ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รายงานช่วงบ่าย พวกนี้ ผมไม่เคยเห็น เลยมาบ่นไม่ได้ แต่ตามรูปหัววัว เขาก็ให้ความสำคัญนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานของสหรัฐ ตามโพลบอกว่า ยอดสั่งซื้อโรงงานมีเพิ่มมากขึ้นจากเดิม ช่วงเวลานั้น ถ้าออกมาตามโพล ราคาทองก็จะมีย่อตัวลงมา ก่อนที่จะเด้งคืน สิ่งที่จะมากระตุ้นราคาทองจริงแท้แน่นอน คือ การอ่อนค่าของค่าเงินดอลล์สหรัฐ เมื่อไหร่ ใครจะเป็นคนจัดให้ คงอาทิตย์หน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

ขอบคุณ ป๋า นะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า รับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 07:34:36 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทิศทางสดใสในสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา

 

 

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2489 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5974 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5991 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.78 เยน เทียบกับระดับ 112.29 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9650 ฟรังค์ จาก 0.9626 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8795 ดอลลาร์

 

แนวโน้มการขยายตัวช่วงขาขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกลางปี 2558 แม้เฟดได้สร้างความมั่นใจว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานาน หลังจากที่ประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรไปเมื่อปลายเดือนต.ค.

 

เมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59 จาก 56.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตจะยังคงเป็นแกนหลักสำคัญในการหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ดัชนี PMI เดือนต.ค.แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2554 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีจะลดลงมาอยู่ที่ราว 56.0

 

ขณะเดียวกัน ค่าเงินยูโรและเงินเยนต่างก็ได้รับแรงกดันจากการดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้นของอีซีบีและบีโอเจ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว อีซีบีได้เริ่มแผนการที่จะซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ และจะซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน

 

ทางด้านบีโอเจก็ได้สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้วยการปรับเพิ่มเป้าหมายสำหรับการขยายฐานเงินมาอยู่ที่ราว 80 ล้านล้านเยนต่อปี เพื่อสกัดการคาดการณ์เงินฝืด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายนนี้มีลุ้นตลอด โดยเฉพาะการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก 33 จาก 100 ตำแหน่งนั้น โพลของ NBC และ Marist College ให้พรรครีพับลิกันชนะและจะคว้าเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาและหากเป็นจริงกลายเป็นว่าพรรครีพับลิกันจะคุมสมาชิกทั้งสภาล่างและสภาบน การผ่านร่างกฎหมายใดๆมีสิทธิ์เป็นไปได้ง่าย…..@โพลนี้ชี้ว่ารัฐที่ยังขับเคี่ยวและสูสีกันมากประกอบด้วยColorado, Iowa, Kansas, Arkansas และ North Carolina ในขณะที่โพล YouGov ที่ทำร่วมกับ CBS และ the New York Times ก็ออกมาพร้อมกันนับเป็นครั้งที่ 4 และครั้งสุดท้ายที่โพลนี้จัดทำ วันที่ 4 พ.ย.ตอนดึกๆก็พอจะรู้แล้วว่าพรรคไหนจะคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา…..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง (GBX) มองปัจจัย เฟด จ่อขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย กดดันราคาทองคำยาวถึงปีหน้า และการยุติมาตรการ QE หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ล่าสุดกองทุนรายใหญ่ SPDR ทยอยลดการถือครองทองคำลงตำสุดในรอบปี พร้อม แนะกลยุทธ์การลงทุนทองทยอยสะสม เพื่อลงทุนระยาว ให้กรอบการลงทุนที่ระดับ 1,108 -1,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยถึง แนวโน้มราคาทองคำในช่วงปลายปี 2557 ถึง ต้นปีหน้า ว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดัน จากกรณีเฟดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผลให้เกิด Reverse Dollar Carry trade (นำเงินไปคืนเงินกู้) เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นพวกนักลงทุนที่กู้เงินดอลลาร์มาลงทุนจะเริ่มทยอยนำเงินไปชำระคืนเงินกู้

 

ดังนั้นจึงทำให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าได้ในระยะกลางนี้ จึงทำให้ราคาทองคำถูกกดดัน และอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อไป ประกอบกับทางกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนที่ถือครองทองคำมากที่สุดในโลกยังลดการถือครองทองคำลงต่ำสุดในรอบปีสู่ระดับ 745 ตันลดลง จากต้นปี 49 ตันยังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้นจากยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากยอดจ้างงานในเดือนสิงหาคม อีกทั้งอัตราว่างงานปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ 5.9% คอยหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเพิ่มเติม ในปลายเดือนตุลาคม

 

"ราคาทองคำ ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้งจากฝั่งยุโรป และสหรัฐ ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรป เริ่มมีการชะลอตัวจากดัชนีภาคการผลิตที่เริ่มปรับตัวลง แตะระดับ 50.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน อีกทั้ง GDP ก็ขยายตัวลดลงในไตรมาส 2/2557 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 15 เดือน กดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง และกดดันราคาทองคำ แต่ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์กับแข็งค่าขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดี" นายโสฬสกล่าว

 

กรรมการผู้จัดการ บมจ โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) กล่าวเพิ่มว่า การลงทุนในทองคำ ในช่วงปลายปีนี้ แนะนำ ให้ทยอยซื้อสะสม เพื่อลงทุนยาว โดยหลังจากข่าวเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เริ่มลดลง คาดว่าราคาทองคำ จะดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง ในช่วงครึ่งปีหลัง 2558 ดังนั้น จึงแนะนำให้หาจังหวะขายทำกำไร สำหรับนักลงทุนที่ถือครองทองคำอยู่

 

ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนระยะสั้น ยังเน้นไปที่สถานะขายเป็นหลัก เพราะในภาพระยะกลาง – ยาว ทองคำยังถูกกดดันจากเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จากนี้ไปจนถึงปลายปีมองกรอบราคาทองคำที่ 1,108 -1,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 3 พฤศจิกายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวบ้านแห่ซื้อ'ทอง'สะสมรับราคาต่ำสุด

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ เปิดเผย ว่า บรรยากาศการซื้อขายทองคำ ขณะนี้ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากราคาปรับลดลงต่ำสุดในรอบปีที่ 18,100 บาท ต่อบาททองคำ ทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนเข้าทยอยซื้อสะสมเพื่อรอขายตอนราคาขึ้น และราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาต้นทุนหน้าเหมือง ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,060 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี คาดว่าราคาทองคำในประเทศใกล้ถึงจุดต่ำสุด

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--MTS Gold Group

 

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,168 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,170เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,000 บาท กับ 18,100บาท และกลับมาปิดที่ 18,000บาท กับ 18,100 บาท

 

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 857 คู่สัญญาแบบ10 บาทอยู่ที่ 6,799 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.95% แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 4.39% GFZ14 ปิด 18,240 บาท และ GFG14 ปิด 18,300 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,230 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,290 บาท

 

สัญญา Comex ลดลง 1.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,169.8 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 741.21 ตัน (ซื้อเพิ่ม 0.01 ตัน)

 

ข่าวที่สำคัญ

 

-ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ ทำให้เฟดมีแนวโน้มจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด

 

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้จนถึงช่วงต้นปีหน้า จะยังคงได้รับแรงกดดันในทิศทางขาลง จากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ขานรับกับกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยมีโอกาสจะส่งผลให้เกิดการ Reverse Dollar Carry Trade เนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้การกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้น และกลุ่มนักลงทุนที่กู้ดอลลาร์มาลงทุนจะเริ่มทยอยชำระคืนเงินกู้

 

-เมื่อวานนี้ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 741.21 ตัน

 

-นักวิเคราะห์จากคิทโก กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคยังคงเห็นภาพหลักของราคาทองคำเป็นทิศทางขาลง หลังจากไม่สามารถกลับมายืนเหนือบริเวณ 1,183 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง จึงคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,155 – 1,175 เหรียญ

 

-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2489 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2527 ยูโร/ดอลลาร์ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ จึงสนับสนุนให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่อีซีบีและบีโอเจดำเนินมาตรการการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

 

-อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 113.78 เยน จากระดับ 112.29 เยน

 

-สถาบัน ISM เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 59 จากเดิม 56.6 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

 

-ขณะที่ผลสำรวจจากสถาบันมาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

 

-หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิต กล่าวว่า ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐฯยังคงมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่เป็นการฟื้นตัวที่ชะลอความแรงลงในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 เพราะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ด้านการส่งออกที่เปราะบางของยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่ แต่จะเห็นได้ว่าภาวะการจ้างงานในภาคการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4/2014

 

-ทางด้าน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของยูโรโซน ปรับตัวขึ้น 50.6 จากเดิมที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน 50.3 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังอยู่ในภาวะชะงักงัน เนื่องจากอุปสงค์ด้านการผลิตยังคงอ่อนแอและขัดขวางการขยายตัวของภาคการผลิตและการจ้างงานในภูมิภาค

 

-ราคาน้ำมันดิบร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากมีรายงานระบุว่า การปิโตรเลียมของซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ทำการส่งออกให้กับสหรัฐฯ

 

-ธนาคารกลางฮ่องกง กล่าวว่า การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืดเยื้ออาจทำลายเสถียรภาพทางการเงินของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกได้

 

-นักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันนี้จะมีผู้มาลงคะแนนเสียงไม่มากนัก สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ โดยเป็นการชิงที่นั่งในสภาคองเกรสให้ได้มากสุด ระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคเดโมแครต และพรรคฝ่ายค้านรีพับลิกัน

 

-อย่างไรก็ดี มีกระแสคาดการณ์ว่า พรรครีพับลิกันมีโอกาสจะได้ที่นั่งเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าการบริหารของโอมาสทำให้ประเทศเดินหน้าผิดทาง

 

-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.14% เพราะได้รับแรงกดดันจากการ่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบให้กับสหรัฐฯ

 

-เช้านี้ดัชนีนิกเกอิ เปิด +4.05% (665.12 จุด) แตะ 17,078.88 จุด โดยเป็นการทำสถิติพุ่งขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2007 เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นสู่กรอบบน 113 เยน หลังบีโอเจผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 32.55 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ ยังคงรอปัจจัยใหม่ๆ และการประชุมกนง.

 

-สศค. ระบุว่า กรณีบีโอเจมีมติผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม จะส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้น และมีโอกาสจะได้เห็นภาวะ Carry Trade ในสหรัฐฯ และออสเตรเลียได้

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน

 

-ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 56.6 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 59

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

 

-Factory Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -10.1% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.4%

 

-Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -40.1B ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -40.0B

 

ทิศทางราคาทองคำ

 

ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบบริเวณล่างระหว่าง 1,165-1,170 เหรียญ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 32.75 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อวานนี้ SPDR มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเล็กน้อย 0.01 ตัน สู่ระดับ 741.21 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ Trade Balance และ Factory Orders คาดว่าจะดีขึ้น

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

 

ในเชิงเทคนิคดูราคาทองคำดูจะเป็นการสะสมพลัง ในระยะกลางกับยาวเป็นแนวโน้มขาลง วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150 – 1,175 เหรียญ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

 

ยังคงแนะนำให้ลงทุนในแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง หาจังหวะเปิดสถานะ Short Position และทยอยปิดหรือลดสถานะ Long Position โดยต้องหาจังหวะปิดความเสี่ยงของราคาขึ้นลงให้ดี

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

 

หาจังหวะทยอยปิดหรือลดสถานะลง

 

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

 

หาจังหวะเปิดสถานะ เก็งกำไรเป็นช่วงๆ หาจังหวะเปิด Short Position บริเวณแนวต้าน

 

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

 

เก็งกำไรในแนวโน้มขาลง เนื่องจากภาพหลักของทองคำทั้งระยะกลางและระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง

 

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,140 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,340 บาท

 

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,400 บาท

 

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.70/72 บาท/ดอลลาร์ จากวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 32.60/62 บาท/ดอลลาร์

 

"เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนตั้งแต่มีรัฐประหาร โดยเป็นผลต่อเนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมาตรการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินที่มีออกมาเพิ่มเติม และดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่องจากคาดการณ์เฟดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.65-32.75 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.60 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.86 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2500 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวจากวานนี้

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6130 บาท/ดอลลาร์

 

- ธปท.เผยผลสำรวจมุมมองผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศ คาดในไตรมาสสุดท้ายของปี 57 แนวโน้มภาวะธุรกิจดีขึ้น การบริโภคจะดีขึ้นตามความเชื่อมั่นกลุ่มรายได้ระดับกลาง-บนเป็นสำคัญ ส่วนกลุ่มรายได้น้อยยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ แม้ผ่านปลายปีไปแล้ว มองแนวโน้มส่งออกไปจีนชะลอ ขณะที่ผู้ประกอบการ อสังหาฯคาดต้นทุนเพิ่ม ขึ้น แต่ปรับราคายาก แต่พยายามรักษาคนรองรับยอดขายเพิ่มขึ้นมากในปี 58

 

- "หม่อมอุ๋ย" มั่นใจจีดีพีปีหน้า โต 5% ย้ำไม่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ลุ้นผลแจกเงินชาวนาไร่ละ 1 พัน และจัดงบ 2.3 หมื่นล้านสร้างงาน ปั่นเศรษฐกิจพ้นจากหลุม คาดหลังเลือกตั้งปลายปี 2558 เศรษฐกิจไทยกลับมาคึกอีกรอบ

 

- ราคาทองคำดิ่งต่ำสุดรอบ 4 ปีที่ระดับ 1160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ "ฮั่วเซ่งเฮง" มั่นใจไม่หลุดระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุเป็นต้นทุนหน้าเหมืองทองคำ สวนทางทองรูปพรรณ "ตู้แดง" ซื้อขายคึกคัก "ธนรัชต์ พสวงศ์" ยืนยัน ไม่ขาดตลาด "โกลเบล็ก โฮลดิ้ง" แนะกลยุทธ์ทยอยสะสมลงทุนระยาว กรอบการลงทุน 1,108-1,300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ มองปัจจัย "เฟด" จ่อขึ้นดอกเบี้ยกดดันราคาทองคำยาวถึงปีหน้า

 

- นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ เปิดเผย ว่า บรรยากาศการซื้อขายทองคำ ขณะนี้ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากราคาปรับลดลงต่ำสุดในรอบปีที่ 18,100 บาท ต่อบาททองคำ ทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนเข้าทยอยซื้อสะสมเพื่อรอขายตอนราคาขึ้น และราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาต้นทุนหน้าเหมือง ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,060 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี คาดว่าราคาทองคำในประเทศใกล้ถึงจุดต่ำสุด

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทิศทางสดใสในสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายนอร์แมน ชาน ประธานธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนที่จะเดินทางไปประชุมที่ปักกิ่งว่า การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืดเยื้ออาจจะบ่อนทำลายเสถียรภาพทางการเงินของฮ่องกงได้

 

ขณะที่การชุมนุมประท้วงล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 เหล่าผู้นำการประท้วงยังคงกำลังหารือเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนไหวต่อไป หลังจากที่การเจรจากับรัฐบาลฮ่องกงไม่มีความคืบหน้า

 

นายชานยังเตือนว่า หากการประท้วงยังคงยืดเยื้อนานกว่านี้ เสถียรภาพทางการเงิน และหลักนิติธรรมของฮ่องกงก็อาจจะถูกบ่อนทำลาย ซึ่งรวมถึงสถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกก็อาจถูกสั่นคลอนด้วยเช่นกัน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤศจิกายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐได้พบปะกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้แผนปฏิรูปการกำกับดูแลด้านการเงิน รวมถึงอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ และโลก

 

การประชุมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาที่ยังไม่ยุติข้อสรุปทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การปฏิรูปด้านการเงิน และประเด็นเศรษฐกิจอื่นๆ

 

แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งสองได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการประกาศใช้กฎหมายปฏิรูประบบการเงินสหรัฐอเมริกา (Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งรวมถึงชุดแผนปฏิรูปการกำกับดูแลภาคการเงิน และการปกป้องผู้บริโภค

 

การพบปะครั้งนี้นับเป็นการประชุมตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างทั้งสองฝ่าย นับตั้งแต่นางเยลเลนเริ่มดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์เตือนนักลงทุนทอง อาจถือยาว ราคายังเป็นขาลง ผลกระทบเฟดขยับดอกเบี้ย-ดอลลาร์แข็งค่า หันซื้อเงิน-หุ้นแทน ด้านสมาคมค้าทองคำไทยแย้ง ราคามีโอกาสตีกลับ เพราะฐานต่ำสุดแล้ว และไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นบาทแน่นอน

 

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาทองคำในช่วงปลายปี 2557 ถึงต้นปี 2558 ว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากกรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้เกิดภาวะการนำเงินไปคืนเงินกู้คือ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น นักลงทุนที่กู้เงินดอลลาร์มาลงทุนเริ่มทยอยนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จึงกดดันราคาทองคำและแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง รวมถึงกองทุนเอสพีดีอาร์ที่ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก ลดการถือครองต่ำสุดในรอบปี หรือลดลง 49 ตันจากต้นปีที่ผ่านมา เหลือแค่ 745 ตัน อยากแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมเพื่อลงทุนยาว จนครึ่งปีหลัง 2558 ราคาทองคำจะดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง ปลายปีนี้ช่วงขายทำกำไร ราคาทองคำอยู่ที่ 1,108-1,300 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์

 

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า เดือนพฤศจิกายน คาดราคาทองอยู่ระหว่าง 1,050-1,220 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์ อิงเงินบาทที่ 32.6 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำในประเทศจะอยู่ที่ 17,800-18,800 บาทต่อ 1 บาททอง โดยทิศทางราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาลง จึงแนะนำให้นักลงทุนติดตามและซื้อได้ในราคา 1,150 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์ จากปัจจุบัน 1,170 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานสมาคมผู้ค้าทองคำและประธานกรรมการ บริษัท ห้างขายทองจินฮั้วเฮง จำกัด กล่าวว่า ราคาทอง ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน ต่ำสุดในรอบปี มาแตะที่บาทละ 18,100 บาท ผลจากราคาต้นทุนหน้าเหมืองต่ำสุดในรอบ 4 ปี มาอยู่ราคา 1,060 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้บรรยากาศการซื้อขายทองคำหน้าร้านทองคึกคักเป็นพิเศษ คาดว่าราคาทองคำในไทยอาจถึงจุดต่ำสุดแล้ว แต่อย่างไรก็ขึ้นกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลงและราคาทองคำโลกลดลงต่อเนื่อง

 

"ราคาทองคำปีนี้คงไม่ไปถึง 17,000 บาท/บาททอง อย่างที่มีการคาดการณ์กัน เพราะค่าเงินบาทยังอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง คิดว่าราคาทองคำโลกคงไม่ต่ำไปกว่านี้ ที่ราคาทองคำโลกปรับลงเป็นผลจากกองทุนต่างประเทศเก็งกำไรและปั่นราคา แต่อาจเห็นระดับราคา 17,000 บาท ในปี 2558 เพราะเศรษฐกิจดีคนไม่นิยมถือทอง และเป็นไปตามสถิติย้อนหลัง" นายจิตติกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถิติราคาทองคำเคยต่ำที่สุดในปี 2556 อยู่ที่ 17,800 บาท โดยเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่า ทุก 1 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะมีผลต่อราคาทองคำประมาณ 650 บาทต่อ 1 ทรอยออนซ์

 

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จุด รีบาว 50 % ส่วนตัว มอง น่าจะได้ เห็น 1182 เร็วๆนี้นะป๋า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...