ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ในรหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐ ยังไม่ได้มีการตัดกันของเส้นดำเส้นแดง จากอาการดอลล์อ่อนค่าลงมาของเมื่อคืนนี้ ว่ากันไปตามเส้นฯ ก็ต้องบอกว่า ดอลล์สหรัฐ มีจังหวะแข็งค่า และ ราคาทองซึ่งอยู่ตรงข้ามกับราคาทองคำ ก็มีจังหวะ ย่อลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของทองคำ การขึ้น 25-30 เหรียญเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ เส้นดำชูคอแหงนเลยครับ ความถ่างของเส้นดำเส้นแดง ก็ยังถ่าง แต่มุมมองของผม มันดูหน้ากลัวในสถานการณ์โลกวันนี้ ที่มีแต่ภาวะเงินฝืด ไม่มี QE และจะขึ้นดอกเบี้ย เป็นต้น ไม่มีคำบ่น เอาว่า ทุกๆ จุด มีจังหวะ เป็นไปได้ ทั้งนั้น ตอนนี้ ก็แนวรับ 1226 แนวต้าน 1232

 

SHORT GOLD below 1198 SL 1201 TP 1191-1182-1176-1162-1152

LONG GOLD above 1205 SL 1203 TP 1212-1218-1226-1232

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาท วันนี้ แข็งค่า 555 เพียงภาพลวงตา ทำกำไร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเที่ยงวันหยุดครับป๋า

 

ขอบคุณนะครับ วันนี้ผมมาอ่านก่อนกินเที่ยงเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เริ่มจาก MACD รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ วันนี้ ปรากฎว่า หลังปิดตลาดแล้ว เส้นดำเส้นแดง เกิดการตัดกัน จึงเป็นสัญญานนำทางว่า " เอาละนะ ดอลล์สหรัฐฯ เริ่มต้นอ่อนค่า " สิ่งนี้ คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ส่งผลให้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 32.79 และคงจะแข็งค่าในกรอบ 32.65-32.80 / ราคาทองเมืองนอกเท่าเดิม แต่ราคาทองไทย คงต้องลดลง ตามค่าเงิน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของทองคำ การขึ้น 25-30 เหรียญเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ เส้นดำชูคอแหงนเลยครับ ความถ่างของเส้นดำเส้นแดง ก็ยังถ่าง แต่มุมมองของผม มันดูหน้ากลัวในสถานการณ์โลกวันนี้ ที่มีแต่ภาวะเงินฝืด ไม่มี QE และจะขึ้นดอกเบี้ย เป็นต้น ไม่มีคำบ่น เอาว่า ทุกๆ จุด มีจังหวะ เป็นไปได้ ทั้งนั้น ตอนนี้ ก็แนวรับ 1226 แนวต้าน 1232

 

SHORT GOLD below 1198 SL 1201 TP 1191-1182-1176-1162-1152

LONG GOLD above 1205 SL 1203 TP 1212-1218-1226-1232

 

จากเมื่อวานนี้ ราคาทองก็วิ่งจากแนวรับ 1226 แนวต้าน 1232 ยังคงวงเวียนอยู่ในกรอบ

 

รหัส 5,35,9 MACD ของทองคำ เส้นดำ ( อยากซื้อ ) ยังผงาดชูคอขึ้นด้านบน และเส้นแดง ( อยากขาย )ความยาวของเส้นไล่ตามกันไม่ทัน เส้นดำเส้นแดง ยังไม่ตัดกันครั้งใหม่ นังถ่างห่างจากกัน การเดาวันนี้ คงต้องเดาแบบเปลี่ยนมุมมอง เพราะ สัญญานของค่าเงินดอลล์สหรัฐ อ่อนค่า จึงต้องเดาว่า " ราคาทองอาจมีย่อเกิดขึ้น แต่ทุกๆ ครั้งของการย่อ จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเสมอ " ยกเว้นลงมาต่ำกว่า 1198

* บ่นอธิบาย * เมื่อสัญญานดอลล์อ่อนค่า ราคาทองก็จะขึ้น แต่ระหว่างวัน ดอลล์สหรัฐฯ คงไม่สามารถอ่อนค่าได้ตลอดเวลา ย่อมต้องมีการแข็งค่าสลับเข้ามา พอแข็งค่าสลับเข้ามา ราคาทองก็จะย่อลง วันนี้ จึงอาจเริ่มจากการแข็งค่าของดอลล์ก่อน เพราะอ่อนค่าลงมาเยอะแล้ว

 

จึงน่ารอเข้าระหว่าง 1212-1218 ทั้งหมดที่บ่นมา ก็คือเดา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขรายงานยุโรป โพลฯ ว่าเท่าเดิม เหอะๆ พอไม่มีข่าวรายงานสำคัญมากระตุ้น ราคาทองคำอาจย่อลง ช่วงนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในรายงานสหรัฐคืนนี้ ยอดค้าปลีก และ คนลงทะเบียนว่างงาน / โพลฯ บอกว่า ยอดค้าปลีกลดลง และ คนลงทะเบียนว่างงาน เพิ่มขึ้น กรณีตัวเลขจริงออกมาตามนั้น ราคาทองก็จะปรับเพิ่มขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำปี 2558 จะแตะจุดต่ำสุดที่บาทละ 16,500-16,800 บาท บนพื้นฐานอัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และทองคำโลกอยู่ที่ 1,050-1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งราคาทองจะปรับลงแรงช่วงครึ่งปีแรกหลังจากเทศกาลตรุษจีนผ่านไป เพราะได้แรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงทำให้ราคาทองถึงจุดต่ำสุดใหม่และต่ำกว่าช่วงต่ำสุดในปี 2557 ที่ซื้อขายทองคำที่บาทละ 17,800 บาทต่อบาททองคำ ทั้งนี้ มองว่าในปี 2558 จะเป็นช่วงขาลงของทองคำต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จึงแนะนำให้นักลงทุนที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อเก็บสะสมในระยะยาวเข้าซื้อทองในช่วงดังกล่าว ส่วนนักลงทุนระยะสั้นให้ซื้อสั้นและขายสั้นเพื่อทำกำไร

 

"กรอบราคาทองคำปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 16,500-20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงปลายปี 2557 ถึงต้นปี 2558 มาอยู่ที่ราว17,000-25,000 บาทต่อบาททองคำ หรือราว 1,100-1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เพราะเดือนมกราคมของทุกปีราคาจะขึ้นจากเทศกาลของคนจีนที่นิยมแต่งงานช่วงต้นปี และอินเดียได้อนุมัติให้นำเข้าทองคำมากที่สุดในรอบ 2 ปี และนักลงทุนทยอยปรับพอร์ตมาซื้อทองคำมากขึ้นหลังจากราคาทองปรับลดลงมาตั้งแต่ต้นปี 2557 ทั้งนี้ ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง หากเกิดวิกฤตฟองสบู่และเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้น แต่หากเศรษฐกิจทุกประเทศฟื้นตัวเร็วโอกาสทองขาขึ้นเป็นไปได้ยาก" นายกมลธัญกล่าว

 

นายกมลธัญกล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนธันวาคม 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.95 จุด จากเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ระดับ 51.72 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ผู้ค้าส่วนใหญ่กลับมามีมุมมองต่อราคาทองคำในช่วงเดือนธันวาคม ผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลก กรอบราคาสูงสุดอยู่ 1,220-1,240 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,140-1,160 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ ราคาสูงสุดที่ 19,000-19,500 บาทต่อบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 17,500-18,000 บาทต่อบาททองคำ

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 10 ธันวาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คาดการณ์โอเปคฉุดสัญญาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ5ปีรอบใหม่

 

 

สัญญาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวลงต่ำสุดในรอบห้าปีรอบใหม่ โดยน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส สหรัฐปิดใกล้ระดับราคา 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 40% จากช่วง 6 เดือนที่แล้ว

 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส ตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือนม.ค. ปรับตัวลง 2.88 ดอลลาร์จากราคาปิดเมื่อวันอังคาร และระหว่างการซื้อขาย ร่วงลงไปแตะที่ 60.43 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ระดับราคา 60.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบทรุดลงกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปค ออกรายงานคาดการณ์ครั้งใหม่ว่า ความต้องการน้ำมันดิบจะลดลงเหลือ 28.92 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2546 และน้อยกว่าปริมาณการผลิตในขณะนี้อย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ กลุ่มโอเปคยังแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ลดกำลังการผลิต ขณะที่ผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอเมริกาเหนือและแหล่งผลิตอื่นๆ

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (11/12/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่อ่อนแรงลงได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2444 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2374 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.08 เยน เทียบกับระดับ 119.49 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังค์ จาก 0.9712 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8301 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8303 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นที่ร่วงลง โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์สำหรับปี 2558 ลงสู่ระดับ 28.92 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษ

 

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเช่นกันเมื่อคืนนี้ โดยมีปัจจัยถ่วงจากความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในกรีซและราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง

 

ทั้งนี้ นักลงทุนได้ถอนการลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยง และหันมาสนใจสกุลเงินที่มีความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงฟรังค์สวิสและเงินเยนของญี่ปุ่น โดยเมื่อวานนี้ อัตราดอลลาร์/เยนร่วงลง 1.21% จากวันก่อนหน้า

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 ธันวาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ธ.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูง ขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด หรือ -1.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด หรือ -1.73% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด หรือ -1.64%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลง ภายหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2558 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ กรีซ ซึ่งได้ฉุดตลาดหุ้นกรีซร่วงลงด้วย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 339.32 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,227.91 จุด ลดลง 36.03 จุด หรือ -0.84% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,500.04 จุด ลดลง 29.43 จุด หรือ -0.45% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,799.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ +0.06%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบในปีหน้าจะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 29.43 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 6,500.04 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ระดับ 1,229.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.3 เซนต์ ปิดที่ 17.187 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,242.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 821.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่อ่อนแรงลงได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ที่ ปลอดภัย

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2444 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2374 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.08 เยน เทียบกับระดับ 119.49 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังค์ จาก 0.9712 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8301 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8303 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,533.15 จุด ลดลง 268.05 จุด -1.51%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด -1.73%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด -1.64%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,500.04 จุด ลดลง 29.43 จุด -0.45%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,799.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด +0.06%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำของวันอังคาร โดยมีแรงซื้อทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามามาก หลังจากนักลงทุนต่างกังวลต่อการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งส่วนใหญ่ปรับตัวลงตอบรับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศที่มีสัญญาณ ชะลอตัว

 

ส่วนในการซื้อขายวานนี้ซึ่งตลาดการเงินของไทยปิดทำการนั้น เริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนทำให้ราคาทองอ่อนตัวลง แต่การเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะนี้ ยังคงมีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อไป โดยวานนี้ราคาทองคำปิดตลาดวานนี้ที่ 1,226.10 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ลดลง 5.10 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,224 และ 1,238 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ

 

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,150 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,050 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้นราว 5.68 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 724.80 ตัน

 

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯสาขาแอตแลนตา และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานสาขาซานฟรานซิสโก ได้ออกมาสนับสนุนการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกระทั่งถึงกลางปีหน้า หรือหลังจากนั้น โดยระบุว่าเมื่อพิจารณาภาวะเศรษฐกิจแล้ว เขาเชื่อมั่นว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของจะสามารถเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในปี 2558

 

ขณะที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโก ได้แสดงท่าทีสนับสนุนมุมมองของนายล็อคฮาร์ทด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ นายล็อคฮาร์ท กล่าวว่า เขารู้สึกพอใจที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงระบุในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำมากเป็น "ระยะเวลานาน" ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯบางราย ต้องการให้ยกเลิกถ้อยคำดังกล่าวเพื่อให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถปรับนโยบายการเงินตามภาวะเศรษฐกิจได้มากขึ้น ดังนั้นการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ

 

ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ตลาดการเงินของไทยปิดทำการนั้น โดยส่วนใหญ่สร้างความกังวลต่อการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง และส่งผลบวกต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยวานนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤศจิกายนร่วงลง 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 18 เดือนและปรับตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 33 เดือน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัยภายในประเทศชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินค้าภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงด้วย

 

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤศจิกายนปรับตัวขึ้น 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 5 ปี และชะลอตัวลงจากเดือนตุลาคมซึ่งขยายตัวขึ้น 1.6%

 

ส่วนในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานข้อมูลยอดขายปลีกเดือนพฤศจิกายนและ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่ายอดขายปลีกจะขยายตัว 0.4% มากกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯประเมินว่าจะมีจำนวน 2.99 แสนราย เทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ 2.97 แสนราย รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาดียังเป็นปัจจัยลบกดดันให้การฟื้นตัว ของราคาทองมีกรอบจำกัด

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ขึ้นมาได้ในการซื้อขายช่วงค่ำของวันอังคาร ก่อนที่ในการซื้อขายวานนี้จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคกลับมาเคลื่อนไหวในช่วงของการฟื้นตัว กลับ

 

หากในระหว่างวันราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,215-1,220 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไร โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,240 และ 1,255 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ.

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (11/12/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...