ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

"อียู" กัดฟันหั่นงบประมาณ 27 สมาชิกรัดเข็มขัดถ้วนหน้า (15/02/2556)

หลังจากที่มีการถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในเรื่อง "งบประมาณ" ประกอบกับกระแสจากประเทศอังกฤษ ที่ขู่ว่าจะจัดประชามติเรื่องออกจากสหภาพยุโรปหรืออียู ถ้าหากที่ประชุมเวทียุโรปตกลงเพิ่มงบประมาณเพื่ออัดฉีดให้กับกลุ่มผู้ป่วยไข้แห่งยุโรป

 

แต่การประชุมครั้งล่าสุดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยบรรดาผู้นำประเทศต่างเห็นพ้องกันที่จะ "ตัดลดงบประมาณ" ฉบับล่าสุด ที่จะใช้ในช่วงปี 2557-2563 ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การรวมตัวกันของอียูที่มีการตัดงบฯ

 

สำนักข่าวดอยเชอ เวลเลอ รายงานว่า ที่ประชุมผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ได้เห็นพ้องต้องกันที่จะตัดงบประมาณรายจ่ายในช่วงปี 2557-2563 โดยจำกัดเพดานงบฯสูงสุดไว้ที่ 9.6 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 38.2 ล้านล้านบาท และสามารถหยิบเงินมาใช้ได้จริงที่ 9.08 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 36.3 ล้านล้านบาท ซึ่งการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณของอียูในครั้งนี้ลดลง 3.3% หากเปรียบเทียบกับงบประมาณช่วงปี 2550-2556

 

โดยหลังจากที่การประชุมยาวนานกว่า 24 ชั่วโมงเสร็จสิ้น นายแฮร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานอียู ได้กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของผู้นำชาติสมาชิกยุโรป ถึงนัยสำคัญที่ไม่อาจละทิ้งต่อความเป็นจริงของเศรษฐกิจที่ยากเข็ญ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่อียูประสบอยู่ในขณะนี้

 

ขณะเดียวกัน เอเอฟพี ก็ได้รายงานท่าทีจากนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันการตัดลดงบประมาณยุโรป โดยผู้นำแดนผู้ดีค่อนข้างพอใจกับผลการประชุมที่ออกมาเป็นมิตรต่อ "ผู้เสียภาษีชาวอังกฤษ" นอกจากนี้ นายคาเมรอนยังได้ชี้ว่า การประชุมงบประมาณทุกครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ล้วนแล้วมีแต่การเพิ่มงบประมาณทั้งสิ้น

 

ส่วนท่าทีของ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี เป็นไปในทำนองเดียวกันกับนายคาเมรอน พร้อมทั้งเผยมุมมองในทิศทางที่ว่า การตกลงครั้งสำคัญนี้จะช่วยให้อียูมีศักยภาพในการวางแผนการพัฒนาโครงการสำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงมุมมองต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่ดีขึ้น

 

ซึ่งท่าทีของอังกฤษในครั้งนี้ สวนทางกับความต้องการของฝรั่งเศสและอิตาลี ที่ต่างต้องการให้อียูเพิ่มเม็ดเงินช่วยเหลือในด้านการลงทุน เพื่อเป็นตัวดึงให้อัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ตลอดจนลดอัตราการว่างงานให้น้อยลง แม้ฝรั่งเศส อิตาลี และโปแลนด์ จะพ่ายในเกมงบประมาณระดับภาพรวม แต่ก็คว้าชัยในประเด็นงบฯสำหรับนโยบายเกษตรร่วม (Common Agricultural Policy) ซึ่งมีสัดส่วนถึง 40% ในรายจ่ายทั้งหมดของอียู โดยทั้ง 3 ประเทศข้างต้นเป็นผู้รับเงินรายใหญ่สุดจากนโยบายนี้

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีกระแสไม่พอใจต่อการตัดลดงบประมาณครั้งนี้จากรัฐสภายุโรป ซึ่งนับว่าเสียงในสภาจะเป็นตัวตัดสินที่สำคัญว่างบประมาณอีก 7 ปีข้างหน้าจะผ่านหรือไม่ โดยบรรดาผู้นำจาก 4 กลุ่มใหญ่ของสมาชิกสภาอียู แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับมติในที่ประชุมผู้นำอียู เนื่องจากความหวาดวิตกว่าการตัดลดงบฯจะซ้ำเติมเศรษฐกิจยุโรปที่ซบเซาในขณะนี้ อีกทั้งยังเป็นการบ่อนทำลายอนาคตของอียู

 

ทั้งนี้ งบประมาณที่ตกลงกันระหว่างผู้นำประเทศจะสำเร็จลุล่วงหรือไม่ จะต้องมองยาวไปถึงเดือนกรกฎาคมที่จะเข้าสู่วาระการประชุมของสมาชิกรัฐสภายุโรป และเป็นที่แน่นอนว่า นายฟาน รอมปุย คาดหวังต่อสมาชิกสภาในการโหวตผ่านแผนงบประมาณที่ประชุมอย่างยาวนานนี้

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ทำเนียบขาวหนุนร่างกฎหมายที่จะใช้แทนการลดรายจ่ายรัฐบาล(15/06/2556)

ทำเนียบขาวให้การสนับสนุนร่างกฎหมายที่เปิดเผยโดยสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต เพื่อที่จะใช้แทนการลดรายจ่ายของรัฐบาลในวงกว้างที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

 

เมื่อวานนี้บรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาได้เสนอร่างกฎหมายวงเงิน 1.10 แสนล้านดอลลาร์ในการประชุมลับ เพื่อที่จะใช้แทนการปรับลดรายจ่าย 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามาตรการใหม่ดังกล่าวมีการแยกการปรับลดรายจ่ายและรายได้จากการจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน

 

“วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตได้เสนอแผนที่มีความสมดุลเพื่อเลี่ยงการปรับลดงบประมาณในวงกว้าง ซึ่งจะกระทบต่อเด็ก คนชราและเจ้าหน้าที่รัฐบาล โดยแผนดังกล่าวจะรวมถึงการลดลดค่าใช้จ่ายที่จะไม่กระทบชนชั้นกลาง ขณะที่อุดช่องโหว่ที่จะเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มคนร่ำรวย" นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

 

นายคาร์นีย์กล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ชาวอเมริกันให้การสนับสนุนอย่างมากต่อแนวทางที่วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตกำลังดำเนินการ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ที่ชาวอเมริกันกลุ่มที่ร่ำรวยมากจะสามารถจ่ายภาษีน้อยกว่ากลุ่มชนชั้นกลางอื่นๆ

 

การลดรายจ่ายราว 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อหลายหน่วยงานของรัฐบาลในปีนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ตามที่พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้ตกลงกันไว้ในเดือนม.ค.เพื่อคลี่คลายภาวะหน้าผาทางการคลัง หรือ fiscal cliff

 

การลดรายจ่ายของรัฐบาลโดยอัตโนมัติ หรือ sequester ในภาษางบประมาณของรัฐบาลสหรัฐนั้น ได้ถูกรวมไว้ในมาตรการเพดานหนี้เมื่อเดือนส.ค.2554 เพื่อบังคับให้สมาชิกสภานิติบัญญัติดำเนินแผนการลดยอดขาดดุลระยะยาว

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวดูเหมือนแทบไม่มีโอกาสที่จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก เนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกันต่างก็คัดค้านการปรับขึ้นภาษีรอบใหม่เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินของรัฐบาล

 

ที่มา--อินโฟเควสท?-(วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ธปท.หนุนตลาดเงินอิงดอกเบี้ยไบบอร์ การันตีมีเสถียรภาพลดผลกระทบจากตปท.(15/02/2556)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) กล่าวว่าธปท.จะผลักดันให้ตลาดการเงินไทยหันมาใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในตลาด กรุงเทพ (ไบบอร์) ในการทำธุรกรรมเงินบาททั้งในระยะสั้นและระยะยาวมากขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยดังกล่าวมีเสถียรภาพช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยในต่างประเทศ ที่ควบคุมไม่ได้ ให้มีการสร้างพื้นฐานรองรับดอกเบี้ยอ้างอิงใหม่ โดยปัจจุบันมีการใช้ไบบอร์คืบหน้ามากขึ้นพอสมควรในด้านความน่าเชื่อถือ

 

สำหรับปีนี้ ธปท.มีแผนพัฒนาให้ใช้ดอกเบี้ยไบบอร์มากขึ้น เช่น ใช้ในการให้สินเชื่อ ใช้แทนอัตราดอกเบี้ยซื้อป้องกันความเสี่ยงเงินบาท(THB FIX) ใช้แทนอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี(MLR) ใช้ป้องกันความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ย (Interbank Swap) ส่งเสริมการอ้างอิงการลงทุน ตลาดตราสารหนี้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ฯลฯ ซึ่งหากนำมาอ้างอิงในตลาดสินเชื่อแทนMLRได้ก็อาจจะช่วยให้ดอกเบี้ยการกู้ยืม สะท้อนดอกเบี้ยที่แท้จริงในไทยมากขึ้นและอาจจะถูกลงด้วย

 

โดยธปท.ได้มอบรางวัล Bibor Awards 2012 ให้สถาบันการเงิน 7 แห่งที่ใช้ดอกเบี้ยไบบอร์จริง ประกอบด้วย 1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ได้รางวัล Bibor Awards for Best Interbank Dealer สำหรับธนาคารที่ทำธุรกรรมให้กู้ยืมระหว่างธนาคารระยะ 3 เดือนขึ้นไปมากที่สุด และมีส่วนต่างดอกเบี้ยไบบอร์ฟิกส์ต่ำที่สุด 2.ธนาคารกรุงไทย ได้รางวัลธนาคารที่ให้สินเชื่อแก่ภาครัฐและเอกชนโดยอ้างอิงดอกเบี้ยไบบอร์ มากที่สุด 3.ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิยูเอฟเจ สาขากรุงเทพ ได้รางวัลซื้อขายพันธบัตรดอกเบี้ยลอยตัว(Floating Rate Bond) สูงที่สุด

 

4.ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) ได้รางวัลธนาคารที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อ้างอิงดอกเบี้ยไบบอร์สูง ที่สุด 5.ธนาคารทหารไทย ได้รางวัลชมเชยที่มีบทบาทส่งเสริมการทำธุรกรรมการกู้ยืมระหว่างธนาคารที่ อ้างอิงไบบอร์ 6.ธนาคารกรุงเทพ ได้รางวัลชมเชยที่มีบทบาทในการผลักดันให้ใช้ไบบอร์ในการทำธุรกรรมสินเชื่อ ของธนาคารอ้างอิงไบบอร์ และ7.ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย)ได้รางวัลชมเชยที่มีบทบาทในการผลักดัน การทำธุรกรรมที่อ้างอิงไบบอร์

 

ที่มา : แนวหน้า(วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

จับตาประเด็น'สงครามค่าเงิน'เวที'จี 20' (15/02/2556)

รัฐมนตรีคลังกลุ่มจี 20 ประชุมหาแนวทางผลักดันเศรษฐกิจโลกฟื้นโดยไม่เกิดสงครามค่าเงินที่มอสโกวันนี้ เป็นที่คาดกันว่า "สงครามค่าเงิน" จะเป็นประเด็นหลักของการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ชาติ (จี20) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ที่กรุงมอสโกของรัสเซีย เป็น 2 วัน

 

นักวิเคราะห์ คาดที่ประชุมจะมุ่งเน้นการหารือถึงเรื่องการหาทางทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยที่ไม่ต้องมีการทำสงครามค่าเงิน หรือการที่ประเทศต่างๆ พากันลดค่าเงินเพื่อหนุนเศรษฐกิจของตัวเอง การประชุมครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรก ในการประชุมองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ที่ไม่มีการพุ่งเป้าไปยังเรื่องวิกฤติยูโร เพราะทั่วโลกต่างกำลังกังวลถึงนโยบายของญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้าจะผ่อนคลายการเงินอย่างมาก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของตัวเอง

เป็นที่คาดกันว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะแถลงเปิดประชุม โดยเน้นคัดค้านการตั้งใจทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง ซึ่งที่ผ่านมา รัสเซียคัดค้านอย่างหนักถึงการดำเนินนโยบายเพื่อทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง

 

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังรัสเซีย "อเล็กซี มอยเซเยฟ" ระบุว่า ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เป็นเหมือนกับการพยายามรักษาอาการป่วยหนักด้วยยาลดไข้ธรรมดา เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นแล้ว ยังจะทำให้อาการหนักขึ้นไปอีก ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตราย และไร้ประโยชน์

 

การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ ยังถือเป็นโอกาสดีสำหรับรัสเซีย ที่จะนำเสนอตัวเองในฐานะผู้เล่นรายสำคัญของเศรษฐกิจโลก ที่สามารถพึ่งพาได้ โดยระหว่างทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของกลุ่มจี 20 นั้น รัฐบาลกรุงมอสโกได้ตั้งเป้าในการดำเนินภารกิจสำคัญไว้จำนวนหนึ่ง รวมถึง การประกาศเปิด "วงจรใหม่ของการลงทุน" ผ่านการลงทุน ความโปร่งใส และกฎระเบียบ

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ราคาทองทำสถิติต่ำสุดในรอบ 9 เดือน(15/02/2556)

ราคาทองวันนี้ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

 

ราคาซื้อขายในบ้านเราที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ ในเช้าวันนี้ลดลงทันทีบาทละ 150 บาท ทำให้ราคาขายออกทองแท่งอยู่ที่บาทละ 23,150 บาท และราคาขายออกทองรูปพรรณ อยู่ที่บาทละ 23,550 บาท นับเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หรือเป็นราคาเดียวกับเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2555

 

นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่าปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ปกติแล้วหลังเทศกาลตรุษจีน ราคาทองจะเพิ่มขึ้น แต่กลับสวนทาง เป็นผลจากเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป มีการประกาศตัวเลข จีดีพี.ไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าคาดการณ์ หดตัว 0.6 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปีหดตัว 0.9 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการหดตัวของ 3 ประเทศยักษ์ใหญ่ คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี

 

ดังนั้นแนะนำนักลงทุนรายย่อยอย่าพึ่งเข้าช้อนซื้อ เพราะก่อนที่ปรับเพิ่มขึ้นมากจะต้องลงลดอย่างแรงก่อน ซึ่งการลดลงช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเกิดจากเงินบาทแข็งค่ามาก (บาทละ 700 บาท) ขณะที่ราคาทองคำในต่างประเทศลดลงไปประมาณ 50 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งที่ผ่านมาหากจะปรับขึ้นแรงจะต้องลดลงไม่น้อยกว่า 100 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ และล่าสุดเมื่อเวลา 10.19 น.ราคาปรับเพิ่มขึ้นอีกบาทละ 50 บาท ราคาขายออกทองคำแท่งอยู่ที่บาทละ 23,200 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 23,600 บาท

 

ที่มา : ครอบครัวข่าว 3 (วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

[Pete 15,187]

Futures for the German DAX 30 (-0.15%) and the French CAC (-0.15%) are signaling a lower opening ahead of EMU trade balance data. ตลาดคาดการณ์ยุโรปเปิดมา " ลบ "

[Pasaya 499]

หวัดดีค่ะป๋า และเพื่อนๆ ทุกคน

โดนเจ้สั่งมาให้อ่านข่าวและสรุปด้วย อ่านจบแล้วเดี๋ยวไปสรุปให้เจ้ใน Line ได้ใจความดังนี้

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 15, 2013 โดย Pasaya

[Pete 15,187]

จากสถานการณ์ในตอนนี้ การประชุม G7, G20 ใกล้จะเสร็จสิ้นในวันเสาร์ ในประเด็นสำคัญคือการตั้ง Fixed Exchange Rate ไหนปากบอกว่าโลกนี้มีเสรีภาพ มีประชาธิปไตย การกีดกันเป็นการละเมิดสิทธิ์ของมนุษย์โลก สุดท้ายก็คงเป็นการปั้นเรื่องเพื่อแค่ให้เกิดผลประโยชน์กับ เหล่าขาใหญ่ฯ ก็แค่ได้เจรจา ได้เขวี้ยงหินถามทาง ซึ่งก็เห็นแล้วว่า สภาพตลาดทุนฯ เกิดอะไรขึ้น > ค่าเงินยูโร กลับมาอ่อนค่าลงพร้อมกับค่าเงินดอลล์ ที่แข็งค่าขึ้น

 

จากภาพโดยรวม ฝรั่งวิเคราะห์วิเดาฯ กล่าวว่า การลงทุนในคืนนี้ ค่าเงินยูโรจะกลับพลิกฟื้นมาแข็งค่า ตามความต้องการของพี่เบิ้มเยอรมันที่อยากให้แข็ง และในประเด็นอื่นๆ ที่ว่า อาตี๋อาหมวยเริ่มกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งหลังหมดช่วงตรุษจีน โดยที่ขาใหญ่ฯ คาดคิดกันว่า ต้นสัปดาห์หน้า พวกเขาเหล่านี้จะต้องเข้ามาซื้อทองเพราะเห็นว่า ราคาลดลงมามาก และค่าเงินของเขาแข็ง ทำให้ได้ของราคาไม่แพง ไหนเลย ! ขาใหญ่จะยอมให้สมหวัง จึงคาดว่า จะมีการไต่ราคาขึ้น จากจุดนี้ 1634 เป็นต้นไป โดยอาจมีจุดหยุดเพื่อดูลาดเลาที่ 1648 นะครับ เรื่องจริงเป็นอย่างไร โปรดติดตาม

 

ปล. อย่าเชื่อโดยไม่ใช้วิจารณญาน เพราะวันนี้ หลายๆคนก็บอกว่า 1626, 1600 อีกหลายๆคน ก็พูดทั้ง 2 ด้าน แบบนี้รับประกันไม่พลาดไม่ผิด ชาตินี้ก็ไม่เคยผิด ทยอยเข้านะครับ ถ้าจะเสี่ยงซื้อตอนนี้ ผมเด็กขายของก็จะเข้าซื้อเป็นเพื่อน ใครล่ะจะตามมาบ้าง 555555

[Pete 15,187]

หวัดดีค่ะป๋า และเพื่อนๆ ทุกคน

โดนเจ้สั่งมาให้อ่านข่าวและสรุปด้วย อ่านจบแล้วเดี๋ยวไปสรุปให้เจ้ใน Line ได้ใจความดังนี้

 

 

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 15, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

พรุ่งนี้ จะดูสิว่า จะออกอีกหรือเปล่า

[Pete 15,187]

หวัดดีค่ะป๋า และเพื่อนๆ ทุกคน

โดนเจ้สั่งมาให้อ่านข่าวและสรุปด้วย อ่านจบแล้วเดี๋ยวไปสรุปให้เจ้ใน Line ได้ใจความดังนี้

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 15, 2013 โดย เด็กขายของ

[powertoner 1]

ตามด้วยคนครับ ป๋า เชื่อมั่นในทองครับ

[luk 352]

น่าจะได้เห็นทองต่ำกว่า 22,xxx อีกครั้ง ไม่น่าเชื่อ

[Pete 15,187]