ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- ทองแกว่งตัวแคบแต่ยังทรงตัวเหนือ 1,300 ดอลลาร์

 

- ดอลลาร์อ่อนค่ารอคำแถลงประธานเฟดช่วงปลายสัปดาห์

 

- ติดตามประเด็นการเมืองอาจกดดันเงินบาทอ่อนค่า

 

ราคาทองแกว่งตัวในกรอบแคบก่อนที่จะปิดตลาดทรงตัวที่ระดับปิดของวันจันทร์ ประเด็นความตึงเครียดในยูเครนยังคงเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ และมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงที่ราคาปรับตัวลง

 

ความตึงเครียดในยูเครนยังเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน แต่คาดว่าประเด็นดังกล่าวคงไม่สามารถทำให้ราคาทองปรับขึ้นได้ต่อเนื่องมากนัก เพราะมาตรการที่นานาชาติเตรียมนำมาใช้กับรัสเซียส่วนใหญ่เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจ จึงไม่น่าจะมีผลให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ต่อเนื่องมากนัก นักลงทุนยังคงให้ความสนใจติดตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

 

ในสัปดาห์นี้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศคงมีผลต่อราคาทองและตราสารทางการเงินอื่นๆค่อนข้างน้อย โดยนอกจากปัญหาในยูเครนแล้ว ในสัปดาห์นี้นักลงทุนคงให้ความสำคัญกับการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในช่วงปลายสัปดาห์ หากมีการปรับลดดอกเบี้ยหรือมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ก็จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองผ่านการอ่อนค่าของเงินยูโร

 

ภาพเทคนิคของราคาทองคำซึ่งวานนี้ราคาแกว่งตัวในกรอบแคบและปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันจันทร์ การเคลื่อนไหวโดยรวมในวันนี้จึงยังคงคาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ และคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,320 และ 1,330 ดอลลาร์ ได้ต่อไป

 

ราคาโลหะเงินแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดการซื้อขายวานนี้ และคาดว่าการเคลื่อนไหวในวันนี้จะเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 19.40-19.80 ดอลลาร์ ต่อไป

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนมิ.ย.57

 

Close chg. Support Resistance

 

20,180 - 20,000/19,850 20,250/20,400

 

หากราคาทองปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,295-1,300 และ 1,280 ดอลลาร์ ยังเป็นระดับที่สามารถกลับเข้าเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,270 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.57

 

Close chg. Support Resistance

 

619 - - -

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 7 พฤษภาคม 2557)

[Pete 15,187]

ฝรั่งเดาทองก็แค่หวังว่า คืนนี้จะเป็นกระทิงขวิดด่านต้าน 1315 พร้อมแนวขาเสี่ยง ดังนี้

 

LONG GOLD above 1316 SL 1312 TP 1328-1331

SHORT GOLD below 1296 SL 1300 TP 1284-1278

Good luck!

[auntnextdoor 4,268]

ขอบคุณค่ะ

[chaiklang 161]

ขอบคุณครับป๋า

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 แบบสัญญานนำทาง ขาขึ้น ยังมีความหวัง ยังให้อดทน ทนถือ เพราะเส้นยังไม่ตัดกัน

[Pete 15,187]

รหัส 7,5,2 แบบไวไว อาการเริ่มเป๋ ออกขาเสี่ยงว่า จะลง

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.44/45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.37/39 บาท/ดอลลาร์ จากความกังวลว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศอาจจะร้อนแรงขึ้น หลังมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีบางส่วนพ้นสภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุลอบยิงระเบิดหลายจุดใน กทม.

 

"ข่าวศาลด้วย ระเบิดด้วย เลยซื้อกันหมดทั้ง Off Shore ทั้งบ้านเรา แต่ยังไม่ผ่าน 32.45(บาท/ดอลลาร์)...ซึ่งต้องจับตาการเมืองในประเทศต่อไป น่าจะร้อนแรงมากขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นอกจากนี้ ต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ซึ่งคาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ย และต้องติดตามถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี

 

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์

 

ราคาทองคำแท่งในประเทศเช้านี้ปรับตัวลดลง ในทิศทางเดียวกับราคาทองคำใน

สหรัฐ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคาร

กลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณยังคงลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)

ตามความคาดหมาย และสถานการณ์ในยูเครนคลี่คลายลง

*ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 1.38% วานนี้ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร

ทองออกมา หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกร้องให้กลุ่

ม

แบ่งแยกดินแดนในยูเครนเลื่อนการจัดลงประชามติออกไป และเผยว่า เขากำลัง

ถอนทหารออกจากบริเวณพรมแดนระหว่างรัสเซีย กับยูเครน

*ก่อนหน้านี้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน เคยวางแผนว่าจะจัดการลงประชามติ

เรื่องการแยกตัวออกจากยูเครน ในวันที่ 11 พ.ค. โดยราคาทองเคยได้รับ

แรงหนุนในช่วงก่อนหน้านี้ จากความขัดแย้งในยูเครน

*แต่ทำเนียบขาวระบุว่า ทางทำเนียบขาวยังไม่เห็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ประธานาธิบ

ดี

ปูติน ได้ถอนทหารรัสเซียออกจากบริเวณพรมแดนยูเครนแล้ว พร้อมทั้งระบุว่า

ทำเนียบขาวต้องการให้มีการยกเลิกการลงประชามติ ไม่ใช่การเลื่อนวันออกไป

*ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวในการให้

การต่อสภาคองเกรสว่า การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ

เป็นสิ่งที่เหมาะสม เพราะว่าตลาดแรงงานสหรัฐ มีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่เป ็น

จำนวนมาก และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ

*ประธานเฟด แทบไม่ได้ส่งสัญญาณใหม่ที่บ่งชี้ทิศทางของอัตราดอกเบี้ย แต่ได้

ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า สถานการณ

 

ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เด่นชัด ซึ่งบ่งชี้

ว่าเฟด

กังวลว่า ความขัดแย้งในยูเครนอาจจะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐ

*SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

คงปริมาณการถือครองทองคำที่ 782.85 ตัน เมื่อวานนี้ ขณะที่กองทุน

ดังกล่าว ปรับลดปริมาณการถือครองทองลงเกือบ 10 ตัน ในสัปดาห์ที่แล้ว

*ปริมาณซื้อขายฟิวเจอร์สโลหะมีค่า ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX)

เมื่อวาน อยู่ที่ 5,625 สัญญา โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 312 สัญญา

นักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 572 สัญญา และนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ

ขายสุทธิ 884 สัญญา

 

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุว่า วานนี้ประธานเฟดยืนยันว่าจะดำเนินการปรับลดขนาดโครงการ QE ต่อไป หากตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัวตามเป้าหมาย ส่งผลให้

ทิศทางดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น

นอกจากนี้ สมาคมทองคำจีนเปิดเผยความต้องการทองคำแท่งของจีนในไตรมาสแรกลดลง 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สู่ระดับ 67.95 ตัน ทั้งหมดถือเป็น

ปัจจัยลบต่อราคาทองคำโลก

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามระยะสั้น คือ ปัญหาความไม่สงบในยูเครน หากทวี

ความรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,324

และ 1,333 ดอลลาร์/ออนซ์ และการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันนี้ รวมทั้ง

ในคืนวันนี้ประธานเฟดจะมีการแถลงต่อคณะกรรมการของวุฒิสภา

ด้านปัจจัยทางเทคนิค ราคาทองคำโลกทิศทางระยะสั้น คาดอาจจะแกว่งตัวชะลอได้หลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,310 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

ล่าสุด เปลี่ยนแปลง*

ทองสปอต(ดอลลาร์/ออนซ์) 1,290.50 0.12%

เงินสปอต(ดอลลาร์/ออนซ์) 19.31 0.52%

สัญญาทอง COMEX มิ.ย.57(ดอลลาร์/ออนซ์) 1,290.20 0.10%

สัญญาเงิน COMEX พ.ค.57(ดอลลาร์/ออนซ์) 19.29 -0.04%

ทองคำแท่งในประเทศ(บาท) 19,850 -250 บาท

โกลด์ฟิวเจอร์ส 50 บาท มิ.ย.57(บาท) 19,950 -290 บาท

โกลด์ฟิวเจอร์ส 10 บาท มิ.ย.57(บาท) 19,950 -290 บาท

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส เม.ย.57(บาท) -

 

หมายเหตุ: *เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 8 พค.57)

[Pete 15,187]

ไม่ว่าจะเป็นเมืองไทย หรือเมืองนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่น ที่หลายท่านบ่นให้ผมฟังว่า เหมือนเดินอยู่กรุงเทพฯ เลย ในช่วงวันหยุดนั้นๆ

 

หากท่านเป็นผู้ที่ติดตามตลาดการเงิน อาจจะรู้สึกเหมือนผมที่ว่า ดูเหมือนจะทำอะไรกับตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดFX ตลาดหุ้น (ไทยและเทศ) ตลาดตราสารหนี้ มันจะ "สะดุด”ไปหมด การตีค่า (Mark-to-Market) ของมูลค่าทรัพย์สินในportfolio ก็มักจะหาราคาได้บ้างไม่ได้บ้าง ดูเหมือนว่าการ "สะดุด”ดังกล่าวน่าจะเป็นมากขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงความสลับซับซ้อนของสินทรัพย์ทางการเงิน (financial assets) ที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ในตลาดที่ข้ามพรมแดน (Cross Border)

 

ดังนั้นนักลงทุนต้องทำตัวให้เป็น "สากล”ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันตัวเองจากการเป็นเหยื่อของการไม่ "ทันสมัย”นะครับ

 

ในเดือนก่อนผมได้เขียนบทความนำเสนอต่อท่านผู้อ่าน ในเรื่องคำถาม อมตะ มีท่านผู้อ่านท่านหนึ่งโทรมาหาบอกว่าถูกใจเพราะ "แรง”ดี และ "ตรง”ดี ผมก็ขอขอบคุณที่กรุณาชอบและถูกใจ แต่ในที่สุด ผมจะดีใจมากหากความ "มัน” นั่นมันสามารถทำให้ portfolio ของท่านปลอดภัยในยามผันผวน และทำกำไรในตลาดที่ร้อนแรงนะครับ

 

ผมก็ยังยืนยันความแรง และความตรงของเรื่องคำถามอมตะนะครับ และจะมั่นใจขึ้นไปอีกเมื่อได้ทราบจากการติดตามว่า เศรษฐกิจของอเมริกาน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และจะทำให้พวกเราไม่ตกรถไฟในการเดินทาง (journey) ครั้งนี้นะครับ

 

ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ได้เรียนเสนอท่านผู้อ่านเรื่องของ Fed ซึ่งหมายรวมถึงเป้าหมายของ Fed (เงินเฟ้อและอัตราการว่างงาน) และการถอนตัวออกจากการอุ้มเศรษฐกิจสหรัฐ (QE Tapering) ผมก็อยากจะติดตามในเรื่องนี้อีกทีหนึ่งนะครับ

 

Fed Statement เดือนล่าสุดออกมาเมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ระบุชัดเจนว่า ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว และขยายตัวในอัตราปานกลาง และก็ยังทำการลดลงของการทำ QE ลงมาในขนาดที่เคยกล่าวไว้คือ หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ และยังตบท้ายว่า หากเป้าเงินเฟ้อ (2%) และอัตราการว่างงาน (ไม่มากกว่า 6.5%) สามารถทำได้อย่างยั่งยืน Fed ก็คงจะลดการทำ QE ลงมาได้อีก (มากกว่าเดือนละหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์)

 

ต่อมาในวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payroll) ออกมาดีกว่าที่คาด และอัตราการว่างงานประกาศออกมาที่ 6.3% หากเราจะต้องติดตามบริบทของ Fed ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะบ่งชี้ว่า Fed จะลงมือเพิ่มขนาดการลด QE ก็น่าจะเป็นตัวเลขทางด้านเงินเฟ้อ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค,ดัชนีราคาผู้ผลิต

 

ขอได้โปรดติดตามตัวเลขทั้งสองนี้ให้ดี หากมีการประกาศออกมา และมากกว่าที่คาดการณ์ ก็จะทำให้ตลาดมีปฏิกิริยาทันที กลไกก็จะเป็นอย่างที่เคยเรียนไว้คือ ก่อนการประชุมFedในครั้งต่อไป (17-18 มิ.ย.) ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะมีการเล่นข่าวเรื่อง QE Tapering ตลาดหุ้นก็จะตกลงมาในช่วงเวลาดังกล่าวนะครับ เผอิญว่าในเดือนพ.ค.นี้ ไม่มีการประชุม ผมก็คาดเอาไว้ว่า sentiment ของตลาด น่าจะดี ภาวะกระทิงน่าจะผลักดันให้ทั้ง Dow Jones และ S&P500 ทำ "นิวไฮ” ได้อีก จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่ผมได้เรียนไว้ข้างต้น

 

เรื่องที่เรียนไว้หลายท่าน อาจจะดูว่าไกลตัว จะบอกว่าไกลก็ไม่ใช่ น่าจะเป็น "ไม่ไกล” มากกว่า อย่างที่เรียนไว้ตอนต้น สินทรัพย์ทางการเงิน นับวันจะมีความสลับซับซ้อน และได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกมากขึ้นทุกวัน สิ่งที่เคยเรียนในเดือนที่แล้ว ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือ ต้องมีการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศบ้างถึงพอควร อาศัยที่บาทยังคงไม่อ่อนค่าไปมากนัก และการดำเนินนโยบายผ่อนคลายยังไม่เปลี่ยนแปลง น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดี

 

ปัจจัยอื่นๆ เช่นการเมือง (ทั้งไทยและเทศ) ปัจจัยเรื่องวิกฤตการณ์ในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ หรือปัจจัยอื่นๆ หากส่งผลกระทบในทางลบ คือทำให้ราคาสินทรัพย์ที่สนใจตกลง ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไป “ช้อน” นะครับ ผมเชื่อว่าอเมริกาจะเป็นตัวนำ ทำให้มีการโยกเงินกลับไป ถึงแม้จะมีบางท่านแย้งว่า มันดีขึ้น และสูงขึ้นมามากแล้วก็ตาม

 

ผมเชื่อว่ามันจะไปต่อ ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งได้เคยเรียนไปแล้วว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดอลลาร์ น่าจะมาเร็วมากกว่ามาช้า (Sooner not Later)

 

ผมก็คงต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดต่อไป มันอยู่ในสายเลือดแล้วล่ะครับ แล้วจะได้นำมาเรียนท่านผู้อ่านที่รักต่อไป ท้ายสุดความเห็นทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของผม และโปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ด้วยนะครับ สวัสดี

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ(วันที่ 8 พค.57)

[Pete 15,187]

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษในปัจจุบันต่อไป โดยระบุถึงตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ

 

“การผ่อนคลายทางการเงินอย่างมากยังคงมีความเหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว โดยระบุว่า “ไม่มีกรอบเวลาที่เฉพาะเจาะจง"สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจากช่วง 0-0.25% ในปัจจุบัน

 

นางเยลเลนกล่าวว่า ตลาดแรงงานยังคงซบเซาอย่างมาก และเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟด

 

ประธานเฟดกล่าวว่า ภาวะในตลาดแรงงานยังห่างไกลจากภาวะที่น่าพอใจ ขณะที่เผชิญปัจจัยต่างๆ เช่น การว่างงานระยะยาวที่ระดับสูง และผู้ทำงานพาร์ท-ไทม์จำนวนมาก

 

อัตราว่างงานของสหรัฐลดลงแตะ 6.3% ในเดือนเม.ย. และการจ้างงานนอกภาคเกษตรได้เพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเวลาว 3 เดือนติดต่อกันนับแต่เดือนก.พ.

 

ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะขยายตัว “ในอัตราที่รวดเร็วขึ้นในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว"

 

ประธานเฟดกล่าวว่า ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะชะงักงันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. แต่ก็มีสาเหตุมาจากปัจจัยชั่วคราว เช่น สภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติ

 

นอกจากนี้ ปัจจัยชี้วัดหลายประการในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวขึ้นในด้านการใช้จ่ายและการผลิต ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโดยรวมมีความคืบหน้าสู่การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสปัจจุบัน

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เฟดได้ดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายทางการเงินที่มีจุดมุ่งหมายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากเผชิญวิกฤตการเงินในปี 2551

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 8 พฤษภาคม 2557)

[chaiklang 161]

ป๋ามาเที่ยง ผ้มตามมาทัน

 

ขอบคุณครับ คุณป๋า

[Pete 15,187]

SHORT GOLD below 1302 SL 1305 TP 1284-1278-1270

LONG GOLD above 1305 SL 1301 TP 1314-1318-1326-1331

Good luck!

 

ฝรั่งเดาทองวันนี้

[Pete 15,187]

นักวิเคราะห์เผยบริษัทพัฒนาอสังหาฯจีนกำลังประสบวิกฤตทางการเงิน

 

 

บรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 11 รายของจีน มีการระดมทุนในต่างประเทศจำนวน 1.1801 หมื่นล้านหยวนในเดือนเม.ย. ซึ่งลดลง 24.7% จากเดือนมี.ค. และลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

นายจาง ต้าเหวย นักวิเคราะห์จากบริษัทจงหยวนชี้ว่า การระดมทุนในต่างประเทศที่ลดลงดังกล่าว เป็นผลจากการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเงินหยวนที่อ่อนค่าลง รวมทั้งราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องในหลายเมืองทั่วประเทศจีน

นายางเสริมว่า บริษัทนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวยังต้องประสบกับความยากลำบากในการระดมทุนในจีนด้วย เนื่องจากภาคธนาคารกำลังคุมเข้มในการปล่อยกู้

ในไตรมาสแรก บรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีการระดมทุน 2.8731 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.6% เทียบรายปี เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 ที่ขยายตัว 26.5%

นายเจิง ฮงหยู นักวิเคราะห์จากสถาบันเซี่ยงไฮ้ ยี่จู เปิดเผยว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์กำลังชะลอตัวลง ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากการคุมเข้มด้านการระดมทุนทั้งในจีนและในต่างประเทศ กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะประสบกับวิกฤตทางการเงินในปีนี้

จีนมียอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 1.3263 ล้านล้านหยวนในไตรมาสแรก หดตัวลง 5.2% เทียบรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

[Pete 15,187]

**เงินบาทปิด 32.47/48 อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดฯเกาะติดผล ECB ค่ำนี้

 

 

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.47/48 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.44/45 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.49 บาท/ดอลลาร์

"ผล ป.ป.ช.ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ แต่ยังมีแรงซื้อจาก Off Shore เข้ามา....แต่ก็ยังต้องรอผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ค่ำนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

ดังนั้น จึงประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 32.45-32.55 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.74 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 101.80 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3941 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3912 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,379.02 จุด ลดลง 23.59 จุด, -1.68% มูลค่าการซื้อขาย 39,734.07 ล้านบาท

- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แย่สุดเมื่อเทียบตลาดต่างประเทศ สะท้อนการเมืองในประเทศ โดยตลาดภูมิภาคบวกตามดาวโจนส์หลังประธานเฟดยังคงนโยบายผ่อนคลายการเงิน และสถานการณ์ยูเครนก็คลายตัวลง ส่วน ป.ป.ช.ส่งเรื่องวุฒิสภาถอดถอน"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ผิดคาด แต่กังวลเหตุระเบิด M79 เมื่อคืนนี้เป็นสัญลัษณ์ว่าจากนี้ไปการเมืองคงเข้มขึ้น ต้องเกาะติดใกล้ชิด พรุ่งนี้ตลาดฯมีลุ้นรีบาวน์หลังร่วงแรง 2-3 วัน และหากตลาดต่างประเทศบวกก็จะช่วยหนุนด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,365 แนวต้าน 1,400 จุด

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,141.53 ลบ.(SET+MAI)

- คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้ว่ามีมูลเพียงพอที่จะส่งเรื่องให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวไปต่างประเทศ โดยจะส่งเรื่องให้ที่ประชุมวุฒิสภาดำเนินการพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่งตามขั้นตอนภายในสัปดาห์หน้า ถึงแม้จะพ้นสภาพรัฐมนตรีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วก็ตาม แต่กระบวนการถอดถอนมีเรื่องห้ามการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีด้วย

- นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้

- ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป ตลอดจนข้อมูลการส่งออกที่ดีเกินคาดจากจีน

- ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มว่าจะเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในเอเชีย ภายหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติสหรัฐเกี่ยวกับนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และข้อมูลส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.ที่ขยายตัวสวนทางคาดการณ์

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 192 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,968 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,296.28 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 20.8 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง