ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[modtanoiy 126]

ป๋าเข้าแล้วตะโกนด้วยนะคะ

[poonim 85]

วันนี้คุณป๋ายังไม่มาเลย รอฟังคุณป๋าอยู่นะคะ

[กิบเก๋ 48]

ป๋าไปไหนน๊า มารอแต่เช้าล่ะค่ะ

[Pete 15,187]

เข้าโบสถ์อัสสัมฯ อยู่ครับ 80 ปี มรณภาพบาทหลวงกอลมเบต์

[chaiklang 161]

โอ้ว ป๋า ไปร่วมงานสำคัญนี่เอง

 

สมาชิกคิดถึงกันใหญ่

 

เช้านี้รถติด เดินทางอย่าหงุดหงิดกันนะครับ

[Pete 15,187]

สรุปสั้นๆ ตอนนี้ก่อนว่า มีย่อ ตามรหัส 7,5,2 ที่แดงยังอยู่ข้างล่างเส้นสีดำ เหนื่อยจะคิดกับค่าเงินบาทจังเลย

[Pete 15,187]

เพราะในรหัส 12,26,9 และ 5,35,9 ยังไม่มีการตัดกัน ยังให้ " ทนถือ ถือทน " กันต่อไป

[Pete 15,187]

อย่าไว้ใจเงินบาท ว่ามันจะอ่อนนะครับ

[namchiang 468]

น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯขึ้นจากข้อมูลศก.จีนและยูโรโซน ทองคำทรงตัว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 สิงหาคม 2556 05:17 น.

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้(22) ขยับขึ้น จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและยูโรโซน แต่ปัจจัยนี้ก็ผลักให้ทองคำปิดบวกได้ในกรอบแคบๆเท่านั้น หลังยังมีความกังวลว่าเฟดอาจลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 109.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

อุปสงค์ทางพลังงานได้แรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจในยุโรป หลังบริษัทมาร์กิต เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมของยูโรโซนในเดือนสิงหาคม ซึ่งพบว่ากิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่แข็งแกร่งสุดในรอบ 26 เดือน

 

นอกจากนี้แล้วราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยเสริมจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ของภาคการผลิตจีน ที่เพิ่มขึ้นจาก 47.7 จุด อันเป็นระดับต่ำสุดรอบ 11 เดือนในเดือนกรกฎาคม สู่ 50.1 จุดในเดือนสิงหาคม คลายข้อวิตกของนักลงทุนก่อนหน้านี้ที่กังวลว่าเศรษฐกิจแดนมังกรอาจหยุดชะงัก

 

ปัจจัยข้างต้นส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(22) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง แม้ต้องระงับการซื้อขายแนสแดกชั่วคราวเป็นเวลาราว 3 ชั่วโมง จากปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์

 

ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 66.12 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,963.67 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 14.15 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,656.95 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 38.92 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,631.78 จุด

 

อย่างไรก็ตามข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนและจีน ไม่สามารถผลักให้ราคาทองคำทะยานไปข้างหน้าได้ โดยวานนี้(22) ปิดบวกแค่เล็กน้อยเท่านั้น หลังรายงานการประชุม(minutes) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่สามารถกลับความกังวลของนักลงทุนว่าเฟดจะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนหน้า โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 1,370.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000105250

[กมลทิพย์ 146]

สวัสดีค่ะ คุณป๋า มาเฝ้ารอ รอ รอ ป๋าบ่นอยู่น๊ะค๊ะ

[namchiang 468]

แถลงการณ์เฟด ฉุดบาทร่วงหนักสุดในรอบ 3 ปี

 

updated: 22 ส.ค. 2556 เวลา 18:15:08 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2556 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.05/07 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (21/8) ที่ระดับ 31.81/83 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค โดยค่าเงินบาทได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากมีการประกาศตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5% สู่ระดับ 5.39 ล้านยูนิต ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.15 ล้านยูนิต นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 30-31 กรกฎาคม ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะมีการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในเดือนหน้า ถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจแสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี ในระหว่างวันค่าเงินบาทมีการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างผันผวนและแตะระดับสูงสุดที่ระดับ 31.15 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วในภาคบ่ายลงมาแตะที่ระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ว่า ถ้าหากค่าเงินอ่อนค่าแรงและเร็วเกินไปก็พร้อมที่จะเข้ามาดูแลทันที อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนสิงหาคมของสหรัฐในวันที่ 6 กันยายน เพื่อตัดสินใจว่าตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นเพียงพอที่จะสนับสนุนการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงหรือไม่ ทั้งนี้ ในระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 32.00-32.15 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.10/13 บาท/ดอลลาร์

 

สำหรับค่าเงินยุโรวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1.3339/41 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (21/8) ที่ระดับ 1.3404/07 ดอลลาร์/ยูโร เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับมาตรการชะลอโครงการเข้าซื้อ สินทรัพย์ของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่า จัดซื้อภาคธุรกิจของเยอรมันในเดือนสิงหาคมออกมาดีเกินคาด โดยขยายตัว 52 จากระดับ 50.7 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม นับเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังฟื้นตัว หลังจากที่ชะลอตัวในช่วงต้นปีนี้ประกอบกับกิจกรรมาทางธุรกิจทั่วยูโรโซนที่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมปรับตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.3 จากระดับ 50.3 ในเดือนก่อนหน้า แสดงถึงเศรษฐกิจของยุโรโซนฟื้นตัวมากขึ้น ในระหว่างวันกรอบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยุโรอยู่ที่ระดับ 1.3305-1.3364 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.3306/08 ดอลลาร์/ยูโร

 

สำหรับค่าเงินเยนวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 97.86/88 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (21/8) ที่ 97.46/47 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายนโยบายเชิงปริมาณของสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวัน รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมออกมาค่อนข้างดี แต่ยังคงต้องจับตาดูตัวเลขอย่างต่อเนื่องเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ค่าเงินเยนมีกรอบการเคลื่อนไหวของระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 97.55-98.74 เยน/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 98.66/70 เยน/ดอลลาร์

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการผู้ว่างงานประจำสัปดาห์, ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเยอรมนี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน, ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯเดือนกรกฎาคม, และการประชุมประธานธนาคารกลางสำคัญต่าง ๆ ที่เมืองแจ็คสันโฮล

 

อัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +5.4/5.6 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +20/25 สตางค์/ดอลลาร์

 

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับประชาชาติธุรกิจออนไลน์

www.facebook.com/prachachat

หรือติดตามผ่าน ทวิตเตอร์ @prachachat

[namchiang 468]

23 สิงหาคม 2556 08:27

เปิดรายงานเฟดเขย่าตลาดเงิน-หุ้นทั่วโลก

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เฟด,คิวอี,ธนาคารกลางสหรัฐ,

เปิดรายงานเฟดเขย่า"ตลาดเงิน-หุ้น"ทั่วโลก แม้ยังไม่ชัดเจนแผนลดขนาดคิวอี

 

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมในวันที่ 30-31 ก.ค. ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกอีกครั้ง แม้เฟดแทบไม่ได้ชี้ชัดเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่จะปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) แต่รายงานดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุน'ตีความ' มีความเป็นไปได้เฟดจะปรับลดคิวอีในเดือนก.ย. โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้]

 

รายงานดังกล่าวระบุว่ากรรมการในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เกือบทั้งหมดจาก 12 คนเห็นพ้องกันว่าการเปลี่ยนแปลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่เหมาะสมในขณะนี้

 

ขณะที่มีกรรมการเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องชะลออัตราการกระตุ้นเศรษฐกิจลงบางส่วน

 

เฟดดำเนินมาตรการคิวอี ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวงเงินรวมกัน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือน เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการตัดงบรายจ่ายของรัฐบาล และภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในต่างประเทศ

 

ตลาดทั่วโลกกำลังรอดูว่าเมื่อใดเฟดจะเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (คิวอี3) โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเริ่มต้นปรับลดคิวอี 3 ในเดือนก.ย.

 

รายงานการประชุมเฟดดังกล่าวแทบไม่ได้ส่งสัญญาณบ่งชี้ถึงกำหนดเวลาในการปรับลดคิวอี 3 และไม่ได้ระบุถึงเดือนก.ย.อย่างเฉพาะเจาะจง

 

อย่างไรก็ดี รายงานการประชุมครั้งนี้ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณที่สวนทางกับการคาดการณ์ในเรื่องนี้เช่นกัน

 

รายงานการประชุมเฟดระบุว่า "กรรมการบางคนย้ำถึงความสำคัญในการใช้ความอดทน และการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจปรับเปลี่ยนอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์"

 

"ในขณะเดียวกัน กรรมการบางคนก็ระบุถึงแผนรับมือกับสถานการณ์ที่คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีได้ระบุไว้ในเดือนก่อนหน้านี้ และเสนอแนะว่าในเร็วๆนี้อาจจะถึงเวลาสำหรับการชะลออัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ลงบ้างตามที่ระบุไว้ในแผนดังกล่าว"

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวพุ่งสูงขึ้น หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว ในขณะที่ตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนส่วนดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและยูโร

 

ตลาดพันธบัตรเคยเผชิญกับแรงเทขายอย่างฉับพลันในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดคาดว่าจะปรับลดขนาดวงเงินในมาตรการคิวอี3 ในช่วงต่อไปในปีนี้ และจะยุติคิวอี 3 ภายในช่วงกลางปีหน้า

 

สกุลเงินรูปีของอินเดียและรูเปี๊ยะห์ของอินโดนีเซียดิ่งลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดจะส่งผลให้ตลาดเกิดใหม่ประสบภาวะขาดแคลนเงินทุน

 

เฟดได้ดำเนินมาตรการแบบพิเศษในการส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สหรัฐในช่วงที่ผ่านมา และเฟดต้องการที่จะเห็นเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และเห็นตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น ก่อนที่เฟดจะปรับลดขนาดคิวอี 3

 

ผู้กำหนดนโยบายให้สัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0 % อย่างน้อยจนกว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 6.5 % และตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม โดยอัตราการว่างงานอยู่ที่ 7.4 % ในเดือนก.ค. เทียบกับระดับ 7.9 % ในเดือนต.ค. 2012

 

รายงานการประชุมเฟดระบุว่า ผู้กำหนดนโยบายตั้งข้อสังเกตว่าอัตราการว่างงานลดลงมามากแล้วนับตั้งแต่เฟดเริ่มต้นเข้าซื้อตราสารหนี้รอบล่าสุดในเดือนก.ย. 2555 อย่างไรก็ดี มีสัญญาณบางประการที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น "เพียงเล็กน้อย" เช่น การที่ชาวสหรัฐจำนวนมากเลิกหางานทำ

 

เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงสู่ระดับใกล้ 0 % ในเดือนธ.ค. 2008 และได้เพิ่มขนาดงบดุลขึ้นกว่า 3 เท่า สู่ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยผ่านทางการเข้าซื้อตราสารหนี้หลายรอบในช่วงที่ผ่านมา

 

รายงานการประชุมเฟดแสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายบางคนเต็มใจที่จะพิจารณาปรับลดเกณฑ์อัตราการว่างงานลงจาก 6.5 % ถ้าหากมีการมองว่าเฟดจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่าเดิม แต่บางคนกังวลว่าการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้ตลาดมองว่า เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเกณฑ์อัตราการว่างงาน

 

เฟดไม่ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างเป็นทางการในการประชุมประจำวันที่ 30-31 ก.ค. โดยเฟดระบุในแถลงการณ์ในวันที่ 31 ก.ค.ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ

 

อัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในปีนี้อาจกระตุ้นให้เฟดดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป โดยผู้กำหนดนโยบายของเฟดตั้งข้อสังเกตว่า การที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2 % อย่างต่อเนื่อง "อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ"

 

อย่างไรก็ดี ผู้กำหนดนโยบายยังคงคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

 

ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะนี้แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ 2 % ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแนวคิดข้างต้น

 

ยอดขายบ้านและยอดค้าปลีกของสหรัฐอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เกินคาดในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอยู่ในระดับต่ำเกินคาด และมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเติบโตเร็วขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

 

ตลาดการเงินแกว่งตัวผันผวนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอี 3

 

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นกว่า 1 % นับตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยดีดตัวขึ้นจาก 1.6140 % ในวันที่ 1 พ.ค. สู่ 2.9194 % ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ ปี 2554

 

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในสินเชื่อจำนองและตลาดบ้าน และทำให้เจ้าหน้าที่เฟดบางรายตั้งข้อสังเกตว่า อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่พุ่งสูงขึ้นกำลังส่งผลเชิงลบต่อปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม

 

ผู้กำหนดนโยบายบางราย "แสดงความเชื่อมั่นว่า การฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยจะรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ถึงแม้เผชิญกับอัตรา ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น"

 

http://www.bangkokbiznews.com

[Pete 15,187]

โกลเบล็กฯ มองกรอบราคาทองคำวันนี้ที่ 1,355-1,403 ดอลลาร์/ออนซ์ (23/08/2556)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเม้นท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (23 สิงหาคม 2556) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ให้ทยอยขายทำกำไรที่แนวต้าน $1,384-1,403/Oz ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ให้ทยอยขายทำกำไรที่แนวต้าน $1,403/Oz

 

ภาพรวมตลาดวานนี้

 

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวขึ้น $12.23/Oz หรือ 0.90% มาอยู่ที่ $1,375.50/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,355.00-1,381.56) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากดัชนีภาคการผลิตยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.3 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจในแถบยูโรโซนเริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง และในช่วงหัวค่ำสหรัฐประกาศยอดผู้ขอรับสวัสดิการออกมาเพิ่มขึ้น 13,000 รายซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามดัชนีชี้นำที่ทำการสำรวจโดย CB และดัชนีภาคการผลิตสหรัฐที่ทำการสำรวจโดย Markit ได้ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 0.6% และ 53.9 จุดตามลำดับบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐค่อย ๆ พื้นตัวส่งผลให้นักลงทุนกลับมาวิตกเกี่ยวกับการลดมาตรการ QE จากเฟดอีกครั้งและหันมาถือครองเงินดอลลาร์เพิ่มส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

 

Gold – ราคาพักตัวออกข้างเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันโดยเส้นค่าเฉลี่ย 5, 10, 25 และ 75 วันยังเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ โดยการพักตัวดังกล่าวทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ที่ $1,355-1,403/Oz

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 23 สิงหาคม 2556)

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะกรอบบน 98 เยน หลังตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่ง (23/08/2556)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะกรอบบนของ 98 เยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก

 

 

ณ เที่ยงวันนี้ ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 98.94-98.97 เยนเมื่อเทียบกับ 98.67-98.77 ที่ตลาดนิวยอร์กและ 98.21-98.22 เยนที่ตลาดโตเกียว ณ เวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้

 

 

ยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.3348-1.3349 ดอลลาร์และ 132.08-132.15 เยนเมื่อเทียบกับ 1.3352-1.3362 ดอลลาร์และ 131.80-131.90 เยนที่ตลาดนิวยอร์กและ 1.3351-1.3352 ดอลลาร์และ 131.12-131.16 เยนที่ตลาดโตเกียวในช่วงบ่ายวานนี้

 

 

สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเนื่องจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นยุโรปและ สหรัฐเมื่อคืนนี้ เช่นเดียวกับหุ้นโตเกียวและหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย จากข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวก นักลงทุนจึงคลายความกังวลเรื่องหุ้นอ่อนแอเมื่อเร็วๆ นี้

 

 

การปรับตัวขึ้นของหุ้นมักจะทำให้ดอลลาร์ปรับขึ้นเมื่อเทียบเงินเยน เนื่องจากจะไปกระตุ้นความต้องการซื้อและลดอุปสงค์เงินเยน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 23 สค.56)

 

 

[Pete 15,187]

ปธ.เฟดดัลลัสย้ำท่าทีหนุนเฟดเริ่มชะลอ QE ในเดือนก.ย. (23/08/2556)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ได้เน้นย้ำถึงท่าทีที่ต้องการให้เฟดเริ่มชะลอการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8.5 หมื่นล้านต่อเดือนในเดือนก.ย.นี้ แต่ก็ยอมรับว่าการตัดสินใจของเฟดจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ

นายฟิชเชอร์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า เขายังคงสนับสนุนให้เฟดปรับลดสัดส่วนของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดในเดือนก.ย. หากภาวะเศรษฐกิจในช่วงระหว่างนี้ไปจนถึงการประชุมดังกล่าวไม่ได้เลวร้ายมาก นัก

ทั้งนี้ ประธานเฟดดัลลัสยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เฟดรายอื่นๆก็มีความคิดเห็นในทิศทาง เดียวกับเขา โดยในรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ประจำวันที่ 30-31 ก.ค.ที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ระบุว่าสมาชิกหลายรายมองว่าในเร็วๆนี้อาจจะถึงเวลาที่จะชะลอสัดส่วนการซื้อ สินทรัพย์ลงบ้าง

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 23 สค.56)

[Pete 15,187]

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา สมาคมค้าทองคำได้ประกาศปรับราคาซื้อขายทองคำในประเทศไทย โดยตลอดทั้งวันมีการปรับราคาทั้งหมด 5 ครั้ง ส่งผลให้ราคาทองปรับเพิ่มขึ้น 250 บาท โดยราคาปิดซื้อขายทองคำ 96.5% พบว่า ราคารับซื้อทองคำแท่งอยู่ที่บาทละ 20,700 บาท ขายออกบาทละ 20,800 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 20,405.36 บาท และขายออกบาทละ 21,200 บาท

 

 

น.ส.ณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อตลาดทองคำในประเทศ ทำให้ราคาทองปรับเพิ่มขึ้น โดยราคาขายออกทองคำแท่งสามารถปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับบาทละ 20,800 บาท รวมถึง ตลาดทองคำในต่างประเทศยังคงปรับตัวได้ดีอยู่ที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวได้ดีต่อเนื่อง

 

ที่มา: เดลินิวส์(วันที่ 23 สค.56)