ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

House Speaker John A. Boehner (R-Ohio) abandoned efforts Saturday night to reach a comprehesive debt-reduction deal worth more than $4 trillion in savings, telling President Obama that a mid-size package was the only politically possible alternative to avoid a first-ever default on the nation’s mounting national debt. After speaking with Obama -- who is hosting a key meeting Sunday evening on steps forward on the debt issue -- Boehner issued the following statement: “Despite good-faith efforts to find common ground, the White House will not pursue a bigger debt reduction agreement without tax hikes. I believe the best approach may be to focus on producing a smaller measure, based on the cuts ... more

[Pete 15,187]

Obama and congressional leaders are expected to meet Sunday to continue negotiating over how to reduce the U.S. debt, which is expected to reach $14.3 trillion by Aug. 2. Congress would then have to raise the nation’s borrowing limit or risk defaults that would increase the government’s financing costs and A package deal between Democrats and Republicans that includes trillions in spending cuts over the next 10 years and a tighter tax code with fewer loopholes, is on the table, according to some media reports.

 

But in a Republican response Saturday, Rep. Cathy McMorris (R., Wash.) said her party would not support revenue increases.

 

“If we’ve learned anything, it’s that we cannot spend, tax, or borrow our way to prosperity,” McMorris said in speech. “To create jobs and set our country on a sound fiscal course, we must stop spending money we don’t have.”

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 10, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

Monthly data released by the National Bureau of Statistics of China showed the consumer price index for June climbed 6.4 % from the same period the year before. Many economists had expected the rise to be between 6.2% and 6.4%

 

.Beijing won’t be in a hurry to relax its monetary stance even if it may not aggressively pursue more interest-rate increases.

 

The NBS was earlier scheduled to release the inflation data on July 15, but has brought forward the date of announcement, with the action aimed at avoiding any early leaks of information.

 

รายละเอียดข่าวโพสต์อยู่ข้างล่าง

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 10, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ และ เพื่อนๆ ทุกคน

 

ตามปกติตารางการออกตัวเลขรายงานอัตราเงินเฟ้อ ของประเทศจีน จะออกประมาณกลางเดือน คือ วันที่ 15 กรกฎาคม 54 แต่จากคำ

กล่าวอ้างของรัฐบาลจีน ที่กลัวว่า จะมีข่าวรั่วออกไป ดังนั้น จึงมีการตัดสินใจรายงาน เมื่อวันเสาร์ คือ เมื่อวานนี้ ทันที

 

ผลปรากฎว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศจีน กระโดดไปอยู่ที่ 6.4% ในเดืน มิถุนายน จากเดิม 5.5% ในเดือน พฤษภาคม

CPI จะเป็นตัววัดเกี่ยวกับระดับราคาของสินค้าและบริการที่ซื้อโดยผู้บริโภค CPI ที่เห็นประกาศกันจะมี CPI กับ Core CPI ซึ่งต่างกันตรงที่ว่า Core CPI จะไม่รวม ภาคอาหารและ ภาคพลังงานโดยปกติ CPI จะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อ โดยตัวเลข CPI ที่สูงจะเป็นตัววัดเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่สูง ซึ่งจะทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง

ดัชนีราคาสินค้า ก็เพิ่มขึ้นไปที่ 7.1% ในเดือน มิถุนายน จากเดิม 6.8% ในเดือน พฤษภาคม

PPI จะเป็นตัววัดราคาของสินค้าในมุมมองของการค้าส่ง PPI ที่ไม่รวมพวกอาหารและพลังงานจะเรียกว่า Core PPI ซึ่งจะถูกจับตามองมากกว่า เพราะจะมีผลกับอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจาก PPI จะเป็นตัวที่ออกมาก่อน CPI หาก PPI มีค่าสูงมักจะทำให้ CPI มีค่าที่สูงตามไปด้วย ดังนั้นการที่ PPI มีค่าสูงจะทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง

Trade Balance ก็เพิ่มขึ้นด้วย 22.3 B ในเดือน มิถุนายน จากเดิม แค่ 13.1B

 

รายงานตัวเลขจริงที่ปรากฎออกมาทุกตัว สูงกว่าการคาดหมายของหลายๆ สำนักในเวลานี้

 

ก็ขอให้เพื่อนๆ ตัดสินใจแล้วกันในการเข้าซื้อทอง ว่า ถ้าอัตราเงินเฟ้อของจีน สูงขึ้น สินค้าข้าวของแพงขึ้น ราคาทองจะมีแนวโน้ม

เป็นอย่างไร

 

 

 

 

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 10, 2011 โดย เด็กขายของ

[wong53 10]

สวัสดีครับเฮ๊ยแบท คุณเด็กขายของ และเพื่อนๆ ทุกๆ ท่านครับ

[GB2514 302]

ก็ขอให้เพื่อนๆ ตัดสินใจแล้วกันในการเข้าซื้อทอง ว่า ถ้าอัตราเงินเฟ้อของจีน สูงขึ้น สินค้าข้าวของแพงขึ้น ราคาทองจะมีแนวโน้ม

เป็นอย่างไร

 

 

ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมครับท่านจิว ว่าแต่ยังทิ้งปมไว้ให้คิดอีก....

คิดตั้งแต่เช้า ก็ยังคิดไม่ตก...อยากฟังทัศนะของท่านหน่อยครับ

ออ..วันนี้ตัดสินใจไปงานเททองที่เยาวราชมา 30 นาที

ที่อยู่ในร้านมาขาย 5 ราย ซื้อ 0 ราย ดูหน้าตาอาแปะไม่สดชื่นเลย

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 11, 2011 โดย GB2514

[Pete 15,187]

สวัสดีครับ คุณ GB2514

ออกไปข้างนอก พึ่งกลับเข้ามา แล้วก็พึ่งเห็นที่จะให้บ่นให้ฟัง

 

ดังนั้น ขอนั่ง Time Machine ของโดราเอมอน ไปในอดีต เดือนที่แล้ว 13 มิถุนายน 54 ประเทศจีน ประกาศตัวเลข CPI ผลคือ 5.5 % จากเดิม 5.3% เพิ่มขึ้น

 

ราคา ณ.วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน ตอนเช้า US$1,532.40 ค่าเงินบาท 30.37 ราคาขายสมาคมฯ 22,000 / 22,100 บาทต่อบาททอง

 

พอมาถึงใกล้ รายงานออก และ มีข่าวรั่วออกมา ว่า 5.5% ราคาทอง US$1,525.00 ค่าเงินบาท 30.39 ราคาขายสมาคม 21,950 / 22,050 บาทต่อบาททอง

 

ในวันรุ่งขึ้น วันอังคารที่ 14 มิถุนายน ราคาทองมาอยู่ที่ US$1,518.70 ค่าเงินบาท 30.40 ราคาขายสมาคมฯ 21,850/21,950 บาท ต่อบาททอง

 

จิว บ่นให้ท่าน อั้งชิกง ฟังว่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนหรือคล้ายกับเดือนที่แล้ว ที่ อัตราเงินเฟ้อ ของจึนขึ้น

ราคาทองคำตลาดโลก จะลดลงในช่วงสั้นๆ 1-2 วัน แต่ค่าเงินบาทก็จะอ่อนค่าลงด้วย ในส่วนของค่าเงินบาท คงอ่อนค่าลงนิดเดียวไม่มาก แค่ 4-6 สตางค์ ไม่กระเทือนราคาทอง ( จังหวะนี้ อาจจะทำให้สามารถเก็บทองเข้าพอร์ตได้ ถ้าราคาขายทองอยู่ที่ 21,900 - 21,950 บาท) เพราะหลังจากนั้นในช่วงต่อมาอีก 2-3 วัน ราคาทอง ก็จะขยับขึ้นไปใหม่ได้อีกครั้ง แต่อดีตที่เราเรียนรู้ คืออัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นไม่มาก แค่ 0.2% เท่านั้น

 

มาในเดือนนี้ ที่ประเทศจีนรีบร้อนประกาศออกมา ตั้ง 6.4% มากกว่าเดิม 0.9% ผลกระทบอาจจะแรงกว่าเดิม ก็ย่อมเป็นไปได้ และทุกๆ ครั้งที่เงินเฟ้อจีน เพิ่มขึ้น ค่าเงินหยวน จะอ่อนค่าลง เพื่อจะได้ทำให้ US Dollar มีค่ามากขึ้น นั้นคือเฉพาะการซื้อขายระหว่าง จีนกับสหรัฐ นะครับ เพราะ ค่าเงินหยวนมีการตรึงราคาในสัดส่วนที่ รัฐบาลกลางกำหนด และ เงินหยวนจีนไม่ได้อยู่ในระบบตะกร้าเงิน

 

เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาเป็นเช่นนี้แล้ว ( เงินหยวนอ่อนค่า / US Dollar แข็งค่า / Gold Spot ลดลง ) ใช้เวลา 1-2 วัน เงินทุนสำรองของประเทศจีน ที่เก็บเป็นเงินตราสกุลดอลล์สหรัฐ น่าจะถูกเปลี่ยนเป็น " ทองคำ " ในระยะต่อมาวันที่ 3 ขึ้นไป ก็จะเกิดอุปสงค์ ( ความต้องการ ) ในการเก็บทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แล้วจะทำให้มีการดันราคาที่อาจ สูงพอสมควร หรือเปล่า ก็ต้องติดตามต่อไป

 

แต่ที่เด็กขายของ บ่นให้ฟังนี้ ก็แค่โม้นิดๆ นะครับ อย่าเชื่อมากล่ะ เดี๋ยวไม่เป็นไปตามนั้น เด็กขายของจะโดนเล่นงาน ว่า วิเคราะห์มั่วๆ เพราะ เด็กขายของ แค่บ่น แค่โม้ ครับ

 

 

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 10, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

สำนักข่าวต่างประเทศ : ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกมาพูดแสดงความคิดเห็น หลังจาก รายงาน Non Farm ออกมา แล้วเพิ่มแค่ 18,000 ตำแหน่ง เท่านั้น ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 90,000 ตำแหน่ง พร้อมกับ อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นไปที่ 9.2% " ตลาดแรงงานของสหรัฐคงต้องใช้เวลาอีกนาน ถึงจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ตัวเลขจ้างงานเดือน มิถุนายน ที่รายงานเมื่อวานนี้ บ่งบอกถึง การฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า และ มีความยากลำบาก สหรัฐเคยมีอัตราการจ้างงานถึง 2 ล้านตำแหน่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบัน จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นก่อนหน้า จากวิกฤติต่างๆ ทำให้ อเมริกันชนตกลงเป็นจำนวนมากถึง 8 ล้านคน

 

สาเหตุที่ทำให้ภาคเอกชนของสหรัฐ มีการจ้างงานน้อย และ ยังไม่คิดที่จะเพิ่มอัตราการจ้างงาน ก็มาจาก

1. วิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป โดยเฉพาะประเทศกรีซ โปรตุเกส ที่กำลังสั่นคลอนเสถียรภาพของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

2. ความไม่แน่นอนที่ รัฐสภาสหรัฐจะอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล

[Pete 15,187]

เฟดเผยยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.5%

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554 13:01:00 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในสหรัฐประจำเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.5% ต่อปี สู่ระดับ 2.4322 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 2.4271 ล้านล้านดอลลาร์ ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8

 

เฟดระบุว่า ตัวเลขการกู้ยืมปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกประเภท รวมถึงยอดการกู้ยืมสดผ่านบัตรเครดิตที่ปรับตัวสูงขึ้น 5.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ร่วงลง 1.3% ในเดือนเม.ย. ส่วนยอดการกู้ยืมเพื่อซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคเป็นหนึ่งในข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวเลขบการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมในสหรัฐ นอกจากนี้ การใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย

 

 

[Pete 15,187]

จากรายงานข่าวของสื่อจีน ไชน่า เดลี่ รายงานเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา จีนได้เริ่มปฏิบัติการในบ่อน้ำมันอัล-อาห์ดับ (Al-Ahdab)

ในอิรักแล้ว (21 มิ.ย.) รายงานการประเมินระบุว่าความสามารถการผลิตในแหล่งน้ำมันแห่งนี้ เท่ากับสามล้านตันต่อปี

 

สำหรับบ่อน้ำมันอัล-อาห์ดับอยู่ในจังหวัดวาชิต ห่างจากกรุงแบกแดด 180 กิโลเมตร ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2522 โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า

มีปริมาณน้ำมันสำรองมากถึง 1,000 ล้านบาร์เรล

 

บริษัท ปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (China National Petroleum Corporation-CNPC)วิสาหกิจน้ำมันและก๊าซรายใหญ่สุดในแง่ปริมาณของแดนมังกร

ได้รับสิทธิสัมปทานร่วมพัฒนาบ่อน้ำมันอัล-อาห์ดับระยะเวลา 23 ปีจากอิรักเมื่อปี 2551 โดยซีเอ็นพีซีจะทุ่มทุนสำหรับการพัฒนาและสำรวจถึง

3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ในสัญญาฯระบุการคาดหมายปริมาณการผลิตน้ำมันจากบ่อน้ำมันแห่งนี้ เท่ากับ 25,000 บาร์เรลต่อวันใน 3 ปี และ 115,000 บาร์เรลต่อวันใน 6 ปี

 

“โครงการนี้ นับเป็น ‘ความคืบหน้าสำคัญ’ และเป็นโครงการใหญ่สุดของซีเอ็นพีซีในด้านการสร้างความร่วมมือในเขตน้ำมันและก๊าซของภูมิภาคตะวันออกกลาง ” ผู้จัดการทั่วไปของซีเอ็นพีซี นาย เจียง เจี๋ยหมิน แถลงผ่านเว็บไซต์ของบริษัทเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

[Pete 15,187]

ข่าวในประเทศ : เด็กขายของ ขอเชลียร์แข้งขา ท่านนายกสมาคมค้าทองคำ สักหน่อย เพราะวันนี้

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ได้ออกมาพูดให้สื่อมวลชน ฟังว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย ที่มีแนวคิดเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินบาทแข็งค่า โดยมองว่า หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการนำเข้าสินค้าในราคาถูกลง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผลเสีย

ต่อผู้ส่งออก ที่จะทำให้รายได้ลดลง ( เพราะ ท่านฯ เป็นทั้ง ผู้นำเข้าทองคำ และผู้ส่งออกทองคำ กรณีนำเข้า นักลงทุนจะได้ซื้อทองคำแท่ง

ราคาที่ถูกลง จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แล้วพอท่านฯ จะส่งออกทองคำไปต่างประเทศ ท่านฯ ก็เกรงว่า พอตอนส่งออก ค่าเงินบาท แข็ง

ค่าขึ้นไปอีก คราวนี้แหละ ท่านฯ และ เพื่อนๆ ของท่าน จะขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา )

ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม โดยมองว่า ค่าเงินจะเป็นระดับใดนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ขออย่าให้ผันผวน เพราะจะช่วยให้

ผู้ประกอบการกำหนดราคาซื้อขายสินค้าได้ง่าย หากค่าเงินไม่นิ่ง จะกระทบต่อการวางแผนธุรกิจ

 

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาที่แข็งค่าขึ้น ถือเป็นผลดีต่อการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ ทำให้ราคาถูกลง โดยเงินบาทที่แข็งค่าในปัจจุบัน

ที่ประมาณ 30 บาทต่อ 1 ดอลล์สหรัฐ ช่วยให้ราคาทองคำซื้อขายในประเทศถูกลงบาทละ 200 บาท ( ดังนั้น ถ้าท่านฯ จะตั้งราคาไม่เหมือน

ความเป็นจริง หรือ พูดง่ายๆ เข้าใจสบายๆ คือ สูงกว่า ราคา Fair Price ก็ต้องคงเข้าใจท่านฯ ด้วยว่า ท่านฯ เกรงว่า ตอนส่งออกทองคำ

จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เพราะระบบสินค้าคงคลัง Inventory Control จะไม่สำรองสต็อคทองคำในพอร์ต จนเต็มพอร์ต นักลงทุน

ทองคำ ควรจะนำมาปฎิบัติ ด้านจัดการพอร์ต ต่อไป จะได้มีตังค์ใช้ เหมือน นายห้างฯ เขา)

 

 

[Pete 15,187]

เด็กขายของ ต้องขอเสนอข่าวของ นายกสมาคมค้าทองคำ อีกแล้ว เผื่อว่า จะได้ประกาศราคาดีๆ ในอาทิตย์ที่จะถึงนี้ รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ จากการออกมาให้ข่าวของ นายกสมาคมค้าทองคำ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่า 1% ทำให้ราคาขายทองคำในประเทศ ปรับราคาขึ้นได้น้อยกว่าความเป็นจริงมากกว่า 200 บาท ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม เงินบาทอยู่ที่ 30.20 บาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 1.56% จากระดับ 30.68 บาทต่อเหรียญสหรัฐในวันที่ 30 มิถุนายน นายจิตติ กล่าวว่า ราคาทองคำในต่างประเทศที่พลิกกับมาอย่างรวดเร็วจากระดับต่ำกว่า US$1,500 ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้น 500-600 บาท ช่วยลดแรงเก็งกำไรได้ " ตอนที่ราคาทองลงไปมากๆ มีคนแห่มาซื้อทองกันจำนวนมาก ทำให้ทองแท่งขาดตลาด ต้องรับใบเสร็จแทนก่อน แต่ตอนนี้ สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว หลังจากทองขึ้นมา 500 บาท ก็ไม่มีคนเข้ามาซื้อเยอะเหมือนก่อนหน้านี้ " นายจิตติ กล่าว สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ยังมีความไม่แน่นอน หลังใช้เวลาปรับฐานมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น นักลงทุนที่จะซื้อ หรือ ขายทอง ต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด

 

หัวข้อข่าว คือ เงินบาทแข็งค่า ทองถูก 200 ดูให้ดีๆ ก่อนลุย

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 10, 2011 โดย เด็กขายของ

[Anna 567]

สวัสดีคคะทุกคน บ่นมาเยอะๆเลยคะ เอาดังๆด้วยคะ เพื่อประกอบการตัดสินใจคะ อิๆอิๆ ขอบคุณสำหรับข่าวสารคะ

[Pete 15,187]

อีกเช่นเคย เล่าข่าวจาก Post Today : คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแข็งค่าแตะ 30 บาท ( อุ้ย ! หนาวเลยครับ )

 

สองย่อหน้าแรก พูดถึงประเด็นที่ผ่านมาของอาทิตย์ที่ผ่านมา ขึ้เกียจพิมพ์ เอาเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า

 

ในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม เงินบาทอยู่ที่ 30.20 บาท แข็งค่าจากระดับ 30.68 บาทต่อดอลล์ ในวันพฤหัสก่อนหน้า 30 มิถุนายน

 

ดังนั้น สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ต่อไป 11 - 15 กรกฎาคม 54 เงินบาทอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00 - 30.50 บาท ต่อดอลล์สหรัฐ โดยมีสิ่งที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

1. ข้อมูลเศรษฐกิจของจีน เดือน มิถุนายน 54 ( ทราบกันไปแล้วว่า เงินเฟ้อขึ้น 6.4% ค่าครองชีพก็สูงขึ้น

2. การขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ของ กนง. อีก .25 บาท ( สลึงหนึ่ง เป็น 3.50 %) ในวันพุธที่ 13 กรกฎาคม 54 ( แหม ! วันนั้น ครบรอบป้อมพระจุลฯ รศ.112 มีงานใหญ่ เด็กขายของจะแวะไปชมงาน )

3. ประเด็นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป

4. การขยับเพดานหนี้ของสหรัฐ ( เพื่อนๆ คงจำกันได้นะครับว่า เข้าใกล้เส้นตาย ที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ แจ้งแล้วว่า กลางเดือน กรกฎาคม 54 อาจจะลดอันดับ ถ้าไม่ได้รับข่าวคราวความเคลื่อนไหว )

5. ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ขาประจำเจ้าเดิม ทุกอาทิตย์ที่ต้องติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เบื้องต้น, ผลสำรวจภาคการผลิตของ FED สาขา NY, ยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้ผลิต, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน มิถุนายน, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ, สต็อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน พฤษภาคม

6. บันทึกการประชุม Fed เมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายนที่ผ่านมา

[chai3034 66]

ขอบคุณมากครับ สำหรับเรื่องขี้โม้ แต่ชอบเข้ามาอ่านทุกวัน

วันนี้ไปธุระเชียงใหม่ ฝนตกตลอดทาง

กลับมาถีงบ้านรีบเปิดอ่านข่าวสารก่อน

เดี๋ยวนอนไม่หลับ เพราะไม่ได้เสพข่าว เด็กขายของ !53

 

!thk