ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณคุณป๋ามากๆค่ะ :01

ชอบอ่านคุณป๋าบ่นค่ะ มีสาระได้ข้อคิดมากมายค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงเช้ามีรายงานออกมา ส่งผลให้ดอลล์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์อ่อน หนุนทองคำปิดพุ่ง $24.6

วันศุกร์, 09 สิงหาคม 2556 08:18 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันศุกร์, 09 สิงหาคม 2556 08:18 | วันเผยแพร่ | พิมพ์ | อีเมล

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 24.6 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 1,309.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่

 

สัญญาทองคำทะยานขึ้นหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ร่วงลงแตะระดับ 80.953 ในวันพฤหัสบดี จากระดับของวันพุธที่ 81.244 เนื่องจากความไม่แน่นอนว่าเฟดจะเดินหน้าใช้ QE ต่อไปหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระลอก

 

ทั้งนี้ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดอาจเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรในช่วงแรกในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งใดครั้งหนึ่งที่เหลืออยู่ในช่วงปีนี้ ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอมาตรการกระตุ้นทางการเงินโดยการลดขนาดแผนการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในเดือนก.ย.นี้

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องนั้น ได้กระตุ้นให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการทองคำในจีนจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าจีนจะแซงหน้าอินเดียขึ้นเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่สุดของโลกในปีนี้

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 68.5 เซนต์ ปิดที่ 20.193 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1491.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 53.30 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 738.55 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 15.40 ดอลลาร์

 

http://www.moneychannel.co.th/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ คุณป๋า ตามเเนวทางที่ป๋าให้ รอขายที่ราคาพอใจ แม้ บาท มันจะบาดเรา :_02

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานของสหรัฐฯ มีน้อยเช่นเคย ระวัง ***** มันจะไปจับประเด็นเดิมๆๆ ลดวงเงิน QE การเข้าซื้อคืนพันธบัตร ที่มีตังหวะเกิดขึ้น ในเดือนกันยายน นี้นะครับ เดือนหน้าแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์วิจัยทองคำคาดผันผวนต่อเนื่อง เหตุกองทุนแห่ขาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2556 13:38 น.

 

556000010331601.JPEG

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ คาดเดือนสิงหาคมทองคำยังวิกฤตผันผวน จากมาตรการ QE ที่ยังไม่ชัดเจน และชะลอต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ขณะที่กองทุน SPDR เทขายทองไปแล้วตั้งแต่ต้นปีกว่า 423 ตัน แนะนักลงทุนรอจังหวะทยอยซื้อทำกำไรเมื่อราคาทองคาดอ่อนตัวในQ4

 

นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มการเทขายทองคำของนักลงทุนในเดือนสิงหาคมยังเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านมา 2 สัปดาห์ กองทุนทองคำต่างๆ ได้เทขายทองคำไปแล้วมากกว่า 10 ตัน โดยกองทุน SPDR มีการระบายทองออกจากกองทุนเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมทั้งสิ้นประมาณ 423 ตัน และมีการถือครองต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งมีจำนวนการถือครองอยู่ที่ 927.35 ตัน

 

ในส่วนของแนวโน้มของภาวะทองคำในช่วงไตรมาส 3 ยังอยู่ในช่วงขาลงจาก ปัจจัยกดดันในเรื่องของนโยบายผ่อนกคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ QE ที่จะมีความชัดเจนในการชะลอมาตรการ QE ที่ชัดเจนขึ้น โดยในเดือนกันยายนปีนี้ เป็นเดือนที่นักลงทุนคาดว่าจะมีมาตรการชะลอ QE ต่อไปจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง และนักลงทุนจะเริ่มทยอยเทขายทองออกมามากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการทองคำลดลง ส่งผลทำให้ราคาทองลดลงตามไปด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ปัจจัยค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลังยังเชื่อว่ามีความผันผวนต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการให้ความสำคัญกับเรื่องเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนประเทศไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องมาตรการรัฐที่ตลาดตอบรับในเชิงบวกไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่าง พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ทำให้ราคาทองคำในประเทศจะไม่สอดคล้องกับทิศทางในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้ราคาทองคำในประเทศไม่สอดคล้องกับทิศทางในตลาดโลก

 

อย่างไรก็ดี การลงทุนระยะนี้ควรเน้นการลงทุนในทองคำระยะสั้น เนื่องจากทิศทางราคายังคงผันผวน และลดสัดส่วนการลงทุนระยะยาว ควรหาจังหวะการขายในช่วงราคาที่เหมาะสม แล้วทยอยซื้อกลับมาในอนาคต โดยในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ราคาทองมักจะมีความผันผวนรุนแรง นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และติดตามการชะลอมาตรการ QE ในช่วง 4 เดือนหลัง ตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในช่วงท้ายต่อเนื่องถึงปีหน้า

 

http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000098299

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีฯทองคำขยับขึ้น จับตา​แรงกดดันจากค่า​เงิน-QE

 

 

 

ข่าว​เศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์​แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556 06:00:00 น.

นายกมลธัญ พร​ไพศาลวิจิต ​ผู้อำนวย​การศูนย์วิจัยทองคำ ​เปิด​เผยว่า ดัชนี​ความ​เชื่อมั่นราคาทองคำประ​เดือนส.ค. 2556 อยู่ที่ระดับ 53.35 จุด ฟื้นตัว​เหนือระดับ 50 จุด ที่​ใช้​เป็น​เกณฑ์มาตรฐานของดัชนีครั้ง​แรก​ในรอบ 3 ​เดือน ตั้ง​แต่พ.ค.ที่ดัชนี​ความ​เชื่อมั่นอยู่ที่ 45.50 จุด มิ.ย.อยู่ที่ 32.91 จุด ​และก.ค.อยู่ที่ 33.77 จุด สะท้อน​ให้​เห็นว่ากลุ่มตัวอย่าง​เชื่อว่าราคาทองคำมี​โอกาสฟื้นตัวหลังราคา ปรับตัวลดลงติดต่อกัน5b655fbd-34d8-4fc1-b00b-4c2b7aafa77c.jpgemnb_1_370232.gif

อย่าง​ไร​ก็ตาม ดัชนี​ความ​เชื่อมั่นราคาทองคำกลับสวนทาง​ความต้อง​การที่จะซื้อทองคำ​ใน​ เดือนส.ค.นี้ ของกลุ่มตัวอย่างที่ยัง​ไม่​เพิ่มขึ้น ​ซึ่งอาจจะสะท้อน​ถึง​ความ​ไม่​แน่​ใจของ​การฟื้นตัว

สำหรับดัชนี​แยกตามกลุ่มตัวอย่าง พบว่ามีทัศนคติ​ไป​ในทิศทาง​เดียวกัน คือ มี​ความ​เชื่อมั่น​เพิ่มขึ้น ​โดยระดับ​ความ​เชื่อมั่นอยู่​เหนือ 50 จุด ​เล็กน้อย ​ทั้งกลุ่มนักลงทุน​และกลุ่ม​ผู้ค้าทองคำ ​ซึ่งค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 52.78 จุด ​และ 57.36 จุด ตามลำดับ ด้านดัชนี​ความ​เชื่อมั่น​ในระยะ 3 ​เดือนข้างหน้า จะมี​การฟื้นตัว​เช่นกัน อยู่ที่ระดับ 55.47 จุด ​เพิ่มขึ้นจาก​เดือนก่อน 10.86 จุด ​หรือ 24.19% สะท้อนทัศนคติ​เชิงบวก​ในระยะกลาง ?ปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่าง​เชื่อว่าจะมีผลต่อทิศทางราคาทองคำ​ใน​เดือนส.ค.นี้ ​ได้​แก่ ​การชะลอมาตร​การ QE ทิศทางค่า​เงินดอลลาร์สหรัฐ ​และค่า​เงินบาท ​โดย​ให้น้ำหนักกับ​การชะลอ QE สูงสุดอยู่ที่ 49.72%

นอกจากนี้ ​เมื่อสอบถาม​ความต้อง​การซื้อทองคำ​ในช่วงถัด​ไป พบว่า 30.93% ของกลุ่มตัวอย่าง คาดว่าจะซื้อทองคำ ขณะที่ 34.81% คาดว่าจะ​ไม่ซื้อ ​และ 34.26% ​ไม่​แน่​ใจว่าจะซื้อทองคำ​หรือ​ไม่ ​แต่​เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติ​เชิงบวกต่อราคามากขึ้น ​แต่ยัง​ไม่​แน่​ใจต่อ​การ​เพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ​ทำ​ให้สัดส่วนต่อ​การซื้อมี​การกระจายตัว​และ​ไม่สอดคล้อง​ไป​ในทิศทาง​ เดียวกับดัชนี

นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ​ผู้อำนวย​การศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ​ผู้ค้าทองคำมี​ความคิด​เห็นว่าราคาทองคำ​ในตลาด​โลกช่วง​เดือนส.ค.​โดยรวม น่าจะ​เคลื่อน​ไหว​ในกรอบ 1,150-1,420 ดอลลาร์/ออนซ์ ​โดยกลุ่มตัวอย่าง​เชื่อว่าราคาต่ำสุด​ใน​เดือนส.ค.น่าจะอยู่​ในช่วง 1,226-1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่กรอบสูงสุดอยู่ที่ 1,226-1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ (จากกลุ่มตัวอย่างของ​ผู้ค้าทองคำราย​ใหญ่​และ​ผู้ประกอบกิจ​การนายหน้า​การ ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง)

ส่วนราคาทองคำ​แท่ง​ในประ​เทศ (​ความบริสุทธ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่าง​เชื่อว่าราคาจะ​เคลื่อน​ไหวระหว่าง 17,000-21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ ​และกรอบ​การ​เคลื่อน​ไหวต่ำสุด​ให้น้ำหนักระหว่าง 18,000-18,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ ​และกรอบ​การ​เคลื่อน​ไหวสูงสุดจะอยู่ที่ 20,000-20,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

​ทั้งนี้ ประ​เด็น​เรื่อง​การชะลอมาตร​การ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ ​เป็น​แรงกดดันสำคัญ ขณะที่​ความผันผวนของค่า​เงินบาท​เชื่อว่าจะยังกระทบต่อราคาทองคำ​ในประ​เทศ ​เดือนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องติดตาม​การขายกองทุนขนาด​ใหญ่ ​การ​เ​ก็งกำ​ไร​ในตลาด ​และ​การชะลอตัวของ​เศรษฐกิจจีน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขายคืนหมดครับ ไม่ถือ

ขอบคุณค่ะป๋า :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทอง​ในประ​เทศ​เช้านี้ปรับขึ้นจากราคาปิดวานนี้บาทละ 30 ​โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานราคาซื้อขายทองคำวันนี้(9 ส.ค.) ทองคำ​แท่ง รับซื้อบาทละ 19,350.00 ขายบาทละ 19,450.00 ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 19,071.28 ขายบาทละ 19,850.00

 

บริษัท คลาสสิก ​โกลด์ ฟิว​เจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำ​เมื่อวานนี้มีราคาปิด​เพิ่มขึ้น 24.25 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำดีดตัวขึ้น​แรง จาก​การประกาศตัว​เลข​การค้าของจีนออกมาดี​เกินคาด ​ได้​แก่ ​การส่งออก​เพิ่มขึ้น 5.1%YoY ​ในขณะที่​การนำ​เข้า​เพิ่มขึ้น 11%YoY ​แสดง​ถึง​เศรษฐกิจจีน​เริ่มมี​เสถียรภาพหลังจากที่ชะลอตัวลงมากกว่า 2 ปี

 

นอกจากนี้ราคาทองคำ​ได้​โดย​ได้รับ​แรงหนุนจาก​การอ่อนค่าของ​เงิน USD จาก​การที่​เงินยู​โร​แข็งค่าขึ้น ​เมื่อ​เยอรมัน​เปิด​เผยยอด​เกินดุล​การค้าสูง​เกินคาด

 

ส่วน​ในตลาดค้าทอง​ได้รับ​แรงหนุนจากข่าว​การผลิตทองคำจากอัฟริกา​ใต้​ใน​เดือนมิ.ย.ผลิตลดลง 14% ช่วยหนุนราคาทองคำ​ให้​เพิ่มสูงขึ้น

 

อย่าง​ไร​ก็ตาม ราคาทองคำจะยัง​ได้รับ​แรงกดดันจาก​การคาด​การณ์ว่า​เฟดจะลดขนาดมาตร​การ QE ​ใน​ไม่ช้า​ซึ่งจะ​ทำ​ให้ราคาทองปรับลดลงมา​ได้อีก นอกจากนี้ราคาทองคำ​ได้​แรงกดดันจาก​การขายทองคำออกของกองทุน SPDR

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 9 สค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ คาดเดือนสิงหาคมทองคำยังวิกฤตผันผวน จากมาตรการ QE ที่ยังไม่ชัดเจน และชะลอต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ขณะที่กองทุน SPDR เทขายทองไปแล้วตั้งแต่ต้นปีกว่า 423 ตัน แนะนักลงทุนรอจังหวะทยอยซื้อทำกำไรเมื่อราคาทองคาดอ่อนตัวในQ4

 

นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มการเทขายทองคำของนักลงทุนในเดือนสิงหาคมยังเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านมา 2 สัปดาห์ กองทุนทองคำต่างๆ ได้เทขายทองคำไปแล้วมากกว่า 10 ตัน โดยกองทุน SPDR มีการระบายทองออกจากกองทุนเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมทั้งสิ้นประมาณ 423 ตัน และมีการถือครองต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งมีจำนวนการถือครองอยู่ที่ 927.35 ตัน

 

ในส่วนของแนวโน้มของภาวะทองคำในช่วงไตรมาส 3 ยังอยู่ในช่วงขาลงจาก ปัจจัยกดดันในเรื่องของนโยบายผ่อนกคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ QE ที่จะมีความชัดเจนในการชะลอมาตรการ QE ที่ชัดเจนขึ้น โดยในเดือนกันยายนปีนี้ เป็นเดือนที่นักลงทุนคาดว่าจะมีมาตรการชะลอ QE ต่อไปจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง และนักลงทุนจะเริ่มทยอยเทขายทองออกมามากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการทองคำลดลง ส่งผลทำให้ราคาทองลดลงตามไปด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ปัจจัยค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลังยังเชื่อว่ามีความผันผวนต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการให้ความสำคัญกับเรื่องเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนประเทศไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องมาตรการรัฐที่ตลาดตอบรับในเชิงบวกไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่าง พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ทำให้ราคาทองคำในประเทศจะไม่สอดคล้องกับทิศทางในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้ราคาทองคำในประเทศไม่สอดคล้องกับทิศทางในตลาดโลก

 

อย่างไรก็ดี การลงทุนระยะนี้ควรเน้นการลงทุนในทองคำระยะสั้น เนื่องจากทิศทางราคายังคงผันผวน และลดสัดส่วนการลงทุนระยะยาว ควรหาจังหวะการขายในช่วงราคาที่เหมาะสม แล้วทยอยซื้อกลับมาในอนาคต โดยในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ราคาทองมักจะมีความผันผวนรุนแรง นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และติดตามการชะลอมาตรการ QE ในช่วง 4 เดือนหลัง ตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในช่วงท้ายต่อเนื่องถึงปีหน้า

 

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 9 สิงหาคม 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชี้ทองครึ่งปีหลังขาลง เฟดหั่นคิวอี-จีนชะลอ

ศูนย์วิจัยทองคำ ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกร่วงต่อ รับแรงกดดันจากเฟดลดคิวอี และเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว ฉุดแรงซื้อลดลง เตือนระวังลงทุนเดือนส.ค. เหตุตลาดผันผวน ขณะเจ้าหน้าที่เฟดพร้อมหั่นคิวอี หลังว่างงานปรับดีขึ้น

 

 

นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกในที่เหลือของปีนี้ จะยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากการเคลื่อนไหวราคาอาจผันผวน

 

 

"จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ค้าทองคำที่เป็นกลุ่มเป้าหมายงานวิจัย ให้คำแนะนำลงทุนว่า ควรเน้นการลงทุนทองคำระยะสั้น เพราะทิศทางราคายังคงผันผวน และควรลดสัดส่วนการลงทุนทองคำในระยะยาว"

 

 

นายภูษิต กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ การชะลอมาตรการคิวอี ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า การชะลอมาตรการคิวอี จะกระทบกับราคาทองคำในเชิงลบภายในปีนี้ รวมถึงปัจจัยเรื่องค่าเงินบาท เพราะค่าเงินบาทมีความผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากการเมืองภายในประเทศ ที่ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเริ่มถอนการลงออกจากไทย ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวต่อเนื่อง

 

 

ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจประเทศจีนที่เริ่มชะลอตัว จะกดดันความต้องการทองคำในตลาดโลก ซึ่งตามปกติแล้ว จีนมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง การชะลอตัวทางเศรษฐกิจครั้งนี้ จะทำให้ความต้องการในตลาดโลกลดลง ราคาก็จะลดลงเช่นกัน และปัจจัยการซื้อขายเก็งกำไร โดยเฉพาะการเข้าซื้อ-ขายของกองทุน SPDR ซึ่งล่าสุด มีการลงทุนในทองคำเหลือเพียง 700 ตัน ซึ่งต่ำสุดเท่าที่เคยถือครองมา

 

 

ศูนย์วิจัยทองคำ ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกร่วงต่อ รับแรงกดดันจากเฟดลดคิวอี และเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว ฉุดแรงซื้อลดลง เตือนระวังลงทุนเดือนส.ค. เหตุตลาดผันผวน ขณะเจ้าหน้าที่เฟดพร้อมหั่นคิวอี หลังว่างงานปรับดีขึ้น

 

 

นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกในที่เหลือของปีนี้ จะยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากการเคลื่อนไหวราคาอาจผันผวน

 

 

"จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ค้าทองคำที่เป็นกลุ่มเป้าหมายงานวิจัย ให้คำแนะนำลงทุนว่า ควรเน้นการลงทุนทองคำระยะสั้น เพราะทิศทางราคายังคงผันผวน และควรลดสัดส่วนการลงทุนทองคำในระยะยาว"

 

 

นายภูษิต กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ การชะลอมาตรการคิวอี ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า การชะลอมาตรการคิวอี จะกระทบกับราคาทองคำในเชิงลบภายในปีนี้ รวมถึงปัจจัยเรื่องค่าเงินบาท เพราะค่าเงินบาทมีความผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากการเมืองภายในประเทศ ที่ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเริ่มถอนการลงออกจากไทย ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวต่อเนื่อง

 

 

ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจประเทศจีนที่เริ่มชะลอตัว จะกดดันความต้องการทองคำในตลาดโลก ซึ่งตามปกติแล้ว จีนมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง การชะลอตัวทางเศรษฐกิจครั้งนี้ จะทำให้ความต้องการในตลาดโลกลดลง ราคาก็จะลดลงเช่นกัน และปัจจัยการซื้อขายเก็งกำไร โดยเฉพาะการเข้าซื้อ-ขายของกองทุน SPDR ซึ่งล่าสุด มีการลงทุนในทองคำเหลือเพียง 700 ตัน ซึ่งต่ำสุดเท่าที่เคยถือครองมา

 

 

 

 

 

เตือนลงทุนเดือนส.ค.ผันผวน

 

 

"ในเดือนส.ค. ของทุกปี มักจะมีความผันผวนของราคาทองคำ นักลงทุนจึงควรมีความระมัดระวังมาก ส่วนความผันผวนของค่าเงินบาท ก็เป็นปัจจัยที่ควรระมัดระวังในระยะสั้น"

 

 

นายภูษิต กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญ คือ ให้นักลงทุนติดตามการชะลอมาตรการคิวอี ในช่วง 4 เดือนจากนี้ เพราะจะเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางราคาทองคำในต้นปีหน้า

 

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จำนวน 11 ตัวอย่าง เชื่อว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนส.ค. โดยรวมน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่ากรอบราคาต่ำสุดในเดือนส.ค. น่าจะอยู่ในช่วง 1,226-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่กรอบสูงสุด น่าจะอยู่ในกรอบ 1,326-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 17,000-21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 18,000-18,500 บาทต่อหนึ่งบาท และมีกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดบริเวณ 20,000-20,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีประเด็นเรื่องการชะลอมาตรการคิวอี เป็นแรงกดดันสำคัญ

 

 

ขณะที่ ความผันผวนของค่าเงินบาท เชื่อว่าจะยังกระทบต่อราคาทองคำในประเทศเดือนนี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามการขายของกองทุนขนาดใหญ่ การเก็งกำไรในตลาดและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

 

 

 

 

ดัชนีราคาทองสะท้อนขาดความเชื่อมั่น

 

 

ด้าน นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย กล่าวว่า งานวิจัยศูนย์วิจัยทองคำ ประจำเดือนส.ค. 2556 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment INDEX) ประจำเดือนส.ค. นี้ อยู่ที่ 53.35 จุด ฟื้นตัวเหนือระดับ 50 จุดที่ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานของดัชนีครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยในตั้งแต่เดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่น อยู่ที่ 45.50 จุด เดือนมิ.ย. อยู่ที่ 32.91 จุด และเดือนก.ค. อยู่ที่ 33.77 จุด สะท้อนว่ากลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวหลังราคาปรับตัวลดลงติดต่อกัน

 

 

ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองกลับสวนทางความต้องการที่จะซื้อทองคำในเดือนส.ค. ของกลุ่มตัวอย่างที่ยังไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะสะท้อนถึงความไม่แน่ใจของการฟื้นตัว

 

 

สำหรับดัชนีแยกตามกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีทัศนคติไปในทิศทางเดียวกัน คือ มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น และระดับความเชื่อมั่นอยู่เหนือ 50 จุดเล็กน้อย ทั้งกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มผู้ค้า โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 52.78 จุด และ 57.36 จุดตามลำดับ ด้านดัชนีความเชื่อมั่นในระยะ 3 เดือนข้างหน้ามีการฟื้นตัวเช่นกันอยู่ที่ระดับ 55.74 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 10.86 จุด หรือ 24.19% สะท้อนทัศนคติเชิงบวกในระยะกลาง

 

 

 

 

 

นักลงทุนให้น้ำหนักคิวอีมากที่สุด

 

 

นายกมลธัญ กล่าวว่า ปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าจะมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในเดือนส.ค. ได้แก่ การชะลอมาตรการคิวอี ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ และค่าเงินบาท โดยให้น้ำหนักกับการชะลอคิวอีสูงสุด ที่ 49.72% นอกจากนี้เมื่อสอบถามความต้องการซื้อทองคำในช่วงถัดไป พบว่า 30.93% ของกลุ่มตัวอย่าง คาดว่าจะซื้อทองคำ

 

 

ขณะที่ 34.81% คาดว่าจะไม่ซื้อ และ 34.26% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ จะเห็นว่ากลุ่มตัวมีทัศนคติในเชิงบวกต่อราคามากขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจต่อการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ทำให้สัดส่วนต่อการซื้อมีการกระจายตัว และไม่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับดัชนี

 

 

 

 

 

ราคาทองขยับแม้วิตกเฟดลดคิวอี

 

 

ราคาทองคำวานนี้ (8 ส.ค.) ปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชีย แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และตลาดยังมีความวิตกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป

 

 

การถือสถานะขายมากกว่าสถานะซื้อ บ่งชี้ว่า มีแนวโน้มมากขึ้นที่ราคาทองจะร่วงลงอีกครั้ง แทนที่จะพุ่งขึ้นอย่างมาก

 

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า การถือครองทองคำของ SPDR ลดลง 0.5% สู่ 910.53 ตัน เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

 

 

สำหรับราคาทองคำภายในประเทศ สมาคมค้าทองคำมีการประกาศปรับราคา 3 ครั้งในช่วงบ่ายวานนี้ โดยราคาครั้งหลังสุด ทองคำแท่งรับซื้อคืน 19,050 บาทต่อบาททองคำ และขายออก 19,150 บาทต่อบาททองคำ

 

 

 

 

 

ประธานเฟดคลีฟแลนด์ชี้พร้อมหั่นคิวอี

 

 

นางแซนดรา เพียนัลโต ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆ นี้ ถ้าหากการปรับตัวดีขึ้นในระยะนี้ของตลาดการจ้างงานในสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป

 

 

ถึงแม้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เพิ่มขึ้นเพียง 162,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำเกินคาด แต่ นางเพียนัลโต ก็มุ่งความสนใจไปที่ความแข็งแกร่งของการจ้างงานในระยะนี้

 

 

นางเพียนัลโต กล่าวว่า "การจ้างงานเติบโตขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งกว่าที่ดิฉันคาดการณ์ไว้ และอัตราการว่างงานในปัจจุบันนี้ก็อยู่ในระดับต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย. ปีที่แล้ว ราว 0.5%"

 

 

"ถ้าหากตลาดแรงงานยังคงปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นเหมือนกับในช่วงหลังฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ดิฉันก็พร้อมที่จะปรับลดอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือน" นางเพียนัลโตกล่าว

 

 

ทั้งนี้ เฟดดำเนินมาตรการคิวอี ในปัจจุบันด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ในอัตรา 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

 

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ส.ค. ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐเพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 184,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานลดลงสู่ 7.4% ในเดือนก.ค. จาก 7.6% ในเดือนมิ.ย.

 

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ส่งสัญญาณบ่งชี้ในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. ว่า เฟดอาจจะปรับลดขนาดคิวอีลงในอนาคต โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี อยู่ที่ 2.599% ในช่วงท้าย วานนี้ เทียบกับระดับต่ำสุดในเดือนพ.ค. ที่ 1.614%

 

 

 

 

 

ยันไม่เกี่ยวปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

 

อย่างไรก็ดี นางเพียนัลโต ตั้งข้อสังเกตว่า การปรับลดวงเงินคิวอีไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เฟดกำลังจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นางเพียนัลโตกล่าวว่า "ตลาดแรงงานยังไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นถึงแม้ว่าเฟดปรับลดขนาดโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ แต่เฟดก็จะยังคงมีภาระผูกพันในการส่งเสริมการเติบโตด้านการจ้างงาน และส่งเสริมเสถียรภาพของราคา"

 

 

เจ้าหน้าที่เฟด กล่าวว่า ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ เฟดก็จะไม่พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าอัตราการว่างงาน จะร่วงลงแตะ 6.5%

 

 

ด้าน นายโจเซฟ ลาวอร์ญา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐ ของ ธนาคารดอยช์ แบงก์ กล่าวว่า "เฟดจะปรับลดขนาดคิวอีลงในช่วงต่อไปในปีนี้อย่างแน่นอน แต่ เฟด ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะปรับลดเมื่อใด ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้อยู่ในภาวะที่ดีกว่าในช่วงที่เฟดเริ่มต้นใช้มาตรการคิวอี เป็นอย่างมาก"

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บีโอเจคงแนวนโยบายการเงินในการประชุมครั้งล่า สุด พร้อมเตือนระวังวินัยการคลัง เสนอรัฐสามารถขึ้นภาษีการค้าตามที่วางแผนไว้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาเงินฝืด

 

โดย นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ให้ความเห็นว่า การละเลยการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นอย่างจริงจัง จะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และอาจทำให้เกิดการเทขายพันธบัตรรัฐบาลในปริมาณมาก จนส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทน ซึ่งสะท้อนต้นทุนการระดมทุนในระยะยาว

 

ทั้ง นี้ นายกรัฐมนตรี นายชินโซะ อาเบะ ได้สั่งให้รัฐบาลเชิญนักวิชาการและผู้นำธุรกิจ ร่วมประชุมเพื่อประเมินผลกระทบของมาตรการภาษีต่อภาคเศรษฐกิจจริง ในช่วงปลายเดือนนี้

 

สำหรับเรื่องการคาดการณ์เศรษฐกิจในระยะต่อไปนั้น นายคุโรดะเปิดเผยว่า บอร์ดบีโอเจ เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นประมาณการเศรษฐกิจในตอนนี้ เนื่องจากเห็นว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่และน่าจะรอดูข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่า นี้ก่อน

 

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นับว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับข่าวดีหลายอย่าง อาทิ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มปรับสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบปี การจ่ายเงินโบนัสปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ต่ำสุดในรอบ 4.5 ปี นอกจากนี้ การให้สินเชื่อยังขยายตัวถึงเกือบ 2% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่สูงที่สุดในรอบ 4 ปี สะท้อนว่านโยบายของบีโอเจเริ่มจะส่งผลไปยังภาคเศรษฐกิจจริงแล้ว

 

ที่มา: money channel (วันที่ 9 สค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 31.18/20 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.24/26 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดเริ่มกลับอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์

 

ทิศทางเงินบาทวันนี้คาดว่าจะเป็นแนวโน้มแข็งค่า ตามสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลจากสถานการณ์การการชุมนุมทางการเมืองในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ทำให้ก่อนหน้านี้มีการซื้อดอลลาร์เก็บไว้ แต่จากล่าสุดที่สถานการณ์ผ่านไปโดยไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เงินบาทจึงเริ่มกลับไปแข็งค่า

 

"sentiment ของเงินบาทวันนี้น่าจะกลับมาแข็งค่าแล้ว แต่อาจมีรีบาวน์เล็กน้อย เพราะลงมาเร็วมาก อาจจะกลับขึ้นไปอ่อนค่าเล็กน้อย แต่คงไม่น่าจะเป็น trend อ่อนค่าแล้ว เพราะค่าเงินในภูมิภาคเองแข็งค่าติดต่อกันหลายวันแล้ว" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.08-31.29 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยเด่นที่จะส่งผลต่อเงินบาทวันนี้ ประกอบกับจะเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่อง 3 วัน เงินบาทคงไม่เคลื่อนไหวมากนัก

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 96.62 เยน/ดอลลาร์ จากปิดตลาดช่วงเย็นวานที่ระดับ 96.28 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 1.3381 ดอลลาร์/ยูโร จากปิดตลาดช่วงเย็นวานที่ 1.3360 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.3280 บาท/ดอลลาร์

 

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตือนสัญญาณค้างชำระหนี้ในสินเชื่ออุปโภคบริโภคเริ่มชัดขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สะท้อนจากเริ่มมีคนค้างชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้นถึง 6 หมื่นล้านบาทหรือคิดเป็น 6.8% จากไตรมาสก่อน 6.2%ขณะที่แบงก์กำไรลดลง 12.5% ในไตรมาส 2 เหตุเร่งกันสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น ชี้แนวโน้มสินเชื่อแผ่วตามอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกไทย

 

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.อยู่ระหว่างการประมาณการเศรษฐกิจใหม่ จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้แค่ 4-4.5% แต่เมื่อรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 5-5.5%

 

- ธนาคารกรุงไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นลูกค้านักธุรกิจ Q2/56 ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 ไตรมาส เหตกังวลกำลังซื้อ ส่งออกซบ เศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นมาตรการคิวอีใกล้ยุติพาณิชย์รอปรับเป้าอีก 1-2 เดือน

 

- เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(8 ส.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หรือไม่ แม้เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระยะก็ตาม

 

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังบริษัท นิคอน คอร์ป ประกาศลดคาดการณ์ผลกำไร ขณะที่นักลงทุนจับตาจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยจีนมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนก.ค. และผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ค.

 

ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติสิงคโปร์

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 97 เซนต์ ปิดที่ 103.4 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 76 เซนต์ ปิดที่ 106.68 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจทำให้เฟดลดขนาดมาตรการ QE

 

- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล แตะ 223.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงถึง 400,000-800,000 บาร์เรล

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ ได้แรงหนุนจากการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 24.6 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 1,309.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- คืนนี้นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนมิ.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกสินค้าภาคค้าส่งจะเพิ่มขึ้น 0.4% และคาดว่ายอดค้าส่งจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 9 สิงหาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ว่าอัตราการว่างงานของชาวกรีกยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดจนกลายเป็นสถิติใหม่อีก ครั้ง

 

รายงานของกระทรวงแรงงานกรีซเมื่อวันพฤหัสบดีระบุอัตราว่างงานประจำเดือน พ.ค.อยู่ที่ 27.6% เพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนเม.ย. 0.6% กลายเป็นสถิติใหม่อีกครั้ง ขณะที่จำนวนประชาชนว่างงานในระยะยาวตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 200,000 คน เป็น 1.38 ล้านคน

 

รัฐบาลยอมรับด้วยว่า กำลังมีความกังวลในสถานภาพของวัยรุ่นและคนหนุ่มสาววัยทำงานมากที่สุด เนื่องจากกลุ่มคนอายุระหว่าง 15-24 ปี กำลังว่างงานมากถึง 65%

 

กรีซขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากเจ้าหนี้กลุ่ม "ทรอยกา" ซึ่งประกอบด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) สหภาพยุโรป ( อียู ) และธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) มาตั้งแต่ปี 2553 ภายใต้วงเงิน 2.4 แสนล้านยูโร ( ราว 9.9 ล้านล้านบาท ) แต่ต้องแลกมาด้วยการปฏิบัติตามมาตรการที่เคร่งครัดหลายข้อ เพื่อแสดงให้เจ้าหนี้เห็นว่า เงินช่วยเหลือจะถูกนำไปใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศขึ้นมาได้

 

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ของกรีซ ตกลงอย่างต่อเนื่องกว่า 30% ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา

 

ที่มา: เดลินิวส์(วันที่ 9 สค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...