ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

สถานการณ์ของรหัส 5,35,9 แบบสัญญานนำทาง ยังไม่ดีขึ้น ต่อราคาทองในทางขึ้น แต่เมื่อวานบ่นว่า ขอทนถือ ถือทน ต่ออีกหน่อย ก็มาลุ้นวันนี้อีก 1 วัน กับรายงานการประชุมเฟด ตี 1 คืนนี้ ว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองไหม !!!!

[Pete 15,187]

รหัส 7,5,2 รูปแบบก็เหมือนเมื่อวานนี้ เส้นแดงอยู่ด้านล่าง ส่งผลเป็นลบต่อราคาทอง แต่เส้นดำยาวกว่า ก็น่าจะมีขยับขึ้นด้านบนได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับข่าวรั่วของ รายงานประชุมเฟด ยุคนางเยลเลน นี่ขนาดเมืองหนึ่งรัฐหนึ่งในสหรัฐ มีความวุ่นวายเกิดขึ้นนะเนี่ย แถมอีโบลาเริ่มทำให้ทางการไลบีเรียสั่งยิงทุกคนที่ข้ามชายแดนโดยไมีได้รับอนุญาต

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาททำท่าจะอ่อนค่า

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาททำท่าจะอ่อนค่า

[Pete 15,187]

รายงานตัวเลขวันนี้ เงียบๆ

[chaiklang 161]

มาเลยป๋า ขึ้นทะยานฟ้า ^^

 

ขอบคุณนะครับ

[Pete 15,187]

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำยังคงปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการของตลาดหุ้นนิวยอร์ก อันเนื่องมาจากข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1296.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 22.3 เซนต์ ปิดที่ 19.412 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 6.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,439.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 14.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 880.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำอ่อนแรงลงต่อเนื่องจากวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า รวมถึงตลาดหุ้น โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี ขานรับรายงานที่ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.7% แตะ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 945,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองบวกมากขึ้น

 

นอกจากนี้ สหรัฐรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. และหากเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนี CPI เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.0% ซึ่งชะลอลงเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนมิ.ย.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 20 สิงหาคม 2557)

[Pete 15,187]

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ส.ค.2557

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี เพราะได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทโฮม ดีโปต์

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,919.59 จุด เพิ่มขึ้น 80.85 จุด หรือ +0.48% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,527.51 จุด เพิ่มขึ้น 19.20 จุด, +0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,981.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด หรือ +0.50%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัท Moeller-Maersk ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.6% ปิดที่ 335.49 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,254.45 จุด เพิ่มขึ้น 23.80 จุด หรือ +0.56% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,334.28 จุด เพิ่มขึ้น 88.95 จุด หรือ +0.96% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,779.31 จุด เพิ่มขึ้น 38.06 จุด หรือ +0.56%

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากที่มีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 38.06 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 6,779.31 จุด

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำยังคงปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการของตลาดหุ้นนิวยอร์ก อันเนื่องมาจากข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1296.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 22.3 เซนต์ ปิดที่ 19.412 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 6.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,439.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 14.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 880.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นทั่วกระดานเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ท่ามกลางข้อมูลที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3319 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3360 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6618 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6728 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 102.91 เยน เทียบกับระดับ 102.58 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9091 ฟรังค์ จากระดับ 0.9064 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9309 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9324 ดอลลาร์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรักและความขัดแย้งในยูเครนเริ่มคลี่คลายลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 101.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,919.59 จุด เพิ่มขึ้น 80.85 จุด +0.48%

 

[Pete 15,187]

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นทั่วกระดานเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ท่ามกลางข้อมูลที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3319 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3360 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6618 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6728 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 102.91 เยน เทียบกับระดับ 102.58 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9091 ฟรังค์ จากระดับ 0.9064 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9309 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9324 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบยูโร หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.7% มาอยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 945,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.

 

ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้าน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงการก่อสร้างในอนาคต ดีดตัวขึ้น 8.1% สู่ระดับ 1.05 ล้านยูนิต จาก 973,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการอนุญาตสร้างบ้านเดี่ยวที่ปรับตัวขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. และหากเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนี CPI เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.0% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

 

ทั้งนี้ บรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางและนักเศรษฐศาสตร์จากทั่วโลกจะเริ่มเปิดฉากการประชุมสุดยอดประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักลงทุนพุ่งความสนใจไปที่ถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 19 สิงหาคม 2557)

[Pete 15,187]

ปทุมวัน *ส.วิจัยการตลาดเผยคนไทยยังหวั่นการเมืองไม่แน่นอน ส่งผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ จิตตกห่วงเงินในกระเป๋าไม่พอใช้ ธปท.ยันเศรษฐกิจไทยไม่ถดถอย ชี้ไตรมาส 2 จีดีพีเริ่มฟื้น ส่งสัญญาณดี

 

นางสาวดั่งใจถวิล อนันต ชัย นายกสมาคมวิจัยการตลาด แห่งประเทศไทย (TMRS) เปิดเผยถึง "ผลการวิจัยไทยวิว (Thai- View)" ว่า ทางสมาคมได้มีการสรุปผลการวิจัยที่ได้สำรวจเมื่อช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้นับว่าเป็นการทำผลสำรวจผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรก ผ่านกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 600 คน ซึ่งพบว่าในช่วงเวลา 12 เดือนนับจากนี้ ประชาชนคนไทยกว่า 60% ยังไม่ค่อยมั่นใจในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศว่าจะดีขึ้นหรือไม่ เนื่องจากการเมือง การปกครองของรัฐบาลยังมีความไม่แน่นอน และเกิดความวุ่นวายมาค่อนข้างนานแล้ว โดยมีประชาชนราว 33% ที่คิดว่าค่อนข้างมั่นใจว่าภาพรวมทุกอย่างจะดีขึ้น

 

ขณะที่เรื่องที่กลุ่มตัว อย่างมีความกังวลมากที่สุดจะ เป็นเรื่องของราคาสินค้าพลัง งาน ไฟฟ้า ก๊าซ 91% ซึ่งประชาชนเห็นว่าปัจจัยข้างต้นจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น เงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน ทำให้เป็นหนี้เพิ่มขึ้นและไม่มีเงินออม คิดเป็น 99% ส่วนเรื่องความกังวลปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอยู่ที่ 67% นอกเหนือจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ประชาชนค่อนข้างกังวลไม่แพ้กัน จะเป็นในส่วนของปัญหาสังคมหรืออาชญากรรมคิดเป็น 66% ทำให้ใช้ชีวิตด้วยความกังวล

 

ด้านความสุขของคนไทย ค่อนข้างมีความสุขและมีความสุขมากกับครอบครัว คิดเป็น 78% ชี้ให้เห็นว่าไม่ว่าเหตุการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร ครอบ ครัวจะเป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้คนไทยได้มากที่สุด แต่เรื่องที่ประชาชนค่อนข้างจะไม่ค่อยมีความสุขและไม่มีความสุขเลยจะเป็นปัญหาเรื่องของการเงิน คิดเป็น 71%

 

นางสาวดั่งใจถวิลยังกล่าว ว่า ภายหลังจากที่ทาง คสช.ได้เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้คนไทยเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ ซึ่งสัญญาณของกำลังซื้อก็เริ่มดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่เป็นปกติ คาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ กำลังซื้อจะดีมากและส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ

 

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ยืนวันว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมีการปรับตัวได้ดีขึ้น ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 ซึ่งขยายตัวที่ระดับ 0.4% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ทางการเมืองและนโยบายภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้การบริโภคของภาครัฐและเอกชนขยายตัวตามความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น

 

ขณะที่ภาพรวมจีดีพีในครึ่งแรกปี 2557 ที่แม้จะหดตัวที่ระดับ 0.1% จากปีก่อน แต่ก็ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ ธปท.เคยคาดการณ์ไว้ว่าจีดีพีครึ่งแรกของปีนี้จะหดตัวที่ 0.5% ซึ่งจากปัจจัยบวกดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดการเงินเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ตอบรับในเชิงบวก

 

"ตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวได้ 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่จีดีพีหดตัว 1.9% นั้น เป็นเครื่องสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามที่หลายฝ่ายเคยกังวล เนื่อง จากจีดีพีไตรมาสต่อไตรมาสไม่ได้หดตัว 2 ไตรมาสติดกัน ซึ่งน่าจะช่วยคลายข้อกังวลของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี" นายจิรเทพกล่าว

 

นายจิรเทพกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ธปท.จะเร่งติดตามสถานการณ์ตัวเลขทางเศรษฐ กิจในช่วงต่อไป เพื่อประเมินแรงส่งทางด้านการใช้จ่ายของภาคเอกชนและภาครัฐว่าจะมีความต่อเนื่องอย่างไรบ้าง.

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 20 สิงหาคม 2557)

 

[Pete 15,187]

บุนเดสแบงก์ระบุแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศอาจจะไม่แข็งแกร่งตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ บุนเดสแบงก์ เปิดเผยรายงานประจำเดือน โดยระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศอาจจะไม่แข็งแกร่งตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จากสาเหตุความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ แม้ว่าทิศทางช่วงขาขึ้นโดยรวมจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

 

บุนเดสแบงก์ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีหลังครึ่งปีแรกผ่านไปนั้น ชะลอตัวลงอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยลบจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ การคาดการณ์ที่ว่าวงจรทิศทางจะแข็งแกร่งขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 อาจจะเป็นไปตามคาดการณ์ เมื่อดูจากปัจจัยชี้นำในปัจจุบัน

 

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางเยอรมนีเปิดเผยคาดการณ์ในฤดูใบไม้ผลิว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะขยายตัว 1.9% ในปี 2557 ขณะที่เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัว 0.7% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ก่อนที่จะหดตัว 0.2% ในไตรมาส 2

 

ข้อมูลล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่า ความตึงเครียดทางการเมืองระดับภูมิศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตยูเครน ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจเยอรมนี โดยสถาบันไอเอฟโอซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 สู่ระดับ 108.0 ในเดือนก.ค. ขณะที่คำสั่งซื้อและการผลิตภาคอุตสาหกรรมต่างปรับตัวลง

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 20 สิงหาคม 2557)

 

[Pete 15,187]

ภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดเงินปริวรรตประจำวันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2557 ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ 31.87/89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.82/84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับตระกร้าเงินสกุลหลักเมื่อคืนที่ผ่านมาโดยได้รับอานิสงค์จากตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ประกาศออกมาดีเกินคาด หลังจากที่สมาคมผู้สร้างบ้านของสหรัฐ (NAHB) ได้เปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.0 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเท่ากับเดือนก่อนหน้าที่ 53.0 ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่ผู้สร้างบ้านที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียดูบรรเทาลง ภายหลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17/8) การหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศร่วมกับเยอรมนีและฝรั่งเศสนั้นได้ข้อสรุปว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากรัสเซียไปยูเครนได้รับการแก้ไขแล้ว อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวยังไม่สามารถบรรลุถึงข้อตกลงการหยุดยิงได้

 

 

ค่าเงินบาทเคลื่อนไหว ทรงตัว 31.90-32.00

 

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่เงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ซื้อขายที่ระดับ 148.76 จุด เมื่อเวลา 9.34 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,485.93 จุด เพิ่มขึ้น 36.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,241.66 จุด ลดลง 3.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,156.95 จุด เพิ่มขึ้น 34.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,278.15 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,080.77 จุด เพิ่มขึ้น 9.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,325.30 จุด เพิ่มขึ้น 8.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,874.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด

 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดแผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.7% มาอยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 945,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองบวกมากขึ้น หลังจากตลาดที่อยู่อาศัยซบเซาเมื่อช่วงต้นปี

 

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งนักลงทุนมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงนั้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 20 สิงหาคม 2557)