ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

เซียนเตือนภัยบาทแข็งทำกำไรทองยาก (04/03/2556)

นักลงทุนทยอยเทขายทองหลังประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้น แนะรอช้อนซื้อ 2.2 หมื่นบาท ระวังบาทแข็งหากำไรยาก

 

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์แม่ทองสุก เปิดเผยว่า นักลงทุนควรรอให้ราคาทองคำลงไปถึงประมาณ 1,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณบาทละ 2.2 หมื่นบาท จึงเข้าซื้อและการลงทุนทองคำในช่วงนี้ควรซื้อขายไม่เกิน 5 วัน เพราะจะมีโอกาสทำกำไรมากกว่าการถือลงทุนในระยะกลาง 6 เดือน ถึง 1 ปี

 

นพ.กฤชรัตน์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันราคาทองคำในประเทศได้ปรับลดลงแล้ว 9% ตามการลดลงของราคาทองคำในตลาดโลก 6% และตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นถึง 3% หากถือในระยะกลางมีโอกาสถูกค่าเงินบาทที่แข็งค่าฉุดให้ขาดทุนได้ อย่างไรก็ตาม หากเป็นนักลงทุนระยะยาว 3 ปีขึ้นไป สามารถลงทุนได้เพื่อชนะเงินเฟ้อ

 

ขณะนี้ราคาทองคำได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยนักวิเคราะห์บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า เป็นผลจากความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่มีน้อยลง หลังจากมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว ประกอบการถือทองคำไม่ได้รับผลตอบแทนนอกจากการปรับขึ้นของราคาเมื่อเทียบตรา สารทางการเงินที่มีความปลอดภัย เช่น พันธบัตร

 

นอกจากนั้น กองทุนเอสพีดีอาร์ โกลด์ ทรัสต์ ได้ลดการถือครองทองคำลงทั้งหมด 73.6 ตัน ตลอดเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

 

สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำในปีนี้ บรรดาโบรกเกอร์ซื้อขายทองคำประเมินว่า ปีนี้ผลตอบแทนการลงทุนทองคำน่าจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 5% จากปีก่อนที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 7%

 

ราคาทองคำในประเทศวันที่ 2 มี.ค. ปรับตัวขึ้นลงผันผวนตามราคาทองคำในต่างประเทศ โดยราคาทองคำแท่ง 96.5% ของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 100 บาท ปิดที่ราคารับซื้อบาทละ 22,200 บาท และขายบาทละ 22,300 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 21,875.88 บาท และขายออกบาทละ 22,700 บาท

 

ทั้งนี้ มีการประเมินว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังเคลื่อนไหวในกรอบซึ่งบริเวณแนวต้าน 1,585 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือ 1,594 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

 

ที่มา : โพสต์ทูเดย์(วันที่ 4 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

"แผนตัดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ เริ่มกดราคาน้ำมันดิบร่วง"

เบรนท์ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับลดลง 0.98 ปิดที่ 110.40 เหรียญฯ และเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับลดลง 1.37 ปิดที่ 90.68 เหรียญฯ

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อหลังการปรับลดรายจ่ายอัตโนมัติของสหรัฐฯ จำนวนเงิน 8.5 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2556 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากประธานาธิบดี โอบามา และ สภาคองเกรซ ไม่สามารถหาทางออกอื่นที่ดีกว่าการลดงบประมาณรายจ่าย ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐฯ ในปีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีสหรัฐฯ จะปรับลดลงอย่างน้อย 0.5% และจะสร้างผลกระทบต่อโดยตรงต่อภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ งบประมาณทางสวัสดิการทางสังคมและกระทรวงต่างๆ รวมทั้งก่อให้เกิดการพักงานโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนแก่ลูกจ้างอีกด้วย

- อุปทานน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศโอเปคเดือน ก.พ.56ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับจากเดือน ต.ค.55 มาอยู่ที่ 30.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้าที่ 30.21 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณส่งออกที่สูงขึ้นจาก อิรัค และ ซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศโอเปคจะยังคงตรึงกำลังการผลิตที่ระดับเดียวกับปีก่อนที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์น้ำมันโลก

- ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯเดือน ก.พ. 56 อยู่ที่ 54.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 55.8 ตามยอดคำสั่งซื้อจากผู้บริโภคในสหรัฐฯที่ปรับลดลง นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกที่ลดลงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ม.มิชิแกน) เดือน ก.พ. 56 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 77.6 จากเดือนก่อนหน้าที่ 76.3

- ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตจีน (Official PMI) เดือน ก.พ. 56 อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 50.1 ต่ำกว่าการคาดเล็กน้อยที่ 50.2 เนื่องจากการผลิตที่ปรับลดลงตามอุปสงค์ที่ลดลงทั้งในประเทศและภาคส่งออก ส่วนดัชนีชี้วัดการผลิตจีนจากทาง HSBC ปรับลดลงเช่นเดียวกัน อยู่ที่ 50.4 จากเดือนก่อนหน้าที่ 52.3 โดยนักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวไปอย่างช้าๆ สวนทางกับการคาดการณ์ก่อนหน้า และหากภาคการผลิตจีนยังไม่ฟื้นตัวก็จะกดดันความต้องการใช้น้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

+ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของฝรั่งเศส เดือน ก.พ. 56 ปรับเพิ่มขึ้น จากยอดคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่สูงขึ้น มาอยู่ที่ 43.9 จากเดือนก่อนหน้าที่ 42.9 แต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศสซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจเป็นลำดับที่สองของกลุ่มยูโรยังไม่ฟื้นตัว

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีแรงซื้อจากทางฝั่งสหรัฐฯเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองคงคลังสำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง ประกอบกับแผนการซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในเอเซียที่ทำให้อุปทานตึงตัวมากขึ้น

ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่ปรับลดลง รวมถึงโอกาสในการขนย้ายจากทางฝั่งเอเซียไปยุโรปที่ปิดลงไป ทำให้อุปทานภายในภูมิภาคมีมากกว่าอุปสงค์

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์หน้า เบรนท์ 108-115 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88-95 เหรียญฯ

ติดตามผลการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในคืนนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป (Sentix) และดัชนีภาคการผลิตรัฐนิวยอร์ค

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันจันทร์: ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป (Sentix) ดัชนีภาคการผลิตรัฐนิวยอร์ค

วันอังคาร: ดัชนีภาคบริการและยอดขายปลีกยุโรป ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ และจีน (HSBC)

วันพุธ: จีดีพีไตรมาส 4/55 ยุโรป (Revised) การจ้างงานภาคเอกชนและยอดคำสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐฯ

วันพฤหัส: ยอดคำสั่งซื้อของโรงงานเยอรมนี การประชุมธนาคารกลางยุโรป ดุลการค้า ผลิตภาพแรงงานนอกภาคเกษตรและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ จีดีพีไตรมาส4/55 ของญี่ปุ่น (Final)

วันศุกร์:การผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนี การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐฯ

วันเสาร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดขายปลีกจีน

- ติดตามผลการเจรจาตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ มูลค่ารวม 85,000 ล้านเหรียญฯ ว่าทั้งพรรคดีโมเครตและรีพับริกันจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการปรับลดรายจ่ายอัตโนมัติที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา

- ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 7 มี.ค. ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจ นโยบายอัตราดอกเบี้ยและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆอย่างไร หลังตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปเริ่มปรับตัวดีขึ้น

- ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากในสภาสูงและสภาล่าง ซึ่งถ้าหากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จอาจจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ และมีความเสียงต่อการแก้ปัญหาหนี้ของอิตาลี

- ติดตามปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดยเฉพาะในประเทศซีเรีย อิสราเอล ซูดาน อียิปต์และตูนิเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันของโลก

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 4 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

นักวิชาการชี้กระแสจตุพรนั่งรองผู้ว่าฯฉุดคะแนนพงศพัศ

รศ.ยุทธพร อิสระชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะเลือกตั้ง มาจากปัจจัยเรื่องการเมืองทั้งภายในพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในช่วงต้นของการเลือกตั้งมีการพูดถึงการส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ซึ่งมีผลต่อคะแนนในหลายเขตที่มีการปรับเปลี่ยนและสูญเสียให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เช่น มีนบุรี บึงกุ่ม ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีกระแสว่าจะส่งนายกรณ์ จาติกวณิช ลง แต่สุุดท้ายมาจากข้าราชการประจำที่พรรคประชาธิปัตย์มีเครือข่ายอยู่ ทั้งนี้คนที่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์น่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า เนื่องจากช่วงต้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในแง่โพลล์ผู้สมัครก็ไม่เด่นเท่ากับพรรค เพราะกระแสการเมืองเป็นเรื่องการต่อสู้ของพรรคใหญ่ ขณะที่ผู้สมัครอิสระก็ไม่เด่นไม่สามารถสร้างกระแสได้ จึงทำให้คะแนนเทไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งครั้งก่อนที่นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ลงได้ประมาณ 6 แสน คะแนน มาครั้งนี้ขยับเป็น 1 ล้านคะแนน ถือว่าพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จ แต่ในหลายๆ เขตน่าจะชนะมากกว่านี้ แต่ก็ชนะไม่ขาด และในระดับพื้นที่คะแนนในหลายเขตก็ลดลงไป จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าจะทบทวน รวมทั้งดูว่า 3-4 แสนเสียงที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มไหน

 

" การที่พล.ต.อ.พงศพัศแพ้น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยที่พูดถึงการเปิดตัวรองผู้ว่าฯ ที่มีกระแสข่าวว่าจะเอานายจตุพร พรหมพันธุ์ มาเป็นรองผู้ว่าฯ และพรรคก็ไม่แถลงปฏิเสธ ซึ่งอาจจะเป็นกระแสที่จุดขึ้นมาช่วงสุดท้ายและตอบรับวาทะกรรมที่ประชาธิปัตย์หยิบมา รวมทั้งยังได้คะแนนเสียงจาก สก. สข.ในช่วงสุดท้าย ทั้งนี้เรื่องของโพลล์ก็มีส่วนทั้งผลบวกและลบ ซึ่งในแง่คนนำ คิดว่าจะชนะอยู่แล้วจึงไม่ไปลงคะแนนให้ ในแง่คนตาม อาจได้คะแนนสงสาร กรณีม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่ออกมาร้องไห้อาจทำให้ได้คะแนนสงสาร ส่วนกรณีกินรวบก็อาจะเป็นไปได้เป็นวาทะกรรมสอดรับกับวาทะกรรมการเมืองทำให้เกิดการเดินหน้าไปโหวต " รศ.ยุทธพร กล่าว

[chaiklang 161]

เช้านี้มีแต่ข่าวไม่ค่อยดีเลยป๋า

 

ป๋ามองว่า พี่ทอง จะมีทิศทางอย่างไรครัยนั่น

 

หรือรอเจ้าใหญ่ปั่นราคา หรือ เทครัว อย่างทุกที ^^

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

เช้านี้มีแต่ข่าวไม่ค่อยดีเลยป๋า

 

ป๋ามองว่า พี่ทอง จะมีทิศทางอย่างไรครัยนั่น

 

หรือรอเจ้าใหญ่ปั่นราคา หรือ เทครัว อย่างทุกที ^^

ขอบคุณที่จะให้เดา : จึงเดาแบบนี้ว่า " น่าจะขึ้นไต่ระดับ $1600 " ยินดีที่เบอร์ 16 ได้เป็นผู้ว่า กทม. อิอิ ก็ว่ากันไป ! เหตุผลที่กล่าวไปแล้ว แต่จะย้ำอีกครั้ง

1. ราคาทองที่ขยับลงมา ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 56 อาจจะมีส่วนมาจากความวิตก " หน้าผาการคลัง " เมื่อโอบามาขยายเวลาออกมา 2 เดือน พวกเขาจึงได้ทำการปรับพอร์ตการลงทุน จนราคาทองมาอยู่ที่ 1577 ดังนั้น ราคาทองรับทราบเรื่องราวมาหมดแล้ว " จึงไม่น่าลงต่อไปมากกว่านี้ "

 

2. SPDR คือกองทุนทองคำ ที่ก่อตั้งเพื่อรักษาสมดุลของราคาทองคำ และ ทำกำไรให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยสหรัฐอเมริกา เจ้าของบ่อนใหญ่ ที่นี้ สมมุติว่าเขารู้เหตุล่วงหน้า ปล่อยทองออกทำกำไร แล้วทำไม SPDR ไปปล่อยทีเดียว 100-200 ตัน เมื่อราคาสูง แต่ปล่อยทีละส่วน แล้วราคาก็ปรับลงมา จนราคาทองมาอยู่ที่ 1577 แล้วถ้าเขาจะปล่อยทองออกขายอีก คุณว่า เขาน่าจะปั่นราคาขึ้นมา เพื่อให้ SPDR ขายเพิ่มอีกหรือเปล่า ดังนั้น อาทิตย์นี้ ต้นและปลาย " จึงไม่น่าลงต่อไปมากกว่านี้ "

 

3. นักลงทุนฝั่งเอเชีย และ ลอนดอน รู้อยู่แก่ใจว่า ราคาทองปรับขึ้นลงผันผวนจากตลาดสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ ง่ายครับมี 2 ทางให้เลือก ไม่ขึ้นก็ลง อิอิ แต่เขาคงไม่เสี่ยงที่จะเล่นเดาทางแบบนั้น เขาจะนั่งมองการเคลื่อนไหวฝั่งสหรัฐฯ ก่อนที่จะดำเนินการ มองเขามองเรา ขึ้นก็ดี ลงก็ได้ ดังนั้น ยิ่งในสหรัฐฯ ช่วงต้นข่าวสารลดรายจ่าย และเป็นวันแรกที่บรรดาขาล็กขาย่อยจะมาเปิดทำการซื้อขาย น่าจะเกิดอาการ Panic Buy ตกใจซื้อทอง ดังนั้น " จึงไม่น่าลงต่อไปมากกว่านี้ "

 

4. กราฟรหัสฯ สัญญานฯต่างๆ ยังเพี้ยนอยู่ไม่สามารถบ่งบอกได้อย่างใกล้เคียง เหมือนถูกสร้างให้เป็นแบบที่ใครต้องการ ส่วนภาพวาดกราฟ คนลากเส้นต่างๆ ก็มองเป็น W Shape บ้าง M Shape บ้าง V คว่ำ บ้าง หรือไม่ก็มองเป็น ฆ้อนบ้าง / ปีกผีเสื้อหลุบลง / เหยียดแข้งเยียดขาทำสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยมคางหมู หรือแม้แต่เหลี่ยน Snooker ทำไมจึงไม่มองเป็น U Shape หรือ J Shape บ้าง

 

5. คืนนี้ น่าจะมีสิ่งที่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ เกิดความกังวล ต่อรายจ่ายที่ถูกตัดลด อัตราลดการจ้างงานภาครัฐฯจะเกิดขึ้น ประกอบกับ ยุโรปมีประชุมก็น่าจะสร้างความแข็งให้ยูโรได้บ้าง

 

6. ขาใหญ่เมืองไทยบอกว่า " ทองจะลง "

 

ทั้งหมดนี้ ก็แค่เดาว่า ราคาทองน่าจะขึ้น สถานะเอสควรจะลดการครอบครอง และมองหาราคาที่จะเข้าสถานะแอล จากข้อมูลตัวเลขของฝรั่ง ช่วงบ่าย

[Pete 15,187]

โกลเบล็กมองทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน(04/03/2556)

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเมนท์ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (4 มีนาคม 2556) โดยระบุว่า นักลงทุนระยะสั้น ควรปิดสถานะขายหากราคาทองคำผ่านแนวต้านที่ $1,594/Oz ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากสร้างฐานเหนือ $1,555/Oz ได้อย่างแข็งแกร่งค่อยเข้าซื้อ

ภาพรวมตลาดวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง $1.45/Oz หรือ 0.09% มาอยู่ที่ $1,576.70/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,564.87-1,587.20) ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนแอทั้งภาคการผลิตและ อัตราว่างงานที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ และดัชนีภาคการผลิตสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.2 จุดจาด 53.1 จุดตอกย้ำถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามการปรับลดรายจ่ายอัตโนมัติของสหรัฐที่มีขึ้นในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาส่งผลด้านลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ ปรับตัวขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ในวันนี้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านได้แต่ยังปรับตัว ขึ้นในกรอบจำกัดเนื่องจากRSI เริ่มปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ Overbought ในกราฟ 60 นาที ระหว่างวันให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจากทางยุโรปในช่วงบ่าย มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ที่ $1,572-1,608/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•การเปลี่ยนแปลงคนว่างงานสเปน เวลา 15.00 น.

•ความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป เวลา 16.30 น.

•ดัชนีราคาผู้ผลิตยูโรโซน เวลา 17.00 น.

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 4 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

โกลเบล็กมองทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน(04/03/2556)

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเมนท์ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (4 มีนาคม 2556) โดยระบุว่า นักลงทุนระยะสั้น ควรปิดสถานะขายหากราคาทองคำผ่านแนวต้านที่ $1,594/Oz ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากสร้างฐานเหนือ $1,555/Oz ได้อย่างแข็งแกร่งค่อยเข้าซื้อ

ภาพรวมตลาดวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง $1.45/Oz หรือ 0.09% มาอยู่ที่ $1,576.70/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,564.87-1,587.20) ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนแอทั้งภาคการผลิตและ อัตราว่างงานที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ และดัชนีภาคการผลิตสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.2 จุดจาด 53.1 จุดตอกย้ำถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามการปรับลดรายจ่ายอัตโนมัติของสหรัฐที่มีขึ้นในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาส่งผลด้านลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ ปรับตัวขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ในวันนี้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านได้แต่ยังปรับตัว ขึ้นในกรอบจำกัดเนื่องจากRSI เริ่มปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ Overbought ในกราฟ 60 นาที ระหว่างวันให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจากทางยุโรปในช่วงบ่าย มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ที่ $1,572-1,608/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•การเปลี่ยนแปลงคนว่างงานสเปน เวลา 15.00 น.

•ความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป เวลา 16.30 น.

•ดัชนีราคาผู้ผลิตยูโรโซน เวลา 17.00 น.

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 4 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

::

[chaiklang 161]

ขอบคุณที่จะให้เดา : จึงเดาแบบนี้ว่า " น่าจะขึ้นไต่ระดับ $1600 " ยินดีที่เบอร์ 16 ได้เป็นผู้ว่า กทม. อิอิ ก็ว่ากันไป ! เหตุผลที่กล่าวไปแล้ว แต่จะย้ำอีกครั้ง

1. ราคาทองที่ขยับลงมา ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 56 อาจจะมีส่วนมาจากความวิตก " หน้าผาการคลัง " เมื่อโอบามาขยายเวลาออกมา 2 เดือน พวกเขาจึงได้ทำการปรับพอร์ตการลงทุน จนราคาทองมาอยู่ที่ 1577 ดังนั้น ราคาทองรับทราบเรื่องราวมาหมดแล้ว " จึงไม่น่าลงต่อไปมากกว่านี้ "

 

2. SPDR คือกองทุนทองคำ ที่ก่อตั้งเพื่อรักษาสมดุลของราคาทองคำ และ ทำกำไรให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยสหรัฐอเมริกา เจ้าของบ่อนใหญ่ ที่นี้ สมมุติว่าเขารู้เหตุล่วงหน้า ปล่อยทองออกทำกำไร แล้วทำไม SPDR ไปปล่อยทีเดียว 100-200 ตัน เมื่อราคาสูง แต่ปล่อยทีละส่วน แล้วราคาก็ปรับลงมา จนราคาทองมาอยู่ที่ 1577 แล้วถ้าเขาจะปล่อยทองออกขายอีก คุณว่า เขาน่าจะปั่นราคาขึ้นมา เพื่อให้ SPDR ขายเพิ่มอีกหรือเปล่า ดังนั้น อาทิตย์นี้ ต้นและปลาย " จึงไม่น่าลงต่อไปมากกว่านี้ "

 

3. นักลงทุนฝั่งเอเชีย และ ลอนดอน รู้อยู่แก่ใจว่า ราคาทองปรับขึ้นลงผันผวนจากตลาดสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ ง่ายครับมี 2 ทางให้เลือก ไม่ขึ้นก็ลง อิอิ แต่เขาคงไม่เสี่ยงที่จะเล่นเดาทางแบบนั้น เขาจะนั่งมองการเคลื่อนไหวฝั่งสหรัฐฯ ก่อนที่จะดำเนินการ มองเขามองเรา ขึ้นก็ดี ลงก็ได้ ดังนั้น ยิ่งในสหรัฐฯ ช่วงต้นข่าวสารลดรายจ่าย และเป็นวันแรกที่บรรดาขาล็กขาย่อยจะมาเปิดทำการซื้อขาย น่าจะเกิดอาการ Panic Buy ตกใจซื้อทอง ดังนั้น " จึงไม่น่าลงต่อไปมากกว่านี้ "

 

4. กราฟรหัสฯ สัญญานฯต่างๆ ยังเพี้ยนอยู่ไม่สามารถบ่งบอกได้อย่างใกล้เคียง เหมือนถูกสร้างให้เป็นแบบที่ใครต้องการ ส่วนภาพวาดกราฟ คนลากเส้นต่างๆ ก็มองเป็น W Shape บ้าง M Shape บ้าง V คว่ำ บ้าง หรือไม่ก็มองเป็น ฆ้อนบ้าง / ปีกผีเสื้อหลุบลง / เหยียดแข้งเยียดขาทำสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยมคางหมู หรือแม้แต่เหลี่ยน Snooker ทำไมจึงไม่มองเป็น U Shape หรือ J Shape บ้าง

 

5. คืนนี้ น่าจะมีสิ่งที่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ เกิดความกังวล ต่อรายจ่ายที่ถูกตัดลด อัตราลดการจ้างงานภาครัฐฯจะเกิดขึ้น ประกอบกับ ยุโรปมีประชุมก็น่าจะสร้างความแข็งให้ยูโรได้บ้าง

 

6. ขาใหญ่เมืองไทยบอกว่า " ทองจะลง "

 

ทั้งหมดนี้ ก็แค่เดาว่า ราคาทองน่าจะขึ้น สถานะเอสควรจะลดการครอบครอง และมองหาราคาที่จะเข้าสถานะแอล จากข้อมูลตัวเลขของฝรั่ง ช่วงบ่าย

 

ขอบคุณครับป๋า ผมนับถือป๋าตรงที่ ตอบชัดเจน ตรงประเด็น เป็นกลาง

 

เป็นแนวทางที่ดีสำหรับมือใหม่อย่างผม

 

ขอบคุณจริง ๆ ครับ ^^

[ariya 1,481]

อ้าว ป๋า เดาขึ้นเจ้เอสไว้ต้องหาทางปิด

[Anna 567]

อ้าว ป๋า เดาขึ้นเจ้เอสไว้ต้องหาทางปิด

 

ถ้าเอสกระดาษ. ไม่ต้องรีบเจ้. แค่เตรียมยางลบหรือขีดทิ้งก็พอ. กร๊ากกกกกกกกกกกก

[กิบเก๋ 48]

อ้าว ป๋า เดาขึ้นเจ้เอสไว้ต้องหาทางปิด

กิ๊บเก๋ก็ต้องหาทางปิดเหมือนกันค่ะเจ้เกี๋ยมอี๋

[Pete 15,187]

ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 93.33-93.35 เยนเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว จากแรงขายทำกำไร (04/03/2556)

ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 93 เยนเล็กน้อยในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว จากแรงเทขายทำกำไรภายหลังดอลลาร์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้ โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งสัญญาณดีขึ้นและกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะดำเนินการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 93.33-93.35 เยน เมื่อเทียบกับ 93.55-93.65 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 92.58-92.59 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น.ในเย็นวันศุกร์

 

ทางด้านยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.3012-1.3013 ดอลลาร์ และ 121.43-121.50 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3016-1.3026 ดอลลาร์ และ 121.82-121.92 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3075-1.3076 ดอลลาร์ และ 121.05-121.09 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวันศุกร์

 

ดอลลาร์รักษาแรงบวกจากเมื่อวันศุกร์ในการซื้อขายเช้าวันนี้ ภายหลังดอลลาร์พุ่งขึ้นมากกว่า 1 เยนจากกิจกรรมภาคการผลิตและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวดีเกินคาด

 

นอกจากนี้ การที่นายคุโระชี้แจงต่อรัฐสภาเรื่องการได้รับการเสนอชื่อจากรัฐบาลญี่ปุ่น ให้เป็นว่าผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในเช้าวันนี้ ยิ่งกระตุ้นกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า บีโอเจจะออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ภายหลังนายคุโรดะรับช่วงตำแหน่งต่อจากนายมาซาอะกิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจคนปัจจุบัน หากการแต่งตั้งนายคุโรดะได้รับอนุมัติจากสภาไดเอท

 

ดีลเลอร์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนในตลาดบางรายต้องการทำกำไรจากดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นเมื่อ เร็วๆนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 4 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

อ้าว ป๋า เดาขึ้นเจ้เอสไว้ต้องหาทางปิด

 

 

ถ้าเอสกระดาษ. ไม่ต้องรีบเจ้. แค่เตรียมยางลบหรือขีดทิ้งก็พอ. กร๊ากกกกกกกกกกกก

ในช่วงตลาดทองผันผวนสลับขึ้นลง ลง 2 วัน ขึ้น 1 วัน หรือ ขึ้น 2 วัน ลง 1 วัน ไม่ต้องลบทิ้งด้วยยางลบ หรือ ขีดทิ้งหรอกครับ สิ้นเปลือง แค่วางกระดาษแผ่นนั้นไว้เฉยๆ เดี๋ยวก็กลับมาใช้ได้อีก