ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

อิหร่านลั่นสงครามอิสราเอลเกิดขึ้นแน่

 

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555

 

 

 

156743.jpg

 

ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน ประกาศสงครามอิสราเอลเกิดขึ้นแน่ และจะเป็นจุดจบของความขัดแย้งหากถูกรุกราน

 

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่านว่า สงครามอิสราเอลกับอิหร่านเกิดขึ้นแน่ แต่สุดท้ายรัฐอิสราเอลก็จะถูกทำลาย โดย พล.อ.โมฮัมหมัด อาลี จาฟารี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน เปิดเผยว่า สงครามจะต้องเกิดขึ้นแน่ แต่ยังไม่รู้ว่าที่ไหนและเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอายและเป็นมะเร็งร้ายที่อิสราเอลหาทางทำสงคราม กับอิหร่านพวกเขาคิดกันอยู่อย่างเดียวว่า สงครามเป็นหนทางเดียวที่จะจัดการกับเรา และเจ้านายของพวกเขาก็คงไม่คิดจะหยุดยั้งความคิดนี้ด้วย ถ้าพวกเขาเริ่มรุกรานเมื่อไหร่ จะเกิดความสูญเสียและจะเป็นจุดจบของเรื่องนี้ สงครามจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะการปฏิวัติกำลังรุดหน้าไปสู่เป้าหมาย พวกเขาคงไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนอื่นและจะประกาศสงครามแน่นอน

นับเป็นความเห็นครั้งแรกของอิหร่าน เพื่อยอมรับว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่จะต้องเปิดสงครามขัดแย้งกับอิสราเอล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อิหร่านได้ปฏิเสธว่าเป็นเพียงการพูดขู่ขวัญให้กลัวเท่านั้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัปดาห์หน้า น้ำมันกับทองคงจะขึ้นจากข่าวอิหร่าน เอาอีกแล้ว อยากให้ป๋าให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Window Dressing ด้วยครับของทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จับตาสเปนขอความช่วยเหลือการเงิน

 

 

บอนด์ยิลด์สเปนดิ่งตลาดจับตารัฐขอความช่วยเหลือการเงิน

 

http://ads.nationcha...d0e4806762f6518

ต้นทุนการกู้ยืมระยะ 10 ปีของสเปนดิ่งลง แตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในการเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ แต่ตลาดพันธบัตรสเปน อาจจะได้รับแรงกดดันอีกครั้งในอนาคต ในขณะที่นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราคอย ของสเปนลังเลที่จะขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปน ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2565 ดิ่งลงสู่ 5.666% ในขณะที่ความต้องการซื้ออยู่ในระดับที่สูงเกือบถึง 3 เท่าของปริมาณพันธบัตรที่ออกขาย โดยอุปสงค์ ในพันธบัตรประเภท 3 ปี อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน

เมื่อวันศุกร์ กระทรวงการคลังสเปน เปิดประมูลขายพันธบัตรได้ 4.8 พันล้านยูโร (6.27 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเงิน 3.9 พันล้านยูโร ในจำนวนนี้ได้มาจากการขายพันธบัตรประเภท 3 ปี

นักลงทุนได้รับแรงกระตุ้น ให้เข้าซื้อพันธบัตรสเปน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ว่า อีซีบีมีแผนจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศ ที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอในยูโรโซนอย่างเช่นสเปน ถ้าหากประเทศดังกล่าวขอความช่วยเหลือจากกองทุนคุ้มครองยูโรโซนก่อน

การขอความช่วยเหลือดังกล่าว อาจส่งผลให้สเปน จำเป็นต้องออกมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม ซึ่งจะสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชน ทางด้านนายกรัฐมนตรีราคอย เคยกล่าวย้ำหลายครั้งว่า เขากำลังศึกษาเรื่องการขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ต้องการให้ยุโรปกำหนดเงื่อนไขให้สเปนปฏิบัติตาม

ตลาดคาดว่านายราคอย จะได้รับแรงกดดันให้ขอความช่วยเหลือในอนาคต ในขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมอาจพุ่งขึ้นอีกครั้ง ถ้าหากอีซีบี ไม่ได้เข้าซื้อพันธบัตร

นางโซเลดาด เปยอน จากบริษัทไอจี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "แรงกดดันในตลาดลดลงเพียงชั่วคราว และเมื่อใดก็ตาม ที่นักลงทุนเริ่มคิดว่าสเปน จะไม่ขอความช่วยเหลือ สิ่งนี้ก็จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาด"

สเปน เป็นจุดสนใจสำคัญในวิกฤติหนี้ยุโรปในช่วงนี้ ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่า สเปน อาจจะไม่สามารถปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณลงได้ และจะไม่สามารถควบคุมหนี้สินของตนเองได้ โดยเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

Tags : สเปน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รู้ให้รอบทิศ คิดให้รอบคอบ การลงทุนในเมียนมาร์...ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม

 

การเปิดตัวของเมียนมาร์ หรือพม่า กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลก ต้องถือว่าเป็นโชคของประเทศไทยที่มีโอกาสติดตามความเป็นไปของเมียนมาร์อย่างใกล้ชิดติดขอบสนามเช่นนี้หากมองกันอย่างผิวเผิน เมียนมาร์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยโอกาสมากมายมหาศาล เพราะนอกจากจะมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นประเทศเดียวที่คั่นอยู่ระหว่างมหาอำนาจเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจอย่างอินเดียกับจีน แต่เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รับข้อมูลอย่างรอบด้าน ผมขอเสนอมุมมองของคนนอก คือธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ที่ออกรายงานฉบับเดือนกรกฎาคม โดยกล่าวถึงสภาพความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งของเมียนมาร์ ดังต่อไปนี้ครับ

 

เอดีบีเตือนว่า นักลงทุนที่หวังจะเข้าไปขุดทองโกยกำไรในเวลาสั้น ๆ ควรทบทวนก้าวย่างตัวเองให้รอบคอบ เพราะโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งภาคการเงินในเมียนมาร์ยังต้องพัฒนาอีกมาก สภาพเส้นทางคมนาคมค่อนข้างทรุดโทรม ระบบโทรคมนาคมก็ยังล้าสมัย แม้ว่าเมียนมาร์จะมั่งคั่งด้วยทรัพยากรพลังงาน แต่การใช้พลังงานภายในประเทศมีระดับที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับบรรดาเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน บางพื้นที่ในชนบทห่างไกลมีไฟฟ้าใช้วันละไม่ถึง 2 ชั่วโมง แม้แต่ในนครย่างกุ้ง อัตราการมีไฟฟ้าใช้ยังอยู่ที่ 67% ค่อนข้างต่ำสำหรับเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังสูงกว่าชนบทถึง 4 เท่า

 

การศึกษา เป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นตัวกำหนดคุณภาพและทักษะของแรงงาน ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทายรัฐบาลเมียนมาร์ ประมาณการว่าประชากรที่มีอายุ 25-55 ปี ส่วนใหญ่ขาดการศึกษาและไม่ได้รับการฝึกทักษะทางวิชาชีพ ช่องว่างรายได้และคุณภาพชีวิตระหว่างคนในเมืองกับคนชนบทห่างกันมาก ประมาณ 3 ใน 4 ของเด็กในชนบทจบแค่ชั้นประถม ขณะที่เด็กในเมืองที่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นอยู่ที่ 63%

 

นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคด้านข้อกฎหมายและสนธิสัญญาการค้าต่าง ๆ ที่ยังล้าหลัง หลักเกณฑ์ด้านบรรษัทภิบาลที่หละหลวม ระบบราชการที่เอาแน่นอนไม่ได้ การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่อยู่บนบรรทัดฐานเดียวกัน ระบบทุนนิยมที่เพิ่งเริ่มตั้งไข่ และปัญหาสังคมอันเนื่องจากความแตกต่างทางเชื้อชาติ เอดีบีสรุปว่า เมียนมาร์ต้องใช้เวลาพัฒนาประเทศอีกอย่างน้อยหนึ่งช่วงอายุคน จึงจะเริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และต้องใช้เวลาอีก 30 ปี กว่าเมียนมาร์จะพัฒนามาถึงจุดที่ประเทศไทยยืนอยู่ในวันนี้

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเอดีบีค่อนข้างจะมีมุมมองต่อเมียนมาร์ที่ค่อนข้างเป็นลบ แต่สำหรับคนทำธุรกิจอย่างเรา ๆ แล้ว ปัญหาหรือความไม่พร้อมย่อมหมายถึงโอกาส หากมองในแง่นี้ จะเป็นว่าเมียนมาร์มีโอกาสมากมายให้นักลงทุนที่มีประสบการณ์ได้ค้นหา ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพในการเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก และทรัพยากรพลังงานที่พร้อมสำหรับการผลิตในเชิงพาณิชย์ และที่ยังรอการสำรวจและพัฒนาอีกจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำหรับป้อนทวีปเอเชีย

 

จากนี้ไป การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเมียนมาร์ จะได้แรงส่งจากปัจจัยหนุนอีกหลายด้าน โดยเฉพาะจากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างเขื่อนอิระวดีทางตอนเหนือของประเทศ โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย และการวางท่อก๊าซของกลุ่มทุนจีนในรัฐยะไข่ ความแข็งแกร่งของเมียนมาร์อีกประการหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ คือเมียนมาร์ได้สะสมทุนสำรองระหว่างประเทศไว้เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งคงจะช่วยสร้างความมั่นใจของนักลงทุนได้อีกทางหนึ่ง

 

ระหว่างนี้ รัฐบาลเมียนมาร์ได้เตรียมออกกฎหมายสำคัญ ๆ อีกหลายฉบับ ช่วยให้การทำธุรกิจในเมียนมาร์มีความสะดวกยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงกฎหมายธุรกิจธนาคาร ที่จะอนุญาตให้ธนาคารต่างชาติสามารถเปิดสาขาเพื่อให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายใน 1-2 ปีนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐสภาของเมียนมาร์เพิ่งผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนจากต่างประเทศฉบับใหม่ โดยยืดระยะเวลาการยกเว้นภาษีออกไปอีก และอนุญาตให้ชาวต่างชาติเช่าที่ดินเป็นระยะเวลาถึง

50 ปี หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เมียนมาร์คงจะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ อีกหลายด้านในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้คงต้องใช้บริการของที่ปรึกษากฎหมายมากหน่อย

 

นักลงทุนไทยอาจมีคำถามว่า หากจะลงทุนในเมียนมาร์ควรเริ่มที่ไหน และควรมุ่งไปภาคอุตสากรรมใดจึงจะมีโอกาสดีที่สุด ซึ่ง ท่านประธานาธิบดีเต็ง เส่ง แห่งเมียนมาร์ มีคำตอบให้แล้ว โดยท่านได้ชวนให้ผู้ประกอบการชาวไทยเข้าไปลงทุนในภาคการเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร พลังงาน ธนาคาร ท่องเที่ยว และธุรกิจบริการต่าง ๆ ซึ่งยังยืนยันว่า เมียนมาร์มีโอกาสการลงทุน สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อมครบหมด และการลงนามร่วมกันระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์กับไทยสำหรับแผนการพัฒนาสำคัญ ๆ จะทำให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศของเมียนมาร์ ซึ่งน่าจะเป็นคำกล่าวที่สร้างกำลังใจและความเชื่อมั่นให้นักลงทุนชาวไทยได้ไม่น้อยทีเดียว

 

สำหรับท่านที่สนใจขยายการลงทุนไปเมียนมาร์ ท่านควรจะมีหุ้นส่วนธุรกิจที่เป็นคนท้องถิ่น หากมีประสบการณ์สำเร็จรูป และมีความเข้มแข็งทางธุรกิจด้วยก็ยิ่งดีครับ นอกจากนี้ ท่านควรเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้งศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้อย่างรอบคอบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าเล่นตามระบบกราฟเทคนิคัลก็ต้องเชื่อกราฟอะครับ แม้กราฟจะพาไปเสียเงินแล้ว 2/3 :17

กล่าวได้ดี กล่าวได้ถูกต้อง : ลงทุนตามระบบกราฟเทคนิคฯ ก็ต้องเชื่อ ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อแสดงความคิดเห็น

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัปดาห์หน้า น้ำมันกับทองคงจะขึ้นจากข่าวอิหร่าน เอาอีกแล้ว อยากให้ป๋าให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Window Dressing ด้วยครับของทอง

ข่าวอิหร่าน ยืดเยื้อนานนม เบื่อแล้วล่ะ เร็วๆ นี้ ผู้นำอิหร่าน ก็กำลังจะบินไปสหรัฐฯ เพื่อนร่วมประชุม เรื่องความไม่เข้าใจ ยังมีตั้งหลายเรื่อง

1. เรื่อง จีนญี่ปุ่น เกี่ยวกับเกาะเตียวหยู

2. เรื่องหนังสหรัฐ ฯ ที่สร้างความไม่พอใจต่อชาวมุสลิม

3. ข่าวสถานฑูตสหรัฐฯ โดนโจมตี

เพราะฉะนั้น ทั้งหมดนี้ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับนักลงทุนฯ ก็ได้

 

สำหรับ Window Dressing คือ การทำให้ตัวเลขทางบัญชีดูดีขึ้นมาด้วยมูลค่าหุ้นที่กองทุนหรือบริษัทนั้นๆถืออยู่ เช่นกองทุนอาจจะไล่ราคาทองให้สูงขึ้น เพื่อให้ NAVของกองทุนดีขึ้นหรือ SPDR อาจดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกันว่าดูดีมีราคา

 

การทำ Window Dressing ของกองทุนฯ หากจะเลือกทำจะเลือกวันใดวันหนึ่งประมาณ 3-5 วันหรือวันสุดท้ายก่อนปิดงวดก็ได้ ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้อง mark to market

เพื่อปิดงบในแต่ละงวด ปิดไตรมาส 3 คาดว่าหากมี window dressing จริงคาดว่า SPDR นี่แหล่ะ ตัวดี

 

I12296502-10.png

 

ก็ต้องนำกราฟฯ แท่งเทียน ย้อนหลัง Window Dressing 2 ครั้ง ของปีนี้มาให้ดู ให้เห็นกับตา ปิดไตรมาสแรก ราคาทองลดลง แต่ปิดไตรมาส 2 ราคาทองเพิ่มขึ้น แบบเป็นการดันราคาเพื่อปิดบัญชีกลางปี ก่อนเทขาย ส่วนไตรมาส 3 ที่จะเกิดในอาทิตย์หน้า ไม่มีความคิดเห็น เพราะทราบดีกว่า คุณหมีขั้วโลก มี " ปักธง " ไว้ในใจแล้ว แต่ผมคิดต่างจากคุณฯ 55555555

 

ลองนำข่าวเก่าการลงทุน วันที่ 30 มิถุนายน 2555 มาอ่านเล่นๆ ดูสิว่า ช่วงปิด Window Dressing เกิดอะไรบ้าง

 

พุ่งทะยานทั้งโลก บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเมื่อวันศุกร์ ส่งท้ายงวดครึ่งปีแรก แม้จะมีความผันผวน โดยดัชนีระหว่างชั่วโมงซื้อขายบวกขึ้นแรงประมาณ 13 จุด แต่ก็ถูกแรงขายทำกำไร จนอ่อนตัวลง และปิดตลาด ดัชนีเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่สถานการณ์ปัจจัยแวดล้อมมีความสดใสขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดช่วงเปิดรับสัปดาห์ใหม่ ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1172.11 จุด เพิ่มขึ้น0.79 จุด มูลค่าซื้อขาย33,552 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ5,698 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อขายสุทธิ 6.736 ล้านบาท โดยยอดซื้อสุทธินักลงทุนสองกลุ่มที่พุ่งขึ้นสูง เนื่องจากมีรายการบิ๊กล็อต หุ้นซีพีออลล์ ระหว่างนักลงทุนสถาบันกับต่างชาติ จำนวนประมาณ4,400 ล้านบาท ซึ่งถ้าหักรายการบิ๊กล็อตออก ต่างชาติจะซื้อเพียง 1 พันล้านบาทเศษเท่านั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ ดีดตัวกันแรง ยกเว้นตลาดหุ้นไทย เนื่องจาการประชุมอียูซัมมิท มีข่าวดีชิ้นใหญ่ โดยมีมติจะอัดฉีดเงิน120,000 ล้านยูโร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คลายความกังวลในวิกฤตยุโรป ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาไล่ซื้อหุ้น โดยดาวโจนส์บวก 277 จุด ตลาดหุ้นอังกฤษเพิ่มขึ้นเพียง 1 % เศษ แต่ตลาดหุ้นเยอรมันและฝรั่งเศส พุ่งกว่า 4% ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งวันเดียว 14 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ และขึ้นมายืนที่ 92 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ เช่นเดียวกับราคาทำคำที่ทะยานวันเดียวเกือบ 50 ดอลลาร์ต่อออนส์ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั้งโลกที่สดใส สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนทั่วโลก คลายความกังวลในวิกฤตหนี้ยุโรปในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย เพราะมีปัจจัยชี้นำการลงทุน โดยย่างเข้าสู่ไตรมาสที่3สัปดาห์หน้า มีโอกาสเริ่มต้นด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งน่าจะกลับขึ้นมาเป็นตัวนำตลาด อย่างไรก็ตาม ข่าวดีจากยุโรป มักจะได้รับการตอบรับในระยะสั้นๆเท่านั้น ซึ่งหากตลาดปรับตัวขึ้นแรง ก็อาจเป็นจังหวะขายทำกำไร ซึ่งนักลงทุนรายย่อยในรอบนี้ ก็กำหนดจังหวะการเข้าออกได้ถูกต้องอยู่แล้ว และคงไม่ลุยไล่ราคาขานรับข่าวดีเพียงช่วงสั้นๆ

 

ส่วนอีกข่าวเก่า เป็นรายงานของกสิกรไทย วันปิด Window Dressing

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดหุ้นรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (25-29 มิ.ย.) ดัชนี SET ปรับขึ้น จากแรงซื้อช่วงปิดสิ้นงวดบัญชี และผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,172.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.67% จากสัปดาห์ก่อน

 

ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 13.27% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 26,001.30 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่ นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 294.65 จุด เพิ่มขึ้น 1.96% จากสัปดาห์ก่อน

 

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงต้นสัปดาห์ จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ จากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) นอกจากนี้ ยังได้รับผลเชิงบวกจากการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป ซึ่งผู้นำสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงให้มีการนำเงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพถาวรของยุโรป เพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซนที่ประสบปัญหา และเห็นชอบในการแทรกแซงตลาดพันธบัตร เพื่อลดต้นทุนกู้ยืมของอิตาลีและสเปน

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ระหว่างวันที่ 2-6 ก.ค. 2555 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยเป็นผลจากพัฒนาการเชิงบวกจากการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต-บริการ ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,157 และ 1,144 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,188 และ 1,207 จุด ตามลำดับ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรไทยคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว30.65-30.95บาท/ดอลลาร์

SATURDAY, 22 SEPTEMBER 2012 10:02

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (17-21 ก.ย.) เงินบาทร่วงลงจากระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 เดือน สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียที่เผชิญแรงขายทำกำไรตั้งแต่ในช่วงต้นสัปดาห์

 

หลังจากที่รับข่าวเชิงบวกของมาตรการ QE3 จากเฟดไปค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถลดช่วงติดลบบางส่วนลงในช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากมติการปรับเพิ่มวงเงินสำหรับโครงการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อีก 10 ล้านล้านเยน หนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปถูกกดดันอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ จากสัญญาณการหดตัวในภาคการผลิตที่สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนก.ย. (เบื้องต้น) ในหลายประเทศแถบเอเชียและยุโรป

 

ในวันศุกร์ (21 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 30.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 30.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 ก.ย.)

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (24-28 ก.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.65-30.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ของกลุ่มผู้นำเข้าในช่วงใกล้สิ้นเดือน รวมถึงความคืบหน้าในการจัดทำแผนรัดเข็มขัดทางการคลังของกรีซ (ซึ่งจะมีผลต่อการอนุมัติการเบิกเงินช่วยเหลือของกรีซจาก Troika) และผลทดสอบภาวะวิกฤตของภาคธนาคารสเปน (28 ก.ย.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนส.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค. จีดีพีประจำไตรมาส 2/2555 (ทบทวนรอบสุดท้าย) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

เปิดโผ7กลุ่มรับเหมาบริหารจัดการน้ำ3.24แสนล้าน

FRIDAY, 21 SEPTEMBER 2012 14:29

คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ประกาศรายชื่อกลุ่มบริษัท 7 กลุ่ม ที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นในโครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย โครงการดังกล่าวรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อบริหารจัดการน้ำและแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ วงเงิน 350,000 ล้านบาท  จำนวน 10 โครงการ แบ่งเป็นแพ็คเกจ เอ ได้แก่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยจะมีการสร้างอ่างเก็บน้ำ การจัดผังการใช้พื้นที่ การปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทาน การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลัก การก่อสร้างฟลัดเวย์หรือทางน้ำหลาก และ การทำคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์และระบบเตือนภัย ส่วนแพ็คเกจ บี ได้แก่ ลุ่มน้ำอื่น คือ การสร้างอ่างเก็บน้ำ การจัดผังการใช้พื้นที่ การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลัก และการทำคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์และระบบเตือนภัย

 

อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ให้กลุ่มบริษัทเสนอเข้ามานั้น จะเหลือวงเงิน 3.24 แสนล้านบาท เนื่องจากหน่วยงานรัฐจะเป็นผู้ดำเนินการเองและเป็นค่าบริหารจัดการ 2.6 หมื่นล้านบาท

 

 

          นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวว่าคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและคณะอนุกรรมการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำ โดยมีกลุ่มบริษัทที่ผ่านการพิจารณารวม 7 กลุ่มบริษัท จากทั้งหมด 34 กลุ่มบริษัท

 

          “ผู้เสนอกรอบแนวคิดที่ผ่านคุณสมบัติ 7 กลุ่มบริษัท ถือว่าไม่น้อย และเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำ มีผลงานประสบการณ์มากมาย โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาก็เป็นไปตามเงื่อนไขทีโออาร์ มีกฎกติกา โปร่งใส ส่วนผู้เสนอกรอบแนวคิดที่ไม่ผ่านการพิจารณาสามารถมารับฟังการชี้แจงและอุทธรณ์ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ผ่านเพราะเอกสารและผลงานไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นเอกสารรับรองจากสถานทูต หรือเอกสารรับรองผลงาน” นายชัชชาติ กล่าว

 

          สำหรับ รายชื่อ 7 กลุ่มบริษัท ได้แก่ 1.บริษัท วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น (K Water) ประเทศเกาหลี ยื่นเสนอทั้ง 2 แพ็คเกจ มีผลงานรวม 6.82 แสนล้านบาท 2. ITD-POWERCHINA JV ประกอบด้วย 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พาวเวอร์ คอนสตรัคชั่น คอร์เปอเรชั่น ออฟ ไชน่า บริษัท ไชน่า เก๋อโจวบ๋า กรุ๊ป จำกัด บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล วอเตอร์ แอนด์ พาวเวอร์ คอร์เปอเรชั่น และ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ยื่นเสนอทั้ง 2 แพ็คเกจ มีผลงานรวม 3.95 แสนล้านบาท

 

          3.กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ประกอบด้วย 3 บริษัท ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์ บริษัท เอส.เค.วาย คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษัท ยูเนี่ยน อินฟาร์เทค จำกัด ยื่นเสนอแพ็คเกจ เอ ใน 3 งานหลัก คือ การสร้างอ่างเก็บน้ำ การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลัก และการจัดทำคลังข้อมูล ส่วนแพ็คเกจ บี เสนอทั้งหมด ซึ่งกลุ่มนี้มีผลงานรวม 2.05 หมื่นล้านบาท

 

          4.กิจการร่วมค้า ทีมไทยแลนด์ ประกอบด้วย 8 บริษัท ได้แก่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.การช่าง (ลาว) จำกัด บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท โรจน์สินก่อสร้าง จำกัด ยื่นทั้ง 2 แพ็คเกจ มีผลงานรวม 6.71 หมื่นล้านบาท 

 

          5.China CAMC Engineering Co.Ltd. ยื่นเฉพาะทำฟลัดเวย์ มีผลงานรวม 1.97 หมื่นล้านบาท 6.กิจการร่วมค้า ญี่ปุ่น-ไทย ประกอบด้วย 11 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซีทีไอ เอ็นจิเนียริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท โอบายาชิ คอร์ปอเรชั่น บริษัท ไทเซอิ คอร์ปอเรชั่น บริษัท คาจิมา คอร์ปอเรชั่น บริษัท ชิมิซี คอร์ปอเรชั่น บริษัท ซีทีไอ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด บริษัท ซันยู คอนซัลแตนท์ส อินคอร์ปอเรชั่น บริษัท แปซิฟิค คอนซัลแตนท์ส จำกัด บริษัท ยาชิโย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด องค์กรบริหารน้ำประเทศญี่ปุ่น และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ยื่นทั้ง 2 แพ็คเกจ มีผลงานรวม 1.14 ล้านล้านบาท 7.Consortium TKC Blobal ประกอบด้วย 16 บริษัท ได้แก่ Pyunghwa Engineering Consultants Co.Ltd. Dongho Co.Ltd. Soosung Engineering Co.Ltd. Sunjin Engineering&Architecture Co.Ltd. Hyundai Architects&Engineers Assoctates Co.Ltd. Woongjin Caway Co.Ltd. Thai Engineering Consultants Co.Ltd. Roge and Associates Co.Ltd. Professional Project Management Co.Ltd. Lotus Park Corporation Co.Ltd. King Mongkut Institute of Technology Ladkrabang King Mongkut Institute of Technology Thonburi และ CM Grand Development Co.Ltd. ยื่นทั้ง 2 แพ็คเกจ มีผลงานรวม 4.33 หมื่นล้านบาท

 

 

 

          นายชัชชาติ กล่าวว่าขั้นตอนหลังจากนี้ กลุ่มบริษัทที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องเข้ามารับฟังเกี่ยวกับแนวทางการออกแบบในวันที่ 24 ก.ย.นี้ และกำหนดให้ยื่นกรอบแนวคิดภายในวันที่ 23 พ.ย. 2555 และจะประกาศผลการพิจารณาในวันที่ 31 ม.ค. 2556

 

          "ระยะเวลาในการออกแบบ 2 เดือนนั้น เชื่อว่าเอกชนจะสามารถดำเนินงานได้ทัน เพราะขณะนี้หลายบริษัทน่าจะออกแบบล่วงหน้าแล้ว"

 

          นายชัชชาติ กล่าวว่า กลุ่มบริษัทที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ สามารถนำบริษัทที่ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ หรือบริษัทอื่นๆ เข้าร่วมงานได้ เพื่อให้การออกแบบสมบูรณ์ที่สุด แต่ไม่สามารถปรับลดจำนวนบริษัทที่รวมกลุ่มในการยื่นข้อเสนอตั้งแต่แรกได้

 

          สำหรับหลักในการพิจารณาผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้นนั้น กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานไม่น้อยกว่า 10% ของกรอบวงเงินแต่ละ Module และโครงการต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท ส่วนหลักในการพิจารณาผู้เสนอกรอบแนวคิดนั้น จะคัดเลือกผู้เสนอกรอบแนวคิดที่ดีที่สุด 3 รายในแต่ละ Module หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาคัดเลือกขั้นสุดท้าย ซึ่งจะเป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับพัสดุในการดำเนินโครงการฯ การใช้จ่ายเงินกู้เพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555ทุ่มงบ1.2แสนล้านบาทสร้างฟลัดเวย์

 

          นายชัชชาติ กล่าวว่า กบอ. เปิดให้ผู้เสนอกรอบความคิดออกแบบ วงเงิน 3.24 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 2 พื้นที่หลัก คือ 1.พื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งสิ้น 6 มาตรการ ได้แก่ 1.การสร้างอ่างกักเก็บน้ำอย่างเหมาะสมและยั่งยืน งบประมาณดำเนินการ 50,000 ล้านบาท 2.การจัดทำผังการใช้ที่ดินหรือการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ รวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อม พื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลักของแต่ละจังหวัดและของประเทศ งบประมาณ 50,000 ล้านบาท

 

          3.การปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทานในพื้นที่โครงการชลประทานพิษณุโลก บริเวณเหนือนครสวรรค์ และโครงการเจ้าพระยาใหญ่ บริเวณเหนืออยุธยา ให้เป็นแก้มลิงแม่น้ำ งบประมาณ 60,000 ล้านบาท 4.การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลักและคันริมแม่น้ำของแม่น้ำสายหลัก คือ ปิง วัง ยม น่าน เจ้าพระยา สะแกกรัง ป่าสัก ท่าจีน ฯลฯ งบประมาณ 7,000 ล้านบาท 5.การจัดทำทางน้ำหลาก (Flood way) และหรือทางผันน้ำ (Flood diversion channel) ขนาดไม่น้อยกว่า 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที งบประมาณ 120,000 ล้านบาท และ 6.การปรับปรุงระบบคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์และเตือนภัย รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำ งบประมาณ 3,000 ล้านบาท

 

          2.พื้นที่ 17 ลุ่มน้ำ มีทั้งสิ้น 4 มาตรการ ได้แก่ 1.การสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำ งบประมาณ 12,000 ล้านบาท 2.การจัดทำผังการใช้ที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ รวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลักของแต่ละจังหวัด และของภาค งบประมาณ 10,000 ล้านบาท 3.การปรับปรุงสภาพทางน้ำสายหลักและคันริมแม่น้ำ งบประมาณ 10,000 ล้านบาท และ 4.การปรับปรุงระบบคลังข้อมูลระบบพยากรณ์และเตือนภัยรวมทั้งการบริหารจัดการน้ำกรณีต่างๆ งบประมาณ 2,000 ล้านบาท

 

          ทั้งนี้ งบประมาณโครงการทั้งหมดทั้งสิ้น 350,000 ล้านบาท แต่หน่วยงานรัฐจะดำเนินการเอง 1.6 หมื่นล้านบาท และค่าบริหารจัดการอีก 1 หมื่นล้านบาท

 

Written by :

 

กระแสหุ้นออนไลน์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พระนายระบุยงยุทธ ถูกล้างมลทินแล้วไม่ขัดคุณสมบัติ

ข่าวการเมือง วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ.2555 11:07น.

 

ปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลง กรณีที่ อ.ก.พ. มีมติลงโทษทางวินัยย้อนหลัง "ยงยุทธ" ปมอัลไพน์ ระบุ ได้รับการล้างมลทินแล้ว ถือว่าไม่ขาดคุณสมบัติข้าราชการทางการเมือง

ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงมหาดไทย (อ.ก.พ.) ได้แถลงชี้แจง กรณีที่ อ.ก.พ. มีมติลงโทษทางวินัยย้อนหลัง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2545 ว่า มติดังกล่าวไม่สามารถพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้ เนื่องจากเป็นการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. แม้ว่า อ.ก.พ. จะเห็นว่า การกระทำของ นายยงยุทธ นั้น จะไม่มีมูลความผิดก็ตาม ส่วนจะมีผลการดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือไม่นั้น นายพระนาย กล่าวว่า ผู้ถูกลงโทษได้อยู่ในหลักเกณฑ์การล้างมลทิน ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทิน ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2550 โดยผลของการล้างมลทินดังกล่าว ให้ถือว่า นายยงยุทธ ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยและไม่ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวสเปนชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายประหยัดของรัฐบาลอีก

วันที่ข่าว : 23 กันยายน 2555

ชาวสเปนหลายร้อยคนรวมทั้งชนพื้นเมืองจำนวนมากร่วมกันเดินขบวนไปตามท้องถนนในใจกลางกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศ เพื่อประท้วงนโยบายประหยัดรัดเข็มขัดของรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น นโยบายปรับขึ้นภาษี ซึ่งไม่เฉพาะกับกลุ่มคนรวย แต่ทำให้กลุ่มคนยากจนได้รับผลกระทบไปด้วย.

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : เทวี ลั่นเรืองฤทธิ์ / สวท. เทวี ลั่นเรืองฤทธิ์ / สวท.

Rewriter : เทวี ลั่นเรืองฤทธิ์ / สวท. เทวี ลั่นเรืองฤทธิ์ / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ (22 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับ "คำ ผกา" ผู้ ดำเนินรายการดีว่าส์คาเฟ่ ในโอกาสพิเศษ ในรายการดีว่าส์ปาร์ตี้ โดย "คำ ผกา" ย้ำคอนเซ็ปต์ในการเข้าสัมภาษณ์ว่า เป็นในลักษณะที่มนุษย์พึงคุยกับมนุษย์ อาจจะมีบทบาทไม่เหมือนกับการไปสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี อยากให้เป็นเหมือนคนบ้านเดียวกันมากกว่า โดยช่วงแรกของการสัมภาษณ์เป็นการใช้ภาษาเหนือ หรือ "อู้ กำเมือง"ต่อกัน.

 

http://www.maysaanitto.org/2012/09/devas-party-22-09-2012.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Spain ‘will need extra bail-out’

Sat, Sep 22 2012, 22:08 GMT | Forex Live

 

By: Gerry Davies

 

'A bank-by-bank test of financial stability due on Friday is expected to conclude that Spains' lenders are dangerously over-burdened with toxic debts and need to be recapitalised, restructed or shut down'

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมเข้าใจว่าหุ้นจะขึ้น แต่ทองน่าจะลง ใช่มั้ยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...