ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รหัส 5,35,9 สัญญานนำทางของทองคำ ปิดสัปดาห์ที่ 1193 ถึงแม้ว่าจะเป็นจุด Stop Loss หรือ Cut Loss ของการเข้าสูสถานะ Short ของตัวเลขขาเสี่ยงของฝรั่งขาเดาฯ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้อย่าพึ่งหวังว่า จะเป็นจุดขาขึ้น เพราะช่วงราคา 1192-1204 ก็ต้องถือเป็นจุด งง สงสัย ว่า ราคาทองจะไปแบบใด

 

พอมาดูเส้นดำเส้นแดง ตามรหัส 5,35,9 อาการหวั่นวิตกที่ เส้นดำจะปักหัวลงมาเพื่อทำให้เกิด ตัดกัน กับเส้นแดง จังหวะการมีการเกิดสูง จากอะไร ? ก็จากผลของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ ที่บอกว่าจะแข็งต่อเนื่อง โดยมาจากเหตุ ของรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ออกมาดี เมื่อคืนวันศุกร์

 

ถึงแม้ว่า เงินบาทจะอ่อนจนพยุงราคาทองไทย ไม่ให้ลดลงมาก แต่ก็คือ มีจังหวะลดลง เรื่องจริงเป็นยังไง เปิดตลาดวันจันทร์มาลุ้นกันต่อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรคาด8-12ธ.ค.ค่าบาท32.70-33.00/$

ข่าวเศรษฐกิจ วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2557 13:09น.

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้า 8 - 12 ธ.ค. ค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 32.70 - 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1 - 4 ธ.ค. 2557 ว่า โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 32.93 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งหนุนให้เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น เพราะนั่นหมายความว่า แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด จะแตกต่างไปจากธนาคารกลางของหลายประเทศชั้นนำที่กำลังรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อต่ำและเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ดี สถานะซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยหนุนให้เงินบาทฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ ก่อนจะอ่อนค่ากลับมาอีกครั้ง หลังข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หนุนให้เงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ในวันพฤหัสบดี (4 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.88 เทียบกับระดับ 32.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 พ.ย.)

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป 8 - 12 ธ.ค. เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ ที่อาจได้รับแรงหนุนหากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (ประกาศวันที่ 5 ธ.ค.) ยังสะท้อนสัญญาณบวกของตลาดแรงงาน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ของสหรัฐฯ ประกอบด้วย ยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน พ.ย. รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน ธ.ค. นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอาจตอบรับข้อมูลเศรษฐกิจ เดือน พ.ย.ของจีน ในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์ ECB เล็งผ่อนคลายทางการเงิน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2557 10:09:53 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะพิจารณาผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมนโยบายการเงินเดือนม.ค.ปีหน้า

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.8% ปิดที่ 350.97 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,419.48 จุด เพิ่มขึ้น 95.59 จุด หรือ +2.21% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,087.12 จุด เพิ่มขึ้น 235.77 จุด หรือ +2.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,742.84 จุด เพิ่มขึ้น 63.47 จุด หรือ +0.95%

 

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ จากกระแสคาดการณ์ว่า อีซีบีจะพิจารณาผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมกำหนดนโยบายเดือนม.ค.

 

สำหรับในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง เนื่องจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี แถลงภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเดือนธ.ค.ในวันพฤหัสบดีว่า อีซีบีจะประเมินมาตรการกระตุ้นทางการเงินรอบใหม่ในต้นปีหน้า ซึ่งเป็นท่าทีที่สวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนเมื่อคืนนี้ หลังจากที่กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 2.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.5%

 

ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

 

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 321,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2555 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 230,000 ราย ส่วนอัตราว่างานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% ในเดือนพ.ย.

 

ทั้งนี้ หุ้นโวดาโฟนพุ่งขึ้น 3.1% ภายหลังโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มเครดิตของหุ้นโวดาโฟนสู่ระดับซื้อ

 

ส่วนของหุ้นกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นเอชเอสบีซีปรับตัวขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นธนาคารเมดิโอบังกาจากอิตาลีเพิ่มขึ้น 5.1% และหุ้นธนาคารเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซปรับตัวขึ้น 3.6%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2557 12:17:00 น.

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสำคัญส่วนใหญ่ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น

 

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2284 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2365 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ลดลงสู่ระดับ 1.5591 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5674 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 121.45 เยน จากระดับ 119.86 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9786 ฟรังค์ จาก 0.9725 ฟรังค์ นอกจากนี้ยังแข็งค่าสู่ระดับ 1.1439 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.1381 ดอลลาร์แคนาดา

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8320 ดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 0.8382 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 321,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2555 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 230,000 ราย ส่วนอัตราว่างานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% ในเดือนพ.ย.

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าและบริการระหว่างประเทศลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 4.34 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการปรับตัวดีขึ้น สู่ระดับ 1.975 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.952 แสนล้านดอลลาร์ของเดือนก.ย.

 

ข้อมูลดังกล่าวต่างสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวดีขึ้น จึงก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีหน้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

http://www.ryt9.com/s/iq21/2045183

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เช้านี้ ค่าบาทอ่อนค่าแตะ 33.00 บาท และท่าทางจะอ่อนค่าคงที่นะครับ ที่เลย 33.00 บาท กรอบ 32.95-33.15

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่ใช่แค่เลนเกมส์นะ พวก Line พวก Facebook ด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ คุณป๋า

 

ขอบคุณสำหรับข่าวสารนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก็ว่ากันไป สำคัญอย่าประมาท และ มีการจัดการเงินทุนให้เก็บในรูปหลายๆ แบบ เช่น ทองคำ เงินฝาก

 

 

ผู้ค้าทองคาดทองดิ่งต่ำสุดใหม่ต้นปีหน้า 1.7 หมื่น หรือ 1,100 เหรียญใกล้ราคาเหมือง ผลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธาน กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีขึ้น ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะทำสถิติต่ำสุดใหม่ไตรมาส 2 ปีหน้าที่ระดับ 1,100 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือบาทละ 1.72 หมื่นบาท ซึ่งเป็นราคาใกล้ราคาหน้าเหมืองหรือราคาต้นทุน เพราะคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

คณะกรรมการนโยบายการเงินเฟดจะมีการประชุมวันที่ 17 ธ.ค.นี้ แม้ว่ายังไม่น่าจะมีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดในการประชุมรอบนี้ออกมา แต่การประชุมรอบถัดไป (หลังจากต้นปี 2558) ต้องเริ่มจับตาสัญญาณที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่เฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นมาก

 

ล่าสุด นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และเป็นรองประธานเฟด ที่มีสิทธิในการออกเสียงโหวต ได้ออกมากล่าวถึงการปรับลดลงของราคาน้ำมันจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น และนาย ดัดเลย์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อจะลดลงในระยะนี้ แต่อัตราเงินเฟ้อก็จะเริ่มต้นปรับขึ้นเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% ในปีหน้า

 

นอกจากนี้ รายงาน Beige Book ที่รายงานถึงสภาวะของเศรษฐกิจใน 12 เมืองใหญ่ของสหรัฐ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เหล่านี้ก็ทำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเร็วในการประชุมช่วงต้นปี 2558

 

นพ.กฤชรัตน์ กล่าวว่า หลังแตะระดับต่ำสุดในไตรมาส 2 ราคาทองคำจะทรงตัวและดีดกลับมาเคลื่อนไหวระหว่าง 1,130-1,220 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือบาทละ 1.77-1.88 หมื่นบาท ตลอดทั้งปีภายใต้ค่าเงินบาทที่ 33-33.5 บาท/เหรียญสหรัฐ

 

สำหรับสถานการณ์ราคาทองคำปีนี้้คาดว่าราคาทองคำจะลดลงไปต่ำสุดเพียง 1,150 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือบาทละ 1.8 หมื่นบาท จากระดับต้นปีที่ประมาณ 1,200 เหรียญสหรัฐ หรือบาทละ 20,500 บาท จากปัจจุบันที่ประมาณ 1,193 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

 

 

ที่มา : ไทยโพสต์ออนไลน์ (08/12/2557)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไทยโพสต์ *ศูนย์วิจัยทองเผยช่วงสุดท้ายของปีราคาทองยังผันผวน มองต้นปีหน้าจะเป็นบวก เชื่อระยะยาวจะฟื้นตัวได้ ด้านคลาสสิก โกลด์ ชี้ที่ผ่านมาทองลงมาจากมาตรการคิวอี ทำดอลลาร์แข็งค่า กดราคาทองหลุดแนวรับ 1,180 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

 

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ จะยังคงผันผวนในกรอบกว้าง โดยยังมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันโลก รวมถึงอุปสงค์ของอินเดียและจีนที่ปรับขึ้น ทำให้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,250 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ส่วนปี 2558 ในช่วงต้นปีมองว่าจะเป็นบวก เนื่องจากในปีนี้ราคาทองคำได้ลดลงมากพอสมควร จึงน่าจะมีแรงซื้อกลับได้ ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำในช่วงปลายปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่บาทละ 18,000-19,200 บาท ส่วนปีหน้าอยู่ที่บาทละ 17,000-21,000 บาท

 

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวเชื่อว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวได้จากปีนี้ และอุปสงค์ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วง 1-2 เดือนนี้ คาดว่าราคาทองคำยังปรับขึ้นได้ลำบาก นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจที่มีผลต่อค่าเงินทั้งสกุลดอลลาร์สหรัฐที่อาจจะแข็งค่าขึ้น และค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยอาจจะปรับขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1 หรือต้นไตรมาส 2 ของปีหน้า ส่วนคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพราะการบริโภคในประเทศยังชะลอตัว ทั้งนี้ ยังไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ตการลง ทุนในทองคำ ควรลงทุนในสัดส่วนเท่าเดิมคือ 10-15% เพราะตลาดทองคำยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่

 

ด้านนางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาปัจจัยที่เป็นตัวกดดันราคาทองคำ มาจากเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีการยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น จึงกดดันให้ราคาทองคำปรับลดลงหลุดแนวรับที่บริเวณ 1,180 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งหากหลุดแนวรับดังกล่าว จะเป็นแนวรับใหม่ที่บริเวณ 1,130 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่มองว่ายังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีก ทั้งนี้ มองว่าในระยะกลางยังคงเป็นขาลงของราคาทองคำ

 

ขณะที่ในปีหน้าคาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบกว้างระหว่าง 1,180-1,380 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำ ให้เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ มองว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในหลายภูมิภาค จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น อีกทั้งการซื้อคืนทองคำเมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อทิศทางราคาทองคำว่าได้สิ้นสุดขาลงแล้ว.

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 8 ธันวาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ในกรอบจำกัด แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯจะออกมา นับรายเดือนสูงสุดในรอบ 3 ปี แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่ามากทำให้เงินบาทอ่อนค่า และจะเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรออกมาได้ แต่เชื่อว่าจะไม่มาก เพราะบ้านเรายังมีกองทุน LTF, RMF ช่วยหนุนตลาดฯอยู่

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบคละกันราว 0.1-0.3% พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด แนวต้าน 1,600-1,605 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 8 ธันวาคม 2557)

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) บวก 0.1% แตะ 140.14 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,004.66 จุด เพิ่มขึ้น 84.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,907.82 จุด ลดลง 29.83 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,113.14 จุด เพิ่มขึ้น 110.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,231.24 จุด เพิ่มขึ้น 24.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,988.80 จุด เพิ่มขึ้น 2.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,321.42 จุด ลดลง 2.97 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ที่ 5,197.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.90 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,748.38 จุด ลดลง 0.99 จุด

 

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 321,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2555 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนอัตราว่างานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 6 ปี

 

 

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2557

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายทาเคฮิโกะ นากาโอะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวในวันนี้ว่า การปรับตัวขาลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย

 

“โดยรวมแล้ว ผมคิดว่าความมีเสถียรภาพของราคาน้ำมันจะมีผลบวกต่อเศรษฐกิจเอเชีย เนื่องจากหลายประเทศในภูมิภาคมีการนำเข้าน้ำมันมากกว่าการส่งออก" นายนากาโอะได้ตอบข้อซักถามหลังการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโตเกียว

 

อย่างไรก็ตาม นายนากาโอะกล่าวเสริมว่าบางประเทศ เช่น คาซัคสถาน ซึ่งพึ่งการโอนเงินกลับประเทศและการส่งออกไปยังรัสเซียนั้น มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อ่อนแรงลง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ได้ร่วงลงราว 40% จากระดับสูงสุดที่ราว 107 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้ในเดือนมิ.ย.

 

สำหรับข้อซักถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของจีนเมื่อเร็วๆนี้ในการจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของเอเชีย (AIIB) นั้น นายนากาโอะกล่าวว่า หากธนาคารแห่งใหม่ได้รับการจัดตั้งขึ้น เอดีบีก็ “พร้อมที่จะพิจารณาร่วมมือกับธนาคารดังกล่าว"

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แนวคิดริเริ่มของจีนในการจัดตั้ง AIIB นั้น ได้รับการพิจารณาในวงกว้างว่าเป็นยุทธศาสตร์ของจีนที่จะขยายอิทธิพลในภูมิภาค และเพื่อท้าทายระบบการเงินทั่วโลกที่นำโดยสหรัฐในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 ธันวาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเดาทอง สำหรับอาทิตย์นี้ ให้ตัวเลขสำหรับขาเสี่ยง ดังนี้

 

SHORT GOLD below 1198 SL 1201 TP 1191-1182-1176-1162-1152

LONG GOLD above 1205 SL 1203 TP 1212-1218-1226-1232

 

จุด งง งง สงสัย จึงถูกขยับมาระหว่าง 1199-1204 แต่คราวนี้ อาจไม่มีวิ่งหรือ Sideway อยู่แถวนี้ ในช่วงกลางอาทิตย์หรือ ปลายอาทิตย์ ทุกๆ ตำแหน่ง มีความเสี่ยงสูงเกิน 70% สำหรับความเสี่ยง สถานะ Long จากค่าเงินดอลล์สหรัฐ ที่พยายามแข็งค่าขึ้น สมมุติว่า ขึ้นไปได้ ก็อาจถูกชนแล้วย่อ ส่วนความจริงจะเกิดอย่างไร การลงทุนช่วงนี้ คือ ช่วงสิ้นปี อย่าประมาท

 

ทยอยซื้อทยอยปล่อยตามแนวต้าน แนวรับ จนกว่า รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ จะตัดกันครั้งใหม่ เพื่อเปลี่ยนสถานะว่า " เริ่มต้นอ่อนค่า " โชคดี

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...