ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ไอเอ็มเอฟเตือนรัสเซียเงินเฟ้อสูง - จีดีพีชะลอ (22/02/2556)

"ไอเอ็มเอฟ"ออกโรงเตือนรัสเซียอาจมีเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งการเติบโตในประเทศเริ่มชะลอตัว

 

 

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ กล่าวเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ว่า เงินเฟ้อของรัสเซียในปี 2556 และ 2557 อาจจะสูงเกินกว่าเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ และรูปแบบการเติบโตในปัจจุบันได้เริ่มชะลอตัวแล้ว

 

จากรายงานของไอเอ็มเอฟที่ชื่อว่า "ภาพรวมเศรษฐกิจและอุปสรรคด้านนโยบายของรัสเซีย" ระบุว่า เงินเฟ้อในรัสเซียจะมากกว่า 5.6% ที่ธนาคารกลางตั้งเป้าไว้ในปี 2556 และ 4-5% ในปี 2557 โดยคาดว่าถ้าหากธนาคารยังใช้นโยบายเดิม อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 6% "

 

รายงานดังกล่าว ยังบ่งชี้ด้วยว่า รูปแบบการเติบโตของประเทศที่ถูกปรับใช้โดยรัฐบาลรัสเซียเริ่มชะลอตัวลงแล้ว และไม่อาจรับรองได้ว่าการเติบโตของจีดีพีจะอยู่ที่ 5-5.5% เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในช่วงวิกฤติการเงินก่อนหน้านี้

 

ออดด์ เพอร์ เบรคค์ ผู้แทนอาวุโสของไอเอ็มเอฟ เปิดเผยที่กรุงมอสโกว่า ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าต่ำกว่าที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 6.3% พร้อมเสริมว่า ธนาคารกลางรัสเซียจะสามารถทำตามเป้าหมายของตัวเองได้ก็ต่อเมื่อใช้นโยบายทางการเงินอย่างรัดกุมเท่านั้น

 

การลดลงของจีดีพี มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่สูง ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงและอย่างมากต่อทั้งภาคการส่งออกและรายได้ของรัฐ แต่ตอนนี้รัสเซียต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนความสามารถในการผลิต

 

นายเบรคค์ กล่าวว่า เพื่อคงอัตราการเติบโตรายปีให้มากกว่า 6% รัฐบาลรัสเซียจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาคการผลิต ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ ได้ประมาณการว่า จีดีพีของรัสเซียจะโต 3.75% ในปี 2556

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ไอเอ็มเอฟเตือนรัสเซียเงินเฟ้อสูง - จีดีพีชะลอ (22/02/2556)

"ไอเอ็มเอฟ"ออกโรงเตือนรัสเซียอาจมีเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งการเติบโตในประเทศเริ่มชะลอตัว

 

 

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ กล่าวเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ว่า เงินเฟ้อของรัสเซียในปี 2556 และ 2557 อาจจะสูงเกินกว่าเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ และรูปแบบการเติบโตในปัจจุบันได้เริ่มชะลอตัวแล้ว

 

จากรายงานของไอเอ็มเอฟที่ชื่อว่า "ภาพรวมเศรษฐกิจและอุปสรรคด้านนโยบายของรัสเซีย" ระบุว่า เงินเฟ้อในรัสเซียจะมากกว่า 5.6% ที่ธนาคารกลางตั้งเป้าไว้ในปี 2556 และ 4-5% ในปี 2557 โดยคาดว่าถ้าหากธนาคารยังใช้นโยบายเดิม อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 6% "

 

รายงานดังกล่าว ยังบ่งชี้ด้วยว่า รูปแบบการเติบโตของประเทศที่ถูกปรับใช้โดยรัฐบาลรัสเซียเริ่มชะลอตัวลงแล้ว และไม่อาจรับรองได้ว่าการเติบโตของจีดีพีจะอยู่ที่ 5-5.5% เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในช่วงวิกฤติการเงินก่อนหน้านี้

 

ออดด์ เพอร์ เบรคค์ ผู้แทนอาวุโสของไอเอ็มเอฟ เปิดเผยที่กรุงมอสโกว่า ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าต่ำกว่าที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 6.3% พร้อมเสริมว่า ธนาคารกลางรัสเซียจะสามารถทำตามเป้าหมายของตัวเองได้ก็ต่อเมื่อใช้นโยบายทางการเงินอย่างรัดกุมเท่านั้น

 

การลดลงของจีดีพี มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่สูง ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงและอย่างมากต่อทั้งภาคการส่งออกและรายได้ของรัฐ แต่ตอนนี้รัสเซียต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนความสามารถในการผลิต

 

นายเบรคค์ กล่าวว่า เพื่อคงอัตราการเติบโตรายปีให้มากกว่า 6% รัฐบาลรัสเซียจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาคการผลิต ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ ได้ประมาณการว่า จีดีพีของรัสเซียจะโต 3.75% ในปี 2556

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ผู้นำสเปนเผย ศก. ประเทศพ้นวิกฤตแล้ว (22/02/2556)

นายกรัฐมนตรีสเปน เผยขาดดุลสเปนปี 2555 ต่ำกว่า 7% ของจีดีพี ย้ำกระบวนการปรับโครงสร้างกำลังส่งผลดี

 

 

 

 

 

นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอยของสเปน ระบุในการแถลงนโยบายว่า ยอดขาดดุลของสเปน ณ สิ้นปี 2555 อยู่ต่ำกว่าระดับ 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แม้ไม่มีแนวโน้มว่า ยอดขาดดุลของประเทศจะแตะระดับ 6.3% ตามที่สหภาพยุโรป (อียู) กำหนดไว้ แต่ผู้นำสเปน กล่าวว่า รัฐบาลของเขาได้ดำเนินการปรับปรุงทางการคลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศ เมื่อพิจารณาจากช่วง 14 เดือนแรกของการเข้าบริหารประเทศ

 

นายราฮอย กล่าวว่า ความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายบริหารในระดับที่แตกต่าง ทำให้มีความเป็นไปได้ในการลดรายจ่ายของทางการลงราว 2.1 หมื่นล้านยูโร (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์) นายกรัฐมนตรีสเปนชื่นชมการปฏิรูปของรัฐบาล โดยกล่าวเสริมว่า การปราบปรามการฉ้อโกงทางการคลังส่งผลให้มีรายได้ราว 1.15 หมื่นล้านยูโรในปี 2555 ซึ่งเขาระบุว่าเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการลดยอดขาดดุล นอกจากนี้ นายราฮอย ระบุว่า หลักสำคัญอีกประการหนึ่งในการปฏิรูปของรัฐบาล ก็คือการปรับโครงสร้างของระบบการธนาคาร เนื่องจากมาตรการที่รัฐบาลชุดก่อนใช้นั้นไร้ประสิทธิภาพ และเป็นสาเหตุสำคัญที่รัฐบาลปัจจุบันต้องขอรับความช่วยเหลือจากอียูสำหรับภาคการธนาคารสเปน

 

เขา กล่าวเน้นย้ำว่า กระบวนการปรับโครงสร้างกำลังส่งผลดี ขณะที่สถาบันการเงินของสเปนอาจจะออกหุ้นกู้ราว 6 พันล้านยูโรในปี 2556 การประเมินสถานการณ์ของนายราฮอย แตกต่างจากมุมมองของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศมูดีส์ ซึ่งระบุเมื่อวันอังคาร (19 ก.พ.)ว่า

 

ธนาคารของสเปนยังมีปัญหาในการชำระหนี้และการระดมทุน รวมถึงความท้าทายอื่นๆอีกหลายประการ พร้อมทั้งคาดถึงบรรยากาศเชิงลบสำหรับภาคธนาคารและหนี้สาธารณะของสเปน ที่อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้การระดมทุนเป็นไปได้ยาก

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฺกรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ราคาทองปิดบวกครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ(22/02/2556)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,578.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,554.3 ดอลลาร์

 

สัญญา ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปิดบวกวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและยูโรโซนได้กระตุ้นให้นักลงทุน เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำดีด ตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 72 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือกว่า 4% ในกช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของยอด ซื้อทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดที่ 28.699 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.7 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 5.50 เซนต์ ปิดที่ 3.5530 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,620.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 27.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 733.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 2.80 ดอลลาร์

 

ที่มา : money channel (วันที 22 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[chaiklang 161]

สวัสดีตอนเช้าครับป๋า

 

ผมลุ้น Asia ให้ไปต่อนะครับ อย่าเทขาย

 

เงินเรา แข็ง มาพอแล้ว ^^

[Pete 15,187]

ม.ค.ดัชนีCPI ของฝรั่งเศสลดลง 0.5%(22/02/2556)

สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสในเดือนม.ค.ลดลง 0.5% จากเดือนธ.ค. แต่ปรับตัวขึ้น 1.2% เทื่อเทียบกับเดือนม.ค.2555 ทั้งนี้ ดัชนี CPI ของฝรั่งเศส ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยูโรโซน ปรับตัวลงในช่วงเดือนแรกของปี 2556 เป็นผลมาจากยอดขายที่ตกต่ำ ซึ่งฉุดราคาสินค้าภาคการผลิตให้ร่วงลง 2.3% จากเดือนก่อนหน้า

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[namchiang 468]

"ทองคำ"ร่วงแรงบาทละ500 เทขาย!ผวาสหรัฐไม่ต่อQE หุ้นถูกทำกำไรปิดลบ17จุด

 

 

22 February 2556 - 00:00

 

ผวาสหรัฐไม่ต่ออายุ QE นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ทองคำในประเทศดิ่งแรงบาทละ 500 บาท "จิตติ" แนะจับตาแนวรัฐ 1,525 เหรียญฯ หากไม่หลุด ได้ลุ้นรีบาวด์ชน 1,900 เหรียญฯ หุ้นไทยถูกขายทำกำไร ปิดลบ 17 จุด ตลท.เดินหน้าเพิ่มบัญชีเทรดหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาทองคำตลาดโลกที่ปรับลดอย่างหนัก จาก 1,600 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ มาอยู่แถวๆ 1,550 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาซื้อขายทองคำในประเทศเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ก.พ. ปรับลดลงทันทีบาทละ 550 บาทเมื่อเปิดตลาด และระหว่างวันมีการปรับราคา 6 รอบ และสุดท้ายปรับลดลงบาทละ 500 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 22,100 บาท ขายบาทละ 22,200 บาท ราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 21,784.92 บาท และขายออกบาทละ 22,600 บาท

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองสปอตดิ่งลงอย่างรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้กว่า 2.5% ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว โดยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐประจำวันที่ 29-30 ม.ค. ได้แสดงให้เห็นว่าเฟดอาจจะจำเป็นต้องชะลอหรือยุติการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) ก่อนที่ตลาดแรงงานจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก ขณะที่กองทุน ETF ยังคงเทขายทองออกมาอย่างต่อเนื่อง

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ เปิดเผยว่า จากราคาทองคำที่ปรับตัวลงมาในช่วงนี้ เกิดจากแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำล่วงหน้า ทำให้ราคาทองคำหลุดบริเวณ 1,600 เหรียญสหรัฐ ลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดที่ 1,560 เหรียญสหรัฐ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,545 เหรียญสหรัฐ ซึ่งต้องดูว่าจะมีแรงขายทำกำไรทองคำออกมาในตลาดล่วงหน้าอีกหรือไม่ ถ้ามีแรงขายออกมาอีก อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับที่ตั้งไว้ โดยราคาทองคำต่ำสุดในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,525 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

“ราคาทองคำในช่วงนี้ที่ปรับตัวลงมา เป็นผลจากแรงขายเก็งกำไรทองคำในตลาดล่วงหน้า ถ้าราคาทองคำยังลงมาอีกเรื่อยๆ อาจจะมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นไปทำนิวไฮใหม่ที่จุดสูงสุด 1,900 เหรียญสหรัฐได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนทองคำในช่วงนี้ที่ค่อนข้างผันผวนมาก” นายจิตติกล่าว

ด้านตลาดหุ้นไทยวันที่ 21 ก.พ.2556 ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,528.74 จุด ลดลง 17.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,365.82 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุด 1,540.81 จุด และต่ำสุด 1,526.93 จุด นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,015.01 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 2,499.21 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 715.78 ล้านบาท และรายย่อยซื้อสุทธิ 768.41 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 21 ก.พ.2556 ดัชนีปรับตัวลงค่อนข้างแรง เป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าจะมีการระงับใช้มาตรการคิวอี ส่งผลกระทบไปยังสินทรัพย์เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ และน้ำมัน แต่โดยรวมแล้วตลาดหุ้นไทยไม่ได้ปรับตัวลงมาแรง ถ้าเทียบกับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก

นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.ได้วางแผน 3 ปีในการเพิ่มจำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จากในปี 2555 ที่มี 797,326 บัญชี จะต้องมีบัญชี 1,117,486 บัญชี หรือมีคนซื้อขายหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 743,000 คน ส่วนตลาดซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จะมีบัญชีซื้อขายไม่น้อยกว่า 167,000 บัญชี จากปี 2555 ที่มี 80,893 บัญชี.

 

http://www.thaipost.net/news/220213/69942

[namchiang 468]

ทองผันผวน วันเดียวราคาขึ้น-ลง7รอบ

 

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 18:22:38 น.

 

 

 

แฟ้มภาพ

 

 

 

21 ก.พ.2556 สมาคมค้าทองคำแจ้งเปลี่ยนแปลงราคาทองคำล่าสุดเมื่อเวลา17.07 น. ปรากฎว่าตลอดการซื้อขายทั้งวันราคาทองคำปรับขึ้น-ลงรวม7ครั้ง โดยราคาทองลงแรงสุดเมื่อเปิดตลาดช่วงเช้าลดลงถึงบาทละ550บาท ก่อนจะปิดตลาดเมื่อช่วงเย็น เบ็ดเสร็จทั้งวัน ราคาทองลดลงบาทละ450บาท (ตามตาราง)

 

 

 

 

ช่วงเวลา ทองแท่ง ทองรูปพรรณ

เวลา ครั้งที่ รับซื้อ (บาท) ขายออก (บาท) รับซื้อ (บาท) ขายออก (บาท) Gold Spot Baht / US$ ขึ้น / ลง

21/02/2556 17:07 7 22,150.00 22,250.00 21,830.40 22,650.00 1,569.50 29.88 50

21/02/2556 15:32 6 22,100.00 22,200.00 21,784.92 22,600.00 1,565.00 29.88 -50

21/02/2556 13:42 5 22,150.00 22,250.00 21,830.40 22,650.00 1,569.00 29.88 50

21/02/2556 13:01 4 22,100.00 22,200.00 21,784.92 22,600.00 1,564.00 29.88 50

21/02/2556 11:08 3 22,050.00 22,150.00 21,724.28 22,550.00 1,560.00 29.89 -50

21/02/2556 10:10 2 22,100.00 22,200.00 21,784.92 22,600.00 1,563.00 29.89 50

21/02/2556 09:28 1 22,050.00 22,150.00 21,724.28 22,550.00 1,559.00 29.90 -550

 

 

 

 

 

ที่มา:สมาคมค้าทองคำ

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 22, 2013 โดย Namchiang

[Pete 15,187]

สวัสดีตอนเช้าครับป๋า

 

ผมลุ้น Asia ให้ไปต่อนะครับ อย่าเทขาย

 

เงินเรา แข็ง มาพอแล้ว ^^

คุณชายกลาง ครับ ช่วงที่ผ่านมา ฝั่งเอเชียไม่ว่าจะเป็นไทย จีน อินเดีย ต่างสะสมทองดอยไว้เยอะ ตั้งแต่ราคา 23,300 และ 23,600 จำนวนมาก เพราะราคาตรงนี้ อยู่นานพอสมควรในช่วงที่ราคาลดลงมา ประเด็น : ให้ไปต่อ คงยาก เอาแค่ อย่าเทขาย ลดต้นทุนแบบเด็กขายของกระทำ แต่ถ้าตัดใจทิ้งไปเลยแบบ คุณ Vitman ที่ยิ่งราคาตกลงมาก็เหมือน " ขี้ " ก็แย่เลย อาทิตย์นี้ ยิ่งฤกษ์หามยามร้าย พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เอาฮา มากกว่าเอาจริง ก็จงระวังรักษาตัวรอดเป็น ยอดดี มันมีมุข เสริฟ / ชง / ตบ / เชลียร์ มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 22, 2013 โดย เด็กขายของ

[คุณสา 0]

วันนี้ป๋าวางแผนยังไงดีคะ

[namchiang 468]

ราคาทองปิดบวกครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ

วันศุกร์, 22 กุมภาพันธ์ 2556 07:38 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันศุกร์, 22 กุมภาพันธ์ 2556 07:38 | วันเผยแพร่ | พิมพ์ | อีเมล

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,578.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,554.3 ดอลลาร์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปิดบวกวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและยูโรโซนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 72 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือกว่า 4% ในกช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของยอดซื้อทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 28.699 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.7 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 5.50 เซนต์ ปิดที่ 3.5530 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,620.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 27.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 733.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 2.80 ดอลลาร์

 

http://www.moneychannel.co.th

[namchiang 468]

22 กุมภาพันธ์ 2556 06:09

หุ้นอาเซียนยังเด่น แต่ทองคำไม่น่าลงทุน

http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2013/02/21/images/news_img_491599_1.jpg'>http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2013/02/21/images/news_img_491599_1.jpg

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

บลจ.อมันดิชูหุ้นอาเซียนน่าสนใจเศรษฐกิจแนวโน้มเติบโตดีในขณะที่ราคายังไม่แพง ให้น้ำหนัก "ไทย-ฟิลิปปินส์-อินโดนีเซีย"

 

นายทิโมธี เธียว เปิดเผยว่า ตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจโดยเฉพาะเมื่อรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะมีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 2.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และเศรษฐกิจก็ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ฟิลลิปปินส์เองจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยจะเป็นการลงทุนหลักในถนนและสนามบินอีกเป็นจำนวนมาก อินโดนีเซียเองมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกันปัจจุบันมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการเติบโตดี ในขณะที่ไทยเองก็มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเช่นกัน การเพิ่มขึ้นของรายได้คนชั้นกลางและการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำจะส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศ

 

นอกจากนี้เสรษฐกิจจีนเองก็มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่4/55 ซึ่งการเติบโตของจีนจะส่งผลบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของทั้ง 3 ประเทศ ที่น่าจะได้ประโยชน์จากดีมานด์ในจีนที่เพิ่มขึ้น

 

ปัจจุบันกองทุน “AMUNDI FUNDS EQUITY ASEAN - IU” ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์มากกว่าตลาด ในขณะที่ให้น้ำหนักตลาดสิงคโปร์และมาเลย์เซียน้อยกว่าตลาด และมีการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเพียงเล็กน้อยประมาณ 0.2% เท่านั้น

 

"ตลาดหุ้นในอาเซียนโดยรวมยังมีความน่าสนใจ มีสัดส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (PBV) ประมาณ 2 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นอาเซียนจะอยู่ประมาณ 11 - 12% ซึ่งมองว่าน่าจะสูงกว่า 15% ได้ในอนาคต ในขณะที่ราคาหุ้นก็ยังไม่แพง ปัจจุบันตลาดหุ้นฟิลลิปปินส์ซื้อขายที่สัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ประมาณ 17 เท่า อินโดนีเซีย 14 - 15 เท่า และไทย 13 เท่า ซึ่งไทยก็มีจุดร่วมที่เหมือนกันกับอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์คือมีรายได้ต่อหัวที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่จุดต่างที่ไม่เหมือน คือ จำนวนประชากรของฟิลลิปปินส์และอินโดนีเซียสูงกว่าไทยและอัตราการว่างงานสูงกว่าไทยและกำลังมีแนวโน้มลดลงซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการบริโภคในประเทศที่มากกว่าไทยด้วย นั่นก็จะเป็นสิ่งที่จะตอบได้ว่าตลาดหุ้นไทยจะขึ้นไปซื้อขายที่ P/E เท่ากับ 2 ตลาดนั้นได้หรือไม่เช่นกัน"

 

 

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า “กองทุนกรุงศรีอาเซียนนิวมาร์เก็ต (KF-ASEAN)” ซึ่งมีนโยบายไปลงทุนใน “กองทุน AMUNDI FUNDS EQUITY ASEAN - IU” นั้น ณ สิ้นปี55 ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 13.09% และย้อนหลัง 3 ปี 39.36% ก็เป็นอีกกองทุนที่น่าสนใจในแง่การกระจายการลงทุนไปกับโอกาสการเติบโตของอาเซียนเพราะในช่วงปีที่ผ่านมาซึ่งความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลกยังมีมากกว่าปีนี้เศรษฐกิจอาเซียนและตลาดหุ้นก็ยังเติบโตได้ดีเป็นการพิสูจน์มาแล้วระดับหนึ่ง

 

กองทุน KF-ASEAN ตั้งขึ้นช่วงเม.ย. 51 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกประกอบกับนโยบายลงทุนในช่วงแรกของกองทุนหลักไปโฟกัสในตลาดหุ้นเวียดนามประมาณ 25 - 30% ของพอร์ตการลงทุน ก่อนที่ฟองสบู่ในเวียดนามจะแตก จึงทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุนในช่วง 2 ปี แรกไม่ค่อยดีนัก แต่ปัจจุบันทีมจัดการลงทุนได้ปรับกลยุทธ์การลงทุนและสามารถสร้างผลตอบแทนกลับขึ้นมาได้เป็นอย่างดี หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ก็เป็นอีกกองทุนที่น่าสนใจเช่นกัน

 

ในส่วนของราคาทองคำนั้น ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่มองไว้ 1,550 - 1,700 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ก้มีความเสี่ยงที่จะหลุดลงไปกว่ากรอบที่มองไว้ได้เช่นกัน เพราะความน่าสนใจของทองคำลดลงราคาน่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งออกข้าง (sideway) ในช่วงนี้ เพราะหากมองความเสี่ยงของเสรษฐกิจโลกลดลงทองคำก็น่าสนใจลดลงเช่นกันในขณะที่หุ้นจะมีความน่าสนใจมากกว่า

 

http://www.bangkokbiznews.com

[namchiang 468]

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 15:00

นายกค้าทองคาดราคาทองร่วง2.1หมื่นบาท

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

นายกสมาคมค้าทองคำคาดราคาทองมีสิทธิ์ร่วงแตะ 2.1 หมื่นบาท/บาททองคำ หลังราคาทองในตลาดโลกลงแรง เฟดส่งสัญญาณหยุดQE

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองทำคำในประเทศอ่อนตัวลงมาตามตราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายออกมาราคาจึงปรับลงแรง และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองคำในประเทศอ่อนตัวลงมาประมาณ 2.1 พันบาทต่อบาททองคำ ถือว่าลงมาแรงพอสมควร แต่จากนี้ไปราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงมาเห็นที่ 2.1 หมื่นบาทต่อบาททองคำ ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลก มองว่าจะปรับลดลงมาแต่คาดว่าไม่น่าจะหลุดที่ระดับ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

"ราคาทองคำปีนี้จะผันผวนแรง ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมาย และการปรับลง 500 บาทต่อบาททองคำก็ยังไม่แรงเท่ากับช่วงปี 2554 ที่ปรับลงวันละ 1 พันบาทต่อบาททองคำ แต่ราคาทองคำจะขึ้นลงแรง นักลงทุนที่ต้องการลงทุนต้องระมัดระวังและต้องเข้าออกให้ถูกจังหวะ อย่างไรก็ตาม ถ้าราคาทองคำลงลึกคาดว่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะที่นิวไฮด์เดิม 1920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีความเป็นไปได้สูง"นายจิตติกล่าว

 

เขากล่าวว่า กลยุทธ์ลงทุนในทองคำเน้นลงทุนสั้น โดยคนที่ยังไม่ถือครองให้ทยอยรับซื้อไปก่อนเมื่อราคาอ่อนตัว และค่อยซื้อเพิ่มเมื่อราคาไหลลงใกล้ๆ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนคนที่มีก็ถือลงทุนไว้

 

http://www.bangkokbiznews.com/

[arthas2u 407]

แมงมุม ปล่อย 8.89 ตัน งับ

[Pete 15,187]

วันนี้ป๋าวางแผนยังไงดีคะ

วันนี้ ถ้ามองจากรหัสสัญญานฯ 7,5,2 รายวัน ที่เส้น 2 เส้นเริ่มปักหัวจะทำการตัดกัน ซึ่งถ้าตัดกันครั้งนี้ ก็บ่งบอกว่า จะออกมาด้านบวกต่อราคาทอง แล้วพอมาดูรหัส 7,5,2 ณ. ราคา 1579.60 หัวก็ยิ่งชนกัน ของเส้น 2 เส้น ประกอบกับข่าวสารรายงานที่ออกมาก่อนหน้า ไม่ส่งผลดีต่อค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ และการที่ SPDR ขายทองออกมาจำนวนมาก เห็นเขาบอกว่า ต้องการใช้เงินสดไปจ่ายในการแทงเงินตราหรืออะไรประมาณนั้น แต่ ก็ย่อมมีนักลงทุนแบบพิเศษเงินเยอะ เงินร้อน ชอบเข้าซื้อเมื่อราคาดิ่งลงมากๆ

 

จึงเป็นที่มาว่า " เด็กขายของเล่นข้าง Long จาก 1579 จุดหมายปลายทางที่ 1598-1599