ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[poonim 85]

ขอบคุณค่ะป๋า

[namchiang 468]

ข้อขัดแย้งงบประมาณสหรัฐฯฉุดหุ้นลง-ดันทองคำขึ้น น้ำมันปิดลบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กันยายน 2556 05:18 น.

เอเอฟพี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันศุกร์(27) ปิดลบพอสมควรท่ามกลางความกังวลต่อข้อขัดแย้งเกี่ยวกับร่างงบประมาณในสภาคองเกรสที่เสี่ยงทำให้หน่วยงานราชการบางส่วนของอเมริกาต้องปิดดำเนินการ อย่างไรก็ตามปัจจัยผลักให้ทองคำขยับขึ้น หลังนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่วนน้ำมันลดลง จากสถานการณ์ความตึงเครียดที่คลี่คลายในตะวันออกกลาง

 

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 70.06 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,258.24 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.92 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,691.75 จุด แนสแดค ลดลง 5.83 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,781.59 จุด

 

ในวันศุกร์(27) วุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ลงมติเห็นของร่างงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลยังปฏิบัติงานได้ตามปกติในช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณปี 2014 ในวันอังคารหน้า(1ต.ค.)

 

อย่างไรก็ตามร่างนี้ซึ่งส่งกลับให้สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ ได้ตัดถ้อยคำที่ขัดขืนกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามาออกไป นั่นบ่งชี้ว่าสมาชิกรีพับลิกันอาจจะปรับแก้ร่างกฎหมายนี้อีกรอบและส่งมันกลับคืนไปยังวุฒิสภาอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขมีเวลาไม่เพียงพอสำหรับผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภาทันก่อนเส้นตายสิ้นปีงบประมาณในช่วงเที่ยงคืนของวันจันทร์(30)

 

ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีสัญญาณประนีประนอมออกมาจากสองฝ่าย ด้วยประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงที่ทำเนียบขาวว่าสภาคองเกรสควรผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้เงินทุนแก่รัฐบาล และหากไม่เป็นไปตามนั้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ

 

ปัจจัยนี้เองที่ผลักให้นักลงทุนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้(27) ปรับเพิ่มพอสมควร ขณะที่มันยังได้แรงหนุนจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอเมริการายหนึ่งที่บ่งชี้ว่าอาจชะลอแผนลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปในปีหน้า โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,339.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ด้านราคาน้ำมันวานนี้(27) ขยับลงเล็กน้อย หลังความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับซีเรียและอิหร่านผ่อนคลายลงไป นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการต่อสู้ทางการเมืองในสภาคองเกรสสหรัฐฯขณะที่เส้นตายด้านงบประมาณขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 16 เซ็นต์ ปิดที่ 102.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 58 เซ็นต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122221

[Pete 15,187]

**ตลาดหุ้นเอเชียติดลบเช้านี้ จากความกังวลวิกฤตการคลังสหรัฐ

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง

ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 1% แตะที่ 139.42 จุด เมื่อเวลา 10.02 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,530.62 จุด ลดลง 229.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,167.73 จุด เพิ่มขึ้น 7.70 จุด,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,946.74 จุด ลดลง 260.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,174.86 จุด ลดลง 55.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,002.02 จุด ลดลง 9.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,195.84 จุด ลดลง 14.34 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,359.44 จุด ลดลง 20.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,775.28 จุด ลดลง 0.88 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,297.70 จุด ลดลง 9.40 จุด

 

 

หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ลดลง 2.2% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน หดตัว 1.1% และหุ้นมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ร่วงลง 4.1%

 

 

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการคลัง ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดระบุว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

 

 

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

[Pete 15,187]

**เงินบาทเปิด 31.41/43 แนวโน้มอ่อนค่า จากความกังวลเพดานหนี้สหรัฐฯ

 

 

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.41/43 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์

 

"หลักๆ คงเป็นเพราะตลาดยังคงกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ หรือต้อง shut down คงต้องดูกันต่อไปว่าจะไปในทางใด ดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ โดยเฉพาะในเอเชีย วันนี้ค่าเงินมาเลฯ และอินโดฯ ขยับขึ้นค่อนข้างจะหมด" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ทั้งนี้ คาดว่าวันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มจะอ่อนค่าได้ต่อ โดยมองกรอบไว้ที่ 31.35-31.50 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.74/76 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 98.65/68 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3494/3495 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3496/3499 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.2410 บาท/ดอลลาร์

- "พาณิชย์" จ่อเคาะลดเป้าส่งออกปี 56 เหลือโตแค่4% เหตุตลาดสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ จีนกระทั่งอาเซียนพลาดเป้าเยอะ จากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านปี 57 คาดโต 5-7%

- นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกทั้งปี 2556 เชื่อว่าขยายตัวไม่ถึง 4% ตามที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากตัวเลขการส่งออก 8 เดือน ยังขยายตัวเพียง 1.03% และยังไม่มีสินค้ากลุ่มไหน ที่จะขยายตัวได้สูงจนทำให้การส่งออกขยายตัวได้ถึง 4% มองว่า การส่งออกจะขยายตัวประมาณ 1-2% เท่านั้น

 

 

- "ประสาร" เผยนโยบายประชานิยมเพิ่มความเสี่ยงให้กับภาคหนี้ครัวเรือน ทำประชาชนขาดวินัยทางการเงิน แนะรัฐควรเพิ่มทักษะให้แรงงาน รองรับเทคโนโลยี พร้อมหนุนแผนลงทุน 2 ล้านล้าน ช่วยผลักดันค้าขายในเออีซี

 

 

- แบงก์ชาติเผยภาคธุรกิจปรับกลยุทธ์ช่วงเศรษฐกิจชะลอขอสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เพิ่มมองเป็นโอกาสต้นทุนขยายกิจการไม่แพงและเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ชี้แนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 4 สดใส แต่ยอมรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคแผ่วจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

 

 

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 1% แตะที่ 139.42 จุด เมื่อเวลา 10.02 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง

 

- วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน ขณะที่ผู้นำพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าพวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

 

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 138 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,450 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,348.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ดีดขึ้น 14.95 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันในปริมาณมากที่สุดในโลก

 

 

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 102.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ย.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

[Pete 15,187]

ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา Ipad Iphone มีให้ upversion เป็น 7.0 ภาพสวยกว่า ลูกเล่นเพิ่มขึ้น. และมาบัดนี้ เมื่อวันที่ 27 กันยายน มีปรับเป็น 7.0.2 ถึงแม้ช่วงนี้จะมีการพัฒนาปรับปรุงแค่ไหน เพื่อแก้ไข ปัญหาที่เกิด เช่น กินไฟอย่างแรง / อาการหน่วงเวลาคีย์หรือพิมพ์ข้อมูล

 

หากเพื่อนๆ คิดจะกด โหลดและติดตั้ง โปรดคิดให้มากๆ สอบถามข้อดีข้อเสียจากคนรอบข้างก่อนนะครับ ถ้าไม่อยากเสียความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลัง โหลดแล้ว เตือนแล้วนะ

[Pete 15,187]

จับตาดีๆ ที่ ดัชนีดอลล์สหรัฐ ตอนนี้ 80.30 ถ้าเริ่มขยับมาต่ำกว่า 80 ราคาทองก็เห็น $1400 ชัดเจน ตามแนวรับแนวต้าน วันนี้

 

Support: - 1326.40 and 1315.20(main)

Resistance: - 1339.75, 1346.24, 1355.63 and 1370.53(main)

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงบ่ายวันนี้ เหตุวิตกงบประมาณสหรัฐ

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจจะต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล ท่ามกลางภาวะชะงักงันเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ

ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1.1% แตะ 139.33 เมื่อเวลา 13.43 น.ตามเวลากรุงดตเกียว

หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ปรับตัวลง 1.7% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดลง 1.3% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลง ส่วนหุ้นมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป รูดลง 2.7%

นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เรียกร้องให้วุฒิสภาดำเนินการให้ทันเวลา และผ่านร่างกฎหมายในการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวแก่รัฐบาลเพื่อเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2539

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติในช่วงเช้าวันอาทิตย์ในการให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณระยะสั้นแก่รัฐบาล ที่ได้รับการเสนอโดยนายโบห์เนอร์และผู้นำรายอื่นๆของพรรครีพับลิกัน โดยจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-15 ธ.ค. และจะชะลอการใช้กฎหมาย Affordable Care Act หรือกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า โอบามาแคร์ ออกเป็นเวลา 1 ปี

[Pete 15,187]

เยอรมนีเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด

 

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก.ค.ซึ่งยอดค้าปลีกหดตัว 0.2%

 

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของยอดค้าปลีกเยอรมนีในเดือนส.ค.นับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะดีดตัวขึ้น 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

 

หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดค้าปลีกในเดือนส.ค.ปรับขึ้น 0.3% หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค.

 

 

**ตลาดหุ้นยุโรปคาดเปิดตลาดอ่อนตัว เหตุวิตกปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ

 

ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มว่า จะเปิดตลาดอ่อนตัวลงในวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลของสหรัฐ

 

ดัชนี Euro Stoxx 50 ร่วง 1% เมื่อเวลา 7.17 น.ตามเวลาลอนดอน

สภาคองเกรสมีเวลาอีกเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ที่จะยุติภาวะเสี่ยงที่จะมีการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี รวมทั้งการขู่ในเรื่องการเจรจาเพื่อเพิ่มเพดานหนี้

[Pete 15,187]

ฝรั่งเดาทอง ให้แนวโน้มวันนี้ออกมาทาง Sideway Up & Down ออกอาการ แถไปแถมา ขอบเขต 1339-1359 ระวังผลมาจากรายงานที่จะออก

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

บลจ.กสิกรไทย เป็นเพียงรายเดียวที่มีมุมมองเป็นบวก แต่ปัจจัยกดดันสำคัญ ยังให้น้ำหนักไปที่ปัญหาทางการคลังของสหรัฐ เป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมการลงทุนในสัปดาห์นี้ ซึ่งบลจ.กสิกรไทยเชื่อว่า สุดท้ายแล้ว สภาสหรัฐ ฯ จะต้องได้ข้อสรุปร่วมกันเร็วๆนี้ ทำให้โอกาส Down side แรงๆ สำหรับหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีน้อย ดังนั้น มุมมองทั้งสัปดาห์จึงเป็น “บวก” ภายใต้ความเสี่ยงระดับต่ำ โดยมองว่าดัชนีไม่น่าจะหลุดที่ระดับ 1,350 จุด

 

สำหรับบลจ.เอ็มเอฟซี มองว่าทั้งสัปดาห์ยังมีทิศทางที่ผันผวน แต่ในภาพรวมยังคงมีมุมมอง “ปานกลาง” สำหรับหุ้นไทย ภายใต้ความเสี่ยงระดับ “ปานกลาง” เช่นกัน ซึ่งปัญหาทางการคลังของสหรัฐ ที่ยังหาทางออกไม่ได้ เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายออกมาในระยะสั้น ซึ่งในที่สุดแล้วตลาดยังคาดการณ์ว่า สภาสหรัฐ จะหาทางออกสำหรับปัญหาดังกล่าวได้ โดยสัปดาห์นี้ บลจ.เอ็มเอฟซีให้กรอบดัชนีไว้ที่ 1,350-1,420 จุด

 

ติดตามกันต่อที่ บลจ.วรรณ นอกจากเหนือจากวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐแล้ว บลจ.วรรณ ยังให้น้ำหนักการเมืองในประเทศด้วย โดยเฉพาะเรื่องของ พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท// การแก้รัฐธรรนูญ นอกจากนี้ ยังมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทย ยังมีโอกาสในการถูกปรับประมาณการณ์ลงอีกครั้ง จากฝั่งของธนาคารแห่งประเทศไทย หลังจากสศค. ได้ปรับลงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมด ทำให้สัปดาห์นี้ บลจ.วรรณ มีมุมมองเป็น “ลบ” ภายใต้ความเสี่ยงในระดับสูง โดยให้กรอบสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,380-1,380 จุด

 

สำ หรับบลจ.ทิสโก้ มีมุมมอง “ปานกลาง” ภายใต้ความเสี่ยงระดับปานกลางเช่นกัน โดยประเด็นในเรื่องของ ร่างกฎหมายงบประมาณ เป็นประเด็นหลักที่ตลาดค่อนข้างกังวล เพราะอาจจะกระทบการเบิกจ่ายของรัฐบาลในสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเร็วๆนี้ สภาสหรัฐน่าจะหาทางออกร่วมกันได้ โดยสัปดาหฯ บลจ.ทิสโก้ให้กรอบที่ 1,350-1,400 จุด

 

ปิดท้ายกันที่ บลจ.แอสเซสพลัส ที่มุมมองในเชิง “ลบ” ภายใต้ความเสี่ยงระดับ “ปานกลาง” โดยมองว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ ทั้งเรื่องของการเพิ่มเพดานหนี้และเรื่องของร่างกฎหมายเบิกจ่ายงบประมาณที่ ล่าช้าออกไป รวมไปถึงความกังวลต่อปัญหาการเมืองในประเทศ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงขายออกมาในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม บลจ.แอสเซสพลัส เชื่อว่าดัชนีจะสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,380 จุดได้

 

ที่มา: money channel (วันที่ 30 กย.56)

 

[Pete 15,187]

คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยวานนี้ว่า จีนจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 245 หยวนต่อตัน (39.84 ดอลลาร์สหรัฐ) และลดราคาน้ำมันดีเซลลง 235 หยวน/ตัน โดยมีผลตั้งแต่วันจันทร์นี้

 

NDRC ระบุบนเว็บไซต์ว่า การปรับราคาครั้งล่าสุดนี้จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินอ้างอิงลดลง 0.18 หยวนต่อลิตร และน้ำมันดีเซลลดลง 0.2 หยวน/ลิตร

 

การปรับราคาขายปลีกน้ำมันในจีนครั้งก่อนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน ซึ่งในครั้งนั้น NDRC ขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล 90 หยวนต่อตัน และ 85 หยวนต่อตัน ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ ภายใต้กลไกกำหนดราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันแบบใหม่ของจีน ซึ่งเริ่มนำมาใช้เมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมานั้น ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลจะอิงกับราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศ และมีการปรับเปลี่ยนทุกๆ 10 วันทำการ ยกเว้นว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเปลี่ยนแปลงไม่ถึง 50 หยวนต่อตัน ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่ NDRC จะปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ หากราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบในตลาดโลกมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 4% ในช่วง 22 วันทำการ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 30 กันยายน 2556)

 

[Pete 15,187]

ธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี มีแผนที่จะตรวจสุขภาพทางการเงินของบรรดาธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยูโรโซนที่ขาดมาตรการอุดช่องโหว่

 

ระบบการเงินของยุโรปยังคงไม่กระเตื้อง เนื่องด้วยบรรดาธนาคารในหลายประเทศ เช่น กรีซ สเปน และอิตาลี ต่างประสบปัญหาจากความต้องการที่ซบเซาและหนี้เสีย ตรงกันข้ามกับในสหรัฐที่มีการอัดฉีดเงินทุนเข้าธนาคารอย่างรวดเร็วจนทำให้ฟื้นตัวกลับมาได้

 

อย่างไรก็ตาม เจตจำนงทางการเมืองในการที่จะเดินหน้าสหภาพธนาคารกลับลดน้อยลง เนื่องจากความรุนแรงจากช่วงวิกฤติได้ผ่านพ้นไปแล้ว และความไม่สมัครใจของเยอรมนีในการสนับสนุนเงินทุนส่วนกลางที่อาจจะกลายเป็นเงินช่วยเหลือธนาคารในยูโซนรายใดก็ตามที่ประสบปัญหานั้นบ่งชี้ว่าอีซีบีเตรียมที่จะเข้ามามีบทบาทตั้งแต่ปลายปีหน้าในช่วงที่เกิดสุญญากาศ

 

อีซีบีอยู่ภายใต้แรงกดดันทั้งในด้านชื่อเสียงของตนและอนาคตของกลุ่มยูโรโซนในการรับประกันว่าธนาคารผ่านการตรวจสุขภาพทางการเงินที่จะบีบให้ธนาคารเหล่านี้ยอมเปิดผลขาดทุนที่แท้จริง

 

นอกจากนี้ อีซีบียังต้องการที่จะตรวจสุขภาพทางการเงินของธนาคารรายใหญ่ ภายใต้มาตรการทบทวนคุณภาพสินทรัพย์ หรือ เอคิวอาร์ ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยขยายขอบเขตการตรวจสอบธนาคารนอกยูโรโซนที่กำกับดูแลโดยหน่วยงานด้านการธนาคารแห่งยุโรป หรือ อีบีเอ

 

ที่มา : สำนักข่าวโฟเควสท์ (วันที่ 27 กันยายน 2556)

 

[arthas2u 407]

ไม่รู้ ว่า แท่ง เมื่อ เช้ามี อะไร แอบ แฝงหรือป่าว แต่ ส่วนตัว มองระยะยาว ลง ได้ต่อครับ ราย 4 กะ ราย day มันฟ้อง -*- พี่ใหญ่ มองไง ครับ ขอ ระยะกลาง

[Pete 15,187]

ไม่รู้ ว่า แท่ง เมื่อ เช้ามี อะไร แอบ แฝงหรือป่าว แต่ ส่วนตัว มองระยะยาว ลง ได้ต่อครับ ราย 4 กะ ราย day มันฟ้อง -*- พี่ใหญ่ มองไง ครับ ขอ ระยะกลาง

ไม่เข้าใจในความหมายที่เขียน " แอบแฝง " ว่า ทำไมมันดีดขึ้นมาป้วนเปี้ยนแถวๆ 1341 ใช่ไหม ? หรือเปล่า " ตกใจ ซื้อ เมื่อได้ยินข่าว ความอ่อนแอของดอลล์สหรัฐ ที่อาจมาต่ำกว่า 80.0 เร็วๆ นี้

 

มองระยะกลาง ต้องเข้าใจก่อนว่า สหรัฐฯ เล่นแบบ Paper Gold เป็นส่วนใหญ่ และพยายามกดราคาทองจริง Physical Gold ให้ด้อยค่าลง เพราะไม่อยากให้ธนาคารกลางหลายๆ ประเทศ ที่สะสมทองคำเป็นทุนสำรอง สนใจเก็บอย่างเดียว ฮึกเหิมไม่สนใจเงินสกุลดอลล์สหรัฐฯ ต้องสั่งสอนให้ตกใจ : ระยะกลาง 1,100 - 1,150 เหรียญ

 

ระยะสั้น ยังพยายามไต่ขึ้น แนวรับ 1325 แข็งแรง

ถูกแก้ไข กันยายน 30, 2013 โดย เด็กขายของ