ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีเช้าวันพุธ ราคาทองตลาดโลกก็ยังวนเวียนรีรอไม่ไปไหน $1228-1231 รอคอย ตี 1 ของคืนวันนี้ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยกเลิก QE จริงหรือไม่ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องจริง แต่คำแถลงของการประชุมเฟด จะออกมาในรูปแบบใดนั้น เชื่อว่าไม่น่ามี คงต้องรอให้วันที่ 4 พฤศจิกายน ผลการทดสอบหยั่งคะแนนเสียงของ โอบามา ผ่านไปแบบชนะก่อน ถึงจะบอกว่า Change ตามนโยบายโอบามา ผิดพลาด ทำให้เศรษฐกิจไม่ก้าวหน้าสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ช่วงนี้ จึงต้องสร้างภาพไว้ก่อนว่าดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MACD ของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ ยังไม่มีการตัดกันของเส้นดำเส้นแดง ก็ต้องบอกตามเส้นฯว่า " ดอลล์สหรัฐฯ ยังคงสัญญานด้านอ่อนค่า " แต่หลังคืนนี้เที่ยงคืนต้องระวัง ถ้าเกิดการประชุมเฟด ออกมาเปิดเผยในด้านสร้างความแข็งให้ดอลล์สหรัฐฯ มันจะแข็งเยอะอย่างเร็ว เพื่อให้เส้นตัดกัน เพื่อนๆ ว่าน่าจะเป็นไปได้ไหม " ความคิดเห็นส่วนตัวอีกแล้ว 555 ยากนะที่จะแข็ง เพราะ คราวก่อนนางเยลเลน พึ่งบ่นเองว่า " ค่าเงินดอลล์แข็งเป็นอันตรายและไม่ส่งผลดีต่อสหรัฐฯ ในการค้าขายและการลงทุน " เด็กขายของว่า มันก็ยังคงต้องอ่อนค่า ต่อไป อีกระยะ จนกว่า ECB ธนาคารกลางยูโร จะบ่นว่า ยูโรแข็งค่าเกินไป 555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาท จึงยังไม่ขยับไปทางไหน วนเวียนแถว 32.4x ต้นๆๆ แต่เมื่อถ้าดอลล์จะอ่อนค่า ก็จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท ในทางแข็งค่า แข็งมาระดับ 32.3x บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MACD รหัส 5,35,9 แบบส่งสัญญานนำทาง ของราคาทอง เส้นดำเส้นแดง ตัดกันไปเมื่อวานนี้ และวันนี้ปรากฎเส้นแดงอยู่เหนือเส้นดำ อย่างชัดเจน ถ้าวันนี้มีย่อระดับ 1218 จากผลของการที่นักลงทุนมองกราฟฯ และเทขาย ก็น่าจะเข้าเสี่ยงซื้อสวนแต่เพียงน้ำจิ้มเล็กน้อย เพื่อความหวังหลังเที่ยงคืนที่จะทำให้ดอลล์สหรัฐฯ อ่อนค่า แต่อีกนั้นแหล่ะ อาแปะจะยอมไหมเอ่ย ในราคา Fair Fair

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บ่ายนี้ ยูโรโซน ไม่มีรายงานเศรษฐกิจ ยกความเสี่ยงกับเหตุการณ์ไปที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯมตอนตี 1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นUSบวกแรง,น้ำมัน+42เซนต์,ทอง+10เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2557 7:26น.

 

หุ้นสหรัฐปิดแดนบวก หลังจากมีรายงานข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น น้ำมันไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 42เซนต์ ทองคำตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 10เซนต์

ปิดการซื้อขายราคาตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา ปิดแดนบวกแรง จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้นในอเมริกา และรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 187.81 จุด หรือ+1.12 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 17,005.75 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.42 จุด หรือ+1.19 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,985.05จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 78.36 จุด หรือ+1.75 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,564.29 จุด ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ของ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ+0.52เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 81.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่วนน้ำมันเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 86.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 10เซนต์ หรือ +0.01เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1229.40 ดอลลาร์ สหรัฐ ต่อ ออนซ์ หลังนักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือหากเฟด จะยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

U.S. Stocks

See After-Hours Trading Data as of 5:15pm ET

Tuesday’s Close:

Dow+187.81 17,005.75 +1.12%

Nasdaq+78.36 4,564.29 +1.75%

 

S&P+23.42 1,985.05 +1.19%

 

Oil (Light Crude)

Dec. 2014 contract

$ / barrel Floor 81.42 +0.42 +0.52%

 

Gold

Dec. 2014 contract

$ / troy ounce 1,229.40 +0.10 +0.01%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) จากข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและราคาบ้านที่ออกมาน่าผิดหวัง ก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2736 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2708 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.6131 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6129 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.08 เยน เทียบกับระดับ 107.70 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9469 ฟรังค์ จาก 0.9486 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8855 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8807 ดอลลาร์

 

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่เป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 1.3% แตะระดับ 2.416 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% หลังจากที่ร่วงลงรุนแรงถึง 18.3% ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกัน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค. แต่เป็นอัตราที่ชะลอลง โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 6.7% ในเดือนก.ค.

 

อย่างไรก็ตาม คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 94.5 จากระดับ 89.0 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนต.ค.เคลื่อนไหวในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 87.0 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายในประเทศมากยิ่งขึ้น

 

ข้อมูลความเชื่อมั่นที่สดใสได้ช่วยหนุนดอลลาร์ให้ลดช่วงติดลบระหว่างวันไปได้บ้าง

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างคาดว่าเฟดจะปิดฉากการประชุมกำหนดนโยบายในวันนี้ด้วยแถลงการณ์ที่มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในเดือนนี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 29 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1229.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ ปิดที่ 17.226 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 11.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1266.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับขึ้น 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 793.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของเฟดในวันพุธที่ 29 ต.ค.ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 94.5 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 89.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนต.ค.เคลื่อนไหวในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 87.0

 

นักลงทุนจับตาดูสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของจีดีพีในช่วงไตรมาส 3/2557 ในวันพฤหัสบดีนี้ และในวันเดียวกันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 29 ตุลาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ต.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลและยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างผิดคาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,005.75 จุด พุ่งขึ้น 187.81 จุด หรือ +1.12% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,564.29 จุด เพิ่มขึ้น 78.36 จุด หรือ +1.75% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,985.05 จุด เพิ่มขึ้น 23.42 จุด หรือ +1.19%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ขานรับรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี นอกจากนี้ ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทหลายแห่งในยุโรปยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาดดีดตัวขึ้นด้วย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 328.25 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,068.19 จุด พุ่งขึ้น 165.58 จุด หรือ +1.86% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,112.67 จุด เพิ่มขึ้น 15.93 จุด หรือ +0.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,402.17 จุด เพิ่มขึ้น 38.71 จุด หรือ +0.61%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมือง ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 38.71 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 6,402.17 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยมติการประชุมในวันพุธตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 81.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 86.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1229.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ ปิดที่ 17.226 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 11.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1266.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับขึ้น 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 793.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) จากข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและราคาบ้านที่ออกมาน่าผิดหวัง ก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2736 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2708 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.6131 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6129 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.08 เยน เทียบกับระดับ 107.70 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9469 ฟรังค์ จาก 0.9486 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8855 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8807 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,005.75 จุด เพิ่มขึ้น 187.81 จุด +1.12%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,564.29 จุด เพิ่มขึ้น 78.36 จุด +1.75%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

ขอบคุณ คุณป๋า มาก ๆ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำปิดปรับตัวขึ้นหลังยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐเดือนก.ย.ร่วงลงอย่างผิดคาด

 

สัญญาทองคำตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ของสหรัฐร่วงลงอย่างผิดคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น10 เซนต์ ปิดที่ราคา 1,229.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 1.3% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะดีดตัวขึ้น 0.5% หลังจากที่ร่วงลงรุนแรงถึง 18.3% ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภาคเอกชนของสหรัฐวางแผนที่จะลดการลงทุนทางธุรกิจ

 

ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และนักลงทุนมักจะเข้าซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะอ่อนแอ แต่หากเศรษฐกิจและตลาดหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น นักลงทุนก็จะเทขายทองคำ และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นตลาดหุ้น

 

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 29 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายมิเชล บาร์นิเยร์ กรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู) ด้านบริการและตลาดในภูมิภาค ออกโรงเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตการเงินระลอกใหม่ พร้อมกับเรียกร้องให้อียูกำหนด "เจตนารมย์ทางการเมือง" เพื่อเศรษฐกิจของยุโรป

 

นายบาร์นิเยร์เปิดเผยระหว่างบรรยายการสอนให้มหาวิทยาลัยบ็อคโกนีในเมืองมิลานของอิตาลีว่า หนึ่งบทเรียนสำคัญที่ตนได้เรียนรู้จากการอยู่ในคณะกรรมาธิการอียูมา 5 ปีก็คือ "ความจำเป็นในการเฝ้าระวังตลอดเวลา" เพื่อรับมือความเสี่ยงใหม่ๆที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเงิน

 

"วิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อยุโรปตั้งแต่ปี 2551 ยังไม่สงบ แน่นอนว่าเราผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดไปได้แล้ว แต่ยังติดอยู่ใจกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่จุดชนวนจากวิกฤตการเงิน" นายมิเชลกล่าว พร้อมกันนี้ยังเตือนถึง "ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในภาคการเงิน"

 

กรรมาธิการอียูแสดงความเห็นว่า 4 ประเด็นสำคัญที่อียูควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ สถาบันทางการเงินที่ใหญ่เกินจะล้มละลาย การใช้กฎเกณฑ์ที่ขาดความสอดคล้องกับสากล วิวัฒนาการของภาคธนาคารเงาที่ไม่ควบคุมไม่ได้ และการที่ภาคธุรกิจพึ่งพาภาคธนาคารอย่างหนัก

 

นายบาร์นิเยร์ระบุว่า อียูยังไปไกลกว่ากลุ่ม G-20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่สหภาพธนาคาร ขณะเดียวกันควรใช้มาตรการและกฎระเบียบใหม่ๆเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ยูโรโซน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาตลาดเงินในยุโรปที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และยังเป็นวิธีที่ดีกว่าในการคุ้มครองผู้จ่ายภาษีและพลเมืองจากความเสี่ยงที่แบงก์แบกรับสำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 28 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า นับตั้งแต่ที่วิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐ เกิดขึ้นในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ ได้ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ยังรวมถึงการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านการซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่นับจากเดือนธันวาคม 2551 เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถก้าวข้ามวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงไปให้ได้ ทั้งนี้ ผลจากมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ดังกล่าว ช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐทยอยฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะยังคงดำเนินการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงอีก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมครั้งที่ 7 ของปี 2557 ในวันที่ 28-29 ตุลาคม 2557 อันถือเป็นการสิ้นสุดการซื้อสินทรัพย์ภายใต้โครงการ QE อย่างเป็นทางการ หลังจากที่นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากของเฟดช่วยให้พื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จนสามารถหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังมีไม่มากนัก อาจส่งผลให้เฟดใช้ความระมัดระวังประเมินสภาวะของเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะเริ่มส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการปรับนโยบายการเงินให้เป็นแบบปกติมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะต้องติดตามในระหว่างนี้ ได้แก่ แนวทางในการจัดการงบดุล รวมทั้งการจัดการสภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงินสหรัฐ

 

สำหรับผลกระทบต่อตลาดการเงินไทย คงต้องยอมรับว่า ท่าทีของเฟดที่มีความระมัดระวังมากขึ้น ต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในระยะข้างหน้าดังกล่าว คงช่วยทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลงในทิศทางเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และคลายความวิตกต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติลงไปบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดคงจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว คงทำให้อัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ไทยมีโอกาสขยับขึ้นตาม ซึ่งเป็นสัญญาณให้ภาคธุรกิจของไทยต้องเตรียมบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินรองรับไว้ล่วงหน้า ขณะที่คงเป็นเหตุการณ์ที่ทางการไทยคงติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของไทย

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง (วันที่ 29 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากนักลงทุนต่างรอติดตามผลการ ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่ประเมินว่าจะมีการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงต่อ เนื่องจากการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างยังรอติดตามว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

 

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,227.97 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,222 และ 1,235 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,900 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,800 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 1.8 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 743.59 ตัน

 

รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 94.5 จากเดือนกันยายนที่ระดับ 89.0 ซึ่งรายงานเดือนล่าสุดนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 87.0 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายใน ประเทศมากยิ่งขึ้น ส่วนรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกันยายนของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1.3% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% สะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนของสหรัฐฯ ลดการลงทุนทางธุรกิจ

 

นักลงทุนยังคงจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะทราบผลการประชุมในช่วงค่ำของวันนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้หรือไม่

 

นอกจากเรื่องการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ แล้ว นักลงทุนยังจับตาดูการประมาณการครั้งแรกจีดีพีในช่วงไตรมาส 3 ปี 2557 ของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสฯ ซึ่งในวันเดียวกันนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ ส่วนการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งวานนี้ในการซื้อขายระหว่างวัน ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวกลับ และปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันจันทร์

 

ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคโดยรวมของราคาทองคำจึงยังไม่ต่างจากเดิม แนวรับบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ยังเป็นแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้น แต่ควรระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีออกมามาก หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณดังกล่าวได้ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,235-1,240 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (29/10/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...