ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

หุ้นสหรัฐฯทุบสถิติ-ทองคำดิ่ง$22จากผลเลือกตั้งกลางเทอม น้ำมันฟื้น

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2557 05:03 น.

 

 

เอเอฟพี - ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่เมื่อวันพุธ(5พ.ย.) ส่วนทองคำร่วงหนัก หลังผลศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯส่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา กระพือความหวังต่อนโยบายเอื้อภาคธุรกิจ ขณะที่น้ำมันฟื้นตัวจากข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงของอเมริกา

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 100.69 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,484.53 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.47 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,023.57 จุด แนสแดค ลดลง 2.91 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,620.72 จุด

 

แจ็ค แอบลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนของบีเอ็มโอไพรเวทแบงค์ เผยนักลงทุนตั้งความหวังว่าผลเลือกตั้งครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสแห่งการปฏิรูปภาษี ผลักดันโครงการสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนและปฏิรูปคนเข้าเมือง เช่นเดียวกับประเด็นอื่นๆ

 

ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักวานนี้(5พ.ย.) และปิดลบเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน หลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ดันดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 22.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,145.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ส่วนราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(5พ.ย.) ฟื้นตัวพอสมควร หลังรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดหมาย บ่งชี้ว่าอุปสงค์ยังคงแข็งแรงอยู่

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

น้ำมันขยับขึ้น หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นถึงราวๆ 2.2 ล้านบาร์เรล

 

[Pete 15,187]

 

หุ้นสหรัฐฯทุบสถิติ-ทองคำดิ่ง$22จากผลเลือกตั้งกลางเทอม น้ำมันฟื้น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2557 05:03 น.

 

เอเอฟพี - ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่เมื่อวันพุธ(5พ.ย.) ส่วนทองคำร่วงหนัก หลังผลศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯส่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา กระพือความหวังต่อนโยบายเอื้อภาคธุรกิจ ขณะที่น้ำมันฟื้นตัวจากข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงของอเมริกา

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 100.69 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,484.53 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.47 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,023.57 จุด แนสแดค ลดลง 2.91 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,620.72 จุด

 

แจ็ค แอบลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนของบีเอ็มโอไพรเวทแบงค์ เผยนักลงทุนตั้งความหวังว่าผลเลือกตั้งครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสแห่งการปฏิรูปภาษี ผลักดันโครงการสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนและปฏิรูปคนเข้าเมือง เช่นเดียวกับประเด็นอื่นๆ

 

ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักวานนี้(5พ.ย.) และปิดลบเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน หลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ดันดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 22.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,145.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ส่วนราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(5พ.ย.) ฟื้นตัวพอสมควร หลังรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดหมาย บ่งชี้ว่าอุปสงค์ยังคงแข็งแรงอยู่

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

น้ำมันขยับขึ้น หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นถึงราวๆ 2.2 ล้านบาร์เรล

 

[Pete 15,187]

โอบามาสัญญาทำงานร่วมรีพับลิกัน หลังแพ้เลือกตั้งกลางเทอม

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2557 04:01 น.

 

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเมื่อวันพุธ(5พ.ย.) ให้สัญญาพร้อมทำงานร่วมกับรีพับลิกัน หลังจากพรรคฝ่ายค้านคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งกลางเทอม และร้องขอแรงสนับสนุนสำหรับต่อกับอีโบลาและนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม

 

"แน่นอนว่า พวกรีพับลิกันมีค่ำคืนที่สวยงาม" เขายอมรับ หลังจากยึดเสียงข้างมาจากในวุฒิสภามาจากพรรคเดโมแครตของโอบามา และคว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฏรที่ครองเสียงข้างมากอยู่ก่อนแล้วได้เพิ่มเติม

 

"ผมกระตือรือร้นทำงานร่วมกับสภาคองเกรสชุดใหม่ เพื่อก่อประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า" โอบามากล่าว แต่ก็เตือนว่ายังมีร่างกฎหมายบางส่วนที่เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้สิทธิ์วีโต้ "มันเป็นธรรมดา มันเป็นวิถีทางประชาธิปไตย แต่แน่นอนว่า เราสามารถหาทางทำงานร่วมกันในประเด็นต่างๆที่ได้รับความเห็นชอบอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนชาวอเมริกา"

 

โอบามา บอกว่าคำวิงวอนแรกของเขาที่จะร้องขอจากคองเกรสชุดใหม่ก็คือความช่วยเหลือต่อสู้กับการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก และขอแรงสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ กำราบนักรบญิฮัดในอิรักและซีเรีย

 

"สิ่งแรกที่ผมจำยื่นขอจากคองเกรสคือเงินทุนที่จะรับประกันว่าแพทย์ นักวิทยาศาสตร์และทหารของเรา มีทรัพยากรอย่างเพียงพอสำหรับจัดการกับการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก และยกระดับการเตรียมตัวรับมือกับความเป็นไปได้ของการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกในอนาคตภายในดินแดนของเรา" โอบามากล่าว พาดพิงถึงคำของบประมาณฉุกเฉิน 6,000 ล้านดอลลาร์ในการต่อสู้กับไวรัสรณะ

 

"ส่วนอย่างที่ 2 คือ ผมจะเริ่มประสานงานกับคองเกรส เกี่ยวกับขออาณัติใหม่ในการใช้กำลังทหารกับนักรบรัฐอิสลาม" เขากล่าว

 

 

[Pete 15,187]

อเมริกันชน'สั่งสอน'คณะรบ.โอบามา ชู'รีพับลิกัน'ยึดเสียงข้างมากทั้ง2สภา

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤศจิกายน 2557 22:01 น.

 

 

 

 

 

 

เอเจนซีส์ - “พรรครีพับลิกัน” ขี่กระแสความไม่พอใจของอเมริกันชนที่มีต่อคณะรัฐบาลและนโยบายที่ไม่ได้รับความนิยมของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จนสามารถกวาดชัยชนะงามหยดในศึกเลือกตั้งกลางเทอม โดยได้ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่างสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้การผลักดันนโยบายต่างๆ ของผู้นำทำเนียบขาวในช่วงสองปีสุดท้ายที่อยู่ในตำแหน่งของเขา ยากเย็นเข็ญใจขึ้นอีกหลายเท่า ขณะที่รีพับลิกันมีภาษีดีขึ้นถนัดตาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปี 2016

 

ขณะที่การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด แต่คำนวณได้อย่างชัดเจนแล้วว่า เสียงในวุฒิสภาของรีพับลิกันภายหลังการเลือกตั้งกลางสมัยในวันอังคาร (4 พ.ย.) จะเพิ่มขึ้นจาก 45 ที่นั่งเป็นอย่างน้อย 52 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง ทั้งนี้ในการเลือกตั้งคราวนี้มีที่นั่งวุฒิสมาชิกที่ครบวาระหรือผู้ดำรงตำแหน่งขอเกษียณอายุ ให้เลือกตั้งกันใหม่รวม 36 ที่นั่ง

 

มิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำของรีพับลิกันในวุฒิสภา ซึ่งกำลังจะพลิกฐานะจากการเป็น “ผู้นำฝ่ายเสียงข้างน้อย” ไปเป็น “ผู้นำฝ่ายเสียงข้างมาก” ในสภาสูง กล่าวปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า อเมริกาได้ทดลองใช้ระบบรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่แต่ไร้ประสิทธิภาพตามแบบของพวกพรรคเดโมแครตมานานพอแล้ว ขณะนี้จึงถึงเวลาที่จะเปลี่ยนไปสู่เส้นทางใหม่

 

อย่างไรก็ดี แมคคอนเนล ซึ่งก็เพิ่งคว้าชัยชนะเป็นวุฒิสมาชิกต่ออีก 6 ปี ในการแข่งขันที่หืดขึ้นคอที่สุดในรอบ 30 ปีในรัฐเคนทักกี กล่าวด้วยน้ำเสียงประนีประนอมว่า เขาและโอบามามีหน้าที่ต้องร่วมมือกันในประเด็นที่สามารถตกลงกันได้

 

รีพับลิกันนั้นครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่มีทั้งหมด 435 ที่นั่งและมีวาระคราวละ 2 ปี มาตั้งแต่ปี 2010 จากการเลือกตั้งคราวนี้ คาดว่าอาจได้ ส.ส. เพิ่มขึ้นจากเดิม 18 คน ทำให้มีเสียงข้างมากมั่นคงที่สุดนับจากปี 1946

 

นอกจากนี้ ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกนับจากปี 2006 ที่รีพับลิกันยึดครองได้ทั้งสภาสูงและสภาล่าง

 

ไม่เพียงเท่านั้น รีพับลิกันยังกำชัยในการเลือกตั้งผู้ว่าการมลรัฐที่เปิดแข่งขัน 36 รัฐ จากทั้งหมด 50 รัฐ โดยคนของพรรคนี้ได้รับเลือกตั้งสมัยที่สองในฟลอริดา วิสคอนซิน และแคนซัส และยังชนะในรัฐที่เป็นฐานเสียงของเดโมแครตอย่างเช่นแมริแลนด์และแมสซาชูเซตส์

 

 

มิตช์ แมคคอนเนล วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันจากเคนทักกี ซึ่งกำลังกลายเป็น “ว่าที่ผู้นำฝ่ายเสียงข้างมากในวุฒิสภา” พร้อมกับภรรยาของเขา อดีตรัฐมนตรีแรงงาน อีเลน เชา ร่วมเฉลิมฉลองกับพวกผู้สนับสนุนของเขาในคืนวันเลือกตั้ง 4 พ.ย. ที่เมืองหลุยสวิลล์, เคนทักกี

 

แต่ที่น่าเจ็บปวดที่สุดสำหรับโอบามาคือการเลือกตั้งในฐานเสียงของเขาอย่างมลรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งปรากฏว่า บรูซ รอว์เนอร์จากรีพับลิกัน สามารถโค่นแพต ควินน์ ผู้ว่าการรัฐสังกัดเดโมแครต

 

ในทางกลับกัน พลพรรคเดโมแครต เป็นต้นว่า วุฒิสมาชิกมาร์ก ไพรเออร์จากอาร์คันซอส์, เคย์ เฮแกนจาก นอร์ทแคโรไลนา และมาร์ก อูดัลจาก โคโลราโด ต่างชวนกันสอบตก ที่พอจะเชิดหน้าชูตาพรรคนี้ได้เห็นจะมีเพียง จีนน์ ชาฮีน วุฒิสมาชิกจากนิวแฮมป์เชียร์ ที่สามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้

 

เดโมแครตนั้นพยายามอย่างหนักในการชักชวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงออกไปเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถต้านทานความแรงของรีพับลิกันที่มุ่งป่าวร้องต่อประชาชนว่า การเลือกตั้งคราวนี้คือการแสดงความไม่ไว้วางใจการบริหารของโอบามา

 

รีพับลิกันโจมตีว่า คณะรัฐบาลโอบามาแทรกแซงชีวิตคนอเมริกันมากเกินไป พวกเขายังฉวยโอกาสทองขณะที่อเมริกันชนไม่พอใจการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้า แถมประเทศยังถูกรุมเร้าด้วยปัญหาใหม่ๆ เช่น การระบาดของอีโบลา และการฆ่าตัดคอนักข่าวอเมริกันโดยนักรบกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)

 

ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเกือบ 2 ใน 3 ที่ให้สัมภาษณ์หลังการใช้สิทธิ ต่างบอกว่า อเมริกากำลังเดินผิดทางอย่างร้ายแรง มีเพียง 30% ที่บอกว่า ประเทศชาติเดินมาถูกทางแล้ว

 

เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรีพับลิกันสายอนุรักษนิยมสุดขั้ว วิจารณ์ว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ฟ้องว่า ประชาชนปฏิเสธนโยบายของโอบามา อย่างไรก็ดี เขาย้ำสิ่งที่หลายคนในพรรคเรียกร้อง นั่นคือความรับผิดชอบในการบริหารประเทศที่ขณะนี้ตกมาอยู่ในมือรีพับลิกันแล้ว โดยเฉพาะการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016

 

ทั้งนี้ รัฐสภาชุดใหม่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในเดือนมกราคมปีหน้า และการที่เดโมแครตเป็นพรรคเสียงข้างน้อยทั้งในสภาสูงและสภาล่าง ทำให้โอบามาจะยิ่งลำบากขึ้นในการผลักดันนโยบาย ในช่วง 2 ปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง

 

ขณะเดียวกัน ชัยชนะครั้งนี้ทำให้รีพับลิกันอยู่ในตำแหน่งที่สามารถกำหนดแนวทางของรัฐสภาได้ โดยเชื่อว่า จุดมุ่งเน้นใหญ่จะอยู่ที่เศรษฐกิจ เป็นต้นว่า การผลักดันโครงการสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์ สโตน เอ็กซ์แอล จากแคนาดาไปยังอ่าวเม็กซิโก, การส่งเสริมการผลิตก๊าซธรรมชาติ, การช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก, การควบคุมการขาดดุลงบประมาณ, การลดกฎระเบียบของรัฐ, และการขัดขวางโครงการประกันสุขภาพ

 

[chaiklang 161]

สวัสดีครับป๋า

 

ลุ้นทองทุกวันเลยช่วงนี้ ^^

[Pete 15,187]

ราคาทองคำร่วงลงราว2% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

 

 

ราคาทองคำร่วงลงราว 2% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี มีแนวโน้มที่จะร่วงลงไปเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ความต้องการลดลง

 

ระหว่างวันซื้อขาย ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์ก ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,137.40ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 เป็นต้นมา ก่อนจะดีดตัวขึ้นเล็กน้อย ปิดตลาดที่ 1,145.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงจากการซื้อขายในวันก่อนหน้านี้ 22 ดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า มีความเป็นไปได้ ที่ราคาทองคำอาจหล่นลงไปทดสอบระดับที่ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงทะลุแนวต้านที่ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซืไปแล้ว

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (06/11/2557)

 

[Pete 15,187]

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2 ต่อปี โดยเห็นว่ายังมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้

 

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2 ต่อปี แม้ว่าสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังน้อยกว่าที่ประเมินไว้ และเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน

 

ทั้งนี้ กนง.เชื่อว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการขับเคลื่อนการ ลงทุนภาครัฐ และการส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน และคาดว่าการส่งออกปีหน้าจะกระเตื้องขึ้นได้

 

แต่ กนง.จะยังคงติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมนโยบายที่เหมาะสมในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

 

 

 

 

ที่มา : Thai PBS (06/11/2557)

 

[Pete 15,187]

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 พ.ย.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐได้เพิ่มการจ้างงานในอัตราที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนัก วิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสในศึกเลือก ตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.69 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด หรือ +0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.72 จุด ลดลง 2.92 จุด หรือ -0.06%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐได้เพิ่มการจ้างงาน ในอัตราที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.7% ปิดที่ 336.36 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,315.48 จุด พุ่งขึ้น 149.01 จุด หรือ +1.63% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,208.42 จุด เพิ่มขึ้น 78.23 จุด หรือ +1.89% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,539.14 จุด เพิ่มขึ้น 85.17 จุด หรือ +1.32%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) นำโดยหุ้นมาร์คส์ แอนด์ สเปนเซอร์ หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 85.17 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 6,539.14 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ไว้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์ พลังงานในสหรัฐ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- -สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยสัญญาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2553 เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้ความต้องการซื้อทองคำลดน้อยลง นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่สูงเกินคาดของภาคเอกชนสหรัฐ ยังทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 22 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ปิดที่ 1,145.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 51.4 เซนต์ ปิดที่ 15.439 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 14.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1210.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 32.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 757.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) จากข้อมูลการจ้างงานที่สดใส ขณะที่ชัยชนะของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอม ได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าจะมีการดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อภาคธุรกิจมากขึ้นใน สหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2478 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2556 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5977 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6004 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 114.71 เยน เทียบกับระดับ 113.57 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9650 ฟรังค์ จาก 0.9595 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8582 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8744 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.69 จุด +0.58%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,620.72 จุด ลดลง 2.92 จุด -0.06%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,023.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด +0.57%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,539.14 จุด เพิ่มขึ้น 85.17 จุด +1.32%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,315.48 จุด เพิ่มขึ้น 149.01 จุด +1.63%

[Pete 15,187]

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) จากข้อมูลการจ้างงานที่สดใส ขณะที่ชัยชนะของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอม ได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าจะมีการดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อภาคธุรกิจมากขึ้นในสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2478 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2556 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5977 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6004 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 114.71 เยน เทียบกับระดับ 113.57 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9650 ฟรังค์ จาก 0.9595 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8582 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8744 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งหลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง

 

ข้อมูลจ้างงานที่สดใสดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองเชิงบวกของเฟดเกี่ยวกับตลาดแรงงานเมื่อเดือนที่แล้ว และช่วยหนุนคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยนักวิเคราะห์มองว่าเป็นข่าวดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 6 พฤศจิกายน 2557)

[Pete 15,187]

ยูโรทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย ขณะที่นักลงทุนรอดูว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะจัดการอย่างไรกับความไม่พอใจของเจ้าหน้าที่อีซีบี และดอลลาร์พุ่งขึ้นจากการคาดการณ์ว่ารายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะออกมาแข็งแกร่ง

ยูโรอยู่ที่ 1.2483 ดอลลาร์ หลังจากร่วงลงเกือบ 1 เซนต์สหรัฐจากระดับสูงสุดเมื่อวันอังคารที่ 1.2577 ดอลลาร์

นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมนโยบายของอีซีบีในวันนี้ ซึ่งได้รับความสำคัญมากเป็นพิเศษ

จากรายงานที่ว่า สมาชิกบางคนไม่พอใจกับการผลักดันมาตรการกระตุ้นเชิงรุกของนายดรากี

ผลสำรวจกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนที่น่าผิดหวังได้เพิ่มแรงกดดันให้อีซีบีผ่อนคลายนโยบายลงอีก

"เราคิดว่าอีซีบีจะยังไม่ออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้ แต่นายดรากีจะส่งสัญญาณชัดเจนว่า สภาบริหารมีพันธะสัญญาต่อการขยายงบดุลของอีซีบี" นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์กล่าว

"เป้าหมายงบดุลจะเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุ นอกเสียจากอีซีบีจะขยายขอบเขตโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่อรวมพันธบัตรรัฐบาล และนักเศรษฐศาสตร์ในยุโรปของเราก็ยังคงคาดว่าจะมีนโยบายในเดือนหน้า"

ข้อมูลที่อ่อนแอจากยุโรปสวนทางกับข้อมูลที่สดใสมากขึ้นจากสหรัฐ ซึ่งการจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

นักลงทุนยังได้แรงหนุนจากผลการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 แต่ว่าปัจจัยดังกล่าวจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญในระยะใกล้หรือไม่นั้น ยังคงไม่ชัดเจน

ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่งที่ 87.606 ก่อนที่จะอ่อนค่าเล็กน้อย มาที่ 87.431 บวก 0.5%

ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7ปีที่ 114.85เยน และยูโรพุ่งแตะระดับ 143.44เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเม.ย.

นักลงทุนยังคงต้องการขายเยน หลังจากนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจพร้อมที่จะดำเนินการมากกว่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลลอตัว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนขายดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.ค.2010 ดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งแตะระดับต่ำสุดที่ 0.8565 ดอลลาร์ หลังจากร่วงทะลุแนวรับสำคัญ ที่ระดับ 0.8640/0.8650ดอลลาร์ ทำให้ตลาดส่งคำสั่งขายออกมาอีก และล่าสุดอยู่ที่ 0.8593 ดอลลาร์

 

ที่มา: ทันหุ้น(06/11/2557)

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

สวัสดีวันศุกร์ ลูกเพ่ขาใหญ่สหรัฐฯ เทเอา เทเอา กดดันราคาทองจนคนถือทองแท่งตัวเป็นๆ จนทรัพย์สินทอนเป็นเงินสดหายไปมากเลย ซึ่งน่าจะถึงจุดสูงแล้วของดอลล์สหรัฐฯ 88.00 และ ราคาทองก็กดถึงต่ำสุดของกรอบเส้นแล้ว วันนี้ ลูกเเพ่สหรัฐฯ ขอเถอะ ขายดอลล์สหรัฐฯ ให้ดอลล์อ่อนค่าบ้าง และดันราคาทองให้ Rebound บ้างนะ เดี๋ยวนักลงทุนฯ กับ ธนาคารกลางทั่วโลกจะไม่กล้าถือดอลล์สหรัฐในการติดต่อค้าขายเป็นสกุลหลักนะ เพราะแข็งค่าเกินจริง เกินไปแล้ว

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ ถูกแข็งค่าขึ้นเหนือ 88.00 จนได้ จากธนาคารยุโรป ช่วยผลักดันอย่างแรงเมื่อคืนนี้ เส้นดำเส้นแดง ยังถ่างออกจากกัน ยังไม่มีลักษณะตัดกันที่จะเป็นสัญญานนำทางในทางอ่อนค่าลง อย่างต่อเนื่อง จะมีก็ประเด็น เลยจุดที่ควรจะแข็ง 88.0 ไปแล้ว

 

เวลาแข็งค่าขึ้นแบบนี้ พวกประกอบกิจการ Exchange จะไม่พยายามที่จะถือดอลล์สหรัฐฯ มากเกิน เพราะถือว่า เสี่ยงมาก ธุรกิจส่งออกจะดี แต่น้ำเข้าจะต้นทุนสูงขึ้น

[Pete 15,187]

ดอลล์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นในตอนนี้ สิ่งที่ส่งผลตามมาอย่างแน่นอน คือ เงินบาทที่อ่อนค่า 32.84-32.86 รอมร่อที่จะแตะ 33 บาท อยู่แล้ว ผู้นำเข้าจะไม่สั่งสินค้าจากสหรัฐฯ นะ แล้วสหรัฐฯ จะมีปัญหาในการส่งออก ถ้ายังขืนดันให้ดอลล์แข็งค่าแบบนี้

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 สัญญานนำทองของราคาทองคำ เส้นดำเส้นแดง ก็ยังถ่างออกจากกัน แต่มันก็ถูกกดดันมาต่ำมาก ช่วงนี้ จะไม่มีการซื่อเข้าเพิ่มเติม ทั้งเฉลี่ยนทุนเดิม หรือ เล่นระยะสั้น เพราะมันมีความเสี่ยงมากมาย น่าจะรอคอย จนเส้นดำเส้นแดง มีลักษณะที่น่าสนใจมากกว่านี้

 

หลายคน คงเล็งให้ราคาทองขยับขึ้นไปก่อน ชนแนวต้าน 1150 แล้วจะถือสถานะ Short หรือ บางคนทายว่า จะลงต่ำกว่า 1140 ก็เปิดสถานะ Short ตามไปเลย ก็ระมัดระวังไว้อย่างมาก