่า อาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ สูงกว่าสถานะขยะเพียง 2 ขั้น ถ้าอิตาลีสูญเสียช่องทางการเข้าถึงตลาดพันธบัตร

 

ในช่วงเช้านี้ ยูโรอยู่ที่ 1.2197 ดอลลาร์ หลังจากร่วงลงราว 30 pip มาแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 1.2181 ดอลลาร์จากข่าวดังกล่าว โดยใกล้แตะระดับต่ำสุด ที่ 1.2166 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2010 และคาดว่าแนวรับระยะ ใกล้จะอยู่ที่ 1.2151 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2010

ธนาคารกลางเกาหลีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงิน เฟ้อในปีนี้ ขณะที่วิกฤติยูโรโซนรุนแรงขึ้น และเศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัวลง 1.1% ในไตร มาส 2

 

 

ตลาดกำลังรอดูข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ของจีนในเวลา 9.00 น.ตามเวลาไทย วันนี้ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7.6% ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 3 ปี

 

เทรดเดอร์กล่าวว่า การแถลงผลประกอบการจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคในวันนี้จะทำให้นักลงทุนมีข้ออ้างมากขึ้นที่จะไม่เข้าถือสถานะการลงทุนล็อตใหญ่ก่อนวัน หยุดสุดสัปดาห์

 

ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงถึง 1.5 เซนต์ มาที่ 1.0101 ดอลลาร์ และอยู่ ที่ 1.0134 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ หลังจากข้อมูลการจ้างงานของออสเตรเลียออกมาน่า ผิดหวัง

ดอลลาร์ออสเตรเลียยังร่วงลงเมื่อเทียบกับเยนและยูโร

 

ดอลลาร์ และเยนปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 83.678 หลังจาก พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 83.829

 

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และดอลลาร์ อยู่ที่ 79.34 เยน ร่วงลงจากจุดสูงสุดของเมื่อวานนี้ที่ 79.97 เยน

[namchiang 468]

เฟดส่งสัญญาณ'คิวอี3'เป็นไปได้ มังกรเสี่ยง'ฮาร์ดแลนดิง'ซ้ำ

 

13 กรกฎาคม 2555 เวลา 07:08 น. |

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

เฟดส่องัดมาตรการคิวอี 3 กระตุ้นอีกระลอก ด้านเศรษฐกิจจีนไตรมาส 2 ส่อชะลอตัว จุดกระแสวิตกฮาร์ดแลนดิง

 

บรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจเตรียมพิจารณาใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (คิวอี 3) ในเร็ววันนี้ หลังสภาพเศรษฐกิจในประเทศเริ่มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่อัตราจ้างงานชะลอตัวลงติดต่อกันหลายเดือน

 

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐได้ประกาศเก็บมาตรการคิวอี 3 เป็นทางเลือกสุดท้ายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ โดยตัดสินใจเลือกต่ออายุมาตรการโอเปอเรชัน ทวิสต์ ซึ่งเดิมจะสิ้นสุดลงในปลายเดือน มิ.ย. ออกไปจนถึงปลายปี ด้วยการขายพันธบัตรระยะสั้นไปซื้อพันธบัตรระยะยาวด้วยวงเงิน 2.67 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานแทน เนื่องจากมองว่าสภาพเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นอย่างช้าๆ

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันต่างบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน มิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเพียง 8 หมื่นตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราว่างงานสหรัฐคงที่อยู่ที่ระดับ 8.2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

 

 

 

ขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างน่าผิดหวัง โดยลดลงจาก 53.5% ในเดือน พ.ค. เหลือเพียง 49.7% ในเดือน มิ.ย. หลังยอดสั่งซื้อสินค้าและบริการจากทั้งยุโรปและเอเชียปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มส่งสัญญาณถึงความจำเป็นที่เฟดต้องประกาศใช้มาตรการคิวอี 3 โดยเร็วที่สุด

 

“มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐต้องออกมาตรการทางการเงินที่เพียงพอเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้เดินหน้าต่อไปอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น” จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดประจำซานฟรานซิสโก กล่าว พร้อมยอมรับว่า มาตรการโอเปอเรชัน ทวิสต์ มีผลต่อเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ด้าน ทอม เชเรเดอร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทวิจัย สติเฟล นิโคลัส คาดว่า เฟดจะประกาศใช้คิวอี 3 อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ถ้าไม่เช่นนั้นเฟดอาจประกาศใช้มาตรการดังกล่าวในช่วงต้นเดือน ธ.ค. เนื่องจากมองว่าการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการเมืองในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย. อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงได้

 

อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายของเฟดส่วนหนึ่งยังคงคัดค้านต่อการประกาศใช้มาตรการคิวอี 3 เนื่องจากมองว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่สามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและตลาดทุนสหรัฐได้อย่างมีเสถียรภาพเพียงพอ เนื่องจากเชื่อว่าสิ่งที่ตลาดทุนต้องการในขณะนี้คือ การสร้างความเชื่อมั่นว่า สภาคองเกรสจะสามารถแก้ไขปัญหาภาวะความเสี่ยงทางการคลัง หรือสามารถบรรลุข้อตกลงต่ออายุมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ การปรับขึ้นภาษีและเรื่องเพดานการกู้ยืม ซึ่งจะหมดอายุลงในปลายปีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเสียก่อน

 

กระนั้นก็ตาม เอเดรียน เดย์ ประธานบริษัทการจัดการสินทรัพย์ เอเดรียน เดย์ เชื่อว่า ถึงแม้ว่ายังคงมีการถกเถียงเรื่องมาตรการคิวอี 3 ว่าจะสามารถช่วยฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังอ่อนแอได้จริงหรือไม่ แต่ยังคงเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของเฟดยังคงเป็นสิ่งจำเป็นและมีผลทางจิตวิทยาต่อตลาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เห็นได้จากภายหลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเดือน มิ.ย. ระบุว่า การประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมใดๆ ของเฟดจะเกิดขึ้น หากตัวเลขทางเศรษฐกิจบ่งชี้ให้เห็นว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลง หรืออัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2% เท่านั้น ส่งสัญญาณให้เห็นว่าเฟดจะไม่ดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในขณะนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงถ้วนหน้า โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 48.59 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 12,604.53 จุด ขณะที่ดัชนี เอส แอนด์ พี 500 ร่วงลง 0.02 จุด ปิดที่ 1,341.45 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 0.49% ปิดที่ 2,887.98 จุด

 

ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเตรียมเปิดเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของปีในวันที่ 13 ก.ค. โดยมีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า เศรษฐกิจมังกรจะเติบโตช้าลง ในระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2551

 

ผลการสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 ของปีนี้จะโตเพียง 7.6% ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 8.1% ในไตรมาสแรก จุดกระแสความกังวลว่า จีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อาจไม่สามารถกอบกู้เศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลง หลังจากยุโรปและสหรัฐเผชิญกับวิกฤตทางการเงินอย่างหนักตามที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ได้

 

อย่างไรก็ตาม ด้าน หยูบิน ที่ปรึกษาทางการเงินของรัฐบาลจีน ยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนไม่เสี่ยงต่อการเผชิญการชะลอตัวอย่างรุนแรง เนื่องจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประกอบกับคาดการณ์ที่ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น

 

“แม้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะหดตัวลงในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ ทว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 และ 4 อย่างแน่นอน” หยู กล่าว พร้อมย้ำว่า เศรษฐกิจปีนี้อาจโตถึง 8% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของรัฐบาลที่ระดับ 7.5%

 

http://www.posttoday.com/

[Pete 15,187]

จ๊าก !!! มีกำไรก็หนีมาอยู่ริมสนาม ยังไม่มีกำไร จะอดทนถือ ก็ตรองดูกันเอง ส่วนตัว ยังมีพอร์ตทุนสั้น ยังสามารถถัวต่อไปได้

 

ปล. คำแสลง โผล่ ( หมายเหตุ : เป็นความเขื่อส่วนตัวครับ )

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 13, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pasaya 499]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ Nuchaba คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณ foo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ Madee คุณ forgame คุณ noonoon_ja คุณ luk คุณ 96Needle คุณ ดอกเหมยสีทอง คุณ กบจ๊า คุณ Tfex.Gril.. และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

ขา L ไม่ขออะไรมาก ให้ยืน 1575 ได้ถึงบ่ายแก่ๆก็แล้วกัน ยืนได้ไปต่อที่ 1595 เพื่อทดสอบ 1600 สัญญาณราย 4 ชั่วโมงดูดีไปต่อได้ ราวันกำลังตัดขึ้นขอยืนได้ตามที่บอกไป

 

ขา S ถ้าขึ้นไป 1575 หรือยืนไม่ได้ก่อนบ่ายแก่ โอกาสลงไปย้้ำ 1556 อีกครั้งก็เป็นได้ครับ ถ้าลงไปจริงโอกาสหลุดมีสูงกว่าเมื่อคืนครับ

 

เดาว่า วันนี้คงยืนได้ 1575 สลับทดสอบ 1570 ถึงบ่าย จากนั้นค่ำๆขึ้นทดสอบ 1590 แล้วยื้อกันจนยืนได้ ลึกๆหวังว่าดึกๆอ้ายกันจะลากไปปิดราคาแถว 1590-1595 โชคดีหน่อยอาจไปได้ถึง 1603 ครับผม ทั้งหมดเดาตามกราฟ และสถิติ ครับ

 

หวัดดีกัปตันและผองเพื่อน

วันนี้ไม่มีถอยมีแต่จอดรับตามป้ายได้บ้างนะคะ