ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

Support: - 1315.20, 1307.77, 1294.70 and 1282.33(main).

Resistance: - 1330.95, 1346.24, 1361.25 and 1378.53(main)

 

1315.20 ด่านต้านแตกๆๆๆๆๆ มุ่งหน้าไปที่ 1330.95 ด่านต้านต่อไป สู้ๆๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้ค้าทองตบเท้าพบผู้ว่าธปท.

วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 21:54 น.

 

สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ เตรียมตบเท้าเข้าพบ ผู้ว่าแบงก์ชาติ หวังชี้แจงกระแสข่าวเก็งกำไรค่าเงินผ่านทองคำ ด้านกลต.พร้อมให้ความร่วมมือดูแลบริษัทสมาชิก

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำรายใหญ่ของไทย เพื่อหารือถึงกรณีที่มีข่าวว่าผู้ประกอบการได้เก็งกำไรค่าเงินจากการซื้อขายทองคำ ว่า สมาคมฯ เตรียมเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อชี้แจงและกำหนดแนวทางแก้ปัญหาการเก็งกำไรค่าเงินผ่านตลาดทองคำ เพราะทางผู้ประกอบการทองคำจะไม่มีการเก็งกำไรด้วยวิธีการดังกล่าว เนื่องจากได้ประกันความเสี่ยงผ่านสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งการซื้อขายทองคำแต่ละครั้งจะมีการรายงานให้ธปท.รับทราบ ซึ่งถือว่ามีข้อมูลที่ชัดเจน

 

นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า สมาคมฯ อยู่ระหว่างรอคำตอบจากผู้ว่า ธปท. ว่าจะให้เข้าพบในช่วงใด เพื่อชี้แจงถึงกรณีต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกทองคำที่ได้หารือกันเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ประกอบด้วยผู้ประกอบการทั้งหมด 7 ราย และมีส่วนแบ่งการตลาดรวมถึง 90%

 

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท. ยังไม่ได้เข้าหารือเรื่องการซื้อขายทองคำเพื่อเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนกับ ก.ล.ต.แต่อย่างใด แต่ ก.ล.ต.พร้อมหารือและให้ความร่วมมือกับธปท. ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการทองคำในเรื่องดังกล่าว แม้การซื้อขายทองคำแท่งหรือรูปพรรณจะไม่ใช่หน้าที่ของก.ล.ต. เพราะมีคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการของกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ ขณะที่ก.ล.ต.จะดูแลบริษัทสมาชิกที่ดำเนินธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เท่านั้น หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดทำอะไรที่ไม่เหมาะสม ก.ล.ต.จะตักเตือน เพราะเป็นการทำธุรกิจที่กระทบกับเศรษฐกิจของไทย

 

นายธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ก.ล.ต.สามารถดูแลและตรวจสอบผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ 3 ส่วน คือ ดูว่าการซื้อขายทองคำนั้น เป็นการซื้อขายล่วงหน้าล่วงหน้าหรือไม่ และหากพบว่าเป็นการซื้อขายล่วงหน้า จะเข้าไปตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมมีใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) ที่ถูกต้อง หรือเป็นผู้ประกอบการเถื่อนหรือไม่ รวมถึงจะตรวจสอบว่าได้ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามใบอนุญาตกำหนดหรือไม่.

 

http://www.dailynews.co.th/businesss/235460

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

​ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยอมรับหารือร่วมกระทรวงการคลัง คุมการซื้อขายทองคำ หลังพบส่วนเกี่ยวข้องการเก็งกำไรค่าเงิน

 

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อวางกติกาในการซื้อขายทองคำของบริษัทร้านค้าทอง และบริษัทนายหน้าซื้อขายทองคำ หรือโบรกเกอร์ เพื่อป้องกันการใช้ช่องทางการซื้อขายทองคำ มาเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน

 

ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามการซื้อขายทองคำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำ ที่มีการชำระราคาในทันที หรือ spot (สปอต) ที่ปัจจุบัน ยังไม่ได้มีกฎหมายใดเข้ามาดูแล ในขณะที่การซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า อยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ปี 2546 ของ ก.ล.ต.

 

ส่วนการซื้อขายทองคำในตลาดทองคำทั่วไป อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติ เงินตรา นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการเก็งกำไรจากอัตราแลกเลี่ยน เนื่องจากมีตัวเลขการซื้อขายทองคำน้อยกว่าตัวเลขการซื้อขายเงินตราต่างประเทศแบบมีนัยสำคัญ

 

ทั้งนี้ ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเข้าไปดูแลในส่วนดังกล่าว เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดซื้อขายทองคำที่อยู่นอกพระราชบัญญัตว่าจะต้องมีการควบคุมอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะปัจจุบันประชาชนนิยมซื้อขายทองคำเพื่อการเก็งกำไร มากกว่าการซื้อเพื่อสวมใส่ และยังพบว่าการซื้อขายทองคำออนไลน์ ไม่ได้มีการส่งมอบทองคำจริง

by Yupaporn

http://news.voicetv.co.th/business/82796.html

23 กันยายน 2556 เวลา 16:16 น.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เริ่มต้นวันใหม่ วันพุธ กับกราฟรหัส MACD 12,26,9 แบบดั้งเดิม ยังนิ่งเฉยไม่ให้ทำอะไรในด้านซื้อเข้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ส่ง Signal ยังไม่มีสัญญานนำทาง ด้านซื้อเข้า เต็มๆๆ สักที เส้นดำเส้นแดงยังห่างออกจากกันเช่นเดิม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 7,5,2 แบบไวไว เส้นสีแดงเห็นว่าอยู่ข้างล่าง ใต้เส้นสีดำ หวาดระแวงนะว่า ราคาปิดพรุ่งนี้จะออกมาต่ำกว่า 1323 การเล่นแทงสูงต่ำ ต้องระวังให้มากกรณีไปไล่ตามยาวเกินไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันนิวยอร์กลง กังวลวิกฤตตัดลบงบประมาณสหรัฐฯฉุดหุ้น-ทองคำปิดลบ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2556 05:31 น.

 

 

 

 

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้(24)ขยับลง นักลงทุนคลายกังวลทางอุปทาน หลังวิกฤตโครงการนิวเคลียร์อิหร่านส่อแววคลี่คลายด้วยการเจรจา ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำปรับลด จับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่เดโมแครตและรีพับลิกันยังงัดข้อกันอยู่

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 108.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวในแดนลบของราคาน้ำมันเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนหนึ่งมาจากโอกาสลดน้อยถอยลงเรื่อยๆที่สหรัฐฯจะใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ขณะเดียวกันอีกปัจจัยที่คลายความกังวลทางอุปทานแก่นักลงทุนก็คือความเป็นไปได้ของการใช้แนวทางด้านการทูตคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่าน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(24) ปิดผสมผสานในกรอบแคบๆ นักลงทุนจับตาขัดแย้งด้านการตัดลบงบประมาณในสภาคองเกรส ขณะที่เส้นตายซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องหยุดทำงานตั้งแต่วันอังคารหน้า (1 ต.ค.) หากสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ก็ขยับเข้าใกล้มาทุกที

 

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 66.47 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,334.91 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.38 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,679.49 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 2.97 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,768.25 จุด

 

นักลงทุนจับตาอย่างเป็นกังวล ก่อนหน้าเส้นตายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลจะมาถึงในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ขณะที่ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงเห็นต่างกัน ทั้งนี้หากร่างกฎหมายนี้ไม่ผ่านสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางบางส่วนต้องปิดทำการตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป

 

ปัจจัยนี้ประกอบกับยังมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(24) ขยับลงพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000120763

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ทรูเกตเวย์เดี้ยง ลูกค้าโวยเน็ตช้า/เปิดเว็บ ตปท.ไม่ได้

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 16:21 น.

 

 

 

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

 

ทรูรับอินเทอร์เน็ตเกตเวย์เส้นที่เชื่อมจากภาคใต้ออกต่างประเทศมีปัญหา ทำให้ลูกค้าทั่วประเทศที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยังต่างประเทศเกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อได้ หรือเกิดอาการช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เบื้องต้นสลับเส้นเชื่อมต่อแล้วช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้น

 

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ (24 ก.ย.) ได้เกิดปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตในส่วนที่ต้องเชื่อมต่อออกต่างประเทศมีอาการช้าหรือเชื่อมต่อเว็บไม่ได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้งานไปยังลิงก์ต่างประเทศหรือเว็บต่างประเทศ เช่น เว็บไซต์ Google และ Yahoo โดยเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ของผู้ประกอบการเกิดการขัดข้องในบางส่วน

 

แหล่งข่าวจากทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ระบุว่า ปัญหาอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วช้าลงในขณะนี้เกิดขึ้นจากเกตเวย์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตต่างประเทศเส้นที่เชื่อมออกจากทางใต้ของประเทศไทยไปยังต่างประเทศเกิดปัญหาขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าทั่วประเทศที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยังต่างประเทศเกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อได้ หรือเกิดอาการช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

 

“การใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศตอนนี้ยังสามารถใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าออกไปต่างประเทศจะมีอาการช้าลง เนื่องจากเส้นที่เชื่อมต่อออกจากทางใต้เกิดปัญหาขึ้น แต่ทางทรูก็ยังมีเกตเวย์ที่เชื่อมต่อออกไปทางอื่นอยู่ด้วยเช่นกัน”

 

เบื้องต้นทางทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ กำลังค้นหาสาเหตุเพื่อทำการแก้ไขอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางทรูได้ทำการสลับสายที่เชื่อมต่อออกไปยังต่างประเทศแล้ว ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขไปบางส่วน ขณะที่สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นยังต้องรอรายงานสรุปผลอีกครั้งหนึ่ง

 

โดยทางทรูได้รับแจ้งปัญหาดังกล่าวในช่วงเวลา 13.00 น. และทางทรูสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 66.79 จุด จากความไม่แน่นอนเฟดลด QE

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 กันยายน 2556 06:13:14 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,334.59 จุด ลดลง 66.79 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,697.42 จุด ลดลง 4.42 จุด หรือ -0.26% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,768.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือ +0.08%

 

 

 

นักลงทุนและนักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างก็จับตาดูความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด หลังจากที่เฟดได้สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดด้วยการตัดสินใจที่ยังไม่ชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งสวนกระแสคาดการณ์ในวงกว้างที่ว่าเฟดจะปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรลง 1.0-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากในปัจจุบันที่มีวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

 

ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้กลายมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ประเมินว่า เฟดอาจลดวงเงินซื้อพันธบัตรเล็กน้อยในการประชุมเดือนต.ค. หลังจากที่สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดมีมติอย่างเฉียดฉิวที่จะไม่ลดวงเงินในการประชุมครั้งล่าสุด

 

บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเองต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่าเฟดควรเลื่อนระยะเวลาในการชะลอมาตรการ QE ในการประชุมกำหนดนโยบายประจำเดือนก.ย.หรือไม่ โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดนิวยอร์ก ได้ออกมาปกป้องการตัดสินในของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการที่ยังไม่ลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ โดยระบุว่ายังไม่มีความคืบหน้ามากพอที่จะเริ่มชะลอมาตรการดังกล่าว

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงด้วย โดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. เนื่องจากชาวอเมริกันมีมุมมองบวกน้อยลงต่อการจ้างงานและค่าจ้างในอนาคต

 

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐซึ่งสำรวจโดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ลดลงสู่ระดับ 79.7 ในเดือนก.ย. จากระดับ 81.8 ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีเดือนก.ย.จะลดลงแตะ 79.9

 

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยราคาบ้านเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งชะลอลงจากเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาบ้านเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนมิ.ย.

 

ข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสร้างบ้านร่วงลง ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนักติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยหุ้นหุ้น

 

เจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.2% และหุ้นธนาคารกเวลล์ส ฟาร์โก ปรับตัวลง 1.4%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้เจอค่าเงินบาท เล่นเอามึนเลย เซ็งจริงๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้เจอค่าเงินบาท เล่นเอามึนเลย เซ็งจริงๆ

ขึ้นลงทีเกือบ 1 บาท ในช่วงระหว่างอาทิตย์ ถือว่า " ผันผวนเป็นประวัติศาสตร์ " มองต่างกันวุ่นวาย เช่น บางกลุ่มก็โทษต่างประเทศ QE บ้าง สงครามบ้าง / บางกลุ่มของโทษเสถียรภาพของรัฐฯ บวม / บางกลุ่มก็ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เอาจริงเอาจัง สรุป ใครจะเป็น " แพะ " ในบาปครั้งต่อไป

 

คำตอบเฉลย " Gold Online " 5555555555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

ขอบคุณ คุณป๋า สำหรับข่าวสารนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองปิดร่วง $10.7 กังวลเฟดลด QE

วันพุธ, 25 กันยายน 2556 08:24 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันพุธ, 25 กันยายน 2556 08:24 | วันเผยแพร่ | พิมพ์ | อีเมล

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,316.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่

 

นักลงทุนเทขายทองคำเนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าเฟดจะลดขนาด QE หรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่แตกต่างกันในเรื่องดังกล่าว

 

นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มลดน้อยลง ซึ่งทำให้ความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนั้น ลดน้อยลงด้วย

 

ซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความคิดเห็นในรายงานล่าสุดว่า การที่เฟดตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการ QE นั้น จะช่วยหนุนตลาดทองคำแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และสัญญาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาลง พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองอาจร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้น

 

ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,200 -1,350 ดอลลาร์ในปีหน้า ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง และโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าสัญญาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปีหน้า

 

ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 27.1 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 21.586 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1418.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 720.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...