ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

จุด รีบาว 50 % ส่วนตัว มอง น่าจะได้ เห็น 1182 เร็วๆนี้นะป๋า

ผมก็ว่า นั้นแหล่ะ 1182-1186

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ

 

มานั่ง จุ้มปุ๊ก รอ ป๋าวิแคะ กะ บ่น ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐ เมื่อคืนนี้ อ่อนค่าลงมานิดหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ราคาทอง ขยับขึ้นเหนือต้าน 1171-1174 ไปได้ ชนแล้วก็ย่อ / เส้นดำเส้นแดง ยังถ่างออกเช่นเดิม ยังไม่มีการตัดกันครั้งใหม่ แนวโน้มสำคัญ คงอยู่ที่การประกาศรายงานตัวเลข Adp คืนนี้ ถ้าแย่ลง ค่าเงินดอลล์ ก็จะอ่อนค่า ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 จังหวะนั้น น่าจะมี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อค่าเงินดอลล์อ่อนค่าลงมานิด ผลกระทบก็ส่งให้บาทแข็งค่าจากเมื่อวานนี้ กรอบวันนี้ 32.60-32.66 แนวออกแข็งค่า และวันนี้ ก็มีประชุม กนง. เรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็คาดว่า คงดอกฯ ที่ 2% ต่อไปสำหรับ คนไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของทองคำ สัญญานนำทาง ยังไม่มีตัดกันรอบใหม่ ยังคงให้สัญญานขาย แต่ในที่นี้ เส้นดำลงมาประชิดติดด้านล่างมากเกิน ทำให้คาดเดาว่า น่าจะมีการ Rebound เด้งคืนกลับมาบ้าง 1181-1185 เพื่อความสมดุลของเส้นดำเส้นแดง มันทำแบบนี้ เกินไปแล้ว นักพนันคงไม่ขายอย่างเดียวหรอก เพราะจะทำให้ตลาดทองคำ เกิดอาการไม่น่าเล่น ไม่น่าเสี่ยง ซึ่งต้องสร้างแรงดึงดูดให้นักลงทุนอยู่เล่นต่อไปในทองคำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานตัวเลขฝั่งยุโรป บ่ายนี้ ออกมา ทรงๆ คือ เท่าๆกับของเดิม ไม่ทำให้เกิดผลกระทบหวือหวา ด้านลงกับราคาทอง นู้นเลยวันที่ 6 พฤศจิกายน ECB จะอัดฉีดเงินอีกเท่าไหร่ มากไป ค่าเงินยูโรก็ดิ่งอ่อน แต่วันนี้ ยังไม่มีข่าว ECB จึงนิ่ง แกว่งในกรอบคงไม่มาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานตัวเลขฝั่งยุโรป บ่ายนี้ ออกมา ทรงๆ คือ เท่าๆกับของเดิม ไม่ทำให้เกิดผลกระทบหวือหวา ด้านลงกับราคาทอง นู้นเลยวันที่ 6 พฤศจิกายน ECB จะอัดฉีดเงินอีกเท่าไหร่ มากไป ค่าเงินยูโรก็ดิ่งอ่อน แต่วันนี้ ยังไม่มีข่าว ECB จึงนิ่ง แกว่งในกรอบคงไม่มาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานฝั่งสหรัฐ ตามโพล 20.15 ตัวเลข ADP เพิ่มขึ้น ราคาทองก็คงย่อ แต่ตามโพล ตอน 22.00 น. ตัวเลขออกมา ไม่ดี ราคาทองก็คงปรับขึ้น ว่ากันตามตัวเลขที่จะออกมา แต่ผมยังมอง เดาว่า ตัวเลข ADP ไม่น่าออกมาดีนะ เพี้ยง !!!!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลการส่งออกที่ย่ำแย่ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มสูงเกินคาดในเดือนก.ย. ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวอาจจะบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2556 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2489 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.6004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5974 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.57 เยน เทียบกับระดับ 113.78 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9595 ฟรังค์ จาก 0.9650 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8685 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแรง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะที่ 4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

 

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐได้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในต่างประเทศและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นทำให้อุปสงค์ด้านสินค้าและบริการของสหรัฐอ่อนแอลง

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.6% สู่ระดับ 4.994 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะชะลอลงในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน กลับเริ่มอ่อนค่าลงในการซื้อขายวานนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวกลับ ซึ่งส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจากราคาทองที่ปรับตัวลงมามาก จนทำให้มีแรงซื้อจากความต้องการใช้ทองคำจริงที่มีเข้ามามาก และช่วยหนุนให้ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว โดยราคาทองคำปิดตลาดวานนี้ที่ 1,168.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,163 และ 1,174 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ

 

ส่วน ราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,100 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,000 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้นราว 2.39 ตัน ส่วนผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 738.82 ตัน

 

ในช่วงค่ำที่ ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนกันยายน ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะที่ 4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดว่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และได้ปรับทบทวนยอดขาดดุลการค้าเดือนสิงหาคม เป็น 3.999 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 4.011 หมื่นล้านดอลลาร์ ยอดขาดดุลการค้าเดือนกันยายน อยู่ในระดับสูงกว่าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.81 หมื่นล้านดอลลาร์

 

โดยปัจจัยที่ทำให้สหรัฐฯ มียอดขาดดุลเป็นจำนวนมาก มาจากยอดส่งออกที่หดตัวลง 1.5% แตะที่ 1.9559 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ หลังจากอุปสงค์ในตลาดหลักๆ รวมถึงจีนและยูโรโซนชะลอตัวลง ส่วนรายงานยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนกันยายน ปรับตัวลง 0.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว

 

ส่วนในวันนี้จะมีการรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองให้แกว่งตัวขึ้นลงผันผวน แต่คาดว่าคงยังไม่ส่งผลต่อมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รวมทั้งแรงซื้อเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงที่มีเข้ามามาก หลังจากมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงปลายสัปดาห์ที่ ผ่านมา รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันพรุ่งนี้ หากมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ก็จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองให้กลับอ่อนตัวลง

 

ขณะที่ภาพเทคนิคของ ราคาทอง ซึ่งวานนี้ในการซื้อขายระหว่างวันราคาทองคำอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายวานนี้ ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคยังเป็นการเคลื่อนไหวในช่วงขาลง แต่เริ่มมีการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานที่แนวรับบริเวณ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองสามารถประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณนี้ได้ คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,180 และ 1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแรงขายออกมามากจนราคาอ่อนตัวลงไปยังแนวรับถัดไปที่ 1,145-1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (05/11/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนต.ค.ลดลงแตะ 52.9 จาก 53.5 ในเดือนก.ย.

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการยังคงมีการขยายตัว และหากดัชนีต่ำกว่า 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

 

นายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวว่า PMI ภาคบริการจีนในเดือนต.ค.มีการขยายตัวที่ชะลอลงจากเดือนก.ย. โดยทั้งธุรกิจใหม่และธุรกิจเดิมต่างปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าธุรกิจเดิมจะยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่ดัชนีการจ้างงานยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

 

นายฉูกล่าวว่า โดยรวมแล้ว ภาคบริการมีการขยายตัวต่อเนื่องในเดือนต.ค. ขณะที่ภาวะทางุรกิจยังคงมีแนวโน้มดีกว่าภาคการผลิต โดยเอชเอสบีซียังคงคาดว่าทางการจีนจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้าเพื่อรับมือกับแรงกดดันช่วงขาลงที่มีต่อเศรษฐกิจ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 พฤศจิกายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.67/69 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.67/68 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะแกว่งไม่มากนัก เพราะมีเพียงปัจจัยเดียวที่จะส่งผลต่อค่าเงิน คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แต่ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่า กนง.ยังน่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับ 2.00% ไว้ก่อน แต่คงต้องจับตาดูการให้ความเห็นต่างๆ จาก กนง.ต่อทิศทางเศรษฐกิจของประเทศว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

 

"เงินบาทวันนี้คงจะนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวมาก ตลาดรอดูผลประชุม กนง. แต่ก็คาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ สิ่งที่ต้องจับตาคือ comment ต่างๆ จากกรรมการ กนง.ต่อเศรษฐกิจว่าจะออกมาในรูปแบบใด" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.63-32.73 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.40 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.2552 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2515 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6750 บาท/ดอลลาร์

 

- "ประยุทธ์" มามาดเข้ม เล็งใช้ไม้แข็งยกมาตรา 44 กำราบ "กลุ่มป่วนสื่อ"หลังถกรวม "ครม.-คสช." ยกเหตุหวั่นทำบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รวมกับทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม บมจ.ปตท.หรือ PRISM (Petrochemicals and Refining Integrated Synergy Management) กล่าวถึงทิศทางและแนวโน้มสถานการณ์น้ำมันโลกในปี 58 ในงาน "The Annual Petroleum Outlook Forum ถอดรหัสทิศทางน้ำมันโลก"ว่า ทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกในปี 58 จะยังคงผันผวน และเชื่อว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงกว่าราคาในปัจจุบัน

 

ปัจจัยของราคาน้ำมันในปีหน้ามาจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ขณะที่การเติบโตของอุปทานมากกว่าอุปสงค์ โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ราว 92.9 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปีหน้าน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 90-95 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า สหรัฐซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันได้มากที่สุดของโลกสามารถผลิตน้ำมันเพิ่มเป็น 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบลงได้ โดยเฉพาะน้ำมันดิบชนิดเบา ขณะที่กลุ่มโอเปกยังเพิ่มผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย และการกลับมาส่งออกน้ำมันของประเทศลิเบีย ส่วนอิรักที่มีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ทางตอนเหนือ ทำให้สูญเสียการส่งออกน้ำมันไปบางส่วนนั้น ก็ยังไม่ถึงกับกระทบกับภาพรวมการส่งออกน้ำมันมากนัก และอิหร่านที่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจ ก็น่าจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นด้วย ตลาดโลกจึงมีอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

 

"demand ดีขึ้น แต่ยังน้อยกว่า supply ที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 58 มองว่า demand น่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ว่ากลุ่มโอเปกมีแนวโน้มการผลิตน้ำมันลดลงคาดว่าจะอยู่ที่ 29.3 ล้านบาร์เรล/วัน จากขณะนี้ 29.5 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ก็ยังมีการผลิตน้ำมันได้อย่างต่อเนื่องต่อจากซาอุดิอาระเบีย ลิเบีย อิรักและอิหร่านที่จะสามารถกลับเข้ามาส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น หลังปัญหาความรุนแรงในประเทศชะลอลง ขณะที่กลุ่มนอกประเทศโอเปก โดยเฉพาะสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ปีนี้สหรัฐฯเติบโตอย่างรวดเร็วในรอบ 30 ปีจากการลดการนำเข้าน้ำมัน"นายสุกฤตย์ กล่าว

 

 

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อียูหั่นคาดการณ์จีดีพี-ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงฉุดหุ้นยุโรปปิดตลาดปรับตัวลง

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ร่วงลง 0.52% ปิดที่ 6,453.97 จุด ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ลดลง 1.52% ปิดที่ 4,130.19 จุด และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปรับตัวลง 0.92% ปิดที่ 9,166.47 จุด

 

หุ้นยุโรป ปิดปรับตัวร่วงลง หลังสหภาพยุโรป หรือ อียู หั่นคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน พร้อมเตือนว่าฝรั่งเศสและอิตาลียังคงเผชิญปัญหาใหญ่จากเศรษฐกิจที่ซบเซาของยุโรป โดยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจประจำฤดูใบไม้ร่วงของคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า ผลผลิตใน 18 ประเทศยูโรโซนจะเติบโตเพียง 0.8% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.2% ขณะที่แนวโน้มการเติบโตสำหรับปี 2558 ลดลงอย่างมาก โดยถูกปรับลดเหลือ 1.1% จากเดิม 1.7%

 

ที่มา : หนันงสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 5 พฤศจิกายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...